ความคิดเห็นที่ 1 เเผนการเดินทางในวันนี้คร่าวๆคือ ออกจากLeh 8 โมงเช้า เเล้วเดินทางไป Likir Monastery หลังจากนั้นตรงดิ่งไปLamayuru Monastery ทานอาหารกลางวันที่นั่น เเล้วกลับมาเที่ยวที่ Alchi Monastery หลังจากนั้นจึงกลับมาLeh เป็นอันจบ One Day Trip จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:47:47

ความคิดเห็นที่ 2 เช้าวันที่2ของผมในเมือง Leh ยังคงหลับสบายดี ไม่มีอาการเเพ้ที่สูงอะไร เนื่องด้วยเวลาเที่ยวผมจะตื่นเช้ามากกกก(ผิดกับเวลาทำงาน 555)วันนี้เลยมีเวลาเอ้อระเหยเดินเล่นหาร้านอาหารเช้าเเถวๆที่พัก เเล้วพบว่าที่Leh คนตื่นกันสายเเฮะ ตลาดเช้าดูไม่คึกคัก พลุกพล่าน สู้ไทยไม่ได้ ร้านขายอาหารเช้าก็ไม่ค่อยมี(ที่เกสต์เฮ้าส์ราคาที่พักไม่อาหารเช้าครับ) ผลสุดท้ายเลยกลับมากินเสบียงที่ซื้อเจรียมมาจากไทย ยังดีที่ที่พักมีพ่อบ้านคอยดูเเลตลอด(ชื่อซานโตส)สามารถสั่งชา น้ำร้อน หรือขนมปังปิ้งได้ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:53:20

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาแปะโป้งไว้ก่อนครับ เดี๋ยวกลับมาอ่านตอนเสร็จแล้ว จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:53:24

ความคิดเห็นที่ 4 สวันดีเเขกคนเเรกครับ คุณอาตี๋อินเทอร์เน็ต ปล.ถ้ารออ่านตอนเสร็จคงต้องรออ่านตอนเช้าเลยล่ะครับ เพราะผมรีวิวอืดดดดดมาก กระทู้เเรกรีวิวไปซะวันครึ่ง -_-" สาเหตุที่ผมเลือกเรียงลำดับสถานที่ท่องเที่ยวให้วันที่2เป็น Lamayuru นั้นก็เพราะทางเส้นนี้ ยังไม่มีจุดที่ถนนต้องผ่านยอดเขาเหมือนเส้นที่ไปNubra หรือ Pangong เลยคิดว่าคงจะดีกว่าที่จะวางไว้วันเเรกๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องปรับสภาพรับกับความสูงหนักจนเกินไป จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:57:39

ความคิดเห็นที่ 5 ระยะทางจาก Leh ไปยังLikir Monastery ช่วงเเรกๆนั้นเป็นถนนราบ ยาววววววววสุดตา ทั้งสองข้างทางมีเเต่หิน ไม่มีต้นไม้สักต้นเลย ห่างจากตัวเมืองราวๆ15 กม ก็จะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยของเมือง Leh ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา นศ คนไหนจะโดดเรียนคงต้องคิดหนักกับการลุยลานหินอันนี้เพื่อเข้าตัวเมือง จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:00:41

ความคิดเห็นที่ 6 วันนี้ฟ้าใสมากๆ เเม้จะมีเมฆเยอะไปหน่อย เเต่ก็สวยไปอีกเเบบ เเต่อากาศที่Leh ไว้ใจไม่ได้ เเปรปรวนสุดๆ ฟ้าใสอยู่ดีๆอีก10นาทีอาจจะกลายเป็นฝน เเล้วอีก10นาทีถัดมากลายเป็นฟ้าใสเหมือนเดิม จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:02:51

ความคิดเห็นที่ 7 ตามไปเที่ยวเลห์ต่อค่ะ คิดถึงจริงๆ จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:03:56

ความคิดเห็นที่ 8 ออกจาก Lehมาไม่เท่าไรก็จะเจอหมู่บ้านSpituk ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ข้างทางจะมีชาวบ้านเอาผลไม้มาวางขายกัน โดยเค้าจะเอาใส่กระป๋อง เเล้ววางขายกับพื้นริมถนนเลย จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:05:47

