ทอท.ลุยอัดเกรดสุวรรณภูมิ

ทอท.โชว์แผนยกเครื่องเซอร์วิสสุวรรณภูมิ รองรับการขยายตัวของผู้โดยสารที่ล้นทะลัก ควักงบกว่า 2 พันล้านบาท ปรับเปลี่ยนระบบจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศใหม่ ปรับปรุงห้องน้ำราว 400 จุด


เร่งก่อสร้างอาคารปฏิบัติการและระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน รวมถึงการตรวจสอบสภาพชั้นโครงสร้างใต้ผิวรันเวย์ทั้ง 2 เส้น

   นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท. เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทอท.จะใช้งบลงทุนภายใต้กรอบงบประมาณปี 2556 จำนวน 2.27 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและปรับปรุงการบริการในด้านต่างๆใหม่ ของท่าอากาศสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับการขยายตัวของจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่มาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ตารางประกอบ) และเพื่อส่งเสริมให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลายเป็นท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม

   โดยเริ่มจากจะมีการปรับเปลี่ยนระบบจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจุดตรวจค้นเพียงจุดเดียวอยู่ที่ชั้น 4 ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ไปอยู่บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน A และ B ที่ชั้น 2 และ 3 ซึ่งจะทำให้ไม่มีการเดินสวนทางกันกับผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศเช่นที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยความรัดกุมยิ่งขึ้น ที่สำคัญการมีจุดตรวจค้นแยกแต่ละอาคารเทียบเครื่องบินจะทำให้ช่วยกระจายความคับคั่งในการรอคิวตรวจค้นของผู้โดยสารจากเดิมที่มีเพียงจุดตรวจค้นเพียงจุดเดียว โดยใช้งบประมาณในส่วนนี้ราว 37  ล้านบาท และคาดว่าจะดำเนินการเปลี่ยนจุดตรวจค้นได้ในช่วงปีหน้า

   นอกจากนี้ยังมีแผนก่อสร้างและปรับปรุงห้องสุขาภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบินงบ 347 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดำเนินการช่วงปี 2556-2560 เนื่องจากปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีห้องน้ำกว่า 1.49 พันห้องหรือประมาณ 400 จุด มีการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2549 รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจหนังสือเดินทาง โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 ส่งเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น และการนำนำระบบ APIS/APPS (ADVANCED PASSENGER PROCESSING SYSTEM) หรือระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าเข้ามาใช้ การจัดให้มีเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ และการติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติเพิ่มขึ้น จะช่วยลดระยะเวลาในการตรวจหนังสือเดินทางจากเดิม 45 วินาทีต่อคนให้เหลือเพียง 20 วินาที

   นายสมชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางสนามบินจะแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าผู้โดยสารขาเข้าที่ล่าช้า โดยได้มีการตรวจสอบกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ประกอบการ คือ การบินไทย และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือกระเป๋าใบแรกจะถูกส่งให้มาถึงจุดรับกระเป๋าใน Sorting Area ภายในเวลา 15 นาที ใบสุดท้ายจะมาถึงจุดรับกระเป๋าในSorting Area ในเวลา 25 นาที หลังจากเครื่องบินจอดสนิท และกระเป๋าจะถูกส่งไปยังสายพานเพื่อให้ผู้โดยสารรับกระเป๋าใบสุดท้ายในเวลา 25-30 นาที

   ขณะเดียวกันยังจะเร่งงานก่อสร้างอาคารปฏิบัติการและระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน (Transfer Baggage Terminal) งบประมาณ 1.87 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อสร้างอาคารแห่งนี้แล้วเสร็จจะสามารถรองรับการขนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสารเปลี่ยนลำได้ 3.96 พันใบต่อชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารเปลี่ยนลำใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยคาดว่าระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋า หรือ Minimum Connecting Time (MTC) จะลดลงจากเดิมเฉลี่ยประมาณ 75 นาทีเหลือเพียง 60 นาที โดยขณะนี้ทอท.ได้ว่าจ้าง บริษัท DKTR Consortium เป็นผู้ดำเนินการ มีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 2 พฤษภาคม 2557

   อีกทั้งทางสนามบินยังได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาบริษัท นอร์ทบริค จำกัด เข้าทำการตรวจสอบสภาพชั้นโครงสร้างใต้ผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ด้วยวิธีแบบไม่ต้องทำลายโครงสร้าง ด้วยวิธี Ground Penetrating Radar (GPR) เพื่อตรวจสอบความบกพร่องของชั้นโครงสร้างทางวิ่งทั้ง 2 เส้นดังกล่าว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารงานซ่อมบำรุงพื้นทางวิ่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นคาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จประมาณเดือนมีนาคม 2556 ใช้งบราว 9.45 พันล้านบาท (ไม่รวมภาษี)

   ทั้งนี้สนามบินสุวรรณภูมิยังจะนำหญ้าเทียมมาปูแทนหญ้าจริง บริเวณพื้นที่ข้างทางวิ่ง ทางขับ(เขตการบิน) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณ เพื่อเป็นการกำจัดแหล่งอาหารของนก การปรับปรุงพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออก(อยู่ในระหว่างพิจารณางบประมาณ) โดยมีแผนจะย้ายเคาน์เตอร์ขายบัตรโดยสารทั้งหมดขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 6 ของอาคารผู้โดยสาร และนำพื้นที่ดังกล่าวมาปรับปรุง ซึ่งจะให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น การให้บริการหูฟังแปลภาษา ณ บริเวณด้านหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อแนะนำการให้บริการในด้านต่าง ๆ ของสนามบิน อาทิ การกรอกเอกสาร ต.ม. 6 โดยจัดให้มีภาษาต่างๆ ไว้ให้บริการผู้โดยสารแต่ละเชื้อชาติ อาทิ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย งบประมาณ 5.20 ล้านบาท

   รวมไปถึงการผลักดันนโยบายส่งเสริมให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม อาทิการเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร  การอบรมพัฒนาให้ความรู้แก่พนักงานส่วนงานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารด้วย Service Mind รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เป็นภาษาต่าง ๆ อาทิ จีน ญี่ปุ่น การจัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารในโอกาสเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างบรรยากาศ เป็นต้น

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=157058:2012-11-30-06-00-26&catid=136:a-tourisn-&Itemid=448

แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 16:23:47

จากคุณ	: puk ka bee
เขียนเมื่อ	: 4 ธ.ค. 55 16:22:28

bookmark

เก็บเข้าคลังกระทู้

ส่งต่อกระทู้

พิมพ์

หน้าหลัก

กระทู้ก่อนหน้า

กระทู้ถัดไป