ความคิดเห็นที่ 1 ไปกันสองคนครับ  วัยอย่างเราเช่ารถไฟฟ้าอย่างเดียวเดินไม่ไหวอ่ะ  อิอิ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:19:03

ความคิดเห็นที่ 2 ทางเดินเข้าพระราชฐานจากประตูใหญ่ด้านหน้า จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:19:30

ความคิดเห็นที่ 3 สนามหญ้าด้านหน้าทางเข้าพระราชฐาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:20:28

ความคิดเห็นที่ 4 ร่มรื่น จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:20:50

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนอื่นแวะสักการะศาลพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:22:32

ความคิดเห็นที่ 6 ศาลพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:23:01

ความคิดเห็นที่ 7 ภายในศาลมีเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:23:32

ความคิดเห็นที่ 8 ฝั่งตรงข้ามศาลพระเจ้าปราสาททองคือ สภาคารราชประยูร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดสร้างสภาคารราชประยูรขึ้น เพื่อพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า โดยก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 นอกจากนั้น สภาคารราชประยูรยังเป็นที่ทำการของ "หอทะเบียนเมืองกรุงเก่า" ซึ่งเป็นสำนักงานที่ดินกรุงเก่าแห่งแรกของประเทศไทยด้วย จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:25:21

ความคิดเห็นที่ 9 สระน้ำกว้างใหญ่ด้านหน้าพระราชฐาน  พระราชวังบางปะอิน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:26:55

ความคิดเห็นที่ 10 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์  และ  กระโจมแตร กระโจมแตรกระโจมแตรทรงโปร่งเป็นสถานที่ทรงโปรดของรัชกาลที่ 6 เพราะข้าราชบริพารทั้งหลายมักจะเห็นพระองค์ทรงงานอยู่ที่กระโจมหลังงามนี้จนเจนตา และมีบทพระราชนิพนธ์ที่สำคัญๆ มากมายที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ภายใต้กระโจมหลังนี้ มาในปัจจุบัน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:29:35

ความคิดเห็นที่ 11 สะพานข้ามไปพระที่นั่งวโรภาษพิมาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:30:45

ความคิดเห็นที่ 12 บนสะพาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:31:17

ความคิดเห็นที่ 13 ประตูเทวราชครรไล และ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:32:30

ความคิดเห็นที่ 14 พระที่นั่งวโรภาษพิมาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:32:59

ความคิดเห็นที่ 15 พระที่นั่งวโรภาษพิมานสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2419 องค์เดิมพระราชทานนามว่า วรประภัย เป็นพระที่นั่งตึกก่ออิฐ 2 ชั้น แบบวิหารกรีก หัวเสามีลวดลายฝรั่ง มีชาลามุขตอนหน้า ถัดมาเป็นท้องพระโรงออกว่าราชการ ส่วนชั้นในแรกใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาเมื่อสร้างที่ประทับใหม่ในสวนแล้ว จึงเป็นที่รับรองตอนชั้นใน พระที่นั่งองค์นี้ได้รื้อลงดัดแปลงให้มีสองห้องโถงรับแขก และที่พักเหลือชั้นเดียว เมื่อ พ.ศ. 2428 โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลย์วงศ์ เป็นแม่กองควบคุม พร้อมกับสร้างสะพานไม้ต่อท้องพระโรงหลังกับสวนที่หน้าประตูเทวราชครรไล ซึ่งเดิมเรียกว่า เทวราชดำรงศร และได้ปรับปรุงตกแต่งใหม่   เปลี่ยนชื่อพระที่นั่งองค์นี้ใหม่ว่า วโรภาษพิมาน เมื่อ พ.ศ. 2430 จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:36:12

ความคิดเห็นที่ 16 ปัจจุบัน พระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:36:54

ความคิดเห็นที่ 17 พระราชวังบางปะอิน เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง แต่หลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง แต่กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งโดยสุนทรภู่ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:38:48

ความคิดเห็นที่ 18 จวบจนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:39:20

ความคิดเห็นที่ 19 ถ่ายจากทางเดินด้านข้างพระที่นั่งวโรภาษพิมาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:40:18

