ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนออกจากกทม. ก็เข้ามาเก็บข้อมูลในห้อง BP นี่แหละค่ะ ได้แผนที่ของอ.แม่แจ่มติดตัวมาด้วย ช่วยได้เยอะเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆ แนะนำร้านอาหารชื่อบ้านเบนไว้ด้วย งานนี้ต้องขอตามรอย อ้างอิงแผนที่จากเมืองแจ่มโพสต์และกระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/06/E9356795/E9356795.html จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:33:12

ความคิดเห็นที่ 2 มาถึงแม่แจ่มตอนใกล้ๆ หกโมงเย็น ขับรถวนดูตลาดและโรงแรมใกล้ๆ แม่น้ำ แต่ก็ยังไม่ถูกใจ เลยวนกลับมาทางถนนเจริญนิรันด์ หาข้าวกินก่อนดีกว่า อยากลองชิมอาหารบ้านเบนตามที่มีคนแนะนำ เรามาซะมืดเลยกว่าจะหาร้านเจอ  ขับรถวนไปมาสองรอบได้ หิวตาลายเลยค่ะ ------------------------ หน้าร้านค่ะ ป้ายเล็กมาก รูปนี้มาถ่ายตอนเช้า เพราะกลางคืนมืดมาก จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:34:27

ความคิดเห็นที่ 3 เกิดอะไรขึ้น ทำไมรูปมานเหลือติ๊ดเดียวหว่า ร้านบ้านเบนเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ เจ้าของชอบแมวค่ะ ก็เลยมีของตกแต่งรูปแมวเยอะเป็นพิเศษ เรานั่งดูเมนูอาหารแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมไม่ค่อยมีอาหารพื้นบ้านขายเลย อยากกินอ่ะ แบบว่าเบื่อผัดกะเพรา คุณพี่เจ้าของร้านเลยแอบแซวว่า ถ้าเสริฟอาหารพื้นบ้านแม่แจ่มแท้ๆ เนี่ย จะกินได้หรือป่าว แบบว่าน้ำปู๋หรือถั่วเน่าไรเงี้ย 555 สุดท้ายก็เลยได้กินน้ำพริกอ่อง แกงฮังเลกับข้าวเหนียว บวกด้วยบล็อคเคอรี่ผัดกะปิ แถมด้วยกล้วยสุกจากสวน (อันนี้เป็นของแถมจากเจ้าของร้าน) อิ่มแทบคลาน --------------- บ้านเบน บ้านไม้หลังเล็กๆ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:43:12

ความคิดเห็นที่ 4 ไปเที่ยวด้วยคนค่า ^^ จากคุณ : แมวดื้อ กะ หมาซน (แมวดื้อ กะ หมาซน) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:44:32

ความคิดเห็นที่ 5 นั่งกินไปคุยกับเจ้าของร้านไป ทราบมาว่าที่นี่มีห้องพักสองห้องเล็กๆ เป็นโฮมสเตย์ด้วยค่ะ เราขอดูห้องพัก แล้วก็เลยตกลงพักที่นี่เพราะโชเฟอร์เหนื่อยมาทั้งวัน อยากอาบน้ำอุ่นสบายๆ ซักที ----------------- โฮมสเตย์หลังน้อยๆ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:49:11

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยว แม่แจ่มด้วยคนครับ จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:50:16

ความคิดเห็นที่ 7 แมวดื้อ กะ หมาซน --ขอบคุณค่ะ กะลังงงๆ ว่ารูปทำไมออกมาเล็กจัง ---------------- เจ้าของร้านนี้ขยันมากค่ะ นอกจากขายอาหารแล้วก็ยังทำเบเกอรี่ขายในตลาดแม่แจ่มด้วย ช่วยกันทำกับพี่สาว เราตื่นเช้ามานี่ได้กลิ่นขนมหอมฟุ้งแตะจมูกเลยค่ะ ห้องพักที่นี่สะดวกในการเดินทาง เพราะอยู่ติดถนน แต่ถ้าใครอยากมานอนเล่นชิวๆ ดูวิวนาข้าวสวยๆ อาจจะไม่ค่อยเหมาะ เพราะตัวร้านและห้องพักอยู่ไกลทุ่งนาพอสมควร บ้านเบน: facebook and e-mail: baanbenatmaechaem@gmail.com, Tel: 080 627 9699 จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:54:56

