ความคิดเห็นที่ 1 แวะมารอดูรีวิว บ้าๆ บอๆ   อิอิ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 09:53:40

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆวันนี้ในแผนที่วางไว้ก่อนมาเราตั้งใจจะไปเดินเล่นอิเคะบุคุโระแล้วไปกินราเมงที่ร้านอิปปูโดร้านดังซะหน่อย แต่ปรากฎว่ากว่าจะกินข้าว กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวออกมาได้ ก็นู่นนนน บ่าย2กว่าแล่วววว 555 (บอกแล้วว่าชิลล์มากกกกกกก) ก็เลยต้องยกเลิกอิปปูโดไป แล้วตรงไปคิจิโจจิเลย เราไม่ได้มาฟุจูนานมากแล้ว ก็เลยเดินรำลึกความหลังที่เมืองนี้ซักหน่อย ถึงจะบ้านนอกแต่สถานีฟุจูก็มีห้างเรียงรายติดๆกันถึง 3 ห้าง แถมยังมีสนามม้าแข่งที่ใหญ่มาก แต่ไม่รู้ที่สุดในโตเกียวรึเปล่านะ ตอนหน้าร้อนจะมีการจุดพลุ(เก็บเงิน)ที่สนามม้านี้ด้วยค่ะ เราเคยมาดูโดยบังเอิญเพราะวันนั้นขี่จักรยานผ่านพอดีก็เลยเข้าไปดูเล่นๆ ปรากฎว่าประทับใจกว่างานจุดพลุที่ยิ่งใหญ่ประจำปีของแม่น้ำสุมิดะกับที่โอไดบะซะอีก เพราะงานจุดพลุที่นี่เป็นแบบเก็บตังค์เลยไม่ต้องเบียดผู้คนเพื่อแย่งที่แล้วนั่งบนแสตนด์ได้เลย แถมเปิดเพลงประกอบเพราะๆ ตลอดการจุดพลุอีกต่างหาก เราประทับใจมากถ้ามีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นหน้าร้อนอีกเราต้องไปดูการจุดพลุที่นี่แน่นอนค่ะ อ้าว...ไปเรื่องพลุได้ไงหว่า?? ฮ่าๆ ต่อๆๆๆ นอกนั้นก็มีศาลเจ้าที่เราชอบมาบ่อยๆ เพราะจัดงานวัดบ่อยมากค่ะ แต่ไม่รู้ว่าดังเรื่องอะไร(><) พอเดินรำลึกความหลังได้พักนึง เราก็นั่งรถไฟสายKeioไปเปลี่ยนเป็นสายInokashira ที่สถานีMedaimaeแล้วไปลงที่Kichijoji ค่ะ ถึงประมาณ 4 โมงเย็น --- ถ่ายจากแถวหน้าห้างตรงสถานีฟุจู จะมีต้นไม้เรียงเป็นทางยาวตรงไปสู่ศาลเจ้าค่ะ สวยมากกกกก ตรงสุดทางนั่นเป็นศาลเจ้านะคะ ซ้ายมือเป็นอิเซตัน --- จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:17:08

ความคิดเห็นที่ 3 **โพสซ้ำค่ะ** แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 10:23:04 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:18:20

ความคิดเห็นที่ 4 **ซ้ำอีกแล้ว ขอโทษค้า ><** แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 10:23:43 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:20:46

