ความคิดเห็นที่ 1 ครั้งนี้ผมและครอบครัวบินตรงจากเชียงใหม่ไปภูเก็ตนะครับ เหมือนเคยครับว่ามาภูเก็ตรอบไหนจะมีพายุเข้าตลอด แถมรอบนี้แรงมากจนกระทั่งเกรงว่าทริปล่องเรือมีแววว่าจะเป็นหมัน ช่วงนั้นจะติดตามข่าวพายุตลอดเลยครับ เห็นภาพฝนถล่มและน้ำท่วมทำเอาอยากเลื่อนทริปนี้มาก เพราะห่วงความปลอดภัยและจะได้ไม่กร่อยหรือเงิบเมื่อไปถึง โทรไปย้ำกับทางโรงแรมหลายรอบมากแต่ก็ยืนยันว่าซำบายๆ ครับ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจจนต้องโฟนอินไปถามเพื่อนที่เป็นนักบินว่าจะยกเลิกเที่ยวบินไหม เนื่องจากเห็นสภาพลมที่ทำเอาหอบังคับการบินภูเก็ตปั่นป่วนขนาดนี้ ทำเอาผมลังเลว่าจะเดินหน้าลุยหรือขอยกเลิกกับทางโรงแรมดี จนท้ายที่สุดก็ทำได้แต่เหมาตะไคร้จากตลาดมาปักซะเต็มสนามหน้าบ้านไปหมด จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:57:09

ความคิดเห็นที่ 2 กลับมาพักโรงแรมเที่ยวนี้ค่อนข้างจะรู้สึกสบายๆ ไม่เหมือนคราวก่อนที่ค่อนไปทางตื่นเต้นและเกร็งเพราะไม่รู้จักใครเลย รอบนี้ออกอาการชิวเต็มร้อยและกันเองกับทุกคนขึ้นเยอะทีเดียว ทริปนี้มีเวลาเยอะมากเดี๋ยวจะพาชมห้องอื่นด้วยละกันนะครับ เริ่มกันที่ Presidential Penthouse เป็นอันดับแรก นี่ล่ะห้องที่แพงสุดของโรงแรมนี้และมีเพียงหนึ่งห้องเท่านั้น แต่ว่าไม่ใช่ห้องที่ผมเข้าพักนะครับ (โรงแรมจัดกระท่อมหน้าหาดไว้ให้แล้ว) เข้ามาดูก่อนเพราะเป็นโอกาสเดียวสำหรับการเข้าชมฟรี เพราะหลังจากคืนนี้จะโดนแขกต่างชาติเหมายาวเป็นอาทิตย์เลยครับ สำหรับในภาพที่เห็นจะเป็นมุมในห้องสำหรับดูหนังซึ่งจัดเต็มแบบ home theatre แถมภายในห้องมีเครื่องเล่น PlayStation ให้อีกด้วย ทำเอาผมเกือบอ้อนขอนอนห้องนี้แทนเพราะที่บ้านไม่มีเล่น (ภรรยาไม่อนุมัติเพราะกลัวไม่มีใครช่วยเลี้ยงลูก) ส่วนตัวคิดว่าเหมาะเป็นห้องสังสรรค์กับเพื่อนฝูงมากกว่า หรือไม่ก็เป็นห้องนอนเสริมอีกห้องนึงก็ได้ ใหญ่และกว้างมากพอแถมมีหมอนอีกเพียบครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:57:25

ความคิดเห็นที่ 3 ห้องน้ำชั้นล่างนี้จะอยู่ติดกับห้องดูหนังครับ ประมาณว่าเวลาปวดชิ้งฉ่องก็รีบทำธุระได้ทันทีไม่ต้องอั้น แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 01:55:39 จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:57:39

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนห้องครัวโทนสีดำมาแนวขรึมเล็กน้อย สามารถเลื่อนเปิดและปิดได้เป็นสัดส่วนครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:57:52

ความคิดเห็นที่ 5 และนี่คือสิ่งที่ผมภูมิใจนำเสนอที่สุดในห้องชนิดนี้ ห้องน้ำที่ตกแต่งมาโทนสีดำเข้ม อ่างกลางห้องใช้สีขาวแทนที่จะเป็นสีดำเหมือนห้องอื่น พร้อมทีวีจอแบนสำหรับนอนแช่และดูหนังหรือรายการต่างๆ ไปพร้อมกัน ในส่วนของห้องอาบน้ำแบบฝักบัวจะอยู่ในหลืบด้านซ้ายมือ (ไม่เห็นในภาพ) และที่เห็นเป็นช่องทางซ้ายบนจะเป็นห้องสุขาครับ สำหรับห้องน้ำนี้จะอยู่ชั้นบนภายในห้องนอน โดยจะมีสองห้องดีไซน์เหมือนกันเด๊ะเลยแยกคนละฟากบนชั้นสองซึ่งเป็นโซนพักผ่อน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:58:04

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้เป็นห้องนอนมาสไตล์เรียบๆ ครับ การตกแต่งจะไม่ค่อยต่างจากห้องพักรอบที่แล้วมากนัก ส่วนที่ทำให้แปลกไปจะเป็นการเล่นไฟ ห้องนี้พอตอนกลางคืนหรือเวลาปิดผ้าม่านจึงจะดูมืดกว่า ในขณะที่ห้องครั้งที่แล้วจะค่อนข้างสว่างและเปิดโล่ง ไกลออกไปเป็นห้องน้ำในรูปที่เห็นข้างบนครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:58:16

ความคิดเห็นที่ 7 ขอซ้ำรูปห้องน้ำอีกมุมนึงเพราะชอบมากเป็นการส่วนตัวครับ จะเห็นว่าตกแต่งด้วยกระจกจนทำให้ห้องที่ใหญ่แล้วดูกว้างมากขึ้นไปอีก ป.ล. สำหรับห้องน้ำกับห้องนอนอีกฝั่งไม่ถ่ายมาเพราะเหมือนกันเด๊ะครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:58:30

ความคิดเห็นที่ 8 ขอพาย้อนกลับลงมาข้างล่างเลยนะครับ ส่วนนี้ใช้เป็นโซนนั่งเล่นและรับแขกพร้อมกัน โซฟาใหญ่ประมาณต้องเชิญมาพักทั้งหมู่บ้านถึงจะกำลังดี แถมด้านหลังที่ผมยืนยังมีเก้าอี้รับแขกชุดเล็กอีก และถัดไปด้านในรูปเป็นโต๊ะทานข้าวที่สามารถนั่งได้ 8-10 คน ห้องนี้ค่อนข้างเหมาะไปทางผู้บริหารหรือนักธุรกิจระดับสูงมาพักแล้วครับ เวลามีแขกก็สามารถปรับเป็นห้องประชุมได้เลย สรุปว่าห้องนี้อาจไม่เหมาะกับสามัญชนเช่นพวกเราสักเท่าไหร่ โดยความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างกว้างเกินความจำเป็น ถึงดูแล้วน่าอยู่สบายมากเกินร้อยแต่ออกจะโหรงเหรงไปสักเล็กน้อย ผมว่ามาพักสี่คนยังวิ่งหากันแทบไม่เจอเลย แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติเขาอาจจะชอบสไตล์นี้ก็ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 10:34:04 จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:58:55