ความคิดเห็นที่ 8 ลุงซุป (ln.cnx) ---ขอบคุณค่ะ คิดว่าบอร์ดจะเงียบเพราะเป็นวันหยุดยาว ------------------------ ที่มาแวะนอนที่นี่ กะว่าตอนเช้าจะได้ไปไหว้พระแล้วตีรถกลับดอยอินทนนท์ แต่ทราบจากเจ้าของร้านว่า แถวๆ บ้านกองกานยังพอมีนาข้าวให้เห็นอยู่ แต่ต้องรีบไปดู เพราะช่วงนี้ชาวบ้านเริ่มเกี่ยวข้าวกันแล้วค่ะ เช้านี้เราก็ตัดสินใจออกไปเดินเล่นดูนาข้าวกันก่อน กะว่าสายๆ ค่อยกลับมากินข้าวกัน จากที่พัก ถนนเจริญนิรันดิ์ เราขับรถไปทางที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม เลี้ยวขวาเข้าถนนสุดสนิทผ่านวัดเจียง แล้วเลี้ยวซ้ายจะผ่านทุ่งนาและสะพานคอนกรีต วิ่งตรงมาอีกซักพัก จะผ่านวัดพุทธเอ้น ขวาอีกทีแล้วตรงไปอีกเรื่อย เริ่มมีความหวังเรืองรอง เพราะมองเห็นวิวนาขั้นบันไดเป็นระยะ สุดท้ายเรามาถึงวัดกองกาน เข้าไปจอดรถในวัด เจอหลวงพี่กวาดลานวัดอยู่รูปนึง ท่านก็ทักทายพร้อมให้ข้อมูลอัพเดตว่า ตอนนี้สะพานไม้สลิงไม่มีแล้วนะ โดนรื้อไปชั่วคราวเพราะมีการก่อสร้าง  เราสองคนเลยขออนุญาตจอดรถแล้วเข้าไปในโบสถ์เพื่อไหว้พระเจ้าตนหลวง หยอดเงินทำบุญไว้ในกล่องหลังจากนัันก็เดินออกไปเที่ยวทุ่งนากัน --------------------- ชาวบ้านเค้าออกมาเกี่ยวข้าวกันแล้วค่ะ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:14:48

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนจอดรถในวัดใจแป้วเลยค่ะ เพราะท้องฟ้าตอนเช้านี้เมฆเยอะมาก หลวงพี่บอกว่ามันก็เป็นอย่างนี้แหละ เดี๋ยวสายๆ ฟ้าก็เปิด ท้องฟ้าไม่เปิดก็ไม่เป็นไร แวะถ่ายดอกไม้ใบหญ้าไปเรื่อยเปื่อย จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:18:30

ความคิดเห็นที่ 10 ชาวบ้านที่นี่อัธยาศัยดีมากค่ะ มีการชี้จุดให้เราเดินขึ้นไปถ่ายรูป พร้อมสอบถามสารทุกข์สุขดิบ มาจากไหน จะไปไหน กรุงเทพไกลมั้ย มากับใคร ทำไมไม่พาลูกเต้ามาด้วย ความรู้สึกตอนเดินอยู่ในทุ่งเหมือนเรากลับมาเยี่ยมบ้าน พบเจอญาติพี่น้อง จนลืมไปว่าเราจะต้องเดินทางอีก 800 กว่ากิโลเพื่อกลับบ้านที่กทม. พระอาทิตย์ขี้อายมากวันนี้ ไม่โผล่มาให้ยลโฉม เลยได้มาแต่ภาพทุ่งนาสีตุ่นๆ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:22:18

