ความคิดเห็นที่ 1 เผื่อใครที่พลาดตอนแรกค่ะ ~ * ~ * ~ * ~ * ~ (SR) . Somewhere in time @ Mandalay “เส้นทางมหัศจรรย์ สวรรค์แห่งศรัทธา” ตอน1.~ * ~ * ~ * ~ * ~ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12727316/E12727316.html แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 10:57:29 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:08:48

ความคิดเห็นที่ 2 ทบทวนกันนิดค่ะว่าวันที่ 3- 4 เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง DAY 3 พระราชวังมัณฑะเลย์ วัดชเวนันดอ วัดกุโสดอ ชมร้านขายผ้าพื้นเมือง ออกเดินทางไปเมืองเม้เหมี่ยว จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:09:29

ความคิดเห็นที่ 3 DAY 4 วัดมหาอ้านกานทู ชมเมืองเม้เหมี่ยว วัดมหามัยมุนี กลับบ้าน จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:09:59

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนสงสัยว่าไปเที่ยวเองได้หรือไม่ที่มัณฑะเลย์   ...ขอตอบว่าได้ค่ะ   ..ในความคิดเราน่าจะมีไกด์ท้องถิ่น   หรือจ้างคนขับแท๊กซี่พาไปน่าจะสะดวกดีนะคะ   เพราะที่นี่สื่อสารลำบากเหมือนกัน  ชาวบ้านไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษค่ะ  แต่ใจดีมีน้ำใจไม่น่ากลัวค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:16:31

ความคิดเห็นที่ 5 เช้าวันที่ 3 ของเราที่มัณฑะเลย์  เตรียมเก็บกระเป๋าย้ายที่นอนกันค่ะคืนนี้   แต่ก่อนจะออกจากเมือง   เราต้องไปสถานที่สำคัญอีก2-3แห่งหนึ่งของทริปนี้กันก่อนนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:17:58

ความคิดเห็นที่ 6 พระราชวังมัณฑะเลย์คือเป้าหมายแรกของเราค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:18:38

ความคิดเห็นที่ 7 พระราชวังมัณฑะเลย์อยู่ใกล้กับโรงแรม Mandalay Hill มากๆค่ะ   ดูจากแผนที่อีกครั้งนะคะ นั่งรถมาแป๊ปเดียวถึง จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:20:24

ความคิดเห็นที่ 8 พระเจ้ามินดงทรงสถาปนาราชธานีแห่งนี้ เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๐ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากอมรปุระ เมืองหลวงเดิมมากนัก เพื่อให้ปลอดภัยจากศัตรูทางการเมือง และจากพระสงฆ์ที่เคยมีอิทธิพลมากเมื่อราชธานีอยู่ที่เมืองอมรปุระ เมืองนี้ตั้งชื่อเมืองตามเนินเขาที่พระพุทธเจ้าได้มีพุทธทำนายไว้ว่า หากพระพุทธศาสนามีอายุยืนนานถึง ๒,๔๐๐ ปี จะเกิดมีเมืองใหญ่เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนา ณ เชิงเขาแห่งนี้ พระเจ้ามินดงจึงทรงทำให้พุทธทำนายนี้เป็นจริงโดยทรงย้ายเมืองหลวงจากเมืองอมรปุระมายังเมืองมัณฑะเลย์แห่งนี้ค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:21:57

ความคิดเห็นที่ 9 พระเจ้ามินดงทรงมีความคิดในการสร้างพระราชวังให้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล  ซึ่งจะแสดงถึงบารมีและพระราชอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินพม่า พระองค์ไม่ได้สร้างพระราชวังใหม่แบบก่อสร้างทั้งหมดใหม่   ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องใช้กำลังคนมากและกินเวลานาน   แต่เป็นการรื้อพระราชวังเก่ามาจากอมรปุระ  ซึ่งพระราชวังนั้นก็เคยอยู่ที่อังวะมาก่อน   ย้ายกันซับซ้อนหลายเมืองดีนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:23:35

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : SCFM เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:23:44

