ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากที่ค้นกระทู้เก่าๆ ในห้องบลู ผมก็ได้รู้จักกับชื่อ  "สมบัติทัวร์" และ "สมุย เลเชอร์" ผมจัดการการเดินทางด้วยรถทัวร์ชองสมบัติทัวร์จากสายใต้ใหม่ไปลงสมุย  เมื่อลงเรือไปถึงสมุยแล้ว ก็ต่อเรือของทัวร์ไปยังหมู่เกาะอ่างทองเลย คิดไว้ในหัวว่าจะนอนพักที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองสัก 1 คืน แล้วค่อยว่ากันใหม่ที่สมุยในอีกวันหนึ่งแล้วกัน จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:31:28

ความคิดเห็นที่ 2 รู้ตัวเข้าอีกที ผมก็ยืนอยู่ที่ชานชลาหมายเลข 14 ที่สายใต้ใหม่เข้าแล้ว ผมกำลังรอรถเข้ามาจอด คิดว่าออกจากที่นี่ประมาณ 19.00 ก็คงไปถึงสมุยประมาณ 7.30 - 8.00 น่าจะทันเวลาล่ะนะ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:33:23

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความเหนื่อย ผมก็เผลอหลับไป รถนั่งสบายมาก จนกระทั่งตื่นอีกทีที่ท่าเรือของซีทราน ที่ดอนสักเรียบร้อยแล้ว  พวกผู้โดยสารอย่างผมจำเป็นต้องลงจากรถทัวร์เพื่อเดินต่อไปขึ่นเรือ เพื่อที่ในขณะที่รถกำลังลงไปในเรือ จะได้ไม่มีน้ำหนักมากเกินไป ในขณะเดียวกัน พระอาทิตย์หน้าเดิม ก็เริ่มโผล่ที่ปลายขอบทะเลอ่าวไทย  ถึงเมฆบนฝั่งจะเยอะมากเพียงใด ลำแสงสีส้มอันสว่างจ้าของพระอาทิตย์ก็ไม่อาจถูกบดบังได้หรอก จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:37:57

ความคิดเห็นที่ 4 ในขณะที่เรือเริ่มแล่นไกลออกห่างจากฝั่งมากขึ้น ความมืดมิดก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมๆ กับที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีครามกับปุยเมฆ และพระอาทิตย์ที่อยู่สูงขึ้น ผมรู้สึกสงบที่ได้ฟังเสียงลมพัดผ่านหูไป ได้ยินเสียงคลื่น แทนที่จะเป็นเสียงแตรของรถหลากหลายตามสี่แยกไฟแดง ได้เห็นต้นไม้สีเขียวตามเกาะเล็กเกาะน้อย แทนที่จะเป็นอาคารตึกสูงทั้งหลายใจกลางเมือง ไม่มีอะไรจะสุขใจได้เท่ากับความสงบนี้แล้ว จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:42:40

ความคิดเห็นที่ 5 แค่รูปเปิดละลายแล้ว.............ปูเสื่อรอชมเลยค่ะ จากคุณ : หนีเที่ยวไม่บอกแม่ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:45:12

ความคิดเห็นที่ 6 ราวๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง เรือก็พาพวกผมมาจนถึงบริเวณหน้าทอน เกาะสมุย  เนื่องจากผมมีแค่เป้เพียงใบเดียวกับกระเป๋าสะพายอีกใบหนึ่งจึงไม่จำเป็นต้องโหลดของลงใต้ท้องรถทัวร์ ทำให้สามารถเดินทางต่อได้เลย ไม่ต้องรอรับกระเป๋า ราวเจ็ดโมงครึ่งทางทัวร์ก็โทรมา เรานัดกันบริเวณท่าเรือนั้นเอง จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:46:24

ความคิดเห็นที่ 7 ขอตามติดไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองด้วยคนครับ ^ ^ จากคุณ : สีขุ่น เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:51:02

ความคิดเห็นที่ 8 เชิญเลยครับ ปูเสื่อรอเลย ผมจะเสิร์ฟคุณหนีเที่ยวไม่บอกแม่ด้วยภาพสวยๆ เลยครับ :) ____________________________________________________ สมุยเลเชอร์ จัดการให้ผมไปกับเรือของ "สมุยไอส์แลนด์ทัวร์"  เมื่อผมเจอกับเจ้าหน้าที่ของทัวร์ปั๊บ พี่เขาก็ขับรถมาส่งผมที่บริเวณท่าเรืออีกแห่ง ที่มีเรือของทางสมุยไอส์แลนด์ฯ จอดเทียบท่าอยู่ ทั้งๆ ที่ผมกลัวจะมาสายมาก ผมกลับพบว่าผมเป็นลูกทัวร์คนแรกที่มาถึงซะอย่างนั้น ฮ่าๆๆๆ  ผมไม่รีรอ เดินผ่านสะพาน แล้วเลือกที่นั่งมุมซ้าย หลังสุด วิวดี ร่ม ลมพัดเย็นสบายทันทีครับ  พอพี่เจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามข้อมูล ผมก็บอกพี่เขาไปว่าจะค้างคืนหนึ่ง  พี่เขาก็โอเค แล้วบอกว่าจะมารับผมกลับตอนประมาณบ่ายสามโมงของอีกวันหนึ่ง  ผมตอบตกลง แล้วเดินไปหาของว่างมากินฆ่าเวลา  จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:53:27

ความคิดเห็นที่ 9 ไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองด้วยคน จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:54:32

ความคิดเห็นที่ 10 ยินดีครับ คุณสีขุ่น :) __________________________________________ เรือแล่นออกจากท่าในเวลาประมาณ 8.30 นาฬืกา  ฝรั่งหัวทองหลากหลายชาติต่างเดินกันอยู่บนชั้นดาดฟ้าที่ผมนั่งอยู่อย่างยุ่บยั่บ บ้างก็มากันเป็นคู่รักหนุ่มสาว บ้างก็พากันมาหลังวัยเกษียณ  เมื่อไกด์ "พี่เลี่ยม" ไกด์หนุ่มร่างอ้วนชาวปักษ์ใต้โดยกำเนิดถามว่ามีใครไหมที่เดินทางมาคนเดียว คนที่ยกมือตอบ มีเพียงแค่ผมคนไทย กับสาวชาวญี่ปุ่นเท่านั้นที่ผมเห็น  พูดถึงคนไทย ทริปนี้ถ้าไม่รวมลูกเรือแล้ว คงมีอยู่ราวๆ สี่คนเห็นจะได้ครับ มีผู้ชายสองคนที่มาด้วยกันแล้วดูท่าทาง ... (ผมคิดว่าผมน่าจะเดาถูกนะ กางเกงรัดเอาเสียปานนั้น ) มีผม และพี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ปล เท้าใครก็ไม่ทราบได้ครับ มันดูแปลกดี เลยถ่ายมา  จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:59:45