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเราดูจากแผนที่ จะเห็นว่าอำเภอแม่แจ่มตั้งอยู่ด้านหลังดอยอินทนนท์ เป็นอำเภอเล็กๆ มีที่ราบสำหรับทำการเกษตรเพียงน้อยนิด เป็นที่ราบเชิงเขา 20% ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเพียงแค่ 10% จึงเป็นที่มาของนาขั้นบันไดอันสวยสดงดงามที่เราเห็นกันอยู่ แต่ชีวิตของคนที่นี่ ในอดีตไม่ได้สวยสดงดงามเหมือนภาพที่เราเห็น ด้วยข้อจำกัดทางด้านภูมิประเทศ การติดต่อคมนาคม ถนนหนทางไม่ได้เจริญเหมือนปัจจุบัน อ.แม่แจ่มเคยเกิดเหตการณ์ขาดแคลนข้าวอย่างหนัก ถึงขนาดรัฐบาลต้องนำข้าวสารขนส่งทางเครื่องบิน และใช้การทิ้งลงทุ่งนา ให้ชาวแม่แจ่มมารับไปบรรเทาความเดือดร้อน รู้อย่างงี้แล้ว ทำให้เราต้องกวาดข้าวในจานข้าวเรา กินเกลี้ยงแทบจะทุกเม็ด ------------------- สายแล้วค่ะ แต่ไอหมอกก็ยังคงไม่ไปไหน จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:26:04

ความคิดเห็นที่ 12 แม่แจ่มในอดีต ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่าไหร่นัก มีเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ชอบผจญภัย ขับ big bike ผ่านไปผ่านมา (อดีตคล้ายๆ เมืองปาย นะคะเนี่ย) อำเภอนี้จึงยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้ดีอยู่ จนภาพนาข้าวขั้นบันได จากแม่กลางหลวงจนถึงแม่แจ่ม เผยสู่สายตานักท่องเที่ยว แม่แจ่มจึงเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากขึ้น ในอดีตแม่แจ่ม ไม่ได้แจ่มแบบชื่อบัจจุบันนะคะ เพราะจริงๆ แล้วชื่อดั้งเดิมมาจากคำว่า “แจม” ที่เป็นภาษาลัวะ แปลว่า มีน้อย ไม่พอเพียง หรือขาดแคลน ต่อมาก็เป็น เมืองแจ๋ม ตามสำเนียงของคนไท - ยวนที่เข้ามาอยู่ จนสุดท้ายเพี้ยนไปเป็นแม่แจ่ม ซึ่งเป็นชื่อดีมีความเป็นมงคล ลบเลือนความหมายของความ “แจม” ในอดีตไป ------------------------ แม่แจ่มปัจจุบัน แจ่มสมชื่อ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:28:44

ความคิดเห็นที่ 13 สายมากแล้วค่ะ แต่พระอาทิตย์ยังไม่ออกมาให้เรายลโฉมเลย เราตัดสินใจกันว่าคงต้องหาโอกาสกลับมาใหม่ เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงสำหรับเราแล้ว คงไม่เพียงพอที่จะดูอะไรไปได้มากกว่านี้ ก็เลยขับรถกลับที่พัก แวะกินข้าวแถวๆ ตลาด แล้วกลับไปอาบน้ำแต่งตัว ร่ำลาเจ้าของร้านบ้านเบนเรียบร้อย ก็มุ่งหน้ากลับไปดอยอินทนนท์ ขออำภัยที่ใช้เธอเป็นทางผ่าน แล้วเราจะกลับมาใหม่ ลาแม่แจ่มไปด้วยภาพนี้ค่ะ หยดน้ำบนใบข้าว จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:31:03

ความคิดเห็นที่ 14 ขับรถกลับทางเดิมที่เรามา ถนนจากช่วงแม่แจ่มเข้าดอยอินทนนท์ประมาณ 2-3 ก.ม แรกนี้ (ถ้ามาจากดอยอินทนนท์ ก็คือช่วงก่อนถึงอ.แม่แจ่ม) จะมีหลุมเล็กๆ ค่อนข้างเยอะ ทำความเร็วไม่ค่อยได้ แต่พ้นจากช่วงนี้ก็ขับไปได้เรื่อยๆ   เมฆฝนไปตั้งเค้ารออยู่ที่ดอยอินทนนท์แล้วค่ะ การเดินทางครั้งนี้เราก็เลยตั้งชื่อตัวเองกันเล่นๆ ว่า ตัวเรียกฝน เพราะเจอฝนตลอดทริป 555 จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:33:17