ความคิดเห็นที่ 5 วันนี้เรานัดเพื่อน แล้วก็รุ่นน้องของเราที่กำลังเรียนอยู่ที่นี่ไว้ประมาณทุ่มครึ่งค่ะ เราก็เลยขอช็อปปิ้งก่อนเลย ขอบอกว่าย่านนี้เรามาช็อปปิ้งบ่อยมากกกกกก บ่อยกว่าชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบุยะ ซะอีก เพราะว่าใกล้บ้านด้วยแหละ แต่ของถูกกว่า และคนน้อยกว่า แถมมีอะไรแนวๆ ไม่ซ้ำกับทางฝั่งในเมืองเย๊อะ สำหรับวิธีมาจากชินจูกุนะคะ นั่งรถไฟสาย Chuo จากชินจูกุแล้วมาลงที่คิจิโจจิได้เลยค่ะต่อเดียว 6 สถานี 210 เยน หรือจะนั่งสาย Inokashira มาจากชิบุย่าแค่ 5 สถานี 160 เยนเลยก็ได้เหมือนกันค่ะ สะดวกมากๆ คิจิโจจิเป็นเมืองที่อยู่ชานเมืองที่เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นโตเกียว ณ ตอนนี้มาก เพราะจากผลสำรวจเมืองที่อยากย้ายไปอยู่มากที่สุดเมื่อปี 2010 หรือ 2011 นี่แหละ ชาวโตเกียวโหวตให้คิจิโจจิมาเป็นอันดับ 1 ค่ะ! เพราะนอกจากจะมีทุกอย่างเหมือนชินจูกุ ชิบุยะแล้ว คิจิโจจิยังมีสวนสาธารณะใหญ่โตชื่อ อิโนคาชิระ ที่มีชื่อเสียงด้านการชมซากุระ และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายละครมากที่สุดค่ะ! นอกจากมีธรรมชาติมากมายแล้วยังมีร้านรวงต่างๆ ที่ขายของแนวๆ แปลกๆ สไตล์วินเทจก็เยอะ ร้านดื่ม ร้านสังสรรค์ อาหารอินเดีย อาหารไทย รวมไปถึงร้านบาละกู่ก็มีค่ะ คนญี่ปุ่นเลยมักจะบอกว่าบรรยากาศของคิจิโจจิเหมือนโรงเรียนนานาชาติ ที่มีวัฒนธรรมผสมผสานของหลายๆเชื้อชาติไว้ด้วยกัน ถือเป็นสีสันของคิจิโจจิที่เราหลงรักเลยค่ะ ใครที่เดินในเมืองจนเบื่อแล้วลองนั่งรถไฟออกมานิดนึงแล้วมาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่บ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 10:39:36 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:34:09

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:09:45

ความคิดเห็นที่ 7 (๑^w^๑) คุณ3KKK นอกจากบ้าๆบอๆแล้วยังไปเมาระหว่างทางด้วยนะคะ 555 ------------------------------------------------------------------------------------------ มาค่ะเดี๋ยวจะพาไปช็อปปิ้งกันก่อน ออกมาจากสถานีรถไฟประตู North แล้วเดินข้ามถนนไป ก็จะเป็นแหล่งช็อปปิ้งค่ะ ชื่อว่า SUN ROAD จะเป็นแบบถนนที่มีหลังคาแล้วสองข้างทางจะเป็นร้านต่างๆเหมือนที่ชินไซบาชิน่ะค่ะ เดินเข้าไปข้างในเถอะมีทุกอย่าง แถมราคาถูกกว่าในเมืองเย๊อะะะะะ ร้านขายเครื่องประดับกระจุกกระจิกของผู้หญิงทุกอย่างราคา 315 เยน (งานดีมากร้านนี้ไม่กระจอกนะคะ) ร้านรองเท้าทั้งหญิงและชายเรียงกัน 3-4 ร้าน, ร้านน้ำหอม, ร้านขายยาแทบทุกยี่ห้อ, ร้านขายเสื้อผ้าราคาถูกเหลือเชื่อ, ร้านเสื้อชั้นใน, ร้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, ร้านขายเครื่องดนตรี แถมเดินเลยไปหน่อยมีโยโดบชิคาเมร่าสาขาใหญ่เบ้อเริ่มอีกด้วย ฯลฯ บอกแล้วว่าที่นี่มีทุกอย่างจริงๆ!! (*0*) อ้อ มีตึก LOFT กะ KIDDY LAND ด้วยนะคะอยู่ในห้าง coppice (เพิ่งเปิดปี2011) ใครเป็นสาวกคิตตี้, มัฟฟี่, รีลัคคุมะ ฯลฯ ห้ามพลาดเด็ดขาด! พอเราช็อปปิ้งฝั่งนี้เสร็จก็เดินย้อนกลับมาที่สถานีและเดินไปฝั่งตรงกันข้ามเพื่อที่จะไปร้านเหล้าวิญญาณตามที่นัดกันไว้ค่ะ ถ้าดูจากป้ายในสถานีรถไฟก็จะเป็นฝั่งประตู Park Entrance ค่ะให้ออกทางนี้นะคะ แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ออกมาถนนใหญ่จะเห็นห้าง Marui อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วข้ามถนนไปเลยค่ะ (อย่าลืมหยุดรอสัญญาณไฟ) หันหน้าเข้าMaruiนะคะ ขวามือจะมีซอยอยู่ติดกัน เดินเข้าไปเลยค่ะ เข้าซอยไปขวามือ แยกแรกตรงหัวมุมจะมีร้านเสริมสวยอยู่ ขอนอกเรื่องนิดนึง 555 สำหรับคนที่เคยดูละครญี่ปุ่นเรื่อง Last Friend ที่นางเอก Masami Nagasawa เล่นเป็นช่างเสริมสวย ร้านที่นางเอกทำงานอยู่ก็คือร้านนี้แหละค่ะ! แถมเดินเลยไปอีกนิดนึงก็จะเป็นสวนอิโนะคาชิระ ที่ใช้ถ่ายฉากที่นางเอกนัดมาเจอกับเพื่อนสนิทบ่อยๆ เห็นมั้ยคิจิโจจิถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายละครเยอะมากจริงๆ กลับเข้าเรื่องต่อ 555 เดินเลยร้านเสริมสวยมานิดนึงก็จะเจอร้านยูเร อิซากายะ หรือ ร้านเหล้าวิญญาณเป้าหมายของเราในคืนนี้แล้วค่ะ! แต่ทางเข้าร้านจะเล็กมากๆ ถ้าไม่สังเกตุอาจเดินเลยได้ ไม่ต้องห่วงค่ะ มีจุดสังเกตุให้อีกจุดนึงคือ ติดกันร้านเหล้าจะเป็นร้านอาหารไทยชื่อร้าน Chiao Chiangmai ค่ะ ถ้าเห็นร้านนี้เมื่อไหร่แสดงว่าถึงแล้ว! เว็ปไซต์ร้านค่ะ เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ http://www.yurei.jp/ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 11:21:03 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:18:29