ความคิดเห็นที่ 20 ปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:40:45

ความคิดเห็นที่ 21 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งทรงปราสาทโดยจำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ตั้งกลางน้ำ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบกเพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งองค์นี้จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:41:41

ความคิดเห็นที่ 22 เขตพระราชฐานชั้นนอก และชั้นใน..จะมีสะพานทางเดินเชื่อมต่อกันครับ เชื่อมจากประตูเทวราชครรไล (เขตพระราชฐานชั้นใน)ไปยังท้องพระโรง คือพระที่นั่งวโรภาษพิมาน (เขตพระราชฐานชั้นนอก) จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:43:14

ความคิดเห็นที่ 23 สะพานนี้มีลักษณะพิเศษคือ มีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดกั้นกลางตลอดแนวสะพาน เพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าด้านหนึ่งและฝ่ายในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฝ่ายใน สามารถมองลอดออกมาโดยตัวเองไม่ถูกแลเห็น จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:43:51

ความคิดเห็นที่ 24 สะพานทางเดินเชื่อมต่อเชื่อมจากประตูเทวราชครรไล (เขตพระราชฐานชั้นใน)ไปยังท้องพระโรง คือพระที่นั่งวโรภาษพิมาน (เขตพระราชฐานชั้นนอก) จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:44:59

ความคิดเห็นที่ 25 พระที่นั่งวโรภาษพิมานและประตูเทวราชครรไล จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:46:18

ความคิดเห็นที่ 29 พระตำหนักแพ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:48:35

ความคิดเห็นที่ 30 สะพานทางเดินเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:49:15

ความคิดเห็นที่ 31 มองเห็นประตูน้ำกั้นระหว่างพระราชฐานชั้นในและชั้นนอก จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:49:55

ความคิดเห็นที่ 32 เข้าเขตพระราชฐานชั้นในครับที่ประตูเทวราชครรไล เดิมประตูเทวราชครรไลใช้เป็นประตูสำหรับพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากเขตพระราชฐานชั้นในไปยังท้องพระโรง ซึ่งก็จะมีสะพานเชื่อมไปยัง พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ซึ่งเป็นท้องพระโรงสำหรับให้ขุนนางเข้าเฝ้าฯ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:52:14

ความคิดเห็นที่ 33 ปัจจุบันประตูเทวราชครรไลใช้แสดงรถม้าพระที่นั่งครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:52:44

ความคิดเห็นที่ 34 รถม้าพระที่นั่งที่จัดแสดงในประตูเทวราชครรไลใช้ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:53:29

ความคิดเห็นที่ 35 รถม้าพระที่นั่ง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:54:37

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาเขตพระราชฐานชั้นในจะพบกับพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:55:19

ความคิดเห็นที่ 37 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร.. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว    พระราชทานเงิน ๗๐ ชั่ง   แก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ให้ทรงสร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร การก่อสร้างจัดเป็นพระที่นั่งเรือนไม้หมู่ ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีเฉลียงตามแบบ ชาเลต์ของสวิส ทาสีเขียวอ่อนและแก่สลับกันด้วยงานที่ประณีต สิ่งตกแต่งภายในประกอบด้วยเครื่องไม้มะฮอกกานีขัด สลับลายทองที่สั่งจาก ยุโรปทั้งสิ้น นอกนั้นก็เป็นสิ่งของหายากภายในประเทศ อันเป็นเครื่องราชบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆ ทั่งพระราชอาณาเขต จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:56:59

ความคิดเห็นที่ 38 พระที่นั่งองค์นี้เ ป็นที่โปรดปราน เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานประทับปีละถึง 3 ครั้ง ทั้งยังเคยโปรดให้จัดรับรองเจ้านายต่างประเทศหลายคราว เช่น รับรองดุ๊กและดัชเชสโยฮัน อัลเบรต แห่งเยอรมัน และแกรนด์ดุ๊ก ซาร์วิตส์ แห่งรัสเซีย เมื่อ พ.ศ. 2433 ซึ่งจัดเป็นงานใหญ่งานหนึ่ง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:57:59

ความคิดเห็นที่ 39 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรและหอวิฑูรทัศนา จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:58:52

