ความคิดเห็นที่ 1 ที่ผมกำลังเอ่ยอยู่นั้นคือ “โรงรถจักรธนบุรี” สถานที่จอดเก็บ และซ่อมบำรุงคุณทวด (ต้องใช้คำว่าทวด) ทั้ง 5 คัน ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายที่ยังหายใจอยู่ ถึงแม้ว่าจะรวยรินมากแล้วก็ตาม โรงรถจักรแห่งนี้เป็นที่พักพิง ที่หลับนอน โรงหมอ หรือแม้แต่ “บ้านพักคนชรา” ของรถไฟ ที่มีลูกๆหลานๆ คนรถไฟคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง รถจักรไอน้ำที่ใช้การได้ของการรถไฟนั้นมีอยู่ทั้งหมด 5 คัน ซึ่งแบ่งออกเป็นสามรุ่นคือ 1. รถจักรไอน้ำ C56 จำนวน 2 คัน หมายเลข 713 และ 715 2. รถจักรไอน้ำ แปซิฟิก จำนวน 2 คัน หมายเลข 824 และ 850 3. รถจักรไอน้ำ มิกาโด จำนวน 1 คัน หมายเลข 953 จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:54:55

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงชีวิตของคุณทวดทั้ง 5 นั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ บางคันนั้นใช้มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และบางคันนั้นก็มาอยู่เมืองไทยช่วงสงครามพอดี ถ้าเป็นคนนั้นก็คงถึงวัยเกษียณกันแล้ว เมื่อก่อนนั้นเมื่อรถจักรดีเซลเข้ามามีบทบาทหลักในการขนส่งทางรถไฟ รถจักรไอน้ำก็ค่อยๆลดความสำคัญลง จากวิ่งทางไกล ก็ใช้วิ่งระยะใกล้ วิ่งรถสินค้า หรือรถท้องถิ่น จนสุดท้ายก็ถูกเก็บรักษาไว้ในฐานะผู้อาวุโสบนรางเหล็ก และทั้ง 5 คันนั้นถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่ “โรงรถจักรธนบุรี” ซึ่งเป็นที่พักพิงที่สุดท้ายของบั้นปลายชีวิตผู้อาวุโสเหล่านั้น จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:55:31

ความคิดเห็นที่ 3 การปลุกรถจักรไอน้ำให้กลับมาโลดแล่นบนรางเหล็กนั้นโดยส่วนมากแล้วจะเป็นในโอกาสสำคัญๆ ซึ่งคนไทยจะสิทธิ์ได้เห็นเพียง 4 ครั้งต่อปีเท่านั้นคือ วันที่ 26 มีนาคม (วันสถาปนากิจการรถไฟไทย) วันที่ 12 สิงหาคม (วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) วันที่ 23 ตุลาคม (วันปิยมหาราช) และวันที่ 5 ธันวาคม (วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ) และเส้นทางที่จะพบเห็นได้ นั่คือ กรุงเทพ – อยุธยา อันเป็นเส้นทางแรกที่เราเปิดเดินรถไฟในสยาม จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:56:31

ความคิดเห็นที่ 4 แม่เคยเล่าให้ฟังว่า “สมัยเด็กๆ เวลาแม่ออกไปนา จะเห็นรถไฟเที่ยวแรกใช้หัวรถจักรไอน้ำลาก ควันมันดำเหมือนไฟไหม้เลย เสียงแฉ่ๆดังตามลูกสูบล้อมันน่ะแหละ ลูกไฟนะพุ่งเป็นสายๆ ยิ่งถ้าหน้าหนาวฟ้ายังไม่สว่างนะ ลูกไฟแดงแจ๋เลย” ผมก็ได้แต่ฟังแม่เล่าให้ฟังเท่านั้นแหละแล้วก็จินตนาการไปว่ามันจะเป็นยังไง ซึ่งผมเคยนั่งแล้วนะสมัยเด็กๆ ไปอยุธยาครั้งนึง ไปกาญจนบุรีครั้งนึง แต่ก็ยังเลือนรางในความทรงจำ จนกระทั่งผมอายุได้ 17 อันเป็นช่วงแรกจริงๆที่กลับไปฟื้นความทรงจำอีกครั้งกับรถจักรไอน้ำ สายกรุงเทพ – อยุธยา วินาทีนั้นมันเหมือนกับสิ่งที่แม่เล่าให้ฟังมันกลับมาชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ม้าเหล็กสีดำมันขลับ ดูยิ่งใหญ่ทรงพลัง พ่นควันสู่อากาศสีดำคล้ำ เบื้องล่างตรงลูกสูบนั้นพ่นไอน้ำสีขาวร้อนจี๋อยู่ตลอดเวลา เสียงวี้!!!!! ดังชัดเจนเหมือนใครสักคนลืมกานกหวีดทิ้งเอาไว้ ความรู้สึกทึ่งปนดีใจสลับกันไปอย่างบอกไม่ถูก จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:57:41

