ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างที่พวกเราส่งเสียงกัน ก็มีคนมาเลเซียที่บ้านอยู่ละแวกนั้นได้ยินจึงเปิดประตูบ้านออกมาดู  หลังจากเราส่งภาษาอังกฤษและคนมาเลเซียส่งภาษา (ที่เราฟังไม่รู้เรื่อง) แต่เดากันได้ด้วยสัญชาตญาณว่า โจรวิ่งราวกระเป๋าคุณแม่ไป คุณแม่ก็บอกว่าพาสปอร์ตอยู่ในกระเป๋าด้วย คนมาเลเซียคงจับคำว่าพาสปอร์ตได้ ก็พยายามจะอธิบายแต่พวกเราฟังไม่รู้เรื่อง สุดท้ายเค้าถามว่าเราคนชาติอะไร พอเราตอบว่าไทย แกก็รีบไปเรียกบ้านตรงข้ามแล้วก็บอกไทยๆ ก็เลยคุยกันรู้เรื่องจากพี่คนไทยคนนี้ แกเป็นคนไทยที่มีสามีเป็นคนมาเลเซีย แกก็ใจดีเชิญเราไปนั่งในบ้านแล้วก็โทรเรียกสามีแกกลับมา ระหว่างที่รอสามีแกกลับมา เราเพิ่งได้ข้อมูลจากแกว่า มะละกามีเหตุการณ์แบบนี้มากรองจากกัวลาลัมเปอร์ แกเล่าให้ฟังว่าเคยมีคนถึงแก่ชีวิตเพราะไม่ยอมปล่อยกระเป๋า โจรก็ขี่มอเตอร์ไซค์ลากไปด้วย หรือในเคสเดียวกันบาดเจ็บสาหัส พวกกล้องถ่ายรูปนักท่องเที่ยวถ้าสะพายไว้ก็โดนเหมือนกัน เราก็คิดในใจว่าดีแล้วนะที่แม่เราไม่เป็นไรได้ไปแต่ของ จากคุณ : PartyGirl (PartyGirl) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:37:16

ความคิดเห็นที่ 2 สามีพี่แกกลับมาอย่างรอบคอบคือมาพร้อมตำรวจ 3 นาย ตำรวจก็ถามว่าคุณแม่เป็นอะไรไหม ในกระเป๋ามีอะไรบ้าง มูลค่าประมาณเท่าไร แล้วก็บอกให้ทำใจเพราะคงไม่ได้คืน (555) แล้วแนะนำให้เราไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ สามีของพี่คนไทยอยากพาพวกเราไปแจ้งความแต่แกมีรถมอเตอร์ไซค์ไปคงไม่ไหมด ก็เลยถามว่าเราพักที่ไหน แกพาเรากลับที่พักแล้วไปคุยให้เจ้าของที่พักพาพวกเราไปแจ้งความ ซึ่งแกก็พาไป ทั้งสามีพี่คนไทยและเจ้าของที่พักขอโทษพวกเราอย่างมากที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ ขอโทษกันหลายครั้ง พวกเราก็บอกว่าเราเข้าใจที่ไหนก็มีคนไม่ดี มันไม่ใช่เรื่องรับไมได้ ไปถึงสถานีตำรวจเราก็แจ้งความ วิธีแจ้งความคือพิมพ์กรอกลงแบบฟอร์มในระบบออนไลน์ แล้วตำรวรพิมพ์ออกมาเซ็น (โอ้แม่เจ้า ทันสมัยอ่า) ได้ใบรับแจ้งความแล้ว ก็ถามคุณตำรวจว่าเราจะกลับประเทศได้ยังไง แกบอกให้เราแสดงใบแจ้งความที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนออก จากคุณ : PartyGirl (PartyGirl) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:38:05

