ความคิดเห็นที่ 1 อันโตนิโอ เกาดี้คือใครผมก็ไม่รู้จักมาก่อน จนผมได้มาที่นี้ละครับ ถ้าใครยังสงใสว่าเขาเป็นใครลองดูภาพ วิหารของคาทอลิก ข้างล้างนี้ดูครับ วิหารนี้มีชื่อว่า  Sagrada Familia ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบชิ้นเอกที่โด่งดังไปทั่วโลกครับ วิหารแห่งนี้ดึงดูดคนทั่วโลกให้มาบาเซโลนา มาทำความรู้จักกับสถาปนิกเอก ที่ยิ่งใหญ่คนคนหนึ่งของโลกครับ โดยไม่ได้ตั่งใจเพราะไม่รู้มาก่อนแต่โปรแกรมของผม 3 วันในเมืองแห่งนี้คือการตามรอยเพื่อทำความรู้จักชายคนนี้ เป็นส่วนใหญ่ ตามผมไปนะครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:12:18

ความคิดเห็นที่ 2 ผมมาถึงที่เมืองนี้ตอนสายสาย หลังจากไปเช็คอินที่โรงแรมแล้วเก็บกระเป๋าแล้ว ที่แรกที่ผมจะไปคือ สวนสาธารณะครับ สวนแห่งนี้มีชื่อว่า Park Guell  ซึ่งผมอ่านแบบห่ามห่ามว่า สวนกุย์ ครับ อันนี้คือภาพมุมสูงบนระเบียงที่มองเห็นเมืองบาร์เซโลน่าครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:13:08

ความคิดเห็นที่ 3 สวนแห่งนี้ออกแบบโดย อันโตนิโอ เก้าดีอันเลื่องชื้อนี้เหละครับ แต่ตอนแรกนั้นโครงการนี้หาใช้โครงการออกแบบสวนที่เป็นสาธารณะประโยชน์นะครับ  แต่เป็นโครงการ ทีพัฒนาเพื่อการอยู่อาศัย หรือเอาแบบง่ายง่าย คือการสร้างบ้านจัดสรรในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งก่อนที่เกาดี้จะมาร่วมมือกับนักพัฒนาในโครงการนี้ เกาดีนั้นมีชื่อเสียงจากการสร้างอาคารที่พักอาศัยมากมายในเมืองนี้(ซึ่งหลายตึกยังคงเป็นตำนานตราบจนทุกวันนี้และผมจะนำชมต่อไป) โดยระดับที่พักอาศัยผลงานของเกาดี้นั้นเรียกได้ว่า   High End และ ราคาแพงสุดสุด โครงการ Guell เลยเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่วางโครงการไว้หลายหลัง และทอดตัวไปตามหุบเขามองเห็นวิวอันสวยงามของเมือง โดยเริ่มแรกคือการวางรูปแบบของภูมิสถาปัด  และบ้านตัวอย่างครับ เปรียบง่ายง่ายเหมือนบ้านจัดสรรปัจจุบัน บ้านยังไม่มี มีแต่สวนสวย สโมสรส่วนกลาง และบ้านตัวอย่าง ให้คนมาดูโครงการแล้วซื้อไงครับ รูปอันนี้เป็นอาคาร ส่วนกลาง จะเห็นการออกแบบลวดลายเส้นสายของเกาดี้ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยอิงมาจากธรรมชาติ ที่ไม่มีรูปทรงตายตัว จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:14:13

ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ของการออกแบบของ เกาดี้ โดยรับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และความซับซ้อนของโครงสร้าง ผลงานที่ผ่านมาของเขาเลยได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปะชิ้นเอก และมีราคาแพง ทำให้สวนทางกับการสร้างบ้านในลักษณะที่เป็นโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่ ที่ต้องมีความเป็น Mass พอสมควร ประกอบกับการดำเนินโครงการอันล้าช้าเนื่องจากอารมณ์ศิลปิน ของเกาดี้ทำให้โครงการนี้ประสพปัญหาทางด้านการเงิน และล้มลงไปในที่สุด จนตอนหลังทางเมืองได้มาปรับปรุง และพัฒนาให้เป็นสวนสาธรนะเช่นในทุกวันนี้ งานติดกระเบื้ององโมเสกเป็นเอกลักษณ์ ของสวนนี้ และมังกร หรือ กิ่งกา ตัวนี้เป็น ปฎิมากรรมชิ้นเอกที่ลงในหนังสือและโปสเตอร์ การท่องเที่ยวของเมือง และมีคิวถ่ายรูปยาวยาว จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:15:23

