ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องของเราเรามาพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวแบบคร่าวๆ หากท่านสนใจที่จะมาเยี่ยมชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ครับ เนื่องจากว่าสถานที่แห่งนี้เป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียงมาก แต่เสี่ยงต่อการถูกทำลายหากมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากเกินความพอดี เพราะฉะนั้นรัฐบาลเปรูจึงออกมาตรการบังคับว่า โอเค ถ้าอย่างนั้นเราจะให้คนแค่ 2,500 คนต่อวันเท่านั้นสามารถมาเยี่ยมชมที่นี่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็จะไปหน้าประตูทางเข้าแล้วต่อคิวเข้ากันนะครับ เพราะการที่จะเข้าชมที่นี่ได้จะต้องมีบัตรอนุญาตที่ต้องซื้อกันล่วงหน้าก่อนเดินทางมาถึง หากเป็นช่วง high season ในช่วงเดือนอย่างมิถุนายนถึงสิงหาคมเหมือนช่วงที่ผมเที่ยวอยู่นี่ ก็ต้องจองต้องซื้อกันล่วงหน้านานๆ หน่อยครับ สำหรับราคา permit ก็มีสองราคาครับ คือราคาปกติกับราคานักเรียน (เฉพาะผู้ถือบัตร ISIC เท่านั้น) ซึ่งอยู่ที่ 128 โซล และ 64 โซลตามลำดับ สำหรับวิธีซื้อ permit นี้ก็สามารถซื้อออนไลน์ได้ครับที่ http://www.machupicchu.gob.pe แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 55 09:33:51 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:32:13

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับวิธีการเดินทางไป Machu Picchu นั้นจะมีอยู่สองวิธีหลักๆ ครับ (วิธีที่สามคือการนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปนี่ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ ) และวิธีแรกซึ่งเป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปทำกันก็คือนั่งรถไฟของ Perurail จาก Cusco ไปยังเมือง Aguas Calientes ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่ Machu Picchu นั่นเองครับ ซึ่งระหว่างสองเมืองนี้จะมีรถไฟวิ่งถึงกันโดยตรง แต่คนส่วนมากจะไม่เริ่มนั่งรถไฟกันจาก Cusco ครับเพราะแพงมาก วิธีที่นักท่องเที่ยวจะประหยัดเงินได้ก็คือการนั่งรถหรือมากับทัวร์มาที่ Ollantaytambo และต่อรถไฟจากที่นั่น (Aguas Calientes สามารถไปถึงได้โดยรถไฟเท่านั้นครับ) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ถูกกว่ามาก สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วรถไฟสามารถศึกษาได้ที่ www.perurail.com ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:33:25

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับวิธีที่สองจะเป็นวิธีสำหรับผู้ที่ชอบใช้กำลังหรือรักที่จะพาตัวเองมาลำบาก นั่นก็คือการ “เดิน” ไปยัง Machu Picchu นั่นเอง สำหรับเส้นทางเดินยอดนิยมก็จะมีหลากหลายเส้นทาง แต่ที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็น Inca Trail นี่เองครับ ซึ่งเส้นทางจะเริ่มต้นจาก Ollantaytambo เดินผ่านเส้นทางโบราณที่ชาวอินคาเคยใช้ในการสัญจรมาก่อน ผ่านโบราณสถานระหว่างทางหลายแห่ง และยังได้รับการจัดอันดับจากหลายสำนักให้เป็นหนึ่งในเส้นทางเดิน (Trail) ที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย  ใช้เวลาเดินทางกัน 4 วันกับ 3 คืนจึงจะถึง Machu Picchu ส่วนราคาค่าทัวร์ก็นับว่าหลากหลายครับ ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์ที่เราเลือกเดินทางด้วย และมีบริษัททัวร์มากมายหลากหลายเจ้าใน Cusco ครับที่นำเสนอทัวร์บนเส้นทางนี้ หากเลือกไปกับเจ้าที่มีชื่อเสียงมากๆ หน่อย ราคาก็จะสูงถึง 400 - 500 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียวครับ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เส้นทางนี้ก็จำกัดนักท่องเที่ยวไว้ที่ 500 คนต่อวันเท่านั้นครับ ซึ่งในจำนวน 500 คนนี้ก็รวมไกด์ ลูกหาบ พ่อครัวจากหลายๆ บริษัททัวร์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหากต้องการมาเดินบนเส้นทางนี้ในช่วง high season แบบนี้เรียกได้ว่าต้องจองล่วงหน้ากันเกือบครึ่งปีเลยทีเดียวครับ เพราะเต็มไวมากๆ ผมซึ่งตัดสินใจก่อนมาเที่ยวที่นี่ช้าเกินไปจึงจองเส้นทางเดินนี้ไม่ทันครับ ขอบคุณภาพจาก http://www.incatrailperu.com/ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:37:53