ความคิดเห็นที่ 11 พระราชวังของพม่าสร้างด้วยไม้สัก  โชคดีที่เมืองแถวนี้ก็ไม่ไกลกันมาก   การย้ายวังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรมากมาย   แค่ถอดไม้มาประกอบใหม่  อาคารเหล่านี้ล้วนก่อสร้างแบบมีสลักไม้  รื้อง่ายและประกอบใหม่ง่ายค่ะ การย้ายเมืองหลวงใหม่เป็นการสร้างบารมีของพระเจ้าแผ่นดินอย่างหนึ่งนะคะ   พี่ศรีผ่องไกด์พม่าบอกเราว่าเรื่องย้ายเมืองหลวงเป็นเรื่องปกติของชาวพม่า  ย้ายกันจนชินมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 20:27:03 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:24:55

ความคิดเห็นที่ 12 SCFM ..........................น้องหมอปรางมายิ้มหวานคนแรกเลย ............. พระเจ้ามินดงเป็นกษัตริย์ที่อิงกับทางด้านพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก  เป็นกษัตริย์ที่สามารถนำพาพม่าให้รอดพ้นจากเงื้อมมืออังกฤษได้ทั้งๆที่ช่วงก่อนหน้าพระองค์พม่าเสียดินแดนไปพอควรแล้ว ครั้งแรกเสียยะไข่กับตะนาวศรี   ครั้งที่สองเสียพม่าใต้ไปทั้งหมด  รวมถึงย่างกุ้งด้วย   พระเจ้ามินดงจึงส่งราชทูตไปเจรจากับประเทศต่างๆในยุโรป  จนประคับประคองไม่เสียดินแดนเพิ่มได้ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:26:39

ความคิดเห็นที่ 13 แผนผังพระราชวังมัณฑะเลย์ ค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:27:41

ความคิดเห็นที่ 14 ปาด แวะมาทักทาย ภาพสวยน่าไปเที่ยวมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:27:57

ความคิดเห็นที่ 15 ผังเมืองมัณฑะเลย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ ๒ กิโลเมตร มีกำแพงก่อด้วยอิฐมีใบเสมาอยู่ข้างบนสูงราว ๘ เมตร มีประตูเมืองทั้งสิ้น ๑๒ ประตู ทิศละ ๓ ประตู มีปราสาท (Pyatthat) หรือพลับพลาไม้สร้างอยู่ข้างบน คูน้ำล้อมรอบกำแพงเมืองกว้างประมาณ ๗๕ เมตรค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:28:51

ความคิดเห็นที่ 16 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ก่อนเด๋วตามมอ่าน   อิอิ จากคุณ : ข้าวเหนียว-ส้มตำ-ปลาเผา เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:29:15

ความคิดเห็นที่ 17 มาทันรีวิว จากคุณ : Aromdee Jang เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:29:30

ความคิดเห็นที่ 18 ตามมาหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ด้วยคนครับพี่อุ๊ ^^ จากคุณ : Zulkifli เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:30:30

ความคิดเห็นที่ 19 บรรยากาศเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แบบนี้น่าติดตามค่ะ เห็นชื่ออาจารย์เผ่าทองในทีมด้วย เชื่อว่าทู้นี้มีเนื้อหาแน่นและภาพละเอียดยิบ .... เติมเต็มบรรยากาศในวันทำงานทางนี้มากมาย ขอบคุณนะคะ เดินตามอย่างเรียบร้อยจ้า   จากคุณ : SkylineKip เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:32:23

ความคิดเห็นที่ 20 ขอตามไปเที่ยวพม่าด้วยคน จากคุณ : narasri เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:32:37

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพสวยเหมือนเดิมค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ :) จากคุณ : KanYn เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:33:09

ความคิดเห็นที่ 22 ข้าวเหนียว-ส้มตำ-ปลาเผา .........................ได้เลยค่าาาาาาาาาา Aromdee Jang ...............................รีวิวนี้ยาวค่ะ  .. Zulkifli....................................จัดปายจ้า ..... พระเจ้ามินดงเคยโปรดให้เจ้าชายกะหน่าวพระอนุชาได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท    แต่เจ้าชายถูกลอบปลงพระชนม์ไปเสียก่อน   ทีนี้พระเจ้ามินดงเลยลำบากใจ   ทั้งๆที่พระองค์มีโอรสถึง 48 พระองค์  แต่ก็ทรงไม่กล้าแต่งตั้งใคร  กลัวเป็นอันตรายค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:33:31