ความคิดเห็นที่ 9 เดินออกมานอกระเบียงก็จะมีสระว่ายน้ำให้ด้วย จัดว่าเป็นสระส่วนตัวที่ใหญ่สุดในบรรดาทุกห้องที่มีอยู่ พื้นที่ขนาดนี้จัด “Private Bikini Party” ได้สบาย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:59:07

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วก็มาถึงอีกหนึ่งรายการสำคัญของทริปนี้ครับ นั่นก็คือ “ทัวร์กินแหลกแหวกชิมิ” (ได้ไอเดียตั้งชื่อจากหนัง “พจน์ อานนท์”) หากเปิดกระทู้นี้ตอนดึกๆ หรือเที่ยงคืนขอแนะนำให้ข้ามช่วงที่กำลังจะถึงไปก่อน ถ้าไม่ฟังคำเตือนอาจจะต้องไปเดินจกบะหมี่กึ่งสำเร็็จรูปมาต้มได้ เพราะผมกำลังพามายังร้าน “Catch Beach Club” -- http://www.catchbeachclub.com ซึ่งเป็นคลับริมทะเลที่ได้ชื่อว่าเริ่ดที่สุดในภูเก็ตเลยทีเดียวครับ แต่ส่วนใหญ่แขกที่ผมเห็นส่วนมากก็เป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า ป.ล. เว็บเขียนว่า “the most fashionable and exclusive beach club” จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:59:19

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้เป็นช่วงพระอาทิตย์จะตกที่หาดสุรินทร์ อย่างที่บอกว่าช่วงนั้นพายุพึ่งเข้า คลื่นจัดว่าสูงและแรงอย่างที่เห็นครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 02:59:56

ความคิดเห็นที่ 13 บริเวณริมหาดจะมีซุ้มชงเหล้าตั้งอยู่ครับ แบบว่าบรรยากาศสุดยอดตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตก ช่วงที่ผมไปนี่จัดว่าคนยังไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ ในฤดูท่องเที่ยวเขาบอกว่าบางทีแขกมาจองที่ตั้งแต่บ่าย นั่งชิวอยู่ยาวจนถึงกลางคืนกันเลยทีเดียวครับ แบบว่าไม่ยอมไปไหนเพราะลุกก็เสียม้าแน่นอน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:00:12

ความคิดเห็นที่ 14 มุมนี้เป็นสัญลักษณ์ของคลับนี้เลยครับ จะพบเห็นได้จากป้ายโฆษณาทั้งใหญ่และเล็กทั่วภูเก็ตตั้งแต่เท้าแตะสนามบิน โดยเฉพาะคนที่ชอบฟังเพลงหรือชิวยามค่ำคืนน่าแวะมาลอง ไม่จำเป็นต้องพักที่โรงแรมก็มาทานได้นะครับ ความจริงผมเด็กดอยอยู่เชียงใหม่ตอนมารอบแรกก็ไม่ค่อยรู้จัก ได้ยินแต่ชื่อผ่านคนอื่นบอกมาหลายทีแล้วก็เลยต้องมาสัมผัสดูด้วยตัวเอง สรุปว่าบรรยากาศดีจริงสำหรับคนที่ชอบมาจิบอะไรให้กรึ่มๆ เป็นสมัยก่อนมีลูกนี่คงนั่งยาวไม่ไปไหนเหมือนกันครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:00:35

ความคิดเห็นที่ 15 นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ผมนำมาใช้เป็นชื่อตอนนี้ด้วยนั่นเองครับ รอบก่อนเจอฝนหนักเลยไม่ได้แวะออกมาทานอาหารที่นี่ คราวนี้ได้เวลาคิดบัญชีทบต้นดอกและดอกเบี้ยกับบุฟเฟ่ต์แสนอร่อย ช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีให้บริการทุกวัน ในขณะนอกฤดูกาลที่ผมไปจัดบุฟเฟ่ต์เฉพาะวันจันทร์ อังคาร และศุกร์ สำหรับราคาก็จะตามฤดูกาลครับ ในคืนพิเศษอาจมีเมนูพิเศษจากพ่อครัวมาเพิ่มเติมอีกหน่อย อย่างตอนที่ผมไปเป็นช่วงโลว์วันเสาร์ ซึ่งบุฟเฟ่ต์ไม่ได้จัดทุกวันแต่เหมือนว่ามีทัวร์ลงก็เลยโชคดีได้มาแจม ไม่อย่างนั้นก็สามารถสั่งอาหารตามเมนูปกติแทนได้ แนะนำว่าลองเช็คตามเว็บข้างบนก่อนไปทานอีกทีดีกว่า แต่ให้ดีถ้าใครไปแวะงานเที่ยวไทยอาจเจอโปรพิเศษ เท่าที่เคยเห็นเวลาจองห้องพักก็จะได้รับสิทธิ์บุฟเฟ่ต์ในเรทซื้อหนึ่งแถมหนึ่งน่ะครับ สำหรับผมนับว่าเป็นการรอคอยอันแสนยาวนานถึงสิบเดือนกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง (เวอร์ไปม่ะ) ป้ายแรกที่เห็นเป็นซุ้มซาชิมิอันแสนจะโอชะ ผมจึงรีบแปลงกายเป็นหมีโฮกไปยืนชี้แซลมอนกับทูน่ามาซะแทบล้นจาน แล้วชี้ต่อไปที่ปูอัดด้วยความขวยเขินเล็กน้อยเนื่องจากห่างเหินจากวงการบุฟเฟ่ต์ไปนาน พ่อครัวจัดปลาดิบประมาณว่าให้เต็มที่ไม่มีหวงปลากันเลยทีเดียว และปลาดิบที่ทานก็ค่อนข้างสดมากครับ ขออภัยไม่ได้ถ่ายมาฝากเพราะว่ามันเกินห้ามใจจริงๆ ตั้งใจไปขอตักปลาดิบรอบสองเพื่อจะถ่ายรูปโดยเฉพาะ พอมาถึงโต๊ะก็ลืมตัวซัดไปซะเหลือแค่ครึ่งจาน จะถ่ายมาก็ดูไม่ค่อยงามสักเท่าไหร่ครับ ถัดไปลิบๆ ที่เห็นนี่ก็กลับมาแวะรอบต่อไปอย่างพลาดไม่ได้ เพราะว่าเป็นหอยนางรมสดเพิ่มพลัง จัดชุดใหญ่บีบมะนาวแล้วอร่อยเหาะไปเลย สำหรับซุ้มกลางที่เห็นด้านซ้ายมือในภาพจะกลับมาเจาะอีกรอบครับ ตอนนี้ขอตัวไปเปิดหอยก่อน “อิๆ” จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:00:56

