ความคิดเห็นที่ 1 ขออภัยครับ สงสัยชื่อกระทู้ยาวไป ลพบุรี เหลือแค่ ล ลิง อิ อิ ภาพวัดพระศรีรัตนมหาธาตุจาก google map แสดงตำแหน่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:48:56

ความคิดเห็นที่ 2 ผ่านประตูและกำแพงเมืองโบราณก็เลยแวะเก็บภาพมาฝากกันครับ ไปเที่ยวลพบุรี ให้อารมณ์เหมือนไปอยุธยา มีโบราณสถานให้เห็นอยู่ทั่วไปทั้งเมือง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:49:44

ความคิดเห็นที่ 3 วัดพระธาตุ เป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 20 ไร่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่18-19 ภาพนี้ถ่ายจากมุมหน้าซ้ายของวัด (หันหน้าออกจากวัด) จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:51:19

ความคิดเห็นที่ 4 ภายหลังได้มีการปฏิสังขรณ์สร้างเพิ่มเติมอีก ทำให้มีสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยอยู่ภายในบริเวณวัด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:52:31

ความคิดเห็นที่ 5 ที่เห็นเหลือแต่เสาอยู่หน้าพระวิหารหลวง คือ ศาลาเปลื้องเครื่อง เป็นที่สำหรับพระเจ้าแผ่นดินเปลื้องเครื่องทรงก่อนจะเข้าพิธีทางศาสนา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:53:56

ความคิดเห็นที่ 6 ถัดจากศาลาเปลื้องเครื่อง คือ พระวิหารหลวงหรือพระวิหารเก้าห้อง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:54:24

ความคิดเห็นที่ 7 ด้านหน้ามีประตู 3 บาน เป็นแบบไทย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:59:17

ความคิดเห็นที่ 8 มองผ่านประตูเข้าไปจะเห็นยอดพระปรางค์องค์ประธานอยู่ด้านหลัง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:00:27

ความคิดเห็นที่ 9 ลักษณะเป็นพระวิหารที่มีผนังยาวโดยมีช่วงเสากั้นอยู่รวมเก้าช่วงเสา จึงเรียกว่าพระวิหารเก้าห้องด้วย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:01:24

ความคิดเห็นที่ 10 สังเกตเห็นว่ามีการก่อเสาด้วยอิฐรูปสามเหลี่ยม เห็นแล้วคิดถึงพิซซ่าขึ้นมาทันที จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:02:08

ความคิดเห็นที่ 11 มีหน้าต่างเป็นรูปโค้งแบบกลีบบัว ซึ่งได้รับอิทธิพลศิลปะตะวันตก บานนี้อยู่ทางด้านขวาของพระวิหาร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:03:27

ความคิดเห็นที่ 12 บานนี้อยู่ทางด้านซ้าย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:03:59

ความคิดเห็นที่ 13 ด้านขวาของพระวิหารเป็นพระอุโบสถขนาดย่อม ประตูหน้าต่างเป็นแบบตะวันตกทั้งหมด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:04:34

ความคิดเห็นที่ 14 แนวพระอุโบสถทำมุม 90 องศากับพระวิหารหลวง ภาพนี้ถ่ายจากมุมกำแพง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:05:52

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพนี้ถ่ายจากมุมเดียวกันตามแนวนอกกำแพงด้านข้าง จะเห็นได้ว่ามีกำแพงด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:07:52

ความคิดเห็นที่ 16 วิหารน้อยหลังนี้ ได้รับการบูรณะจนอยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างกับเพิ่งสร้างเสร็จ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:10:26

ความคิดเห็นที่ 17 วิหารหลังเดียวกันในอีกมุมหนึ่ง ทั้งหลังมีประตูอยู่บานเดียว ไม่มีหน้าต่างเลย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:11:51

ความคิดเห็นที่ 18 มองจากวิหารน้อยจะเห็นมุมที่มาบรรจบกันของวิหารคดที่ยังมีสภาพดี และพระปรางค์องค์ประธานอยู่เบื้องหลัง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:14:52

ความคิดเห็นที่ 19 มองผ่านช่องวิหารคดไปยังพระปรางค์องค์ประธาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:16:08

ความคิดเห็นที่ 20 พระปรางค์องค์ประธานนี้สูงถึง 30.7 เมตร เป็นพระปรางค์องค์ที่สูงที่สุดในลพบุรี สร้างเป็นพุทธเจดีย์ องค์ปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงโบกปูน มีเครื่องประดับลวดลายเป็นพระพุทธรูปและพุทธประวัติ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:20:06