ความคิดเห็นที่ 23 ไปเที่ยวด้วยคน จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:34:11

ความคิดเห็นที่ 24 Road to Mandalay จะขอตามไปจบทรืปโดยไม่สนใจว่าจะมี CR/SR อยู่ืัหน้าชื่อกระทู้ เพราะมันไม่ใช่สาระสำคัญอะไรสำหรับคนอ่านรีวิวอย่างมาเรียคนนี้ค่ะ จุ๊บๆๆ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:35:01

ความคิดเห็นที่ 25 มัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์ ท่องไว้ เผื่อจะได้ตามรอยเร็วขึ้น อิอิ ตามชมต่อนะครับพี่อุ๊ จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:35:02

ความคิดเห็นที่ 26 ตามไปเที่ยวต่อค่ะ ^^ จากคุณ : Angletaire เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:36:02

ความคิดเห็นที่ 27 เคยอ่านพม่าเสียเมือง .... ร้องไห้เลย สยดสยองผองขนมาก มีล็อคอินเดียว ขอโหวตครั้งเดียวนะคะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 08:38:06 จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:37:20

ความคิดเห็นที่ 28  เด็กศิลป์ (Artiste) ....................เพิ่งไล่กลับไปเห็นจ้ะน้องแอ๊ะ ขอโทษที   ไปเที่ยวกันต่อเนอะ SkylineKip ...........................บรรยากาศแบบนี้  หนีไปเที่ยวกันค่ะคุณอ้อย   narasri.............................ยินดีมากเลยค่า  KanYn ...............................ขอบคุณเช่นกันค่า .............. พระเจ้ามินดงมีพระมเหสี ขวา-ซ้าย คือพระนางนันมะดอ  กับพระนางอเลนันดอ   ซึ่งพระนางอเลนันดอมีลูกสาว 2 คน  ชื่อศุภยลัต กับศุภยาคยี   พระนางต้องการที่จะครองอำนาจราชบัลลังค์ต่อไป   จึงไปเลือกเจ้าชายสีป่อที่หัวอ่อนที่สุด  เป็นลูกเจ้าหญิงจากไทยใหญ่ซึ่งปกติจะเป็นรัชทายาทลำดับหลังๆ  สนใจแต่สุรา+นารีมาแต่งงานกับเจ้าหญิงศุภยลัต  ลูกสาวของพระนางซึ่งเท่ากับมีพ่อเป็นพระเจ้ามินดงเหมือนกัน และหาทางให้ขึ้นครองราชบัลลังค์     ช่วงที่พระเจ้ามินดงทรงพระประชวร  พระองค์พอรู้ชะตากรรมของลูกชายองค์อื่นๆที่เหลือเลยส่งไปปกครองหัวเมือง   แต่ก็ถูกฆ่าหมดในที่สุดค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:38:11

ความคิดเห็นที่ 29   ตระเวนเที่ยว.......................ไปด้วยกันนะคะ  chartchy.......................ท่องไปเรื่อยๆจ้า   ฝันจะเป็นจริงได้  Angletaire....................มาเลยน้องแตร์  ที่ว่างเพียบ  มาเรีย ณ ไกลบ้าน ...............  เรื่องราวเศร้ามากเนอะ  ขอบคุณนะจ๊ะ  //จุ๊ฟๆ ............ หลังจากที่พระเจ้ามินดงสวรรคต  พระเจ้าสีป่อได้ครองบัลลังค์เต็มตัว  พระนางศุภยลัตจึงได้มีการฆ่าล้างตระกูลกันทั้งราชวังโดยที่พระเจ้าสีป่อได้แต่กินเหล้าไม่รับรู้อะไร ลูกเด็กเล็กแดงโดนหมดค่ะ พระนางศุภยลัตครองเมืองอย่างสมบูรณ์โดยมีพระเจ้าสีป่อเป็นหุ่นเชิด พระองค์เลือกไปคบกับฝรั่งเศสแทนที่จะคบอังกฤษ   แต่ฝรั่งเศสรู้ดีว่าแถบนี้อังกฤษใหญ่กว่าตน   และยุแยงให้พระเจ้าสีป่อกับพระนางศุภยลัตคิดว่าฝรั่งเศสแน่กว่าอังกฤษ   แต่พออังกฤษเอาจริง  ฝรั่งเศสก็ทิ้งให้พม่าสู้กับอังกฤษเองไม่ช่วย   ในที่สุดก็เกิดสงครามกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 09:04:05 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:41:07

