ความคิดเห็นที่ 1 เราพึ่งไปมา 6-10 คะ ขับมอไซต์ เช่นกัน ไปกับเพื่อนๆ 3 คน แต่ยังเที่ยวไม่ทั่วเลยคะ แต่ว่วนใหญ่ก็ได้ ขับรถชมในตัวเมือง แต่มี่ได้เที่ยวหลัก  วันแรกที่ไปถึงก็ขับมอไซต์ ขึ้นไปดอยสุเทพ  แต่ตรงไปหมู่บ้านชาวเขาตรงดอยปุยก่อน และย้อนกลับมา พระตำหนักภูพิงค์  และสักกสระดอยสุเทพ ต่อด้วยไหว้ ครูบาศรีวิชัยคะ  ทำเอาปวดขาเลยวันนั้น แต่อากาศเย็นสบายดีมากมายคะ^^  ตอนเย็นก็ไปเดินเล่นการ์ดหน้า มช. วันพฤหัส ศุก  มีถนนคนเดินพอดีคะ  ส่วนวันที่สอง เราไป เดินดูตลาดการ์ดหลวงค่ะ จะคล้ายๆพาหุรัดแถว กทม  เลยคะ  และก็จะเป็นย่าน ซื้อของฝากด้วย แต่เราว่าเสื้อผ้าพื้นเมืองทีานี่ราคาถูกกว่าในตลาดที่เค้าขายฝากกันอะคะ   วันนี้ทำเอาเที่ยวเต็มวันเช่นกัน  วันที่สามไป สวนสัตว์คะ  เต็มวันเช่นกัน เข้าชมอคลาเลียม^^  วันที่ สี่ ตระเวนทานขนม  อาหาร ขึ้นชื่อของ  นิมมาน  (พิมถูกไหมเอ่ย) 55 กะได้ชิม ไอติมของพี่โน๊ต อร่อนดีค่ะ และทานเค้กจำชื่อร้่นไม่ได้  จะมีสองสาขา  ซอย 2 และ7 ร้าน มองๆ  ไรนี่แระคะอิอิ  และเย็นๆหน่อยไปไหว้ตรงอนุสาวรีย์สามกษัตษ์ คะ  ดึกหน่อยไปลองชิม  ไก่ทอดเที่ยงคืน  แปลกดีอิอิ  เปิดขาน 23.00 ถึงตีหนึ่งมั้งคะ  ถ้าไม่ผิด555  แล้วอย่าลืมไปเดินตลาดท่าแพนะคะ  ^^ จากคุณ : panda_thailand เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:58:32

ความคิดเห็นที่ 2 ลืมบอกไปคะมีอีกที่ ที่เราเเพลนไว้แต่ ไม่ได้ไป คือ ม่วนแจ่ม คะ ที่อำเภอแม่ริม คะ ไปทางนั่นที่เที่ยวน่าจะเยอะมากผ่านที่เที่ยวหล่ยแห่งเลยคะ  และเห็นว่ามีสะเก็ตดาว ก็สวยอะคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าอยู่อำเภอไหน และ อีกที่นึงคะ ที่บอกว่าซากุระเมืองไทย  เอ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าพญาเสือโคร่งอะเปล่า(ผิดขออภัยด้วยนะคะ) ทางเดียว:-)ยสุเทพ อละหมูบ้านชาวเขา ดอยปุยเลยคะ เราพลาดเพราะมะรู้มะงั่นเลยไปและคะ  อิอิ ปล... พอดีเราเห็นมีหนังสือเที่ยวเชียงใหม่ เราเห็นมีจำหน่ายที่ซีเอ็ด 249 ลดเหลือ 150 ยังไงลองดูนะคะ เราว่าจะเหมาะกะ จขกท มากถ้าไปคนเดียวเพราะในนั่นแนะนำที่กิน ที่นอน ที่เที่ยว ครบเลยคะ จากคุณ : panda_thailand เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:05:25

ความคิดเห็นที่ 4 ลืมบอกไปคะมีอีกที่ ที่เราเเพลนไว้แต่ ไม่ได้ไป คือ ม่วนแจ่ม คะ ที่อำเภอแม่ริม คะ ไปทางนั่นที่เที่ยวน่าจะเยอะมากผ่านที่เที่ยวหล่ยแห่งเลยคะ  และเห็นว่ามีสะเก็ตดาว ก็สวยอะคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าอยู่อำเภอไหน และ อีกที่นึงคะ ที่บอกว่าซากุระเมืองไทย  เอ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าพญาเสือโคร่งอะเปล่า(ผิดขออภัยด้วยนะคะ) ทางเดียว:-)ยสุเทพ อละหมูบ้านชาวเขา ดอยปุยเลยคะ เราพลาดเพราะมะรู้มะงั่นเลยไปและคะ  อิอิ ปล... พอดีเราเห็นมีหนังสือเที่ยวเชียงใหม่ เราเห็นมีจำหน่ายที่ซีเอ็ด 249 ลดเหลือ 150 ยังไงลองดูนะคะ เราว่าจะเหมาะกะ จขกท มากถ้าไปคนเดียวเพราะในนั่นแนะนำที่กิน ที่นอน ที่เที่ยว ครบเลยคะ จากคุณ : panda_thailand เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:06:18

ความคิดเห็นที่ 5 คาดหวังว่าจะขับมอเตอร์ไซด์เองไปทุกที่หรือป่าวครับ สถานที่แนะนำ อยากไปให้ครบนะครับ ขอแนะนำเป็นโซนที่สามารถไปได้ในระยะเวลา 2-3 วัน อ่างขาง ดอยผ้าห่มปก   ท่าตอน  อยุ่ในระแวกเดียวกัน ห้วยน้ำดัง  ปาย  ปางอุ๋ง ทิศทางเดียวกัน ล่องแพ แม่วาง ดอยอิน แม่กลางหลวง ดอยชัวญ่า  ม่อนจอง ใกล้ตัวเมือง  น้ำพุร้อนสันกำแพง  ร่มบ่อสร้าง  บ้านถวาย  พืชสวนโลก ไนท์ซาฟารี ล่องแพแม่แตง  เที่ยวเมืองแกน  ดอยหลวงเชียงดาว เดินเล่น ในเมือง  นิมมานเหมินต์  ถนนคนเดิน ล่องเรือทานอาหารริมน้ำปิง หรือ จะเป็น ล่องแพ ที่ดอยเต่า บอกได้เพียงคร่าวๆ ในระยะที่ทำได้ บางอย่างต้องไปเป้นหมู่คณะ และ เดินทางที่สะดวกกว่ารถมอเตอร์ไซด์ค้าบ จากคุณ : POP_PRACH เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:48:54