ความคิดเห็นที่ 8 **ใส่รูปผิดค่ะ** ให้เดินตามเส้นสีม่วงในรูปไปเลยนะคะ (เส้นสีเหลืองๆใหญ่ๆนั่นคือถนนใหญ่ค่ะ) แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 11:20:40 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:20:25

ความคิดเห็นที่ 9 (๑^w^๑) คุณเล็กทาโร่ ตามไปเที่ยวกันต่อนะคะ ----------------------------------------------------------- หน้าร้านค่ะ ไม่ต้องสนใจแก๊งค์ขี้เมาพวกนี้นะคะ ขอให้โฟกัสที่บรรยากาศหน้าร้านว่ามันน่ากลัวมากกกกก อ้าว? จะให้โฟกัสยังไงคนยืนบังเต็มหน้าร้านไปหมด!! จินตนาการเอาละกันค่ะ 555555555 ขอโทษจริงๆที่ไม่มีรูปเฉพาะหน้าร้านเพราะตอนแรกไม่ได้กะว่าจะมารีวิวน่ะค่ะ แถมเปิดเพลงหล๋อนๆ เป็นเอฟเฟคตลอดเวลา ใครที่มาครั้งแรกรับรองว่าต้องกลัวจนไม่กล้าเข้าไปแน่ค่ะ ขนาดเรามารอบ 2 แล้วยังแอบกลัวนิดหน่อยเลยค่ะ 555 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:28:58

ความคิดเห็นที่ 10 อ๊ะ เจอรูปแล้วค่ะ เครดิต กูเกิ้ลนะคะ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:31:56

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าไปข้างในกันค่ะ เดินลงบันไดมืดๆไป ด้านในบรรยากาศเหมือนบ้านผีสิงทุกอย่างเลยค่ะ มืดมากกกก มีไฟสลัวๆแค่ตามจุดนิดเดียว คลอด้วยเสียงเพลงหล๋อนๆตลอดเวลา แถมตามพื้นยังแอบมีกับดับให้เราตกใจด้วยค่ะ ตามเพดานก็มีหุ่นศพ มีต้นไม้ อะไรต่างๆนานาที่จะทำให้เราตกใจนางจัดเต็มจริงๆอ่ะ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:37:21