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเกิดว่าจอง Inca Trail ไม่ทันแต่อยากจะเดินป่าเดินเขากับเขามั่ง ยังมีหนทางอื่นอีกหรือเปล่า? คำตอบก็คือมีครับ เพราะบริษัททัวร์ใน Cusco ก็ยังนำเสนอทัวร์อีกหลากหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ และหนึ่งในทางเลือกนั้นก็คือเส้นทางเดิน Salkantay หรือ Salkantay Trek ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่ฮอตฮิตรองลงมาจาก Inca Trail เลยทีเดียวครับ ซึ่งจะกินเวลา 5 วัน 4 คืนไปยัง Machu Picchu ข้อดีของเส้นทางนี้ก็คือ ยาวนานกว่า ทิวทัศน์ระหว่างทางสวยและอลังการกว่าแม้กระทั่ง Inca Trail อีกทั้งยังพอได้สัมผัสรสชาติของเส้นทางอินคาแม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ จึงนับได้ว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างจะมีหลากหลายรสชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เส้นทางนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยม แต่ว่าเส้นทางนี้ก็ไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายเลย หลายๆ คนว่ากันว่าเส้นทางนี้โหดและทรมานกว่าเส้นทาง Inca Trail ต้นตำรับเสียด้วยซ้ำไปครับ เพราะจะผ่านจุดสูงสุดที่ความสูงถึง 4,600 เมตรจากน้ำทะเล และเส้นทางเองก็วิบากพอสมควร ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนไปให้ดีครับ แน่นอนครับว่าเราก็สามารถไปได้กับหลากหลายบริษัททัวร์ที่นำเสนอ option เดียวกันนี้ หากเลือกไปกับบริษัททัวร์ที่มีชื่อเสียงกว่าก็อาจได้ราคาระหว่าง 300 - 500 ดอลลาร์สหรัฐครับ หากถามว่าราคาถูกกว่านี้มีไหม ก็มีเหมือนกันครับที่บางเจ้าอาจจะขาย trek นี้ในราคาระหว่าง 200 - 300 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มันก็มีข้อแตกต่างระหว่างเจ้าถูกๆ กับเจ้าแพงๆ อยู่เหมือนกันครับ เช่น ขนาดของทัวร์ คุณภาพอาหาร คุณภาพของไกด์ หรือบริการอื่นๆ สำหรับผมนั้นผมเลือกใช้บริการกับบริษัท X-Treme Tourbulencia ที่มีสำนักงานอยู่ใกล้ๆ กับ Plaza de Armas ใน Cusco ครับในราคาผู้ถือบัตร ISIC 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงมาจากราคาปกติ 420 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งบริษัทนี้นับเป็นบริษัทระดับกลาง-บนของ Cusco มีรีวิวจากชาวต่างชาติมาเขียนลงในเว็บอย่าง TripAdvisor ไว้ดีมาก และราคาไม่แพงเท่าเจ้าอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงกว่า (ซึ่งจะขายกันในราคาสูงถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐ) เพราะว่านี่คือหนึ่งในประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม ผมจึงเลือกที่จะทำมันกับเจ้าที่เชื่อถือได้ครับ เสียเท่าไหร่เท่ากัน! ภาพประกอบจาก http://www.salkantay.org/ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:39:41

ความคิดเห็นที่ 5 หวังว่าข้อมูลที่ผมเกริ่นนำไปแล้วนั้นคงจะทำให้ท่านผู้อ่านพอมองภาพคร่าวๆ เกี่ยวกับวิธีการท่องเที่ยว Machu Picchu ได้ออกกันนะครับ ถ้าอย่างงั้นกลับมาติดตามเรื่องราวของเรากันต่อได้เลยครับ เช้าวันที่ 25 กรกฎาคม ผมต๊กใจตื่นมาตีสี่ เพื่อเตรียมตัวเก็บข้าวของเตรียมพร้อมออกเดินทางในวันนี้ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้นัดว่าจะมีรถมารับที่โรงแรมตอนตีห้ากว่าๆ พอรถมารับแล้วเราก็ทำการฝากข้าวของที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปไว้กับโรงแรม แล้วก็ออกเดินทางกันแต่เช้ามืดเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:41:23

ความคิดเห็นที่ 6 พระอาทิตย์เริ่มจะโผล่มาให้เห็นกันแล้ว แต่ท้องฟ้าวันนี้ดูขมุกขมัวแฮะ แล้วการเดินทางของผมครั้งนี้มันจะขมุกขมัวไม่สดใสไม่ราบรื่นเหมือนท้องฟ้าด้วยหรือเปล่าหนอ... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:42:00

ความคิดเห็นที่ 7 ผ่านมาได้สองชั่วโมงหลังจากออกมาจาก Cusco เราก็มาที่จุดแวะจุดแรกเพื่อรับประทานอาหารเช้ากันครับ (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์) ส่วนนี่คือรถตู้ของทางบริษัททัวร์เองเลย นี่แหละครับข้อดีหนึ่งของการจองกับบริษัททัวร์ที่มืชื่อเสียงหน่อย เพราะบริษัทนั้นจะมีรถรามีเครื่องไม้เครื่องมือเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องจับคนไปรวมกับบริษัทอื่นครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:43:12

ความคิดเห็นที่ 8 ที่นี่ยังมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินป่าขายอีกด้วยครับ หากขาดเหลืออะไรก็แวะซื้อที่นี่ได้ก่อนที่เราจะเดินทางกันจริงๆ ครับ เพราะนี่คือที่สุดท้ายที่เราจะได้แวะก่อนเราจะเริ่มต้นการเดินอย่างจริงๆ จังๆ แล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:44:24

ความคิดเห็นที่ 9 จากท้องฟ้าที่เคยขมุกขมัวตอนนี้กลายมาเป็นสดใสแล้วละครับ หวังว่านี่คงจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีนะ และผู้คนในภาพนี่แหละครับที่พวกเราจะร่วมชะตากรรมเดียวกันไปตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืนนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:45:58

ความคิดเห็นที่ 10 มีถังแก๊สมาด้วยแฮะ เอาไว้สำหรับเตรียมอาหารตลอดการเดินทางของเรานั่นเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:46:42