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวเมืองเชียงใหม่                เที่ยวชมสถาปัตยกรรมโบราณตามวัดวา อาราม ในตัวเมือง เช่น -     แจ่งศรีภูมิ (สะ – หลี – ภูมิ)                พญามังรายได้เริ่มก่อสร้างกำแพงเมืองเชียงใหม่ที่แจ่งศรีภูมิเป็นที่แรก -     แจ่งก๊ะต้ำ                ในอดีตบริเวณนี้มีปลาค่อนข้างเยอะ ชาวบ้านพากันมาจับปลาบริเวณนี้ โดยใช้เครื่องมือจับปลา ที่เรียกกันว่า ก๊ะต้ำ จึงเป็นเรียกชื่อของ แจ่งก๊ะต้ำ -     แจ่งกู่เฮือง                เป็นสถานที่บรรจุอัฐิของหมื่นเรือง ผู้ควบคุมสถานที่คุมขังขุนเครือ โอรสของพญามังรายซึ่งคิดชิงราชสมบัติจากพญาแสนภู -     แจ่งหัวลิน                เป็นสถานที่รับน้ำจากห้วยแก้วเพื่อนำเข้ามาใช้ในเมือง คำว่า หัวลิน มีความหมายว่า จุดเริ่มต้นของรางน้ำ -     ประตูช้างเผือก                เป็นประตูหัวเวียงตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเมืองเชียงใหม่ บริเวณนี้มี ตลาดช้างเผือก เป็นตลาดเช้า และเป็นย่านตลาดโต้รุ่ง ขายอาหารในตอนกลางคืน -     ประตูเชียงใหม่                เป็นประตูท้ายเวียงอยู่ทางด้านทิศใต้ของเมืองเชียงใหม่ บริเวณนี้มี ตลาดประตูเชียงใหม่ เป็นตลาดเช้า และอยู่ใกล้กับ ถนนคนเดินวัวลาย (วันเสาร์) -     ประตูท่าแพ หรือ ประตูเชียงเรือก (อยู่ใกล้หมู่บ้านเชียงเรือก)                อยู่ทางด้านทิศตะวันออก เป็นประตูออกไปยังย่านการค้าริมฝั่งแม่น้ำปิง -     ประตูสวนดอก                อยู่ด้านทิศตะวันตก ในอดีตมีสวนดอกไม้ของเจ้าครองนครอยู่นอกกำแพงเมืองไม่ไกลจากที่นี่มากนัก (ปัจจุบันคือที่ตั้งของวัดสวนดอก) -     ประตูสวนปรุง (แสนปรง)                เป็นประตูเมืองอีกแห่งหนึ่ง อยู่ทางด้านทิศใต้ -     วัดดับภัย หรือ วัดอภัย หรือ วัดตุงกระด้าง ถ.สิงหราช ต.ศรีภูมิ                มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านหน้าวิหาร เชื่อกันว่าถ้านำไปอาบ จะช่วยปัดเป่าสิ่งร้ายๆ ต่างๆ -     วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร หรือ วัดลีเชียงพระ (พระธาตุประจำปีมะโรง) ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์                สร้างในสมัยพระเจ้ากือนา ในปี พ.ศ. 1888 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ประเภทมหาวิหาร ในปี พ.ศ. 2493        สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระพุทธสิหิงค์                  ชาวบ้านเรียกว่า พระสิงห์ สร้างที่เมืองลังกาในปี พ.ศ. 700 ต่อมาถูกอัญเชิญไปยังสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง เช่น เมืองนครศรีธรรมราช เมืองสุโขทัย อยุธยา กำแพงเพชร กรุงเทพ และ เชียงใหม่   -  จิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง สังข์ทอง พบที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย   -  วิหารหลวง                  รูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา   -  วิหารลายคำ                  เป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ หรือ พระพุทธสิหิงค์   -  วิหารสองสงฆ์                  เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์จำลอง   -  หอไตร   -  พระธาตุหลวง (พระมหาเจดีย์)                  1 ใน พระธาตุ 12 นักษัตรตามความเชื่อของชาวล้านนา เป็นพระธาตุประจำปีมะโรง   -  พระวิหารพระพุทธไสยาสน์                  เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปูนปั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 -     วัดพวกหงษ์                เจดีย์เก่ารูปแบบสถาปัตยกรรมพุทธศตวรรษที่ 21 เจดีย์รูปแบบนี้พบเห็นในจังหวัดเชียงใหม่เพียง 3 แห่ง เท่านั้น คือ วัดร่ำเปิง วัดเจดีย์ปล่อง และวัดพวกหงษ์ -     วัดหมื่นเงินกอง ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ -     วัดเจดีย์หลวง หรือ วัดโชติการาม ถ.พระปกเกล้า ต.พระสิงห์                มีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ สร้างในสมัยพญาแสนเมือง เรียกอีกชื่อว่า กู่หลวง ในสมัยพระเจ้าติโลกราช ได้เสริมพระเจดีย์ขึ้นใหม่ และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่มุขทางด้านตะวันออกของเจดีย์นาน ถึง 80 ปีต่อมาเกิดแผ่นดินไหวทำให้ยอดเจดีย์ได้หักลง แต่ก็ได้รับการทำนุบำรุงมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ด้านหน้าประตูทางเข้าวิหารวัดเจดีย์หลวง มีบันไดนาคเลื้อย เป็นซุ้มประตู ได้รับการยอมรับว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระวิหารหลวง                  สร้างใน ปี พ.ศ. 2471 โดย เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย   -  พระเจดีย์หลวง หรือ กู่หลวง   -  พระอัฏฐารส                  พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ ศิลปะแบบเชียงใหม่ตอนต้น   -  เสาอินขิล หรือ เสาหลักเมืองเชียงใหม่ (ในวัดเจดีย์หลวง)                ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทย ในวัดเจดีย์หลวง ในทุกๆ ปี ประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า งานอินทขิล งานใส่ขันดอก เป็นการฉลองเสาหลักเมือง -     วัดอินทขิล      สิ่งที่น่าสนใจ   -  หลวงพ่อขาว (พระเจ้าขาว) -     วัดดวงดี หรือ วัดต้นหมากเหนือ ถ.พระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  หอไตร                  รูปแบบพื้นเมืองล้านนา มีความประณีต สวยงามที่สุดในกรอบเขตเมืองโบราณ คาดว่าเป็นฝีมือของช่างหลวงที่ร่วมกันสร้างวัดพระสิงห์ เพราะมีรูปแบบและลวดลายคล้ายๆ กัน   -  วิหารหลัก และ อุโบสถ -     วัดศรีเกิด      สิ่งที่น่าสนใจ   -  วิหารพระเจ้าแข้งคม -     วัดเชียงมั่น ถ.ราชภาคินัย ต.ศรีภูมิ                    เป็นวัดแรกที่สร้างขึ้นในเชียงใหม่ สร้างใน ปี พ.ศ. 1840 พญามังรายทรงยกพระตำหนักที่ประทับ ถวายเป็นพระอาราม ให้ชื่อว่า วัดเชียงมั่น      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระศิลา   -  พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว)   -  พระวิหาร   -  เจดีย์ช้างล้อม  (รูปแบบคล้ายกับเจดีย์วัดช้างล้อมที่ จ.น่าน)     -  หลักศิลาจารึกการสร้างเมืองเชียงใหม่ -     วัดเชียงยืน ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ -     วัดลอยเคราะห์ หรือ วัดร้อยข้อ หรือ วัดฮ้อยข้อ ถ.ลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน                ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางถวายเนตร และ พระเจ้าทันใจ ทุกๆ วันอาทิตย์เปิดสอน ดนตรีพื้นเมือง สำหรับผู้                ที่สนใจอีกด้วย -     วัดชัยมงคล หรือ วัดอุบาเพ็ง หรือ วัดอุบาพอก ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน                สร้างขึ้นในสมัยพญาติโลกราช เจดีย์เป็นศิลปะ พม่า – มอญ ที่ตั้งของวัดอยู่ริมแม่น้ำปิง ท่าน้ำของวัดแต่เดิมเจ้านายฝ่ายเหนือใช้เป็นท่าลงเรือสำหรับล่องลงไปยังกรุงเทพ -     วัดพันเตา ถ.พระปกเกล้า ต.พระสิงห์                วิหารเคยเป็นท้องพระโรง ของพระเจ้ามโหตรประเทศ โฆษณาทางโทรทัศน์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็มาถ่ายทำที่นี่      สิ่งที่น่าสนใจ   -  วิหารวัดพันเตา เป็นอาคารทรงพื้นเมืองที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง   -  ธรรมาสน์โบราณ   -  ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) -     วัดแสนฝาง ถ.ท่าแพ                ในอดีตเป็นย่านการค้าของพ่อค้าชาวพม่า จึงมีศิลปะแบบพม่าผสมอยู่ เจดีย์ประธานทรงระฆังแบบร่วมสมัยกับพม่า มีลวดลายปูนปั้นที่งดงาม และกุฏิ 100 ปี หลวงโยนการพิจิตร เป็นตึกขนาดใหญ่สถาปัตยกรรมแบบโคโรเนียล  เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ -     วัดบุพพาราม ถ.ท่าแพ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  หอมณเทียรธรรม                  ประดิษฐานพระไตรปิฏกฉบับลงทองขมุ ศิลปะแบบล้านนา และ พระพุทธบุพพาภิมงคล ภ.ป.ร. และ พระพุทธนเรศร์สักชัยไพรีพินาศ ชั้นล่างเป็นศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา รวบรวมวัตถุโบราณ ของพื้นเมืองต่างๆ   -  วิหารหลังเล็ก                  ประดิษฐานพระพุทธไชยลาภประสิทธิโชค พระพุทธรูปเก่าแก่ อายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี   -  พระเจดีย์  รูปทรงล้านนาไทย บรรจุพระเกศาธาตุ   -  วิหารหลังใหญ่                  ศิลปกรรมแบบล้านนา ประดิษฐานพระมหาพุทธรูปปฏิมากร และภาพเขียนพุทธประวัติ และมหาเวสสันดรชาดก เขียนจากสีฝุ่น   -  บ่อน้ำทิพย์                  ได้ใช้น้ำจากบ่อนี้สรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ และได้ใช้น้ำนี้ร่วมในพระราชพิธีสำคัญๆ ต่างๆ   -     วัดกู่เต้า หรือ วัดเวฬุวนาราม ถ.สนามกีฬา ต.ศรีภูมิ                เจดีย์กู่เต้าเป็นศิลปะแบบพม่า คล้ายบาตรพระ หรือผลน้ำเต้า ซ้อนลดหลั่นกัน 5 ชั้น -     วัดป่าเป้า ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ                เป็นวัดเงี้ยวแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2426 เจดีย์ศิลปะแบบไทยใหญ่ ในเดือนเมษายนของทุกๆ ปี จะมีการจัดประเพณีปอยส่างลอง ซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยใหญ่ด้วย -     วัดช่างฆ้อง ถ.ลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน                หอไตรเป็นตึก 2 ชั้น ศิลปะแบบผสม จีน – พม่า ด้านนอกมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องพระเจ้าสิบชาติ ฝีมือช่างพื้นบ้าน ซึ่งยังคงมีความสมบรูณ์ให้ชม -     วัดอู่ทรายคำ ถ.