ความคิดเห็นที่ 5 ตัวอาคารที่บนหลังคาคือระเบียงในรูปแรกครับ คนเยอะมาก ขนาดผมไปเช้านะครับนี้ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:16:14

ความคิดเห็นที่ 6 มาดูบ้านในโครงการดีกว่าครับ หลังนี้เกาดี้ซื้อไว้เป็นบ้านของเองครับ และก็เป็นบ้านหลังเดียวในโครงการครับ ลวดลายปูนปันที่เป็นเอกลักษณ์ ของเกาดี้  อันเนื่องมาจากแรงบันดานใจจากธรรมชาติ ในบ้านส่วนตัวของเขาในสวนนี้ครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:18:20

ความคิดเห็นที่ 7 ภายในบ้านของเกาดี้ในสวน Guell นี้ต้องเสียเงินค่าเข้าชมนะครับ ภายในจะมีงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ผมงานของเขาที่สวยงามเป็นศิลปะแบบ อาร์ต นูโวอันล้ำค่า ลวดลายอันแสดออกถึงแรงบันดารใจที่มาจากธรรมชาติ ทำให้ผลงานของเกาดี้ นั้นมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น จากการออกแบบแบบ Free Form ด้วยลายเส้นอันลื่นไหล่สวยงาม จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:19:11

ความคิดเห็นที่ 8 เครื่องเรือนอันสวยงาม เป็นผลงานทีโดดเด่นเป็นเอกลักลักษณ์ที่หาคนเลียนแบบยากครับ ชุดเก้าอี้กับกระจกอันนี้ผมชอบมากเป็นพิเศษ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:19:47

ความคิดเห็นที่ 9 ภายนอกของตัวบ้านครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:21:38

ความคิดเห็นที่ 10 แพลนของผมต่อไปคือเข้าไปในเมืองครับ อย่างที่บอกว่าสถานที่สำคัญของยุโรปบางที่ที่จำกัดจำนวนคนเข้านั้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยวจะมีคนเข้ามากเพื่อไมให้เป็นการเสียเที่ยวและต้องรอนานผมเลยจัดการจองตัวเข้า วิหาร Sagrada Familia ไว้ล่วงหน้าโดนเข้าตอนสายของวันที่สองครับ โดยตอนเช้ากะว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมอาคารที่พักอาศัยที่ เกาดี้เป็นคนออกแบบไว้ที่เปิดให้เข้าชม  หลังจากใช้เวลาใน Park Guell ค่อนวันแล้ว บ่ายแก่แก่ ผมเลยเข้าเมืองมาเพื่อชมเมืองและตัดสินใจว่าวันพรุ่งนี้จะเข้าบ้านหลังไหนดีครับ อันนี้ระหว่างทางที่เดินในเมืองครับ กระทิงสัญลักษณ์ของเสปน เอาเรื่องการสู้วัวกระทิงสักหน่อยครับ ตอนที่ไปมาดริด เห็นถึงความนิยมกีฬาสู้วัวกระทิงของชาวเสปน แล้วแอบแปลกใจที่พอมาทางบาร์เซโลนา กลับมีการผ่านร่างกฎหมายเลิกประเพณีการสู้วัวกระทิงเนื่องจากเป็นการทารุณสัตว์ เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างทางด้านความคิดของคนในแคว้น คาทาโลเนียครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:23:00

ความคิดเห็นที่ 11 อาคารที่ เกาดี้ออกแบบนั้นมีประมาณหนึ่งในเมืองครับ แต่ละแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้วครับ ในบางแห่งนั้นก็เป็นอาคารของส่วนบุคลไม่ให้เข้าชม บางแห่งก็ทำเป็น พิพิธภัณฑ์แล้วส่วนบางแห่งยังมีคนอยู่จริง (ซึ่งต้องรวยมาก ) และเปิดให้ชมบางส่วน ถ้าเราจะไปเพื่อเข้าชมและอิ่มเอมกับสถาปัตยกรรม ของเกาดี้ทั้งหมดคงต้องใช้เวลาหลายวัน(รวมถึงเงินอีกเรือนหมื่นสำหรับค่าเข้าชม) ตอนเย็นเย็นผมเลยมาลองเมียงมองว่าอาคารไหนนะที่เราจะเข้าไปเยี่ยมชมดี นักท่องเที่ยวนิยมไปมีสองที่ครับ อันนี้อันแรกครับเป็นอาคารสำนักงานและอาคารชุดอยู่อาศัย ชื่อว่า Casa Mila ที่โดดเด่นในการออกแบบที่ได้รับแรงบันดารใจจากภูเขา ที่ปกคลุมด้วยหิมะ และลายโค้งของธรรมชาติที่ออกแบบมาในงานเหล็กดัดระเบียงและประตูอันสวยงาม รวมถึงชั้นด่านฟ้าที่ทำเป็นปล่องไฟรูปนักรบครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:25:18