ความคิดเห็นที่ 9 เลยจากหมู่บ้านมาได้หน่อยก็เริ่มขึ้นเนิน เมื่อมองลงมาก็อึ้งกับวิวสวยๆ ผมกับเพื่อกรี๊ดกร๊าด ถ่ายรูปกันใหญ่ ลุงGoss(คนขับรถตลอดทริปของผมครับ เป็นพี่เขยของซาลิ้ม เจ้าของGuesthouse)เลยจอด ให้ลงไปถ่ายรูปให้หนำใจ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:13:37

ความคิดเห็นที่ 10 คุณนางมารชุดส้ม ครับ ผมก็คิดถึงเหมือนกัน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ Nubra Valley อยากกลับไปมากกก พูดถึงคนขับรถ ตอนที่ผมตกลงกับซาลิ้ม ตอนเเรกผมจะให้ซาลิ้มติดต่อคนขับรถอีกคนให้ เพราะอ่านรีวิวจาก Trekkingthai มีคนเเนะนำคนขับรถใน Leh ไว้ เเต่ซาลิ้มบอกว่า ลองใช้บริการพี่เขยเค้าก่อนไหม(ไม่อ้อมค้อม ตรงไป ตรงมาดี ชอบ!) ผมเลยบอกไปว่าผมมาเที่ยวเเบบสบายๆ เเลพวกผมป๊อด กลัวการขับรถเร็ว เเละชอบหยุดถ่ายรูป ถ้าพี่เขยคุณรับนักท่องเที่ยวเเบบนี้ได้ ผมก็OK ซึ่งซาลิ้มก็บอกว่าได้อยู่เเล้ว พี่เขยเค้าเคยรับคนไทยมาก่อน....ซึ่ง พี่เขยซาลิ้มก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เเกขับรถดีจริงๆ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:18:38

ความคิดเห็นที่ 11 ลุงGoss ขับรถมาได้พักใหญ่ๆก็ดับเครื่องยนต์ เเล้วบอกให้เราดูMagnetic Hill คือรถไหลขึ้นเนิน(อืม นึกว่ามีเเค่ที่เพชรบูรณ์ ที่Leh เค้าก็มีเเฮะ) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:21:00

ความคิดเห็นที่ 12 เลย Magnetic Hill มาหน่อยก็จะเห็นโตรกเเม่น้ำสินธุ ลุงรู้ใจ เลยจอดให้ถ่ายรูปกันอีกครั้ง :) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:23:46

ความคิดเห็นที่ 13 เลยจากโตรกเเม่น้ำสุนธุไปไม่เท่าไรก็จะเจอจุดชมวิวที่เเม่น้ำสินธุเเละเเม่น้ำซันสการ์มาบรรจบกัน ซึ่งจุดนี้ ถ้ามาในฤดูหนาวจะได้เห็นเเม่น้ำเป็นสีฟ้าเทอควอยซ์ เเต่เนื่องจากผมไปช่วงต้นใบไม้ร่วง น้ำเลยเป็นสีนี้..... จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:27:08

ความคิดเห็นที่ 14 โอ๊ย ลงรูปผิด จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:29:36

ความคิดเห็นที่ 15 ตรงจุดชมวิวที่เเม่น้ำทั้งสองสายมาบรรจบกันนั้น เป็นจุดชมวิวที่เสี่ยงมาก คืออยู่ตรงโค้งริมผา เเถมไม่มีอะไรกั้นเลย ถ้ามีรถคันไหนหลุดโค้งมาชนละก็....จบ!(เเต่หลังจากนั่งรถในLeh บ่อยๆเข้า ชักเริมชินถนนเเบบนี้ เเล้วไม่ค่อยกลัวซะเเล้ว) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:31:47

ความคิดเห็นที่ 16 เลยจุดชมวิวมาไม่ไกลก็จะเจอหมู่บ้านเล็กๆอีกเเห่งชื่อหมู่บ้าน Nimu ถัดจากหมู่บ้าน Nimu ก็จะเป็นที่ตั้งของป้อมBasgo ซึ่งที่นี่เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์นัมเกียล ที่หนีอิทธิพลของมหาราชาโดยย้ายจากShey Palace มาอยู่ที่นี่ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 55 23:05:38 จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:33:18

ความคิดเห็นที่ 17 ป้อมBasgo ได้รับการประกาศว่าเป็น1ใน100มรดกโลกที่เสียงต่อการพังทลาย เนื่องจากความทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 55 23:07:50 จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:35:43