ช้างม่อยเก่า ต.ช้างม่อย                พระสิงห์หยก ศิลปะแบบเชียงแสนประยุกต์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเศียร -     วัดโลกโมฬี ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ                 เป็นวัดร้างมานาน ได้รับการปรับปรุงดูแล ภายหลังภาพยนตร์ เรื่องสุริโยทัย ออกฉายได้ไม่นานมากนัก วิหารไม้แกะสลักลวดลายงดงาม        สิ่งที่น่าสนใจ   -  เจดีย์วัดโลกโมฬี  จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2071 เป็นศิลปะแบบพุกาม -     วัดเจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร (พระธาตุประจำปีมะเส็ง) ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ – ลำปาง) ต.ช้างเผือก                สร้างโดยพระเจ้าติโลกราช เคยใช้เป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก ใช้เวลา 1 ปี เป็นครั้งที่ 8 ของโลก และเป็นครั้งแรกของไทย ใน ปี พ.ศ. 2020        สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระศรีมหาโพธิ์เจดีย์  ลักษณะคล้ายมหาโพธิ์เจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย   -  พระสถูปเจดีย์อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าติโลกราช  บรรจุพระอัฐิและพระอังคารธาตุของพระเจ้าติโลกราช -     พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงใหม่ ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ – ลำปาง)                รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ ศิลปวัฒนธรรม พระพุทธรูปโบราณ เครื่องถ้วยสังคโลก เครื่องไม้งานแกะสลัก ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ (จัดเก็บค่าเข้าชม) -     วัดศรีสุพรรณ ถ.วัวลาย ต.หายยา                เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นงานช่างสิบหมู่ หัตถกรรมสล่าล้านนา เพื่อการอนุรักษ์ และถ่ายทอดให้กับเยาวชนที่สนใจ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระพุทธปาฏิหารย์ หรือ พระเจ้าเก้าตื้อ                  พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนผสมสุโขทัย อายุประมาณ 500 ปี   -  วิหารสถาปัตยกรรมล้านนา                  ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่ เป็นศิลปะร่วมสมัยฝีมือช่างเครื่องเงินภูมิปัญญาท้องถิ่น ชาวบ้านศรีสุพรรณ   -  อุโบสถเงิน                  อุโบสถเดิมชำรุดทรุดโทรม ชาวบ้านร่วใจกันบูรณะร่วมสร้างให้เป็นอุโบสถเงินหลังแรกของโลก   -  หอไตร  รูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา เก็บรักษาคัมภีร์ใบลานโบราณ   -  พระบรมธาตุวัดศรีสุพรรณ     -     หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ (www.cmocity.com)                เป็นอาคาร 2 ชั้นแบบโคโรเนียล สร้างขึ้นในสมัย ร.6 เคยใช้เป็นศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ และศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อาคารด้านหน้าจัดแสดงนิทรรศการถาวร อาคารด้านหลังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม นิทรรศการหมุนเวียน ห้องนิทรรศการศิลปกรรมล้านนา ห้องสารสนเทศ และ ห้องภัณฑารักษ์ (จัดเก็บค่าเข้าชม) -     พระบรมราชานุสรณ์สามกษัตริย์ (อนุสาวรีย์สามกษัตริย์)                พระบรมรูปของ พญามังราย(เจ้าเมืองเงินยางเชียงแสน) พญาร่วง(พ่อขุนรามคำแหง) และ พญางำเมือง(เจ้าเมืองพะเยา) ได้ร่วมกันก่อตั้ง นพบุรีศรีนครพิงค์เมืองเชียงใหม่ ในวันพฤหัสบดี เพ็ญเดือน 6 พ.ศ. 1839   -     ศาลาธนารักษ์ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ถ.ราชดำเนิน ต.ศรีภูมิ                จัดแสดง โบราณสถาน ทรัพย์สิน และ เงินตราในประเภทต่างๆของไทย รวมถึง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเปิดให้ รับแลกเหรียญ และ ธนบัตรไทย สำหรับผู้ที่ชอบสะสม -     คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (มหาอินทร์) ถ.