ความคิดเห็นที่ 12 หลังที่สองคือ Casa Batllo อันนีเป็นแนวแฟนตาซีเลยครับได้แรงบันดารใจมาจากมังกรครับ ด้วยการออแบบในแบบ Free Form ที่ซับซ้อนโดยประยุกต์มาจากงาน สถาปัตยกรรมแบบโกธิคและการเกะสลักอันอ้อนช้อย ทำให้ที่นี้มีคนเข้าชมกันเยอะและตั๋วแพงมากครับ เราเลยตกลงใจที่จะเข้าชมที่ Casa Mila ดีกว่าส่วนหนึ่งเพราะที่  Casa Batllo ตั๋วเต็ม อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมอยากขึ้นไปบนด่านฟ้าเพื่อเยี่ยมชมนักรบปล่องไฟด้วยครับ (จริงจริงแล้วเพราะที่ Casa Mila ถูกกว่า อิอิ ) และก็จบวันแรกในบาร์เซโลนาครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:29:00

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ กำลังหาข้อมูลเตรียมไปพอดี :D จากคุณ : Wahol* เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:29:30

ความคิดเห็นที่ 14 เช้าวันที่สองในเมืองบาร์เซโลนาเราเลยตกลงใจตื่นแต่เช้า เพื่อจะไปเข้าแถวเพื่อเข้าชม Casa Mila ครับ เราไปกันตั่งแต่แปดโมเช้าเรียกได้ว่าได้เข่ารอบแรกเลย ที่เราไปแต่เช้าเพราะเราต้องเข้าชม  เข้า วิหาร Sagrada Familia ที่เราจองรอบเข้าชมล่วงหน้าไว้ 11 โมงและเราก็กลัวต้องต่อแถวยาวด้วย เลยมาเช้าดีกว่า พอเข้าไปข้างในเรามองขึ้นไปสิ่งแรกที่เราเห็นคือรูปนี้ครับ ว้าวว สวยสุดสุด อาคารนี้ไม่ได้เปิดให้ชมทั้งหมดนะครับเพราะยังมีคนอยู่อาศัยจริง (ต้องเป็นคนรักศิลปะมากมากและกระเป๋าหนักมากมาก) งานของอันโตนิโอ เกาดี้นั้นเป็นงานศิลปะที่เป็นที่หมายปองของเศรษฐีระดับโลกครับ ผมว่ามูลค่าของอาคารอย่าง Casa Mila นั้นคงประมาณไม่ได้เลยครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:30:24

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนแรกที่จัดแสดงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ ของที่นี้เลยคือด่านฟ้าครับ ด่านฟ้าที่ Casa Mila นี้ออกแบบให้เป็นช่องของปล่องไฟโดยได้รับแรงบันดารใจมาจากหน้ากากนักรบโรมันครับ ผมว่ามันเป็นงานศิลปะที่ออกแบบมาอย่างเป็นเอกลักษณ์ และลงตัวกับประโยชน์ใช้งานมาก ใครจะไปคิดออกแบบด่านฟ้าปล่องไฟที่คนพยายามแอบซ้อนเพราะมันไม่สวยเลยไม่อยากให้ใครเห็น ออกมาเป็นงานศิลปะแห่งสถาปัตยกรรม ที่ผมว่าเจ้าของบ้านคงอยากจะพาทุกคนที่มาบ้านขึ้นไปชมให้ได้ครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:31:44

ความคิดเห็นที่ 16 โครงสร้างของหลังคารวมถึงปล่องไฟนั้นซับซ้อนมาก เข่าไปแล้วอย่างกับเขาวงกต ถึงว่าว่าอาคารแต่ละหลังที่ออกแบบโดย เกาดี้นั้น  ใช้เวลาและทุนทรัพย์มากมายอยู่ครับ นอกจากสถาปนิก ที่เราให้การนับถือในการสร้างสรรค์แล้ว อีกคนที่เราจะลืมไม่ได้น่าจะเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องทุ่มเทเวลาและเงินทุนมากมาย มหาศาลเพื่อสรรค์สร้างงานศิลปะชินเอกของโลก ขอตบมือดังดังให้กับ  Roser Segimon and Pere Mila ผู้ริเริ่มให้ก่อสร้างอาคารหลังนี้ครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:32:45