ความคิดเห็นที่ 21 พระปรางค์องค์นี้เดิมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก ที่ขึ้นชื่อคือ พระเครื่องสมัยลพบุรี เช่น พระหูยาน พระร่วง ซึ่งมีการขุดพบเป็นจำนวนมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:20:49

ความคิดเห็นที่ 22 ลายปูนปั้นหน้าบันพระปรางค์แสดงถึงอิทธิพลของพุทธศาสนานิกายมหายาน และซุ้มโคปุระเป็นศิลปะละโว้ มีลายปูนปั้นที่ถือว่างามมาก เดิมคงจะสร้างในสมัยขอมเรืองอำนาจ แต่ได้รับการซ่อมแซมในสมัยสมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และสมเด็จพระนารายณ์ฯ ลวดลายจึงปะปนกันหลายสมัย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:21:33

ความคิดเห็นที่ 23 ลายปูนปั้นมกรคายนาคของซุ้มโคปุระที่สวยงาม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:21:57

ความคิดเห็นที่ 24 มีเด็กนักเรียนมาเที่ยวชมวัดหลังเลิกเรียนเป็นกลุ่ม วิ่งขึ้นวิ่งลงที่พระปรางค์ ดูสดใสน่ารักมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:22:54

ความคิดเห็นที่ 25 ดีใจแทนเด็กๆ ที่ได้มีโอกาสซึมซับความงามของโบราณสถานตั้งแต่วัยเรียนอย่างนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:24:16

ความคิดเห็นที่ 26 เด็กคนนี้ก็เลยปีนขึ้นไปนั่งบนเนินข้างพระปรางค์บ้าง อิ อิ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:24:58

ความคิดเห็นที่ 27 มองย้อนจากด้านขวาของพระปรางค์ประธานกลับไปยังพระวิหารหลวงและพระอุโบสถ เวลาไปเที่ยวชมโบราณสถานแล้วเห็นพระพุทธรูปไร้พระเศียร รู้สึกหดหู่กับความไม่มีหิริโอตัปปะของคนไทยบางกลุ่ม หดหู่กับตรรกะที่ว่า เพราะจนเลยจำเป็นต้องทำชั่วเลี้ยงตัวเองและครอบครัว คนอื่นยังทำชั่วกว่านี้ตั้งมากมาย คนที่ขโมยคงไม่สามารถทำเงินจากเศียรพระที่ตัดไปได้ ถ้าไม่มีพ่อค้าคนกลางรับซื้อไปขายทำกำไร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:26:10

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพนี้ถ่ายจากด้านขวาของตัววัด หลังองค์พระที่ไม่มีเศียร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:31:54

ความคิดเห็นที่ 29 กลับไปที่ด้านหน้าซ้ายของพระวิหารหลวง มีพระวิหารอีกหลังทำมุม 90 องศากับพระวิหารหลวงเหมือนกับพระอุโบสถ มีพระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟืองอยู่ที่มุมกำแพง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:33:56

ความคิดเห็นที่ 30 พระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนฐาน เป็นฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 1 ฐาน ยกสูงจากพื้นมาก รองรับฐานบัว 3 ฐาน ส่วนกลาง เป็นเรือนธาตุสูง 2 ชั้น แบบปราสาทขอมสมัยบายน ส่วนบนสอบเข้าเล็กน้อย อยู่ในผังยกเก็จมีซุ้มลดและซุ้มซ้อน 2 ชุด ตัวเรือนธาตุประดับลายกรุยเชิงและลายเฟื่องอุบะที่มีขนาดใหญ่และประดับแถวลายหน้ากระดานดอกกลมสลับสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ส่วนยอด เป็นรูปกลีบมะเฟือง ที่ชั้นเชิงบาตรต่อขึ้นไปเป็นกลีบรวบเข้าหากันถึงยอด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:34:46

ความคิดเห็นที่ 31 พระวิหารหลังนี้อยู่ทางซ้ายของพระปรางค์องค์ประธาน หลังคาแบบไทยประยุกต์ ประตูหน้าต่างแบบตะวันตกและมีน้อยบานมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:35:27

ความคิดเห็นที่ 32 มองจากมุมกำแพงแก้วของพระปรางค์ไปยังพระวิหาร หวานใจกำลังชื่นชมกับความยิ่งใหญ่อลังการของพระปรางค์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:36:02

ความคิดเห็นที่ 33 จะเห็นได้ว่าพระวิหารหลังนี้ มีประตูอยู่ด้านข้าง 1 บาน และหน้าต่างทั้งหมดเพียง 3 บานเท่านั้น คงจะเป็นอิทธิพลของศิลปะตะวันตกที่มาจากเมืองหนาว ทำให้มีหน้าต่างประตูน้อยอย่างนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:38:32