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีครับ คุณตระเวนเที่ยว :) ________________________________ เรื่องของเรื่องคือ ผมได้ยินพี่ผู้หญิงที่มาคนเดียวคนนั้นคุยโทรศัพท์ ผมจึงชื้นใจที่มีคนไทยที่มาคนเดยีวกับเค้าด้วย เราจึงคุยกัน พี่ชื่อว่า "พี่ดาว" เมื่อเข้าเรื่องอาชีพ พี่ดาวเป็นนักเขียนบทละครอิสระ ปกติแล้วจะเขียนให้กับช่องสามเสียส่วนใหญ่ ผมจึงถามว่าพี่ดาวเขียนไหนไปเรื่องล่าสุด พี่ดาวตอบกลับว่า "รักเกิดในตลาดสด" นั่นทำให้ผมช็อคขั้นที่หนึ่ง ต่อมาเราคุยกันเรื่องการเรียน ผมบอกพี่ดาวว่าผมเรียนอยู่อักษรศาสตร์ จุฬาฯ พี่ดาวทำหน้าตกใจแล้วบอกกับผมว่าพี่ก็จบจากที่นี่เช่นกัน มากไปกว่านั้น ทั้งผมและพี่ดาว ก็จบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายการเรียนเดียวกันอีก โลกกลมจริงเออ . . . เห็นไหม? เที่ยวคนเดียว ถ้าใจยังเปิดกว้าง มีหรือจะเหงา ;) พร้อมๆ กันนั้น เรือทัวร์ก็แล่นเข้าสู่หมู่เกาะอ่างทอง และแล่นเข้าไปยังหน้าหาดของเกาะสามเส้าครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:06:32

ความคิดเห็นที่ 12 กลุ่มฝรั่งและนักท่องเที่ยวเกินครึ่งต่างทยอยพากันลงเรือคายัคตามที่พวกเขาซื้อแพ็คเก็จไว้ แต่ผมและนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่ได้ซื้อแบบดังกล่าว มันจะแตกต่างกันตรงที่ แพ็คเกจเรือคายัค จะปล่อยให้นั่งท่องเที่ยวพายเรือจากหาดเกาะสามเส้า ลัดเลาะตามหน้าผม แล้วไปขึ้นบกอีกทีที่หาดของเกาะแม่เกาะเพื่อเดินขึ้นไปชมทะเลใน แต่ผมไม่รู้จะพายมันทำไม เมื่อย ซ้ำยังไปคนเดียว จึงเลือกแพ็คเก็จแบบที่ 2 คือ ไม่มีพายเรือคายัค เรือใหญ่จะไปส่งชมทะเลในที่เกาะแม่เกาะโดยตรงเลย จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:10:56

ความคิดเห็นที่ 13 และแล้วอึดใจหนึ่งที่พวกพายเรือคายัคลงจากเรือใหญ่ไปหมดแล้ว เรือใหญ่ก็พาเรามุ่งสู่ "เกาะแม่เกาะ" ครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:12:43

ความคิดเห็นที่ 14 ผมลงจากเรือใหญ่ไปบนเรือหางยาวเพื่อต่อลงบนฝั่ง เนื่องจากชายหาดตื้นเกินไปจึงไม่สามารถนำเรือใหญ่เข้าจอดได้ บริเวณชายหาดจะมีทางเดินที่ทำจากพลาสติกไฟเบอร์ที่แข็งแรงไว้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นฝั่งกันอย่างไม่เปียกด้วยครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:14:58

ความคิดเห็นที่ 15 การเข้าชมทะเลใน จะมีทางเดินสบายๆ(?)ให้กับนักท่องเที่ยวครับ กล่าวคือจะเป็นขั้นบันไดที่สร้างไว้ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติมากครับ แต่ความสูงชันของขั้นบันไดนั้นมีมากเลยทีเดียว บางแห่งอาจถึงขั้นเกือบตั้งฉากครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:17:00

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเริ่มรู้สึกปวดบริเวณต้นขาพิลึก มันกระตุกๆ ทุกครั้งที่พยายามก้าวขึ้น ไม่ ผมไม่มีทางไปนั่งเล่นยวดขาตัวเองอยู่ชายหาดโดยที่ไม่ได้ดู Unseen in Thailand แห่งนี้หรอก! ผมเดินต่อ ภาพที่เห็นเริ่มทำให้เหงื่อและความเหนื่อยหายไป จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:21:02

ความคิดเห็นที่ 17 ผมลากตัวเองขึ้นมาที่จุดที่นักท่องเที่ยวคนอื่นเลือกที่จะมาชมทีหลัง ทำให้บริเวณนี้เงียบมาก แทบไม่มีคน บริเวณนี้คือบริเวณด้านล่างสุดของทะเลในแห่งนี้ เป็นที่ๆ ผมสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตในลากูนและมองเห็นพื้นของลากูนได้อย่างชัดเจน มือผมควานหากล้องมาถ่าย นิ้วก็กดชัตเตอร์รัวไม่ยั้ง เป็นคุณ คุณจะห้ามใจไหวหรือกับภาพที่เห็น? จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:22:27

ความคิดเห็นที่ 18     ภาพเปิดสวยดี  ตามชมด้วยคน ขอบคุณครับ จากคุณ : น้า Low Batt เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:25:26

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำในลากูนนั่งราวกับสระน้ำ ไม่มีแม้แต่คลื่น มีเพียงแค่ลมที่พัดไปบนผิวน้ำเหล่านั้น สีของน้ำเขียวและฟ้าราวกับมีคนเทสีลงไปเสียอย่างนั้น ลากูนดังกล่าวนี้ สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก จึงทำให้เกิดอุโมงค์ที่ทำให้น้ำทะเลจากด้านนอก ไหลเข้ามาสู่เวิ้งอ่าวด้านในนี้ ลากูนนี้มีความลึกแค่เพียง 7 เมตรเท่านั้นเอง ผมทิ้งตัวลงบนทางเดิน ปล่อยขาพาลาดลงไป แล้วมองไปที่ก้นลากูนก็กับปลาหลากหลายชนิด สัตว์ทะเลเหล่านั้นจะรู้หรือไม่ว่าตนอยู่ในที่ๆ สวยงามและวิเศษขนาดไหน? ไม่ต้องพูดถึงสัตว์ทะเลหรอก ผมยังสงสัยอยู่เป็นบางครั้ง ว่าคนไทยเอง สำนึกและรับรู้หรือไม่ว่าบ้านเราน่าอยู่เพียงใด? จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:28:04

ความคิดเห็นที่ 20 มาได้จังหวะโน๊ะ ^^ จากคุณ : riliza เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:28:24

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ น้า Low Batt กด F5 แล้วติดตามกันต่อเลยคร้าบบบบ :D ______________________________________________________ ผมเชื่อว่าความรู้สึกของทุกคนเมื่อครั้งเห็นภาพถ่ายของสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก ก็คงรู้สึกอยากกระโดดลงไปให้ชื่นใจในทันทีครับ แต่เสียใจด้วยครับ เพื่อเป็นการรักษาที่แห่งนี้ไว้ เขาห้ามครับ (ซึ่งผมว่ามันดีมากเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นอีกไม่นานก็คงกลายเป็นเหมือนสระน้ำเน่าๆ แห่งหนึ่ง) จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:33:10

ความคิดเห็นที่ 22 หากพูดถึงพรรณไม้ที่นี่แล้ว คำว่า "ยังสมบูรณ์อยู่" ก็คงใช้ได้ ไม่ผิดจากความเป็นจริงนัก เพราะตลอดสองข้างทาง ใบไม้หลากสีตั้งแต่ใบแก่ๆ ออกสีเหลืองหรือใบเขียวสดก็มีให้เห็นอยู่ตลอดทาง ผมหวังจริงๆ ว่ามันจะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปนะ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:36:05

