ความคิดเห็นที่ 1 อ่านข้อมูลก่อนเข้าไปชม  พระราชฐานครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:02:38

ความคิดเห็นที่ 2 วิวสวยๆในเขตพระราชฐานชั้นนอก จะเห็นตึกสิบสองท้องพระคลัง และถังเก็บน้ำประปาที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:05:29

ความคิดเห็นที่ 3 ประตูที่จะผ่านเข้าในเขตพระราชฐาน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:05:58

ความคิดเห็นที่ 4 พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ 8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาล จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:06:47

ความคิดเห็นที่ 5 และเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2232 จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:07:21

ความคิดเห็นที่ 6 ในซุมประตุจะมีความโดดเด่นไม่เหมือนที่ใดๆเลย  คือมีช่องใส่เทียนในเวลาค่ำคืน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:08:40

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อก้าวเข้าผ่านประตูเข้ามาในเขตพระราชฐานชั้นกลางจะพบกับพระที่นั่งจันทรพิศาล จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:12:44

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาชมค่ะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:14:13

ความคิดเห็นที่ 9 พระที่นั่งจันทรพิศาล   เป็นที่ประทับออกว่าราชการแผ่นดิน และประชุมองคมนตรี  ลักษณะเป็นอาคารทรงตึก หลังคา ประตูและหน้าต่างเป็นศิลปะแบบไทยแท้ด้านหน้าพระที่นั่งมีมุขเด็จยื่นออกมาสำหรับเสด็จออกให้ข้าราชการเข้าเฝ้า จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:14:13

ความคิดเห็นที่ 10 ได้รับการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ปัจจุบันจัดแสดงเป็นห้องเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:14:39

ความคิดเห็นที่ 11 ด้านในจัดแสดงเป็นห้องเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:15:11

ความคิดเห็นที่ 12 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:15:40

ความคิดเห็นที่ 13 หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ   เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ลักษณะเป็นอาคารทรงตึกแบบตะวันตก  ด้านหน้าสูง 2 ชั้น ด้านหลังสูง 3 ชั้นหลังคามุงกระเบื้องกาบูแบบจีน  ชั้นล่างเป็นใต้ถุนมีประตูเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม  ชั้นที่ 2 ประกอบด้วย พระที่นั่งไชยศาสตรากร  พระที่นั่งอักษรศาสตรากร  พระที่นั่งวิสุทธิวินิจฉัย  ห้องเสวยพระกระยาหาร และชั้นที่ 3 เป็นห้องพระบรรทม จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:16:55

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงจั่วประดับด้วยลวดลายปูนปั้น  ตราสัญจกรแผ่นดินรูปพระมหาพิชัยมงกุฏและรูปพระแท่นราชบัลลังก์ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร  ปัจจุบันจัดแสดงห้องเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และศิลปะโบราณวัตถุสมัยต่างๆ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:17:43

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านหลังพระที่นั่งพิมานมงกุฏ  เป็นเขตพระราชฐานชั้นในสำหรับฝ่ายในที่ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:18:56

ความคิดเห็นที่ 16 หมู่ตึกพระประเทียบ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นที่พักของข้าราชบริภารฝ่ายใน มีทั้งหมด 8 หลัง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:19:30

ความคิดเห็นที่ 17 เขตพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:21:09

ความคิดเห็นที่ 18 อีกมุมของพระที่นั่งจันทรพิศาล จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:21:55

ความคิดเห็นที่ 19 พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:23:13

ความคิดเห็นที่ 20 น่าสนใจมากๆ ครับ ได้ยินแต่ชื่อมานาน ยังไม่เคยเข้าไปชมเลย จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:23:31