ความคิดเห็นที่ 18 ตัวป้อมจะตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ โดยรอบเป็นพื้นที่ราบเล็กๆสำหรับทำการเกษตร จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:37:06

ความคิดเห็นที่ 19 นั่งรถมาได้สักพักก็คุรลุงก๋เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนเเคบๆที่สองข้างทางมีเเต่หินเเละหญ้าเเห้งๆ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:38:59

ความคิดเห็นที่ 20 เลยจากจุดที่เป็นหญ้าเเห้งๆมาได้2-3 กม ก็กลายเป็นเเบบนี้ อืมมมมม ภูมิประเทศเค้าหลากหลายดีนะ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:40:54

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อข้ามลำธารมาก็จะถึงวัด Likir หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Klu-kkhyil Gompa (วัดกลู-กห์ยิล)ซึ่งเเปลว่าจิตวิญญาณเเห่งสายน้ำ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:46:18

ความคิดเห็นที่ 22 สำหรับวัดนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 20 รูปีครับ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:47:45

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อเดินขึ้นบันไดจากประตูวัดเข้ามา ก็จะเจอลานกว้างหน้าวิหาร โดยรอบลานจะล้อมด้วยกำเเพงเเละระเบียงไม้เเกะสลัก จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:50:50

ความคิดเห็นที่ 24 งามมาก จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:52:39

ความคิดเห็นที่ 25 เเละเเน่นอน โดยรอบระเบียงจะถูกเขียนภาพลงบนผนัง ซึ่งภาพเหล่านี้มีอายุเก่าเเก่เป็นร้อยปี จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:52:40

ความคิดเห็นที่ 26 คุณboy next doorครับ ผมจะบอกว่าของจริงสวยกว่าในภาพเยอะมาก เพราะภาพผมมันไม่สามารถสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของบรรยากาศเมือง Lehได้เลยครับ คนทิเบตนี่เค้าเก่งเรื่องการจับคู่สีจริงๆ ตัดกันโชะเชะ เเต่ดูกลมกลืน จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:55:20

ความคิดเห็นที่ 27 ด้านหนึ่งของลานจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ส่วนอีกด้านเป็นหอสวดมนต์ ผมเข้าไปเเป๊ปเดียวก็ออก เพราะมันอับมาก จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 20:56:41

ความคิดเห็นที่ 28 งดงามเหมือนเดิมครับ อยากไปมากเลย จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:00:55

ความคิดเห็นที่ 29 ระหว่างนั้นปวดฉี เลยขอเข้าห้องน้ำซะหน่อย เมื่อเปิดเข้าไป...............อืมมมมม เป็นห้องน้ำที่back to basicมาก คือเค้าจะเจาะเป็นข่องขนาดประมาณกระดาษA4 พื้นห้องน้ำจะเป็นดิน ใครอยากปลอดปล่อยอะไรก้ปล่อยลงหลุมนี้ ซึ่งห้องน้ำนี้อยู่สูงจากพื้นดินราวตึก3ชั้น ระหว่างใช้งานจะได้ยินเสียงการตกกระทบดังขึ้นมา...เยี่ยม! จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:01:07

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ MRBIG173 มันงามจริงๆครับ สวยเเบบpureมากๆ ไม่มีการประดิษฐ์ สะเทือนใจจากห้องน้ำเเล้วขอเดินไปชมมุมอื่นของวัดดีกว่า จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:02:36

ความคิดเห็นที่ 31 จากวัดมองออกไปจะเห็นวิวเเบบนี้ สมเเล้วที่เค้าว่าธรรมชาติมันยิ่งใหญ่ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:03:55

ความคิดเห็นที่ 32 ด้านล่างของวัด จะมีชุมชนเล็กๆอยู่ด้วย ดูน่ารัก น่าอยู่ทีเดียวใครอยากมาปลีกวิเวก สามารถมาพักที่หมู่บ้านนี้ได้นะครับ เห็นมีเกสต์เฮ้าส์อยู่ด้วย จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:05:52

ความคิดเห็นที่ 33 จุดเด่นอีกอย่างของวัดLikir ก็คือพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรยสูง 25 เมตรประทับอยู่กลางเเจ้ง เคียงคู่อาราม จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:08:20

ความคิดเห็นที่ 34 ผมใช้เวลาเดินเที่ยวภายในบริเวณวัดราวๆ1ชั่วโมงนิดๆก็ออกเดินทางต่อ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:09:36

