ความคิดเห็นที่ 1 โอ๊ยยยย มาเจิมคนแรกเลยคร๊า แค่ชื่อกระทู้ก็เปรี้ยวเยี่ยวราดดดด ตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงสุไหงโกลกแล้วค่ะ ..... ขอขี่คอไปเที่ยวด้วยคนนะ ตัวไม่หนักหรอก แค่ 55 กิโลเอง >.<! เร็วเข้า รีบโพสต์ ๆๆๆๆๆๆ รอไม่ไหวแล้ว !!! จากคุณ : เกสรมาเฟีย เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:08:28

ความคิดเห็นที่ 2 แค่หัวกระทู้ก็ฮาแล้ว อ่าน Intro ฮาเข้าไปใหญ่ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:18:54

ความคิดเห็นที่ 3 ชะนี ขอมารอนะคะ จากคุณ : ผัดฉ่าปลาฉลาม เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:19:13

ความคิดเห็นที่ 4 หลงเข้ามาแล้วทำไงดี T_T จากคุณ : เด็กใต้..ตัวดำ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:32:50

ความคิดเห็นที่ 5 แม่มาทันมั้ยลูก จากคุณ : - (Autumn 0215) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:38:12

ความคิดเห็นที่ 6 Wow จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:54:45

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านบทนำไป ทั้งเสียว ทั้งฮา .... จากคุณ : BANGKOK-MANILA-JAKARTA เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:59:41

ความคิดเห็นที่ 8 ชะนีลงชื่ออีกหนอ คะ 5555 ชอบชื่อกระทู้มว๊ากกก จากคุณ : เดะดาม เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:10:17

ความคิดเห็นที่ 9 ตามมาชมกระทู้ด้วยคนครับ จากคุณ : Mickey-kun เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:14:28

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นคอมเมนต์แล้วฟินเหมือนถึงจุดสุดยอด น้ำไหลพราก(น้ำตานะ) รู้สึกดีใจมากกกที่ยังมีคนติดตามกระทู้ไร้สาระแบบนี้ ขอบคุณหลายหลายเด้อพี่น้องค้าาา ว่าแล้วก็ไปต่อที่เรื่องราวของเรากันดีกว่า หลังจากค่ำคืนอันแสนระบม เอ้ย..ระทม!! เพราะต้องนอนคนเดียวเป็นคืนแรก (ไม่ได้โดนเยเย่สักหน่อย จะระบมได้ไงหว่ะ) น้องน้อยของเราก็ตื่นมาเคารพธงชาติซะเช้ามากกกก พี่ใหญ่ก็เลยต้องแหกขี้ตาตื่นตาม มาอาบน้ำขัดจรวจตรวจกระเป๋าแล้วCheck-out ไปเริ่มต้นเช้าวันใหม่ให้สดใสกว่าเดิม ด้วยการจิบกาแฟสไตล์ผู้ดีดัจจริตชีวิตเมืองป๊อป สั่งหนึ่งแก้วแต่ได้มาหนึ่งเหยือก เอามาดื่มนะจร่ะ ไม่ได้เอามาล้างหน้า ถ้าเป็นน้ำมะพร้าวแม่จะไม่ด่าสักคำ แต่จะว่าไปกาแฟก็อร่อยมากนะ ได้รสชาติดิบๆมีกลิ่นดินนิดๆ (หล่อนเอาดินร่วนมาผสมต้มให้ชั้นดื่มหรือเปล่านี้ สีแอบคล้ายๆกันด้วย) ส่วนค่าเสียหายก็เบาๆขนเพชรไม่ร่วง แค่ 25 บาท!!! แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 20:30:10 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:28:42

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากอัดคาเฟอีนเข้ากระแสพระโลหิตจนพอประมาณแล้ว ก็ออกมายืนสวยข้างถนน (เหมือนงานประจำที่ทำข้างสนามหลวง ว๊าย ล้อเล่น) เพื่อรอรถเมลล์เพื่อไปยัง Sigiriya กัน สำหรับจาก Polonnaruwa นั้น ท่านไม่สามารถบินตรงไปยัง Sigiriya ได้ จะต้อง Transit ที่ Inamaluwa หรือถ้าเงินหนาก็เรียกตุ๊กๆๆไปเลย แต่สำหรับเรารถเมลล์สนุกกว่าเยอะ เพราะ ผู้คนหลากหลาย ผู้ชายมากมี ชะนีวิ่งกันขวักไขว สุขใจเก้งกวาง เย้ ปล. ร่วมกันใช้รถสาธารณะ เพื่อลดโลกร้อน แต่จงทำตัวให้เป็นสาธารณะ เพื่อความเร้าร้อน....ของชีวิต แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 21:49:51 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:43:24

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตามชมกระทู้ด้วยครับ ฮามากๆ จากคุณ : เชน วอน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:46:01

ความคิดเห็นที่ 13 มาเกาะขอบจอติดตามด้วยคนค่ะ ฮาจริง ไรจริง นะเนี่ย จากคุณ : hnux เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:49:48

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ร่างน้องทัดก็มายืนสวยอยู่ตรงสามแยกแห่งดินแดน Inamaluwa อย่างรวดเร็ว คนขับแพรวามาก ขับรถซะเร็วจี๋ ไม่กลัวโดนคุก 2 ปีเหรอจร่ะ (แต่รอลงอาญา 3 ปี เพื่อ??) ที่นี้อากาศร้อนมาก จะยืนรอรถเมลล์ก็คงไม่ไหว ก็เลยขอเสียแพงหน่อย ไม่มากไม่น้อย 200 RPL หรือ ประมาณ 50 บาท เพื่อต่อรถตุ๊กๆไปยัง Sigiriya จากการต่อราคาที่แรงมากจาก 800 ซึ่งพอถึงที่หมายก็รู้สึกปาปจุกอก เพราะ ระยะทางฟาดไปเบาๆประมาณสิบกิโล (ดีนะพี่แกไม่ยกล้อฟาดปากตอนอีนี้เสนอราคา ไอ้เราก็นึกว่าใกล้ๆ ที่ไหนได้..อย่างโหด) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 21:53:03 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 21:48:02