ความคิดเห็นที่ 40 หอวิฑูรทัศนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:00:15

ความคิดเห็นที่ 41 หอวิฑูรทัศนา ตั้งอยู่ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นภายในพระราชวังบางปะอิน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2424 พร้อมทั้งได้พระราชทานนามหอนี้ว่า "หอวิฑูรทัศนา" ใช้สำหรับเป็นที่เสด็จขึ้นไปทอดพระเนตรภูมิประเทศโดยรอบของพระราชวัง กล่าวกันว่าเมื่อแรกสร้างนั้น ยังมองเห็นช้างป่าเป็นโขลง ๆ เดินอยู่ตามชายทุ่ง หรือถ้าขึ้นไปดูในช่วงฤดูทำนาก็จะเห็นความงามของทุ่งนาในช่วงต่าง ๆ จนมีคำกล่าวว่า "ดูนาที่ไหนเล่า ไม่เท่าที่บางปะอิน" จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:01:31

ความคิดเห็นที่ 42 หอวิฑูรทัศนาและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หอวิฑูรทัศนามีความสูง 30 เมตร ลักษณะเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม ยอดหอคอยคลุมด้วยหลังคารูปครึ่งวงกลม มีสถาปัตยกรรมผสมผสานของยุโรป ตัวอาคารทาสีแดงสลับเหลือง ภายในมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นบน 112 ขั้น โดยแบ่งเป็น จากพื้นชั่นล่างขึ้นไปยังชั้นที่ 1 จำนวน 18 ขั้น จากชั้นที่ 1 ขึ้นไปยังชั้นที่ 2 จำนวน 55 ขั้น และจากชั้นที่ 2 ขึ้นไปยังชั้นที่ 3 จำนวน 39 ขั้น จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:02:30

ความคิดเห็นที่ 44 ยู้ฮู.........ป้าอ้วนน้อยฯ มาแว้วววววว       ป้าก็ไปเดินเที่ยวที่นี่มาเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้เอง   สวยจริงๆ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:03:10

ความคิดเห็นที่ 45 หอวิฑูรทัศนามีความสูง 30 เมตร ลักษณะเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม ยอดหอคอยคลุมด้วยหลังคารูปครึ่งวงกลม มีสถาปัตยกรรมผสมผสานของยุโรป ตัวอาคารทาสีแดงสลับเหลือง ภายในมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นบน 112 ขั้น โดยแบ่งเป็น จากพื้นชั่นล่างขึ้นไปยังชั้นที่ 1 จำนวน 18 ขั้น จากชั้นที่ 1 ขึ้นไปยังชั้นที่ 2 จำนวน 55 ขั้น และจากชั้นที่ 2 ขึ้นไปยังชั้นที่ 3 จำนวน 39 ขั้น จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:03:29

ความคิดเห็นที่ 46 หอวิฑูรทัศนาและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:03:56

ความคิดเห็นที่ 47 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวไทยเชื้อสายจีนเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5 พระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:04:32

ความคิดเห็นที่ 48 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งสองชั้น สถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งอยู่ภายในพระราชวังบางปะอิน สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2432  ใช้เวลาในการสร้าง 14 ปี และเป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นของถวายของข้าราชการกรมท่าซ้าย คือ พ่อค้าใหญ่ชาวจีน โดยมีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฟัก โชติกสวัสดิ์) เป็นนายงาน หลวงสาทรราชายุกต์ (ยม พิศลยบุตร) และ หลวงโภคานุกุล (จื๋ว) เป็นผู้ควบคุมในการก่อสร้าง และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถม กรมหมื่นสรรพศาสตร์ศุภกิจ เป็นผู้ควบคุมดูแล จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:07:32

ความคิดเห็นที่ 49 พระที่นั่งองค์นี้มีนามในภาษาจีนว่า เทียน เม่ง เต้ย (อ่านแบบจีนกลางว่า เทียน หมิง เตี้ยน) แปลเป็นไทยว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง (เทียน แปลว่า เวหา , เม่ง แปลว่า จำรูญ , เต้ย แปลว่า พระที่นั่ง) จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:08:27