ความคิดเห็นที่ 12 Gimmickเจ๋งๆอีกอย่างนึงของร้านนี้คือพนักงานค่ะ พนักงานร้านนี้จะใส่ชุด มิโกะ หรือ สาวที่ทำงานอยู่ในศาลเจ้านั่นเองค่ะ ด้านบนจะคล้ายๆกับยูกาตะสีขาวส่วนด้านล่างจะเป็นกางเกงสีแดง และที่หัวจะมีป้ายสามเหลี่ยมสะกดวิญญาณคาดอยู่ค่ะ นอกจากคอสตูมที่ทำให้ดูน่ากลัวแล้วพฤติกรรมท่าทางการพูดจาของพนักงานก็น่ากลัวด้วยค่ะ ใครที่ไมชอบยิ้ม ไม่ชอบหัวเราะมาทำงานร้านนี้น่าจะรุ่งนะ เพราะพนักงานร้านนี่ไม่ยิ้มซักคน หน้าตาเย็นชาสุดอ่ะ จะหล๋อนไปไหน!!! จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:40:34

ความคิดเห็นที่ 13 และอีกหนึ่งGimmickที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านคือ เวลาเราจะเรียกพนักงานมา จะต้องใช้มือโชกเลือกนี้แหละค่ะ โบกมันขึ้นมา!!! ไม่ต้องกลัว!! 555 ถ้าพนักงานไม่เห็น(เพราะร้านโคตรมืด) ก็จะมีกระดิ่งให้สั่นเรียกด้วยค่ะ เก๋ๆอ่ะ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:43:47

ความคิดเห็นที่ 14 ขอแว๊บไปกินข้าวเที่ยงก่อนนะคะ เดี๋ยวมาค่ะ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:36:35

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับอาหารนะคะ ตอนที่เราไป ไปกันหลายคนก็เลยเลือกสั่งแบบเป็นคอร์สมาค่ะ อาหารเท่าที่จำได้ก็สไตล์ร้านอิซากายะทั่วไปในญี่ปุ่น ก็จะมีออเดิร์ฟมาให้เป็นพวกถั่วแระต้ม หรืออย่างอื่น แล้วก็อาหารผัด อาหารทอด พาสต้าหรือพิซซ่าบางทีก็มีเหมือนกัน ซัก3-4จาน แล้วปิดด้วยนาเบะหม้อใหญ่ 1 หม้อ! จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:21:21

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนเครื่องดื่มแน่นอนว่าเป็น โนมิโฮได หรือ ดื่มไม่อั้นนั่นเองค่ะ อยากกินไรสั่งได้ตามเมนูเลยจ้า ส่วนตัวเราชอบกิน อุเมฉุ (เหล้าบ๊วย) มาก สั่งไปหลายแก้วเลยแหละ แล้วที่นี่เวลาจะชนแก้วเค้าจะไม่ให้พูดว่าคัมไปนะจร๊ะ แต่ต้องพูดว่า นามู หรือ นะโม ในภาษาไทยแทนค่ะ!!! เก๋อ๊ะ!!! กร๊ากกกกกก ตล๊กกกกกกตลกกกกก เรานั่งขำตั้งนาน ให้มาพูด นามูๆ อะไรก็ไม่รู้ (แต่ก็ทำ555) ญี่ปุ่นเป็นเชื้อชาติที่ชื่นชอบการสังสรรค์มากค่ะ และการสังสรรค์นั้นจะต้องมีน้องแอลเข้ามา 98% (อีก 2%คือพวกที่ไม่ดื่ม ซึ่งหาได้น้อยมาก) เพราะฉะนั้นการดื่มจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่มีใครมองว่าเป็นนังขี้เมา เป็นพวกน่ารังเกียจ เป็นเด็กใจแตกแต่อย่างใด การดื่มเหล้าของญี่ปุ่นถือเป็นการระบายความเครียดอย่างหนึ่งค่ะ เพราะสังคมเค้าเครียดกันมาก เครียดกันทุกวัย อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลยค่ะ เด็กๆแค่ทำตัวยังไงให้กลมกลืนกับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ให้โดนเพื่อนแกล้งนี่ก็เครียดมากแล้วค่ะ โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องสอบเข้า เรียนๆๆๆๆๆๆ หัวแตก (เด็กไทยก็เหมือนกัน อารมณ์เดียวกันนั่นแหละค่ะ) พอถึงวัยที่ดื่มได้แล้ว (20 ขึ้นไปถือว่าบรรลุนิติภาวะของญี่ปุ่นค่ะ) ทุกคนก็จะดื่มกันโดยพ่อแม่ก็ไม่ว่าค่ะ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วดูแลตัวเองได้แล้ว คุณพ่อญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใฝ่ฝันถึงการได้ดื่มเหล้ากับลูกชายหลังอาหารเย็นด้วยซ้ำไปค่ะ แต่เห็นคนญี่ปุ่นดื่มหนัก ดื่มตั้งแต่กลางวันอย่างนี้ แต่เค้าก็มีความรับผิดชอบสูงมากนะคะ ถ้าคนไหนขับรถคนนั้นก็จะไม่ดื่มเด็ดขาดเลยค่ะ ย้ำและขีดเส้นใต้ กด Ctrl+B ทำตัวหนาให้ด้วยเลยเอ้าว่า “เด็ดขาด” ค่ะ เพราะบทลงโทษในการเมาและขับของญี่ปุ่นนั้นแรงมากค่ะ ทั้งบทลงโทษทางกฎหมายและสังคม บางคนที่เมาและขับรถชนเกิดอุบัติเหตุถึงกับถูกไล่ออกจากงาน และถูกเพื่อนบ้านรังเกียจจนต้องหนีออกไปอยู่เมืองอื่น หรือฆ่าตัวตายก็มีค่ะ เพราะสังคมเค้าเครียดมากจึงต้องดื่มค่ะ เพื่อระบายความเครียด แต่ก็ยังอยู่ใต้พื้นฐานความพอดีและรับผิดชอบ เพราะเห็นเพื่อนดื่มเยอะแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ด้วยการวิ่งกลับไปขึ้นรถไฟให้ทันเที่ยวสุดท้ายกันตลอด (รวมถึงเราด้วย!! ไม่งั้นกลับบ้านไม่ด้ายยยย 555) จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:28:01