ความคิดเห็นที่ 34 มองย้อนกลับไปยังหน้าวัด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:39:16

ความคิดเห็นที่ 35 ทางด้านขวาของพระปรางค์ระหว่างกำแพงแก้วและกำแพงชั้นใน มีพระปรางค์องค์เล็กอยู่องค์หนึ่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:40:15

ความคิดเห็นที่ 36 ประดับลวดลายใกล้เคียงกับพระปรางค์องค์ประธานและในศิลปะเขมร จึงน่าจะสร้างขึ้นพร้อมกับพระปรางค์องค์ประธาน ราวต้นศตวรรษที่ 19 ช่วงก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ประมาณ 100 ปี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:41:14

ความคิดเห็นที่ 37 ที่ผ่านมาเราเดินชมกันภายในเขตกำแพงชั้นใน จากนี้ไปจะพาไปเดินชมส่วนที่อยู่ระหว่างกำแพงชั้นในกับชั้นนอก เริ่มจากทางด้านขวาของวัด มีพระเจดีย์ 2 องค์ที่มีรูปทรงแตกต่างกันนี้ องค์ที่อยู่ด้านหน้าในภาพนี้ เป็นพระเจดีย์ทรงปรางค์ สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนฐาน มีฐานลักษณะคล้ายอาคารยาวๆ ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เหนือขึ้นไปเป็นฐานของพระปรางค์ ประกอบด้วยฐานบัวลูกฟัก 3 ฐานซ้อนกัน ตามลักษณะทั่วไปของปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้น ส่วนกลาง เป็นเรือนธาตุที่อยู่ในผังเพิ่มมุม มุมประธานมีขนาดใหญ่กว่ามุมอื่น ผนังสอบขึ้น ลักษณะดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ภายในจระเข้นำซุ้มด้านทิศตะวันตกประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา อิทธิพลศิลปะสุโขทัย แต่การครองจีวรมีรัดประคดเป็นแบบศิลปะอยุธยา ส่วนยอด เป็นเรือนชั้นซ้อน 5 ชั้น ใช้ระบบเสาตั้งคานทับ ช่องวิมานประดับบรรพแถลง หลังคาประดับกลีบขนุนปรางค์ ตามแบบศิลปะอยุธยาตอนต้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:43:08

ความคิดเห็นที่ 38 องค์ที่อยู่ด้านหน้าในภาพนี้ เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังในผังแปดเหลี่ยม สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนฐาน เป็นฐานของเจดีย์ทรงปราสาทยอด ชั้นล่างสุดเป็นฐานเขียงรองรับฐานบัวลูกแก้วอกไก่ 2 ชั้นในผังเพิ่มมุมสี่เหลี่ยมจตุรัส ฐานบัวลูกแก้วอกไก่ชั้นบนมีลักษณะขยายท้องไม้สูง ประดับลูกแก้วอกไก่ 2 เส้น ส่วนฐานชั้นล่างเป็นฐานบัวคว่ำ-บัวหงาย อยู่ในผังเพิ่มมุม มีช้างล้อมรอบ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของพระเจดีย์องค์นี้ ส่วนกลาง เป็นส่วนรองรับองค์ระฆังและตัวองค์ระฆัง ส่วนรองรับองค์ระฆัง ประกอบด้วยฐานบัวคว่ำ 3 ชั้น เหมือนบัวถลาของสุโขทัย ซ้อนกันอยู่ในผังกลม ที่ท้องไม้บนประดับลายดอกไม้ ท้องไม้ระหว่างบัวถลาล่างประดับลวดลายวงกลมแบบลายจีนสลับด้วยลายดอกไม้สี่กลีบ ใต้องค์ระฆังมีจระนำซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงต่อกันโดยรอบ ส่วนองค์ระฆังค่อนข้างเล็กและยืดสูง ส่วนยอด ปล้องไฉนทำเป็นลูกแก้วเรียงเป็นชั้นต่อกันแบบสุโขทัย (ไม่มีจังหวะห่างของท้องไม้ในแต่ละปล้อง) จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:47:36

ความคิดเห็นที่ 39 ให้ดูลวดลายที่ประดับอยู่ที่ส่วนกลางของพระเจดีย์องค์นี้กันใกล้ๆ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:48:52