ความคิดเห็นที่ 50 ชั้นล่างของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญนั้น ใช้เป็นห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่ง และใช้เป็นท้องพระโรง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ท้องพระโรงล่าง และท้องพระโรงบน โดยบริเวณทางขึ้นท้องพระโรงบนนั้นมีแผ่นหินอ่อนเป็นตราสัญลักษณ์ลัทธิเต๋าของจีน รูปหยินหยางประดับไว้ มีพระราชอาสน์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวยังโปรดเกล้าฯ ให้คัดลอกแผ่นป้ายคำโคลงสรรเสริญข้าราชการที่ทำคุณความดี 9 บท 17 แผ่นป้าย มาประดับไว้ด้วย ส่วนท้องพระโรงบนนั้น เป็นห้องประชุมเสนาบดี และใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ห้องชั้นบนของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ประกอบด้วย 4 ห้องใหญ่ ได้แก่ ห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องทรงพระอักษร และห้องพระป้าย ห้องพระป้ายติดกับห้องทรงพระอักษรเป็นที่ประดิษฐานพระวิมาน 3 องค์ติดต่อกัน เรียงจากทิศตะวันตก ไปตะวันออก ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่าง ๆ ลงรักปิดสีทองอร่าม ช่องตะวันตกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก (อักษรจีน) พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี สมเด็จพระอัครมเหสีในรัชกาลที่ 4 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433 ช่องกลางเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป ในการประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย ช่องตะวันออกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก(อักษรจีน) พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2470 จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:09:36

ความคิดเห็นที่ 51 เดี๋ยวเราขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนหอวิฑูรทัศนากันครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:10:31

ความคิดเห็นที่ 52 จากมุมสูงบนหอวิฑูรทัศนาเห็นพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:11:43

ความคิดเห็นที่ 53 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:12:29

ความคิดเห็นที่ 54 พระราชานุสรณ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:13:06

ความคิดเห็นที่ 55 สนามหญ้าในพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:13:50

ความคิดเห็นที่ 56 ด้านทิศตะวันออกมีหมู่พระตำหนักที่ประทับของพระมเหสี  พระราชเทวี  เจ้าจอมที่ใกล้ชิด จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:15:20

ความคิดเห็นที่ 57 ขับไปเรื่อยๆ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:15:51

ความคิดเห็นที่ 58 หลายหลังครับ  หลังนี้ของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:16:33

ความคิดเห็นที่ 59 ตามไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินด้วยคนค่ะ จากคุณ : ข้าวปุ้นจอมยุ่ง เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:17:23

ความคิดเห็นที่ 60 พระราชานุสรณ์ในพระราชวังบางปะอินที่ทรงมีต่อพระมเหสีและพระราชโอรส ธิดา จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:18:01

ความคิดเห็นที่ 61 อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:18:53

ความคิดเห็นที่ 62 อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์  รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:19:27

ความคิดเห็นที่ 63 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:20:34

ความคิดเห็นที่ 64 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:20:51

ความคิดเห็นที่ 65 ศาลาทรงไทยบริเวณพระราชานุสรณ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:22:09

ความคิดเห็นที่ 66 ศาลาทรงไทยภายในมีพระบรมศาทิศลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:22:26

ความคิดเห็นที่ 67 บรรยากาศในพระราชวังบางปะอินร่มรื่น  ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:24:01

ความคิดเห็นที่ 68 พระราชวังบางปะอินแห่งนี้ก็เสมือนพระราชานุสรณืที่องค์สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้าทรงมีต่อพระเหสี  พระราชเทวี  พระราชโอรส ธิดาอันเป็นที่สิสนิทสิเน่หาของพระองค์นั่นเอง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:25:59

ความคิดเห็นที่ 69 หลังจากนั้นเราไปแวะกราบพระที่วัดชุมพลนิกายารามราชวรวิหาร จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:26:48

ความคิดเห็นที่ 70 วัดชุมพลนิกายารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:27:59

ความคิดเห็นที่ 71 วัดชุมพลนิกายาราม สร้างโดยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5 (พระเจ้าปราสาททอง) ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. 2175 ตรงบริเวณที่เป็นเคหสถานเดิมของพระราชชนนีของพระองค์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:28:40