ความคิดเห็นที่ 30 ด้วยความที่พระเจ้าสีป่อปกครองบ้านเมืองแบบที่ไม่เคยสนใจไพร่ฟ้าประชาราษฎร์  ไม่เคยสนในความเป็นอยู่  มีแต่เรียกเก็บภาษี  เข่นฆ่าประชาชน  มอมเมาประชาชนด้วยการออกหวยหาเงินเข้าคลัง   จึงไม่มีประชาชนรักกษัตริย์  รักบ้านเมือง  คิดว่าไปอยู่กับอังกฤษชีวิตน่าจะดีกว่า   ทหารอังกฤษใช้เวลาแค่ 14 วันก็ยึดเมืองมัณฑะเลย์ได้ในปี 2428 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:42:10

ความคิดเห็นที่ 31 สวย  ไปเที่ยวด้วยคนครับคุณอุ๊   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:42:43

ความคิดเห็นที่ 32 พระเจ้าสีป่อถูกบังคับให้สละราชบัลลังค์ภายใน 24 ชั่วโมง   พม่าคิดมาตลอดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้   เจอเหตุการณ์แบบนี้คงเศร้าใจน่าดูเลยนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:42:44

ความคิดเห็นที่ 33 มาเที่ยวต่อพร้อมกำลังใจค่ะ จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:42:51

ความคิดเห็นที่ 34 ตามมาเที่ยวมัณฑะเลย์ดินแดนแห่งศรัทธาด้วยคนค่ะพี่อุ๊ จากคุณ : Princess of Napier เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:42:55

ความคิดเห็นที่ 35 มีคนมากราบทูลพระนางศุภยลัตว่าพม่าถูกล้อม   พระนางไม่เชื่อว่าพม่าจะเสียเมืองแล้ว   พระนางจึงเสด็จขึ้นไปบนหอคอยในพระราชวังมัณฑะเลย์  มองเห็นกองทัพอังกฤษยกทัพมา จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:43:28

ความคิดเห็นที่ 36  เล็กทาโร่......................กรี้ดดด  หายไปไหนมาคะ..   ZhuZhuJoopJoop................ขอบคุณจ้าน้องจุ๊บ  Princess of Napier.................เก็บของมาเที่ยวกันต่อจ้าน้องเตย .............. พระนางศุภยลัตเสด็จลงจากหอคอยมาแบบอึ้งๆ  เสีตสติไปชั่วขณะ ร้องแต่ว่าพระองค์เป็นเหตุของความเสื่อม   แต่มานึกได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:46:22

ความคิดเห็นที่ 37 จากนั้นมีสติก็กลับไปเก็บสมบัติเท่าที่พอจะเก็บได้   สมบัติในวังถูกปล้นไปมากมายโดยชาวพม่าด้วยกันเองค่ะ  ทั้งสองพระองค์ได้แต่ดูด้วยความเศร้าใจ   สมบัติที่เหลือถูกนำไปเก็บที่พิพิธภัณฑ์ในอินเดียและอังกฤษในเวลาต่อมา จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:47:36

ความคิดเห็นที่ 38 พระราชวังถูกเปลี่ยนมาเป็นกองบัญชาการทหาร “ ป้อมดัฟเฟอริน “ ของอังกฤษ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:48:04

ความคิดเห็นที่ 39 แวะมาชม พร้อมให้กำลัง อุ๊ และ ต้องต่อจ้า น้องเอิร์นสนใจที่นี่มาก เมื่อวานพี่เพิ่งเปิดรีวิวอุ๊ให้น้องดู วันนี้เย็นต้องไปเปิดตอน 2ให้ชมต่อ ^^       จากคุณ : พี่ตุ่ม (armearn) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:49:09