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อมีโอกาส ผมก็จะกลับมาเยี่ยมคุณทวดทุกครั้งที่ทำได้ จนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ผมก็ได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมคุณทวดอีกครั้ง  "ซึ่งนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นเขาออกมาโลดแล่น บนรางเหล็ก" จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:59:00

ความคิดเห็นที่ 6 8 นาฬิกาตรง เมื่อสิ้นเสียงระฆัง เสียงวี๊ดดดดดดดแหลมสูงดังขึ้น เป็นสัญญาณหวีดที่บอกว่ารถจักรไอน้ำพร้อมมุ่งหน้าสู่อยุธยาแล้ว ขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำที่ 901 กรุงเทพ – อยุธยา ในวันที่ 26 มีนาคม 2554 ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสถานีกรุงเทพ เสียงฉึก ฉัก ดังเป็นจังหวะ จากช้าๆ ก็เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงหวีดยังคงดังต่อเนื่อง ถ้าหากว่าให้สังเกตดีๆ เราจะใช้รถจักรไอน้ำ 2 คัน ช่วยกันลาก ช่วยกันดัน ด้วยเพราะข้อจำกัดที่เราไม่มี “วงเวียนกลับรถจักร” เหมือนแต่ก่อนแล้ว จำเป็นที่จะต้องนำรถจักรไอน้ำ 2 คัน หันหลังชนกัน คันหนึ่งหันหน้าไปทิศเหนือ อีกคันหนึ่งหันหน้าไปทิศใต้ เมื่อถึงเวลาวิ่งกลับมากรุงเทพ ก็จะไม่มีคันไหน “เอาก้นออกวิ่ง” ซึ่งการชักหวีด ภาษาคนรถไฟเขาเรียกหวูดว่า “หวีด” และรถจักรไอน้ำจะใช้มือชักอุปกรณ์หนึ่งซึ่งจะทำให้ลิ้นของหวีดถูกเปิดออก ไอน้ำจะพุ่งผ่านลิ้นนี้ออกมาเป็นเสียง วี๊ววววววววว กลายเป็นเสียงหวีดอันเป็นเอกลักษณ์ของรถจักรไอน้ำ ที่แม่ผมบอกว่า เหมือนเสียงเปรต (เรียกซะน่ากลัวเชียว) ผมยืนอยู่ปลายชานชาลาสถานีกรุงเทพ มองจนท้ายของรถจักรไอน้ำนั้นลับไป ก่อนที่จะโบกมือเรียกแท๊กซี่เพื่อไล่กวดไปให้ทันก่อนถึงดอนเมือง เพื่อเก็บรูปของผู้อาวุโสบนรางเหล็กแบบปราศจากผู้คน จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:00:19

ความคิดเห็นที่ 7 แท็กซี่พาผมมาถึงถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมกับการโทรเช็คกับเพื่อนเป็นระยะๆว่า รถอยู่ที่ไหนแล้ว เพราะบางทีก็แอบกลัวเหมือนกันว่าจะพลาดภาพสำคัญไป เพราะทุกวินาทีเรามีค่า (แอบหัวเราะหึหึในใจ) สุดท้ายแล้ว ผมก็ขอให้พี๋โชเฟอร์จอดตรงข้ามกับร้านเจ๊เล้ง แล้วลงมายืนรอ ขบวน 901 คนเดียว บนรางรถไฟ รอบข้างไม่มีคนเลย ช่างเป็นมุมประทับใจยิ่งนัก 5 นาทีผ่านไป ควันสีดำก็ปรากฏขึ้นทางด้านทิศใต้ เป็นสัญญาณบอกว่า “เขามาแล้ว” (แอบคิดในใจอีกครั้งว่า มันก่อมลพิษไหมนั่น ?) เมื่อนายแบบมา ตากล้องต้องพร้อม จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:01:11