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจากแม่แจ่มถึงดอยอินทนนท์ (รู้สึกขากลับจะทำเวลาได้เร็วกว่าขาไปเนอะ) จากด่านตรวจที่ 2 เราเลี้ยวซ้ายขึ้นไปยอดดอยกันก่อนค่ะ ยังไม่มีที่พักเลยค่ะ แต่ขอเที่ยวก่อน ขึ้นไปจอดรถตรงหน้าสถานีตรวจวัดนิวตรอนสิรินธร เดินขึ้นไปไหว้สถูปเจ้าอินทวิชยานนท์กันก่อน แล้วเดินเล่นรอบๆ  อย่างนึงที่พลาดไม่ได้คือเส้นทางสำรวจธรรมชาติอ่างกาหรือเรียกอีกอย่างว่า ทางเข้าสู่ประตูหิมาลัย ทางเดินไม้ยกพื้น ทำให้เราเดินดูธรรมชาติรอบๆได้อย่างสะดวกสบาย แต่ด้วยฟ้าครึ้มบวกฝนลงเม็ดปรอยๆ ทำให้เราแทบไม่ได้ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลยค่ะ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:35:09

ความคิดเห็นที่ 16 พ้นจากประตูสู่หิมาลัยออกมาแล้ว ท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ เลยต้องแวะอุดหนุนร้านค้าสวัสดิการที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีตรวจวัดนิวตรอน ได้มาม่าร้อนๆ บวกกับลูกชิ้นมาไม้นึง นั่งกินไป ดูกลุ่มก้อนเมฆลอยมาปกคลุมบริเวณที่จอดรถ ได้บรรยากาศสุดๆ ไปเลย จากยอดดอย ก.ม 48 เราขับรถกลับลงมาผ่านก.ม ที่ 42 จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน วันนี้ขอผ่านไปก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน ลงมาอีกนิด ก.ม ที่ 41.5 เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตอีกที่นึงคือ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลและ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ขับรถขึ้นมาจอดตรงลานจอดรถหน้าพระธาตุได้แป๊บเดียว เมฆฝนก็เคลื่อนตัวมาปกคลุมจนมองไม่เห็นตัวพระธาตุ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:38:58

ความคิดเห็นที่ 17 เราเดินขึ้นมาชมวิวรอบๆองค์พระมหาธาตุ ต้องขอยกนิ้วให้กับสถาปนิกที่ออกแบบตกแต่งเจดีย์ทั้งสอง เพราะสามารถเลือกสีสันและวัสดุที่แสดงถึงความงามอ่อนช้อยของสตรี และความสง่างาม มั่นคงแบบบุรุษได้อย่างชัดเจน แม้แต่คนไม่มีความรู้ทางสถาปัตยกรรมอย่างเรา ก็ยังมองเห็นถึงความงาม ความแตกต่างนี้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งประกอบกับการปลูกไม้ดอกไม้ประดับรอบๆ อย่างลงตัวและสวยงามแล้ว ต้องขอยกนิ้วเลยค่ะ ว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามมากๆ แอบสงสัยตัวเองไม่ได้ว่า ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมาฟระเนี่ย มีสถานที่สวยๆ งามๆ แถมเดินทางง่ายๆ แบบนี้กลับไม่รู้จักมาดู (สงกะสัยจะง่ายไปเลยมองข้าม) อ่านประวัติเต็มๆ ขององค์พระมหาธาตุได้จากเวปนี้ค่ะ (http://www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/jd.htm) -------------------------- มนุษย์เราตัวเล็กกะจ้อยร่อยเอง แต่จินตนาการและความสามารถนั้นยิ่งใหญ่นัก จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:43:01