ความคิดเห็นที่ 11 คณะที่จะเดินทางไปด้วยกับเราในวันนี้ครับ สองคนซ้ายเป็นคนที่จะคอยจูงม้าขนสัมภาระไปตลอดทาง คนกลางเป็นพ่อครัว ส่วนคนขวาสุดเสื้อเหลืองเป็นไกด์ของเราตลอดการเดินทางครับ คุณไกด์คนนี้ชื่อว่า Julio จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:48:01

ความคิดเห็นที่ 12 ม้าพวกนี้จะขนสัมภาระต่างๆ ให้กับพวกเราตลอดการเดินทาง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:48:46

ความคิดเห็นที่ 13 ก่อนเราออกเดินกันก็มีการพูดคุยซักซ้อมถึงข้อปฎิบัติต่างๆ กันอีกรอบนึงครับ ยังไงก็ไม่ประมาทไว้ก่อนเนาะ :) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:50:03

ความคิดเห็นที่ 14 พอทุกคนตกลงตรงกันจนแน่ใจแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางครับ ระหว่างทางคุณ​Julio ก็อธิบายถึงประเพณี ธรรมเนียมต่างๆ ในสมัยโบราณ รวมไปถึงพาเดินชมนกชมไม้ และอธิบายเกี่ยวกับต้นไม้ของแถบนี้อีกด้วยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:51:10

ความคิดเห็นที่ 15 ตรงนี้คือ Apurimac Canyon เป็นหุบผาที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำทำนองเดียวกับ Grand Canyon หรือ Colca Canyon แถวๆ เมือง Arequipa ของเปรูนี่แหละครับ เพียงแต่ว่าไม่ลึกเท่าทั้งสองที่นั้นเท่านั้นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:52:28

ความคิดเห็นที่ 16 วันแรกเริ่มต้นกันอย่างชิลๆ สบายๆ ณ จุดเริ่มต้นของเราความสูงอยู่ที่ 3300 เมตรจากระดับน้ำทะเลครับ หากเหนื่อยก็สามารถบอกไกด์ให้ขอหยุดพักได้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:53:22

ความคิดเห็นที่ 17 ระหว่างทางเดินผมก็ต้องตะลึงงันกับภาพทิวทัศน์ที่เห็นเบื้องหน้า นั่นก็คือภูเขา Umantay ซึ่งเป็นหนึ่งในสองลูกที่สูงสุดในย่านนี้ (ทายซิครับว่าอีกลูกชื่อว่าอะไร - Salkantay นั่นเองครับ ชื่อเส้นทางเดินนี้ก็นำมาจากภูเขาลูกนี้นี่เอง ) ดูเอาเถิดครับ!! งามแท้ๆ งามอะไรได้ขนาดนี้น้อ!! แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 55 09:54:54 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:54:25

ความคิดเห็นที่ 18 เราเริ่มออกเดินกันประมาณ 9 โมงเช้าครับ แต่ตอนนี้เราเดินมาจนประมาณบ่ายๆ แล้ว ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้วครับ!! ไหนดูซิว่าบริษัทนี้จัดอะไรมาให้เราทานเอ่ย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:56:34

ความคิดเห็นที่ 19 หน้าตาอาหารดูดีทีเดียวครับ และที่สำคัญรสชาติอร่อยซะด้วย!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:57:47

ความคิดเห็นที่ 20 พอทานข้าวเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกันต่อครับ เห็นคุณ Julio บอกว่าเหลืออีกประมาณสองชั่วโมงก็จะถึงจุดพักและที่นอนสำหรับคืนนี้ครับ ยอดเขา Umantay ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ยิ่งใหญ่ และสวยงาม จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:59:47

ความคิดเห็นที่ 21 ใกล้จะถึงที่พักของเราในคืนนี้แล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:01:59

ความคิดเห็นที่ 22 เท่ห์มากๆเลยค่ะ ชอบภาพถ่ายด้วย ใหบรรยากาศดีค่ะ (ขอโทษนะคะอยากว่าว่าใช้กล้องแบรนด์อะไรคะ ภาพใสนิ้งมากๆ จากคุณ : ปลาเล็กในทะเลใหญ่ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:02:51

ความคิดเห็นที่ 23 และแล้วยอดเขา Salkantay ต้นกำเนิดชื่อของเส้นทางสายนี้ ก็เผยโฉมออกมาให้เราเห็นครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:03:05

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับคุณปลาเล็กในทะเลใหญ่ ขอบคุณที่แวะมาชมนะครับ เดี๋ยวเรื่องกล้องผมตอบให้ทางหลังไมค์นะครับ และแล้วแสงตะวันแห่งวันแรกของการเดินทางก็ใกล้จะลับขอบฟ้า จบวันแรกกันที่ความสูง 3600 เมตรจากน้ำทะเลครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:05:34

ความคิดเห็นที่ 25 ถึงตอนนี้ก็ต้องเอาสัมภาระลงจากหลังม้า เอาเข้าไปเก็บในเต็นท์กันแล้วครับ ม้าตัวนี้ถ้ามันพูดได้มันคงบอกว่า "เฮ้อ สบายหลังซะที!!" จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:08:20

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่า จะติดตามชมไปเรื่อยๆนะคะ จากคุณ : ปลาเล็กในทะเลใหญ่ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:09:22

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับที่นอนของเราในคืนแรกก็เป็นเต็นท์วางกันเรียงรายแบบนี้ มีผ้าใบเขียวๆ ขึงไว้โดยรอบเพื่อกันลมซึ่งทั้งเย็นและหนาววววววววววว ครับ ยิ่งมากลางหน้าหนาวแบบนี้ยิ่งหนาวจับใจเลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:11:00