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับพวกผมขอนั่งโซนด้านบนที่เงียบๆ หน่อย เห็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวพร้อมลูกน้อยก็นั่งข้างบนเช่นกัน ถึงแม้จะไม่สนุกสุขสันต์หลั่นล้าเท่าข้างล่าง แต่ตรงนี้เหมาะสำหรับขากินอย่างผมเป็นอย่างมาก เพราะใกล้ทุกซุ้มอาหารที่ขวางหน้าครับ ด้านล่างนี่เหมาะกับคนวัยมันส์ (ความจริงผมก็ยังอยู่ในกลุ่มนี้อยู่) แต่ว่ามากับลูกนี่ก็เลยจัดข้างบนที่ไม่อึกกระทึกคึกคักจนเกินไป ไม่อย่างนั้นกลัวจังหวะดนตรีจะซึมซับเข้าสายเลือด เดี๋ยวคืนนี้คึกเกินไม่ยอมหลับนอนจะเดือดร้อนกระผมได้ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:01:22

ความคิดเห็นที่ 17 ทุกอย่างดีหมดเลยครับ เสียดายอย่างเดียวอยู่ไกลจากส่วนโรงแรมราวสองร้อยเมตร ต้องเดินข้ามถนนและตามทางเดินหลังสนามฟุตบอล ขาไปไม่เท่าไหร่เดินลงเนินมาครับ แต่ขากลับนี่ทำเอาเครียดเหมือนกัน เพราะต้องอุ้มลูกซึ่งหนักขึ้นทุกวันมาในสภาพที่อิ่มจนพุงปลิ้น ลำพังแบกสังขารตัวเองพร้อมอาหารในท้องกลับมาก็แทบไม่ไหวแล้วครับ แถมยังมีกระเป๋ากล้องชุดใหญ่อีกต่างหาก นี่ล่ะครับข้อเสียของการเป็นโปรอุปกรณ์ที่ต้องพกเลนส์ไว้ทุกช่วงจะได้ดูน่าเกรงขาม เดินมาถึง lobby โรงแรมทำเอาขาสั่นไปเลย โชคดีช่วงที่ไปคืนนั้นไม่เจอฝนครับ ไม่อย่างนั้นคงได้นอนกันที่ร้านอาหารแน่นอน ป.ล. ถ้าโรงแรมมีบริการรถกอล์ฟไปรับส่งด้วยก็จะดีมว๊าก จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:01:42

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาเข้าเรื่องอาหารกันอีกทีก่อนปิดท้ายค่ำคืนนี้ ส่วนนี้เป็นซุ้มที่ผมเกริ่นค้างเอาไว้ข้างต้น จะเป็นพวกของกินเล่นที่ผมจริงจังตักเต็มมาโดยตลอด มีตั้งแต่หอยแมลงภู่ กุ้ง กรรเชียงปู พร้อมกับน้ำจิ้มทะเลสุดแซ่บ นอกจากนี้ใกล้กันก็มีไอติมและของหวานแสนอร่อย ส่วนห้องอีกฟากก็จะมีหมวดย่าง ได้แก่ ไก่ เป็ด และไส้กรอก โดยเฉพาะเป็ดนี่ผมชอบเป็นพิเศษ ใครชอบเนื้อก็จะมีสเต๊กด้วย (สั่งดิบสุกตามใจชอบ) รวมถึงกุ้งและกั้งเผาที่ทำเอาผมเดินหลายรอบไม่แพ้ปลาดิบ เดินไปแวะบ่อยจนแทบจะเพื่อนสนิทกับพ่อครัวเลยครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:01:57

ความคิดเห็นที่ 19 กิจกรรมการกินผมยังไม่ได้จบเท่านี้ครับ เช้าวันต่อมานี่เป็นอีกโปรแกรมที่ห้ามพลาดเช่นกัน นั่นก็คือ “Sunday Brunch” อันเลื่องชื่อของที่นี่ ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนต้องจองล่วงหน้าด้วยนะครับ (ไม่อย่างนั้นอด) วันนี้ผมทราบก่อนก็เลยทานมื้อเช้าแบบยั้งไว้เล็กน้อย ราคาก็ไม่เบาเท่าไหร่พอกับค่ำวานนี้เลย แต่เคยเห็นโปร “หนึ่งแถมหนึ่ง” จากงานเที่ยวไทยเวลาพ่วงซื้อห้องพักเช่นกันครับ ถ้าใครต้องการไวน์หรือแชมเปญก็จ่ายเพิ่มตามส่วน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:02:15

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้เป็นส่วนด้านในที่จัดเตรียมอาหารไว้ครับ มีพวกอาหารผัดหรืออะไรต่างๆ ชาวต่างชาติอาจชอบมาแวะตักกันบ้าง แต่สำหรับผมตรงนี้อาจเปลืองพื้นที่ในท้องผมพอสมควร “ผ่านครับ” จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:02:34

ความคิดเห็นที่ 21 ตรงนี้เลยครับที่ผมใช้บริการบ่อยครั้ง เด็กดอยอย่างผมเห็นแล้วแทบจะเป็นลมไปตรงนั้นเลย อาหารทะเลสดๆ หวานๆ ทั้งนั้นครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:02:54

ความคิดเห็นที่ 22 บรรยากาศโดยรวมภายในห้องอาหารครับ ห้อง “Oriental Spoon” ที่ใช้ทานอาหารเช้าเลย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:03:14

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นแบบนี้แล้วผมอดใจไม่ไหว เดินผ่านทีไรหยิบไปทุกครา “แฮ่ๆ” ป.ล. แถวนี้มีสาเกญี่ปุ่นให้ไปแกล้มหอยด้วยนะครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:03:28

ความคิดเห็นที่ 24 มาเจอจานนี้รับรองเจแตกชัวร์ครับ งวดหน้าออก “98” (ก้ามปู) นายกคนนี้มักชอบให้เลขหวยเด็ดเสมอ แทงแล้วไม่รวยก็เจ๊งกันไปข้างนึง อยากบอกว่าระหว่างทำรูปคิดถึงความหวานของกรรเชียงปูกองนี้เหลือเกิน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:03:44

ความคิดเห็นที่ 25 ไวน์ไม่ฟรีแต่อันนี้เชิญเต็มที่ครับ แช่เย็นเห็นแล้วชื่นใจสุดๆ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:03:57

