ความคิดเห็นที่ 1 ปร้ามาเกาะขอบจอรอชมละนะ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:23:11

ความคิดเห็นที่ 2 ..การทำวีซ่า.. แน่นอนการไปเที่ยวจีนต้องทำ วีซ่าครับ... สามารถหาข้อมูลได้จาก http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/ เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าวีซ่าจีนแค่มีเงินก็ทำได้แล้ว... เพราะเคยไปจิ่วไจ้โกว ไม่เห็นดูอะไรเลย ยื่น Passport ไปพร้อมเงิน  1000 บาทก็ได้ Visa กลับมา แต่ก็มานึกได้ว่าตอนนั้นเราไปทัวร์นี่หว่า... ทัวร์เอาไปจัดการให้หมดครับ.... รอบนี้ต้องไปเอง... ทำ  Visa เองนี่นา.. ทำไงดีหล่ะ... ลองค้นๆ ได้ข้อมูลมาประมาณนึง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12548677/E12548677.html จริงๆค้นคำว่า วีซ่าจีน ใน Google ข้อมูลจะเยอะมาก ตายหล่ะหลายเสียงพูดมาว่าต้องยื่นด้วยตัวเองเท่านั้น อาทิตย์ก่อนไปผมไม่ว่างเลยซักวัน ปรึกษากับดีบุกผู้ร่วมหัวจมท้าย เลยยอมที่จะทำ วีซ่าผ่าน Agency แห่งหนึ่ง... (อยากรู้ว่าเจ้าไหนถาม ดีบุกเลยนะ เพราะผมไม่ได้ติดต่อ ) เพื่อจะได้ไม่ต้องไปเองถือว่าซื้อความสะดวกล่ะกันนะ... แต่สำหรับคนไปยื่นเองคร่าวๆ 1. กรอก  App 2. รูปสีพื้นขาว 1-2  รูป (น่าจะ 1 แต่เพื่อไว้ครับ) 3. Statement  อย่างน้อย 50,000 หรือ วันละ 3000  (เช่นไป 5 วันก็  15,000 บาท) 4. หนังสือรับรองเงินเดือน (ส่วนตัวผมว่าอันนี้สำคัญกว่า statement อีก) 5. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ และ ถ้ามีใบจองที่พักด้วยก็ยื่นไปด้วยครับ โดยวีซ่ามีให้เลือก 4 แบบ  3 ความเร็ว Single : Double :Multiple ครึ่งปี : Multiple  1 ปี ความเร็ว ธรรมดา  ด่วน และ  ด่วนสุด ตามรูปเลยครับ  เห็นได้ว่า "เงินบรรดาลได้ทุกสิ่งครับ" อยากได้เร็วก็จ่ายหนักๆ แค่นั้นหล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 08:43:06 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:24:23

ความคิดเห็นที่ 3 SR ใส่ให้แทนครับ จากคุณ : siamken เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:24:31

ความคิดเห็นที่ 4 ตามมา ตามมา จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:35:14

ความคิดเห็นที่ 5 ลากแตะเที่ยวด้วยจ้ะ จากคุณ : heyoki เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:44:24

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับป้าเตี้ย... ต้องเกาะนานๆหน่อยนะครับ วันนี้รีวิวแบบด้นสดเลยครับ อิอิ อ้อ ถ้าทำผ่านพวก Agency ก็บวกค่าน้ำร้อนน้ำชาด้วยนะครับ... สำหรับการเดินทางเนื่องจากช่วงที่ผมไป เป็นช่วงที่หางแดงยังไม่เปิด รูท Wuhan ดังนั้น ผมจะต้องนั่งเครื่องไปลงที่ Chongqing ก่อนแล้วจึงต่อเครื่องภายในไปยัง Wuhan อีกครั้งนึงครับ... และอย่าลืมตอนนี้น้องหางแดงได้เข้าไปยึดรัง "นังนก" ที่ดอนเมืองแล้วนะครับ... อย่าเผลอไปผิดที่กันหล่ะครับ... ปล. ที่บอกว่ายึดเพราะจาก 6 แถว หางแดงยึดไป 3 ปล่อยน้องนก 2 และ Orient แค่ 1 ครับ มาที่หลังแต่ดังกว่าจริงๆ.... ปล.2 แต่มาดูที่ดอนเมืองก็จะเห็นว่าที่แคบกว่าสุวรรณภูมิอีกนะเนี่ย... สรุป แคบทั้ง 2 ที่ ปล.3 ช่วงที่ผมไปนั้นยังเดินทางออกจากสุวรรณภูมิอยู่นะครับ เลยไม่มีโอกาสไปถ่ายรูปกับห้องน้ำไฮโซเลย เสียดายมากเพราะในบรรดารูปที่เค้าเอามาใช้มีรูปจากฝีกล้องผมตั้ง 2 รูปแหนะ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 08:44:10 แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 08:43:58 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:47:07

ความคิดเห็นที่ 7 ขอลากแตะไปเที่ยวด้วยคนคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:48:57

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับคุณsiamken ขอบคุณครับสำหรับความเอื้อเฟื้อ อย่างที่ผมเคยพูดไปทุกครั้งครับ... ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องใส่เลย ในเมื่อแค่อ่าน ก็วิเคราะห์กันเองได้ว่า SR หรือ CR หรือ AR หรือ BR หรืออะไรก็แล้วแต่ สวัสดีครับป้าหนิง ตามมาเลยค้าบบบ สวัสดีครับคุณheyoki ลากแตะมาเลยค้าบบบบบ China Passenger Terminal สำหรับสนามบินที่จีนนั้นเค้าจะมีการแยก Terminal ออกเป็น Domestic และ International นะครับ ซึ่ง Domestic ใหญ่กว่า และหรูกว่ามากครับ.... แรกๆ รู้สึกแปลกๆ แต่พอคิดดีๆ มันก็จริง เพราะ เครื่องภายในเค้าเยอะกว่าเครื่องระหว่างประเทศครับ (อาจจะยกเว้นเมืองที่ต่างประเทศเดินทางมาเยอะๆอย่าง ปังกิ่ง หรือ เซี่ยงไฮ้ ครับ) อย่าง Chongqing ที่ผมไปลงนั้นทั้งวันจะมี Flight นานาชาติประมาณ 10 ไฟลท์เท่านั้น วันที่ผมกลับนับแล้วมี  13 แต่ไฟลท์ในประเทศมีขึ้นลงเกือบทุก 5-10 นาทีเลยครับ ซึ่งจริงๆ คงไม่ต่างจากสนามบินบ้านเราตามต่างจังหวัดที่ไฟลท์ในประเทศ เยอะกว่าไฟลท์ต่างประเทศนั่นหล่ะครับ เท่าที่ดูมา 2 เมืองที่ผมไปรอบนี้ พวกขนส่งสาธารณะ จะอยู่ที่ฝั่ง Domestic นะครับ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ Airport Bus หรือ รถไฟฟ้าเข้าเมือง (Light Rail) อ้อถ้าเค้าเขียนว่า Trainอันนี้จะหมายถึงรถไฟระหว่างเมืิองนะครับ พวกรถไฟฟ้าแบบ BTS บ้านเราเค้าจะเรียกว่า Metro หรือ Light  Rail ครับ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าปกติแล้วจะมี Shuttle  Bus ระหว่าง International และ Domestic Terminal ครับ รูปนี้เป็นบรรยากาศภายใน Chongqing Domestic Terminal ครับ ระหว่างต่อเครื่องไปที่ Wuhan ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 22:18:32 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:02:07

