ความคิดเห็นที่ 1 นี่คือมุมประจำ เปรียบเสมือนไฟท์บังคับของผม ใครที่ติดตาม review ของผมมาแต่ไหนแต่ไร มักจะเห็นมุมนี้ของผมบ่อย ๆ เ ค้าเรียก มุขหมาแก่ (ตอนไปพม่า อยู่มัณฑะเลย์ ใน review ที่พัก และอาหาร ที่มัณฑะเลย์ จะเจอ scene นี้ แน่ ๆ แต่อันนั้นใช้ nikon d80 ส่วนอันนี้เป็น iphone4s) จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:53:48

ความคิดเห็นที่ 2 ผมพยายามจะลองถ่ายมุมใหม่ ๆ ดูบ้าง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:54:01

ความคิดเห็นที่ 3 ลองสัดส่วน ที่มันผิดเพื้อนไปจากมุมเดิม ๆ หรือ สัดส่วนเดิม ๆ ที่ชอบใช้เป็นประจำ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:54:16

ความคิดเห็นที่ 4 กล้อง 3 ตัดภาพไปที่อาหารฟิลิปปินส์มื้อเช้า วันสุดท้ายของเรา วันนี้ นี่คือ ผลส้ม kalamansi เอามาใช้แบบมะนาว เปรี้ยวนะ ผมไม่กินเปรี้ยว จะรู้สึกว่ามัน เปรี้ยวจี้ด มาก ๆ แต่มะนาวบ้านเรา เปรี้ยวแหลมกว่า ผลส้มอันนี้ ออกเปรี้ยวทู่ ๆ นะ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:54:48

ความคิดเห็นที่ 5 มาดูอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในถาดกันดีกว่า เห็นครั้งแรก ผมไม่แน่ใจว่า คืออะไร เจ๊เจ้าของร้านบอกเป็น jackfruit (ขนุน) ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นส่วนไหนของขนุน ผมเข้าใจไปเองว่า น่าจะเป็นแกนขนุน เจ๊ก็จะเอาไปคลุกเกลือ หรือล้างน้ำเกลือ แล้วมาผัด ก็อร่อยดี เค็ม ๆ มัน ๆ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:55:13

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนอันนี้ เป็น ไก่อบซอส (ซอสที่ทำเป็น ketchup กล้วย หรือซอสมะเขือเทศ ที่ทำมาจากกล้วย และผสมกับ ซอสมะเขือเทศ ที่เป็น tomato sauce) อาหารของคนฟิลิปปินส์ ส่วนใหญ่จะใส่ซอสมะเขือเทศครับ ไม่เข้าใจเหมือนกัน จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:55:27

ความคิดเห็นที่ 7 อ่ะ ดูหน้า บัก jackfruit ของเจ๊แกให้ชัด ๆ อีกที พูดถึงเจ๊เจ้าของร้านอาหารแล้ว ก็ขอเม้าท์ให้ฟังกัน หน่อยนึง ก็แล้วกัน คือเจ๊เจ้าของร้านขายข้าว แกดูเป็นแม่ค๊า แม่ค้า มาก ๆ การศึกษาก็เหมือนจะไม่ได้สูงอะไรมากมาย ก็คือแม้ค้าธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่อัธยาศัยเจ๊แก friendly มาก ๆ และที่สำคัญ ภาษาอังกฤษเจ๊แกอย่างเมพเลย ผมว่า เจ๊แกมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษบ้านเราได้สบาย ๆ เจ๊แกบอก แกรักการท่องเที่ยว จำไม่ได้ ไม่แน่ใจ แกมาเมืองไทยหรือยัง (ช่วงอยู่นั่น ผมก็เจ๊าะแจะไปทั่ว พอกลับมา เขียน review ไม่ทัน ดองเอาไว้นาน พอจะมาเขียน อะไรบางอย่างก็หล่นหายไปในกาลเวลาแล้ว ด้วยความที่อายุก็ไม่ใช่เบา ๆ ผ่านมาก็หลายรัฐบาล) จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:55:46