ความคิดเห็นที่ 40 พี่ตุ่ม (armearn) ...........................น่าไปมากค่ะพี่ตุ่ม  ถ้าสนใจเรื่องแบบนี้นะคะ  ไปแล้วอิ่มค่ะ   ......... รัฐบาลอังกฤษจับเนรเทศทั้งพระเจ้าสีป่อ  พระนางศุภยลัต  พระนางอเลนันดอ รวมทั้งขุนนางคนสนิทออกจากวังค่ะ   โดยเชิญออกทางประตูหลังวัง  ซึ่งเรียกว่าประตูผี  มีแต่ศพที่ออกทางนั้นเท่านั้นค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:51:49

ความคิดเห็นที่ 41    มาเช็คชื่อ   ดูภาค 2    ไว้ก่อนนะคะ            ไปทำงานก่อนล่ะ  แว่บ ๆ มานั่งอ่านนะจ๊ะ  เป็นกำลังใจให้น้องสาวจ้าาา   จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:52:21

ความคิดเห็นที่ 42  กบจูเนียร์ .............................ขอบคุณค่าปร้ากบ   ฝนตกอย่าตากฝนเน้อ .......... พระองค์ถูกอัญเชิญลงเรือไปประทับที่เมืองรัตนคีรี ในบังคลาเทศ  สร้างวังเป็นตึก   ตอนเช้าๆต้องจ้างแขกมานั่งออกราชบัลลังค์ทุกเช้า  เพราะพระองค์ยังคงหลงอยู่ในอำนาจ     แม้จะมีข้าทาสติดตามไปมากมาย  แต่ภายหลังข้าทาสก็เริ่มหนีหายกันหมด   เพราะพระนางศุภยลัตก็ยังคงคิดว่าพระองค์ยังมีอำนาจอยู่   เจ้ายศเจ้าอย่าง   พระนางอเลนันดอผู้ป็นแม่ยังอยู่ด้วยไม่ไหว  ขออพยบกลับมาอยู่พม่าจนสิ้นพระชนม์ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:54:33

ความคิดเห็นที่ 43 พระเจ้าสีป่ออยู่ที่เมืองรัตนคีรี 31 ปี จนสวรรคต   การสวรรคตในรัฐอิสลามจึงไม่มีพระสงฆ์มาบังสกุล  สวดให้ เลยต้องฝังและสร้างกูบคลุมไว้   ส่วนพระนางศุภยลัตขอกลับมาอยู่ที่ร่างกุ้ง และสิ้นพระชนม์ในปี 2468  แบบสามัญชน จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:55:44

ความคิดเห็นที่ 44 จริงๆแล้วอังกฤษก็ไม่ได้ต้องการล้มล้างราชวงศ์ เพราะอังกฤษเองก็มีกษัตริย์ แค่อยากปราบความวุ่นวาย  และอยากหาคนมาครองราชย์ต่อ   แต่หาไม่ได้เพราะเชื้อสายราชวงศ์ถูกฆ่าไปหมดแล้ว จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:57:00

ความคิดเห็นที่ 45 ในปี 2434 อังกฤษสั่งให้สร้างแบบจำลองอาคารในพระราชวังทั้งหมดเก็บไว้  ไม่รู้ว่าคิดอะไรตอนนั้น  แต่ก็เป็นสิ่งดี จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:57:51

ความคิดเห็นที่ 46 มีเรื่องเล่าว่าแต่ก่อนหลังคาอาคารทั้งหมดของพระราชวังทำจากกระเบื้องแผ่นหล่อดีบุกทั้งหมด  แต่พระเจ้าสีป่อโดนพ่อค้าอังกฤษมาหลลอกว่ามีหลังคาแบบใหม่ เบา เก๋ สุดๆ  เหมาะเป็นหลังคาของพระราชวัง   เหล่าเสนาบดีก็สอพลอ  ทำให้พระเจ้าสีป่อแลกหลังคาเดิมอันมีค่ากับหลังคาสังกะสี จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:58:33

ความคิดเห็นที่ 47 โชคดีมากที่มีการสร้างแบบจำลองนี้ไว้  เพราะตอนสงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่นมายึดพม่า  ป้อมดัฟเฟอรินกลายเป็นฐานบัญชาการของทหารญี่ปุ่นแทนทหารอังกฤษ   จนถึงเวลาใกล้สิ้นสุดสงคราม  การต่อสู้อย่างดุเดือดเกิดขึ้นที่เมืองมัณฑะเลย์  กองบินพันธมิตรถล่มเมือง  พระราชวังมัณฑะเลย์พังทั้งหมดจากเหตุนี้ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:59:19