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าว ออกทะเลไปถึงยุโรปแล้วเนี่ยยยยย กลับมายูเร อิซากายะกันต่อดีกว่าเนาะ 555 นอกจากอาหารตามคอร์สธรรมดาๆทั่วไปๆแล้ว ที่นี่เค้าก็มีเกมพิเศษที่เอามาให้เล่นกันเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการดื่มด้วยค่ะ นั่นก็คือเกม รัสเชี่ยน รูเล็ต!!!! วิธีการเล่นก็คือพนักงานจะเอาของกินชิ้นพอดีคำออกมาให้เท่ากับจำนวนคน สมมุติว่าเป็นทาโกะยากิละกันเนาะ แล้ววันนั้นเราไปกัน 11 คน ในทาโกะ 11ลูก จะมี 3 ลูกที่ยัดวาซาบิแบบเต็มๆอยู่ ค่ะ! เราก็ต้องเสี่ยงชีวิตด้วยการลองกินมันกันทุกคน คนไหนที่ซวย โดนวาซาบิเข้าไป พนักงานคนสวยก็จะเอาป้ายสามเหลี่ยมสะกดวิญญาณแบบที่ชีใส่อยู่ มาคาดผมให้เรา ทำให้เรากลายเป็นวิญญาณไปเหมือนชี 555 เกมนี้สนุกมากขอบอกกกกกกก เราเล่นไปหลายรอบ แต่ไม่โดนเลย โชคดีมากๆ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:33:55

ความคิดเห็นที่ 18 วันนี้เงียบๆจัง ไม่ค่อยมีคนมาปาดเลยนิ >< ------------------------------------------------------ แล้วก็มีเมนูพิเศษ อีกเมนูนึงที่เราอยากจะแนะนำแต่ไม่รวมในคอร์สนะคะ มันเป็นอาหารอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว เพราะเราสั่งมากินไปเมื่อตอนมาครั้งแรกตอน3ปีก่อน อาจจะเป็นสเต๊กมั้ง? ลักษณะมันคล้ายๆ กะทะร้อนน่ะค่ะ แล้วพนักงานจะเข้ามาจุดไฟ ไฟงี้ลุกไปถึงเพดาน น่ากลัวมากกกกก อย่างกะวิญญาณเลยจร๊า บรื๋อออออออออออ~ --- ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เครดิต กูเกิ้ล ค่ะ --- แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 13:37:28 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:36:43

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ จขกท เขียนสนุก อ่านเพลินมากเลยค่ะ (^^) ไว้คราวหน้าไปแถวโตเกียว จะไปลองบ้างค่ะ (ชอบไปร้านนั่งดื่มเหมือนกัน อิอิ) ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 14:55:03

ความคิดเห็นที่ 20 แวะมาชมครับ มาตามไปเที่ยวต่อ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:31:49