พระปกเกล้า -     วัดปราสาท      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระเจดีย์   -  พระเจ้าหมื่นตอง   -  พระวิหาร  รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนาดั้งเดิม   -  พระแผง -     วัดผาบ่อง                พระประธานเป็นพระพุทธรูปทองคำ สร้างโดยพระเกตุเมืองแก้วกษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2078      สิ่งที่น่าสนใจ   -  วิหาร  รูปทรงล้านนา   -  กุฏิสงฆ์  ทรงล้านนา   -  เจดีย์  ทรงปราสาท     -     วัดชมภู (เจดีย์คู่เหมือนของวัดพระธาตุดอยสุเทพ) -     วัดพวกหงษ์                เจดีย์โบราณ พบว่ามีเพียงสามวัดในเชียงใหม่ คือ วัดพวกหงษ์ วัดร่ำเปิง และ วัดเจดีย์ปล่อง -     วัดอุปคุต (ไทย)                ประเพณีตักบาตรพระอุปคุตตอนเที่ยงคืน ในเดือนที่มีวันเพ็ญตรงกับวันพุธ เรียกกันว่า ตักบาตรเป็งปุ๊ด        สิ่งที่น่าสนใจ   -  วิหาร  เป็นที่ประดิษฐานพระอุปคุต   -  หอเก็บพระพุทธรูป -     เรือหางแมงป่อง                 วิถีชีวิตสองฝั่งริมน้ำปิง สถานที่สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ พร้อมเรื่องเล่าจากอดีตสู่ปัจจุบันโดยผู้บรรยายตลอดเส้นทางการเดินเรือ -     วัดซิกข์ -     ชุมชนวัดเกตุ                ชุมชนโบราณฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันออก ผู้คนที่อาศัยอยู่มีหลายเชื้อชาติ ซึ่งพบเห็นจากรูปแบบของสถาปัตยกรรม อาคาร บ้านเรือน ที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ในอดีตเป็นท่าน้ำสำคัญของการเดินทางเรือระหว่างกรุงรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพฯ) มายังเมืองเชียงใหม่ -     วัดเกตุการาม (พระธาตุประจำปีจอ)                เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์และสรงน้ำเจ้าหลวงเชียงใหม่ และเป็นพื้นที่ที่ชาวจีนที่ค้าขายทางเรือเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5        สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์                  เป็นการจำลองพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาไว้บนโลกมนุษย์ จึงสร้างให้ยอดพระธาตุเอียง เพื่อไม่ไห้ยอดที่ชี้ขึ้นไปตรงกับพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์   -  พระวิหาร  สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์   -  พระอุโบสถ   -  ศาลาบาตร  สถาปัตยกรรมล้านนาและจีนผสมกัน   -  อาคารโรงเรียนนักธรรมสำนักเรียนวัดสระเกศ  อายุกว่า 100 ปี   -  พิพิธภัณฑ์วัดเกตุการาม รวบรวมของโบราณมากมายหลายชนิด   -   ขัวเหล็ก                เป็นอีกหนึ่งในสะพานประว้ติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ จุดเดินเล่น กินลมชมวิว ถ่ายรูปในบรรยากาศแบบชิลล์ๆ -     โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา -     เวียงกุมกาม (นครโบราณใต้ภิภพ Unseen Thailand)                เป็นเมืองโบราณ ที่พญามังราย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1829 โดยให้ขุดคูเวียงทั้ง 4 ด้าน ไขน้ำแม่ปิง ให้ขังไว้ในคูเมือง โบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในเวียงกุมกาม และใกล้เคียง เป็นเวียง (เมือง) ทดลองที่สร้างขึ้น ก่อนที่จะมาเป็นเมืองเชียงใหม่ สามารถนั่งรถม้าเที่ยวชมโบราณสถานได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง      สิ่งที่น่าสนใจ   -  วัดกานโถม หรือ วัดช้างค้ำ   -  วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ ถอดแบบจากเจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี ลำพูน   -  วัดปู่เปี้ย   -  วัดอีก้าง หรือ วัดอีค่าง   -  วัดพระธาตุขาว   -  วัดกู่บ๊าด้อม   -  วัดพญามังราย -     พิพิธภัณฑ์แมลงและสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติ ถ.นิมมานเหมินทร์ ซอย 13                รวมแมลงชนิดต่างๆ ทั้งใน และต่างประเทศ ซากพืช สัตว์ในยุคโบราณต่างๆ หินสวยงาม ที่พิเศษสำหรับที่นี่ คือ รวบรวม ยุง ในประเทศกว่า 400 ชนิด โดยใช้ระยะเวลา 40 กว่าปี ในการรวบรวม เพื่องานวิจัยทางการแพทย์ (จัดเก็บค่าเข้าชม) -     วัดสวนดอก หรือ วัดบุปผาราม ถ.สุเทพ ต.สุเทพ                      พญากือนาโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริธาตุ และเป็นที่จำพรรษาของพระสุมนเถระ ผู้เผยแพร่พุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์แบบสุโขทัย เคยเป็นพระราชอุทยานของกษัตริย์ล้านนาไทย มีสถาปัตยกรรมสำคัญ คือ เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์แบบล้านนาทรงลังกา กู่บรรจุอัฐิเจ้าตระกูล ณ เชียงใหม่  วิหารประดิษฐานพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งเป็นพระสำคัญด้วย เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง                ของเชียงใหม่ -     วัดอุโมงค์ หรือ วัดเวฬุกัฏฐาราม (สวนพุทธธรรม) ถ.สุเทพ ต.