ความคิดเห็นที่ 72 ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนพระพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ โดยเขียนไว้ที่ฝาผนังทุกด้านอย่างงดงามยากจะหาที่ใดเสมอเหมือนภาพเขียนดังกล่าวได้รับการซ่อมแซมเมื่อครั้งรัชกาลที่ ๕ แต่เป็นที่น่าเสียดายด้วยในเวลานี้ภาพเขียนส่วนหนึ่งได้หลุดลอกและลบเลือนไปบ้างแล้ว จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:30:17

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพเขียนเหนือบานประตุทางเข้าพระอุโบสถ  สวยจัง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:31:09

ความคิดเห็นที่ 74 พระประธานพระอุโบสถทั้ง 7องค์ ได้แก่ พระวิปัสสีสิขี เวสสภู กกุสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะ และโคตมะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นหินทรายทั้งหมด และมีพระสาวกอีก 4 องค์เป็นพระยืน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:31:58

ความคิดเห็นที่ 75 พระประธานพระอุโบสถทั้ง 7องค์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:32:28

ความคิดเห็นที่ 76 พระประธานพระอุโบสถ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:33:13

ความคิดเห็นที่ 77 ตามหลักฐานจากพระราชกระแสรับสั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 3 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2419และในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 25พิมพ์ครั้งที่ 2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นพงษาดิศรมหิตป โปรดให้พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2468 ความว่า “ ที่ทรงสร้างวัดชุมพลนิกายารามนี้เป็นมูลนิเวศสถานของพระราชชนนีแห่งองค์พระเจ้าปราสาททอง หากจะสันนิษฐานตามหลักฐานที่อ้างอิงทุกกรณีแล้วเห็นว่าเป็นความจริงโดยแน่แท้ เพราะว่าวัดชุมพลนิกายารามนี้ต่อมาปรากฏว่าเจ้าฟ้ากรมขุนสุเรนทร์พิทักษ์ ซึ่งมีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้านเรนทร์ ที่เป็นพระราชโอรสของพระสรรเพชญ์ที่ ๙ หรืออีกพระนามหนึ่งว่า ขุนหลวงท้ายสระ ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดโคกแสง ได้เสด็จมาปฏิสังขรณ์ในครั้งกระนั้น นอกจากนี้แล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมาปฏิสังขรณ์หรือบูรณะแต่อย่างใด ” จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:34:20

ความคิดเห็นที่ 78 ด้านหน้าพระอุโบสถประดิษฐานพระศรีอาริยะเมตไตรโพธิสัตว์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:35:16

ความคิดเห็นที่ 79 ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:35:46

ความคิดเห็นที่ 80 ผมขอจบทริปท่องเที่ยงวันอาทิตย์ของผมแค่นี้นะครับ.. จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:36:20

ความคิดเห็นที่ 81 ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ ผมชอบที่นี่มากๆครับ เสียดาย ตอนไปอากาศร้อนมากๆ เลย ทำให้ เดินไม่ทั่วถึงครับ จากคุณ : ikhong เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:59:12

ความคิดเห็นที่ 82 แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 22:05:25

ความคิดเห็นที่ 83 ขอไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 22:24:55

ความคิดเห็นที่ 84      ข้อมูลละเอียดดีจัง ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : น้า Low Batt เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 23:39:58

ความคิดเห็นที่ 85 วันว่าง ๆ ไม่รู้จะไปไหน    ก็ไปกินกุ้งร้านต้นน้ำ   แล้วก็เลยไปพระราชวังบางปะอินนี่แหละค่ะ แล้วก็ขอนั่งกระเช้าข้ามไปวัดนิเวศน์อีกที่ด้วย  ถ้าเวลายังพอมี จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 23:46:54

ความคิดเห็นที่ 86 ชอบที่นี่มากเหมือนกันค่ะ  แต่แดดร้อนดีแท้ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 00:21:52

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 09:47:06

ความคิดเห็นที่ 88 เห็นแล้วอยากกลับไปเยือนที่นี่อีกครั้งครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 20:52:56