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนอันนี้ เป็น มะระครับ มะระผัดไข่ มะระฟิลิปปินส์ไม่ขมมาก สีเขียวเข้ม รสสัมผัสกรุบกรอบ อร่อยมากครับ ผิดกับมะระจีนบ้านเรา สีอ่อน และรสสัมผัสนิ่ม ๆ แถมขมกว่าตั้งเยอะ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:55:57

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากที่โชว์หนังตัวอย่าง เป็นน้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อยกันไปพอสมควร เรียกว่าเป็นการเผาหลอก คราวนี้ มาถึงหนังฉายจริง หรือเผาจริงกันเลย เราสั่งเป็น กับข้าว ตักมาเป็นจาน ๆ จานแรกของเรา เป็นแกงไก่ ที่ไก่มาเป็นต่อน เต็มปากเต็มคำ ไม่ใช่แกงเศษไก่ หรือแกงวิญญานไก่ อย่างบ้านเรา แกงของฟิลิปปินส์ รสจะออกแบบแกงฮังเล แต่เผ็ดร้อน ผมเข้าใจว่า เครื่องแกง เค้าน่าจะโขลกเม็ดพริกไทยลงไปด้วย มันถึงออกเผ็ดร้อน แต่ไม่มาก อร่อยใช้ได้เลยครับ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:56:12

ความคิดเห็นที่ 10 จานต่อมา เป็น ไก่อบซอส ที่ที่ใส่ทั้ง ketchup และ tomato sauce อย่างที่ได้เกริ่นไป ซึ่ง ketchup ทำจากกล้วย ผมก็เพิ่งเข้าใจ เพราะบางที ผมอยู่บ้านเรา ผมก็เรียกซอสมะเขือเทศว่า ketchup อยู่เหมือนกัน จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:56:23

ความคิดเห็นที่ 11 นี่ครับ ketchup ที่ทำจากกล้วย (เค้าเรียก banana catsup) รสไม่ได้กล้วยมากขนาดนั้น ออกหวาน ๆ เจ๊แก เทให้ชิมด้วยแน่ะ ที่ฟิลิปปินส์ กล้วยเยอะครับ อร่อยดีด้วย อย่างที่ผมเคยเขียนไปตอนก่อน ๆ นั้นแล้วว่า กล้วยของฟิลิปปินส์นี่แหละ ส่งออกไปเกาหลี ไปทำนมกล้วยเกาหลี ที่อร่อย ๆ ขายดี ๆ นั่นแหละ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:56:34

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนอันนี้ คือ ซอสมะเขือเทศ แตกต่าง ชัดเจน จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:56:45

ความคิดเห็นที่ 13 จานนี้ เป็น มะระฟิลิปปินส์ กรอบ ๆ ไม่ขม อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้น ก็เอามาผัดไข่ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:56:59

ความคิดเห็นที่ 14 มาถึงจานนี้ เป็น ขนุนผัด อย่างที่ผมเข้าใจว่า มันน่าจะเป็นแกนขนุน ที่เค้าเลาะเอาเนื้อขนุน สีเหลือง ๆ กลิ่นแรง ๆ ออกไปกิน หรือเอาออกไปทำขนมแล้ว เหลือแกน ก็เอาไปคลุกเกลือ หรือล้างน้ำเกลือ มันก็จะออกรสเค็ม ๆ มัน ๆ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:57:12

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนอันนี้ เป็น พริกสีแดงสด จริง ๆ แต่รสชาด จะเผ็ดอย่างสีที่เห็นหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจ เพราะแค่เห็นสี ความกล้าของผม ก็หดหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 19:04:20 จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:57:31