ความคิดเห็นที่ 8 จุดดำเล็กๆ ค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงวี้ดแหลมลอยผ่านลมมา ช่างโชคดีเป็นอย่างมากที่เผอิญรถติดตรงถนนเลียบทางรถไฟพอดี สายตาคนบนนถนนคงสงสัยนะว่าผมมายืนทำอะไรอยู่กลางรางรถไฟพอดี แต่ผมก็เชื่อนะว่าเขาคงได้คำตอบทันที ที่ขบวนรถพิเศษจักรไอน้ำ ขบวน 901 วิ่งผ่านไปด้วยความรวดเร็ว บางคนถึงกับเปิดหน้าต่างรถเพื่อถามว่า “น้องๆ ขบวนนี้ไปไหนน่ะ สวยจังเลย” "น้องๆ รถไฟโบราณรึเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เห็น สวยสง่าจริงๆ" จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:02:45

ความคิดเห็นที่ 9 ผมถึงสถานีอยุธยาก่อนขบวน 901 ประมาณ 30 นาที คุณอาจสงสัยว่าผมเหาะมาหรือเปล่า คำตอบก็คือ ครับ ผมเหาะมา มาแบบว่องไวด้วย เพราะว่าหลังจากที่ผมลั่นชัตเตอร์ใส่ขบวนรถจักรไอน้ำแล้ว ผมก็รีบโบกมอเตอร์ไซค์มาที่สถานีดอนเมืองเพื่อให้ทันขบวนรถด่วน 75 กรุงเทพ – อุดรธานี ที่วิ่งตามหลังมา ก่อนที่จะกระโดดขึ้นรถด่วนเที่ยวนี้ แล้วแซงขบวนรถจักรไอน้ำแบบหน้าตาเฉย ทิ้งให้คุณทวดวิ่งไล่หลังลูกหลานแบบงงๆ (อกตัญญูมากเลยเรา...)   รอบข้างของผมตอนนี้มีผู้คนมากมายที่รู้ข่าว พาลูกพาหลานมารอดูขบวนรถพิเศษเที่ยวนี้ บางคนเป็นคนพื้นที่บ้าง บางคนก็ตามมาจากกรุงเทพเหมือนกับผมเนี่ยแหละ ช่างน่าประทับใจจริงๆที่เห็นคนไทยเราเห็นความสำคัญกับรถไฟอยู่ และโดยเฉพาะในโอกาสพิเศษแบบนี้ด้วยแล้ว จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:04:03

ความคิดเห็นที่ 10 บางครั้ง การเก็บภาพระยะไกล มันก็เป็นความสวยงามอีกแบบหนึ่ง จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:04:42

ความคิดเห็นที่ 11 10.05 นาที ควรเป็นเวลาที่ ขบวน 901 จะต้องถึงอยุธยาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววแม้แต่เงา อากาศก็อบอวลไปด้วยไอแดดอันร้อนแรงของฤดูร้อน มีลมพัดอ่อนๆมาให้คลายร้อนได้บ้างแต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลยสำหรับการยืนกลางแดดเปรี้ยงขนาดนี้ แต่ตอนนี้รอบตัวผมเต็มไปด้วยคนรักรถไฟจากทั่วสารทิศที่มารอดูขบวนรถพิเศษเที่ยวนี้ ทุกคนนั้นมีอาวุธประจำตัวคือ กล้องถ่ายรูป ยืนกระจายไปตามจุดต่างๆที่เขาคาดคะเนแล้วว่า มุมนี้สวยและเหมาะสำหรับเขาที่สุด จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:05:33