ความคิดเห็นที่ 9 โทรศัพท์สาธารณะแอบเก๋... มีสำหรับคนพิการด้วยครับ... อ้อปกติแล้วในสนามบินจะมีบริการ Wifi ฟรีนะครับ แต่ต้องมี sim จีนซึ่งเค้าจะส่ง sms username password มาให้ สำหรับคนต่างชาติในโบร์ชัวร์เขียนว่ามีบริการโดยให้ติดต่อที่ Help Center แต่หลังจากผมไปติดต่อ คุณเธอพูดอังกฤษได้น้อยมาก... บอกท่าเดียวว่าใช้ไม่ได้ ผมเอาโบร์ชัวร์ให้ดู เธอก็ไม่รู้เรื่อง เอิ่ม เริ่มคิดว่าขนาดในสนามบินยังพูดอังกฤษกันได้น้อยขนาดนี้แล้ว ไปในเมืองตรูจะรอดมั๊ยเนี่ย... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:09:32

ความคิดเห็นที่ 10 เกาะ ไปด้วยคนครับ คุณเอ๋อ้อย จากคุณ : tummeng_in เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:21:32

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณ ลุ๊งลิ๊ง ลากแตะตามมาด้วยกันเลยครับ... จาก Chongqing มาที่  Wuhan ถ้าบินภายในจะใช้เวลาประมาณ 1:20 ชม. ครับ ระยะทางประมาณ 900 กม. คงอารมณ์  กรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั้นหล่ะครับ ซึ่งถ้าดูจากแผนที่ Wuhan จะอยู่ทางตะวันออกของ Chingqing อยู่ตรงกลางระหว่าง Chongqing และ Shanghai ซึ่งการเปิดเส้นทางนี้ก็เป็นอีกหนึงเส้นทางที่สามารถเดินทางไปยัง Shanghai ได้ง่ายขึ้น คงสามารถไปลงที่ Wuhan แล้วต่อพวกรถไฟความเร็วสูงได้โดยโดยไม่ต้องค่อเครื่องภายในครับใช้เวลาราวๆ  3-4 ชม. เพราะถ้าไปลง Chongqing การนั่งรถไฟความเร็วสูงไปก็ค่อนข้างนานอยู่ครับ อันนี้รูปในสนามบิน Wuhan ครับ แต่ๆๆๆ อย่าหวังว่าบินตรงจากไทยไปจะไปเจอหรูๆนะ เพราะว่านี่เป็น Domestic Terminal ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:25:40

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับคุณtummeng_in ตามมาโลดครับ สนามบินจะอยู่ห่างจากตัวเมืองราวๆ 50 กม.ครับ ยังไม่มี Light Rail หรือรถไฟฟ้าไปถึงนะครับ การเดินทางเข้าเมืิองมี Airport Shutter Bus ครับ มี 2-3 สาย ถ้าจะนั่งคงต้องใช้วิธีเอาแผนที่เมือง มาเทียบกับแผนที่โรงแรมที่เราจะไป แล้วไปถามๆ คนขายตั๋วรถเอาครับ ซึ่งราคาจะอยู่ราวๆ 30 หยวนต่อคน (ซึ่งผมว่าแพงนะ) ซึ่งตอนที่ผมไป ผมนั่งไปลงที่  Holiday Inn ครับ พอมีข้อมูลในนี้หน่อยนึงครับ http://www.travelchinaguide.com/cityguides/hubei/wuhan/getting-there.htm แต่จริงๆแล้วถ้าไปกัน 2-3 คนนั่ง Taxi โลดครับ เพราะว่าราคาแค่  60 + 20  (ค่าทางด่วน แล้วไปถึงที่เลยไม่ต้องมาลากกระเป๋าอีก) แต่ๆๆๆ ให้ระวัง  Taxi ไม่กด meter  นะ (จะขอเหมาราว 150) ซึ่งถ้าเค้าไม่กด meter บอกให้หยุดแล้วเปลี่ยนคันได้เลยครับ (ผมอ่านจากในlonely planet มา) แต่เท่าที่เจอ  taxi  ทุกคันนิสัยดีครับ... อ้อ Holiday Inn ที่ผมพูดถึงคือสาขาที่อยู่ jiefang Avenue นะครับ มันจะมีอีกสาขาอยู่ตรงหัวมุมแม่น้ำด้วย ปล. รูปแอบเอามาจากท่านประธานอีกที จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:43:13

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับรอบนี้ที่ผมไปผมนั่ง shutter ไปครับ แล้วเดินลากกระเป๋าเอา (ผมพัก Ibis (อีกแล้ว)ครับ) เดิน 3 กิโล ไม่สนุกเลย เล่นเอาล้าไปเหมือนกันเพราะต้องลากกระเป๋าเดินทางด้วย.... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:51:14

ความคิดเห็นที่ 14 jianghan Road รูปที่พักไปดูรูปจากกระทู้ดีบุกนะครับ... ถามว่าทำไมผมพัก Ibis คำตอบคือให้ Agency จองให้ครับเพราะไม่มีเวลา ราคาที่ได้จาก agency มาแพงกว่าที่แปะหน้าที่พักเล็กน้อย แต่ก็แน่หล่ะเค้าต้องเอากำไรเราอยู่แล้วนี่นา... สำหรับเย็นแรก ตอนแรกคิดว่าอยากไปเก็ย Twilight ซักที่แต่ที่ไหนได้ เหนื่อยกับการลากกระเป๋าจัดเลยไม่เอาดีกว่า เลยหาจุดไปเดินเล่นแทนครับ ไม่ยาก ดูจากแผนที่ที่ได้มา มันจะมีแถบม่วงๆ บอกอยู่ว่ามี Night Market ตรงไหนบ้างผมก็ไปตรงนั้นหล่ะครับ แต่ๆๆๆ วันแรกยังงงๆ เดินทางไม่ถูกก็เลยเดินเอาครับ จุดมุ่งหมายวันนี้เลยไปที่ Jianghan Road ครับ.. เดินเอาก็เกือบ 5 กม.ครับ... แต่ตอนเดินไปผมเดินไปทาง Zhongshan avenue ครับ ซึ่งผมว่าเส้นนี้ก็คงแนวๆ สุขุมวิทบ้านเราหล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:00:10

ความคิดเห็นที่ 15 ระหว่างทางจะมีตึก ห้างใหญ่ๆให้ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:02:56

ความคิดเห็นที่ 16 หนีไปทานข้าวก่อนแล้วบ่ายมาต่อนะครับ.... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:05:11

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาชมต่อจากท่านประธานครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : nutpu เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:08:34