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากนั้นก็เป็นการนั่งรถยาวววววววว ไปยัง lamayuru จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:10:43

ความคิดเห็นที่ 36 ถึงระยะทางจะไกล เเต่เพราะวิวที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยทำให้นั่งรถได้ไม่เบื่อ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:12:10

ความคิดเห็นที่ 37 ถนนที่วิ่งไปยังLamayuru จะวิ่งเลาะริมเเม่น้ำสินธุไปตลอด จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:13:47

ความคิดเห็นที่ 38 บางช่วงมีการทำถนน ต้องจอดรถรอ ก็ได้วิวสวยๆเเบบนี้นี่เเหละ ที่ทำให้การรอคอย ดูไม่น่าเบื่อเท่าไรนัก จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:15:09

ความคิดเห็นที่ 39 ช่วงเเม่น้ำสินธุที่ขนานไปกับถนนนี้ มีกิจกรรมพายเรอคายัคให้เล่นด้วย เห็นมีคนเล่นหลายคนอยู่ เเต่ผมเเละเพื่อยขอบายกะกิจกรรมนี้ ด฿กระเเสน้ำเเล้วคาดว่าถ้าเล่น คงกลายเป็นผีเฝ้าเเม่น้ำที่นี่เเน่ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:17:20

ความคิดเห็นที่ 40 จากLikir Monastery ไปยังLamayuru Monastery ใช้เวลาราวๆ2 ชมครึ่ง จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:18:47

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนถึง Lamayuru Monastery ราวๆ3 กม จะพบกับสภาพภูมิประเทศเเปลกๆ ซึ่งเรียกกันว่าMoonland เพราะดูเเล้วเหมือนผิวพระจันทร์ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:20:12

ความคิดเห็นที่ 42 บริเวณ Lamayuru จะมีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ เเถมบางบ้านยังใช้วิธีขุดถ้าเข้าไปอยู่อาศัยด้วยซ้ำ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:21:46

ความคิดเห็นที่ 43 ตัวบ้านจะสร้างเเทบจะกลืนไปกับตัวภูเขา จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:22:39

ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อเข้ามาใกล้ๆก็จะเห็น Lamayuru Monastery สร้างอยู่บนยอดเขาลดหลั่นกันลงไป จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:24:34

ความคิดเห็นที่ 45 ที่หน้าวัดจะมีร้านอาหารอยู่ ผมได้ฝากท้องไว้กับร้านนี้ อาหารพอใช้ได้ทีเดียว(เเต่ไม่มีเนื้อสัตว์นะครับ) ราคาอาจจะสูงนิดนึง เเต่ถือว่าเป็นค่าขนส่งละกันเนอะ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:26:13

ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อขึ้นมาด้านบนจะมองเห็นหุบเขาทั้งหุบครับ จะเห็นได้ว่าเป็นชุมชนที่เล็กมากๆ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:27:40

ความคิดเห็นที่ 47 สำหรับวัดนี้ค่าเข้าชม 50 รูปีครับผม จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:30:21

ความคิดเห็นที่ 48 วัดLamayuru มีอีกชื่อนึงว่า Yungdrung Tharpaling Gompa(ยุงตรุง ทาปาลิง กอมปา) ซึ่งเเปลว่าสวัสติกะ โดยพระอารามของที่นี่สร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 11 ผนังวัดก่อด้วยอิฐโคลนตากเเห้ง ผนังฉาบโคลน พื้นดินเหนียว เสาเป็นไม้สีเเดงมีกาสรเเกะสลัก เเต่ภายในวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:50:44

ความคิดเห็นที่ 49 เรือนหลังคาจะมีเพียงคานไม้รับน้ำหนักเอาไว้เท่านั้น(ไม้ส่วนใหญ่ก็คือไม้จากต้นป๊อปล่า เเละวิลโล่) ตามฝาผนังจะเขียนภาพพระโพธิสัตว์ปางดุร้านตามสไตล์ธิเบตเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย เเละปกป้องคนดี จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:53:26

ความคิดเห็นที่ 50 จากวัดจะสามารถมองเห็น Moon Land ได้อย่างชัดเจน ซึ่งตอนที่ผมไป จู่ๆเมฆฝนก็ตั้งเค้าพอดีเลย จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:55:16