ความคิดเห็นที่ 23 เสียงกรี๊ดกร้าด หวกเหวกโวยวายจากพวกตาน้ำข้าวเริ่มแว่วใกล้เข้ามาและดังขึ้นอยู่ทุกขณะ ผมจัดแจงถ่ายรูปให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมา ผมพบว่าฝูงชนหัวทองกำลังแห่พากันลงมาตรงที่ผมเคยยืนอยู่เมื่อสักครู่นี้ โชคดีนะ ที่อออกมาก่อน ผมจึงมุ่งหน้าไปที่ๆ พวกเขาพึ่งออกมากัน นั่นก็คือจุดชมวิวด้านบนสุด ที่สามารถมองเห็นวิวของลากูนได้ทั้งหมด รวมถึงยังสามารถมองเห็นทะเลด้านนอกและหมู่เกาะอ่างทองเกาะอื่นๆ ได้อีกด้วย เห็นทางเดินแล้ว ...เฮ้อ สูงเกิ๊น จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:40:21

ความคิดเห็นที่ 24 หนีงานหรอครับ คุณ riliza อิสอิส ____________________________________________ เมื่อผมก้าวข้ามขั้นบันไดสุดท้ายขึ้นมา ลมเย็นๆ บนนั้นก็ปะทะกับหน้าผมเข้าอย่างจัง พัดเหงื่อออกไป ราวกับว่ามายินดีนะว่าผมถึงแล้ว ความเมื่อยและเหนื่อยมันหายไปจริงๆ นะ ผมเคยไม่เชื่อที่คนอื่นเขาพูดๆ กันมาหลังจากปีนเขาหรืออะไรอย่างนั้น แต่พอมาเจอกับตัวเอง ก็เชื่อแล้วล่ะครับ ภาพจากนิตยสารไหน หรือโปสการ์ดฉบับใด ก็ไม่มีวันสวยเท่ากับ "ภาพ" ที่คุณเห็นด้วยตาคุณเองหรอกครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:44:06

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากเก็บภาพแห่งความประทับใจทั้งภาพวิว และภาพตัวเองที่ไปขอให้ฝรั่งถ่ายให้แล้ว (55555+) ผมก็เดินลงมายังชายหาดครับ ตอนขึ้นเมื่อย แต่ตอนลงขาผมกลับสั่นเองโโยไม่รู้ตัวครับ ไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเมื่อยหรืออะไรก็ตาม แต่ผมไม่ได้กลัวความสูงเลยนะครับ มันสั่นเอง อาจจะเพราะเสียว กลัวตัวเองตกลงไปมั้งครับ ระหว่างทางขึ้นกับทางลง จะมีทางเชื่อมระหว่างทางขึ้นไปดูวิวจากจุดสูงสุด กับทางลงจุดล่างสุดด้วยครับ มีลักษณะเป็นถ้ำ ช่องแคบๆ สำหรับคนที่มีรูปร่างใหญ่มาก ผมไม่แนะนำครับ ทางออกค่อนข้างแคบมาก อาจจะออกมาไม่ได้ครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:48:39

ความคิดเห็นที่ 26 หลังจากสำรวจเกาะเเม่เกาะครบแล้ว ผมก็กลับขึ้นเรือใหญ่และรับประทานอาหารกลางวัน อาหารของทางทัวร์เป็นถาดหลุมให้ มีกับข้าวสามอย่างและผลไม้ สำหรับน้ำเปล่าและน้ำอัดลม รวมถึงชา กาแฟก็มีให้อย่างไม่อั้นเช่นกันครับ เมื่อทานกันอิ่มแล้ว ทางทัวร์ก็จะพาไปยังจุดสุดท้าย คือ เกาะวัวตาหลับ, ที่ๆ ผมจะพักค้างคืนครับ (ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มาเที่ยวที่นี่แบบวันเดย์ทริปครับ) เกาะวัวตาหลับนอกจากจะเป็นเกาะที่มีหาดสำหรับเล่นน้ำที่สวยที่สุดเกาะหนึ่งแล้ว ยังเป็นที่ทำการใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองด้วยครับ เจ้าหน้าทีที่นี่ทำให้ผมประทับใจมากกับความอบอุ่นที่พวกเขามีให้กัน และมีให้กับนักท่องเที่ยวครับ ไว้ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:53:23

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:57:04

ความคิดเห็นที่ 28 หลังจากเอาของเก็บเข้าที่พักแล้ว ผมก็ไม่ช้า ออกจากห้องแล้วรีบบึ่งไปที่ทางขึ้นจุดชมวิว จุดชมวิวที่เป็นที่มาของภาพในตำนาน (5555+), ภาพของหมู่เกาะนับสิบทอดตัวเรียงรายกันอย่างสวยงาม ทะเล มหาสมุทรที่จรดกับผืนฟ้ากันอยู่ในที่ไกลแสนไกล แต่อย่างไรก็ตามการขึ้นไปชมก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและกำลังใจด้วยระยะทาง 500 เมตร ที่มีแค่กองหินกับเชือกที่จะช่วยผมไว้ แล้วการปีนเขาก็เริ่มขึ้น จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:57:58

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : mightykeng เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:01:03

ความคิดเห็นที่ 30 ระหว่างทาง ผมพบกับสองสาวที่น่าจะมาแบ็คแพ็ค ดูจากเสื้อ เมื่อคืนสองคืนก่อนเธอคงไปปาร์ตี้ฟูลมูนที่พะงันมา  เมื่อเราคุยกัน เธอทั้งคู่บอกว่ามาจากจีน ชื่อว่าเซเลน่าและเจน ผมคุยกับเธอแล้วบอกเธอว่าเธอหน้าเหมือนคนไทยมาก เธอก็บอกผมกลับมาว่า เธอนึกว่าผมมาจากใต้หวัน  ระหว่างทางขึ้นไปจุดชมวิวแรกที่ 200 เมตร เธอกับเพื่อนก็สบถออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ประมาณว่า "ชั้นมาทำอะไรที่นี่ฟระ?!?" ผมก็เหนื่อยนะแต่ บอกเธอไปว่า "Once you've started your journet, you can't just quit. You have to finish it! You might never get a chance to come back here, Selena." เธอยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไร แล้วเธอก็เดินต่อไป จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:05:05

ความคิดเห็นที่ 31 เหวอ พิมพ์ผิด เป็น Journey* นะครับข้างบน ขอบคุณครับคุณ mightykeng และคุณ เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน ______________________________________________________ เมื่อถึงจุดชมวิวที่สองร้อยเมตร พวกเราก็หยุดพักกัน ผมตั้งใจกับตัวเองไว้ว่าจะไม่แตะขวดน้ำในกระเป๋าเป็นอันขาด จนกว่าจะถึงจุดสูงสุด นอกจากภาพวิวสวยๆ แล้ว ผมอยากให้น้ำดื่มตัวเองเป็นรางวัล ลองดูว่าเราจะทนไหวไหม? วิวจากมุมนี้ก็สวยพอตัว และเหมือนว่าสองสาวจะขอพักต่อ แต่ผมกำลังเครื่องร้อน จึงขอมุ่งหน้าต่อไปเลยครับ! จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:09:09