ความคิดเห็นที่ 16 เอาอีก ๆๆๆ รออ่านอยู่ .. ทำรูปช้านิ ให้ช่วยรีโมทเครื่องไป resize รูปให้เอาป่าว :P จากคุณ : เกสรมาเฟีย เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 22:59:18

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวมาต่อนะครับ เหมือนกระทู้จะลามกไป โดนลบไม่หยุดเลย พิมไปเยอะมาก เริ่มเหนื่อย:( แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 00:27:07 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 23:29:06 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 23:25:18

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับ Sigiriya นี้ต้องเสียค่าเข้าเบาๆ 25 US เช่นเคย (คนท้องถิ่นเสีย 25 RLP เท่าเทียมกันมาก) ซึ่งเราก็ทำใจไว้แล้ว ว่าคราวนี้ต้องเสียตัว เอ้ย เสียตังค์แน่ๆ เพราะ พวกฝรั่งที่ Polonnaruwa บอกว่าต้องซื้อตั๋วตั้งแต่ทางเข้า แถมตัวเมืองเก่ามีคูน้ำล้อมรอบอีก จ่ายเงินเหอะอีงก แต่เพราะด้วยความโชคดีของเรา ที่ดันแวะทานข้าวที่ร้านอาหารในหมู่บ้านก่อน จึงทำให้ต้องเดินเข้าไปยังเขตโบราณสถานเอง (ปกติรถตุ๊กๆจะมาส่งท่านถึงปากทางเข้าจ่ายตั๋ว) ซึ่งระหว่างทางนี้เองก็ดันไปเจอบริเวณคูเมืองที่แห้งลงพอให้กระโดดฉีกทวารข้ามไปได้ พอถึงจุดนี้ ไอ้เจ้าความคิดที่จ่ายค่าตั๋วตอนแรกมันเลยหายไปในทันที แต่ทว่าขอโทษ ข้ามไปปุ๊ปเป็นป่าทึบ ไม่มีเส้นทางอะไรให้ดมเลย(ราวกับเป็นหมา) ต้องใช้ตำแหน่งพระอาทิตย์และสัญชาติญาณแห่งป่า(เดียวกัน)นำทางลูกเดียว หลังจากลุยป่ามาได้ 15 นาที ก็มาป๊ะกับคูน้ำรอบสอง อ้ายยย อยากจะกรี๊ด คูใหญ่เวอร์ ไม่ได้หยิบบิกินี่และแว่นตามาด้วยซิ จะว่ายท่ากัมนังสไตล์ข้ามไปก็ไม่ได้ ต้องเดินย้อนไปอีกทางเท่านั้น ขอบคุณค่ะ!!! แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 00:36:58 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 23:34:04

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านเพลินดีค่ะ ทำให้คิดถึงเพื่อนสาวคนหนึ่ง นิสัยประมาณเจ้าของกระทู้เลย อิอิ ทุกวันนี้เราก็ยังต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับนางอยู่ค่ะ เพราะนางมาทำงานที่เดียวกันแล้ว 555+   พักเที่ยงทีไร นางเป็นต้องเปิดเรดาร์สแกนหาชายหนุ่มที่โรงอาหารประจำ จนเราเลิกอายไปแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : ไม่เมา ไม่อ้วก ไม่พูดมาก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:04:20

ความคิดเห็นที่ 21 น่ารักอ้ะ >___< จากคุณ : via iPhone (Msmitch) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:22:29

ความคิดเห็นที่ 22 สงสารน้องทัดดาว เป็นนางเอกเลยถูกรังแกโดยลบกระทู้ ก็อย่างว่า สังคมไทยปากว่าตาขยิบ เหมือนอย่างว่า "โดนคุก 2 ปี รอลงอาญา 3 ปี เพื่อ..." แถมเวลาไปเที่ยวลั้นลาทั้งที ยังมีคูคลองกำแพงเมืองเก่ามาขวางกั้น แหม น้องทัดดาวยอมเด็ดขนเพชรสักสามสี่เส้นจ่ายค่าเข้า ชีวิตก็ไม่ต้องฉีกขาตะกายข้ามคูน้ำแล้ว 555 จากคุณ : chat1977 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:31:49

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หนอนน้อยเจ้าปัญหา (แพทจร้า) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 24 ในที่สุดเราก็เข้ามาโผล่ภายในเขตโบราณสถานโดยไม่ต้องผ่านด่านจ่ายเงินได้เป็นผลสำเร็จ ... นี้แหละเค้าเรียกว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน การสำเร็จความใคร่อยู่ที่นั้น โค๊ะ เอาหล่ะ เรามาทราบถึงประวัติย่อของดินแดนต้องคำสาบแสนมาม่าแห่งนี้กันดีกว่า เดิมที่บริเวณนี้เป็นเพียงแค่โรงทาน จนกระทั่งถึงสมัยหนึ่งนานมาแล้ว นานจนชั้นก็จำไม่ได้ ลูกเมียน้อยทำกร่างยึดอำนาจจากกษัตริย์ผู้เป็นพ่อของตัวเอง จากนั้นก็ทำการย้ายเมืองหลวงมายังดินแดนแห่งนี้ สร้างวังซะอลังการณ์บนยอดเขา เพราะฮีถือเคล็ดที่ว่าอยู่บนนี้แล้วจะได้เป็น King of King (เกย์รุกfeaturingกันเองเหรอหย่ะ??) คือ ชั้นใหญ่ทั้งบนดินและบนฟ้านั้นเอง เท่านั้นยังไม่พอ จัดการฝังกลบโบกปูนพ่อตัวเองให้ตายทั้งเป็นแถวๆทางขึ้นยอดเขาแห่งนี้ด้วย (เอาเข้าไป อีลูกทัพพี เอ้ย ทรพี!!) แต่ทว่าผ่านไปไม่กี่ปี กรรมก็ตามสนอง ลูกเมียหลวงผู้โดนเฉดหัวไล่ไปอยู่อินเดียเมื่อครานู้น ดันตรัสรู้ได้ว่าบัลลังค์นี้มันต้องเป็นของก้นชั้นตะหาก ฮีเลยยกทัพมาทำศึก ลูกเมียน้อยสู้ไม่ได้ ติดอยู่บนเขา จะลงมาก็โดนสอย เอาหว่ะ ฆ่าตัวตายอยู่บนนั้นซะเลย .... จบ เผื่อเป็นการไว้อาลัยแต่สองศพผู้ล่วงลับ ขอให้ทุกท่านทำหน้าดำแล้วยืนสงบนิ่งสองนาทีด้วยค่ะ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:49:39