ความคิดเห็นที่ 28 ข้างในเต็นท์ก็จะนอนได้เต็นท์ละ 2 คนครับ ส่วนถุงนอนนี่ต้องเอามาเองหรือเช่าเอาครับ ตอนแรกผมก็ว่าจะเอามาแล้วแต่ที่ไม่พอ (ขาตั้งกล้องเป็นเหตุแท้ๆ....) ก็เลยมาเช่าเอาครับ ค่าเช่าก็ 10 ดอลลาร์ตลอดการเดินทาง ใช้ของ North Face ซะด้วย สภาพดีเลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:14:03

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็น เราก็มาทานกันในเต็นท์หุ้มผ้าใบสีเขียวสีเดียวกับทีนอนเราเป๊ะ! ภาพเลยออกมาโทนเขียวๆ อย่างที่เห็นนี่แหละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:16:19

ความคิดเห็นที่ 30 บอกไว้ก่อนนะครับว่าในคืนนี้ไม่มีที่อาบน้ำนะครับ เพราะฉะนั้นต่อให้เดินมาเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องนอนมันทั้งๆ แบบนั้นแหละครับ แต่แหม มาเดินทางกันแบบนี้ไม่มีใครแคร์ความหอมความเหม็นกันแล้วครับ ขอให้ไปให้ถึงที่หมายก็พอ และแล้วเช้าวันที่สองก็เริ่มต้นขึ้นครับ วันนี้เป็นวันที่ 26 กรกฎาคม วันที่สองนี่นับได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเส้นทางเดินสายนี้เลยทีเดียวครับเพราะเราจะผ่านจุดสูงสุดที่ 4600 เมตรจากระดับน้ำทะเลกันด้วย และยังจะเป็นวันที่เดินกันไกลที่สุดนั่นก็คือ 20 กิโลเมตรอีกด้วย นับว่าเป็นวันที่โหดเอาเรื่องเลยทีเดียว ก่อนพวกเราจะออกเดินทางกันต่อก็ต้องถ่ายรูปหมู่กันเป็นธรรมเนียมครับ ผมเซ็นเซอร์หน้าตัวเองออกไป เพราะสีหน้าผมเองไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่ในวันนี้ หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณบอกอะไรบางอย่าง?? จะเกิดอะไรขึ้นกับผมหนอวันนี้.... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:23:32

ความคิดเห็นที่ 31 ทิวทัศน์เป็นแบบ Altiplano ชวนให้ผมนึกถึงวันแรกที่ผมเข้ามายังโบลิเวียที่ Salar de Uyuni คิดถึงวันนั้นจริงๆ ครับ ผ่านมาก็นานมากแล้ว แต่ก็ยังประทับใจอยู่เลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:33:27

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจากที่ออกเดินกันในวันที่สองได้สองชั่วโมง ทันใดลางร้ายก็เริ่มปรากฎให้เห็นครับ เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาท้องไส้ผมก็ไม่ค่อยดี เข้าห้องน้ำก็บ่อยครั้งมาก ซึ่งอาจจะเป็นอาการจากการแพ้ความสูงหรืออาหารที่ผมทานที่ตลาด San Pedro ใน Cusco เมื่อวันก่อนก็ได้ (ใช่ครับ อาการท้องเสียก็เกิดจากการแพ้ความสูงได้เช่นกัน) รู้แต่ว่าที่แน่ๆ ผมเสียน้ำและเกลือแร่ไปมากครับ จะก้าวเดินต่อไปก็ไม่ไหวเพราะแรงที่จะยกขาเดินต่อไปนี่แทบจะไม่มีเลย ในที่สุดผมก็ต้องบอกคุณไกด์ Julio ว่าไม่ไหวครับ ต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน นั่นก็คือม้าสำรองที่มีอยู่แล้ว 1 ตัวนั่นเอง วันนั้นผมเลยต้องขึ้นม้าเพื่อผ่านจุดสูงสุดแทนการเดินครับ ผมเองก็ยังรู้สึกเสียดายและเจ็บใจตัวเองไม่หายเลย.... :( ผมล่ะอยากจะเดินข้างล่างเองซะจริงๆ แต่ถ้าขนาดแค่เดินยังไม่ไหวแล้ว อย่าว่าแต่ปัญญาจะยกกล้องขึ้นถ่ายเลยครับ น่าเสียดายมากๆ เพราะวันนี้วิวมันสวยกว่าเมื่อวานหลายเท่าด้วย แต่ถึงกระนั้นเจ้าม้าก็พาผมมาถึงข้างบนจุดสูงสุดได้ครับ ผมก็อยากจะยินดีนะครับ แต่สภาพร่างกายของผมวันนี้มันไม่น่าจะยินดีด้วยเท่าไหร่เลย.... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:34:32

ความคิดเห็นที่ 33 นอน Hilton อย่างดีเลย คิกๆๆๆ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:37:26

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับคุณ PatPDX นี่แหละครับ Hilton สาขา Salkantay Mountain แต่เพื่อรีวิวและเพื่อบันทึกความทรงจำของผมว่าครั้งหนึ่งเคยผ่านมาแถวนี้ ก็ต้องกัดฟันยกกล้องถ่ายกันไปครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:41:24

ความคิดเห็นที่ 35 วิวตรงนี้มันช่างสวยเหลือเกิน! น่าเสียดายที่สภาพร่างกายของผมตอนนั้นมันไม่ดีพอที่จะชื่นชมความงามมันได้เต็มที่ครับ... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:43:41

ความคิดเห็นที่ 36 อย่างน้อยก็ขอเก็บภาพบรรยากาศตรงนี้ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:45:02