ความคิดเห็นที่ 32 ระหว่างทาง ผมก็พบกับหินรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด อาจจะเป็นประติมากรรมจากธรรมชาติบนเกาะหินปูนเกาะนี้ ที่ใครสักคนบันดาลให้เป็นอย่างนี้เสียล่ะมั้ง จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:11:21

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์จ้า ขอบคุณมากนะคะ  ^^ จากคุณ : เดะดาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:16:45

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ช้าไม่นาน ผมก็มาถึง 50 เมตรสุดท้าย ผมปาดเหงื่อที่ไหลเข้าตาอยู่ใต้แว่น พร้อมๆ กับถอดเอาแว่นออกมาเช็ด ผมตะลึงกับระยะทางที่เหลือ เพียงแค่ 50 เมตร แต่มันเต็มไปด้วยหินปูนที่ร้อนและแหลมคมเป็นอย่างมาก ด้านบนมีจุดชมวิวขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่ใหญ่นักอยู่ ผมซึ้งแล้ว กับคำที่ว่า "ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล" ผมค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ ตามฝรั่งข้างหน้าไป ซักพักผมได้ยินฝรั่งข้างหน้าร้องเสียงดัง ปรากฎว่าเขาโดนหินบาดเข้าได้นิ้วเท้า เลือดอาบเลย ผมจะรอดไปจากตรงนี้ไหม? ผมเริ่มคิดเหมือนเพื่อนร่วมทางชาวจีนคนนั้น "What the hell am I doing here?!?!?" จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:17:58

ความคิดเห็นที่ 35 รูปครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:18:30

ความคิดเห็นที่ 36 ผมก้าวขาก้าวสุดท้าย และยกตัวเองขึ้นไปบนจุดชมวิวที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้อย่างดีและมั่นคงแข็งแรง ทันใดนั้นเอง ลมก็ปะทะเข้ากับผมอกีครั้ง แต่ครั้งนี้ ความรู้สึกผมกลับหยุดชะงัก นิ่ง อยู่กับสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า คำด่า คำสบถถึงความเหนื่อยยากที่จะขึ้นมาถึงที่นี่ได้หายไป เหลือเพียงแต่ความสงบ เหลือเพียงแค่ผม ทะเล แสงแดด ลม และที่นี่... "หมู่เกาะอ่างทอง" จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:22:50

ความคิดเห็นที่ 37 ตามมาชม วิว ณ.หมู่เกาะอ่างทอง เกาะวัวตาหลับ (ผาจันทร์จรัส) จากคุณ : pinwin (pinwin) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:27:39

ความคิดเห็นที่ 38 ตาม จขกท. มาติด ๆ เลยค่ะ จากคุณ : ผ้าไหมสีมุก เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:29:24

ความคิดเห็นที่ 39 ผมนั่งอยู่บนนั้นจนกระทั่งพวกวันเดย์ทริปกลับลงกันไปกันหมด เหลือเพียงผมกับคู่สามีภรรยาชาวสวิส+เยอรมันสามคน ในตอนแรก ผมกับพวกเขาไม่ได้ปริปากพูดอะไร แต่หลังจากที่ผมขอให้หญิงชาวเยอรมันคนนั้นถ่ายรูปให้ การสนทนาของคนต่างชาติ ต่างภาษา ก็เกิดขึ้น เรานั่งคุยกันอยู่ราวๆ ช่วงโมงได้โดยที่ไม่รู้จักชื่อกันเลย ผมทราบเพียงแต่ว่าพวกเขามาจากสวิสเซอร์แลนด์ และหญิงคนนี้ทำงานเป็นครูโรงเรียนประถม เธอเล่าว่าเธอเป็นคนรักธรรมชาติมาก เธอเคยไปเดินป่ามาใน South East Asia มาหลายแห่งแล้ว ทั้งในไทย บาหลี มาเลเซีย อินโดเนีเซีย แต่เธอกลับรักธรรมชาติของไทยมากที่สุด นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าเธอขึ้นมาบนจุดชมวิวนี้เป้นครั้งที่ 4 แล้ว พวกเขามาเมืองไทยหลายรอบมาก พยายามจะมาพักค้างคืนที่เกาะนี้ แต่ก็ไม่มีห้องว่างเลย และครั้งนี้โชคดีได้พัก ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผมทึ่งคือ เธอได้กล่าวถึงการรักษาธรรมชาติของไทยว่าไม่มีประสิทธิภาพ พวกเขามาเที่ยวเมืองไทยเพราะรักในสิ่งที่เรามีอยู่ เธออยากให้พวกเราตระหนักว่าพวกเรามีสิ่งที่ดีที่สุดขนาดไหนอยู่ และควรจะรักษาไว้อย่างไร เพราะถ้าหากธรรมชาติสวยงามเหล่านี้หายไป ย่อมไม่มีใครชาติไหนมาท่องเที่ยวหรอก ไหนจะเรื่องอื่นๆ ที่เธอพูด เล่นเอาซะผมขนลุกเลย เพราะผมไม่คิดว่าชาวต่างชาติจะรักธรรมชาติบ้านเราได้ขนาดนี้ ผมได้แต่ตอบเธอไปว่า "I wish every Thai could feel and consider things just like a tourtist like you, I 'wish'." จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:32:15

ความคิดเห็นที่ 40 เราคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อย พอย่างเข้าสี่โมงเธอก็เริ่มผิวแดง สามีเธอและเธอจึงชวนผมลงไปข้างล่าง ผมตอบตกลง ผมต้องยอมรับแล้วล่ะมั้ง ว่าการเดินลง (ปีนลง)ทางลงนั้น ทำให้ผมขาสั่นอยู่เสมอ! จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:35:43

ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อผมลงมาถึง ตัวผมก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เสื้อที่ใส่อยู่ไม่ต่างจากการที่ผมเอาน้ำราดตัวเอง ผมจึงขอตัวคู่รักคู่นั้นไปห้องผม แล้วเปลี่ยนชุด ออกมาเล่นน้ำทะเลดีกว่า! หากถามว่าน้ำทะเลใสไหม? ทรายนุ่มหรือเปล่า? สกปรกไหม? คุณลองตอบคำถามตัวเองจากภาพนี้ดีกว่าครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:38:15