ความคิดเห็นที่ 21 พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทเป็นพระที่นั่งท้องพระโรง มียอดแหลมทรงมณฑป    ศิลปกรรมแบบไทยและฝรั่งเศสผสมผสานกัน ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชรที่เสด็จออกเพื่อมีปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าฯ  ท้องพระโรงตอนหน้าสร้างแบบฝรั่งเศส  ตัวมณฑปซึ่งอยู่ด้านหลังทั้งประตูและหน้าต่างเป็นซุ้มแบบไทย คือ ซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์  ในจดหมายเหตุทูตฝรั่งเศสกล่าวพรรณนาพระที่นั่งองค์นี้ว่า  " ตามผนังประดับด้วยกระจกเงา ซึ่งนำมาจากฝรั่งเศสเพดานแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมจตุรัส 4 ช่อง ประดับด้วยลายดอกไม้ทองคำ และแก้วผลึกที่ได้มาจากเมืองจีนงดงามมาก "  ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่าง   เจาะเป็นช่องโค้งแหลมสำหรับวางตะเกียง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:24:05

ความคิดเห็นที่ 22 มาตอนช่วงวันนารายณ์สิคะ คนแต่งชุดย้อนยุคมาเที่ยวสนุกดีคะ จากคุณ : taterre เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:24:32

ความคิดเห็นที่ 23 ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่าง   เจาะเป็นช่องโค้งแหลมสำหรับวางตะเกียง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:24:57

ความคิดเห็นที่ 24 ผนังภายในท้องพระโรงประดับด้วยกระจกเงา ซึ่งโปรดให้คนไปจัดซื้อมาจากประเทศฝรั่งเศส ดาวเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมประดับลายดอกไม้ทองคำและแก้วผลึก ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่าง เจาะเป็นช่องเล็กๆ รูปโค้งแหลมคล้ายบัว สำหรับตั้งตะเกียงในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับที่ซุ้มประตูและกำแพงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นใน ซึ่งมีช่องสำหรับวางตะเกียง ประมาณ 2,000 ช่อง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:26:11

ความคิดเห็นที่ 25 แต่ก่อนปูพื้นไม้ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:26:49

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เคยไปเที่ยวเลยค่ะ   สวยและมีประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:28:03

ความคิดเห็นที่ 27 ภายนอกพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท  ผมว่าเป้นการก่อสร้างที่ทันสมัยทีเดียวในสมัยนั้น จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:28:27

ความคิดเห็นที่ 28 มุมสวยๆ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:29:09

ความคิดเห็นที่ 29 พระราชฐานชั้นกลาง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:29:41

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเดินออกประตูด้านทิศใต้จะพบกับพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:31:41

ความคิดเห็นที่ 31 พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เป็นพระที่นั่งสำคัญ ตั้งอยู่ภายในฝ่ายในของพระราชวังเมืองละโว้ ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่รโหฐานส่วนพระองค์ เป็นที่ประทับยามแปรพระราชฐานออกจากกรุงศรีอยุธยา ทุกวันนี้เหลือเพียงแต่ซากฐานเท่านั้น แต่เราอาจจะทราบรูปร่างลักษณะได้จากหลักฐานทางเอกสารของชาวฝรั่งเศส และชาวไทย ที่เคยพบเห็นพระที่นั่งองค์นี้ก่อนที่จะพังทลาย จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:32:17

ความคิดเห็นที่ 32 เดินไปด้านหน้าพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท  เพื่ออกไปเดินชมพระราชฐานชั้นนอกกันต่อครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:33:35

ความคิดเห็นที่ 33 เดินผ่านประตุนี้ก็จะไปสู่พระราชฐานชั้นนอกครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:34:24

ความคิดเห็นที่ 34 เขตพระราชฐานชั้นนอก จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:35:17

ความคิดเห็นที่ 35 จะพบกับตึกสิบสองท้องพระคลัง  หรือพระคลังศุภรัตน์ เป็นตึกที่ตั้งเรียงรายอยู่ระหว่างอ่างเก็บน้ำและตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง เป็นอาคารที่สร้างอย่างมีระเบียบด้วยอิฐ เป็น 2 แถว ยาวเรียงชิดติดกัน มีถนนผ่านกลาง รวม 12 หลัง เข้าใจว่าเป็นคลังเก็บสินค้าหรือเก็บสิ่งของที่ใช้ในราชการ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:36:34