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจากนั้นไม่นานคนอื่นๆ ก็เดินตามกันขึ้นมาถึงข้างบนครับ เลยหยุดพักถ่ายรูปหมู่ที่จุดสูงสุดกัน แต่สภาพผมตอนนั้นขนาดจะยิ้มก็ยังยิ้มไม่ออกเลย.... มาเที่ยวแบบนี้ถ้าร่างกายไม่ไหวนี่มันเป็นอะไรที่ทรมานสุดๆ เลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:49:36

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วพวกเราก็ออกเดินกันต่อ คุณไกด์ Julio บอกว่าต่อจากนี้จะลงตลอดจนถึงที่พักในคืนนี้แล้ว ผมเองก็อยากจะลองเดินดูเหมือนกัน แต่ปรากฎว่าผมก็หมดปัญญาจะเดินให้ทันคนอื่น แม้กระทั่งในบางจุดเดินได้เพียงไม่ถึงร้อยก้าวก็ต้องหยุดพักแล้ว ทรมานมากๆ ครับ แต่ผมก็ยังอุตส่าห์กัดฟันเดินมาจนถึงจุดพักทานอาหารกลางวันของวันที่ 2 จนได้ คุณ Julio เห็นสภาพท่าจะไม่ดีก็เลยบอกผมว่าอย่าฝืนเดินต่อเลย ขี่ม้าต่อไปจะดีกว่า ซึ่งตอนนี้ผมชักเห็นด้วยครับ พอถึงที่พักของเราในคืนวันที่ 2 ซึ่งอยู่สูงประมาณ 2900 เมตรจากน้ำทะเล พอถึงที่พักปุ๊บคุณ Julio ก็ให้ผมเข้าไปนอนในบ้านคนที่เป็นเจ้าของจุดกางเต็นท์ของเราก่อนเลยครับ ให้ผมได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในขณะที่เพื่อนร่วมทางก็เข้ามาถามอาการผมด้วยความห่วงใย ถึงตรงนี้แล้วผมเองก็รู้สึกซาบซึ้งซะเหลือเกิน เพราะมาอยู่ในที่ไกลปืนเที่ยงแถมร่างกายก็ไม่สบายแบบนี้ ยังมีคนรอบๆ ข้างคอยเป็นห่วงเป็นใยแบ่งข้าวของมาให้ช่วยบรรเทา นับเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ผมไม่คิดว่าจะได้พบเจอในสภาพร่างกายเช่นนี้เลยจริงๆ ครับ พอได้พักผ่อนในเย็นนั้นอย่างเต็มที่ ก็มาถึงเช้าวันที่ 3 ของการเดินทางครับ เมื่อวานนี้ทั้งวันนั้นผมไม่มีความรู้สึกอยากทานอะไรเลย มาวันนี้เริ่มทานได้บ้าง และก็จำเป็นต้องทานด้วยเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิมครับ ทุกคนเองก็ดีใจที่อย่างน้อยก็เห็นผมมีอาการดีขึ้น ผมเองก็โล่งอกครับ วันนี้จะได้เดินเองอีกครั้งหนึ่งซะที จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:57:54

ความคิดเห็นที่ 39 ก่อนเดินทางเราก็เอาสัมภาระมากองรวมกันก่อนครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:59:59

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมาๆ คงหนาวน่าดู หิมะขาว วิวสวยงาม จากคุณ : บารอนก๊อง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:01:16

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีคุณบารอนก๊องครับ วิวสวยจริงๆ ครับ แถมหนาวจับใจ แต่ความสูงอาจทำให้ทรมานกายได้ครับ บรรยากาศจากจุดตั้งแคมป์ของเราในเช้าวันที่สามก่อนออกเดินทางครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:04:08

ความคิดเห็นที่ 42 และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาต้องจากลากันเป็นครั้งแรกแล้วครับ เนื่องจากคนจูงม้าจะต้องจูงม้ากลับข้ามเขาทางเดิมที่ผ่านเมื่อวานนี้กลับไปยังจุดแรกที่เราเริ่มเดินกันในวันแรก ต้องขอบคุณเขาทั้งสองมากๆ จริงๆ ครับ หากไม่มีเขาผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผ่านวันที่สองมาได้ยังไง สำหรับวันที่สามม้าจะไม่ได้ขนสัมภาระให้เราแล้วครับ แต่สัมภาระจะถูกขนไปทางรถยนต์แทน ว้า ถ้างั้นถ้าผมยังไม่หายดีและยังเดินไม่ไหวในวันนี้อยู่ก็คงได้นั่งรถแทนนั่งม้าน่ะสิ ไม่น่าตื่นเต้ลเรยยยย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:09:01

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ Julio เหลียวมองซ้ายมองขวา ถามผมย้ำอีกทีว่าไม่เป็นอะไรแน่นะ ผมก็ตอบไปว่า สบายมาก ไปกันเถอะ (แน่ะ ยังจะปากดีอีก) ก็ได้เวลาไปกันต่อแล้วละครับ สำหรับเส้นทางในวันที่สามก็จะมีขึ้นๆ ลงๆ สลับกันบ้าง แต่ลงมากกว่าขึ้นครับ และวิวทิวทัศน์รอบตัวก็จะเปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นภูเขาสูง แห้งแล้ง ไม่มีแม้กระทั่งต้นไม้ มาวันนี้นี่เขียวชอุ่มตลอดทั้งเส้นทางครับ และอากาศก็ร้อนมาก บางทีนี่ต้องถอดเสื้อแจ๊กแกตออกเลยละครับ ร้อนจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่วันเดียวอะไรๆ ก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:13:09