ความคิดเห็นที่ 12 ชั่วอึดใจเดียว ขบวนรถพิเศษจักรไอน้ำก็ปรากฏกายขึ้น เสียงรัวชัดเตอร์ดัง แชะ แชะ แชะ แชะ ไม่ขาดสาย พร้อมกับการชักหวีดทักทายพวกเราจาก พขร. เมื่อขบวนรถหยุดนิ่งนักท่องเที่ยวบนขบวนรถก็ทยอยกันลงมา บ้างก็มาถ่ายรูปคู่กับหัวรถจักร บ้างก็หาเช่ารถตุ๊กๆเที่ยว บ้างก็ไปกับทัวร์ที่จัดร่วมกับการรถไฟ แต่สำหรับผมแล้ว การที่ได้อยู่กับรถจักรไอน้ำทั้งวันก็เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้วล่ะครับ บางทีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหล่าบรรดาผู้อาวุโสแห่งรางเหล็กนั้นจะอยู่กับพวกเราได้อีกนานเท่าไหร่ ฉะนั้นแล้วต้องเก็บความทรงจำและวันดีดีเหล่านั้นให้นานที่สุด คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:06:17

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับผมแล้ว การเดินทางที่แสนวิเศษนั้นมันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง ความรู้สึกนั้นเหมือนผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง กว่าจะเข้าใจได้ว่า เป็นเวลา 5 โมงเย็น ก็ต้องใช้สติคิดอยู่นาน ผมตัดสินใจกลับกรุงเทพกับขบวนรถจักรไอน้ำขบวนที่ 902 อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนเดียวกับเมื่อเช้า ม้าเหล็กค่อยๆเคลื่อนออกจากสถานีอยุธยาพร้อมกับแสงแดดจางๆในยามเย็นที่สาดส่องให้ทั่วทั้งทุ่งนาเป็นสีทอง ขบวนรถในขากลับนั้นวิ่งไม่เร็วมาก คงเพราะอาจจะเหนื่อยล้ากับการวิ่งไกลๆ ก้ไม่ต่างอะไรกับผู้ชราที่มักจะมีปัญหากับไขข้อ จนแสงสุดท้ายของวันหมดไป เราก็ได้รับการต้อนรับจากแสงไฟยามราตรีของเมืองหลวง จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:07:23

ความคิดเห็นที่ 14 ทุกครั้งที่รถไฟหยุดตามสถานี ไม่ว่าจะเป็นรังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ สามเสน หรือกรุงเทพ จะต้องมีคนหันหน้ามามอง มาชม มาดู หรือถ่ายรุปผู้อาวุโสแห่งรางเหล็กนี้ทุกครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกตื้นตันบวกกับประทับใจอย่างบอกไม่ถูก เสียงหวีดแหลมดังขึ้นทุกครั้งเหมือนกับจิตวิญญาณของคนรถไฟได้ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง ความอิ่มเอิบใจมันแผ่ไปทั่วเหมือนน้ำอุ่นที่อาบร่างทุกครั้งที่เห็นสายตาผู้คนมองรถจักรไอน้ำด้วยความชื่นชม จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:10:13

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ขณะนี้รถจักรไอน้ำคันเก่งของเราหมายเลข 824 และ 953 ได้มาหยุดสนิทอยู่ที่ชานชาลาสถานีกรุงเทพ ถ้าจะให้เปรียบว่าเหมือนดาราดังก้คงได้ เพราะเมื่อล้อเหล็กหยุดสนิท ก็มีผู้คนเข้ามามุงดุ เข้ามาถ่ายรูปคู่กับคุณทวดใจดีทั้ง 2 คัน บางคนที่ไม่เคยเห็นเลยก็เข้ามาสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนยินดีที่จะให้ข้อมูลทั้งหมดกับผู้ที่สนใจ จนเวลาผ่านไปราวๆ 2 ชั่วโมง เมื่อการเติมน้ำรถจักรเสร็จเรียบร้อย ท่านผู้อาวุโสของเราก็เดินทางกลับโรงรถจักรธนบุรีเพื่อไปพักผ่อน ซึ่งผมยังทำใจไม่ได้เลยว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นรถจักรไอน้ำออกมาโลดแล่นบนเส้นทางสายเก่าที่เขาเคยวิ่ง เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้รับข่าวร้ายว่า รถจักรไอน้ำทั้ง 5 คัน เตาเผาชำรุดหนักมาก คาดว่าจะไม่สามารถออกมาวิ่งได้อีกนานทีเดียว แต่ไม่ว่ายังไง จะซ่อมได้ หรือซ่อมไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่ารถจักรไอน้ำทั้ง 5 คันจะยังคงอยู่ในความทรงจำที่ดีของผู้ที่พบเห็น ผู้ที่สัมผัส ตลอดไป แม้ว่าจะเป็นแค่การจอดนิ่งอยู่กับที่ แต่นั่นก็ได้เห็นแล้วว่าภารกิจที่ผ่านมานั้นยิ่งใหญ่ และคุ้มค่าแล้วจริงๆ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:11:10