ความคิดเห็นที่ 42 กว่าผมจะกลับลงมา ทัวร์ต่างๆ ก็ทยอยพากันกลับไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่แขกที่ต้องการจะพักค้างคืนอย่างผม, สามีภรรยาคู่นั้น และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในขณะที่ผมกำลังดำผุดดำว่ายอยู่คนเดียวนั้น ผมก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้หญิงสองคนที่เลิกงานแล้ว กำลังพายเรือคายัคเล่นมาทางผม "ไปพายเรือเล่นกับพวกพี่ไหมคะ?" พวกพี่ๆ ตะโกนชวนผม "เอ่อ โอเค ครับ" ผมตอบ พวกพี่ๆ พากันพายเข้าหาดแล้วเรียกผมขึ้นไปนั่ง เอาแล้วล่ะ ผมได้ทัวร์ไกด์ที่เจ๋งมาแล้ว! "เดี๋ยวพี่จะพาน้องไปพายๆ ดูรอบเกาะดีไหม" เธอถามอย่างอารมณ์ดี "โอเคเลยครับ ยังไงก็ได้ครับ ผมพายเป็นอยู่" พวกพี่พาผมล่องไปรอบๆ "เกาะผี" แล้วอธิบายให้ฟังว่า สมัยก่อนนั้น บริเวณหมู่เกาะนี้ไม่มีในแผนที่ เพราะเป็นของกองทัพเรือฯ (มีคนที่เคยอยู่เกาะนี้ตอนนั้นแล้วพอเกษียณแกกลับมาเที่ยวแกเล่าให้ฟัง)และที่ได้ชื่อว่าเกาะผีนั้น เพราะเชื่อว่าแต่เดิมในสมัยสงครามใช้เป็นที่ฝังศพ แต่ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บขยะครับ นอกจากนั้นพวกพี่ๆ ยังบอกอีกว่า มีเพื่อนเจ้าหน้าที่เอาหมูมาเลี้ยงไว้บนเกาะผีอีกด้วย พอเข้าหน้ามรสุมก็มีอาหารกินกันแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ แต่ที่เศร้าที่สุดคือ ผมลืมหยิบกล้องไป ทั้งกล้องมอืถือแล้วก็กล้องถ่ายรูป!!! คิดแล้วอยากจะร้องไห้ เพราะชั้นหินของแต่ละเกาะสวยมากๆ ครับ ประกอบกับแสงตอนเย็นๆ ยิ่งสวย :(((( จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:47:28

ความคิดเห็นที่ 43 เราพายเรือกันอยู่ราวๆ ชั่วโมงครึ่ง - สองชั่วโมงได้ พวกพี่ๆ พาไปดูอะไรที่น่าสนใจเยอะครับ อย่างเช่นในช่วงมรสุมพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็จะเก็บหอยที่ขึ้นอยู่ตามโขดหินไว้กินกัน พวกพี่เค้าก็พาผมไปดูหอยตามโขดหินรอบๆ เกาะผี ด้านหลังเกาะก็จะมีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่พวกเจ้าหน้าที่สามารถไปซื้อปู ซื้ออะไรมากินกันได้ช่วงหน้ามรสุม แล้วก็ยังพาไปดูจุดที่พอจะมีปะการังครับ เนื่องจากหมู่เกาะอ่างทองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากชายฝั่งมาก ทำให้มีตะกอนจากแม่น้ำตาปีที่ไหลลงทะเลพัดมาสู่เกาะ จึงทำให้ปะการังมีไม่มาก ที่พอจะมีก็คือปะการังหัวสมองครับ แล้วนอกจากนั้นยังส่งผลต่อสีของน้ำทะเลที่จะไม่ใสมากๆ เท่าไหร่ครับ จริงๆ แล้วเท่าที่เป็นอยู่ก็โอเคแล้วล่ะ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:53:24

ความคิดเห็นที่ 44 ผมกล่าวขอบคุณพวกพี่ๆ แล้วขึ้นไปอาบน้ำครับ หลังจากนั้นก็มาทานอาหารเย็นที่ร้านสวัสดิการบนเกาะ ต้องทำใจครับกับราคา ย่อมเเพงเป็นธรรมดาเพราะต้องนำของเข้ามาจากสมุยครับ และเกาะนี้ก็ไม่ทุรกันดารนะครับ พวกพี่ๆ เขามี True Vision ดูด้วยนะเออ! จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:55:36

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากทานข้าวเย็นแล้วผมก็พูดคุยกับพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่ต่อ บางเรื่องที่สงสัยคาใจมาตลอดอย่าง พวกพี่ยังอยู่เกาะเวลาปิดเกาะไหม?  พวกพี่ไปสร้างจุดชมวิวที่สูงขนาดนั้นได้อย่างไร? ฯลฯ คำตอบทั้งหมดพวกพี่ๆ ไม่บ่ายเบี่ยงตอบเลยครับ กลับให้ความรู้เพิ่มด้วยซ้ำ  หลังจากนั้นผมก็เข้าไปที่พักครับ เอนตัวลงบนที่นอนบนเกาะสวรรค์นี้ จบไปแล้วกับอีกวัน ที่ไม่ใช่เพียงแค่ "อีกวัน" จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:59:44

ความคิดเห็นที่ 46 เช้าวันใหม่ผมเปิดตาตื่นมาตอนตีห้าครึ่งด้วยความรู้สึกสดชื่น ไม่เหมือนกับตอนที่ต้องตื่นไปเรียนอย่างนั้นเลย เพื่ออะไรหรอครับ? เพื่อภาพนี้ไงล่ะครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:00:57

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาเที่ยวด้วยคน ติดตามตั้งแต่ทริปเกาะพะงันแล้วครับ จากคุณ : tada_online เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:01:02

ความคิดเห็นที่ 48 เราย่อมรู้ดีว่าพระอาทิตย์ส่งผลให้ร้อน บางทีมันก็ร้อนมากจนเกินไป จนทำให้บางคนเกลียด แต่มุมที่ดีของมันก็มีไม่ใช่หรือ? แสงสีทองของพระอาทิตย์สาดเข้าที่ชายหาดและผืนทะเลอันเงียบสงบ ผมนั่งคิดอะไรไปเรือยเปื่อย ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ จะเป็นชา กาแฟ หรือยาอะไร ก็ไม่มีทางทำให้ผมตื่นได้ดีเท่ากับภาพตรงหน้าผมนี้หรอกครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:04:47

ความคิดเห็นที่ 49 เล่าเรื่องน่าติดตามมากเลยค่ะ จากคุณ : หัวใจห้องบนขวา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:08:03

ความคิดเห็นที่ 50 ชีวิตมนุษย์ อาจไม่ต่างจากเรือหัวโทงลำนี้มากนักหรอก เราแล่นไปในทะเลที่เราอาจไม่รู้จัก อาจได้เจอกับเรือหัวโทงลำอื่น อาจพบเจอกับพายุกระหน่ำซัดใส่ บางลำก็แตกไป จมลงสู่ใต้พื้นมหาสมุทร บางลำก็ยังคงอยู่ อยู่จนถึงชายฝั่ง, ชายฝั่งที่คงเป็นเหมือนความหวังของเขา ท่ามกลางความอ้างว้างกลางผืนน้ำในตอนแรก จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:09:24

ความคิดเห็นที่ 51 นอกเหนือจากจุดชมวิวผาจันทร์จรัสที่ผมไปมาเมื่อวันก่อนแล้ว เกาะวัวตาหลับยังมี "ถ้ำบัวโบก" ที่มีหินงอกหินย้อย อันมักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติของเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูนอยู่แล้วให้ไปสำรวจ ด้วยความที่ว่า คิดว่าทางไม่น่าจะหนักหน้าสาหัสเท่าเมื่อวานหรอก ผม, ในชุดนอน, เลยเดินขึ้นไป เฮ้ย! นี้มันเหมือนทางเมื่อวานเลยนี่หว่า แต่งมาผิดชุดซะแล้วเรา จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:13:45