ความคิดเห็นที่ 26 ว้าว มีภาคต่อมาแล้ว รออ่านอยู่เลยนะคะ จากคุณ : nowan เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:19:45

ความคิดเห็นที่ 28 คำเตือน ใครมีปัญหามดลูกหย่อนย้อย ก่อนจะขึ้น กรุณาปรึกษาหมอนพพอน เสพสมขย่มเตียง ก่อนนะครับ เพราะการขึ้นบันไดหลายขั้นในอากาศที่ร้อนแบบนี้ อาจทำให้มดลูกลงมากองอยู่ตรงขาหนีบก็เป็นได้ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:23:49

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบจังกระทู้  น่ารักค่ะ จากคุณ : อมรปุระ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:58:46

ความคิดเห็นที่ 30 รออยู่ค๊ะ... อ่านแล้วเพลินดี จากคุณ : tha_ku เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 17:01:06

ความคิดเห็นที่ 31 อ้าว รอต่ออยู่ครับ ฮาจริงๆ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 18:13:19

ความคิดเห็นที่ 32 ผ่านไปไม่ถึงครึ่งทาง ก็เริ่มเหนื่อยหอบเหมือนหมากินแป้ง (มันเป็นศัพท์ที่ครูฝึกรด.ชอบด่าเวลาพวกชายน้อยหอยสังข์แสนบอบบางอย่างเรามีอาการเหนื่อยเหน็ด ซึ่งชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมามันจะหอบเวลากินแป้งจริงๆหรือเปล่า เพราะในความเป็นจริง หมาหอบเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกายตะหาก ปล.บางคนยังคิดว่าเพราะพวกนางวิ่งจนเหนื่อย มันผิดนะตัวเทอ ว๊าย!!กระทู้นี้มีสาระแล้วจร้า) แนบด้วยภาพที่มองจากตีนเขา เห็นดงป่าทางด้านซ้ายเหล่านั้นไหม ชั้นพึ่งพิชิตมาเองนะ ไม่สวยไม่เริ่ดทำไม่ได้ (ผู้ชายหน้าไหนคงไม่อยากเอามาทำเมียแน่ๆ เพราะเดี๊ยวมันจะแมนกว่าผัวเอาได้) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 20:43:44

ความคิดเห็นที่ 33 ไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 20:54:05

ความคิดเห็นที่ 34 ค่อยๆคลืบคลานขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาป๊ะกับมุมนี้ งานเข้าแล้วเว้ย นั้นมันด่านตรวจตั๋วนี้หว่า แล้วตรูจะเข้าไปไงหล่ะ ตั๋วก็ไม่มี ก้มหาตามพื้นก็ไม่เห็นมีใครทำหล่นไว้เลย (กะว่าจะเอาหางบัตรที่ใช้แล้วไปโชว์แล้วบอกว่า ชั้นขึ้นไปรอบนึงแล้ว แต่พอลงมาแล้วดันหาสามีไม่เจอ ฮีน่าจะยังอยู่บนนั้น ขอขึ้นไปหาหน่อย อะไรเทือกนั้น) หันหลังกลับไปจ่ายเงินดีไหมตรู?? เอาหว่ะ ดันเข้ามาแล้ว ก็ต้องต่อให้เสร็จ จริงม๊ะ (แอ๊ะ มันดูอุบาทว์ชอบกล คริคริ) ... ว่าแต่ ทำไมไม่เห็นมีคนเดินออกมาจากทางนี้เลยหล่ะ แสดงว่ามันต้องมีทางลงอีกทางแน่ๆ เสร็จตรู ก็แอบสตอเบอร์แหลขึ้นไปทางนั้นซิ (คงคอนเซป เกย์ดีเป็นศรีแก่ชาติ เกย์ฉลาดชาติเจริญ) แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 00:12:21 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 20:57:44 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 20:56:35

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากทำตัวมั่นหน้า(ด้าน)เดินขึ้นไปตามทางลงอย่างไม่อายใครได้สักพัก ก็มาถึงครึ่งทางกับบริเวณประตูอุ้งตีนสิงห์อันเลื่องลือ ที่ถือเป็นทางรูเปิดหลักสู่พระราชวังด้านบน ซึ่งเดิมทีเป็นสิงห์ทั้งตัวนะจร่ะพี่น้อง ไม่ได้มีแค่สองตีนกับสามเล็บขบอย่างที่เห็น (จริงๆระหว่างทางไกด์ทุกคนที่เดินผ่าน จะตะโกนไล่ บอกว่า "ยูยูนี้มันทางลง" แต่เราก็ไม่แคร์ ทำตัวเป็นอีใบ้ไปชั่วขณะ ส่วนถ้าคนไหนถามมาก ก็ตอบไปว่าลืมของไว้บนนั้น กำลังกลับขึ้นไปเอา เรียกได้ว่า มารยายิ่งกว่าเรยาเสียอีก)   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจารย์แม่ก็เลยขอนำเสนอคติไทยสอนใจแก่ทุกคนสักหนึ่งอัน นั้นคือ      อายครู ไม่รู้วิชา      อายภรรยา ไม่มีบุตร      แต่ถ้าอยาก เริ่ดแบบสุดๆ      ต้องอย่า อายตุ๊ด อายกะเทย ..... รู้เรื่องกันนะ ปล.ห้ามใช้อีโมฟอร์มนะคะ เพราะใช้แล้ว"ฟันไม่เสียว"เดี๋ยวจะหาว่าอาจารย์แม่ไม่เตือน แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 01:09:51 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 00:51:35