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นแขกต่างชาติผสมกับน้ำมะเขือเทศ ใส่สารพัดหลากซอสจนกลายเป็น “Bloody Mary” ผมชงไม่เป็นก็เลยขอพนักงานช่วยจัดให้ครับ แต่ไม่ค่อยถูกปากซักเท่าไหร่ เพราะมีทั้ง Tabasco & Worcestershire ปนกันไปหมด ปกติผมชอบทานซอสพวกนี้กับไข่ดาวมากกว่า จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:04:12

ความคิดเห็นที่ 27 แตงเมลอนอันแสนหวานเย็นฉ่ำ เอาไว้ทานพร้อมกับแฮมดิบโดยเฉพาะครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:04:34

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อกันด้วย “พาร์มาแฮม” ที่แล่กันบางเฉียบ ซึ่งเป็นแฮมดิบสไตล์อิตาลีนั่นเอง รสชาติจะออกเค็มๆ พอดีถูกปากคนไทย แอบนอกเรื่องสักเล็กน้อยถึงขั้นตอนกว่าจะมาเป็นแฮมอันโอชะ เขาจะนำเอาขาหมูสดมาล้างทำความสะอาดอย่างดีก่อน จากนั้นก็ทาเกลือทิ้งไว้ราวสองเดือนแล้วค่อยเอาไปล้างเกลือออกให้หมด ยังไม่จบต้องเอาไปแขวนในร่มที่อากาศถ่ายเทจนแห้งอีก 12-18 เดือน คิดดูสิครับว่าใช้เวลานานแค่ไหน สุดท้ายลงท้องไปในเวลาไม่ถึงสิบวินาที จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:04:52

ความคิดเห็นที่ 29 เอาทั้งแฮมและเมลอนมาทานด้วย ชีสที่เห็นรายการนี้เรียกว่า “Raclette” (ราเคล็ตต์) มีรากศัพท์จาก “Racler” ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ขูด” วิธีกินก็จะขูดไปกินไปตามชื่อที่มานั่นเองครับ สำหรับที่นี่จะนำชีสหลอมละลายด้วยความร้อนจนผิวหน้าเดือดปุดๆ แล้วจึงขูดมาเทบนผักดองหรือมันฝรั่งต้มลูกเล็กอร่อยอย่าบอกใคร จัดเป็นอาหารประจำชาติอย่างนึงของสวิสรองจากฟองดูเชียวนะครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:05:10

ความคิดเห็นที่ 30 อีกหนึ่งรายการสำคัญของมื้อนี้เป็น “foie gras” ครับ ซึ่งเป็นเมนูทำจากตับเป็ดหรือห่านนั่นเอง ผมตั้งใจว่าจะเลิกกินเมนูนี้มานานแล้ว เพราะเคยเห็นขั้นตอนการผลิตอันแสนหฤโหด สุดท้ายทนไม่ไหวเนื่องจากเคยชอบทานมาก สัญญากับตัวเองว่าจะเข้มแข็งกว่านี้ คิดว่าโดนฟ้าลงโทษจากผลการตามใจปากในครั้งนั้นครับ เปิดฤดูกาลใหม่มาทีมหงส์แดงทีมรักของผมเริ่มต้นได้แย่มาก (แต่พวกทีมคู่อริเรียกว่า “เป็ดแดง”) เปิดฤดูกาลมาหกนัดเก็บได้สองแต้มเท่านั้น มาถึงตอนนี้ยังเป๋ไม่หายเลยครับ ป.ล. กลับบ้านมาแม่ผมแทบจำไม่ได้เพราะน้ำหนักขึ้นไปหลายโล จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:05:24

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนเย็นพวกเราไปทานกันที่ “Bake” ซึ่งมีอยู่สามสาขาในภูเก็ต ซึ่งเป็นร้านขนม bakery ในเครือของโรงแรม พอไปถึงก็เงิบกันเล็กน้อยเพราะว่าขนมโดนเหมาหมดแผง บังเอิญวันที่ไปเขามีงานภูเก็ตมาราธอน ก็เลยมายกแผงไปแจกผู้ร่วมงานจนไม่เหลือถึงผมแม้แต่น้อยครับ แต่ความจริงก็พอได้ลิ้มลองขนมจากร้านนี้บ้างแล้ว เพราะเขาจะนำไปลงในบุฟเฟ่ต์ที่จัดไว้ตอนกลางวันและคืนวานด้วย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:05:45

ความคิดเห็นที่ 32 บริเวณโซนนี้จะเป็นศูนย์รวมร้านอาหารและขนมของ Twinpalms ครบวงจร โดยต้องนั่งรถจากโรงแรมประมาณสิบนาทีได้ครับ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนของ “Flame” ร้านอาหารแนวย่างๆ ซึ่งผมได้ไก่ย่างครึ่งตัวมาทานเป็นมื้อเย็นอันโอชะ โดยน้ำจิ้มที่ให้มาในรูปอาจดูดีมีตระกูลแต่รสชาติไม่ค่อยสะแด่วเท่าไหร่นัก โชคดีทางร้านรู้ใจคนไทยจะมีเตรียมน้ำจิ้มแจ่วไว้ให้จกกันอร่อยไปเล้ย ขาดอย่างเดียวก็ข้าวเหนียวกับส้มตำ ถ้ามีล่ะก็คราวหน้าผมจะพกแคบหมูเจ้าดังจากเชียงใหม่มาทานด้วย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:06:01

ความคิดเห็นที่ 33 อันนี้จะเป็น Pasta ซึ่งอยู่ในโซนและเครือเดียวกัน เป็นร้านอาหารที่พึ่งเปิดช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตามชื่อก็จะมีพวกพาสต้าหลากชนิดให้เลือกสั่งครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:06:22

ความคิดเห็นที่ 34 บริเวณที่ทำอาหารของร้าน Flame อยู่ตรงนี้เช่นกัน เป็นครัวเปิดที่ทำอาหารกันง่ายๆ เน้นรายการปิ้งย่างเป็นหลักนะครับ นอกจากไก่ย่างจานโปรดก็จะมีพวกซี่โครงหมูให้ลอง หรือถ้าใครชอบทานแป้งก็จะสามารถสั่งพิซซ่าเตาถ่านกับเบอร์เกอร์ได้ ถ้าไม่มีเจ้าตัวน้อยติดมาคงเลือกนั่งทานตรงบาร์นี้เลย เพราะว่าระหว่างทานก็จะได้ดูเขาทำสดๆ ไปพร้อมกันครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:06:39

ความคิดเห็นที่ 35 แฟนผมสั่งพาสต้ามาทานครับ พอดีไม่ได้ชิมแต่เห็นบอกว่ารสชาติใช้ได้ทีเดียว จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:06:54

