หลังจากขึ้นเวทีต่อสู้กับการเรียนที่มช.มาสักระยะนึง ไอ้เตี้ยที่มันบ้ากล้องก็ได้ถอยเลนส์ตัวใหม่อะไรไม่รู้ของมัน เห็นมันบอกว่าจะเอาไว้ซูมสาวๆ มันเลยชักชวนให้ไปเที่ยวเชียงคานเป็นเพื่อนมันหน่อย จะได้ลองเลนส์ใหม่ของมัน
ไอ้ผมก็งงๆ เพราะผมเที่ยวในบ้านในเมืองไม่ค่อยจะเป็น ชอบเข้าป่า ไปตามท้องทุ่งมากกว่า ก็เลยปฏิเสธมันไป แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเชียงคานนี่มันอยู่จังหวัดเลยนี่หว่า เฮ้ยๆๆภูกระดึง
ผมรีบกลับลำ รับปากจะไปกับมัน แต่ผมตั้งข้อเสนอไปว่านายต้องไปภูกระดึงกับผมด้วย มันก็ยอมเพราะเพื่อนที่คณะมันไม่ใครไปกับมันเห็นมันบอกว่าเค้าไม่ว่างกัน
มันเกิดหลังจากการสอบอันหนักหนาของ มช. วันที่ 11 ตุลาคม 2555 ผมกับเพื่อนก็แบกสัมภาระอันหนักอึ้ง ทั้งกระเป๋าเป้ กล้อง โน๊ตบุค แล้วก็เตนท์ ซึ่งน้ำหนักเตนท์ที่ต้องแบกไป ที่แน่ๆไม่ต่ำกว่า 10 กิโลอย่างแน่นอน น้ำหนักรวมๆก็ปาเข้าไป 25 กิโล
ดั้นด้นจนมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เพื่อนบอกว่าไปชั้นสามเห็นถูกดี พอมาถามที่เคาต์เตอร์ชั้นสามมีตอนเย็นและก็ตอนเช้า ไอ้บ้าสองตัวก็ดันมาซะสองทุ่มครึ่ง เวรเลยต้องไป สปริ้นเตอร์ ลงที่พิษณุโลก สี่ร้อยกว่าบาท ไม่อยากเอ่ยว่าตามตารางรถออกสามทุ่ม
แต่พระเจ้าผมได้ขึ้นรถตอนตี 1 ครึ่ง โอ้นี่หรือรถไฟไทย ก็ได้แต่บ่นในใจ เพราะไอ้ผมเป็นคนชอบรถไฟตั้งแต่เด็ก มาช้ายังไงไอ้ผมก็รักมันอยู่ดี อิอิ
ไม่ต้องบรรยายสภาพคนที่รอรถไฟด้วยกัน ต่อให้รถไฟบีบแตรใส่ตอนมาถึงสถานี คนเหล่านี้ก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับเสียงเหล่านั้นแล้ว บางคนก็หลับ ไอ้ผมก็ดูเรื่องจริงผ่านจอที่สถานีซะจบเลย ก็เล่นมาเอาตอนป่านนี้ซะนี่
จากคุณ |
:
dektooll
|
เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 55 16:19:23
|
|
|
|