ความคิดเห็นที่ 36 หลังจากบริเวณนี้จะเป็นทางร่วมรวมดาว คือจะขึ้นลงทางเดียวกัน จะไม่มีใครมาตามเช็คตั๋วอีกต่อไป โอ้ย ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยยิ่่งกว่าสวมถุงยางอนามัยสามชั้นเสียอีก ภาพนี้เป็นภาพระหว่างทางขณะเดินสวนกับน้องๆมุลสิมที่ครูพามาเปรี้ยวนอกสถานที่ สำหรับประเทศศรีลังกานี้ ประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธ รองมาคือฮินดู และ มุสลิม ตามลำดับ ซึ่งสงครามที่เคยเกิดขึ้นก็มีสาเหตุสำคัญมาจากความแตกต่างกันของเชื้อชาติศาสนานี้เอง (พุทธVSฮินดู) คิดแล้วก็นึกถึงสามจังหวัดชายแดนบ้านเรานะ เมื่อไหรมันจะจบลงซะที อยากจะอาจรวดมิซายด์ยัดไส้น้ำมันหมูยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด .. คิดแล้วเครียด ขอลงไปพักดื่มน้ำ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 01:07:31

ความคิดเห็นที่ 37 ถึงแล้วคร่า พระราชวังบนยอดเขา .... ว่าแต่ เค้าขุดโพรงกันอยู่เหรอเนี่ย ไม่เห็นมีอาคารอะไรโผล่มาจากดินเลย ว๊าย!!ว่าปาป จริงๆแล้วตัวอาคารส่วนใหญ่ทำจากไม้ ดังนั้นก็เลยผุพังไปตามกาลเวลาหมดแล้วตะหาก ปล.ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าด้านบนกว้างมาก แต่มีต้นไม้ให้ร่มเงาอยู่สามต้นได้มั้ง ไม่มีร้านขายน้ำ ไม่มีร้านขายยาคุมยาดมยาลมยาหม่องใดใดทั้งสิ้น ต้องพกไปให้พร้อม (ยาคุมเกี่ยวอะไรด้วยมิทราบ??) ห้องน้ำก็ไม่มี จะเด็ดดอกไม้ จะยิงกระต่าย หรือฝายรูทวาร ก็จงจัดการให้เสร็จตั้งแต่ด้านล่างเทอญ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 01:23:28

ความคิดเห็นที่ 38 ให้ตายเหอะร้อนมาก ขึ้นมาถึงตอนที่พระอาทิตย์อยู่กลางหัวพอดี (ก็แกดันมาตอนเที่ยงวันเอง สม!!) ด้วยไอแดดที่ร้อน ก็เริ่มทำให้เริ่มละเมอ ร้องเรียกหานายจัน ... นายจัน(ทาล)!! แกอยู่ที่ไหน ฉันร้อนเหลือเกิน เธอช่วยหยิบก้อนของแข็งในกระจับนั้นมาถูหลังให้ฉันหน่อยได้ไหม ... ผ่านไปสิบนาที ก็ยังไม่มีวี่แววของนายจัน(ทาล)แต่อย่างใด คุณบุญเลื่องผู้เศร้าใจเลยต้องคายสุนัขในปากออกมาให้มานั่งเป็นเพื่อนคลายร้อนแทนนายจันผู้สาบสูญ ..... อีกหนึ่งตำนานแห่งสิกิริยา แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 02:05:26 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 01:42:17

ความคิดเห็นที่ 39 มองลงไปทางทิศใต้ ... เส้นทางที่เราจะต้องมุ่งไปในวันนี้ พร้อมทั้งอมยิ้มแบบกรุบกรอบ ว่าในที่สุดตรูก็พิชิตยอดเขานี้ได้สำเร็จโดยไม่เสียเงินสักบาทเดียว ถือเป็นการช่วยชาติครั้งใหญ่เลยนะเนี่ย เพราะนอกจากจะนำเงินเข้าประเทศมหาศาลแล้ว (จากบรรดาสามีฝรั่ง) ยังลดสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศด้วย กระทรวงการคลังเจ้าค่ะ กรุณามอบโล่ประกาศสรรพคุณให้อีชั้นซะดีดี จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 02:01:15

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนนี้คือบ่อน้ำประจำวัง ที่เชื่อกันว่าไม่มีทางแห้งเหือด ส่วนพวกหัวโปกที่เดินอยู่นั้น เป็นนักเรียนชาวทมิฬ นับถือศาสนาฮินดู สังเกตุง่ายๆคือ ถ้าผิวดำเหนี่ยงแบบดาวนิล (ดำคล้ำคล้ำแต่ผิวเนียน) ก็เป็นฝ่ายทมิฬ แต่ถ้าออกดำน้ำตาลแทนๆหน่อย ก็เป็นฝ่ายสิงหล ปล.ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนโหมดกล้องเป็นแบบขอบดำ ให้อารมณ์เหมือนเจาะรูแอบดูผู้ชายค้างห้อง จงอย่าเข้าใจผิดว่าอีนี้แต่งรูป โค๊ะ มันทำไม่เป็นหรอกขอรับ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 12:39:36

ความคิดเห็นที่ 41 เดินตะมอยตะมอยอ้อยผู้ชายเรื่อยๆมาที่ทางขึ้น (ทางที่แกไม่ได้เดินขึ้นมาหนะ) เพื่อรับชมส่วนสำคัญส่วนหนึ่่งของวังคนปาปแห่งนี้ "ภาพเขียนสีเฟรสโก้โอรีโอ้จุ่มนม" บนหน้าผาสูงชัน ที่ต้องปีนบันไดเกลียวอันนี้ขึ้นไป (คนโบราณเนี่ยก็ไฟลท์เนาะ ปีนขึ้นไปวาดถึงบนนั้น ไม่ติสจริงทำไม่ได้นะจร่ะ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 12:49:50