ความคิดเห็นที่ 36 ตัดภาพมาเช้าวันที่สามของทริปนี้เลยนะครับ หลังจากลุ้นและเกาะติดสภาพอากาศหลังพายุเข้ามาหลายคืน พอเห็นฟ้าแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่ค่อยวางใจว่าคลื่นลมจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมเลยตัดสินใจออกทะเลคนเดียว ปล่อยภรรเมียกับลูกนอนเล่นอยู่ที่โรงแรมดีกว่า เช้านี้ผมเลยลุยเดี่ยวมาทานอาหารเอง (ลูกยังไม่ตื่นครับ) จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:07:15

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนจะเดินเข้า lobby แหงนหน้ามองฟ้า ตอนนี้ชักลังเลว่าจะโทรปลุกลูกกับภรรยาไปด้วยดีไหม สุดท้ายก็คิดว่าไปคนเดียวดีกว่าเพื่อความสบายใจ ว่าแล้วผมก็ขอติดรถไปกับพนักงานก่อนเรือออกสองชั่วโมง เพื่อที่ว่าจะมีเวลาเดินเล่นสำรวจบริเวณท่าจอดเรือสุดหรูอีกด้วย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอที่แสนจะไฮโซ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:07:34

ความคิดเห็นที่ 38 ไปถึงเรือปุ๊บก็จะมีนี่เลย “welcome drunk” จัดไปไม่เมาเรือก็เมารักแน่นอนงานนี้ แก้วที่ใช้บนเรือจะทำจากพลาสติกไม่ต้องกลัวแตก ไม่รีรอซดไปหนึ่งโฮกเย็นซ่าถึงใจโซเซตั้งแต่เรือยังไม่ออกครับ มองไปนอกอ่าวแล้วคลื่นนิ่งมากจนแทบไม่มี ผมเลยลองโทรไปบอกหวานใจให้รีบปลุกลูกมาขึ้นเรือดีกว่า เป็นการตัดสินใจแทบจะวินาทีสุดท้ายเลยครับ ทันรถตู้จากโรงแรมพอดิบพอดีไม่มีใครได้กินข้าวสักคน แต่รับรองไม่ผิดหวังกับ “exclusive trip” อย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ผมนอนยันการันตีเพื่อจูงใจให้ภรรยามาลงเรือไปพร้อมกัน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:07:48

ความคิดเห็นที่ 39 มาถึงตรงนี้อาจงงว่านี่เป็นภาพที่โรงแรมหรืออย่างไรเนี่ย แต่ความจริงมันคือห้องส่วนตัวบนเรือของพวกผมต่างหาก “อิๆ” เวอร์ขนาดนี้ผมจึงต้องรีบพาลูกกับเมียมาลองนั่งเรือยอร์ชกันดูสักตั้ง แบบว่าอยู่สบายเหมือนโรงแรมเคลื่อนที่ประมาณนั้น ภายในมีทั้งทีวีจอแบนและเครื่องเสียงอย่างดีครบครัน ห้องที่ผมใช้บริการจัดเป็นห้องที่ใหญ่สุด จะอยู่ตรงท้ายเรือและมีเพดานค่อนข้างสูงโปร่งสบายจุงเบย รวมแล้วจะมีห้องนอนอยู่สี่ห้องบริเวณท้องเรือชั้นล่างครับ ป.ล. สำหรับห้องเหล่านี้เป็นส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มพิเศษนอกเหนือจากค่าขึ้นเรือ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:08:10

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเล่นน้ำทะเลมาแล้วตัวเหนียวก็มีห้องอาบน้ำให้ครับ รูปที่เห็นนี้เป็นห้องน้ำส่วนกลางบนเรือ ภายในห้องของผมก็มีเช่นกัน ประมาณว่าใช้ส่วนตัวไม่ต้องแบ่งใครเลย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:08:24

ความคิดเห็นที่ 41 อันนี้สำหรับแขกที่ต้องการห้องพิเศษแต่นอนแชร์ด้วยกัน ภายในไม่มีห้องน้ำส่วนตัวนะครับ (ต้องแชร์กับแขกท่านอื่น) จะมีห้องน้ำส่วนตัวเฉพาะห้องหัวเรือและท้ายเรือเท่านั้น จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:08:41

ความคิดเห็นที่ 42 ห้องถัดมาจะค่อนข้างเล็กหน่อย เตียงก็จะอารมณ์ประมาณนี้เลยครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:08:56

ความคิดเห็นที่ 43 ตรงนี้เป็นพื้นที่่ส่วนกลางบนเรือ โซฟานั่งเล่นอยู่ในส่วนห้องติดแอร์เย็นฉ่ำ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ค่อยชอบอยู่ หนีไปรับลมและตากแดดนอกเรือกันหมด ผมและครอบครัวก็เลยมาจับจองตลอดทริปครับ เพราะว่าอยู่ในห้องใต้ท้องเรือนานๆ แล้วเวียนหัวเหมือนกัน โดยพื้นที่ใช้สอยส่วนนี้เรียกว่า “saloon” ว่ากันง่ายๆ ก็ห้องรับแขกนั่นเอง จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:09:12

ความคิดเห็นที่ 44 ถัดขึ้นมาอีกนิดนึงก็จะเป็นโซนกินข้าว (dining room) พร้อมกับมีบาร์เตรียมอาหารและเครื่องดื่มอยู่ฝั่งตรงข้าม จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:09:26

ความคิดเห็นที่ 45 มองกลับเข้าไปให้เห็นกันเต็มๆ เลยนะครับ เครื่องเสียง​Bose ติดรอบห้อง ตรงกลางจะเป็นบันไดลงไปห้องนอนข้างล่าง สำหรับขวามือไกลๆ เป็นที่นั่งของกัปตันขับเรือ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:09:43

ความคิดเห็นที่ 46 ต่อมาจะพาไปชมวิวกับบนดาดฟ้าบ้าง คิดดูละกันว่าเรือลำนี้ใหญ่ขนาดไหนนะครับ มีที่นั่งเล่น นอนเล่น กลิ้งเล่นตามใจชอบ หรือจะมาทานอาหารข้างบนนี้ก็เหมาะยิ่งนัก จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:09:58

ความคิดเห็นที่ 47 มองย้อนกลับไปอีกฟากนึงนะครับ จะเห็นว่ามีที่ขับเรืออยู่ตรงนี้ด้วย สามารถเปลี่ยนบรรยากาศว่าจะขับข้างบนหรือในห้อง ป.ล. เรือที่จอดหรูทั้งนั้นแต่ของเราชนะเลิศ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:10:14

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนนี้เป็นหัวเรือที่สามารถมาเดินเล่นและใช้อาบแดดได้เช่นกัน ใครอยากโพสถ่ายรูปเป็น “พี่แจ๊ค ดอว์สั้นๆ” ในหนังไททานิคก็จัดไปมุมนี้เลย ในรูปที่เห็นเหมือนเบาะสีขาวเอาไว้นอนอาบแดด ไม่เพียงแค่ให้นิ่มสบายแต่ป้องกันร้อนก้นด้วย ส่วนกระจกกลมๆ นี่เป็นช่องแสงของห้องนอนใต้ท้องเรือครับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 11:23:00 จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:10:31