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้ทีผมไปอากาศสดใสมากครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:33:25

ความคิดเห็นที่ 18 มาดูในส่วนห้องพักบ่างดีกว่าครับ ชั้นบนสุดคือขั้นที่ทางอาคารได้เก็บรักษาไว้เพื่อเป็น พิพิธพัณฑ์ เพื่อให้เห็นว่านอกจากเรื่องโครงสร้างขอตัวตึกแล้ว เกาดี้ยังใส่ใจในการตกแต่ภายในด้วย อันนี้คือโถงมางเดินจุดเชื่มต่อจากลิฟ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:34:34

ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยตัวอาคารออกแบบให้เป็นรูปแบบทรงกลมและมีโถงช่องแสงตรงกลางทำแสงลอกเข้ามาได้ ผมว่ามันจัดพื้นที่การใช้งานลำบากแต่ห้องชุดนี้จัดได้ลงตัวมากครับ ส่วนนี้คือห้องครัวเห็นพวกเครื่องครัวแบบโบราณ แต่ในสมัยนั้งคงเป็นอะไรที่ล้ำหน้ามาก ปล. ได้เข้าห้องน้ำด้วยนะครับ แอบปลื้ม จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:35:57

ความคิดเห็นที่ 20 โถงช่องแสงตรงกลางครับ ที่อ่านมาในคำอธิบายว่าเกาดี้ตั่งใจจะให้คนที่อยู่ในตึกได้มีการปฎิสัมพันธ์ กัน คุยกันในรูปแบบเพื่อนบ้านที่พึ่งพาอาศัยกันครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:36:35

ความคิดเห็นที่ 21 ประตูทางเข้าหลักที่มีการระบายสีที่สวยงามมาก และ งานเหล็กดัดประตูที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ ของ รูปแบบอาร์ต นูโว ในเวลาต่อมา จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:37:09

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากนั้นเราก็หาอะไรทานแล้วก็ไปต่อที่ต่อไปซึ่งถือว่าเป็น ไฮไลท์ ของเมืองนี้คือ วิหาร Sagrada Familia ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกและเป็นชิ้นสุดท้ายที่ เกาดี้ทุ่มเทจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ความจริงแล้วถ้าจะให้เรียกจริงจริงแล้ว Sagrada Familia นั้นต้องเรียกว่ามหาวิหาร (Basilica) ครับ มหาวิหารแห่งนี้เริ่มแรกก็เป็นในแบบวิหารโกธิค แบบทั่วไป โดยมี Josep Maria Bocabella เป็นผู้ริเริ่มด้วยการรวบรวมเงินบริจาค และหาที่ที่จะก่อสร้าง โดยความจริงแล้วสมัยก่อนที่แถวมหาวิหารเป็นแหล่งที่ไม่ใช่ใจกลางเมือง ออกเป็นแนวแหล่งที่อยู่อาศัยของคนจนด้วยซ้ำ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่ลงรอยระหว่างสถาปนิกคนก่อน กับเจ้าของโปรเจ็ค เกาดี้ซึ่งเป็นสถาปนิกชื่อดังในขณะนั้นและเป็นคนที่ยึดมั่นในคริสต์ศาสนา ในนิการคาทอลิกมาก มหาโปรเจ็คจริงบังเกิดตั่งแต่ปี 1883 ครับ 1883 นับมาถึงตอนก็เป็นเวลากว่า 129 ปีเข้าไปแล้ว!!!!!! และตอนนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ!!!!!!! ในรูปคือทางเข้าด้านที่1 สำหรับคนที่มาต่อแถวโดยไม่จองมาก่อนครับแถวยาวมาก โดยแต่ละด้านก็จะเล่าเรื่องราวของพระเยซูครับ โดยด้านนี้เป็นด้านที่เสร็จก่อน เล่าเรื่องราวการเกิดของพระเยซูครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:40:08

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนคนที่จองต้องไปรับตั๋วและเข้าตามเวลาที่ระบุไว้ครับ ของผม 11 โมง ไปตรงเวลาเข้าไปไม่มีปัญหาอะไรและยังจองคิวการขึ้นหอคอยได้อีกด้วย (อันนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม) โดยด้านที่ผมเข้าไปคืออีกฝั่งเล่าเรื่อง การถูกตรึงไม้กางเขนของพระเยซูครับ ดูจากความเก่าใหม่แล้วทางนี้ดูใหม่กว่ามากครับ อารมณ์ที่ได้นี้คนละอย่างเลย ทางด้านนี้ดูดุดันและเศร้า จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:40:50