ความคิดเห็นที่ 16 อยากนั่งมากครับ เมื่อไหร่หนอ  จะมีโอกาสอีกหน  ..... จากคุณ : partompong007 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:13:24

ความคิดเห็นที่ 17 และสุดท้าย จิตวิญญาณของรางเหล็ก ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อการรถไฟได้ทุ่มงบจำนวนหนึ่งรักษาให้คุณทวดทั้ง 5 ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นการค่อยๆทำ โดยรถรุ่นแปซิฟิคจะเข้าโรงหมอก่อนเป็นชุดแรก และที่น่ายินดีคือ รถจักรไอน้ำทั้ง 2 คัน ได้นำออกมาทดสอบแล้วในช่วงสัปดาห์นี้ และผลเป็นที่น่าพอใจ รูป : รถไฟลิซึ่ม จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:14:30

ความคิดเห็นที่ 18 @partompong... เธอปาดไวมาก..ชนิดตั้งตัวไม่ทัน หากคุณต้องการจะนั่งรถจักรไอน้ำ เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ในปีนี้ (5 ธันวาคม) จะได้วิ่งหรือไม่ แต่เราจะให้ข้อมูลคร่าวๆก่อนครับ สำหรับการโดยสารนั้น รถที่โดยสารจะเป็น "รถนั่งชั้น 3 พัดลม" มีทั้งเบาะไม้ และ เบาะนวม เพื่อซึมซับบรรยากาศ และรถเบาะไม้นั้น เป็นรถที่ใช้เบรคระบบสุญญากาศ เรียกง่ายๆว่า Hardware มัน support กัน ราคา ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไปกลับ จะอยู่ที่ 120 บาท หากต้องการเที่ยวกับบริษัททัวร์ด้วย อาจจะเป็น 499 เหมือนปีก่อนหรือไม่ต้องลองดูอีกที สำหรับ Route อยุธยา สถานีที่คุณสามารถขึ้นได้คือ กรุงเทพ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง บางปะอิน อยุธยา รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ 1690 แต่ปีนี้งดจำหน่ายตั๋วครับ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:18:09

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับกระทู้นี้ ขออุทิศให้ - จิตวิญญาณของรถไฟที่กำลังจะถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง - จิตวิญญาณของคนรักรถไฟ ที่เรามาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทุกครั้งที่จักรไอน้ำออกมาวิ่ง - แม่ย่านางรถจักร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ ขอขอบพระคุณสำหรับการดูแลสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตผม - มารดา และ ยาย ข้าพเจ้าที่ถ่ายทอดภาพอดีตของรถจักรไอน้ำให้เห็นชัดแจ้ง - เสียงหวีดรถจักร ที่ก้องอยู่ในใจ และ คุณ ที่เข้ามาอ่าน หวังว่า คุณจะสัมผัส จิตวิญญาณของรถไฟที่อยู่ในตัวผม และ กระทู้นี้ได้ ขอขอบคุณ และ สวัสดีครับ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:21:03

ความคิดเห็นที่ 20 จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:27:11

ความคิดเห็นที่ 21 ... เข้ามาดู ... รถจักรไอน้ำ จากคุณ : สัญญาณไฟสี 3 ท่า (Sps-TE') เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 23:44:55