ความคิดเห็นที่ 48 พระราชวังที่เราเดินชมอยู่นี่เป็นของที่สร้างใหม่โดยรัฐบาลทหารพม่าค่ะ  ตามหลักโบราณคดีการจำลองจะสร้างให้ใกล้เคียงกับของที่ก่อนพังมากที่สุด ดังนั้นหลังคาของพระราชวังจำลองนี้จึงมุงด้วยสังกะสีค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:59:54

ความคิดเห็นที่ 49 อาคารเดียวที่รอดเหลืออยู่  คือที่ประทับของพระเจ้ามินดงที่พระเจ้าสีป่อรื้อไปไว้ที่วัดชเวนันดอค่ะ  อันนั้นของเก่าจริง  เดี๋ยวพาไปดูค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:00:36

ความคิดเห็นที่ 50 ในพระราชวังนี้เราเดินชมกันได้แบบสบายๆ   แต่ก็ไม่ได้เปิดให้ชมทุกส่วนหรอกนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:01:00

ความคิดเห็นที่ 51 งามแต๊ งามว่า ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:01:16

ความคิดเห็นที่ 52   ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์............................. ....... ลองปีนขึ้นไปบนหอคอยค่ะ  อยากไปดูที่ที่พระนางศุภยลัตมองลงมาเห็นกองทัพของอังกฤษ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:09:05

ความคิดเห็นที่ 53 รู้แล้วว่าทำไมพระนางศุภยลัตถึงลงมาแล้วเสียสติ........เพราะมันเหนื่อยมากๆแน่เลยค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:10:44

ความคิดเห็นที่ 54 การสิ้นสุดของราชวงศ์อลองพญาเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ   ราชวงศ์ที่เคยรุ่งเรืองเคยมาตีไทยหลายครั้งหลายครา  ต้องมาล่มสลาย  ทรัพย์สมบัตินอกจากที่โดนปล้นไป   และสมบัติที่พระเจ้าสีป่อกับพระนางศุภยลัตขนไปที่รัตนคีรีก็ถูกขายเปลี่ยนมือไปจนเกือบหมด  เหลือแต่ของบางอย่างที่เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในสภาพที่ถ้าได้เห็นคงมีแต่คำว่าเสียดาย     บางอย่างก็เหลือเพียงภาพถ่าย จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:11:54

ความคิดเห็นที่ 55 และความทรงจำ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:12:56

ความคิดเห็นที่ 56 อำลาพระราชวังมัณฑะเลย์ด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง ทั้งเศร้าใจในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจนพม่าต้องเสียเมือง   และรู้สึกดีจังที่เรายังมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจอย่างทุกวันนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 12:46:07 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:14:05

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่ไกลจากพระราชวังมาก  เราจะไปวัดชเวนันดอกันต่อเลยค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:14:48

ความคิดเห็นที่ 58 ที่วัดชเวนันดอ (Shwenandaw) พระเจ้าสีป่อทรงสร้างในปี พ.ศ.๒๔๒๓ โดยโปรดฯ ให้รื้อพระตำหนักที่ประทับของพระเจ้ามินดงพระบิดามาสร้างขึ้น จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:15:55

ความคิดเห็นที่ 59 อาคารทั้งหมดปิดทองประดับกระจกประกอบไม้แกะสลักอย่างงดงามที่สุด   เหลือเห็นชัดที่เพดานนี่แหละค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:16:49

ความคิดเห็นที่ 60 ตัวอาคารไม้ได้ทรุดโทรมลงมากหากแต่ภาพแกะสลักไม้ภายในเรื่องทศชาติยังคงอยู่ในสภาพดี ปัจจุบันได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีจากกรมโบราณคดีของพม่าค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:17:13

ความคิดเห็นที่ 61 ที่วัดนี้สวยงามทุกส่วนค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:19:02

ความคิดเห็นที่ 62 ดูรายละเอียดของการแกะสลักค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:19:35

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่เว้นแม้แต่ใต้ถุน จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:19:57

ความคิดเห็นที่ 64 งานละเอียดยิบ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:20:52

ความคิดเห็นที่ 65 ด้านในยังมีความเป็นทองหลงเหลือ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:21:16