ความคิดเห็นที่ 24 ในรูปนี้คือด้านที่เสร็จด้านแรกที่บรรยายการเกิดของพระเยซู ดูสวยงามอ่อนโยนแสดงออกถึงความยินดีปรีดา ปล. ด้านนี้ที่หลายคนมองว่าคล้ายจอมปลวก ผมว่ามันก็เหมือนจริงจริงนะ  แต่ถ้าลองเข้าไปดูใกล้ใกล้  ด้านนีมีรายละเอียดสวยงามมากครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:44:23

ความคิดเห็นที่ 25 เกาดี้ทุ่มเทการออกแบบและควบคุมการสร้างอย่างใกล้ชิด โดยในช่วง 12 ปีสุดท้ายในชีวิต เรียกได้ว่าเข้ามากินมานอน อยู่ที่มหาวิหารเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบอันซับซ้อนและความศัทราในคาทอลิกมาก จึงทำให้เกาดี้ทุ่มเทมากมากกับวิหารแห่งนี้ แต่เรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 2 กรกฎาคม 1926 ขณะที่เกาดี้เดินอยู่บนถนนใกล่ใกล่กับมหาวิหารได้ถูกรถรางชนบาดเจ็บด้วยความเป็นคนสมถะแต่งตัวซอมซ้อเลยทำให้คนไม่รู้ว่าคนแก่โทรมโทรมที่ประสพอุบัติเหตุนี้คือใครเลยทำให้ไปส่งโรงพยาบาลช้าจนเกาดี้ อาการหนักทนไม่ไหวเสียชีวิต ในอีก 5 วันถัดมา น่าเศร้า รูปนี้เป็นโค๊ต ผมขอเรียกว่า เกาดี้โค๊ต คงเป็นสูตรอะไรบางอย่างสลักไว้ในประตูทางเข้า จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:47:15

ความคิดเห็นที่ 26 พอเข้าไปข้างในสิ่งที่เห็นคือ โอ้ววววววว ช่างงดงามมากประดุจป่าในสรวงสววรค์ ผมคิดว่าแรงบันดาลใจของเกาดี้คงมาจากป่าอันสวยงามของแคว้น คาตาโลเนี่ยน ซึ่งเกาดี้เติบโตขึ้นมา โดยเกาดีถือว่าเป็นคนหนึ่งซึ่งมีความเป็นชาตินิยม ในแบบชาวคาตาลัน และรักในแคว้นนี้มาก จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:48:01

ความคิดเห็นที่ 27 ลวดลายอันสวยงามซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยากรรม ในแบบโกธิคชัดเจนมาก จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:48:36

ความคิดเห็นที่ 28 กระจกสีส่องแสงงดงามช่วยทำให้วิหารแห่งนี้ดูขลัง เหมือนว่าเรากำลังเข้าไปในดินแดนสวรรค์เพื่อไปพบกับพระผู้เป็นเจ้า จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:49:11

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วก็ถึงเวลานัดหมายเพื่อขึ้นไปชมความงามด้านบน ดดยขึ้นทางลิฟและลงโดบเดินลงมาครับ รูปนี้เป็นวิวของเมืองบาร์เซโลน่าในมุมสูงจากวิหารที่สูงที่สุดครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:52:39

ความคิดเห็นที่ 30 อีกสักรูป จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:53:10

ความคิดเห็นที่ 31 มีการคาดการถึงเวลาที่มหาวิหารแห่งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ แต่มีการเลื่อนมาโดยตลอด โดยการคาดการล่าสุด คือ ปี 2026 ผมหวั่งว่าในชีวิตนี้คงได้เห็นมหาวิหารแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด แต่จากการคาดการของผม ณ ปัจจุบัณมีความคืบหน้ากว่า 60 เปอร์เซ็นแล้ว แหล่งเงินทุนหลักคือมาจากการบริจาค และค่าเข้าชม แต่เห็นเศรฐกิจของเสปนทุกวันนี้แล้วคงจะเป็นไปได้ว่ากำหนดการก่อสร้างคงต้องยืด อีกแน่นอน 129 ปีเรียกได้ว่าส่วนที่สร้างยังไม่เสร็จก็ต้องทำส่วนที่สร้างเสร็จแล้วก็ต้องบูรณะกันเลยทีเดียว รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายมาอีกที่จากส่วนแสดงภาพเป็นการก่อสร้างช่วงแรกเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:54:35