ความคิดเห็นที่ 36 ด้านในตึกสิบสองท้องพระคลัง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:36:57

ความคิดเห็นที่ 37 ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:38:02

ความคิดเห็นที่ 38 ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง  ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ใกล้กับหมู่ตึกสิบสองท้องพระคลัง เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางอุทยานรอบตึกมีคูน้ำล้อมรอบ ภายในคูมีน้ำพุพุ่งเรียงรายได้ระยะ 20 แห่ง จากเค้าโครงที่เหลือแสดงให้เห็นว่าในสมัยก่อนคงจะสวยงามมาก  ทางด้านหน้าตึกเลี้ยงรับรอง มีรากฐานเป็นอิฐแสดงให้เห็นว่าตึกหลังเล็ก ๆ คงจะเป็นโรงมหรสพ  ซึ่งมีการแสดงให้แขกเมืองชมภายหลังการเลี้ยงอาหาร สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตฝรั่งเศส ณ สถานที่แห่งนี้ในปี พ.ศ.2228 และ พ.ศ.2230 จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:38:21

ความคิดเห็นที่ 39 รอบตึกมีคูน้ำล้อมรอบ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:39:38

ความคิดเห็นที่ 40 พระราชฐานชั้นนอกในเขตพระราชอุทยานในที่ใช้รับรองแขกเมือง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:40:18

ความคิดเห็นที่ 41 อ่างเก็บน้ำหรือถังเก็บน้ำประปา   ก่อด้วยอิฐยกขอบเป็นกำแพงสูงหนาเป็นพิเศษ ตรงพื้นมีท่อดินเผาฝังอยู่เพื่อ จ่ายน้ำไปใช้ตามตึกและพระที่นั่งต่าง ๆ โดยท่อดินเผาจากทะเลชุบศรและอ่างซับเหล็ก ตามบันทึกกล่าวว่า ระบบการจ่าย    ทดน้ำเป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:40:48

ความคิดเห็นที่ 42 ถังเก็บน้ำประปาก่อด้วยอิฐยกขอบเป็นกำแพงสูงหนาเป็มากและที่พื้นมีท่อดินเผาฝังอยู่เพื่อ จ่ายน้ำไปใช้ตามตึกและพระที่นั่งต่าง ๆ โดยท่อดินเผาจากทะเลชุบศรและอ่างซับเหล็ก  ทำไมทันสมัยจัง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:41:39

ความคิดเห็นที่ 43 ออกจากที่นี่เราจะไปไหว้พระกันต่อครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:42:16

ความคิดเห็นที่ 44 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : ข้าวปุ้นจอมยุ่ง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:44:04

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ไกลจากพระนาราณ์ราชนิเวศน์ด้านทิศเหนือจะมีวัดวัดเสาธงทอง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:44:08

ความคิดเห็นที่ 46 วัดเสาธงทอง เป็นวัด พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ที่ตั้งถนนฝรั่งเศส จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:44:40

ความคิดเห็นที่ 47 ตึกนี้สร้างสมัยสมเด็จพระนารายณ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:45:04

ความคิดเห็นที่ 48 วัดเสาธงทอง เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ติดถนนฝรั่งเศส (Rule de France) ตรงข้ามตลาดสดเทศบาลเมืองลพบุรี ด้านหลังใกล้กับท่าขุนนางริมแม่น้ำลพบุรี ทิศเหนือ ใกล้กับบ้านหลวงรับราชทูต ทิศใต้ใกล้กับพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เดิมแยกเป็น 2 วัด คือ วัดรวก และวัดเสาธงทอง พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เตชะคุปต์) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา ได้รายงานกราบทูลเสนอความเห็นต่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อคราวเสด็จตรวจการคณะสงฆ์ในมณฑลอยุธยาว่า วัดรวกมีโบสถ์ ส่วนวัดเสาธงทองมีวิหารสมควรจะรวมเป็นวัดเดียวกัน ทรงดำริเห็นชอบให้รวมกันและให้เรียกชื่อว่า วัดเสาธงทอง เป็ฯวัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งโบราณซึ่งกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า พระวิหารหลวงและพระประธานเป็นฝีมือช่างแบบสมัยกรุงศรีอยุธยา อย่างน้อยคงสร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดเสาธงทองตั้งอยู่บนเนินดินที่สูงกว่าที่อื่นๆ และตั้งอยู่ใจกลางเมืองลพบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 15ไร่ 1 งาน โดยรอบวัดมีถนนเข้าวัดทั้งสี่ด้าน จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:46:50