ความคิดเห็นที่ 3 ผ่านจากคืนวันนั้นวันอาทิตย์เราก็พยายามโทรหาสถานทูตไทยที่กัวลาลัมเปอร์ แต่เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์จึงปิดทำการ และวันเดียวพวกเราก็ย้ายมาเที่ยวในกัวลาลัมเปอร์ตามแผนที่วางไว้ วันจันทร์ ช่วงเที่ยงพยายามติดต่อสถานทูต จนได้ทราบว่า เราจำเป็นต้องไปสถานทูตเพื่อออกเอกสารแทนหนังสือเดินทาง (สถานทูตไทยอยู่ที่ถนน ampang เดินทางด้วยรถไฟลงสถานี ampang แล้วก็ต่อแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีค่ะ )ใช้เวลาที่สถานทูตราวๆ 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะไปถึงบ่ายโมงกว่า แต่ต้องนั่งรอกงสุลเปิดตอนบ่ายสอง เสร็จจากกงสุล เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้เราไปติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เมืองปุตราจายาต่อ เราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าช่วงบ่ายวันสุดท้ายได้มั้ย แกก็แนะนำให้ไปตอนนี้เลยเพราะใช้เวลาในการทำงานเหมือนกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปิดห้าโมงเย็น เราก็ถามว่าทันหรือค่ะ แกบอกว่าทัน เราก็รีบไปปุตราจายาทันทีโดย KLIA แต่กว่าจะสถานี Putrajaya&Cyberjaya ก็ห้าโมงพอดีเลย พวกเราก็เลยขึ้นรถไฟกลับมากัวลาลัมเปอร์รีบเที่ยวในตอนค่ำ แล้วจะกลับมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันกลับ (ตามแผนเดิมที่ตั้งใจไว้ตอนแรก) ตอนเช้าเดินทางไปเก็นติ้ง พักเก็นติ้ง 1 คืน ช่วงเช้ารีบเดินทางกลับมากัวลาลัมเปอร์แล้วต่อมายังปุตราจายา ถึงปุตราจายาประมาณเที่ยงพวกเราก็เลยใช้บริการรถเมล์เพราะคาดว่าคงพักกลางวันกันอยู่มาเร็วก็ไม่มีประโยชน์ เดินทางมาถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็เกือบบ่ายโมงค่ะ แต่มีป้ายติดไว้ว่าเริ่มแจกบัตรคิว 13.30 (นี่ขนาดคิดเผื่อเวลาพักเที่ยงให้แล้ว 555) มีผู้คนนั่งรอกันอยู่เต็มห้องน่าสักประมาณ 50 คนได้ค่ะ คิดว่าเป็นคนที่ได้รับบัตรคิวไปช่วงเช้าแล้ว เราใช้เวลารอเอกสารไม่นานค่ะ เพราะเสร็จก่อน 4 โมงเย็น เรายังมีเวลาไปเที่ยวเดินเล่นในปุตราจายาได้อีก แต่ในระหว่างรอการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นก็เจอกับพี่คนไทยที่กระเป๋าถือหายทั้งกระเป๋าเหมือนกัน สอบถามก็เลยได้ความว่าหายในผับที่มะละกาค่ะ พี่เค้าไปเที่ยวแล้ววางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ หันหลังแวบเดียว หันกลับมาก็หายไปซะแล้ว มะละกาเมืองน่ารักๆ กลายเป็นเมืองที่ต้องระวังทรัพย์สินซะแล้วค่ะ จากคุณ : PartyGirl (PartyGirl) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:38:40

ความคิดเห็นที่ 4 โหวตค่ะ เดินทางไปมะละกามา  เดินกลับที่พักกลางคืน  ไม่ได้เฉลี่ยวใจถึงอันตรายอันนี้เลยค่ะ  เห็นแต่ว่าบ้านเทืองเค้าเล็กๆน่ารัก ดูสงบดี   จากคุณ : สถาปนิกแก่แดด เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:46:50

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะคะ   จะได้ระมัดระวังมากขึ้นไม่ว่าจะเที่ยวที่ไหน หรือแม้แต่เดินในกรุงเทพฯ แถวสีลมนี่ พวกมอเตอร์ไซต์กระชากกระเป๋า ก็ยังระบาดอยู่ค่ะ ปกติเราจะสะพายข้าง แต่เลื่อนตัวกระเป๋ามาไว้ด้านหน้าตลอด xerox passport ไว้ แล้วก็ scan เข้าเมล์ด้วย คราวนี้ว่าจะจดเบอร์ตำรวจที่ๆ จะไป เบอร์สถานทูตไทย ติดกระเป๋าไว้ด้วยดีกว่า เผื่อฉุกเฉินแจ็คพ็อตเจอเหตุไม่คาดคิด จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:56:26

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ จะระวังมากขึ้น มีแพลนไปปีหน้าค่ะ จากคุณ : มาโร่คุง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:59:49