ความคิดเห็นที่ 52 ผมเลยหยุดอยู่แค่ที่จุดชมวิวแรกเท่านั้นแล้วกลับลงมา แต่แค่นี้ก็คงคุ้มค่าแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ตาม ครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายหรอกที่ผมจะกลับมาที่นี่ อย่างน้อย ผมก็สัญญาพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่ไว้แล้วล่ะ ว่าจะกลับมา พร้อมๆ กับพวกเพื่อนๆ ผมนึกในใจว่าเลือกที่หมายไม่ผิดจริงๆ, ไม่ผิดจริงๆ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:16:10

ความคิดเห็นที่ 53 ผมกลับลงมาทานอาหารด้วยความหิวอย่างมากกกกกก ระหว่างทางเดินไปฝูงค่างแว่นก็อุ้มลูก จูงหลานวิ่งกันไปมา แม้กระทั่งหน้าห้องพักผมก็ตาม ค่างแว่น/ลิงที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่นที่ผมเคยเห็น ผมสามารถวางกล้องไว้ได้โดยที่มันไม่มาหยิบไป หรือมาขโมยกับข้าวของผมเลย ค่างแว่นเชื่องมากๆ สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่พบบ่อยๆ ที่นี่คือนกที่มีลักษณะคล้ายๆ นกเงือกครับ แต่ตัวเล็กกว่าและหงอนเล็กกว่า สีดำ ผมจำชื่อไม่ได้ มันสวยและส่งเสียงเพราะมากๆ ครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:20:31

ความคิดเห็นที่ 54 ระหว่างที่ผมกำลังกินข้าวอยู่นั้น พี่เจ้าหน้าที่ผู้ชายอารมณ์ดีคนหนึ่งก็เดินออกมาบอกว่า เมื่อคืนพึ่งตกหมึกมาได้เยอะ กำลงัจะทำปลาหมึกต้มตะไคร้ น้องเอาแบ่งไปทานไหม พี่ให้ ผมยังไม่ทันอ้าปากตอบอะไร พี่เขาก็หายเข้าไปในครัวราวสิบห้านาที กลับออกมาอีกทีพร้อมปลาหมึกต้มตะไคร้สุดอร่อย ปลาหมึกยังสดๆ อยู่เลยครับนั่น ยิ่งย้ำผมหนักเข้าไปใหญ่ว่า คนใต้ใจกว้างครับ กว่าเรือจะมารับก็บ่ายสามโมงเย็น ผมจึงใช้เวลาช่วงบ่ายนั่งอ่านหนังสือใต้ต้นหูกวางอย่างใจเย็นครับ ผมหิวก็สั่งกับข้าวมานั่งกินตรงนี้เลย บรรยากาศอย่างนี้คงหาไม่ได้ง่ายๆ อีกแล้ว จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:24:46

ความคิดเห็นที่ 55 และแล้วความเป็นจริงก็มาถึง ราวๆ บ่ายสองโมงครึ่ง พี่อิ๋ว ไกด์สาวชาวสมุยโดยกำเนิดของเรือทัวร์ที่ผมมาเมื่อวานก็เข้ามานั่งกินข้าวในร้านที่ผมกำลังนั่งอยู่ พร้อมๆ กับแหล่งใต้คุยกับเจ้าหน้าที่อย่างออกรส พี่อิ่วก็ถามผมว่าจะกลับกับพี่หรือกับไกด์อีกคน เพราะว่าวันนี้มีเรือมาสองลำ ผมเห็นพี่เค้าอารมณ์ดี น่าคุยสนุกดี ก็เลยกลับกลับพี่อิ๋วนี่แหละครับ ถึงเวลาแล้วสินะที่ผมต้องกลับแล้ว ให้ตายเถอะ อยากอยู่ที่นี่ต่อจริงๆ เลย :( จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:28:13

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพยนตร์ SuckSeed ที่กำลังฉายอยู่ในจอของร้านสวัสดิการยังไม่ทันถึงครึ่งเรื่องดี ผมก็เดินไปสวัสดีพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อลากลับแล้ว รอยยิ้มและที่พี่ๆ โบกมือลา มันยังติดอยู่ในหัว นอกจากพะงันแล้ว ที่นี่ก็คงเป็นอีก 1 ที่หมายที่ผมไม่ลืมจะกลับมาอีกครั้งเป็นแน่ ผมแค่ภาวนาขอให้พวกพี่เค้ายังทำงานอยู่เหมือนเดิมหากผมกลับมาอีกที "ถ้ากลับมาอีกแล้วพี่จำไม่ได้เพราะแขกเยอะ อย่าลืมทักพี่นะคะ" ผมยิ้มให้พี่เจ้าหน้าที่แล้วเดินออกมากับไกด์สาว-พี่อิ๋ว จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:31:55

ความคิดเห็นที่ 57 สุดยอดทั้งภาพและคำบรรยาย ขอบคุณครับที่พาเที่ยวหมู่เกาะสวรรค์แห่งนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:37:11

ความคิดเห็นที่ 58 บนเรือรอบนี้พี่เจ้าหน้าที่อุทยานที่อยู่ที่ร้านขายของที่ระลึกติดเรือมาด้วย ทราบว่าพี่เขาจะไปหาหมอบนสมุย ผมจึงนั่งอยู่กับพวกพี่ๆ เขา ทั้งพี่ จนท อุทยานฯ และไกด์พี่อิ๋ว จากที่ได้พูดคุย พวกพี่ๆ ทั้งหมดแทบจะเคยทำงานอยู่กรุงเทพฯ แล้วเบื่อความวุ่นวาย เบื่อสังคมที่นั่น จึงปลีกตัวออกมาทำงานเช่นนี้ เมื่อพูดถึงสมุย พี่อิ๋วก็ออกตัวว่าพี่เขาเองเป็นคนที่เติบโตมาจากสมุยตั้งแต่เด็ก แล้วไปเรียนต่อที่กรุงเทพ เรียนภาษาเยอรมันเพิ่มที่เกอเธ่จนพูดคล่องปรื๋อจนผมทึ่ง (พี่ จนท อุทยานคนหนึ่งพูด ไทย อังกฤษ จีนกลางได้ด้วย!)แต่อยากกลับมาทำงานที่บ้านเกิดมากกว่า จึงมาทำทัวร์ ทำมาเป็นปีที่ 15 ได้แล้ว ถึงว่าทำไมพี่พูดคล่องขนาดนั้น เพราะภาษาอังกฤษของไกด์ท้องถิ่นแต่ละที่ที่ผมไปมาก็ฟังแล้วสายหัวอยู่หลายที่ แต่ที่นี่ไม่ใช่เลย ในขณะเดียวกัน พี่ จนทฯ ก็หยิบเบียร์จากถึงแช่ให้ผมกระป๋องหนึ่งฟรี ผมรับไว้ด้วยความตื้นตันใจ ผมขอบคุณ และยิ้มให้พวกพี่ๆ เขา ความมีน้ำใจของคนไทยยังไม่หมดไป จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:39:23

ความคิดเห็นที่ 59 สวยมากเลยครับ ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:39:40

ความคิดเห็นที่ 60 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ ถ่ายภาพได้สวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : พลุไฟ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:40:42