ความคิดเห็นที่ 18 ม่ายไหวอะ เล่นหลอกให้คนแกร่เดินตามน่องปริแระ งั้นปร้าไปทำกายภาพก่อนละกันจ้า แล้วค่อยลากสังขารมาชมต่อเนอะ   จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:02:27

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับคุณ Nutpu ตามมาเลยครับ แหะๆ ปร้าเตี้ยครับ... เด๋วผมจูงไปล่ะกันนะครับ อิอิ จริงๆแล้วจากรูป คห.14 เส้นแดงๆที่เห็นคือ Metro สาย 1 ที่ปัจจุบันเปิดบริการแล้วนะครับ... จะไปเชื่อมกับ  สาย 2 ที่จะเปิดในช่วงปีหน้าตรงสถานี Jianghan Road ที่ผมกำลังจะเดินไปนั่นหล่ะครับ.. ที่ Jianghan Road ถ้าให้เทียบก็คงเป็นสถานีสยามบ้านเราครับ... ปล. สาย 1 ว่ากันตามตรงค่อนข้างไร้ประโยชน์สำหรับนักเดินทางอย่างเราๆครับ แต่ถ้าสาย 2 เปิดน่าจะช่วยได้มากขึ้นครับ แม้จะยังไม่สุดๆก็ตาม (เพราะเท่าที่ดูมันก็ไม่ได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวเท่าไหร่) อันนี้เป็นบรรยากาศถนนสุขุมวิท เอ้ยไม่ใช่ๆ Zhongshan avenue ต่างหากครับ จะเห็นว่าที่นี่ใช้รถบัสแบบไฟฟ้าด้วยครับ... สายทไฟที่เห็นๆคือสายไฟของรถบัสครับ มีทั้งแบบบัสปกติ และบัสไฟฟ้าครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:33:21

ความคิดเห็นที่ 20 ไหนๆก็พูดถึงรถบัสไฟฟ้าแล้ว... มาพูดถึงรถราอื่นๆในเมืองด้วยดีกว่าครับ... ที่เมืองจีนที่ผมเห็นเค้าจะใช้ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากันเยอะเหมือนกันครับ.. เข้าใจว่าสามารถชาร์จไฟบ้านได้ แต่นอกบ้านจะมีที่ให้มาชาร์จไฟได้เช่นกันครับ เท่าที่ดูๆจ่ายเงินด้วยการแตะบัตร เอาครับ แต่ราคาเท่าไหร่นี่ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างสำหรับการเดินที่นี่คือ เนื่องจากรถจักรยายนต์เป็นไฟฟ้า ดังนั้นเสียงเครื่องจะเบามาก  (ดังวี้ๆ) ต้องระวังให้ดีครับ ไม่งั้นมีโดนชน (แต่จริงๆไม่ต้องห่วงเพราะคุณท่านจะบีบแตรไล่มาแต่ไกล แม้มรึงจะมาขี่บนทางเท้าก็ตาม) และส่วนใหญ่ ไม่เปิดไฟหน้ากันด้วยครับ ให้เดาคือมันเปลืองไฟที่ชาร์จไปนั่นหล่ะครับ ดังนั้นมืดๆเวลาเดินต้องระวังพวกนี้ให้ดีนะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:40:22

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากเดินมาพักใหญ่มาก... ก็มาถึงซักทีกับ Jianghan Road เท่ากับว่าวันนี้เฉพาะเดินไปโรงแรมและเดินมานี่ ผมเดินไปแล้ว 8 กม.... โคตรเมื่อยอ่ะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:44:06

ความคิดเห็นที่ 22 บ่ายแล้วมาต่อยังคะ  รอยู่รออยู่ เราไม่สนว่า CR หรือ SR แค่มารีวิวให้ดู เปิดมุมมองใหม่ๆให้ก็ขอบคุณแล้วค่ะ จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:50:55

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าดูจาก คห. 14 ถนนนี้จะเริ่มตั้งแต่จุดที่เป็นสถานี  Metro สีแดงครับ แต่ผมมาจากด้านล่าง เลยเดินย้อนขึ้นมานิดนึง เพราะจากแผนที่จะมีถนนอีกเส้นที่ตัดกัน เป็นถนนแบบพวก  Night Market ครับ ซึ่งใต้ถนน jianghan Road ที่เดินทั้งหมดนั้นจะมี Metro ที่เป็นใต้ดินอยู่ครับ... จากรูป 21  ที่เห็นเครนนั้นเป็นเครนที่ก่อสร้างตัวสถานีครับ ไหนๆก็ลงทุนแบกขาตั้งกล้องมาดังนั้นขอใช้ถ่ายหน่อยล่ะกัน... ตรงนี้เป็นเหมือนจตุรัสของเมืองอ่ะครับ เป็นถนนที่ให้คนเดินอย่างเดียว ไม่ให้รถเข้ามา จะมีร้านค้าให้ช๊อปปิ้งจำนวนมากเลยครับ ใครช๊อปเก่งๆขอเชิญที่นี่เลยครับ.. มีเสื้อผ้าสวยๆเยอะ แต่อาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่เรารุ้จักกันครับ ถ้าไม่ได้บ้าแบรนด์นักนะจะช๊อปมันส์เลยครับ ดีบุกถึงกับบอกว่า ดีนะที่แนท ไม่มา (ไม่งั้นมีหมดตัว) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:51:05

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับคุณน้ำตาลกะข้าวตัง มาช๊อปปิ้งด้วยกันเลยครับ อ้อสำหรับแถวๆนี้มีโรงแรมถูกๆแบบคืนละ 300-400  บาทเยอะเลยนะครับ... สามารถมาเสี่ยงโชคแถวนี้ได้ครับ... จากรูปตะกี้จะเป็นหัวมุมถนนที่ตัดกับ Jianghan Road ชื่อ Jianghan Road 1st Road ครับ ก็อารมณ์ซอย 1 หล่ะครับ หันขวาไปจะเป็นตลาดของกินและของจุ๊กจิ๊กครับ... เช่นปลอก iphone อะไรอย่างนั้นครับ คนเยอะมากๆๆๆๆ เดินเข้าไปแปร๊บเดียวต้องถอยร่นออกมา แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 14:20:34 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:58:44

ความคิดเห็นที่ 25 ของกินที่เป้นที่นิยมมากๆของคนจีนคือ อาหารเสียบไม้ปิ้งครับ ซื้อกันคนละ 3-4 ไม้เดินกินกันหงับๆ คงไม่ต่างจากหมูปิ้งบ้านเราครับ แต่ที่นี่ แต่ละคนไม่มีมาดครับ แต่งตัวหรูหราไฮโซขนาดไหน เช่นสาวๆ แต่งเปะเตรียมเข้าผับ เธอถืออิไม้ๆพวกนี้จ้วงกินข้างถนนกันเลยครับ จะมีหลายแบบ รูปนี้จะเป็นแป้งๆ เหมือนลูกชิ้นบ้านเรา บางแบบจะเป็น หมู ไก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ ก็มีครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:03:29

ความคิดเห็นที่ 26 ซ้ำๆ เนตจุฬาฯวันนี้เดี้ยงๆชอบกล แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 14:19:56 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 14:18:15 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:03:43