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจากเกมสนุกสนานที่เพิ่มรสชาติในการดื่มน้องแอลของเราแล้ว ทางร้านยังมีบริการพิเศษ ถ่ายรูปหน้าศพให้ด้วยค่ะ!! สำหรับเราคนไทยที่ถือเรื่องแบบนี้ อาจจะคิดว่าเป็นลาง มันไม่ดีนู่นนี่นั่น ก็ไม่ต้องไปเล่นก็ได้ค่ะ แต่ ณ เวลานั้นเราเมาแล้ว ให้อะไรมาเล่นเราก็เล่นหมดค่ะ!!! 555 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:11:30

ความคิดเห็นที่ 22 (๑^w^๑) คุณ Miss_Behaving ขอบคุณมากค่า นึกว่าจะไม่มีใครเข้ามาอ่านซะแว้วววว ไปญี่ปุ่นเมื่อไหร่อย่าลืมไปร้านนี้นะคะ สนุกมากกกก (๑^w^๑) คุณกัปตันลูกชุบ ขอบคุณที่ตามมาถึงกระทู้นี้นะคะ ^^ --------------------------------------------------------------- อีกจุดเด็ด ที่เราว่าน่ากลัวสมคอนเซ็ปต์ร้านที่สุดแล้วก็คือ “ห้องน้ำ” ค่ะ จะเล่าคร่าวๆละกันนะคะ เผื่อเล่าหมดแล้วมีใครดันตามรอยเราไปร้านนี้เดี๋ยวจะไม่เซอร์ไพร์ส หึ หึ หึ ก่อนอื่น มันมืด...และแคบ.... สอง มันมีเสียง... สาม มันมีภาพติดตาอยู่ที่ผนังห้องน้ำ.... สี่ มันเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว!!! ใครอยากรู้ ลองไปดูเองนะจ๊ะ หุหุหุหุหุหุ --- ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับคำบรรยายนะจ๊ะ --- จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:14:52

ความคิดเห็นที่ 23 กิน ดื่ม หล๋อน กันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเช็คบิล คอร์สที่เรากินไปก็เบาๆค่ะ 2500 เยน ไม่แพงค่ะ เพราะเป็นแบบดื่มไม่อั้น ถ้าไม่อยากเสียดายเงินก็ต้องดื่มให้คุ้มนะคะ ตอนนั้นก็ดึกแล้วประมาณ 4 ทุ่มกว่า แต่พวกขี้เมาอย่างเรา ใช่ว่าจะกลับบ้านกลับช่องนะคะ ไปต่อคร๊าาาาาาาาาา!! คิจิโจจิเป็นแหล่งในการสังสรรค์ของเด็กมหาลัยจริงๆนะคะ(ถึงเราจะไม่มหาลัยแล้วก็เหอะ! หึ!) เพราะมีร้านสำหรับวัยรุ่นหลากหลายมากจริงๆ แถมยังมีคาราโอเกะอีกด้วย!!! เราชอบร้องคาราโอเกะเพลงญี่ปุ่นมากกกกกกกก อยู่ไทยก็ไปร้องมันทุกเดือนที่ร้าน Wood Ball@silom มาญี่ปุ่นถูกกว่าร้องที่ไทยก็ต้องจัดไปให้สมอยากค่ะ!!! จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:16:15

ความคิดเห็นที่ 24 ร้านที่เราชอบไปร้องประจำก็อยู่ที่คิจิโจจินี่แหละค่ะ ชื่อร้าน Utahiroba เรียกย่อๆว่า Utahiro (นี่แน่ใจว่าย่อแล้ว?) พิกัดนะคะ เดินเข้ามาทาง SUNROAD แล้วเลี้ยวซ้ายไปทาง Coppice ร้านนี้จะอยู่ชั้น4 ของตึกที่ติดกับ Starbuckค่ะ สนนราคาค่าชม.ร้องตอนปกติก็ใช้ได้ค่ะ แต่ว่าแต่ละช่วงเวลาจะไม่เท่ากัน ตามนี้เลยค่ะ 12:00 - 19:00 = 140 เยน/คน/30นาที 19:00 - 6:00  = 320 เยน/คน/30นาที แต่ถ้าเป็นช่วงเวลา 23:00 - 5:00  = 980 เยน/คน/ได้ตลอดค่ะ เท่ากับชม.ละ 163 เยน(ประมาณ65บาท)เท่านั้น! ถูกมว๊ากกกกกกกกกกกกสำหรับการร้องเพลงญี่ปุ่นค่า จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:25:55