ความคิดเห็นที่ 40 วิหารหลังนี้ รูปทรงของฐานคล้ายกับพระเจดีย์ 2 องค์ที่เพิ่งผ่านมา ดูหนักแน่นแข็งแรง ไม่มีแผ่นป้ายคำบรรยายติดไว้เหมือนพระเจดีย์ทั้ง 2 องค์นั้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:49:38

ความคิดเห็นที่ 41 ไม้ใหญ่ต้นนี้ รูปทรงสมบูรณ์ดูน่าสนใจ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:50:07

ความคิดเห็นที่ 42 เข้าไปดูใกล้ๆ ปรากฎว่ามีต้นโพธิ์และต้นไทรเกาะเป็นกาฝากอยู่ด้วย จึงมีพันธุ์ไม้ถึง 3 ชนิดอยู่ในต้นนี้ต้นเดียว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:51:09

ความคิดเห็นที่ 43 ถัดไปมีพระวิหารอีก 2 หลัง อยู่ใกล้ๆ กัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:51:42

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นพระวิหารหลังนี้แล้วทำให้นึกถึงพระวิหารเก้าห้องที่วัดไลย์ มีช่องแสงที่ผนังด้านข้างแทนหน้าต่างเหมือนๆ กัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:52:46

ความคิดเห็นที่ 45 พระวิหารหลังสุดท้ายมีขนาดใหญ่กว่าพระอุโบสถเสียอีก แต่ยังเล็กกว่าพระวิหารหลวงมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:53:25

ความคิดเห็นที่ 46 พระวิหารหลังนี้จะอยู่ในแนวเดียวกับพระวิหารหลวงที่อยู่ด้านหน้า โดยมีพระปรางค์องค์ประธานคั่นอยู่ระหว่างกลาง คล้ายกับหลายวัดในปัจจุบัน ที่มีพระวิหารกับพระอุโบสถวางเป็นแนวเดียวกัน โดยมีพระเจดีย์อยู่ตรงกลาง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:54:14

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพนี้จะเห็นพระวิหารหลังนี้ พระปรางค์องค์ประธานและพระวิหารหลวงเรียงตัวเป็นแนวเดียวกันได้ชัดเจนขึ้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:54:59

ความคิดเห็นที่ 48 พระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนล่างเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ และส่วนยอดเป็นรูปกลีบมะเฟือง ส่วนฐาน ชั้นล่างสุดเป็นฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 1 ฐาน รองรับฐานบัว 3 ฐาน ลักษณะเพิ่มมุมคล้ายยกเก็จ มุมประธานมีขนาดใหญ่กว่า แต่ละมุมมีด้านไม่เท่ากัน มักพบในเจดีย์แบบล้านนาที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะพุกาม ส่วนกลาง เป็นเรือนธาตุสูง 2 ชั้น แบบปราสาทขอมในสมัยบายน ส่วนบนสอบเข้าเล็กน้อย อยุ่ในผังยกเก็จ มีซุ้มลดและซุ้มซ้อน 2 ชุด ส่วนยอด เป็นรูปกลีบมะเฟือง ตั้งแต่ชั้นเชิงบาตรขึ้นไปเป้นกลีบรวบเข้าหากันจนถึงยอด และโคนประดับด้วยกลีบขนุนปรางค์ลายเทพพนม เป้นรูปแบบที่ผสมผสานระหว่างศิลปะเขมรกับศิลปะสุโขทัยที่รับผ่านมาจากลังกา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:55:51