ความคิดเห็นที่ 27 ผมตามประสาคนพึ่งมาจีนเองครั้งแรกเลยต้องลองครับ... สำหรับอาหารโซนนี้ (รวมไปถึงเฉิงตู ฉงชิ่งด้วย) จะมีรสชาติเผ็ดครับ แต่เผ็ดอย่างเดียวนะไม่กลมกล่อมแบบอาหารบ้านเรา ซึ่งอีปิ้งๆเนี่ยจะอะไรปิ้งไม่รู้ รู้แค่ว่ารสชาติเหมือนกันเดะ..เลยครับ อ้อไม้ตะกี้ 2 หยวนนะ (หรือ 1 หยวนจำไม่ได้ล่ะ) ตอนแรกว่าจะหาอะไรพื้นบ้านกินแต่ดีบุกเห็นว่าท้องไม่ดีเท่าไหร่... เลยเอาของคุ้นลิ้นครับ ไปกิน  Mc หลังจากกินเสร็จเราเดินย้อนกลับไปทางที่จะไปแม่น้ำครับ...เดินไปจนสุดถนนเจอหอนาฬิกาครับ ตอนแรกก็คุยๆกันว่ามันดูยุโรปๆนะ... และมารู้ทีหลัง หลังจากได้โบชัวร์อีกอันนึงมาว่า ย่านนี้สมัยก่อนเป็นที่อยู่ของต่างชาติ พวก โปรตุเกส ฝรั่งเศส รัสเซียเถือกๆนี้ โดยเป็นที่ที่ชาวต่างชาติมาทำการค้าครับ เพราะที่  Wuhan ถือเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำแยงซีเกียงตอนใต้ครับ ถึงว่าได้บรรยากาศยุโรปๆ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:11:19

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนแรกเดินมาสุดนึกว่าจะเจอแม่น้ำเลยที่ไหนได้จลอดถนนเป็นกำแพงสูงๆ กั้น เข้าใจว่าตอนหน้าน้ำ น้ำในแม่น้ำน่าจะสูงเค้าเลยมีการสร้างกำแพงกั้นน้ำไว้ตลอดครับ เลยต้องเดินเลาะๆ ไปอีกหน่อยถึงจะเจอ จริงๆตรงที่เดินมีอาคารนึงสร้างเป็นรูปเรืออยู่ริมน้ำแต่ยังไม่เสร็จดีครับ ย่านริมน้ำแถวนี้นี่ดูแล้วเป็นย่านราตรีครับมี ผับมีดิสโก้ให้เที่ยวได้ครับ จะหาสาวๆหน้าตาดีก้ต้องมาแถวๆนี้หล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าหลังล้างเครื่องสำอางค์ออกหมดแต่ละคนจะเป้นยังไงนะ... ที่ Wuhan คนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งตัวไม่มาก (เพราะเอาจริงๆถ้าเปรียบกับบ้านเราอาจจะเปรียบที่นี้ได้กับ โคราชอะไรอย่างนั้น) แต่คนไหนแต่งตัวแรง ก็แรงตัวแม่ได้โลห์เหมือนกัน.. จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:25:04

ความคิดเห็นที่ 29 จากรูป 14 ผมต้องเดินไปจนถึงจุดเขียวๆนั่นหล่ะครับถึงจะได้เห็นวิวแม่น้ำซึ่งร่วมๆ 1-2 โลจาก Jianghan Road ครับ สรุปวันนี้ผมเดินไป 10  กิโลเมตรไม่ขาดไม่เกิน มาดูแผนที่ทีหลังพึ่งจะเห็นว่าตรงจุดที่ยืนตะกี้เป็นอุโมงค์ข้ามแม้น้ำด้วยนี่นา วิวแม่น้ำมองไปทางซ้ายจะเห็นสะพานข้ามแม้น้ำแยงซี แห่งที่ 2 ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:32:44

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนหันขวาไปจะเป็นท่าเรือครับ...  สามารถข้ามไปฝั่ง หอกะเรียนเหลืองได้ครับ ซึ่งเป้นจุดที่เราจะไปกันพร่งนี้ครับ ตรงแถวๆนี้ก็มีตึกฝั่งตรงข้ามติดไฟ เล่นไฟบ้าง แต่ส่วนตัวผมว่างั้นๆนะไม่สวยอะไรเท่าไหร่ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:40:42

ความคิดเห็นที่ 32 Taxi จากนั้นก็นั่ง Taxi กลับครับ... ที่เมืองจีนนั้นการเดินทางถนนเค้าจะมี ไฮเวย์วนๆ รอบเมืองครับ... ดังนั้นส่วนใหญ่รถจะขับขึ้นสะพานลอยฟ้าพวกนี้ อาจจะดูอ้อมหน่อย แต่ก็น่าจะเร็วกว่าขับฝ่าไฟแดงด้านล่างครับ... ค่า Taxi จะมี 2 ราคาขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของรถ.. รถเก่าราคาจะเริ่มที่ 6 หยวน เพิ่มครั้งละ 0.6 ถ้ารถใหม่ราคาจะเริ่มที่ 8 หยวน เพิ่มครั้งละ 0.6 แต่ที่งงๆและไม่เข้าใจคือทุกคนจะบวกอีก 2 หยวนครับ... ไม่รู้ว่าค่าอะไรแต่เห็นมีแปะๆ อยู่ที่หน้า Taxi ครับ ตอนแรกงงๆ ไม่รู้นึกว่าเค้าจะเก็บเพิ่ม 2 เท่า.. ซักพักเค้าก็หยิบแบงค์ 2 หยวนมาให้ดูเลยโอเคๆ สำหรับ Taxi  ที่นี่ตอนแรกอ่านๆมาโดนขุ๋ไว้เยอะครับว่าโกง ทั้งไม่เปิดมิเตอร์ และขับวน แต่ที่ผขึ้นมา 5-6 ครั้งทั่งที่  Chongqing และ Wuhan ไม่เจอครับ และเวลาจ่ายเงินสมมุติค่ารถ  22 หยวนเวลาจ่ายไปถ้าจ่ายไป 25 แล้วเค้าไม่มีทอน ปกติที่เมืองไทยส่วนใหญ่จะไม่ทอนเลย แต่ที่จีนเค้าคืน 5 หยวนมาแทนครับ (ที่ไทยมีเป็นบางคันที่คืนแบบนี้) สำหรับวันรุ่งขึ้นผมแพลนว่าจะไป 2 ที่ครับคือ วัดกุ้ยหยวน และหอกระเรียนเหลืองครับ... แน่นอนสิ่งที่ยากที่สุดคือเรื่องการเดินทางครับ ดังนั้น เราตัดสินใจเดินทางด้วย Taxi ครับ แต่จะคุยยังไงให้รู้เรื่องหล่ะ... ทำได้ 2 แบบครับ 1. ไปให้น้องที่ Reception โรงแรมเขียนชื่อภาษาจีนให้ครับ 2. แต่จริงๆง่ายสุดคือ เอาแผนที่ให้ดูครับ... เพราะแผนที่จะมีชื่อจีนอยู่ แต่วิธีแรกถ้าน้องที่โรงแรมหน้าตาน่ารักก็สามารถเข้าไปเจาะแจะได้จริงมั๊ยดีบุก (แซวเล่นนะ) เพราะใช้วิธีแรกก็ดีครับ เขียนใส่กระดาษแล้วยื่นเลย เพราะ Taxi ก็เหมือนบ้านเราครับบางทีเค้าดูแผนที่ไม่ออกหรอกครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:08:02