ความคิดเห็นที่ 44 ผ่านสายน้ำลำธารใสเย็น จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 45 แล้วก็มีน้ำตกเล็กๆ ระหว่างทางด้วย เส้นทางเดินนี้นี่มีธรรมชาติหลากหลายรูปแบบให้สัมผัสจริงๆ ครับ ไม่น่าเชื่อเลย แต่จะดีกว่าเส้นทาง Inca Trail ต้นตำรับหรือเปล่าผมไม่ขอออกความเห็นครับ บางคนที่ชอบแนวธรรมชาติมากกว่าก็บอกว่า Salkantay ดีกว่า แต่คนที่ชอบบรรยากาศโบราณๆ และความขลังก็จะบอกว่า Inca Trail ดีกว่า ก็นานาจิตตังครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:17:14

ความคิดเห็นที่ 46 ตามจุดแวะพักก็จะมีซุ้มของชาวบ้านแถวๆ นี้มาขายของด้วยครับ น้ำดื่มที่นี่ขายขวดละตั้ง 5 โซลแน่ะ!! ในขณะที่ที่ Cusco ขายเพียงแค่ 1 โซลเท่านั้น!! เรียกได้ว่าโขกราคากันสุดๆ เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:19:22

ความคิดเห็นที่ 47 บางช่วงของเส้นทางในวันนี้ก็น่าหวาดเสียวอย่างที่เห็นนี่ครับ พลาดลงไปนิดเดียวก็ลงไปทักทายท่านยมข้างล่างได้เลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:22:42

ความคิดเห็นที่ 48 หลังจากที่เดินกันมาประมาณ 5-6 ชั่วโมงในวันนี้เราก็มาถึงจุดแวะพักจุดที่สามแล้วครับ ซึ่งจะเป็นทั้งจุดทานอาหารกลางวัน อาหารเย็น และจุดตั้งแคมป์ของวันนี้ครับ ดูเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:24:21

ความคิดเห็นที่ 49 อาหารของเรารสชาติก็ยังดีเช่นเดิม (ไม่นับวันที่สองที่ผมทานอาหารแบบไม่รู้รสชาติอะไรเลยครับ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:25:36

ความคิดเห็นที่ 50 อย่างน้อยวันนี้ผมก็รู้สึกดีขึ้นผิดกับเมื่อวานครับ ไม่รู้ได้ยาดีอะไรช่วยไว้น้อ วันนี้อย่างน้อยผมก็เดินได้เองตลอดระยะทาง 12 กิโลเมตร และทานข้าวได้ตามปกติแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:28:16

ความคิดเห็นที่ 51 และในเย็นวันนั้นเอง หลังจากทานข้าวเย็นกันเสร็จ คุณไกด์ Julio ก็เรียกพวกเรามารวมกัน บอกว่ามีเซอร์ไพรส์จากบริษัท พวกเราก็งงว่ามันอะไรกันแน่ สรุปก็คือนี่ครับ เค้กก้อนใหญ่ชิ้นโตรสชาติเยี่ยม สุดยอดดดดด!!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:31:02

ความคิดเห็นที่ 52 และเซอร์ไพรส์ของเราไม่ได้มีเพียงแค่เค้กครับ แต่ยังมีไวน์ขวดนี้อีกด้วย (18+) ราตรีนี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานและรื่นเริงครับ คืนนี้มีการเปิดผับเล็กๆ กลางป่ากลางเขากันด้วยนะจะบอกให้ แต่ผมไม่มีรูปครับ มีแต่คลิปวิดีโอ หากแฟนๆ ในที่นี่เรียกร้องผมก็จะทำวิดีโอชุดทริปอเมริกาใต้ชุดนี้ในสไตล์รายการโรมมิ่งของคุณเรย์ แมคโดนัลด์มาให้ชมกันอย่างแน่นอนครับ หากอยากชมก็ส่งเสียงบอกกันได้ในกระทู้นี้ครับ รับรองว่าทั้งโหด มันส์ และฮาแน่นอน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:33:56

ความคิดเห็นที่ 53 ในที่สุดคืนวันที่สามก็ผ่านพ้นไป ช่างเป็นคืนที่ผมรู้สึกแตกต่างจากคืนวันที่สองโดยสิ้นเชิง คืนที่สองของผมนับเป็นคืนที่ทรมานที่สุดนับตั้งแต่ผมเดินทางในทริปนี้ ทรมานยิ่งกว่าตอนวันแรกที่ผมเข้ามายังโบลิเวียเสียในรีวิวตอนที่ 5 อีก แต่คืนวันที่สามผมกลับรู้สึกสนุก ร่าเริง และมีความสุขกับชีวิตสุดๆ แบบนี้ผมมีกำลังใจจะสู้ต่อในวันที่สี่เกินร้อยแน่ๆ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:36:54

ความคิดเห็นที่ 54 สำหรับวันที่สี่นี้คุณ Julio บอกว่านับเป็นวันที่ยากรองลงมาจากวันที่สอง เพราะคราวนี้เส้นทางจะตัดผ่านเส้นทางสัญจรดั้งเดิมที่ชาวอินคาเคยใช้ และในบางช่วงก็เป็นบันไดที่สูงชัน เพราะฉะนั้นผมเลยบอกว่าในเส้นทางเดินนี้ยังสามารถได้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับคนที่เดิน Inca Trail ต้นตำรับอีกด้วย ถึงแม้จะไม่ตลอดทั้งเส้นทางก็ตาม และการเดินในวันที่สี่ก็คืออีกหนึ่งข้อแตกต่างระหว่างบริษัทราคาแพงๆ กับบริษัทราคาถูกๆ เช่นกันครับ เพราะบริษัทแพงๆ จะพามาในเส้นทางโบราณนี้ด้วย ในขณะที่บริษัทถูกๆ จะพาเดินตามถนนปกติครับ ไม่ได้ผ่านเส้นทางโบราณเหมือนอย่างที่ผมกำลังจะไปนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:40:57