ความคิดเห็นที่ 49 พระวิหารซึ่งเดิมคงสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานของศาสนาอื่นเพราะจากแผนที่ของช่างชาวฝรั่งเศสทำไว้ ระบุว่า พื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่พำนักของราชทูตชาวเปอร์เซีย พระวิหารหลังนี้อาจเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามของชาวเปอร์เซียก็เป็นได้ นอกจากนี้ ก็มีตึกปิจู ตึกคชสาร หรือตึกโคโรซาน เป็นตึกเก่าสันนิษฐานว่าใช้เป็นที่พำนักของแขกเมือง และราชทูตต่างประเทศชาวเปอร์เซีย โดยตึกปิจู มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า เล็ก ซึ่งอาจเป็นที่อาศัยของชาวฝรั่งเศสที่มารับราชการ ส่วนตึกโคโรซาน เป็นชื่อเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของเปอร์เซีย ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นตึกที่ใช้รับรองชาวเปอร์เซียที่มาพำนัก จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:47:28

ความคิดเห็นที่ 50 พระวิหารวัดเสาธงทอง เป็นวิหารที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ศิลปะอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 3 วา สูง 4 วา 2 ศอก ถือเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรีมาช้านาน บริเวณของผนังพระวิหารเจาะเป็นช่อง ซุ้มโค้ง ประดิษฐานพระพุทธรูปลักษณะต่างๆ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:48:37

ความคิดเห็นที่ 51 หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 3 วา สูง 4 วา 2 ศอก เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:49:21

ความคิดเห็นที่ 52 ตอนนี้ทางวัดกำลังลงลักเตรียมปิดทององค์หลวงพ่อโตครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:49:54

ความคิดเห็นที่ 53 ริเวณของผนังพระวิหารเจาะเป็นช่อง ซุ้มโค้ง ประดิษฐานพระพุทธรูป จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:50:38

ความคิดเห็นที่ 54 พระเจดีย์  ตั้งอยู๋ระหว่างพระวิหารหลวงกับศาลาการเปรียญ มีมาแต่ครั้งโบราณ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนฐาน 8 เหลี่ยม กว้าง 9 วา สูง 17 วา ตรงกลางเหนือฐานขึ้นไปมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปซุ้มละ องค์ 8 ซุ้ม เหนือขึ้นไปเป็นทรงลังกา จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:51:15

ความคิดเห็นที่ 55 หลังจากนั้นเราไปต่อกันที่วัดวัดกวิศรารามราชวรวิหาร จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:52:33

ความคิดเห็นที่ 56 วัดกวิศรารามราชวรวิหาร (อารามหลวงแห่งเมืองลพบุรี) เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี อันดับ 1 ชนิดราชวรวิหาร ที่ตั้ง ถนนเพทราชา ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี คำว่า วัดกวิศราราม แปลว่า วัดของพระเจ้าแผ่นดิน ปัจจุบันมี พระราชพุทธิวราภรณ์ (ประเทือง อาภาธโร) เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และในวันที่ 9 ตุลาคม ปีพุทธศักราช 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังวัดกวิศรารามราชวรวิหาร เป็นการส่วนพระองค์ ได้นำมาซึ่งความปราบปลื้มแก่ชาวลพบุรีเป็นอย่างมาก จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:52:54

ความคิดเห็นที่ 57 พอดีเจอเจ้านู๋ตัวน้อยพาชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:53:28