ความคิดเห็นที่ 49 พระเจดีย์ทรงระฆังในผังแปดเหลี่ยม สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นะเจดีย์ทรงระฆังที่มีฐานแปดเหลี่ยมสมัยอยุธยาตอนต้น ผสมกับรูปแบบเจดีย์ทรงปราสาทยอดที่มีเรือนธาตุ ส่วนฐาน เป็นฐานของเจดีย์ทรงปราสาทยอด มีฐานบัวลูกแก้วอกไก่ 2 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นฐานเขียงรองรับฐานบัวลูกแก้วอกไก่ 2 ชั้น ในผังเพิ่มมุม รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าคล้ายมีมุขยื่นออกมา ขยายท้องไม้สูงประดับลูกแก้วอกไก่ 2 เส้น ชั้นที่ 2 เป็นฐานบัวคว่ำบัวหงายอยู่ในผังเพิ่มมุมขยายท้องไม้สูง มีเสาประดับลายกรุยเชิงและเฟื่องอุบะประกอบด้วยแม่ลายเป็นลายกระหนกทั้ง 2 ข้าง แกนกลางเป็นลายบั้งและลูกลายลักษณะเหมือนลายบั้ง ส่วนท้องไม้ประดับแถวพระสาวกพนมมือ ส่วนกลาง เป็นส่วนรองรับองค์ระฆังและตัวองค์ระฆัง ประกอบด้วยฐานบัว 2 ฐาน ซ้อนกันอยู่ในผังแปดเหลี่ยม ฐานบัวชั้นที่ 1 เป็นฐานบัวลูกฟักเตี้ยๆ ฐานบัวชั้นที่ 2 เป็นฐานบัวขยายท้องไม้สูง ส่วนองค์ระฆังค่อนข้างเล็กสูง มีบัวปากระฆังซ้อนกันหลายชั้น เป็นฐานบัวคว่ำบัวหงาย และกลีบบัว ประดับท้องไม้ด้วยลายดอกบัว ส่วนด้านทิศตะวันออก มีซุ้มจระนำสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป 1 ช่อง กรอบเป็นรูปวงโค้งยอดแหลม โคนเป็นลายกระหนก ส่วนยอด เป็นบัลลังก์อยู่ในผังเพิ่มมุมไม้สิบสอง ที่ท้องไม้ประดับลายกลีบบัว และลายดอกบัวปูนปั้น ส่วนก้านฉัตรและบัวฝาละมี ประดับลายกลีบบัวหงาย ส่วนปล้องไฉนเป็นแบบลูกแก้วอกไก่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:56:45

ความคิดเห็นที่ 50 พระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง สมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนล่างเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ แบบอาคารที่มีในศิลปะสุโขทัย ส่วนบนเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง ส่วนฐาน เป็นฐานเขียงรองรับส่วนฐานบัวลูกแก้วอกไก่ 2 ฐาน ซ้อนกันอยู่ในผังยกเก็จ มีการประดับลูกแก้วอกไก่ ฐานละ 2 เส้น การทำท้องไม้สูงนี้ มักปรากฏในเจดียืศิลปะล้านนาและเจดีย์ศิลปะสุโขทัยที่ได้รับอิทธิพลศิลปะล้านนา กลางพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนกลาง เป็นเรือนธาตุ ที่มีบันไดทางขึ้นเข้าไปภายในห้องได้ ด้านข้างตัวอาคารมีเสารองรับหลังคาของตัวซุ้มประดับ ซึ่งทำหน้าที่แทนหลังคา โดยมีลักษณะยื่นออกมาด้านข้าง เรียกว่า ซุ้มปีกนก ตัวเรือนธาตุประดับลายกรุยเชิงและลายเฟื่องอุบะ ที่โคนเป็นลายกระหนก ตรงกลางเป็นลายบั้ง ส่วนยอด เป็นเจดีย์ทรงปรางค์กลีบมะเฟือง ต่อยอดเหนือหลังคาของเจดีย์ทรงปราสาทตั้งแต่เหนือเรือนธาตุขึ้นไป ที่โคนกลีบมะเฟืองประดับลายกลีบบัวรองรับลายในกรอบรูปสามเหลี่ยมโดยรอบ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:57:41

ความคิดเห็นที่ 51 มองเลียบกำแพงกลับไปยังหลังวัด จะเห็นพระเจดีย์ 3 องค์ ที่เพิ่งชมกันมาตามลำดับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:58:57

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพนี้มองจากพระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง องค์ที่อยู่ใกล้มุมกำแพงด้านหลัง ไปยังพระปรางค์องค์ประธาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:59:34

ความคิดเห็นที่ 53 มองจากพระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง องค์ที่อยู่ช่วงกลางกำแพง จะเห็นซุ้มประตูกลางของกำแพงชั้นใน ที่มีรูปแบบของศิลปะตะวันตก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:00:37

ความคิดเห็นที่ 54 มองจากซุ้มประตูกลางออกไปยังกำแพงชั้นนอก จะเห็นพระเจดีย์ทรงปรางค์ยอดกลีบมะเฟืองอยู่ตรงหน้า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:01:08

ความคิดเห็นที่ 55 เดินกลับออกมาหน้าวัด เจอเด็กๆ ที่เห็นวิ่งขึ้นวิ่งลงพระปรางค์องค์ประธาน ก็เลยขอถ่ายรูปด้วย ยิ้มหวานน่ารักกันทุกคนเลย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:02:46

ความคิดเห็นที่ 56 กลับออกมาแวะถ่ายรูปวัดบันไดหินที่อยู่ข้างสถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ตรงข้ามวัดพระธาตุ วัดบันไดหิน สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สิ่งก่อสร้างภายในวัดมีวิหาร ซึ่งเหลือแต่ผนังเพียงสองด้าน มีประตูหน้าต่างวงโค้งแหลมแบบกลีบบัว ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ และเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมที่ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:04:44