ความคิดเห็นที่ 55 วันนี้เราจะขึ้นจาก 2000 เมตรจากน้ำทะเลของที่พักในคืนที่สาม ไปยังจุดสูงสุดที่ประมาณ 2400 เมตรจากน้ำทะเลครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:41:57

ความคิดเห็นที่ 56 ไต่ขึ้นไปตามบันไดโบราณไปเรื่อยๆ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:44:12

ความคิดเห็นที่ 57 ดูหน้าตา จขกท. แช่มชื่นดีนะครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:47:12

ความคิดเห็นที่ 58 เนื่องจากความเป็นคนเอเชียตัวเตี้ยๆ ขาสั้นๆ ของผมไม่สามารถก้าวได้ยาวๆ อย่างฝรั่งหรอกครับ ในที่สุดผมก็โดนนำไปซะลิ่วเลย เฮ้อ... โดนทิ้งซะแล้ว หวังว่าในชีวิตจริงผมจะไม่โดนทิ้งแบบวันนี้นะครับ (แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีให้โดนทิ้งกะเขาเลย ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:49:28

ความคิดเห็นที่ 59 เส้นทางตอนนี้ก็สภาพเหมือนปาฝนเขตร้อนดีๆ นี่เองครับ ทั้งร้อน ทั้งชื้น เหมือนอยู่บ้านเราเลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:50:45

ความคิดเห็นที่ 60 และจุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของวันนี้ครับ โบราณสถานโบราณสมัยอินคาแห่งนี้ที่ชื่อ Llactapata จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าที่แห่งนี้มีไว้ทำอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ในวันนี้มันคือจุดพักเหนื่อยของพวกเราหลังจากที่ขึ้นเขามากว่า 400 เมตรตามแนวดิ่งครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:53:05

ความคิดเห็นที่ 61 แต่ที่คาดว่าโบราณสถานแห่งนี้น่าจะมีความสำคัญพอตัว ก็เนื่องจากว่าเราสามารถมองเห็น Machu Picchu จากจุดจุดนี้ได้นั่นเองครับ ซูมสุดๆ จากตรงนี้แล้ว ได้เท่านี้แหละครับ แหะๆ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:55:06

ความคิดเห็นที่ 62 หลังจากนี้ก็นับว่าเป็นอีกสองชั่วโมงสุดท้ายในการเดินของวันนี้ครับ เส้นทางลงในวันนี้นับว่าโหดเอาเรื่อง ใครที่คิดว่าลงเขาสบายกว่าขึ้นเขาผมขอบอกเลยครับว่าผิดถนัด ตลอดเวลาที่ผ่านมานี่ทำให้ผมเกลียดการเดินลงเขาไปเลยก็ว่าได้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:57:23

ความคิดเห็นที่ 63 แต่แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แค่วิวที่ผมได้เห็นก็ทำให้ผมประทับใจลืมเหนื่อยแล้วละครับ เขาที่เห็นตรงกลางรูปนั้นชื่อว่า Huayna Picchu ซึ่งข้างล่างของภูเขานั้นก็คือ Machu Picchu นั่นเอง เห็นได้ชัดเลยครับว่า Machu Picchu นั้นถูกภูเขาสูงๆ ล้อมรอบไว้แทบจะทุกด้าน นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ว่าไม่เคยมีใครหามันเจอเลยแม้กระทั่งชาวสเปนเจ้าอาณานิคมเก่าซึ่งบุกเผาทำลายโบราณสถานอินคาแทบจะทุกที่ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:00:09

ความคิดเห็นที่ 64 พอลงมาถึงตีนเขาแล้วก็เดินกันต่อตามทางตรงครับ อีกไม่นานเราก็จะจบการเดินของวันที่ 4 กันแล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:01:48

ความคิดเห็นที่ 65 น้ำตกนี้ก็ดูยิ่งใหญ่ทรงพลังดีเหมือนกันนะครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:02:39

ความคิดเห็นที่ 66 และแล้วในบ่ายวันนั้นเราก็เดินทางกันมาถึงสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในวันนี้ครับ เราแวะทานข้าวเที่ยงกันตรงนั้นนั่นเอง แต่ก็คงจะเป็นมื้อเที่ยงมื้อสุดท้ายที่น่าเศร้าครับ เพราะว่า.... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:04:13

ความคิดเห็นที่ 67 หลังจากนี้เราก็ต้องบอกลาพ่อครัวของเรากันแล้วนั่นเองครับ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ครับสำหรับอาหารแสนอร่อยตลอดการเดินทาง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:05:01

ความคิดเห็นที่ 68 หลังจากอาหารเที่ยงและการร่ำลานี้แล้ว เราจะเดินทางไปยังเมือง Aguas Calientes ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านสู่ Machu Picchu นั่นเอง ถึงตอนนี้ใจผมเริ่มเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้วครับ ตื่นเต้นมากๆ คุณ Julio บอกด้วยนะครับว่าถ้าอยากเดินไปก็เดินได้นะ โอยยย ไม่เอาแล้วคร้าบบบบ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว!!! ส่วนนี่คือรถไฟ Perurail ครับ หากเราไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถไฟจากตรงนี้ไปยัง Aguas Calientes ได้ครับ และราคาค่าตั๋วรถไฟก็ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์นี้แล้วด้วย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:07:42