ความคิดเห็นที่ 58 วัดกวิศรารามราชวรวิหารนี้เดิมชื่อ วัดขวิด สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสร้าง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรง สถาปนาใหม่ พระราชทานนามว่า วัดกรวิศยาราม และรัชกาลที่ 5 ทรงปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีกโดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงพระ ราชทานอุทิศ ถวายเป็นวิสุงคามสีมา ในการทำสังฆกรรมอุปสมบทข้าราชบริพาร นิกาย และวัดขวิด (วัดกรวิศยาราม) ที่ลพบุรี หรือวัดกวิศรารามในปัจจุบัน เป็นวัดรามัญนิกายอีกวัดหนึ่ง จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:57:54

ความคิดเห็นที่ 59 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวัด จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:58:31

ความคิดเห็นที่ 60 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:58:52

ความคิดเห็นที่ 61 ในวัดมีเจดีย์ทรงกลมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระอุโบสถ ภายในเขตพัทธสีมา ชิดกับตัวพระอุโบสถ ตามธรรมเนียมความนิยม สร้างโบสถ์หรือวิหารหน้าสถูปหรือเจดีย์ เจดีย์องค์นี้น่าจะมีมาแต่เดิมแล้ว แต่ในลักษณะปัจจุบัน ได้รับการบูรณะในรัชกาลที่ 4 หอไตรริมบ่อน้ำหน้าพระอุโบสถก็เช่นเดียวกัน เป็นหอไตรขนาดพอเหมาะ มีลายหน้าบัน เป็นก้านขดสวยงาม จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:59:38

ความคิดเห็นที่ 62 ก่อลกลับแวะซื้อของฝากริมทางให้คุณแม่ครับ  แม่ชอบน้อยหน่ามากๆครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:00:52

ความคิดเห็นที่ 63 เรากลับบ้านก็พลบค่ำแล้วครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:01:22

ความคิดเห็นที่ 64 อยากชวนเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองลพบุรีกันครับ จากคุณ : eurekraft เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:01:57

ความคิดเห็นที่ 65 สวย  ไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:07:11

ความคิดเห็นที่ 66 เค้าทำดีขึ้นเยอะเลยนะครับ เคยไปเที่ยวเมื่อหลายปีที่เเล้วดูโทรมมาก ตอนนี้ดูเยี่ยม น่าเที่ยวจัง จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:17:40

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:40:25

ความคิดเห็นที่ 68 สารภาพเลยค่ะว่าเคยไปแต่ศาลพระกาฬแค่นั้นเอง ลพบุรีเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของไทย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ทำให้สนใจในจังหวัดนี้มากขึ้นค่ะ จากคุณ : เจ้ากัน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:10:19

ความคิดเห็นที่ 69 ดูแล้วคิดถึงบ้านเลยค่ะ จากคุณ : คนละโว้ธานี (madam_ozzy) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:28:40

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ จากคุณ : Killer Red เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:34:28

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับบบ ขอเก้บข้อมูลนะครับบ  จะตามรอยถิ่นพระนารายณ์เร็วๆนี้ครับบ จากคุณ : takop เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:30:59

ความคิดเห็นที่ 72 เคยแต่ผ่านยังไม่เคยเจาะลึกกับลพบุรีสักที  ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:53:24

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ สวยมากเลยค่ะ ไปเที่ยวมาก็หลายครั้ง ยังไม่เคยทำรีวิวเลย >_< จากคุณ : เพ็ญโสม เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 16:39:01

ความคิดเห็นที่ 74 อยู่ข้างบ้านผมแท้ๆ ยังรู้รายละเอียดไม่ถึง1ใน10ของ จขกท. จากคุณ : Eatmachine switchoff (เกิดแล้วตาย) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 16:48:03

ความคิดเห็นที่ 75 ยังไม่เคยไปที่วังพระนารายณ์เลยครับเห็นแล้วน่าไปมากครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 19:44:26

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆนะครับ น่าเที่ยวมากๆครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้นะครับ จากคุณ : paipaiphuart เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 21:59:06