ความคิดเห็นที่ 57 จากนั้นก็ไปพระปรางค์สามยอด สัญลักษณ์ของจังหวัดลพบุรีกัน เห็นวัดเล็กๆ วัดหนึ่งอยู่ใกล้กับพระปรางค์สามยอด วัดอินทรา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อยู่ในเขตกำแพงเมืองชั้นใน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:08:02

ความคิดเห็นที่ 58 วัดอินทราปรากฏแต่วิหารตั้งอยู่บนเนินดิน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น ช่องหน้าต่างทำเป็นช่องเล็กๆ คล้ายกับการทำช่องหน้าต่างแบบลูกมะหวดในศิลปะเขมร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:09:37

ความคิดเห็นที่ 59 พระปรางค์สามยอด เป็นสัญลักษณ์จังหวัดลพบุรี  ก่อด้วยศิลาแลงขึ้นไปเป็นสามยอด สูงประมาณ  15  เมตร   เมื่อก่อทับขึ้นไปแล้วโบกด้วยปูนขาว พร้อมด้วยพิมพ์เป็นลวดลายอย่างงดงาม ทั้งสามองค์ภายในเดินติดต่อกันได้ตลอด   ปัจจุบันเครื่องประดับที่หุ้มร่วงลงมามากแล้ว  ที่เหลืออยู่ยังสังเกตได้ว่า การประดับด้านนอกของพระปรางค์ ทำด้วยความประณีต จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:15:44

ความคิดเห็นที่ 60 สันนิษฐานว่า คงจะสร้างพระปรางค์สามยอดขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปเคารพในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน   สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราวระหว่าง พ.ศ. 1700 - 1750 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:18:03

ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงสถาปนาเมืองลพบุรีเป็นราชธานีสำรอง   โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมพระปรางค์สามยอด และสร้างพระวิหารขึ้นตรงด้านตะวันตกของปรางค์องค์กลาง   แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปศิลาองค์ใหญ่มาเป็นพระประธาน  และยังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:19:18

ความคิดเห็นที่ 62 ถึงผมจะเกิดปีวอก แต่ไม่ค่อยจะถูกชะตากับลิงเท่าไร พยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปแหล่งท่องเที่ยวที่มีลิง แต่ลิงที่พระปรางค์สามยอด ไม่ก้าวร้าวเหมือนลิงบางที่ อาจจะเพราะคนเชื่อว่าเป็นลิงศาลพระกาฬก็เลยไม่มีใครแกล้งลิง ทำให้ลิงที่นี่ไม่แยกเขี้ยวยิงฟันขู่คน อาจจะมีบางตัวพยายามกระโดดมาเกาะอย่างที่เห็นกำลังโดดเข้าหาแหม่มในภาพนี้ ตอนผมเดินถ่ายรูปอยู่ก็มีโดดจะมาเกาะผมเหมือนกัน ผมสวนกลับไปแต่ไม่ทัน ไวเป็นลิงจริงๆ ฮ่า ฮ่า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:21:13

ความคิดเห็นที่ 63 พระพุทธรูปศิลาในพระวิหารที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตรงด้านตะวันตกของพระปรางค์องค์กลาง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:22:23

ความคิดเห็นที่ 64 ขอลากันด้วยภาพด้านข้างของพระปรางค์สามยอดภาพนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดู แสดงความเห็นและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ ขอบคุณเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูล allknowledges.tripod.com, lopburi.mots.go.th และ holidaythai.com จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:23:11

ความคิดเห็นที่ 65 ตามมาชมครับ รูปสวยมากๆ เนื้อหาแน่นปึ๊ก น่าอิจฉาจังครับ ได้ตระเวนเที่ยวชมของสวยของงามตลอดเลย ว่างๆจะไปตามรอยบ้างครับ แต่หาเพื่อนไปยากจัง บอกไปวัดมีแต่คนเบือนหน้าหนี คนไม่ชอบเขาก็ไม่ชอบกันจริงๆ สวยจะตายวัดเก่าแบบนี้ จากคุณ : Mr.Cellophane เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:23:23