ความคิดเห็นที่ 51 ประกอบกับตอนนั้นตื้อๆหัวนิดๆ เลยตัดสินใจกลับดีกว่า ไม่อยากตากฝน เดี๋ยวไม่สบายเเล้วเที่ยวไม่สนุก จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:57:24

ความคิดเห็นที่ 52 ขากลับ ลุงGoss ไม่วายเเวะให้ถ่ายมุมมหาชนของLamayuru จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:58:50

ความคิดเห็นที่ 53 ถนนช่วง 1 กม ก่อนถึง lamayuru บริเวณไหล่ทางจะมีหินเขียนมนตรายังงี้วางเรียงอยู่เต็มไปหมด จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:00:31

ความคิดเห็นที่ 54 หินพวกนี้เขียนเพื่ออุทิศให้กับผู้ล่วงลับ ระวังอย่าเหยียบนะครับ(ผมกับเพื่อนไม่รู้ เดินเหยียบไปเต็มๆ ลุงGossรีบห้ามใหญ่เลย) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:02:14

ความคิดเห็นที่ 55 หลังจากนั้นก็เดินทางย้อนกลับทางเดิม ขากลับนี้ดีหน่อยที่ฝนตก ทำให้ไม่ค่อยมีฝุ่นเหมือนขามา จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:03:56

ความคิดเห็นที่ 56 ถนนเส้นนี้เเปลกมากๆ บางช่วงก็เรียบกริ๊บ บางช่วงก็ขรุขระสุดๆ contrastสุดๆ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:05:40

ความคิดเห็นที่ 57 ขากลับ ก่อนถึงAlchi Monastery จะต้องข้ามเเม่น้ำสินธุ ตรงสะพานข้ามเเม่น้ำสินธุมีเด็กนักเรียนโบกขอติดรถไปด้วย เห็นน้องนั่งกันอยู่7คน ตอนเเรกนึกว่าจะเเบ่งมาขึ้นรถผม(ในรถมีผม+เพื่อน+คนขับอยู่เเล้ว5คน)ปรากฎ น้องเเกขึ้นมาหมดเลย เเน่นมาก เเต่ก็สนุกดี ตอนลงยังถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเลย ปล.ที่ Leh เรายังเห็นการโบกรถ ขอติดรถไปด้วยของคนท้องถิ่นอยู่บ่อยครั้ง คนเเถวๆนี้คงใจดี จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:09:49

ความคิดเห็นที่ 58 พอเเยกย้ายกับน้องๆก็เดินลัดเลาะไปตามหมู่บ้านเพื่อไปยังวัด Alchi จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:12:34

ความคิดเห็นที่ 59 Alchi Monastery มีศิลปะตกเเต่งเเบบเเคชเมียร์ เเละมีความเเตกต่างจากวัดอื่นคือตั้งอยู่บนที่ราบ นักสำรวจหลายคนลงความเห็นว่าที่นี่คือร่องรอยการเริ่มต้นของศิลปวัฒนธรรมเเบบธิเบตที่ชัดเจนที่สุดชนิดที่ว่าทางฝั่งประเทศจีนก็ไม่เหลือเเบบนี้เเล้ว จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:16:08

ความคิดเห็นที่ 60 สิ่งสำคัญของวัดอยู่ที่วิหารซัมสเต็ก(Sumstek)ซึ่งภายนอกประดับงานเเกะสลักไม้(ภาพในคห 59)ส่วนด้านในมีภาพวาดฝาผนังที่สวยมาก น่าเสียดายที่ทางวัดห้ามถ่ายรูป ปล.วัดนี้เสียค่าเข้า50รูปีครับ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:18:48

ความคิดเห็นที่ 61 นอกจากวิหารซัมสเต็กเเล้ว ยังมีวิหารเล็กๆอีก2เเห่ง ซึ่งภายในมีภาพวาดฝาผนังที่สวยมาก (ในความคิดผม ผมว่าสวยที่สุดในLadakhเเล้ว) ซึ่งทุกหลังห้ามถ่ายรูป เเต่โชคดีที่ทางวัดมีโปสการ์ดลายเป็นภาพวาดฝาผนัง ผมเลยซื้อมาเป็นที่ระลึก1ชุด จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:21:14