ความคิดเห็นที่ 66 ดูอลังค์การงานสร้างนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:21:53

ความคิดเห็นที่ 67 ที่นี่ข้างในค่อนข้างมืดค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:22:29

ความคิดเห็นที่ 68 พระเจ้าสีป่อชอบมานั่งสมาธิที่วัดนี้ด้วยนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:23:19

ความคิดเห็นที่ 69 นึกภาพออกเลยว่าพระราชวังมัณฑะเลย์ของจริงจะวิจิตรขนาดไหน จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:23:51

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนที่สมบูรณ์ของที่นี่ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:24:18

ความคิดเห็นที่ 71 ร่ำลาที่นี่ไปด้วยความอึ้งและทึ่งในที่แห่งนี้ค่ะ   วัดชเวนันดอ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:24:42

ความคิดเห็นที่ 72 วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw) หรือวัดมหาโลกมารเชน (Maha Lawkamarazein) เป็นวัดที่พระเจ้ามินดง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:25:20

ความคิดเห็นที่ 73 ทางเดินเข้าไปดูสวยงาม จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:26:34

ความคิดเห็นที่ 74 พระเจ้ามินดงทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:26:58

ความคิดเห็นที่ 75 ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และได้นำมาประดิษฐานในมณฑป อยู่รอบพระเจดีย์มหาโลกมารชิน สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:28:36

ความคิดเห็นที่ 76 บรรยากาศของบริเวณวัดร่มรื่นด้วยต้นพิกุลมากมายเรียงรายกันอยู่โดยรอบ   ในจำนวนนี้จะมีอยู่ต้นหนึ่งที่อายุเก่าแก่ที่สุดกว่า 250 ปีขนาดลำต้นใหญ่ประมาณ 10 คนโอบ กิ่งก้านสาขาก็ยื่นสยายร่มเงา จนต้องมีเสาค้ำไว้เป็นระยะๆค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:30:26

ความคิดเห็นที่ 77 พระเจ้ามินดงทรงโปรดฯ ให้มีการจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมดนั้นลงบนแผ่นศิลาจารึกหินอ่อนทั้งสิ้น ๗๒๙ แผ่น แล้วสร้างอาคารซุ้มเรือนยอดคลุมไว้ทุกแผ่น จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:31:18

ความคิดเห็นที่ 78 จารึกนี้ถือได้ว่าเป็นเอกในทางพระพุทธศาสนาและเป็นที่ชมเชยของผู้ที่ศึกษาด้านอารยธรรมตะวันออกเป็นอันมาก จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:32:23

ความคิดเห็นที่ 79 ตามไปเที่ยวต่อค่ะพี่อุ๊ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:32:30

ความคิดเห็นที่ 80  ย้ำคิดย้ำฝัน...........................มาเลยน้องติ้ก   ไปไหว้พระกัน .................................. เราไม่ได้เดินดูครบทั้ง 729 สถูปหรอกค่ะ  การเดินเท้าเปล่าๆในเวลานี้ร้อนมาก จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:33:46

ความคิดเห็นที่ 81 ตา่มมาชมและปาดหน้าครับพี่อุ๊ ^^ เป็นอีกเมืองที่น่าไปค้นหา ภาพสวย รายละเอียดเพียบบ ตามอ่านต่อครับ จากคุณ : บูชิโด เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:34:24

ความคิดเห็นที่ 82 พระเจดีย์มหาโลกมารชินมีความสวยงาม จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:34:43

ความคิดเห็นที่ 83 สีทองอร่ามตา จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:35:14

ความคิดเห็นที่ 84 บูชิโด .........................ปาดเต็มที่จ้ะ   ไปไหว้พระให้จิตใจผ่องใสกันเนอะ .......... เราเดินเข้าไปด้านในอีกนิด จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:36:25

ความคิดเห็นที่ 85 จะพบกับสถูปอันหนึ่ง  ที่ภายในไม่ได้บรรจุพระไตรปิฎก จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:36:49

ความคิดเห็นที่ 86 ขอน้องมอญตามไปเที่ยวต่อค่ะ ปอลิง ไปโน่นพี่อุ๊ไปเจอสาวมอญบ้างมั้ยค่ะ อิอิ จากคุณ : น้องมอญท่องโลก เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:37:21