ความคิดเห็นที่ 66 ขอขอบคุณ ที่พาเที่ยวเมืองลพบุรีค่ะ สุดยอดในการเดินทางไปเที่ยว ก็จริงนะคะ ที่บางครั้งเราก็เดินทางไปชมวัดหรือโบราณสถานน้อยกว่าชาวต่างชาติ แต่อย่างน้อย ไปสักหนึ่งวัดสองวัดในการเดินทางแต่ละจังหวัด ก็ดีนะคะ...เพราะวัดแต่ละจังหวัด ก็จะมีเอกลักษณ์แต่งต่างกันไป.... ศิลปวัฒนธรรมไทย เป็นสิ่งดีงาม ที่แต่ละรุ่น ต้องช่วยกัน ส่งเสริม ส่งต่อ ให้กับคนรุ่นถัดไป ได้ซึมซับ และเข้าใจ แม้จะไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ไม่เลือนหาย ขอขอบคุณ คุณอาทั้งสอง ที่ส่งต่อศิลปวัฒนธรรมไทย ให้ทุกคนได้ชื่นชมนะคะ.... จากคุณ : finaldevil เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:26:55

ความคิดเห็นที่ 67 อยากจะบอกว่า รูปที่ถ่ายมา สวยมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : finaldevil เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:28:43

ความคิดเห็นที่ 68 แอบมาปฏิบัติหน้าที่ยามดึกจ้า จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:26:18

ความคิดเห็นที่ 69 คุณMr.Cellophane - ขอบคุณที่ติดตามชมกระทู้ครับ                             เป็นความจริงที่มีคนไม่มากที่ไปวัดเพื่อชื่นชมความงามของพุทธศิลป์                             ความงามของโบราณสถาน หรือแม้แต่ความงามของบ้านไม้เก่าๆ ที่ดูไร้ค่า                             เป็นความงามที่มีเสน่ห์ที่กาลเวลามอบให้                                                         คุณMr.Cellophaneลองไปเที่ยวชมคนเดียวดู จะได้ชื่นชมได้นานจนพอใจ อาจจะติดใจก็ได้นะครับ คุณfinaldevil - ทุกชาติมีสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์                      ชาติไทยเรามีความร่ำรวยทางวัฒนธรรมอันน่าภูมิใจ อวดคนทั้งโลกได้                      ผมหวังว่ากระทู้ชุดนี้จะช่วยคนไทยรู้จักและซาบซึ้งกับรากเหง้าของเรามากขึ้นครับ                      ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม คุณเตี้ยอ้วนชวนไถล - ขอบคุณตอนดึกด้วยเช่นกันครับ พี่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:31:45

ความคิดเห็นที่ 70        DONE.....ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : น้า Low Batt เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:42:00

ความคิดเห็นที่ 71 ตามไปทานโต๊ะจีนลิง...เอ๊ย....เที่ยวเมืองเก่าด้วยค่ะ     ไปเที่ยวเองก็หลายครั้งแล้ว  แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้งดงามแบบกระทู้นี้เลยค่ะ   ลงชื่อขอหลังไมค์ด้วยอีกหนึ่งเสียงค่ะ จากคุณ : sailyacht เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 01:05:41

ความคิดเห็นที่ 72 คุณน้า Low Batt - ขอบคุณมากครับที่ติดตามและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ คุณsailyacht - ตามคนเกิดปีลิงทั้งสองคนมาเลยครับ อิ อิ                     ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้มาโดยตลอด                     แล้วจะส่งข้อความไปบอกเวลาตั้งกระทู้ครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:03:32

ความคิดเห็นที่ 73 รูปสวย ข้อมูลแน่นเหมือนเดิมค่ะ ชื่นชมจริงๆ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนี่ มีสิ่งก่อสร้างเยอะมาก ยังหาคำบรรยายมาได้เยอะแยะมากมายขนาดนี้ชื่นชมจริงๆค่ะ ตอนที่เรียนอยู่ อาจารย์พามาที่นี่ แล้วเราบอกอาจารย์ว่า สวยจังเลย อาจารย์หันมามองหน้าแล้วบอกว่า เป็นสาวคนแรกที่พามาแล้วชมว่าสวย อาจารย์เป็นคนลพบุรี ตอนจีบสาวพาสาวมาที่นี่ มีแต่คนเบื่อ  อ่านที่คุณ Mr.Cellophane เขียนแล้วนึกเรื่องนี้ได้เลย โบราณสถานแบบนี้หาคนไปดูด้วยยากจริงๆค่ะ กดเข้าคลังกระทู้แล้วค่ะ จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:14:13