สุเทพ                สร้างขึ้นในสมัยพญามังราย เพื่อให้ฝ่ายอรัญยวาสีจำพรรษา ต่อมาพญากือนา ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พระมหาเถรจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน เป็นสวนป่าที่เหมาะกับการนั่งวิปัสสนา และสวนสัตว์ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน เดินเล่นได้ และเป็นสถานที่ดูนกที่ดีอีกแห่งหนึ่ง      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระเจดีย์  ทรงระฆังคว่ำ ศิลปะแบบลังกา   -  เสาหิน  สัญลักษณ์พระเจ้าอโศกมหาราช   -  สระน้ำ   เขตอภัยทานให้อาหารปลา   -  พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง  รวบรวมโบราณวัตถุเก่าแก่ อายุกว่า 1,000 ปี   -  จิตรกรรมฝาผนังในอุโมงค์  ศิลปะจีนสมัยราชวงศ์หยวน – ต้นราชวงศ์หมิง และ ศิลปะพม่า สมัยพุกาม   -  โรงภาพปริศนาธรรม -     สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ                สวนสัตว์เปิด มีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น วัวแดง กวางป่า ละมั่ง นกยูง -     อ่างเกษตร (ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่)                สถานที่ตั้ง โครงการหลวง และเป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ -     คณะอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่                เป็นอีกสถานที่ที่ชาวเชียงใหม่ ชอบมาออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน ชมวิว ดูนก ด้านในมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และต้นไม้ชนิดต่างๆ -     วัดร่ำเปิง (วัดตโปตาราม) ต.สุเทพ                พระยอดเชียงรายทรงให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2035      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระบรมธาตุเจดีย์  บรรจุพระสารีริกธาตุ   -  พระพุทธรูปหลวงพ่อตโป   -  พระพุทธรูปหลวงพ่อศรีอโยธยา   -  หอพระไตรปิฏก  ทรงล้านนา -     หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่   -     สำนักส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สี่แยกตลาดต้นพยอม) ต.สุเทพ                 รวบรวมบ้านไทยภาคเหนือไว้จำนวนหลายหลัง แต่ละหลังมีรูปทรงและความเป็นมายาวนาน ควรค่ากับการอนุรักษ์ และ เพื่อการศึกษา -     พิพิธภัณฑ์รถโบราณบ้านอุ๊ยเป็ง (จัดเก็บค่าเข้าชม) -     ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่                 เป็นที่รวมศิลปะและวัฒนธรรมของล้านนา มีพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ "สบันงา" ร้านขายของที่ระลึก มีหมู่บ้านชาวเขาให้เที่ยวชม ตอนกลางคืนมีบริการ “ขันโตก” ซึ่งประกอบด้วยอาหารเหนือ เช่น แกงฮังเล น้ำพริกอ่อง แคบหมู โดยนักท่องเที่ยวจะรับประทานอาหาร และชมการแสดงฟ้อนพื้นเมืองไปพร้อมๆ กัน -     ถนนคนเดินวันเสาร์ (วัวลาย) และ ถนนคนเดินวันอาทิตย์ (ท่าแพ – ราชดำเนิน)                สินค้าที่ระลึก สินค้างานหัตถกรรม งานศิลปะ ด้านต่างๆ วันเสาร์จัดที่ ถนนวัวลาย ตลอดทั้งสาย ในวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ ลานประตูท่าแพ ไปตามถนนราชดำเนิน จนถึง วัดพระสิงห์วรวิหาร ตัดตรง 4 แยกกลางเวียง ตั้งแต่ บริเวณวัดเจดีย์หลวง ไปถึง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ -     วัดพระธาตุดอยคำ                สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1230 ในสมัยพระนางจามเทวี จึงมีประวัติเกี่ยวข้องกับพระนางจามเทวีมาอย่างยาวนาน ต่อมาถูกปล่อยให้รกร้าง เป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของนักบิน ก่อนจะเครื่องลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ ที่ลานชมวิว สามารถมองเห็น สถานที่จัดงานราชพฤกษ์ และ สวนสัตว์กลางคืน เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี และบางส่วนของเมืองเชียงใหม่      สิ่งที่น่าสนใจ   -  เจดีย์  บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า   -  พระพุทธรูปโบราณ  สมัยเชียงแสน และ โบราณวัตถุต่างๆ ภายในวัด   -  พระพุทธนพีสีพิงครัตน์  พระพุทธรูปขนาดใหญ่ -     สวนสัตว์กลางคืน เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี                สวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 3 ของโลก ชมสัตว์กลางคืนด้วยการเดินในโซนทะเลสาบ นั่งรถชมสัตว์กลางคืน ในโซนต่างๆ น้ำพุดนตรี พร้อม เลเซอร์ผ่านม่านน้ำ เปิดบริการตั้งแต่ 11 .00 น. ไปจนถึง 23.00 น. (จัดเก็บค่าเข้าชม) -     สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549                  สถานที่จัดงานแสดง งานมหกรรมพืชสวนโลก ด้านในมี หอคำหลวง รูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา และการจัดแสดงพันธุ์ไม้ต่างๆ มากมาย ทั้งใน และจากประเทศต่างๆ (จัดเก็บค่าเข้าชม) จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:10:20