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นแล้วอยากนั่งรถจักรไอน้ำเที่ยวรอบโลก ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 00:20:27

ความคิดเห็นที่ 23     จากคุณ : น้า Low Batt เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 00:30:57

ความคิดเห็นที่ 24 ผมโชดดีที่ได้ไปนั่งรถจักรไอน้ำถึง hokkaido ตอนช่วงนี้แหละครับ ผมเลยเข้าใจความรู้สึกของ จขกท มากๆเลย เสียงรถไฟที่โน้น มันร้อง ปู้นๆๆๆ. ลูกผมสองขวบ ตกใจ กระโดดขี่คอพ่อได้เลย สนุกมากๆ ครับ ปล. ใช้ JR pass ได้ด้วย จากคุณ : สส เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 00:52:07 A:58.8.140.129 X: TicketID:106642

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ด้วยนะคะ จากคุณ : ข้าวปุ้นจอมยุ่ง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 01:17:20

ความคิดเห็นที่ 26 มาอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกอยากนั่งรถจักรไอน้ำอีกครั้ง คิดถึงจริงๆ ขอบคุณน้อมแฮมมึนนะครับ ที่นำมาฝากกัน วันที่ทดลองวื่งรถจักรไอน้ำรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไป รอไปวันทำขบวนจริงๆเลยดีกว่า ไม่พลาดแน่ๆ จากคุณ : fimmaster เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 05:26:41

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้รู้ว่า ยังมีความหวังได้นั่งรถไฟหัวจักรสวยๆรุ่นบุกเบิกของเมืองไทยได้อยู่ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 06:06:30

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณที่รีวิวมาก ๆ ครับ  อ่านแล้วอยากไปนั่งและถ่ายรูปทันทีเลยครับ  ปีนี้ผมรอมาทั้งปี  ยังไม่ได้ไปเที่ยวเลยครับ  อยากไปมาก จากคุณ : เหมอเอง (กว่าจะเป็นสาระ) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 06:42:00

ความคิดเห็นที่ 29 กรี๊ดดดดด... สุดยอดเลยค่ะ ดีใจที่การรถไฟเห็นคุณค่าของคุณทวด  พยายามบำรุงรักษาไว้ให้กับพวกเราคนไทย ยังไม่เคยเห็นของจริงตอนวิ่งสักที   สักวันคงมีโอกาสบ้าง... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 06:50:45

ความคิดเห็นที่ 30 เยี่ยม  ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 07:57:13

ความคิดเห็นที่ 31 ประทับใจมากมาย :) จากคุณ : SONIM เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 09:03:14

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ tonhok ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ ^^ คุณ สัญญาณไฟสี 3 ท่า (Sps-TE') มามากกว่าดูก็ได้นะ 555 คุณ ไผ่พริ้ว (PyDE) คาดว่าคงใช้เวลาค่อนชีวิตครับ 5555 ขอบคุณนะครับ คุณ น้า Low Batt : ทักทายครับน้า คุณ สส : ฟีลนั้นมันฟินแลนด์มากครับ โลกทั้งโลกมีแต่ความสุขจริงๆ คุณ ข้าวปุ้นจอมยุ่ง : หาโอกาสไปนั่งให้ได้นะครับ คุณ fimmaster : ลุงต้นนนนน ภาพนี้สวยยยยย คุณ teddy bear in the box : ขอบคุณมากครับผม แต่ว่าจักรไอน้ำชุดนี้คือชุดสุดท้ายที่เข้ามาครับ เรียกได้ว่าป็นชนรุ่นหลังของจักรไอน้ำทั้งหมดครับ เพราะรุ่นแรกสาปสูญไปบ้าง เสียหายจากระเบิดไปบ้าง แล้วก็ใช้ไม่ได้กับรางขนาด 1.000 บ้าง คุณ เหมอเอง (กว่าจะเป็นสาระ) : ขอบคุณครับ ผมแอด facebook คุณเหมอไปแล้วอะครับ คุณ ป้าฟู : ขอบคุณครับป้า ตอนแรกที่น้องคนนึงโทรมาหาผมแล้วบอกว่า คุณทวดเจ๊งหนัก โหตอนนั้นน้ำตาไหลพรากราวกับถูกหวยกินเลยครับ ^^ คุณ เล็กทาโร่ : ขอบคุณคร้าบบบบ ^^ คุณ SONIM : หาเวลาไปนั่งให้ได้นะคร้าบบบ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 09:20:47