ความคิดเห็นที่ 16 ปิดท้ายกันด้วยเปาะเปี้ยะทอดสไตล์ฟิลิปปินส์ ห่อหน้าตาแปลก ๆ แต่รสชาดเค็มมาก ๆ เลยครับขอบอก ทอดขึ้นมาร้อน ๆ ตรงหน้าเราเลย ตอนแรกคิดว่าเจ๊แกจะแถม เห็นคุยด้วยออกรส ที่ไหนได้ 3 อัน 50 เปโซ (กับข้าวทุกอย่าง คิดจานละ 50 เปโซ ประมาณ 38 บาท ปอเปี้ยะทอดจานนี้ อันนึงตก 13 บาทได้) ทั้งหมดทั้งมวลนี่ ก็เป็นอันจบอาหารเช้า สไตล์ปินอย มื้อสุดท้ายของเรา อย่างที่บอก กับข้าว จานละ 50 เปโซ ก็ตกประมาณ 38 บาท รวมทั้งหมด 4 จาน ก็ 200 เปโซ บวกปอเปี้ยะ อีก 50 เปโซ เป็น 250 เปโซ ข้าวเปล่า เจ๊แกคิด จานนึง 15 เปโซ กินกับเพื่อนอีกคน รวมเป็น 2 จาน ก็ 30 เปโซ มื้อนี้ เท่ากับค่าเสียหายอยู่ที่ 280 เปโซ (ประมาณ 212 บาท) เฉลี่ยต่อคน ตก 106 บาท อร่อย... คุ้ม!!! แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 19:04:38 จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:57:44

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ฟิลิปปินส์ ฉลองคริสมาสกันไว ประมาณกันยายน ก็เริ่มตกแต่งประดับประดาบ้านช่องห้องหอต่าง ๆ กัน เป็นบรรยากาศคริสมาสกันแล้ว ผมก็สงสัยว่า จะเตรียมตัวกันเร็วไปหรือป่าว ซึ่งคำตอบคือ ไม่ใช่เตรียมตัว แต่เอาจริงเลย ซ้อมใหญ่ ไม่ต้อง เล่นจริง เจ็บจริง สลิงไม่ต้อง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:58:41

ความคิดเห็นที่ 18 เทศกาลคริสมาส ที่ฟิลิปปินส์ เริ่มต้นเอา แถว ๆ กันยายน แล้วก็จะไปจบเอาแถว ๆ กุมภาพันธ์นั่นแหละ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:58:52

ความคิดเห็นที่ 19 บรรยากาศก็และดูคริสมาส ซานต้า ล่วงหน้าตั้งหลายเดือน ก็รู้สึกดีเหมือนกัน จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:59:03

ความคิดเห็นที่ 20 ที่เห็นนั่น เป็นร้านขาย ชาวาร์มา "อาร์.....ร์หรับ" ครับ ผมชอบมุขนี้มาก ชาวาร์มา ก็คือ ที่บ้านเราเรียก กะบับ หรือ เกบับ หรือ เคบับ ที่เป็นเนื้อ หรือไก่ หมุน ๆ เอามาห่อใส่ผัก ใส่แป้ง คล้าย ๆ ปอเปี้ยะสดแขก นั่นแหละ แต่มุข "อาร์...ร์หรับ" นี่ ผมชอบมาก ๆ เลยครับ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:59:16

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำจากผลส้ม kalamansi ที่ผมเล่าให้ฟังมาตั้งหลายตอนแล้ว บรรจุความหวานชื่นจากเซบู มาใส่กระป๋อง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:59:30

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วก็มาถึง taste of thailand เจอแบบนี้ ผมอึ้งไปประมาณ 10 วินาที พอรู้สึกตัว เรียกสติกลับคืนมาได้ เห็น sweet & spicy แล้ว รู้สึกแซ่บเว่อร์ ขึ้นมาทันที จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:59:41

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ตั๋วก็ได้ครบแล้ว เราก็เตรียมตัวกลับบ้าน ปิ้กบ้านเฮาเต๋อะ ได้ที่นั่ง 25F ริมหน้าต่าง ฝั่งขวา ไม่โดนแดด แถมหลังหลังให้พระอาทิตย์ ถ่ายภาพจากบนเครื่อง ไม่ย้อนแสง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:00:01