ความคิดเห็นที่ 42 สำหรับภาพเขียนสีโบราณ (Frescoes) เหล่านี้ พระเจ้ากัสสปะ(ลูกเมียน้อย)ทรงสั่งให้วาดขึ้น เป็นภาพนางอัปสรพร้อมคนใช้ของนาง (มาเป็นแพคคู่) โดยรูปร่างหน้าตานั้นก็จะถอดแบบมาจากเมียตัวเอง และด้วยความที่ท่านทรงเป็น พระสวามีแห่งสหประชาชาติ คือ มีเมียเยอะมากมาจากทั่วสารทิศ ดังนั้นแต่ละนางก็จะมีความแตกต่างกันให้เห็นได้อย่างชัดเจน (กลับไปวาดรูปเหล่าสามีแบบนี้ ที่ผนังห้องบางดีกว่า เผื่ออนาคตจะได้กลายเป็นมรดกโลก) พอมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงง ว่าอีภาพเขียนโอรีโอ้นี้มันคืออะไร ภาพพวกนี้เกิดจากการระบายสีฝุ่นลงบนพื้นปูนที่ชื้นหรืิอเปียก ซึ่งจะทำให้สีฝุ่นสามารถยึดจับกับพื้นผิวได้ดี ติดทนนาน แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 13:07:45 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 13:05:54

ความคิดเห็นที่ 43 อีกสักภาพ จงทายซินางนี้มาจากไหน (จมูกดูโป๊ะมาก เธอไปทำมาหรือเปล่าจร่ะ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 13:10:56

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 13:59:33

ความคิดเห็นที่ 47 ก่อนจะจากลา ก็ขอเก็บภาพเป็นที่ระทึกหน่อย ตั้งกล้องเองถ่ายเองไม่แคร์สื่อ 1 2 3 พร้อม ... เม้มปาก พ้อยท์เท้า จิกตา แช๊ะ!! .... ปรากฏรูปที่ออกมาดันเห็นแค่ปลายตีนซะงั้น เนี่ยชั้นอุตสาห์เสี่ยงตายขึ้นไปนั่งบนชะง่อนหน้าผาเลยนะหย่ะ ได้มาแค่นี้!! โอ้ยเสียใจแต่ไงก็ไม่แคร์ ชิส์ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 16:07:43

ความคิดเห็นที่ 48 ลงมาจากเขาก็แวะมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ร้านอาหาร ไหนไหนก็หิวพอดี ขอพักเติมพลังวิทยายุทธ์ตุ๊ดมหัศจรรย์ด้วยมื้อบ่ายแบบเบาๆสักหน่อยละกัน ... เบามากกกกกคร่าาา สั่งข้าวราดแกงปลา แต่เสริฟมาแบบฟลูออพชัั่น เครื่องเคียงเป็นล้านอย่าง (อย่าพึ่งตกใจถ้าสั่ง Curry แล้วจะมีอะไรต่อมีอะไรตามมาเป็นพวงสวรรค์แบบนี้ เรื่องปกติของที่นี้เค้าจร่ะ แถมบางร้านเครื่องเคียงเติมได้ไม่อั้นอีกด้วย!!) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 17:28:51

ความคิดเห็นที่ 49 หลังจากเติมพลังกันจนจุกเสียดแน่่นท้อง จนต้องซัดยาธาตุ ตราเจ้าอาวาสใส่ที่คาดผม ตามเข้าไปถึงสองขวด ก็ได้เวลาโหนรถเมลล์กันอีกครั้ง ใช้เวลาไม่นานนักประมาณหนึ่งชั่วโมง เราก็โผล่มาอยู่หน้าวัดถ้ำดัมบูล่า หรือ วัดราชมหาวิหาร อีกหนึ่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมประจำเกาะ สำหรับวัดนี้ต้องเสียค่าเข้าชม แต่ไม่แพงหน้าเลือดเหมือนกับสามมรดกโลกที่ผ่านมา (พูดยังกะที่ผ่านมาแกจ่ายตังค์งั้นแหละ) สำหรับที่นี้เราตั้งใจจะจ่ายอยู่แล้ว สปอร์ตพอครับพี่น้อง เพราะมันเป็นวัดพุทธด้วยไม่อยากทำปาป ส่วนใครที่กะจะไม่จ่าย ระวังให้ดีเหอะ เพราะ อย่าคิดว่าตรงทางขึ้นไม่มีคนตรวจตั๋ว นู้นคร้า เค้ารออยู่บนยอด ปีนไปถึงยอดปุ๊ป ไม่มีตั๋วก็ไม่ให้เข้า จะต้องเดินโง่ลงมาซื้อตั๋วอีกรอบนะจร่ะ บรรยากาศทางเข้าส่วนโบราณสถานบนยอดเขา ว้าย ตื้นเต้น จะได้มุดเข้าถ้ำกันแล้ว จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 18:31:15

ความคิดเห็นที่ 50 สำหรับวัดดัมบูล่าแห่งนี้ มีทั้งหมด 5 ถ้ำ ภายในประกอบด้วยพระพุทธรูปมากกว่า 150 องค์ มีภาพวาดฝาพนังและบนเพดานที่ใหญ่เยอะที่สุดในโลกก็ว่าได้ (เรามีแค่ถ้ำเดียวเองอ่ะ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 18:35:05

ความคิดเห็นที่ 51 บรรยากาศภายในถ้ำ จริงๆมันไม่สว่างขนาดนี้หรอกนะ บังเอิญมีเจ๊กหัวล้านเดินเข้ามาพอดี เลยมีแสงส่องสว่างสาดส่องซะเต็มถ้ำเลย (อันนี้ ชั้นมะโนนะ ห้ามเชื่อเด็ดขาด หน้าผากใครจะเปล่งแสงได้หย่ะ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 18:42:28

ความคิดเห็นที่ 52 เจดีย์อยู่ในถ้ำ มันช่างล้ำลึกมาก นี้ถ้าถ้ำใหญ่กว่านี้มีหวังยัดอุโบสถพร้อมศาลาการเปรียญเข้าไปด้วยแน่ๆ ซึ่งหากสังเกตบนผนังดีดี จะเห็นว่าไม่มีที่ว่างเหลือแม้แต่ตารางนิ้วเดียว เพราะทุกส่วนจะถูกเติมเต็มด้วยภาพวาดจิตกรรมทั้งหมด สมควรแล้วหล่ะ ที่จะได้เป็นมรดกโลก ทุกคนกราบ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 19:15:11 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 18:52:22

ความคิดเห็นที่ 53 พระนอนก็มีนะจร่ะ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 18:58:17