ความคิดเห็นที่ 25 แถมด้านในมีDrink Barให้ดื่มฟรีได้ไม่อั้นด้วยยยยยย แต่มีแต่ Soft Drink นะ (ไม่มีน้องแอลแล้วนะจ๊ะ) พร้อมแล้ว! Let’s sing a (Japanese) song!!!กันค่ะ♪ --- เราไม่ได้ถ่ายรูปมา เครดิตภาพจาก กูเกิลจ้า --- จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:29:02

ความคิดเห็นที่ 26 ณ ตอนนั้นก็ตี 5 กว่าๆ แล้ว..... ใช้ค่ะเรากะเพื่อนแหกปากกันโต้รุ่ง.... เราเดินออกมาจากคาราโอเกะ ทั้งง่วง ทั้งหนาว ทั้งหิว .... สภาพไม่เหลือซากความสวย(?)ก่อนร้องคาราโอเกะหลงเหลืออยู่เลยซักกะนิดเดียว... มาอยู่ญี่ปุ่นนี่ลำบากเรื่องกลับบ้านมากจริงอะไรจริง นอกจากถ้าไม่ทันเที่ยวสุดท้ายตอนเที่ยงคืนแล้ว เที่ยวตอนเช้ามันก็วิ่งเฉพาะรถไฟสายหลัก ที่วิ่งเข้าเมืองเพื่อส่งคนไปทำงาน เพราะงั้นตอนตี5 กว่านี่ไม่มีรถวิ่งไปบ้านนอกอย่างฟุจูแน่นอน.... ยืนทำใจ 2 วิค่ะ (ยืนนานไม่ได้ มันหนาว555) และแล้วหลังจากที่เรายืนรอรถไฟท่ามกลางความหนาวไม่ถึง 10 องศาอยู่เกือบชม.!! รถไฟก็มา เย้!!!! โอย.....ไม่น่าไปร้องคาราโอเกะเลยยยยยยยยย 55555 ตอนนั้นรู้สึกงั้นจริงๆนะ จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยู่ ว่าเราพลาดไปแระ น่าจะกลับบ้านมานอนซะ! สุดท้ายเราก็ได้กลับบ้านกันค่ะ และกว่าจะได้นอนก็นู่น....7 โมงเช้า สวัสดี (-*-) ไม่ต้องเดา ว่าวันต่อไปที่เราแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวนิกโก้นั้นโดนยกเลิกไปแล้วโดยอัตโนมัติ 55555 (บอกแล้วว่าเราเที่ยวชิลมากจริงๆจ้า) ตอนนี้ง่วงและเหนื่อย หนาวด้วย ขอนอนก่อนแล้วกันจ้าาาาาาาา โอยาสุมิ! เอ๊ะ? หรือ โอฮาโยะ ดีกว่านะ!!! 555555 ขอจบตอน 2 ตรงนี้เลยละกันนะคะ เจอกันใหม่ตอน 3 จ้า เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวอาซากุสะกะพาไปกินไคเซนด้ง (ข้าวหน้าทะเล)ที่อาเมโยโกะ อุเอโนะตอนดึกๆ จ้าาา (๑^w^๑)ノ --- รูปเราเองตอนออกมาจากร้านเหล้าวิญญาณ แบบว่าเมาสุด ขึ้นไปขี่จักรยานใครก็ไม่รู้ 55555 --- จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:38:49

ความคิดเห็นที่ 27 ** แถมๆ รูปร้านเสริมสวยที่พูดถึงในคห. 7ค่ะ ** คนที่เคยดูละคร รู้สึกคุ้นๆล่ะซี่ๆๆๆๆ จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:40:10

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาอ่านต่อค่ะ เดี๋ยวว่างๆต้องลองไป kochijoji บ้างล่ะ ^^ จากคุณ : tyc007 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 17:41:55

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ รีวิวสนุกดี จากคุณ : benz_za_zi_zu_ze_zo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 16:12:47

ความคิดเห็นที่ 30 (๑^w^๑) คุณtyc007 ไปแล้วระวังติดใจนะคะ อิอิ (๑^w^๑) คุณbenz_za_zi_zu_ze_zo ขอฝากตอน 3 ไว้ด้วยนะค๊าาาา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12684005/E12684005.html#39 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 22:57:14

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนที่สามนะคะะะะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12684005/E12684005.html#39 จากคุณ : delofamilia เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 22:57:34