ความคิดเห็นที่ 7 เชียงใหม่ – ดอยสุเทพ                เส้นทางนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้นานาชนิด   -     สวนรุกขชาติห้วยแก้ว                รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดไว้ศึกษา เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อน และมีสวนสุขภาพสำหรับออกกำลังกาย -     สวนสัตว์เชียงใหม่ และ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม                เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ มีบริเวณกว้างขวาง มีสัตว์ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทย และนำมาจากต่างประเทศ ภายในสวนสัตว์ยังมี สวนนกนครพิงค์ ศูนย์จัดแสดงนกเพนกวิน เกาะชะนี อาคารเลี้ยงแมวน้ำ อุทยานสัตว์น้ำจืด และ อุทยานสัตว์น้ำ 700 ปี ศรีนครพิงค์ ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดเอเชีย และที่พลาดชมไม่ได้ คือ ครอบครัวแพนด้า ช่วง ช่วง หลินฮุ่ย และ หลินปิง (จัดเก็บค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท) -     อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย                    นักบุญแห่งล้านนาไทยผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเชียงใหม่ ผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนร่วมแรง ร่วมใจกันสร้าง ถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยเริ่มลงมือ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2478 -     น้ำตกห้วยแก้ว                  น้ำตกที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จากน้ำตกห้วยแก้ว ไปยัง วังบัวบาน และผาเงิบ มีนกหลายชนิดให้ชมอีกด้วย                             -     น้ำตกวังบัวบาน (ตำนานรักหญิงสาวชาวเหนือกับหนุ่มกรุงที่ถูกถ่ายทอดกันไม่รู้จบ) -     น้ำตกมณฑาธาร (www.dnp.go.th)                                เป็นน้ำตกขนาด 9 ชั้น มีน้ำตกไทรย้อยอยู่ชั้นสูงที่สุด ต้นน้ำไหลมาจากห้วยคอกม้า ผ่าน ผาเงิบ วังบัวบาน และน้ำตกห้วยแก้ว ตามลำดับ (มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว)   -     วัดผาลาด (วัดผะเลิด หรือ ปะล๊าด)                  สร้างสมัยพระเจ้ากือนาเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายหาสถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ ตามตำนานสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  วิหารวัดผาลาด  สร้างขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัย โดยสล่า (ช่าง) ชาวพม่า   -  วิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์                  ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้า 5 พระองค์ พระกุกสันธนะพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า พระกัสสปะพุทธเจ้าพระโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) พระศรีอริยเมตไตรย   -  สะพานโบราณข้ามลำธาร  เป็นเส้นทางเดินไปยังดอยสุเทพในอดีต -     วัดพระธาตุดอยสุเทพวรมหาวิหาร (พระธาตุประจำปีมะแม) (www.doisuthep.com)                ตั้งอยู่บนยอดดอย “อุจฉุบรรพต” “ดอยอ้อยช้าง” “ดอยกาละ” หรือที่รู้จักกันในปัจจุบันว่า “ดอยสุเทพ” (ตั้งตามชื่อของ สุเทวฤาษี ที่เคยบำเพ็ญตบะอยู่ที่ดอยนี้) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ และพุทธศาสนิก ชนทั่วประเทศ สร้างในสมัยพระยากือนา ราชวงศ์มังราย ประมาณปี พ.ศ. 1916 องค์พระธาตุเป็นศิลปะแบบเชียงแสน ทุกๆ ปีจะมีงานประเพณีเดินขึ้นดอยสุเทพ และทำบุญวันแปดเป็ง (วันวิสาขบูชา) อย่างยิ่งใหญ่        สิ่งที่น่าสนใจ   -  เจดีย์พระบรมธาตุดอยสุเทพ  รูปทรงเชียงแสน ปิดด้วยทองดีบุก ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรของพระพุทธเจ้าบรรจุอยู่   -  ฉัตรทั้ง 4 มุม  ฉัตรถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาที่แผ่กระจายไปทั้ง 4 ทิศ   -  หอยอ  เป็นวิหารขนาดเล็กตั้งอยู่ 4 มุมขององค์พระธาตุ   -  หอท้าวจตุโลกบาล  ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรส ท้าววิรูปักษ์ และท้าววิรุฬหก เทพที่ปกปักรักษาพระบรมธาตุทั้ง 4 ทิศ   -  