ความคิดเห็นที่ 49 มาดูใกล้ๆ กันอีกนิดครับ ด้านล่างก็จะมีผ้าม่านปิดกันคนมองลงไป ว่าแต่เรือลำนี้ถ่ายมุมไหนก็หล่อจริงๆ เล่ามาตั้งนานลืมแนะนำชื่อเรือซะได้ครับ เรือยอร์ชสุดเริ่ดลำนี้ชื่อว่า “MY Olympia 76” ดำเนินการโดย “Andaman Cruises” -- http://www.andaman-cruises.com ซึ่งเป็นบริษัทเรือในเครือของโรงแรมที่ผมพักอยู่อีกเช่นกัน จัดว่าใหญ่และมีชื่ออันดับต้นๆ ในภูเก็ตแล้วครับ เรือลำที่ผมนั่งนี้จะใหญ่สุดในเรือที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด หากเช่าเหมาลำจะเริ่มต้นที่ 120,000 บาท/วัน (หรือช่วงเวลาที่ผมไปจะแชร์ทริปกับชาวบ้านก็คนละประมาณ 6,000 บาท) วันนั้นแขกเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดครับ มีเพียงครอบครัวผมที่เป็นคนไทย สำหรับลำอื่นที่ทางบริษัทให้บริการนี่จัดแบบเช่าเหมาลำเท่านั้น จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:10:48

ความคิดเห็นที่ 50 ขอแถมมาที่เรือ “MY Portofino 53” ซึ่งเป็นเรือลำที่มีขนาดเล็กรองๆ ลงมาครับ แอบพาชมเพราะเป็นลำที่ “เจ็ทโด้ปีกจอมสับ (Ronaldo 7)” มาใช้บริการตอนมาเมืองไทย ล่าสุดแว่วว่ารีสอร์ท “สัมผัสที่หก” ที่เจ้าโด้พักก็มาร่วมงานกับ Andaman Cruises แล้ว ซึ่งแขกที่มาพักก็คงสามารถใช้บริการเรือหรูเวลาออกไปทัวร์เกาะต่างๆ ได้ครับ สำหรับใต้ท้องเรือจะมีอยู่สามห้องนอนอย่างหรูทีเดียวโดยเปิดประตูสีดำตรงกลางเข้าไป ข้างบนนี้ถึงไม่ติดแอร์แต่ก็มีทีวีอำนวยความสะดวกครบครัน เห็นแล้วแอบอิจฉาอีตาเจ็ทโด้ที่มีแฟนสาวสวยจังเลย (เกี่ยวอะไรกับเรือเนี่ย) จะว่าไปแล้ววันนี้ผมก็ระดับซุปตาร์เหมือนกันนะที่มีโอกาสนั่งเรือแบบนี้ สมัยก่อนผมเห็นพวกคนดังหรือดาราเมืองนอกนั่งและโดนปาปารัสซี่แอบถ่ายภาพ เคยนึกฝันอยากนั่งเรือแบบนี้สักครั้งในชีวิตเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเป็นจริงได้ครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:11:05

ความคิดเห็นที่ 51 เวิ่นเว้อมานานจนได้เวลาออกเรือแล้วครับ ขึ้นมาก็จะได้รับฟังคำอธิบายต่างๆ เป็นอันดับแรก และก็จุดหมายปลางทางวันนี้คือ “เกาะไข่” เป็นครั้งแรกที่น้องนภลูกชายตัวแสบมีโอกาสลงเกาะ อารมณ์ประมาณหลั่นล้าเป็นที่สุดครับ อากาศดีเวอร์แดดแรงจนตาแทบลืมไม่ขึ้นเลย ไม่น่าเชื่อว่าพายุพึ่งเข้าไม่กี่วันก่อน ผลจากการเหมาตะไคร้ทั้งตลาดมาปักคงได้ผลครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:11:25

ความคิดเห็นที่ 52 ที่นี่จะมีร่มหลากสีเยอะมากจนลายตา แต่ก็ยังไม่พอที่จะใช้หลบคลื่นความร้อนได้สักเท่าไหร่ในวันแดดแจ๋ เนื่องจากเกาะไข่นี่แสนร้อนมากจนมือแทบสุก (เอ๊ะยังไง) แนะนำว่าให้เตรียมโลชั่นกันแดดมาให้เพียงพอ ไม่อย่างนั้นผิวลอกกันอย่างแน่นอนครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:11:41

ความคิดเห็นที่ 53 ลูกชายผมนี่นั่งเล่นอยู่ใต้ร่มแป๊บเดียวนี่เหงื่อโซกเหมือนวิ่งไปทั่วเกาะ ความจริงก็เดินไปมาไม่ยอมหยุดเพราะความตื่นเต้น ส่วนผมก็มัวแต่เดินถ่ายรูปเสียเพลินเลย จนแม่ต้องทำตาเขียวมาเรียกให้พาลูกกลับไปอยู่ในร่ม จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:11:55

ความคิดเห็นที่ 54 ทรายบนเกาะนี่นุ่มสบายเท้ามากครับ ถึงแม้จะร้อนไปนิดแต่ก็สามารถเดินเท้าเปล่าได้ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:12:09

ความคิดเห็นที่ 55 เดินเล่นพักผ่อนกันสักพักชักเริ่มไม่ไหว อยู่ข้างล่างนี้ร้อนเกินไปแล้วครับ กลับไปนั่งชิวตากแอร์บนเรือคงจะดีกว่า ที่สำคัญก็ได้เวลาหม่ำเต็มแก่ พอถึงเรือทุกอย่างก็เตรียมไว้พร้อมเสร็จสรรพ มีให้เลือกทั้งสลัด ข้าว ไก่ย่าง ผัดผัก ข้าวผัด ประหนึ่งว่ายกครัวมาไว้บนเรือเลยทีเดียว บอกตามตรงว่าโลโซอย่างผมนี่ไปไม่ถูกเหมือนกัน ปกติเวลาทัวร์เกาะนี่กินแบบร้อนอวมๆ แต่ก็เป็นบรรยากาศที่สนุกทั้งสองแบบล่ะครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:12:23

ความคิดเห็นที่ 56 และที่ขาดไม่ได้ก็เนื้อสีส้มอันแสนจะคุ้นตาแบบนี้ หนีมาขึ้นเรือก็ยังตามมาให้พวกเราหม่ำอีก จัดการไปหลายชิ้นเหมือนกันครับ ซึ่งพอเริ่มตักอาหารเรือก็ค่อยๆ แล่นไปช้าๆ ขากลับนี่โชคดีเรือนิ่งมากเหมือนไม่มีคลื่นแม้แต่น้อย ส่วนนึงก็คงเป็นเพราะเรือลำใหญ่ด้วย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:12:41