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากถ่ายรูปข้างบนเสร็จ เราก็โดนพระพิรุณเล่นงานอีกครั้ง เลยต้องเก็บกล้องและขับรถกลับลงมาที่ กม.ที่31 ที่ทำการอุทยานเพื่อติดต่อบ้านพัก ต้องบอกว่าทริปนี้ใจกล้าหน้าด้านมาก ที่ไม่จองที่พักมาก่อน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีปนอยู่บ้าง เพราะมีบ้านพักสำหรับ 2-3 คนว่างอยู่หนึ่งหลังพอดี แถมวันที่เราไปเป็นวันธรรมดา (วันอังคาร) ได้ลดราคา 30% จากหนึ่งพันเหลือ 700 บาท 555 เหลือเงินกินข้าวอีกหน่อย ฝนยังคงตั้งหน้าตั้งตาตกอย่างไม่เห็นใจนักท่องเที่ยวอย่างเรา นี่เป็นฤดูอะไรละค่ะเนี่ย เริ่มงง เราขับรถเข้าบ้านพัก บ้านพักของอุทยานนี่ต้องขับรถเข้าไปอีกลึกเหมือนกัน ตัวบ้านพักจะตั้งอยู่บนเนินดินเตี้ยๆ รอบๆเป็นป่าสน สงบเงียบมากๆ แถมไม่มีอะไรกินอีก พอเริ่มหิว เราก็ขับรถออกมาข้างนอก วนไปวนมาไม่รู้จะกินอะไร สุดท้ายก็มาลงเอยที่หมูกะทะหน้าบ้านพักอุทยานค่ะ นั่งปิ้งหมูกินท่ามกลางสายฝน 555 อิ่มแล้วรีบกลับบ้านนอน เพราะพรุ่งนี้ตั้งใจจะตื่นไปดูทะเลหมอกที่กิ่วแม่ปานแต่เช้า ----------------------- บ้านพักของอุทยาน หลังนี้พักได้ 3 คนค่ะ รูปนี้มาถ่ายตอนเช้าหลังจากฝนหยุด จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:45:51

ความคิดเห็นที่ 19 จากบ้านพัก ก.ม 31 ขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิวกิ่วแม่ปานก.ม ที่ 42 มองดูเหมือนไม่ไกล แต่ด้วยความที่ตอนเช้าหมอกเยอะมากค่ะ ทำความเร็วไม่ค่อยได้ เราใช้เวลากันไป 35 นาที มาถึงจุดชมวิว แต่สงสัยทริปนี้ จะกินแห้ว เป็นอาหารมากไปหน่อย เพราะเมฆเยอะ กว่าพระอาทิตย์จะโผล่พ้นกลุ่มเมฆมาให้เราเห็น ก็สายโด่งเกือบ 7 โมง ------------------- หวังว่าจะเห็นทะเลหมอก เลยได้มาแต่ทะเลเมฆแทน จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:49:05

ความคิดเห็นที่ 20 รู้สึกบราวเซอร์จะมีปัญหา รูปใหญ่บ้างเล็กบ้าง ขอโทษทีนะคะ ---------------------- มีนักท่องเที่ยวมารอชมทะเลหมอกกันอยู่หลายกลุ่มเหมือนกันค่ะ 555 มีเพื่อนมากินแห้วด้วยกันล่ะ ตรงจุดนี้ถ้าฟ้าเปิด เราจะมองเห็นดอยหัวเสือ (ที่พี่ติ๊กเป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้) อยู่ท่ามกลางทะเลหมอก ไม่มีทะเลหมอก ก็เลยเก็บภาพไอหมอกมาแทน จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:55:21

ความคิดเห็นที่ 21 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:55:27

ความคิดเห็นที่ 22 ลมเริ่มแรงขึ้น พัดกลุ่มเมฆฟุ้งขึ้นมาด้านบน อากาศวันนี้กำลังสบายเลยค่ะ ไม่หนาวมาก แต่นายแบบของเราบอกว่า ไหนๆ ก็หอบเสื้อกันหนาวมาแล้วขอถ่ายรูปแบบหนาวๆ หน่อย อะจัดให้   จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:56:53

ความคิดเห็นที่ 23 numsiam ---ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ------------- นั่งจิบกาแฟ ดื่มดำกับบรรยากาศ จนเริ่มสาย แดดแรงขึ้น ได้เวลาขับรถกลับลงมาเพื่อไปเที่ยวสถานีเกษตรหลวงต่อ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:58:52