ความคิดเห็นที่ 24 ระหว่างที่เดินเล่น ในร้านค้าปลอดภาษี ภายในสนามบินนั่นเอง ผมก็ไปเจอเข้ากับ เจ้าสิ่งนี้ครับ มันคือ เม็ดกาแฟ ที่เค้าเอาไปเลี้ยงให้ตัวชะมดกิน พอเม็ดกาแฟ ผ่านกระบวนการย่อย ในตัวชะมด มันก็จะดูดซึมเอ็นไซม์ต่าง ๆ แล้ว พอมันถ่ายออกมา คนก็ไปเก็บเม็ดกาแฟ มาตากแห้ง (แบบนั้นเลย เค้าบอกขี้มันไม่สกปรก เพราะมันไม่ได้กินอะไรอื่น นอกจากเม็ดกาแฟ) จากนั้น ก็เอาไปคั่ว แล้วมาบรรจุถุง เห็นแบบเนี้ยะ บางคนบอกยี้ แต่คุณผู้ชมทราบไหมครับ ถุงเล็ก ๆ 100 กรัมนี่ ขายกัน 1100 เปโซ ประมาณ 831 บาทเลยนะ โลนึงตก 8310 บาทเชียว เอามาชงเป็นกาแฟ แก้วนึง หลายอัฐิอยู่นะ ทำเป็นเล่นไป (1 ถุง ชงได้ 10 แก้ว 1 แก้ว ให้ใส่เม็ดกาแฟ 10 กรัมพอ ก็มีทั้งแบบบด กับไม่บด ก็เอากลับมาบดให้เข้ากับเครื่องชงกาแฟได้ ว่าจะบดหยาบ บดละเอียด เลือกเอาตามความเหมาะสม) จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:00:12

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อกี้ เป็นแบบถุง refill พกพาขึ้นเครื่องสะดวก แต่ถ้าอยากได้แบบขวด เลือกเอาเป็นของฝากของขวัญ ก็ได้เหมือนกัน แต่จะแบกกลับลำบากนิดนึง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:00:23

ความคิดเห็นที่ 26 นี่ครับ หน้าตา เจ้าตัวชะมด จากภูเขาอะโป ที่ว่า หน้าที่ของมันคือ วัน ๆ กินแต่เม็ดกาแฟเข้าไป ไม่ต้องหลับ ไม่ต้องนอนกัน เสร็จแล้วก็ขี้ออกมา ให้คนเก็บเอาไปชงเป็นกาแฟกินต่อ อีกที จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:00:35

ความคิดเห็นที่ 27 เรายังคงอยู่ที่ร้านค้าปลอดภาษี ในสนามบินคล้าก ซึ่งจะว่าไปแล้ว คนฟิลิปปินส์ หรือคนไหน ๆ ก็ลามกกันได้ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:00:50

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพนี้ ต้องทำเบลอ เซ็นเซอร์กันไหมครับเนี่ย ถ้าต้อง คงไม่ทันแล้ว จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:01:01

ความคิดเห็นที่ 29 ของผู้หญิงก็มีนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เท่าเทียมกัน กดขี่ทางเพศ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:01:12

ความคิดเห็นที่ 30 อันนี้เป็นกระเป๋าตัง ที่ทำมาจากตัวกบ หรือเขียด จริง ๆ เลย คนเราก็ช่างคิดกันได้นะ ตัวมันจะมีหนังซ่ะขนาดไหนเชียว ก็ยังลอกหนังมันออกมาทำกระเป๋าหนังกบ ชนิดเต็มตัว มีขาครบ ตรงท้องมีซิป สำหรับใส่เงินลงไป ได้อีก จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:01:30

ความคิดเห็นที่ 31 อ่ะ ดูหน้าตามันชัด ๆ หน่อย เห็นกันจะ ๆ แบบมุมประชิด รู้สึกจะเป็นครั้งแรกในชีวิตผมเลยนะครับ ที่กล้าจับอะไรแบบนี้ เพราะปกติถ้ามันมีชีวิต ตัวเป็น ๆ ให้ผมสัมผัสอะไรใกล้ชิด แบบนี้ ถ้าเลือกได้ เลือกที่จะไม่ไปสัมผัสอะไรมันตัวเป็น ๆ ดีกว่า จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:01:43