ความคิดเห็นที่ 57 ทานมื้อกลางวันเสร็จพวกเราก็ออกไปเดินเล่นบนดาดฟ้า อากาศดีมากยกเว้นแต่กลิ่นบุหรี่ที่ชาวต่างชาติสูบ พวกเราก็เลยต้องหนีกลับมาตากแอร์เป็นระยะ พื้นที่อาบแดดนี่โดนจับจองไปหมด แต่กลุ่่มของผมก็ชอบที่จะอยู่ห้องเย็นๆ มากกว่าเช่นกัน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:12:58

ความคิดเห็นที่ 58 พอถึงบริเวณเกาะนาคาเรือของพวกเราก็จอดอีกครั้ง เพื่อให้แขกที่มาเล่นกิจกรรมได้ตามใจชอบ หรือบางคนอยากลงไปเที่ยวเกาะก็ได้เช่นกันครับ รอบนี้ผมขออยู่บนเรือเพราะว่าไม่มีคลื่นให้เวียนหัว นั่งบนดาดฟ้าดูชาวต่างชาติเล่นโดนัท (tube) ส่วนผมจัดหนักมื้อเที่ยงไปหน่อยก็เลยงดกิจกรรมทุกชนิดครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:13:20

ความคิดเห็นที่ 59 โดยจะใช้เรือยาง (dinghy) ที่ขนมากับเรือพวกเราด้วย ลากห่วงยางโดนัทซิ่งไปมาครับ และก็ใช้เป็นพาหนะเวลาเอาผู้โดยสารไปส่งเกาะระหว่างทางพร้อมกัน เนื่องจากไม่สะดวกที่จะเอาเรือใหญ่เข้าเทียบท่า จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:13:38

ความคิดเห็นที่ 60 แน่นอนว่าน้ำดื่มบนเรือต้องใช้ยี่ห้อนี้เท่านั้น แต่ถ้าอยากได้พวกน้ำอัดลมก็มีให้ตลอดเช่นกันครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:13:49

ความคิดเห็นที่ 61 กิจกรรมสำหรับหนุ่มกล้ามใหญ่ต้องสกีน้ำ (water ski) ไม่ก็เวคบอร์ด (wake board) หรือเคเบิ้ลสกีที่เคยโด่งดังหลายปีก่อน ส่วนใครอยากดำผิวน้ำก็จะมีอยู่ในโปรแกรมเช่นกันครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:14:12

ความคิดเห็นที่ 62 หนึ่งวันอันแสนมหัศจรรย์ของผมผ่านไปอย่างรวดเร็วครับ ความจริงไม่ต้องมีกิจกรรมอะไรมาก แค่มีโอกาสได้นั่งเรือยอร์ชดูวิวทะเลก็ชิวสุดยอดแล้ว ระหว่างกลับโรงแรมนี่ลูกหลับคาอ้อมกอดผมตลอดทางเลย ตื่นมาอาบน้ำเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็นพอดี ค่ำนี้พวกเราหมดแรงก็เลยขอกินกันที่ Oriental Spoon ดีกว่า ผมขอเรียกความสดชื่นด้วย​“Mint Lemonade” น้ำมะนาวหอมชื่นใจเหมือนแป้งเย็นเภสัชกลิ่นมาดามกันเลยทีเดียว อาหารค่ำก็อร่อยแต่แสงน้อยก็เลยไม่ได้เอามาฝากนะครับ มีปลาสำลียำมะม่วงกับผัดพริกแกงปู สรุปว่าฟินทั้งคู่เลยโดยเฉพาะอย่างหลังอร่อยขั้นเทพ พ่อครัวจะเอาปูทะเลมาผัดกับเครื่องแกงเปรานากัน (Peranakan) โดยจะเป็นอาหารของชาวเปรานากันซึ่งมีเชื้อสายจีนปนมลายูครับ อาหารชนิดนี้จะหาทานได้ทั่วไปในมาเลเซียหรือสิงคโปร์ สำหรับข้อมูลตรงนี้ต้องขอบคุณ “พี่ชาย” (Executive Assistant Manager) ที่คอยดูแลส่วน F&B ได้ช่วยอธิบายและแนะนำเมนูนี้รวมถึงเรื่องของอาหารเปรานากันครับ ผมดองรีวิวไว้นานจนลืมเกือบหมด ยังดีได้ “อากู๋ (Google)” ช่วยต่อยอดอีกนิดก็เลยนึกออก แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 20:22:36 จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:14:29

ความคิดเห็นที่ 63 เผลอแป๊บเดียวเข้าสู่เช้าวันที่สี่แล้ว ตัวแสบหลับสบายบนเตียงดูดพลังอันลือชื่อของที่นี่ ตื่นมาก็เลยอารมณ์ดีทำหัวฟูอย่างที่เห็นครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:14:46

ความคิดเห็นที่ 64 มื้อเช้าต้องมีเครื่องดื่มอร่อยๆ สั่งโอวัลตินร้อนพร้อมย้ำว่าขอแต่งหน้าเต็มยศครับ (ถ้าเป็นเครื่องดื่มเย็นจะทำออกมาไม่สวยเท่า) จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:15:16

ความคิดเห็นที่ 65 มาเที่ยวนี้ผมนอนห้องแบบ Penthouse ซึ่งความจริงก็ตกแต่งทุกอย่างเหมือนกับ Duplex Pool Suite ทุกอย่างเลย ต่างกันนิดเดียวตรงที่สระว่ายน้ำครั้งนี้จะอยู่บนดาดฟ้า แต่ผมว่าสระนี้น่าว่ายเล่นกว่าเพราะโดนแดดทั้งวัน เวลาเล่นก็จะไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ที่สำคัญจะกว้างและยาวกว่าเยอะครับ มีทั้งเตียงนอนกลางวันอาบแดดและโซฟาอยู่ข้างสระ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:15:39

ความคิดเห็นที่ 66 มุมนี้ฟ้าใสสุดยอดไปเลยครับ พอว่ายขึ้นจากสระก็จะมีฝักบัวสำหรับอาบน้ำ และก็มีผ้าขนหนูเตรียมไว้ให้เรียบร้อย จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:16:04

ความคิดเห็นที่ 67 สำหรับภาพนี้เป็นห้อง Duplex Pool Suite ซึ่งบ่ายวันพรุ่งนี้ผมจะมาอยู่ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับ เพราะว่าห้อง Penthouse จะมีแขกเกาหลีมาต่อ ห้องเหมือนกันจนแยกไม่ออกถ้าไม่สังเกตจากสระว่ายน้ำด้านนอก จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:16:24