ความคิดเห็นที่ 24 ถึงแล้วค่ะ เราจอดรถไว้ข้างนอก เดินมาซื้อบัตรผ่านประตู จ่ายไปคนละ 20 บาท ผ่านประตูเข้ามาแล้วก็แวะเก็บรูปต้นไม้ดอกไม้ไปเรื่อยเปื่อย ดอกรักเร่ สีหวานตัดกับฉากหลังลาเวนเดอร์สีม่วง จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:00:29

ความคิดเห็นที่ 25 ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้ก็ว่าได้ ก้มๆ เงยๆ ถ่ายรูปดอกไม้กันจนลืมเวลา รักเร่สีชมพู จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:01:58

ความคิดเห็นที่ 26 เงยหน้ามาอีกที นึกขึ้นได้ว่าที่นีเค้ามีเมนูยอดฮิตที่ไม่น่าพลาดก็คือปลาเทราต์ เลยต้องเก็บกล้องแล้วเดินดิ่งไปที่ร้านอาหารกันก่อน อาหารมาแล้วไม่ทันได้ถ่ายรูปค่ะ ความที่หิวจนตาลาย รู้แต่ว่าอร่อยทุกอย่าง วิวรอบๆ สระน้ำ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:02:55

ความคิดเห็นที่ 27 อิ่มแล้วก็ลงมาเดินเล่นรอบๆ กันต่อ ประเมินด้วยสายตา ที่นี่มีพื้นที่กว้างใหญ่เหมือนกัน เพราะมีทั้งสวนไม้ดอกไม้ใบ ส่วนเพาะพันธ์ไม้ สระน้ำ ร้านอาหารและที่พัก นอกจากนี้ยังมีทางเดินเชื่อมไปยังน้ำตกสิริภูมิที่อยู่ไม่ไกลกันได้อีก น่ามานอนเล่นชิวๆ พักผ่อนมากเลยค่ะ น่าเสียดายเรามีเวลาน้อยไป วันนี้ต้องกลับ กทม แล้ว เดินไปเดินมาบังเอิญเหลือบไปเห็นศัตรูพืชชนิดร้ายแรงอย่างนึง ร้ายแรงแค่ไหนดูรูปกันเอาเองค่ะ น่ารักขนาดนี้ จะใช้ยาฆ่าแมลงขนานไหนดีละเนี่ย จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:04:12

ความคิดเห็นที่ 28 น้องหมาตัวนี้น่ารักมากเลยค่ะ เดินตามเราดูดอกไม้ตลอด แถมเดินมาส่งหน้าประตูอีก ตอนเราขึ้นรถกลับ เค้าก็มานอนหมอบตาละห้อยอยู่หน้าประตู เห็นแล้วอยากอุ้มกลับกทม. ด้วยกันซะจริงๆ ก่อนจะกลับ เราเดินไปขอโบรชัวร์จากเจ้าหน้าที่ คิดในใจว่าจะหาเวลากลับมานอนเล่นที่นี่ซักคืนนึง เพราะวันนี้ยังเดินเที่ยวไม่ทั่วเลยค่ะ รวมที่พัก บนดอยอินทนนท์เท่าที่เราเห็นไว้ค่ะ เผื่อใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวแถวนั้น 1) บ้านพักอุทยานแห่งชาติ จองโดยตรงจากเวปนี้เลยค่ะ (http://www.dnp.go.th/parkreserve/reservation.asp?lg=1) 2) บ้านพักดอยชัวร์ญ่า (http://www.doisureyacamping.com/room_booking.php) 3) บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ (http://www.royal-inthanon.com) 053-286-773 (บ้านพักสองคน ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้า ส่วนตัวคิดว่าที่ตัั้งดูดีกว่าบ้านพักอุทยาน เพราะอยู่บนเนิน ดูโปร่งโล่งดีค่ะ) 4) Inthanon Eco Hut: 089-952-3327, 081-881-7346 (เห็นแต่ป้าย ไม่ได้แวะเข้าไปดูบ้าน) จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:06:19