ความคิดเห็นที่ 61 ผมได้คุยถึงความเป็นไปของสมุยในปัจจุบันจากพี่อิ๋ว (ภาพบน คนด้านขวามือ) ว่า ณ ปัจจุบันกับสมัยก่อนเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้สายตาที่แท้จริงภายใต้แว่นกันแดดคู่นั้นจะไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากด้านนอก แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าพี่อิ๋วรู้สึกหดหู่กับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและน่าใจหาย ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ เพราะยังไม่เคยไปเห็นสมุยที่ "เปลี่ยนแปลงไป" ด้วยตาของตัวเอง แต่ในสายตาและมุมมองของคนที่มีบ้านเกิดบนนั้น ผมไม่กล้าคิดเลย ว่าถ้าหากบ้านเกิดของผมกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยฝรั่งเสียส่วนใหญ่ มันจะไม่น่าพิศมัยขนาดไหน พี่อิ๋วกล่าวว่าสมัยก่อนถ้าใครบ้านไหนไปตกปลามาได้ 15 ตัว บ้านนั้นก็จะแบ่งกับเพื่อนบ้านอย่างน้อยก็บ้านละสามตัวประมาณนั้น บ้านที่ได้รับส่วนแบ่งก็เอากับข้าว อาหารที่ตัวเองทำไว้มาแบ่ง มาแลกเปลี่ยนกันกิน "แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะครับ?" ผมถามต่อ พี่อิ๋วไม่ตอบอะไร ขยับแว่นตา แล้วบอกผมว่า "มันหายไปเกือบหมดแล้วล่ะน้องเอ้ย" จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:46:33

ความคิดเห็นที่ 62 ผมมาถึงสมุย พี่อิ๋วก็ชวนผมไปร้านอาหารของเพื่อนพี่เขาแถวๆ ร.พ. บ้านดอนอินเตอร์ฯ ผมก็ตั้งใจจะไป แต่เนื่องจากไม่มีรถ และที่พักผมอยู่ตอนบนๆ ของเฉวงซึ่งไกลเกินไป จึงพลาดโอกาสนี้ไปครับ มิฉะนั้นผมอาจจะได้ฟังเรื่องอะไรอีกเยอะของดินแดนแห่งนี้ที่ทั้งหัวดำหัวทองต่างฝันจะมาเหยียบกัน ผมลาพี่อิ๋วแล้วไปขึ้นรถตู้ที่ทางทัวร์บริการให้ไปยัง "มัดหลัง รีสอร์ท" ครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:51:28

ความคิดเห็นที่ 63 ผมคงไม่ได้บรรยายอะไรเกี่ยวกับที่พักมาก เพราะอยู่ไม่นานเท่าไหร่ เมื่อถึงที่พัก ผทก็วางของแล้วจัดแจงเดินไปยัง "เฉวง" เพื่อดูว่าบริเวณหาดที่สวยที่สุดของสมุย จะเป็นอย่างไร เมื่อผมย่างเท้าเดินออกจากที่พัก สองข้างท้างก็รายล้อมไปด้วยคลับ บาร์ ร้านอาหาร ร้านขายแว่นตากันแดดปลอม ร้านตัดสูท รถแท็กซี่วิ่งกันขวักไขว่ เหล่าสาวประเภทสองของคาบาเร่ต์โชว์ต่างออกเดินเรียกลูกค้า ไม่มีใครบนถนนพูดภาษาไทย แม้แต่กับผม ผมกลับไปอยู่ข้าวสารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:54:32

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่มีทางลงหาดสาธารณะจากบริเวณนี้เลย หากคุณไม่ได้พักบริเวณโรงแรมริมหาดแล้วล่ะก็ คงจะต้องหาทางลงหาดซึ่งอยู่ลึกลับซับซ้อนมากเองแล้วล่ะ ผมคิดถึงเกาะวัวตาหลับตะหงิดๆ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:56:49

ความคิดเห็นที่ 65 หลังจากเดินสำรวจบริเวณเฉวงเสร็จผมก็หาอาหารเย็นมารับประทาน จากนั้นผมก็กลับเข้าที่พัก เข้านอนเพื่อรีบออกไปซื้อตั๋วรถทัวร์กลับ กทม พรุ่งนี้ครับ วันรุ่งขึ้นผมทานอาหารเช้าแล้วก็เช็คเอ้าท์ ระหว่างทางไปยังที่ซื้อตั๋วรถทัวร์เจอเพื่อนครับ ยิ้มใหญ่เลย จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:00:29

ความคิดเห็นที่ 66 บ้านไม้ทรงเก่าๆ ในถนนเฉวงสายในยังพอพบเห็นอยู่ ดังเช่นภาพนี้ครับ ระหว่างถ่ายรุปและเดินผ่าน ผมยิ้มให้พี่เจ้าของบ้าน, พี่เจ้าของบ้านยิ้มกลับให้ผม เพียงแค่นี้เขาจะรู้ไหมหนอ ว่าผมเป็น "คนไทย" จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:01:57

ความคิดเห็นที่ 67 ผมนั่งรอเวลาที่จะขึ้นเรือจนกระทั่งตกเวลาสี่โมงเย็น เรือซีทรานเฟอร์รี่ใบพัดก็หมุน น้ำมันและเครื่องยนต์ก็เดินหน้าครับ เมฆกลางทะเลกลับหลีกทางให้ฟ้า, นางเอกตัวจริง, แสดงบทบาท ฟ้าใสไม่มีสิ่งใดเจือปน แต่บนฝั่งกลับมีแต่เมฆทะมึน มองไปมีฝนตก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่ๆ ผมกำลังอยู่ตอนนี้ เมฆดำเหล่านั้นก็คงไม่ต่างจากความจริง ความวุ่นวาย ที่ผมกำลังจะต้องกลับไปเผชิญหลังจากหนีมายังที่แห่งนี้ชั่วคราว จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:06:21

ความคิดเห็นที่ 68 "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้" คือสโลแกนคำพูดขององค์กรๆ หนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ผมว่ามันจริงนะ มันยังจริงอยู่ในปัจจุบัน จนถึงอนาคตรก็ตาม บางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเรามี "ทะเลใน" ที่ยังบริสุทธิ์ . . . ..หลบซ่อนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของเวิ้งอ่าวไทยของเรานี้ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:09:31

ความคิดเห็นที่ 69 ขอจบการเล่าบันทึกการเดินทางเล้กๆ ของผมแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกันมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนที่สองครับ หากต้องการคอมเม้นท์ ติชมสิ่งใด เชิญเลยครับ จะน้อมรับไว้ปรับปรุงในครั้งหนาครับ :)) ขอบคุณครับ ปล. อาจมีพิมพ์ผิดบ้างนะครับ ไม่อยากแก้เพราะเคยลองแก้แล้วเดี้ยงทั้งคอมเม้นท์เลย ขอโทษทีนะครับ :( จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:11:39

ความคิดเห็นที่ 70 @คุณ เดะดาม: สูดเข้าไปให้เต็มปอดเลยครับ :) @คุณ pinwin (pinwin): ตามสบายเลยคร้าบบบ @คุณ ผ้าไหมสีมุก: มีคนตามหลังเรามาด้วย ฮ่าๆๆ ขอบคุณครับๆ @คุณ tada_online: ขอบคุณมากๆ ครับที่ติดตามผลงานแรกด้วย @คุณ หัวใจห้องบนขวา: ดีใจที่ชอบสำนวนการเล่าของผมครับ @คุณ splendour: คิดนานอยู่เหมือนกันครับกว่าจะได้แบบนี้ 5555+ ขอบคุณครับ @คุณ แมลงภู่บนหูกระต่าย: ขอบคุณสำหรับคำชมคร้าบบบ @คุณ พลุไฟ: ยินดีครับ จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:16:38