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ค่ะคุณ Hermy ประสบการณ์ตราวนี้ดิฉันคิดว่าเดินทางครั้งต่อไปจะเอาพาสปอร์ตสำเนาสีมาพก ส่วนตัวจริงจะเก็บไปไว้โรงแรมค่ะ จากคุณ : PartyGirl (PartyGirl) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 12:10:04

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามากระทู้นี้...เพราะเคยเจอเหมือนกันเลยค่ะ แต่เราโดนที่ KL กำลังเดินชิว ๆ กัน 3 สาว  และหยุดรอริมถนน เพื่อรอข้ามถนน...แว้ปเดียวเองค่ะ มอเตอร์ไซต์ที่กำลังขับผ่าน พร้อมคนที่นั่งซ้อน กระชากปึ้บเดียว ไปเลยค่ะ ทั้งกระเป๋า!! และขับหายไปทันที โชคดีที่เราอยู่กลาง  คนโดนคือรุ่นพี่เรา  ในนั้นมีพาสปอรต์เหมือนกัน ไปแจ้งความ...ตำรวจพูดเหมือนที่คุณบอกเป๊ะเลยค่ะ  คือให้ทำใจ ไม่ได้คืนอยู่แล้ว :( สรุปทริปนั้น เพื่อนรุ่นพี่เราต้องเลื่อนวันกลับเมืองไทย เพราะไปสถานฑูตไม่ทัน ก็เป็นประสบการณ์ระทึกในต่างแดนของเราที่สุดแล้วค่ะ จากคุณ : nattynine เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 12:14:48

ความคิดเห็นที่ 9 ตัองระวังค่ะเรื่องกระเป๋า ที่ไหนๆก็มีแบบนี้ อังกิด เมกา ก็มี ที่มาเลย์ก็เช่นกัน วางกระเป๋าบนโต๊ะ ทิ้งไว้ในรถ เวลาสะำพายก็เหมือนกันค่ะ ทางที่ดี หาเป้แล้ว สะำพายเป้ดีกว่า ปลอดภัยกว่า จากคุณ : Dotmy (Dotmy) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 12:27:21

ความคิดเห็นที่ 10 เราเคยเจอเหมือนกันค่ะ ที่ KL ตอนจะต่อเครื่องไปญี่ปุ่น เราพักที่ KL 1 คืน ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปที่พัก ไปกันหลายคนด้วยนะคะ พอรถถึงสถานี คนก็เบียดกันออกค่ะ ปรากฎว่าพี่สาวแฟนโดนล้วงกระเป๋า(คิดว่าน่าจะเป็นตอนที่ลงรถไฟนั่นแหละ) กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ถึงที่พักแล้ว ที่หายไปเป็นเงินหลายหมื่นที่จะเอาไปจ่ายค่าที่พักของทุกคนที่ญี่ปุ่น ขวัญเสียมาก พี่สาวเสียใจมาก จนไม่อยากไปญี่ปุ่นแล้ว ไปแจ้งตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ มานึกย้อนไป ตอนที่กำลังจะขึ้นรถไฟฟ้าเห็นมีพวกกลุ่มวัยรุ่นอยู่แถวนั้นหลายกลุ่ม จับตาดูนักท่องเที่ยว เลยคิดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มพวกนั้น พี่เราเป็นคนไปจ่ายค่ารถไฟด้วย มันเลยเล็งกระเป๋าพี่เราไว้ กระเป๋าเป็นแบบสะพายข้างใหญ่หน่อยรูดซิป มันเลยสามารถล้วงได้ตอนเบียดกันโดยไม่รู้ตัว แต่ยังดีพี่เขาแยกกระเป๋าเงินไว้สองกระเป๋าค่ะ และใช้บัตรเครดิตได้ เลยไปเที่ยวกันต่อได้  ฝากเตือนเพื่อนๆให้ระมัดระวังด้วยนะคะ โดนไปทีจะซึ้งเลย เจ็บใจมากๆ จากคุณ : -minivet- เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 12:34:32