ความคิดเห็นที่ 74 ต้องยอมรับว่าใช้เวลาเตรียมรีวิววัดนี้อยู่หลายวันเลยครับ คุณapple a day เราไปลพบุรีกันเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม แล้วเดินถ่ายรูปวนเวียนอยู่ในวัดหลายรอบ พอจะรีวิวชักสับสนเพราะเจดีย์หลายองค์คล้ายคลึงกันมาก ต้องเปิด google Earth เทียบเอากับมุมกล้อง แต่นั่นคือความสุขของการทำรีวิวครับ ได้ย้อนกลับไปนึกถึงภาพตอนที่เดินชมวัดอยู่ด้วยความทึ่ง ตะลึงในความงาม ขอบคุณที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:48:27

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ หนูเองยังถ่ายรูปไม่สวยขนาดนี้เลย เลนส์วายด์นี่ทำให้มุมมองแปลกใหม่กว้างขึ้นดีจัง ฝั่งตรงข้ามมีวัดนครโกษา แล้วก็ศาลพระกาฬค่ะ ว่างๆ หนูอยากไปชมพิพิธภัณฑ์ลพบุรีด้านในพระราชวังสมเด็จพระนารยณ์มหาราช กับบ้านเจ้าพระยาวิชาเยน แต่ต้องรอฤดูหนาวฝนไม่ตกก่อนดีกว่า แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 08:52:22 จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:52:05

ความคิดเห็นที่ 76 สวยงาม  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:32:14

ความคิดเห็นที่ 77 ตามไปชิม..เอ้ย..ชม..ลิงด้วยคนครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เครียดไปก็เท่านั้น เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:25:02

ความคิดเห็นที่ 78 คุณเด็กศิลป์ (Artiste) - Sigma 10-20 เป็นเลนส์ที่ผมใช้คุ้มค่าที่สุดเลยละครับ                                ถ้าสนใจเลนส์ไวด์แองเกิ้ล ตัวนี้คุณภาพเกินราคา                                ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ แค่บอกต่อเท่านั้น อิ อิ คุณเล็กทาโร่ - ขอบคุณที่ติดตามชมและให้กำลังใจกันครับ คุณเครียดไปก็เท่านั้น - ด้วยความยินดีครับ                               อย่าเผลอไปชิมเข้าจริงๆ ล่ะครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:51:26

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้หนูตังค์หมดแล้วคงประหยัดสักพักใหญ่ ถ้าอยากได้เลนส์วายก็ยืม Nikkor 12-24mm.จากที่ทำงานมาใช้ก่อน ที่ถ่ายรูปวัดในลพบุรีในกระทู้นั้นเป็นเลนส์คิด Nikkor 18-105 ขี้เกียจแบกเยอะเพราะนั่งรถไฟฟรีไป เคยใช้ซิกม่า 35-135 กับ Nikon FM2N มาก่อนค่ะ แรกไฟล์คมมาก สีสวยกว่าเลนส์ค่าย แต่พอผ่านไปเลนส์ค่อยๆ เหลืองลงจนใช้ไม่ได้ เลยใส่กับเลนส์ 50mm.1.8d แทน จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:59:58

ความคิดเห็นที่ 80 ตอนไปเที่ยวลพบุรี  พอจะลงเที่ยวที่ไหนก็ต้องมองซ้ายขวากลัวลิงเหมือนกันค่ะ   ถ้าไปเจอ คงเดินเที่ยวไม่มีความสุขแน่ๆ ลพบุรีมีโบราณสถานอยู่หลายที่มาก โดยมีตึกแถวสิ่งก่อสร้างสมัยนี้อยู่แทรกเป็นระยะๆ เลย  ชอบลพบุรีมากเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ไว้รอชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:52:09

ความคิดเห็นที่ 81 คุณเด็กศิลป์ (Artiste) - เล่นกล้องก็อย่างนี้แหละครับ เป็นโรคเลนส์งอกกันเป็นแถวๆ                                มากน้อยแล้วแต่ว่าจะใจแข็งหรือใจอ่อนขนาดไหน คุณRed-Rose-14Feb - เท่าที่ผมเห็น ลิงที่ลพบุรีส่วนมากไม่ก้าวร้าวครับ มันก็ซนตามประสาลิง                                แต่ไม่แยกเขี้ยวขู่ หรือเข้ามาแย่งชิงสิ่งของเหมือนบางที่                                ที่ดีคือมีอยู่เฉพาะบริเวณศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด                                ที่วัดพระธาตุกับที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ไม่มีลิงเลย ไม่ต้องคอยระแวง                                ขอบคุณที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจกันมาตลอดครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:01:37

ความคิดเห็นที่ 82 ติดตามตอนที่ 50 พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ลพบุรี ได้ที่กระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12732168/E12732168.html#75 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:04:57

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาชมครับ จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 21:28:29