ความคิดเห็นที่ 33 Guiyuan Temple เช้าวันที่ 2 เราไป Guiyuan  Temple กันครับที่นี่เป็นวัดพทุธแห่งแรกของเมืองครับ... ซึ่งเป็นที่ที่ชาวเมืองให้ความศรัทธามากเหมือนกัน... ปล. อย่าถามประวัติไปมากกว่านี้เพราะผมก็ไม่รู้ครับ ที่นี่ค่าเข้าวันที่ ผมไป 15 หยวนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:22:02

ความคิดเห็นที่ 34 ที่นี่เค้าจะให้จุดธูปด้านนอกนะครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:23:59

ความคิดเห็นที่ 35 โซนภายในตัวอาคารเค้าห้ามถ่ายรูปทั้งหมดครับ... แต่ระหว่างอาคารพอถ่ายรุปมาได้บ้าง เท่าที่จำได้จะมีห้องนึงเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม (หรือเปล่าจำไม่ได้) สลักจากไม้ทั้งห้องเลยครับ รูปนี้คนจีนเค้าพยายาม เอาเหรียญมาถูๆ กระถางเพื่อให้เหรียญติดบนกระถางครับ.. แน่นอนผมไม่รู้หรอกว่าทำไปเพื่ออะไร จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:29:13

ความคิดเห็นที่ 36 มาตามติดกระทู้เพราะมีคิวจะไปอู่ฮั่น พฤาภาคมปีหน้า จริงๆก็ตั้งใจว่าจะต่อยอดไปปักกิ่งหรือเซียงไฮ้ หรือจางเจียเจี้ยมากกว่าครับ ไม่รู้คิดถูกคิดผิด แต่ก็จองไปแล้ว 555 ดูจากรีวิว ฉงชิ่ง ไปง่ายกว่าเยอะเลยนะครับ รถไปสนามบินก็ไปด้วยรถไฟฟ้าได้เลย ไม่ต้องมาต่อแท็กซี่หรือรถบัสเข้ามืองแบบนี้ ปล.แก้ไขให้นิดนึง จินปู้ต่ง ไม่มีนะครับ ต้องเป็น ทิงปู้ต่ง แปลว่า ฟังไม่รู้เรื่องครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:35:22

ความคิดเห็นที่ 37 บ้างก็ตั้งเหรียญ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:38:10

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีครับคุณ mr_spurs ขอบคุณครับไปแก้เรียบร้อยแล้วครับ.... ถ้ามีเวลามีรูทนึงที่ผมแนะนำคือ นั่งเรือร่องไปฉงชิ่ง แต่ถ้าดูจากแพลนที่คุณวางไว้ ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่เพราะย้อนทางกลับไป เท่าที่ผมจำได้การเดินทางสะดวกสุดน่าจะเป็น  Airport Bus ครับเพราะมีบางสายจะผ่านสถานีรถไฟ ซึ่งจากที่ผมดูในแผนที่ในเมืง Wuhan จะมีสถานีรถไฟสามจุดคือ Hankou Railway Station  อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Wuhan Railway Station อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง และ Wuchang Railway Station  อยู่ด้านใต้ของเมืองครับ คิดว่าคงต้องดูหล่ะครับว่าคุณต้องไปขึ้นรถไฟต่อไปที่สถานีไหน ซึ่ง 2 ใน 3 คือ Hankou และ Wuchang จะมี  Metro สาย 2 ผ่านครับ (กำหนดเสร็จปีหน้า) นอกจากตั้งบางคนก็โยนเหรียญครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:09:29

ความคิดเห็นที่ 39 เนื่องจากเค้าไม่ให้ถ่ายรูปเลย ผมเลยเดินเร็วๆๆๆ ไปด้านหลังครับ ด้านหลังมีอาคารนี้กำลังก่อสร้างอยู่ไม่รู้คืออะไรเหมือนกัน ปล. ดูท้องฟ้าแล้วแอบเซ็งเป็นวันที่เดินถ่ายรุปใน Wuhan และเป็นวันเดียวที่มีเมฆ ช่างตรงกันเสียนี่กระไร จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:12:32

ความคิดเห็นที่ 40 ใกล้ๆกันมีรูปั้นเจ้าแม่กวนอิม 2 หน้าอยู่ครับ อันนี้ถ่ายหน้าตรงเลยเห็นหน้าเดียว จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:15:49

ความคิดเห็นที่ 41 บรรยากาศในวัดข้างหน้าคือห้องน้ำครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:19:49

ความคิดเห็นที่ 42 เดินอยู่ซัก ชม.นึงไปดีกว่า เพราะถ่ายรูปอะไรๆ ไม่ค่อยได้ที่สำคัญ ผมไม่ถูกโรคกับวัด ไม่ว่าจะวัดไทย วัดจีน ไม่มีปัญญาถ่ายให้สวย ยิ่งแนว life ยิ่งแล้วใหญ่ ไปดีกว่า   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:21:15

ความคิดเห็นที่ 43 ที่ต่อไปที่ราไปคือ  หอกเรียนเหลือง (Yellow Crane Tower) ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะไปยังไง เพราะเท่าที่ถามไม่มีรถเมล์ผ่านจากวัดกุ้ยหยวน (หรืออาจจะมีแต่น้องที่โรงแรมไม่รู้) เราเลย "เดิน" อีกแล้ว.... ถือว่าออกกำลังกายครับ ระหว่างทางเดินออกจากวัดเจอร้านนี้เค้าขายขนมอะไรซักอย่าง เหมือนแป้งโรตี แล้วผสมพริกเผ็ดๆ กับใส้คล้ายๆใส้เกี้ยวซ่า มีราคา  3-4-5  หยวน แน่นอนผมไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง ใข้วิธีจิ้มๆเอาครับ เค้าจะเอาแป้งที่นวดแล้วไปปั้นเป็นแผ่นแล้วเอาลงไปคั่ว/อบด้วยก้อนหินร้อนๆ (เหมือนคั่วเกาลัคเลย) รสชาติ คล้ายๆ อิลูกชิ้นปิ้งเลย แค่เปลี่ยนเป็นอบแทนเท่านั้น คนที่นี่เค้ากินกันรสชาติเดียวเหรอเนี่ย T___T จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:32:55