ความคิดเห็นที่ 68 ชั้นล่างของ Duplex Pool Suite จะเหมือนกับ Penthouse ยกเว้นในส่วนของสองห้องนอนจะกั้นแบ่งส่วน โดยตั้งแต่ด้านหลังของทีวีที่เป็นห้องทานข้าวจะปิดทึบ และใช้ประตูเลื่อนเพื่อทำเป็นห้องนอนครับ (เหมือนที่ผมพักรอบก่อน) จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:16:43

ความคิดเห็นที่ 69 ห้องชนิดนี้จะมีตู้แช่ทั้งแช่ไวน์และตู้เย็นจนงงไปหมด แต่ก็เหมือนไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ ปกติผมจะขอน้ำแข็งใส่กระติกเป็นตัวช่วยครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:16:56

ความคิดเห็นที่ 70 ถัดเข้ามาก็เป็นห้องน้ำที่ขนาดกำลังพอดีครับ ด้านซ้ายก็ใช้อาบน้ำแบบฝักบัวมือและแบบฝนตก (rain shower) จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:17:11

ความคิดเห็นที่ 71 ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้าและทางขวาก็ตามที่เห็นครับ ผ่านไปเร็วหน่อยเพราะมีในรอบที่พักครั้งก่อนแล้ว จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:17:27

ความคิดเห็นที่ 72 อ่างอาบน้ำของชั้นบนจะเปิดโล่งเซ็กซี่มาก ชอบครับแต่ว่าเวลาแช่อ่างจะหนาวไปสักเล็กน้อย ถ้ามากับลูกก็ไม่ค่อยกล้าโชว์สักเท่าไหร่ครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:17:44

ความคิดเห็นที่ 73 ส่วนที่อาบน้ำฝักบัวก็คล้ายกับข้างล่างครับ รูปนี้ถ่ายแนวตั้งให้เห็นฝักบัวฝนตกกันแบบชัดๆ ออกแบบได้เรียบง่ายแต่ดูดีมากเลย ป.ล. สบู่ แชมพู และครีมนวดของ “Molton Brown” หอมมว๊าก จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:18:01

ความคิดเห็นที่ 74 ห้องน้ำดีไซน์เปิดแบบนี้ถ้าคู่รักมาพักคงถูกใจครับ มีอ่างล้างหน้าสองฟากไม่ต้องแย่งกันใช้ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:18:18

ความคิดเห็นที่ 75 สำหรับ Duplex Pool Suite และ Penthouse ในส่วนห้องน้ำและห้องนอนชั้นบนจะเหมือนกันหมดครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:18:36

ความคิดเห็นที่ 76 สระว่ายน้ำตรงนี้ค่อนข้างจะเย็นไปหน่อย (อยู่ในร่ม) ลงไปแช่เล่นนี่ตอนแรกมีสะดุ้งเหมือนกันครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:19:07

ความคิดเห็นที่ 77 พักเบรคมื้อเที่ยงกันสักเล็กน้อยครับ เช่นเคยว่าผมสั่งหมี่สะปำอาหารขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:19:27

ความคิดเห็นที่ 78 รอบนี้จะพาออกมาจากโซน Residence ที่ผมพักนะครับ โดยทั้งหมดก็ออกแบบโดย “Martin Palleros” สถาปนิกดังในย่านนี้เลย อันนี้เป็น “Grand Deluxe (Palm Room)” ซึ่งเป็นห้องระดับกลาง ในกรณีที่มีทางเดินลงไปสระว่ายน้ำหน้าห้องจะเรียกว่า “Lagoon Pool Room” เตียงก็จัดว่าดูดพลังและนิ่มไม่แพ้ห้องที่ผมพัก เสียดายไม่ได้ทดสอบเพราะเขาจัดไว้เรียบร้อยแล้ว งานออกแบบเรียบง่ายคล้ายกัน แต่ว่าพื้นจะเป็นไม้ทั้งหมดเลยครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:19:43

ความคิดเห็นที่ 79 ห้องน้ำจะค่อนข้างกว้างขวางพอสมควร มีประตูเปิดและปิดกั้นระหว่างห้องนอนตามใจชอบ อ่างล้างหน้ามาเป็นคู่อยู่ด้วยกันครับ แอบมีเก้าอี้สำหรับนั่งแก้เมื่อยในห้องด้วย ห้องอาบน้ำฝักบัวอยู่ถัดไปด้านใน และก็มีอ่างอาบน้ำให้เช่นกัน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:20:01

ความคิดเห็นที่ 80 ส่วนของระเบียงด้านนอกก็จะมีเตียงนอนแสนนิ่ม มีระแนงไม้สำหรับปิดไว้หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตรงนี้พึ่งเปลี่ยนเมื่อปีที่แล้วเลยครับ ตอนผมมานี่ระแนงบางส่วนผุพังและทรุดโทรม ช่วงสิงหาคมปีก่อนนี่ทะยอยรื้อใหม่หมด สภาพที่เห็นก็เลยค่อนข้างดูดี ส่วนตัวคิดว่าดูแลรักษายากระดับหนึ่ง อย่างระแนงหลังห้องน้ำ (หากสังเกตในรูปก่อน) จะเห็นว่าสภาพไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก คงไม่ค่อยสะดวกในการเปลี่ยนเพราะแขกค่อนข้างเต็มตลอด แต่ถ้าเปลี่ยนใหม่หมดหรือเอาออกไปเลยจะสวยมากครับ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผมไม่ค่อยถูกใจนัก แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 04:15:17 จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:20:46

ความคิดเห็นที่ 81 ย้ายมาดูห้องเริ่มต้น “Deluxe (Lagoon Pool Room)” อันนี้หากเทียบกับชั้นถัดไปอาจดูอึดอัดบ้าง ด้านหลังเตียงจะเป็นโต๊ะทำงานเช่นเดียวกับที่ชมก่อนหน้านี้ ห้องนี้สามารถเดินลงสระน้ำได้เลยครับ แต่ไม่มีระแนงไม้ที่เลื่อนปิดเหมือนห้องชนิดที่สูงขึ้นไป จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:21:03

ความคิดเห็นที่ 82 ห้องน้ำคล้ายกันแต่จะแคบกว่า อ่างล้างหน้ามาเป็นคู่แต่อยู่คนละฟาก เวลาใช้ก็จะหันหลังให้กันพอดี แต่ว่าอันนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำมาให้ครับ จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:21:20

ความคิดเห็นที่ 83 มาปิดท้ายกันด้วยห้องพักตัวสูงสุดนอกโซน Residence นะครับ โดยจะเป็นห้อง “Suite (Palm Suite)” ห้องกว้างขวางเป็นพิเศษและมีโซนรับแขกหรือนั่งเล่นด้วย เตียงใหญ่และนุ่มสบายแน่นอน จากคุณ : Oatta's Journey เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:21:38