ความคิดเห็นที่ 33 อยากไปนั่งสักครั้งในชีวิตจังไม่รู้จะมีโอกาสไหม ตอนเช้าไปทำงานนั่งรถผ่านมักกะสันเห็นคุณปู่ทั้งหลายจอดรอซ่อมอยู่ตั้งนาน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จ เห็นทาสีเขียวอ่อนเคลือบอยู่แล้วก็มีแสลนตั้งบังแดดไว้ตั้งนานละ จากคุณ : ตาแง้ว เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 09:59:10

ความคิดเห็นที่ 34 ลูก รฟท เก่า ดูทู้นี้แล้วคิดถึงความหลังสมัยเด็กๆ ดิฉันเคยนั่งรถจักร์ไอน้ำจากบ้านที่ ตจว เพื่อเข้ามาหาพ่อแม่ที่ กทม เป็นบางปีตอนปิดเทอม แต่ตอนหลังเขาเอารถไอน้ำวิ่งระยะใกล้แทน ของดิฉันเลยได้นั่งรถแบบที่เรียกว่ารถด่วน ที่วิ่งกลางคืน หรือรถเร็ว ที่วิ่งกลางวัน รถที่ว่านี่เป็นรถดีเซลราง ขอบคุณสำหรับทู้นี้ค่ะ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 11:32:26

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ ตาแง้ว  : อันนั้นตั้งโชว์ครับ ไม่ออกมาวิ่งแล้วเพราะอะไหล่ไม่มีแล้วครับผม เป็นรถอังกฤษ กับ ยุโรปเสียเป็นส่วนใหญ่ ระบ่งระบบอะไรคงไม่เหลือแล้ว จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 14:59:19

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับรีวิว..นะคะ จากคุณ : ปตัญชลี เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 17:00:27

ความคิดเห็นที่ 37 อ่ะ ... มากกว่าเข้ามาดู ... เข้ามาแจมภาพให้ เจ้าของกระทู้ก็ได้ จ้า ... ได้ข่าวว่าไปด้วยกัน... ในวันนั้น สุดสนุกเปรมปรีดา โอ้ลัลล้า กันมากๆ แบ่งทีมกันไป ทีมนึงไปกับ ขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำ ตั้งแต่ กรุงเทพ - อยุธยา อีกทีมหนึ่ง ไปดักรอ ที่ชุมทางบางซื่อ อีกทีมหนึ่ง ขอตามไปทีหลัง กับ ขบวนรถด่วนดีเซลรางที่ 75 กรุงเทพ - อุดรธานี แล้ว ก็แซงคุณทวด ตามที่เห็นนี่แหละครับ จากคุณ : สัญญาณไฟสี 3 ท่า (Sps-TE') เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 19:02:53

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อวันก่อนเห็นคุณปู่ออกมาซ้อมวิ่ง กำลังกลับเข้าสถานีธนบุรี ผ่าน ป้ายรถจรัญสนิทวงศ์ เสียดายมาติดไฟแดงช้าไปหน่อย เห็นแว๊ปเดียว ลากจูงกันมา2หัวจักร ดูสง่างามน่าเกรงขามมาก ตกลงจะวิ่งจริงๆวันใหนครับ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 00:02:49

ความคิดเห็นที่ 39 อยากกลับไปนั่งอีกครั้งจังเลย จากคุณ : pukkhom เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 00:54:28

ความคิดเห็นที่ 40 คาดว่าปีหน้าคงได้นั่งจริงๆครับ ส่วนปีนี้ ก็ต้องลุ้น 5 ธันวาคม นี้ ว่า จะวิ่ง : ไม่วิ่ง จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 22:19:39

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านรีวิวนี้แล้วอยากกลับไปนั่งเหมือนกันค่ะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 18:55:42

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะที่รีวิว จากคุณ : woraya เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 11:59:44