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนนั้นเที่ยงๆแล้วเลยแสะกินกันก่อน อาศัยร้านที่มีรูปให้ดูครับ... แล้วจิ้มเอา... ปรากฎว่าร้านมีรูปติดหน้าร้านแต่เมนูในร้านไม่มีรุปเลย พาอาเจ้แกมาหน้าร้านแล้วจิิ้มให้ดูมาตรูจะเอาอันนี้แหละ... เห็นม่ะพูดจีนไม่ได้ไม่ใช่ประเด็น ภาษาร่างกายนี่แหละทำให้เรารอดตายได้ครับ ของผมได้อันนี้มาเป็นบะหมี่เนื้อตุ๋นเผ็ดๆ + ลูกชิ้น (ลูกชิ้นอร่อยชอบๆ) ราคาประมาณ 7-10  หยวนมั๊ง จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:38:09

ความคิดเห็นที่ 45 อันนี้ของดีบุก.. เสี่ยวหลงเปา จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:39:34

ความคิดเห็นที่ 46 จากนั้นก็เดินๆๆๆๆๆๆ ไปหอกะเรียนครับ จริงๆแนะนำว่านั่ง Taxi น่าจะดีกว่าครับราคาประมาณ 20  หยวน คุ้มกว่าเดินเป็นไหนๆ แต่การเดินก็ไม่ใช่มีแต่ข้อเสียหรอกครับ... มันก็ทำให้เราเห็นสภาพเมืองของเค้าดีนะ... ดีกว่าไปเที่ยวตามจุดเที่ยวๆๆๆ กลับ นี่เป็นกำแพงที่มีเด็กๆ (มั๊ง) มาวาดรูปเล่นกันครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:43:23

ความคิดเห็นที่ 47 ที่ Wuhan  ตรงจุดที่เป็นเมืองสังเกตุว่าแทบไม่มีต้นไม้ริมถนนเลยครับ... มีแต่ตึกๆๆๆ แต่ว่าที่นี่ก็มีสวนอยู่รอบๆเมืองหลายๆที่เหมือนกันนะ... อันนี้เป็นสวนที่เดินผ่านครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:46:52

ความคิดเห็นที่ 48 นี่เป็นอีก Landmark นึงครับ Guishan tv tower อยู่ที่เขาเต่า (Turtle Hill) ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับ หอกะเรียนเหลืองครับ มันมีจุดชมวิวสูงประมาณ 200 เมตรครับ แต่ๆๆ ไม่แน่ใจว่าเค้าให้คนทั่วไปเข้าได้หรือเปล่า เพราะผมไม่ได้ไป แต่ถ้าได้ถือว่าเป็นจุดที่วิวดีนะครับ เพราะจะเป็นจุดที่เห็น แม่น้ำ 2 สายมาเชื่อมกันพอดีครับ เป็นช่วงเวลาไม่มากที่พอเห็นท้องฟ้าสีฟ้า แต่เป็นท้องฟ้าที่มัวมากครับ ไม่รู้ว่ามันมัวด้วยฝุ่นหรือมัวด้วยหมอกกันแน่ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:57:01

ความคิดเห็นที่ 49 อันนี้มุมจากริมแม่น้ำแยงซีมองข้ามไปอีกฝั่ง เห็นเรือขนทรายแล้ว โอวววว ใหญ่มาก ใหญ่กว่าเรือขนทรายบ้านเราซัก 10 เท่า เป้นเรือแบบมีเครื่องยนต์เอง ไม่ได้แบบลากๆ เหมือนบ้านเราครับ แต่แม่น้ำเค้าก็ใหญ่กว่าเจ้าพระยาเราเยอะอยู่ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:07:20

ความคิดเห็นที่ 50 ตรงริมน้ำเป็นเหมือนสวนสาธารณะวันที่ผมไปผมเห็นคู่แต่งงานมาถ่ายรูป Pre-Wedding เกือบ 10 คู่เลยครับ ตอนแรกคิดว่าจะเดินข้ามสะพานแค่ดูแผนที่แล้วเปลี่ยนใจ ลองนั่งเรือข้ามฝากไปดีกว่าครับค่าเรือ  3 หยวนมั๊ง เรือลำใหญ่ประมาณเรือล่องเจ้าพระยาบ้านเราเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:10:34

ความคิดเห็นที่ 51 ช่วงนั่งเรือก็ถือเป็นช่วงที่ผมได้พักหล่ะครับหลังจากเดินเหนื่อยมากมา 2 วันล่ะ เรือที่ข้ามจะมาฝั่ง LingJiang Avenue ครับ ซึ่งริมฝั่งนี้จะมีพวก Tour Agency ครับ เข้าใจว่าใครอยากหาพวก One Day Trip ไป ผาแดง หรือไปบู้ตึ้ง หรือนั่งเรือไปฉงชิ่ง ก็สามารถมาหาแถวนี้ได้ครับ.. แต่ประเด็นสำคัญคือจะคุยรู้เรื่องหรือเปล่านี่แหละ จากท่าเรือให้เดินย้อนกลับมาทางสะพานครับ จะผ่านถนนนึงชื่อ Minzhu Road จะเป็นถนนคนเดินท่ตัดไปถึง Yellow Crane Tower ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:20:31

ความคิดเห็นที่ 52 ซึ่งถนนนี้แหละคืนนี้เราจะมาเดินอีกรอบ เพราะเป็นอีกแหล่งช๊อปปิ้ง และกินครับ แต่บ่ายนี้ผมเดินไปสุดถนนจนตัดกับ Jiefang Avenue ครับ ตรง  Jiefang Avenue ก็เป็นอีกที่นึงที่เป็นถนนช๊อปปิ้งได้ครับ คนเยอะมว๊ากกก คนเยอะจนตัดสินใจไม่เดินลงไปครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:25:49

ความคิดเห็นที่ 53 จากนั้นก็เดินๆๆๆ ต่อไปที่ Yellow Crane Tower ที่เป็น Landmak อันดับหนึ่งของ Wuhan ครับ ค่าเข้าปกติ 80 แต่ไม่เข้าใจว่าวันที่ผมไปทำไมราคาแค่ 64 หยวน เลยเดากันขำๆว่า วันชาติจีนลดราคา 20%  ครับ นี่ถ่ายจากด้านนอกแทบไม่เห็นอะไร จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:29:24

ความคิดเห็นที่ 54 วิวด้านในหลังจ่ายเงินแล้วต่างกันราวฟ้ากะเหว เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่ววิวสวยๆ   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:31:38

ความคิดเห็นที่ 55 มุมใกล้ๆพร้อมเกรียน เอ้ยกระเรียน สัญลักษณ์ของที่นี่ครับ จริงๆในความโชคร้ายที่วันนี้ไม่ค่อยมีแดด แต่เป็นความโชคดีที่มีฟ้าฟ้าๆ อยู่ตรงเฉพาะหอนี้พอดีครับ.... สำหรับหอกระเรียนเหลืองนั้น สมัยก่อนใช้เป็นหอสังเกตุการณ์ข้าศึกที่ล่องแม่น้ำมาครับ.. ซึ่งถ้าวันที่อากาศดีๆ ว่ากันว่ามองได้ไกลเป็นสิบๆ กิโลเมตรเลยทีเดียวครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:36:21