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้เป็นรูปของ อันโตนิโอ เกาดี้ครับ เอามาจาก Wikipedia จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:57:19

ความคิดเห็นที่ 33 ต่อมาช่วงบ่ายแก่แก่เราก็กลับไปในเมืองอีกครั้ง เพื่อไปชมเมืองเก่าซึ่งมีสถาปัตยกรรมในแบบธิคอันสวยงาม ในรูปคือถนนคนเดิน ชื่อว่า la rambla มีการแสดงเปิดหมวกมากมายและมีร้านอาหาร แต่สิ่งที่ยั้วเยี้ยไม่แพ้กันคือมิจฉาชีพครับ ซึ่งดุเหลือเกินเมืองนี้ เรียกได้ว่าเผลอไม่ได้เลย จนบางคนกล่าวว่า ไม่โดนล้วงกระเป๋าคุณมาไม่ถึง บาร์เซโลนา กันเลยทีเดียว จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:58:05

ความคิดเห็นที่ 34 เข้าไปในส่วนเมืองเก่าที่จะมีสถาปัตยกรรมอันงดงามในแบบโกธิค ครับ อันนี้เป็นประตูโบสถ์ ครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:58:43

ความคิดเห็นที่ 35 ความสวยงามในแบบโกธิคครับ จุดนี้คือ ทางเชื่อมอันงดงามที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปกัน จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:59:28

ความคิดเห็นที่ 36 เข้าไปในโบสถ์ครับ มีการจุดเทียนเพื่อบูชาพระแม่มารีที่เป็นที่เคารพของชาวคาทอลิก ครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 14:59:56

ความคิดเห็นที่ 37 รูปสลักในโบสถ์ในเวลาแสงลอดผ่านดูสวยมีมนต์ขลั่ง ช่วยทำให้อารมณ์ความเศร้าของรูปสลักนี้มากขึ้นเป็นกอง จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:00:24

ความคิดเห็นที่ 38 ขึ้นไปข้างบนครับ อยากบอกว่าโบสถ์แห่งนี้ขึ้นฟรีครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:00:52

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากนั้นสิ่งที่ไมควรพลาดไปด้วยประการทั้งปวงคือการไปเยี่ยมชมทะเลเมอดิเตอร์เรเนี่ยน อันลือลั่น อันนี้คืออนุสาวรีย์ ของนักเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของเสปน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส โดยรูปนี้ โคลัมบัสชี้มือไปทางทวีปอเมริกาครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:02:03

ความคิดเห็นที่ 40 อันนี้คือทางเดินไปห้างขนาดใหญ่ของเมืองครับซึ่งสร้างออกไปกลางทะเล จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:02:40

ความคิดเห็นที่ 41 พอเดินเลียดชายหาดมาก็มาเจองานแบบงานวัดครับ อันนี้เป็นเกมส์ บิงโก จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:03:09

ความคิดเห็นที่ 42 ทะเลเมอดิเตอร์เรเนียนยามเย็น จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:03:44

ความคิดเห็นที่ 43 อาหารทอดโดยเฉพาะ ปลาหมึกนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของเสปนเลยครับ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 15:04:36 จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:04:12

ความคิดเห็นที่ 44 รูปครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:05:52

ความคิดเห็นที่ 45 มื้อสุดท้ายในเสปนก่อนกลับจัดหนักอาหารทะเลสักหน่อย จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:06:26

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณทุกคนที่ได้ติดตามนะครับ โอกาสหน้าผมยังมีอีหลายเมืองในยุโรปที่รอเอามาให้ทุกคนชมอีกนะครับ จากคุณ : หลงจู้เจ้าพระยา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 15:07:10

ความคิดเห็นที่ 47 เกาดี้โค๊ด เลขทุกแถวทุกแนวบวกกันแล้ว เท่ากับ สามสิบสาม คืออายุพระเยซูตอนสิ้นพระชนม์ค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิว ไม่ได้ดูบาเซโลน่ามุมสูงเลย  ได้ดูผ่านกระทู้นี่แหละ จากคุณ : vertical limit เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 02:07:57

ความคิดเห็นที่ 48 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 18:59:58

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ กำลังจะไปพอดีเลย แล้วก็แพลนว่าจะไปที่เดียวกันเลยครับ จากคุณ : GTK เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 21:24:45