ความคิดเห็นที่ 71 อยากไปด้วยจังเลยครับคุณ pepe อิจฉาจังครับ อยากไป แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 15:25:14 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 15:24:35 จากคุณ : McMurphy เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:24:10

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆครับ เปเป้ จากคุณ : Moikopak เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 16:10:21

ความคิดเห็นที่ 73 ทะเลสวยๆแบบนี้เห็นแล้วสดชื่นครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 17:50:30

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 18:16:37

ความคิดเห็นที่ 75 ทะเลสวยจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : @มะตูม@ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:32:11

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีนะคะ ไว้มีโอกาสจะไปตามรอย :)) จากคุณ : Soleindee เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:59:51

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะคะ เห็นแล้วน่าไปเที่ยวจังเลย ^^ จากคุณ : ลูกหมูพาชิม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 20:09:44

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยสวย และการบอกเล่าที่น่าประทับใจค่ะ จากคุณ : Ar-PoTae เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 22:08:02

ความคิดเห็นที่ 79 great photos please be my guide some day 5555555 จากคุณ : lesbo (prdpht) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 22:40:36

ความคิดเห็นที่ 80 . . .   แวะมาสวัสดีรุ่นน้องที่เตรียมฯ และรุ่นน้องคณะเก่าด้วยครับ ^^ จากคุณ : เฮ่ย!นึกว่าใคร เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 23:00:56

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ถ่ายภาพสวย เล่าเรื่องน่าติดตามค่ะ สักวัน จะไปพักค้างคืนที่เกาะวัวตาหลับบ้างนะคะ จากคุณ : คอปเตอร์ไม้ไผ่12 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 00:46:18

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ จากคุณ : Us-Sama Iland เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:29:58

ความคิดเห็นที่ 83 นอกจากภาพสวยๆ ชวนติดตามแล้ว เรื่องราวที่เล่ามาก็น่าติดตามไม่แพ้กัน มีอย่างนึงที่เพิ่งรู้ .. ว่าจุดชมวิวต้องปีนป่ายขนาดนี้ !! ถ้าจะไป สงสัยต้องฟิตกล้ามเนื้อขา+แขนก่อนล่ะ ^^ จากคุณ : Amecchi เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:31:32

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ^____________________^ จากคุณ : natnapatja เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:21:53

ความคิดเห็นที่ 85 จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:33:37

ความคิดเห็นที่ 86 ภาพ และคำบรรยายสละสลวย จังค่ะ ชื่นชมๆ จากคุณ : ดาวน้อยใต้พระจันทร์ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:46:36

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านเพลินเลยครับ เขียนรีวิวได้ดีมากๆ ตัวผมเองยังไม่เคยไปเหยียบเกาะสมุยเลย ค่าเครื่องมันแพงอะครับไว้มีโอกาสจะไป แต่ว่าคงไปอ่างทองตามรอย จขกท ดีกว่า จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:28:02

ความคิดเห็นที่ 88 ชอบรีวิวนี้มากๆเลยค่ะ สวยตั้งแต่ภาพจนถึงภาษาที่ใช้เขียนเลย เหมือนอ่านพ็อคเกตบุ๊คเล่มเล็กๆเล่มนึงเลย ^ ^ ต้นปีหน้าจะไปเที่ยวบ้างเหมือนกัน ตื่นเต้นๆ จากคุณ : ps.I miss เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 13:14:42

ความคิดเห็นที่ 89 ยู้ฮู...........ป้าอ้วนน้อยฯ มาแว้วววววววววว     ชอบหมู่เกาะอ่างทองมาก ๆ เลย   ป้าอ้วนน้อยฯ เคยปีนขึ้นไป 3 ครั้ง   แต่ตอนนี้ อายุไม่ไหวแล้ว  แค่ขึ้นไปตรงกลางทาง    ก็ปลอบใจตัวเองว่า  พอแล้ว   สวยแล้ว  ไม่ต้องเดินแล้ววววววว  นั่งตรงนี้แหล่ะ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 13:26:58

ความคิดเห็นที่ 90 คุณ McMurphy - ขาประจำ  คุณ Moikopak - ขอบคุณมากครับ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า 5555555 ? คุณ Destiny-Boy - คุณสดชื่นผมก็ดีใจครับ คุณ tonhok - ยินดีครับ  คุณ @มะตูม@ - ขอบคุณมากครับ สำหรับคอมเม้นท์และกิฟท์ครับ คุณ Soleindee - ต้องมาตามรอยให้ได้นะครับ คุณ ลูกหมูพาชิม - ต้องไม่พลาดครับที่นี่! คุณ Ar-PoTae - ยินดีครับ ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังกันใหม่ด้วยสำนวนทำนองนี้ครับ :) คุณ lesbo (prdpht) - my pleasure, my beloved lesbo ;) คุณ เฮ่ย!นึกว่าใคร - สวัสดีครับพี่ :) คุณ คอปเตอร์ไม้ไผ่12 - ลองดูนะครับ มันคุ้มค่ามากกว่าวันเดย์ทริปมากเลยล่ะ คุณ  Us-Sama Iland - ด้วยความยินดีคร้าบบบ คุณ Amecchi - จริงครับ! ขนาดผมพยายามฟิตก่อนไปแล้ว กลับลงมายังปวดอยู่เลย แค่ธรรมดาเดินยังยาก 5555+ คุณ natnapatja - ยินดีคร้าบบบ :)) คุณ boy next door - ขอบคุณครับ คุณ ดาวน้อยใต้พระจันทร์ - จะพยายามรักษาแบบนี้ไว้ในงานต่อไปครับ :) คุณ Coffee Blended - สมุยอะไรๆ ก็แพงจริงๆ ครับ ที่นี่โอเคกว่าเย้อะะะ  คุณ ps.I miss - ถึงขนาดนั้นเลยหรอครับ 55555+ ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ คุณ อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ - ว้าววววว ตั้ง 3 ครั้งเลย นับถือเลยครับ ครั้งเดียวก็เเย่เอาการแล้วนะผมว่า ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นท์และกิฟท์มากๆ นะครับ ครั้งหน้าถ้าผมไปแบกเป้ที่ไหนอีก จะมาเล่าสุ่กันฟังตามแบบฉบับบนี้อีกครับ  ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับมากๆ ครับ :) จากคุณ : Pepe del Srisa-nga เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 19:13:47

ความคิดเห็นที่ 91 เพิ่งเข้ามาอ่าน(แบบช้าหน่อย ไม่ทันคนอื่นเขา) ภาพสวยมาก และเล่่าเรื่องราวหยั่งกับตัวเองเป็นตัวละครในนิยายแหน่ะ 555 ภาษาเลิศดี รู้สึกคนเขียนจะเป็นมิตรจังเลยนะครับ อิๆๆ :P ^^ cool! จากคุณ : persent (persent) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 17:17:15