ความคิดเห็นที่ 62 น่าเสียดายที่โปสการ์ดสีเพี้ยนไปจากของจริงเยอะมาก เเต่ก็ยังดีกว่าไม่มี เเต่รับรองว่าของจริงสวยมากกกกก จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:22:34

ความคิดเห็นที่ 63 ทุกวิหารมืดมากกกกก มีเพียงเเสงที่ส่องมาจากช่องเเสงเล็กๆทางด้านบน มีวิหารหลังหนึ่งซึ่งตรงกลางห้องประดิษฐานพระโพธิสัตว์เอาไว้ เเต่บรรยากาศน่ากลัวมาก เดินได้นิดเดียวก็ขออกดีกว่า เสียบหลังวูบๆ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:25:11

ความคิดเห็นที่ 64 ในความเห็นผม ผมว่าวัดนี้ถือเป็นหนึ่งในวัดที่ "ต้องมา" ครับ(ผมชอบมากกว่าวัด Hemis ด้วยซ้ำ) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:26:31

ความคิดเห็นที่ 65 เนื่องจากมีช่วงหนึ่งระหว่างการเดินทาง รถติดจากการทำถนน เลยทำให้ผมมาถึงวัดAlchiเกือบๆ4โมงเย็น ซึ่งผมออกจากวัดก็ราวๆ5โมง ทั้งที่ใจจริงอยากเดินดูภาพวาดให้ละเอียดมากกว่านี้ เเต่ก็ไม่อยากกลับถึงLeh ค่ำมาก กลัวว่าเพื่อนร่วมทริปจะเพลียเอา จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:29:09

ความคิดเห็นที่ 66 ว่าเเล้วก็เดินทางกลับตัวเมืองLeh ดีกว่า จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:31:07

ความคิดเห็นที่ 67 ออกมาจากวัดไม่นาน พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าเสียเเล้ว จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:32:04

ความคิดเห็นที่ 68 เเสงสุดท้ายของวันปรากฎตัวบนยอดเขาก่อนจะหนีไป จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:33:24

ความคิดเห็นที่ 69 กว่าจะถึงที่พักก็ทุ่มครึ่ง เป็นอันจบวันที่ยาวนาน เเต่คิดเเล้วก็คุ้มค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพวาดสวยๆที่ Alchi Monastery จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:34:55

ความคิดเห็นที่ 70 ขอจบรีวิวตอนที่2ไว้เเค่นี้นะครับ ตอนหน้าจะพาไปนอนชมวิวสวยๆริมทะเลสาปPangongครับ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:36:54

ความคิดเห็นที่ 71 สวยมากกกกกครับ.. จากคุณ : คุณชายถังแตก (No Promises) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 01:31:12

ความคิดเห็นที่ 72 ธรรมชาติยิ่งใหญ่อย่าง จขกท บอกจริง ๆ ค่ะ และคนเราก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาตินั้น ๆ ได้ ขอบคุณรูปสวย ๆ ค่ะ :) จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 07:12:13

ความคิดเห็นที่ 73 แวะมาชมครับ ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 08:41:18

ความคิดเห็นที่ 74 ภาพสวยมากครับ ปล. น่าโพสท์รูปใหญ่กว่านี้หน่อย จากคุณ : Blue sky, deep sea เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 09:05:45

ความคิดเห็นที่ 75 สวยมากๆเลยครับ   เสียดายรูปเล็กไปหน่อยครับ จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 10:59:34

ความคิดเห็นที่ 76 รีวิวตอนที่3 ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12755606/E12755606.html#3 *ขอบคุณ คุณชายถังแตก,หนูกิตหอ 4 ชาย,กัปตันลูกชุบ,Blue sky, deep sea,Palm Jung Won ที่เข้ามาcomment นะครับ ส่วนเรื่องขนาดภาพ ตอนเเรกอยากทำเเบบใหญ่เหมือนกัน เเต่พอลดความละเอียดรุปให้ไม่เกิน200Kเเล้ว ภาพมันเบลอไปหลายรูป ผมเลยลดขนาดลงครับ ไว้ทริปหน้าจะทำภาพใหญ่เหมือนเดิมครับ(ทริปนี้นั่งเตรียมรูปเสร็จหมดเเล้วอ่ะครับ) จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 13:40:52

ความคิดเห็นที่ 77 รูปสวยมาก ทำให้ยิ่งอยากไปเที่ยวอินเดีย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ลูกน้ำสีส้ม เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:21:20