ความคิดเห็นที่ 54 สำหรับเรื่องราวบนผนัง ก็ล้วนแต่เป็นพุทธประวัติแทบทั้งสิ้น อย่างที่บอกแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนที่นี้เค้าแรงกล้ามาก ท่านประเทศที่อ้างว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาอย่างพี่ไทยเราเทียบไม่ติดแม้แต่ปลายขี้เล็บขบ ... เข้าวัดทำบุญบ้างนะจร่ะท่านผู้ชม ย้ำ ทำบุญ ไม่ใช่ไปเพื่อ checkin แล้วให้คนกด like เก๋ๆ อย่างล่าสุดเมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา เจอชะนีวัยรุ่นนุ่งสั่นเสมอจิ๊เดินเวียนเทียนไป มือก็กด BB ไป แถมถ่ายรูปกับชะนีร่วมเผ่าอัพลงเสตัสเก๋ๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังคุยกับเพื่อนสาวอย่างเมามันส์ว่าคนนี้คนนั้นหล่อ สรุปคือ พวกแกมาเดินอ่อยเพื่อให้ผู้ชายมาจิกใช่ไหม .... ชั้นหล่ะอนาจใจแทน นี้หรือเมืองพุทธ สังคมตุ๊ดยุคมิลลิเนี่ยม??? แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 21:35:57 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:32:54

ความคิดเห็นที่ 55 เจดีย์อีกหนึ่งองค์ ใหญ่กว่าเดิม แถมด้วยพระพุทธรูปในอริยาบถต่างๆรายล้อม ถ้าจำไม่ผิดห้องนี้คือห้องที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดด้วย ใครได้มาศรีลังกา แนะนำเลยว่าห้ามพลาดวัดแห่งนี้เป็นอันขาด จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:39:12

ความคิดเห็นที่ 56 ฉันนั่งอ่อยชาย อยู่ริมตลิ่ง แปลกใจเสียจริง ชายไม่กินเหยื่อ ... กินชะนีกันจนอิ่มท้องแล้วหล่ะซิใช่ไหม?? บริโภคเก้งกวางบ้างก็ได้ จำไว้หนุ่มๆ ประชากรจะไม่ล้นโลก ถ้าบริโภคเพศเดียวกัน จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:23:13

ความคิดเห็นที่ 57 วิวบนยอดเขา กับต้นลีลาวดี ปะทะ ตุ๊ดลีลามากมี จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:34:46

ความคิดเห็นที่ 58 ซูมใกล้ไปที่ยอดเขา สวยสดงดงามมาก อยากจะบอกว่าตอนนี้เริ่มหามุขอะไรมาบรรยายภาพไม่ได้แล้วอ่ะ หมดสต๊อกอ่ะ ชีวิตจริงก็ไม่ใช่คนพูดมากปากจัดซะด้วยซิ(แต่ใช้ปากเก่งนะ) แต่ไหนๆก็พูดถึงยอดละ งั้นนำเสนอกลอนนี้ละกัน ชายได้ชายคือยอดชาย ชายได้หญิงคือยอดมนุษย์ แต่ ถ้าชายได้ตุ๊ดคือยอดมนุษย์อุลตร้าแมน ดังนั้น ใครที่มีลูกน้อยแล้วมันอยากเป็นอุลตร้าแมน หรือชอบเล่นเป็นอุลตร้าแมน จงระวังไว้ให้ดี โตมาจะเป็นตุ๊ดไม่รู้ด้วย :P จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:45:18

ความคิดเห็นที่ 59 หลังจากโดนธรรมะฟาดมาเต็มๆปาก ก็ได้เวลาแปลงร่างเป็นตุ๊ดรากหญ้าโหนรถเมล์กันอีกรอบ เพื่อต่อไปยังเป้าหมายสุดท้ายของวัน เมืองแคมบี้ เอ้ย แคนดี้ ที่ห่างออกไปประมาณสองชั่วโมง กระโดดขึ้นไปปุ๊ป ทุกคนหันมายิ้มพร้อมซุบซิบนินทาตรูกันเกือบครึ่งรถ พวกหล่อนมีสิทธิ์อะไรมาจ้องหน้าชั้น!! ชั้นไม่ใช่ถั่วแระแห่งพระรามเก้าคาเฟ่นะเว้ย (แต่ว่าไปก็เหมือนอยู่นะ ถ้ามีหนวดคงใช่เลย) ระหว่างทางรถก็จะจอดพัก ให้จิบน้ำปัสสาวะ (ส่วนเราพุ่งเข้าหานี้เลย น้ำมะพร้าว เอามาล้างหน้าล้างตาลดริ้วรอยแห่งวัยเมา) ซึ่งตอนพักนี้เองก็ได้รู้ความจริง ว่าที่เค้ามองตรูหนะ ไม่ใช่เพราะ หล่อเป็นดาราหรือหน้าแปลกเป็นแร้งวัดสุทัศน์แต่อย่างใด แต่เพราะรถนี้มีต้นทางมาจาก Anuradhapura ครึ่งนึงของบนรถมาจากที่ันั้น และพวกชีก็จำชั้นได้ ว๊าย!! เป็นคนดังก็วันนี้แหละ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:41:29

ความคิดเห็นที่ 60 ลุงหนวดเสื้อชมพูเนี่ยมองตรูตลอดทางเลยนะ .... ผัวหนูเผลอ แล้วเจอกันนะจร่ะ จะเดินไปแอ๋วด้วยก็ไม่ได้ ผัวนั่งอยู่ข้างๆ (เป็นคนขับ lol คือที่นั่งมันเต็ม พี่แกเลยเสนอให้หย่อนก้นลงบนตักฮี เอ้ย!! ข้างๆฮี) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:50:16

ความคิดเห็นที่ 61 ภายในรถก็ไม่ต่างจากรถเมลล์บ้านเรา เครื่องเคารพบูชาเพียบ ทั้งพุทธ ทั้งฮินดู ว่าแล้วทำไมนั่งแล้วรู้สึกร้อนร้อนยังไงชอบกล จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:00:50