ความคิดเห็นที่ 11 ซอยละลายทรัพย์ ละลายทรัพย์สมชื่อมิจฉาชีพเพียบ แฟนผมโดนฉก ไอโฟนมาแล้วทีนึงที่ซอยละลายทรัพย์ กับ ในโรงพยาบาลเลย รพ.สมเด็จเจ้าพระยาตอนไปทำงาน รวมสองครั้ง ทั้งที่ก่อนที่แฟนผมกำลังจะเดินถึงซอยละลายทรัพย์ โทรคุยกับผม ผมบอกว่าเลิกคุยได้จะได้เดินมีสมาธิเดี๋ยวโดนล้วงกระเป๋า แล้วเดินให้ระวังกระเป๋าเงินด้วย เพราะผมรู้ดีซอยนี้มิจฉาชีพเพียบมันจ้องพวกผู้หญิงอยู่แล้วโดยเฉพาะผู้หญิงตัวเล็กๆ ไร้ทางสู้ พูดยังไม่ทันขาดคำ อีกครึ่งชั่วโมงโทรมาบอกว่าไอโฟนโดนล้วง ดีนะยังมีมือถือธรรมดาๆอีกเครื่องให้โทรมาได้ นี่ขนาดเตือนแล้วเตือนอีกยังโดน สมัยก่อนเวลาไปเดินซอยนี้กับเพื่อนๆผู้หญิงหรือแฟนผม ผมจะคอยระวังเดินทางด้านหลังให้ครับแต่ส่วนใหญ่เพื่อนผู้หญิงจะถือแค่กระเป๋าเงินเล็กๆไปอันเดียวไปกินข้าว แต่ก็กลัวโดนคว้ากระชาก ก็จะคอยระวังให้ กะว่าล้วงกระเป๋าหรือกระชากเมื่อไหร่ผมจะเตะให้คว่ำเลยครับ 555 อาศัยว่าตัวเราใหญ่พอสมควร จากคุณ : miroslav เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:48:21

ความคิดเห็นที่ 12 มาแชร์ พี่สาวกับครอบครัวแวะทานอาหารกลางวัน ที่ Mac's ที่ ซานฟราน เสร็จแล้วเปลี่ยนโต๊ะ (พอดีมีหลายถุึงช้อปปิ้ง) มารู้ตัวอีกที พี่ลืมกล้อง Canon ตัวใหญ่ รถบัส วิ่งจากตรงนั้นมา ชม กว่าแล้ว หาเบอร์โทร แมค สาขานั้น โทรไปพนักงานที่ร้าน บอกไม่มี พี่เสียดายรูปที่อยู่ในกล้องมากๆ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่มาอเมริกา แล้วก็ไม่ได้กลับไปเที่ยวตรงนั้นอีกแล้วอ่ะ จากคุณ : cec2545 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:11:02

ความคิดเห็นที่ 13 ^^ อันนี้ลืม เองเนาะ จากคุณ : miroslav เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:54:34

ความคิดเห็นที่ 14 ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไมตำรวจของแต่ละประเทศไม่คิดหาวิธีการปราบปรามแก๊งวิ่งราว ขโมยของ ในเชิงรุกบ้าง แบบว่า ทำเป็นล่อจับแบบล่อซื้อยาบ้าเลย แบบว่าปล่อยเหยื่อล่อเดินถือของล่อตาโจร แล้วล่อให้โจรมันมาฉกไป แต่ของนั้นติด censor ที่ระบุตำแหน่งตลอดว่าอยู่ที่ไหน แล้วถ่าย VDO เก็บเป็นหลักฐานทุกขั้นตอน พอของไปถึงแหล่งปล่อยของ ก็เอาตำรวจไปจับพวกมันยกแก๊งเลย ผมว่าถ้าจับแบบนี้ได้ยกแก๊งสักทีนึง แก๊งพวกนี้จะหงอลงไปเยอะแน่ๆ เพราะไม่รู้ว่ามันจะไปเจอเหยื่อล่อจับที่ไหนอีกหรือเปล่า จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 01:34:26

ความคิดเห็นที่ 15 มาเลเซียเหมือนกัน แต่ของทีมเรา ทิ้งเป๋าเงินไว้ในห้องพักโรงแรม ตอนไปกินข้าวเช้าที่โรงแรม กลับขึ้นมา เงินในกระเป๋าหาย แต่กระเป๋าไม่หายไปด้วยนะ อิอิ อันนี้ก็พลาดเอง เพื่อนชาวญี่ปุ่นของทีมเรา ่ขนาดในโรงแรมชื่อดังยังจับตัวพนักงานไม่ได้เลย จากคุณ : บัดดี้ชาเย็น เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 21:00:10