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าไม่ชอบแบบเต็มตัว อยากได้แบบครึ่งท่อน ก็มีเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่า ที่มาแค่ครึ่งท่อนนี่ จะเป็นเพราะส่วนที่เหลือ โดนรถทับ แบนแต๋ดแต๋ จนเอามาประติดประต่อ เป็นแบบเต็มตัวไม่ได้ หรือไง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:01:55

ความคิดเห็นที่ 33 มาถึงมื้อกลางวัน แล้วครับ เป็นกะหรี่ปั้บ รอยัล แคริเบียน กลิ่นมันหอมยั่วยวน เสียเหลือเกิน จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:02:08

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่ากลิ่นมันหอมน่ากิน เตะจมูกมาแต่ไกล ๆ แล้ว ส่วนเรื่องรสชาด กลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ประมาณหนังฉายผิดม้วนกันเลย รสชาดยังต้องปรับปรุง อีกนิดหนึ่ง จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:02:19

ความคิดเห็นที่ 35 กะหรี่ปั้บไปแล้ว หาน้ำส้ม ซดให้ชื่นใจกันหน่อย น้ำส้มอัดลมของเค้า บอกว่า ทำจากส้มแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นน้ำรสส้ม แต่งกลิ่นสังเคราะห์เลียนแบบส้ม อย่างบ้านเรา จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:02:30

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่า ตัวการ์ตูนคล้าย ๆ ของบ้านเราเลยนะครับ แต่ชื่อ "รอยัล" ทำให้ผมนึกไปถึง "รอยัล สไป้ร์ท" มากกว่า จะนึกถึง "แฟนต้า" น้ำส้ม จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:02:47

ความคิดเห็นที่ 37 ทั้งหมด ทั้งมวลนั้น ก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในร้านค้าปลอดภาษี และ ร้านอาหารเล็ก ๆ ในสนามบินเล็ก ๆ ที่คล้าก นี่เป็นเครื่องหมายของร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ว่า จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:03:01

ความคิดเห็นที่ 38 ในตอนหน้า เราจะขึ้นเครื่องลาย:-)ลับบ้านกันแล้วนะครับ โปรดติดตาม ตอนจบ บทสรุปของทริปมะนิลา 5 วัน 4 คืนของผมกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 19:03:48 จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:03:13

ความคิดเห็นที่ 39 ทิ้งท้ายกันอีกสักรูป จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:03:30

ความคิดเห็นที่ 40 รอชม ครับ จากคุณ : marathonman เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:22:11

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเขียนโดดไปโดดมานะครับ ค่ำวันที่ 4 ยังเขียนไม่เสร็จครับผม เอาไว้จะเรียงลำดับก่อนหลังให้ หลังจากเขียนตอนสุดท้ายเสร็จแล้วครับ จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:57:41

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : jsd_t เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:57:56

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ อาหารหลายอย่างผมเคยทานมาเหมือนกัน เพราะผมอยู่ที่นั่น 3 ปี ผอมแทบแย่ ต้องฝึกทำอาหารกินกันเองครับ ลาบหมูเลยครับ ที่ปินส์นี่ซื้อหมูโดยไม่เอามันก็ได้นะครับ ราคาเท่ากันกับเนื้อผสมมันเยอะๆ เพราะคนปินส์ชอบทานมันๆ ครับ จากคุณ : Bernadette nort เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 20:15:29

ความคิดเห็นที่ 44 อาหารน่าทานมากค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 20:39:53

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากค่ะ รีวิวได้ ละเอียดดีค่ะ จากคุณ : ภูเก็ต-ป่าตอง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 22:26:36

ความคิดเห็นที่ 46 อาหารน่ากินมากครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 20:22:05

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 12:51:05

ความคิดเห็นที่ 48 เทสต์ออฟไทยแลนด์ มันล้ำมาก จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 23:49:02