ความคิดเห็นที่ 62 เมาว์มอยด์หอยสังข์กะละมังซักผ้าอยู่กับสามีไม่ทันไร รถเมลล์ของเราก็มาถึงปลายทางที่เมืองหวานๆน่ารักคล้ายชื่อลูกอมอย่าง"Kandy"ซะที (Candyอย่างเราจะโดนKandyคนไหนชิมกันเนี่ยวันนี้) Kandy เมืองใหญ่อันดับสอง อดีตเมืองหลวงเก่าของศรีลังกาก่อนที่จะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ สำหรับตัวเมืองจะมีทะเลสาบอยู่ตรงกลางพร้อมวัดที่สำคัญที่สุดของประเทศขนาบข้าง "วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว" ที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดีนั้นเอง จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:15:07

ความคิดเห็นที่ 63 ด้วยความที่วันรุ่งขึ้นคือ วันพระใหญ่ หรือ ที่เรียกว่า Poya day ทำให้ที่พักในตำนานอย่าง Pink House เต็ม แต่จะว่างในวันรุ่งขึ้น ่ดังนั้นใครจะไปช่วง Poya day พยายามไปถึงให้เร็ว อีนี้มัวแต่ตอนยอน กว่าจะไปถึงก็หกโมงกว่าแล้ว ห้องดีดีส่วนใหญ่เลยโดนปาดหน้าเค้กไปเกือบหมด ส่วนนี้คือห้องพักน้อยๆของวันนี้ สีสันคัลเลอร์ฟูล แต่ราคาหดหู่มาก 1000 RPL (แพงไปป่ะ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:26:21

ความคิดเห็นที่ 64 แซ่บเวอร์มากค่ะน้องทัด จากคุณ : หงิมหงุ๋ม เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 18:32:01

ความคิดเห็นที่ 65 หายไปไหนแล้วคะ  มาต่อเร้วๆๆ     รออ่านต่อค่าาาา    ^^ จากคุณ : มอแมว เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 11:37:33

ความคิดเห็นที่ 66 เด็กๆเราชอบเล่นอุลตร้าแมนด้วยดิ 5555+ รออ่านต่อครับ >w< จากคุณ : รถโรงเรียน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 01:58:26

ความคิดเห็นที่ 67 มารออ่านคับ มาต่อไวๆ นะคับ จากคุณ : dark_red_coral เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 08:29:11

ความคิดเห็นที่ 68 กลับมาแล้วนะครับ ที่หายหน้าหายตาไปนาน ก็เพราะมั่วแต่ไปตบตีแย่งชิงตั๋วโปรหลอกๆของแอร์ไอเชี่ยเพื่อไปกลับภูเก็ตอยู่นั้นเอง (ชั้นจะได้ไปเล่นกระดานโต้คลื่นและนอนอาบแดดอ่อยผู้ชายอีกแล้ว มันคงเป็นซัมเมอร์ที่ฉ่ําสมิหลา สงขลาปัตตานี แฟนตาซีภูเก็ต แน่ๆๆ) ย้อนกลับไปที่ทริปของเรากันดีกว่า ไปต่อกันกับวันที่ห้า ที่เป็นวันมาฆบูชาพอดี สำหรับที่ศรีลังกานี้ ไม่มีวันมาฆบูชานะครับ เพราะเค้าถือว่าทุกๆวันขึ้น 15 ค่ำ คือวันพระใหญ่หมด ความสำคัญเท่ากัน ไม่ได้แบ่งเป็น Big Three days เหมือนบ้านเรา จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าทุกวัดจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ไปทำบุญกันในวันนี้ และแน่นอนวันนี้เป็นวันพระใหญ่ เก้งกวางใจบุญ สกุลหงส์ อย่างเราก็ต้องเข้าวัดทำบุญเป็นธรรมดา​ แต่ก่อนที่เราจะไปแซ่บกันให้นัว น้องทัดขอตัวนอนอาบแดดชาร์ตพลังริมทะเลสาบแคนดี้แห่งนี้แป๊ปนึงละกันนะ จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:02:26

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าใครยังไม่เป็นอัลไซเมอร์​ ก็คงจำได้ว่าในวันคืนที่สอง น้องทัดได้นัดเดทกับฝรั่งคนนึง (ชื่อว่า อาเล็ก แต่ของไม่เล็กตามชื่อนะจร่ะ) ซึ่งเช้าวันนี้เอง ขณะที่น้องทัดกำลังรอป้าอีวาแห่งเกสท์เฮาว์ในตำนานอย่าง Pink House เคลียร์ห้องนอนให้ ก็มีมือปริศนามาบีบก้นอันงอนงามของเรา ... โค๊ะ โลกกลมมาก อีตาอาเล็กนั้นเอง คืนนี้มีมัมมี่รีเทิร์นแน่ๆ ก็กลายเป็นว่าเราสองคนมาพักที่เดียวกัน ตรงคอนเซปวันมาฆบูชามากกกก พระสงฆ์ 1,250 มาประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย (แต่นี้เป็นเกย์สองคนจะได้เย่กันโดยไม่ได้นัดหมาย) ดีใจจัง วันนี้มีเพื่อนร่วมเพศ เอ้ย!! ร่วมทางแล้ว จะได้ไม่ต้องเป็นอีเหี่ยวเที่ยวคนเดียวอีกต่อไป เย้ สำหรับโปรแกรมคร่าวๆ ของวัน คือ ไปเที่ยวชมเมือง ไปดูแคนดี้แดนซ์ แล้วก็ปิดท้ายด้วยวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วในตอนเย็น .... ระหว่างทางเข้าเมือง ก็แวะให้อาหารเพื่อนร่วมโลกสายพันธุ์ใกล้เคียงหน่อย ทำบุญเยอะๆชาติหน้าจะได้เกิดมาถูกเพศกับเค้าบ้าง (นั้นมือผู้ชายนะ ไม่ใช่มือน้องทัดแต่อย่างใด) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:30:52

ความคิดเห็นที่ 70 วิวทะเลสาบแคนดี้ที่อยู่กลางเมือง ส่วนขาวๆๆไกลๆๆนั้นคือ พระพุทธรูปประจำเมืองตั้งอยู่บนเนินเขา (เราไม่ได้ไป เพราะ ไกลเกิน มิสามารถเดินไปได้ ต้องเก็บแรงไว้ยกขาคืนนี้) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:35:31