ความคิดเห็นที่ 56 วันที่ผมไปฟ้ามัวขนาดไหนก็ดูเอาครับ. สำหรับที่นี่เค้าให้ขึ้นหอกระเรียนได้ถึง  1 ทุ่มนะครับ... จริงๆ ถ้าผมมาคนเดียวคงรอ Twilight แถวๆนี้หล่ะครับ... อยากถ่าย  Time lapse มุมนี้แต่คุณน้องดีบุกคงไม่รอผมแน่ๆ เลยลงก็ได้ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:48:48

ความคิดเห็นที่ 57 หันไปอีกฝั่งฟ้าก็ไม่ใส... ผมถึงบอกว่าแปลกแต่จริงๆ คือมีฟ้าสวยๆ แค่มุมที่ผมถ่ายหอกระเรียนงัดขึ้นมานี่หล่ะครับ ปล. จริงๆที่เห็นนั่นเดินไปได้นะ แต่ตอนนั้นไม่ไหวล่ะไม่อยากเดินแล้วเลยไม่ไปครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:51:02

ความคิดเห็นที่ 58 มองไปทางเหนือได้วิวนี้ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:52:39

ความคิดเห็นที่ 59 จากนั้นเดินตัดลงไปที่  Minzhu Road ครับจะเห้นว่าคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมไปนั่งพักที่ร้านกาแฟแถวนั้นครับ.... แต่กาแฟที่จีนจะแพงมาก ราว 30-60 หยวน (เห็นว่าไม่มีเองต้องนำเข้าจากเวียดนามครับ) เลยไม่กินครับ ผมเลยกินชาแทน นั่งเล่นพักเหนื่อย ก่อนจะลุยถ่าย Twilight ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:56:46

ความคิดเห็นที่ 60 พอเริ่มตกเย็นเราเดินย้อนไปที่สะพานครับ สะพานนี้ชื่อเต็มๆคือ Wuhan Changjiang Bridge เป็นสะพานแห่งแรกของ Wuhan ครับโดยสะพานแห่งนี้เป็นทั้งสะพาน รถ และรถไฟซ้อนกันอยู่ครับ ปล. รูปนี้ถ่ายตอนลงมาแล้วครับ ที่เห็นลิบๆนั้นคือ Guishan TV tower ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:59:49

ความคิดเห็นที่ 61 สำหรับการขึ้นไปบนสะพาน ถ้าอยู่ตรงแม่น้ำ ขึ้นได้ด้วยลิฟท์ครับ คนละ 2 หยวน แต่ถ้าเดินมาจาก  Yellow Crane Tower ก็ได้ครับอันนั้นฟรีไม่เสียตังค์ แต่ตอนลงก็เสียค่าลง อยู่ดีเพราะเค้าปิดบันไดไว้ครับ หลังจากรออยู่พักใหญ่ผมก็ได้ถ่าย Twilight แรกของทริปนี้บนสะพานนี้นี่แหละครับ ที่เห็นมุมซ้ายไกลๆ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำอีกอันนึงชื่อ  Qingchuan Bridge ครับ เป็น  Landmark อีกแห่งหนึ่งของ Wuhan ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:04:14

ความคิดเห็นที่ 62 จริงๆที่ขึ้นสะพานมาอีกอย่างนึงที่กะมาถ่ายคือ หอกระเรียนเหลือง ตอนเปิดไฟครับ... แต่ไฟที่เปิดมาชวนให้ผิดหวังเล็กน้อยเพราะว่าเค้าไม่ยิง  สปอทไลท์ครับ แต่เปิดไฟดวงๆ ที่แขวนไว้ตามหลังคาแทน ส่วนตัวแล้วไม่ชอบมันดูลิเกไปหน่อย ซึ่งถ้าเข้าเปิด สปทไลท์ ยิงมาด้วยมันจะสวยกว่านี้มากๆๆๆ เลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:09:03

ความคิดเห็นที่ 63 แต่ทำยังไงได้เค้าไม่เปิดก็ผิดหวังกันไป... แต่ที่จีนเห็นทั้ง Wuhan และ  Chongqing คือ สะพานเค้าจะเปิดไฟสวยทุกสะพานเลยครับ... ถ้ามีเวลาพอนี่ผมคงตระเวนถ่ายทุกสะพานเป็นแน่แท้... มุมนี้เหมือน  Harbour Bridge ที่ Australia ม่ะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:11:50

ความคิดเห็นที่ 64 จากนั้นได้เวลากินครับ มาที่ถนนเดิม... Minzhu Road ตรงกลางๆถนนจะมีแยกซ้ายมือเข้าไปเป็นถนนของกินทั้งหมดครับ... มือนี้เลยออกแนวกินแบบคนท้แงถิ่นครับ อยากกินอะไรจิ้มๆเอา ลองไปเรื่อยครับ แต่ส่วนใหญ่อาหารรสเผ็ด (เหมือนอิปิ้งๆที่ผมบอกอ่ะครับ) เกือยทุกอย่างรสชาติเหมือนกันเด๊ะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:16:53

ความคิดเห็นที่ 65 ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:17:45

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นเค้า (ดีบุก) ว่าผลไม้เคลือบเนี่ย ฮิตที่นี่ ได้แต่ถ่ายมาลมชิม (เพราะผมเป็นคนไม่กินผลไม้เลยลืมซื้อชิมซะงั้นเลย ) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:19:27

ความคิดเห็นที่ 67 ดูไปดูมาชักน่ากินเริ่มเสียดายล่ะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:21:54

ความคิดเห็นที่ 68 หลังจากกินเสร็จก็กลับครับ... เป็นอันว่าหมดวันที่ 2 ครับ... เหนื่อยอีกแล้ว... สำหรับวันรุ่งขึ้นผมมีแพลนไป Hubei Museum ครับ แล้วต่อด้วยEast Lake อีกหน 2 Landmark ของที่  Wuhan ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:25:03

ความคิดเห็นที่ 69 สำหรับ  Hubei Museum และ East Lake จะอยู่ไกลออกไปหน่อย แต่มารู้ทีหลังว่ามีรถเมล์ที่ผ่านหน้าที่พักที่ IBIS ด้วยคือสาย 411 ตอนไปก็เลยจัด Taxi ไปครับน่าจะ 30-40 หยวนมั๊งครับจำไม่ได้ล่ะ... ที่ Museum คนเยอะมากเดาว่าอาจจะเพราะที่นี่พึ่งเปิดได้ไม่นานและวันที่ผมไปก็เป็นช่วงวันหยุดของจีน และที่สำคัญ เข้าฟรีครับ.... สำหรับที่นี่ ปกติแล้วจะจำกัดว่าวันนึงเข้าช่วงเช้าได้ไม่เกิน  3500 คนครับแต่วันนั้นคหยวนๆ เพราะคนเยอะและเข้าเกินครับ.. ตอนผมไปเอาขาตั้งกล้องไปด้วย แต่เค้าไม่ให้เอาเข้านะต้องเอาไปฝากไว้ซึ่งตอนเจ้าหน้าที่มาบอกระหว่างเข้าแถวอยู่เราก็เข้าใจหล่ะ แต่ประเด็นคือจะให้เอาไปฝากที่ไหน.. นี่แหละที่คุยไม่รู้เรื่อง สรุปว่า เค้าเลยหาคนจีนแถวนั้น (ที่เดินมากับฝรั่ง) ให้มาพูดกับผม ซึ่งชมเชยว่าเจ้าหน้าที่เค้าแก้ปัญหาได้ดีครับ ตาไวมาก เพราะจริงๆแล้วที่  Wuhan ต่างชาติน้อยมากๆๆๆๆ ครับ และคนที่นั้นพูดอังกฤษได้น้อยมากๆ คุณเจ้าหน้าที่เค้าตาไวเห็นสาวจีนคนนี้ควงฝรั่งมาเลยพามาเป็นล่ามให้ผม สรุปว่าเค้าบอกให้เดินตามเจ้าหน้าที่อีกคนไปไปฝากขาตั้งกล้อง ซึ่งตรงที่ฝากขามันอยู่ด้านในแล้วเลยเหมือนว่าผมได้คิวลัดเข้าไปเลยซะงั้น   แต่สุดท้ายก็ต้องมารอดีบุกด้านในอยู่ดีนั่นหล่ะ รูปช่วงเช้าย้อนแสงเต็มๆครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:36:44