วิหารครูบาศรีวิชัย                  ประดิษฐานรูปปั้นของครูบาศรีวิชัย และ รูปหล่อของอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ   -  บันไดนาค  306ขั้น สำหรับผู้สูงวัย หรือผู้ที่แข้งขาไม่แข็งแรงมากนัก อาจจะใช้บันไดในการลง ส่วนขาขึ้นนั่งกระเช้าขึ้นไป -     พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ (www.bhubingpalace.org)                เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2503 เพื่อเป็นพระตำหนักที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ในวโรกาสที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯ เยือนประเทศไทย โดยมีสวนไม้ดอกชนิดต่างๆ ที่มีชื่อเสียงมาก คือ กุหลาบเวียงพิงค์ ซึ่ง                มีขนาดใหญ่ และจะสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว (เปิด 08.30 น. – 16.30 น. จัดเก็บค่าเข้าชม) -     จุดชมวิวผาดำ                สามารถชมเมืองเชียงใหม่ได้ในวันฟ้าใสจากที่นี่อีกแห่งหนึ่ง -     บ้านม้งดอยปุย                ชุมชนบนภูเขา พิพิธภัณฑ์ชาวเขา ซึ่งจัดแสดงเครื่องใช้ งานหัตถกรรมต่างๆ สวนดอกไม้ และน้ำตก ร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว -     ยอดดอยปุย -     สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน (ดอกพญาเสือโคร่ง ซากุระเมืองไทย) -     อุทยานแห่งชาติ สุเทพ – ปุย                ประกอบด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่สูงสลับซับซ้อน ดอยที่สำคัญได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยบวกห้า และ ดอยปุย เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธาร ทั้งมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญทางศาสนา และทางประวัติศาสตร์ จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:14:53

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณ panda_thailand ค่ะ ในเมืองและทางแม่ริมไปมาเกือบหมดแล้วตามที่แนะนำมา  คราวนี้เลยอยากออกนอกเมืองน่ะคะ คุณ POP_PRACH ค่ะ ใช่ค่ะ จะขับมอเตอร์ไซต์เองตลอดทริปเลย ขอบคุณสำหรับสถาณที่แนะนำ สนใจหมดเลยค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าไปที่สูงๆ มอเตอร์ไซต์ออโต้จะไหวมั๊ย (Yamaha TTX) ไม่ได้กลัวตอนขึ้น แต่เกรงตอนลงค่ะ ครั้งที่แล้วขับมิโอเล็ก ลงเขาทางแม่สา มันกระตุก หวาดเสียวมากค่ะ กรี๊ดไปขับไปตลอดทางลงเลย 5555 ครั้นจะเช่ามอเตอร์ไซต์เกียร์ธรรมดาก็ขับไม่ถนัด ขับออโต้แข็งกว่า อยากไปดู ดอกนางพญาเสือโคร่ง เหมือนกันค่ะ คุณลุงซุป - โอ้ววววว ขอบคุณมากๆค่ะ แน่นมาก จะไล่เก็บไปเรื่อยๆค่ะ 10วัน จะหมดมั๊ยน๊อ??? ป.ล. ต้องกลับเข้ามานอนในเมืองทุกวัน เพราะจองห้องพักไว้แบบจ่ายเหมาไปแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวนอกเมือที่ไหนได้บ้างที่ไปเช้ากลับเย็นน่ะค่ะ จากคุณ : fumiko_1708 (fumiko_1708) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:27:00

ความคิดเห็นที่ 9 อยากจะแนะนำ ถ้ำบริจินดา แต่เห็นว่าไปคนเดียว เกรงว่าจะอันตรายไปหน่อยค่ะ ถ้ามีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย แนะนำให้ลองไปเที่ยวดูค่ะ อยู่ทางไปดอยอินทนนท์ ต้องจอดรถทิ้งไว้และเดินเท้าเข้าไป ต้องปีนเขาค่ะ เพราะปากถ้ำอยู่บนยอดเขา แล้วไต่ลงไปจะเป็นก้นถ้ำ เป็นถ้ำที่เราประทับใจมากที่สุด (แต่ตอนนั้นไปตอนวัยรุ่น เลยไม่ค่อยเหนื่อยมาก) จากคุณ : HuGGie เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 13:50:47

ความคิดเห็นที่ 10 แนะนำม่อนตะวันค๊า(ชอบส่วนตัว) ไปทางเดียวกับม่อนแจ่ม เลยไปนิดนึง แวะม่อนแจ่มก่อนได้เลยค่ะ หรือตอนกลับค่อยแวะก็ได้ค่ะ ที่ม่อนตะวันเป็นที่พักแบบเต็นท์และบ้านพักค่ะ ยังไม่บูมมาก เพราะว่าเพิ่งเปิดได้เดือนนึงตอนเราไปค่ะ เราไปมา่เมืิ่อต้นเดือน อยากให้ลองดูค่ะ อาจจะติดใจแบบเรา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13060781/E13060781.html จากคุณ : yuii.blur เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 16:20:51

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณ HuGGie ค่ะ ใช่แล้ว ไปคนเดียว ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดค่ะ เข็ดแล้ว เพราะเคยไปรถล้มที่สมุยมาแล้วอยู่คนเดียว ลำบากพอใช้เลยค่ะ เที่ยวนี้ต้องระวังมากขึ้น คุณ yuii.blur ค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิว จะไปค่ะ ^_^ จากคุณ : fumiko_1708 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 18:20:55