ความคิดเห็นที่ 71 เป้าหมายแรก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ..... แต่ปรากฏว่า พลาด กลายเป็นตุ๊ดขาดการResearchซะงั้น วันนี้วันหยุดราชการ เค้าปิดกัน อุตสาห์เดินโง่มาตั้งไกล เอาหว่ะ ชื่นชมจากภายนอกก็ได้ (ทำตัวโลกสวยมากกก) ส่วนภาพนี้เป็นอีกพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ข้างๆกัน ตรงหลังวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปหรอก เพราะ ค่าตั๋วแพง ภายในเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งรู้ดีอยู่แล้ว ชั้นเกรด4วิชานี้มาตลอดนะหย่ะ หน้าเชี่ยแต่ใจสูงเว้ยยย จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:44:06

ความคิดเห็นที่ 72 เดินหนุงหนิงมาเรื่อยๆ ก็มาโผล่ที่นีี้ "Maha Vishu Devala" วัดฮินดูที่อยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุฯมากนัก เป็นวัดของพระวิษณุผู้เป็นเทพแห่งเทพนั้นเอง คนเลยเยอะเป็นพิเศษ ภาพจากหน้าประตูทางเข้า ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก ส่วนเราก็มาเป็นครอบครัวเหมือนกันนะ พ่อกับแม่ พร้อมลูกแฝดอีกสองคู่ (ลูกอัณฑะนั้นเอง) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:54:26

ความคิดเห็นที่ 73 แก็งค์เด็กแวนซ์ประจำวัด ทำไมพวกเธอไม่เข้าไปในวัดหล่ะหย่ะ มายืนทำไมตรงประตู หรือว่าเข้าไปแล้วร้อน?? ว่าแต่หน้าพวกหล่อนสำเนาถูกต้องมาก พ่อแม่เธอใช้เครื่องถ่ายเอกสารสร้างพวกเธอขึ้นมาเหรอเนี่ย หากสังเกตดูดีดีจะพบว่าทุกคนนุ่งขาวห่มขาวหมด จำไว้เลยนะ ถ้าต้องเที่ยววัดที่นี้ ให้พยายามใส่สีขาว กางเกงก็ต้องขายาว (และกรุณาอย่าใส่กางเกงในสีสรรจัดจ้านภายใต้กางเกงสีขาว เพราะมันจะเห็นชัดเจนมากเวลาเปียกเหงื่อ) แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 55 17:03:27 จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:02:16

ความคิดเห็นที่ 74 บรรยากาศภายในวัด ที่นี้จะไม่นิยมเทียนเป็นแท่งแบบบ้านเรา แต่จะใช้แบบนี้แทน (ชั้นชอบเป็นแท่งมากกว่านะ นั่งสะดวกดี อยู่ในวัดมันยังจะเสื่อม เจริญจริงๆ) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:06:00

ความคิดเห็นที่ 75 และแน่นอนถ้าพูดถึงเสน่ห์ของวัดฮินดู ก็คงหนีไม่พ้นภาพวาดจิตรกรรมภายในวัด มันกระแทกตากระแทกใจมาก สีสันฉูดฉาดแบบกะเทยลุ่มน้ำโขง (เป็นศัพท์ในวงการใช้เรียก กระเทยที่แต่งหน้าแต่งตัวด้วยสีสรรเกินคน แถมด้วยกล้ามเป็นมัดๆและโหนกแก้มที่สูงเท่ายอดดอยอินทนนท์) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:12:05

ความคิดเห็นที่ 76 หลังจากให้ทวยเทพอวยพรจนเพียงพอแล้ว ก็ออกเดินทางต่อสู่ Archaelogical Museum ที่อยู่ข้างๆกัน (อย่างงี้แหละ เที่ยวกับผู้ชาย เลยต้องทำตัวมีสาระให้ดูเป็นพวกแสวงหาความรู้ ผู้ชายจะได้อยากเอาเป็นเมีย) สำหรับที่นี้ไม่เสียตังค์แต่อย่างใด เข้าฟรีโลดครับพี่น้อง ประตูหลัง เอ้ย หลังประตูทางเข้า กับ พระพุทธรูปประจำอาคาร จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:18:57

ความคิดเห็นที่ 77 ภายในก็จะจัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ (ชั้นงงว่าทำไมไม่เอาไปรวมกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติซะ จะแยกออกมาทำไมมิทราบ) ตัวอาคารไม่ใหญ่มากนัก และ โทรมมาก เอาเป็นว่า ใครจะเข้ามาขโมยของเนี่ย ทุบหน้าต่างปีนเข้ามาได้เลย เห็นแล้วอดเป็นห่วงของที่อยู่ภายในอย่างแรง จากภาพเป็นกษัตรยิ์องค์สุดท้ายของอาณาจักร ก่อนที่จะถูกอังกฤษยึดครองในเวลาถัดมา (อีคนคุม ฮีบอกว่าถ้าเราไว้หนวดจะหน้าเหมือนกษัตริย์เลย ค่ะ!! ถ้าตุ๊ดไว้หนวดขนาดนี้ ก็คงอดอยากตาย เพราะ ผู้ชายคงวิ่งหนีหมด) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:26:17

ความคิดเห็นที่ 78 ไหปราร้าโบราณจากดินแดนข้าวเหนียว(ถั่วดำ) ส่วนด้านล่างเป็นยางโบราณยี่ห้อ Good year อีกขีดขั้นแห่งความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ว๊าย ห้ามเชื่อนะ ชั้นมะโนขึ้นมาหมดเลย (เห็นสภาพแบบนี้ แล้วอนาจใจ หยิบเงินบริจาคอย่างรวดเร็ว) จากคุณ : Bukuwa เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:34:39

ความคิดเห็นที่ 79 กลับมาแล้ว ตอนอยู่แคนดี้ ยืนต่อคิวเพื่อสักการะพระเขี้ยวแก้วตั้งชั่วโมงกว่า คนเยอะมาก พอไปยืนอยู่ตรงช่อง ตื่นเต้นไปหน่อย เผลอวางกระจาดดอกไม้ แล้วลืมเงยหน้า 555 หลังจากนั้นก็โดนเบียดออกไปเลย จากคุณ : chat1977 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 18:04:45