ความคิดเห็นที่ 29 สิบโมงครึ่งเราก็ออกจากสถานีเกษตรหลวง กลับไปอาบน้ำที่บ้านพัก เก็บข้าวเก็บของเสร็จ ไปคืนกุญแจที่สำนักงานแล้วขับรถกลับเข้าเชียงใหม่เพื่อให้ทันเที่ยวบินตอนบ่ายสาม การเดินทางครั้งนี้ จุดมุ่งหมายหลักคือทุ่งบัวตองที่ดอยแม่อูคอ แต่แผนการก็ต้องมีอันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ เลยกลายเป็นชะโงกทัวร์เล็กๆ ไป แต่ยังไงก็ดี การเดินทางไม่ว่าจะจะใกล้ไกลแค่ไหน ก็ให้ประสบการณ์และเปิดโลกทัศน์ให้กับชีวิตเราทั้งนั้น ขอให้เพื่อนๆ BP มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงทุกคนค่ะ ลากันไปด้วยภาพนี้ อาทิตย์ขึ้นที่กิ่วแม่ปาน จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:08:08

ความคิดเห็นที่ 30 แอบเห็นหมีแพนด้าด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : \(^-^\) Rat เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:51:24

ความคิดเห็นที่ 31 บรรยากาศ มันน่าสูดหายใจเข้าลึกๆๆ เสียจริงๆ ครับ  จากคุณ : บุรุษนักเดินทาง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:57:46

ความคิดเห็นที่ 32 \(^-^\) Rat --- มานคืออุปกรณ์กันหนาวของคุณแฟนเราเองค่ะ แต่อากาศไม่หนาว เลยยืมมาเป็นพร็อพถ่ายรูปแทน บุรุษนักเดินทาง ---อากาศสดชื่นจริงๆ ไม่อยากกลับกทม.เลยค่ะ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 22:11:10

ความคิดเห็นที่ 33 ไปดเหนือพึ่งกลับมา เสียดายนะอยู่ได้แค่ 6 วัน อยากอยู่ต่อซัก15 ถ้าไม่ติดงานหรือลูกค้าตามโทรตามคงได้ตามรอยคุณเรือนขวัญเป็นแน่ ไปซ้ำเสียดีไหมเนี่ย^^ จากคุณ : จดหมายรัก เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 02:07:20

ความคิดเห็นที่ 34 สวยมาก ๆ ค่ะ อยากไปบ้าง ปล ใช้กล้องรุ่นอะไรคะ ถ่ายได้ชัดสวยดีค่ะ จากคุณ : fakefairy-lovely เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 03:57:29

ความคิดเห็นที่ 35 จดหมายรัก ---ภาคเหนือเนี่ยเที่ยวได้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ กะว่าปีหน้าจะกลับไปแม่แจ่มอีกรอบเหมือนกัน fakefairy-lovely --- ขอบคุณค่ะ ใช้นิคอน D7000 บวกเลนส์ 18-200 และเลนส์มาโครไว้ถ่ายดอกไม้ค่ะ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 09:26:15

ความคิดเห็นที่ 36 เคยไปแม่แจ่มเส้นทางนี้หลายปีมาแล้ว ไม่ดีขึ้นเลยเหรอ รูปถ่ายดอกบัวตองสวยมาก จากคุณ : ChidChan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 15:04:40

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้ามีเวลาว่างต้องลองเดินกิ่วเเม่ปานครับ สวยมาก จากคุณ : สำลีแอลกอฮอล์ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 22:23:36

ความคิดเห็นที่ 38 ChidChan --- ส่วนตัวคิดว่าเส้นนี้อาจไม่ใช่ถนนหลัก ก็เลยยังไม่มีการปรับปรุงมากเท่าที่ควรค่ะ สำลีแอลกอฮอล์ --- อยากเดินมากค่ะ แต่ทริปนี้เวลาไม่พอ คงต้องหาเวลากลับไปแก้ตัวใหม่ จากคุณ : เรือนขวัญ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 23:50:46

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้ามีโอกาสได้ไปแม่แจ่มนี่ต้องไปเก็บภาพนาขั้นบันไดสวยๆให้ได้เลยครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 22:13:28