ความคิดเห็นที่ 70 นี่ถ่ายมาจาก Museum  จะเห็นว่ามีตึกเล็กๆ 2 ปีกด้านนึงเสร็จแล้วอีกด้านยังสร้างอยู่เลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:42:36

ความคิดเห็นที่ 71 สำหรับใน Museum ก็จะเป็นประวัติต่างๆ ของ  Hubei เป็นหลักครับ อาจจะให้อารมณ์ของ  Museum Siam บ้านเราครับ แต่ไม่เก๋เท่า แต่ขนาด Museum ใหญ่กว่า มี่ที่เดาว่าเป็น Hilight คือส่วนนี่ครับ เหมือนจะเป็นการไปขุดเจอหลุมศพของใครซักคนครับ แบบว่าอลังการมากครับ... จะมีบอกหมดเลยว่าในหลุมนั้นมีใครบ้าง แบบว่างานนี้ตายคนเดียวแต่บริวารที่ตามไปด้วยเพียบครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:49:13

ความคิดเห็นที่ 72 บรรดายุทโธปกรณ์ที่เจอครับ มีโลงศพด้วยนะแบบว่าใหญ่มาก ถ้าจุคนจริงๆ คงจุได้เป็น ร้อยคนเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:52:16

ความคิดเห็นที่ 73 ที่เหลือก็จะออกแนว Museum ทั่วๆไปที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของที่นี่ครับ ซึ่งผมเองไม่ค่อยจะ Appreciate เท่าไหร่อยู่แล้ว ขนาดตอนไป Louvre ยังหลงระเริงกับการถ่ายด้านนอกโดยไม่ได้เข้าไปเดินข้างในเลยครับ จากนั้นผมไปที่ East Lake ต่อด้วยการเดิน (อีกแล้ว) เพราะจาก Museum มันสามารถเดินซอยข้างๆ เข้าไปได้ครับ แต่อันนี้ไม่ไกลเท่าไหร่ซัก โลกว่าๆก็ถึงครับ แล้วทางเดินก็ร่มดีด้วยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 18:56:55

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับคุณเอ๋อ้อย ผมเข้าไปดูแล้วสถานีรถไฟที่ไปปักกิ่ง เซียงไฮ้ จะมีทั้งไปจาก Wuchuang และ Hankou ปัญหาก็คือรถไฟใต้ดินปีหน้าจะเปิดทันผมบินไปช่วงเดือนพฤษภาคมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ^^ ปล.ภาพสวยมากนะครับ แต่ผมดูจากรีวิวแล้วผมชอบฉงชิ่งมากกว่าอู่ฮั่นแฮะ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:06:23

ความคิดเห็นที่ 75 คุณmr_spurs ครับ ส่วนตัวที่ผมได้แว๊บไปฉงชิ่งมา ผมด็ชอบมากกว่าอู่ฮั่นครับ เพราะในความเป็นเมือง ฉงชิ่งมีมากกว่าและสวยกว่าครับ แต่ที่เที่ยวนอกเมืองอันนี้ไม่ได้ไปทั้งคุ่เลยไม่รู้อันไหนเป็นยังไงครับ East Lake เป็นเหมือนสวนสาธารณธใหญ่ๆของ Wuhan ครับ โดยเป็น lake ที่ใหญ่ที่สุดของที่นีี่ถ้าผมอ่านมาไม่ผิดเห็นว่ากินพื้นที่ทั้งหมดเกือบ  1/4 ของเขตเมืองเลยครับ... ดังนั้นจะเห็นคนมาเดินเล่นที่นี่กันเยอะมากครับ อารมณ์ว่ามาปิคนิตกันนั่นหล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:17:54

ความคิดเห็นที่ 76 โซนน้ำมีทั้งเรือ  Speed Boat และเรือพายให้นั่งชมวิวครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:19:36

ความคิดเห็นที่ 77 เรือถีบก็มีอันนี้สไตล์จีนมาเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:24:47

ความคิดเห็นที่ 78 ตามรอบๆ lake จะมีอาคารต่างๆ ครับ อันนี้เป็นหออะไรซักอย่าง ถ้าดูตาม map  จะชื่อ Xingyin Pavillion ครับ สามารถขึ้นไปชมวิวได้ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:29:59

ความคิดเห็นที่ 79 มีเล่น paragliding กันด้วยครับเรียกว่ามีครบเลย ถ้าบ้านเราต้องมี  banana boat อีกอย่างนึงครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:32:05

ความคิดเห็นที่ 80 จริงๆใน Lake มีที่เที่ยวอีกเยอะมากครับ แต่ว่าเราไม่ได้ไป (เพราะไม่รู้จะไปยังไง) มีจุดนึงจะเป็นชายหาดครับ ตรงกลาง lake จะมีเนินเขาด้วยซึ่งสามารถถ่ายวิวมุมสูงลงมาได้ (แต่ไม่รู้จะไปยังไงเข้นกันครับ) เลยออกแนวเดินชิวๆริม lake เสียมากกว่าครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:35:20

ความคิดเห็นที่ 81 หลังจากเดินเล่นเสร็จก็ออกมาด้านหน้าทางเข้า หาของกินครับ กะว่าวันนี้จะกินอาหารพื้นเมืองให้ได้ ไปนั่งแน่นอนไม่มีรูปมาให้สั่งหรอกครับ ดีบุกชิงเอาตัวรอดก่อนด้วยการไปสั่งมาม่าจากร้านขายของชำข้างๆกิน ผมก็เลยบุกไปในร้านครับไปสั่ง โดยวิธีเดิม เดินไปที่โต๊ะซักโต๊ะ.. แล้วชี้เลยครับว่าจะเอาอันนั้นอันนี้ (โดยดูจากซากที่เหลือของโต๊ะอื่นนี่แหละ) ได้มา 2 อย่างเมนูแรกอยากกินตั้งแต่วันก่อนแต่ไม่ได้กินเพราะหมด... หมูสามชั้นพะโล้อะไรประมาณเนี้ยครับ แต่เวลากินต้องตัดมันทิ้งพอควรเลย   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 19:40:04