ความคิดเห็นที่ 69 ท่านผู้ชมเห็น Machu Picchu ในรูปนี้กันไหมเอ่ย? จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:08:42

ความคิดเห็นที่ 70 ในที่สุดเราก็มาถึง Aguas Calientes โดยสวัสดิภาพ!! หลังจากนี้นับเป็นเวลาตามอัธยาศัยของแต่ละคนแล้ว แต่คุณ Julio บอกว่าพวกเรายังไม่จากกันแต่เพียงเท่านี้ เพราะเย็นนี้เรายังได้ทานข้าวเย็นด้วยกันอยู่นั่นเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:10:25

ความคิดเห็นที่ 71 มาถึงแล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมที่ทางบริษัทจองเอาไว้ให้ในคืนนี้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:11:40

ความคิดเห็นที่ 72 พอได้เวลาเราก็มาพบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารที่ได้นัดกันไว้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:12:53

ความคิดเห็นที่ 73 เริ่มมื้อเย็นกันด้วยจานเรียกน้ำย่อยก่อนเลยดีกว่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:13:44

ความคิดเห็นที่ 74 และจานหลักของเราครับ ที่สำคัญคือมื้อนี้ฟรี!! อภินันทนาการจากบริษัททัวร์ของเราครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:14:43

ความคิดเห็นที่ 75 นอกจากอาหารมือนี้แล้วยังมีของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ จากทางบริษัททัวร์มอบให้อีกด้วยครับ นั่นก็คือเสื้อนั่นเอง ตอนแรกผมก็ไม่คิดนะครับว่าจะได้ด้วย ว่าจะหาซื้อไว้อยู่เหมือนกัน แต่เขาให้มาฟรีๆ แบบนี้ก็เอาสิครับ นี่ด้านหน้าเสื้อครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:21:10

ความคิดเห็นที่ 76 ส่วนด้านหลังก็เป็นลายแผนที่ Salkantay Trek ซะด้วย เก๋ไก๋ซะไม่มีเลยทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:22:11

ความคิดเห็นที่ 77 พอพวกเราทานมื้อเย็นกันเสร็จแล้ว คุณ Julio ก็ทำการนัดแนะถึงสิ่งที่ต้องเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้คือวันที่ผมรอคอยมานานแสนนาน และพวกเราจะได้เห็น Machu Picchu กันเต็มสองลูกตาจริงๆ เสียทีครับ ในเวลาตีสี่สี่สิบของวันที่ 29 กรกฎาคม ทางโรงแรมก็มาเตรียมอาหารเช้าให้กับคณะพวกเราโดยเฉพาะครับ นี่เขาต้องมาลำบากตื่นตีสี่มาเตรียมอาหารให้เพราะพวกเราจริงๆ เหรอเนี่ย.... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:25:31

ความคิดเห็นที่ 78 นับได้ว่าเป็นอาหารเช้าที่ต้องทานกับแบบรีบๆ ครับ เพราะเราต้องออกไปที่กลางเมืองเพื่อรอขึ้นรถบัสไปยัง Machu Picchu นั่นเอง สำหรับค่ารถบัสนั้นรวมอยู่ในค่าทัวร์เฉพาะขาขึ้นครับ ส่วนขาลงก็ซื้อเอาเอง เราออกมารอกันที่นี่ตั้งแต่ตีห้าครับ เพราะรถบัสเที่ยวแรกออกตอนตีห้าครึ่ง นี่ขนาดมารอกันเช้ามากๆ แล้วนะเนี่ยแต่แถวก็ยังยาวเลย วันนี้นับได้ว่าเป็นวันที่ permit ขายหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:28:52

ความคิดเห็นที่ 79 พอขึ้นมาถึงข้างบนก็พบว่ามีคนออกมาพร้อมๆ เราก่อนแล้ว 3-4 คันรถครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:30:26

ความคิดเห็นที่ 80 และในตอนนั้นเอง แสงอรุณแรกแห่ง Machu Picchu ก็มาเยือน และเช้าวันใหม่ของผม ณ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น!!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:31:48

ความคิดเห็นที่ 81 เป็นเช้าที่มาพร้อมกับม่านเมฆและม่านหมอก ดูลี้ลับน่าค้นหาดีนะครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:32:47

ความคิดเห็นที่ 82 พอผ่านประตูเข้าไปเท่านั้นแหละครับ ภาพแรกที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้ามันสะกดผมให้นิ่งงัน ตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่และความเฉลียวฉลาดของชาวอินคาในสมัยนั้นที่สามารถสร้างเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาได้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:35:06

ความคิดเห็นที่ 83 Machu Picchu ในม่านหมอกเองก็ช่างดูพิศวง น่าค้นหา ดูมีเสน่ห์ดีไปอีกแบบเหมือนกันแฮะ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:36:31

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่เคยคิดเคยฝันจริงๆ ครับว่าในชีวิตนี้ผมจะเคยได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ซักครั้ง!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:38:01

ความคิดเห็นที่ 85 ให้ผมลั่นขัตเตอร์ซักพันครั้งตรงนี้ผมก็เอาครับ!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:39:11

ความคิดเห็นที่ 86 มองลอดผ่านหน้าต่างเข้าไปก็เห็นแต่ไอหมอก จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:40:29

ความคิดเห็นที่ 87 สมแล้วครับกับความเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก!! ใครจะรู้ว่าบนภูเขาชันๆ แบบนี้จะสามารถสร้างเมืองที่สลับซับซ้อนและสวยงามแบบนี้ได้!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:42:28

ความคิดเห็นที่ 88 ในขณะที่พระอาทิตย์ก็สาดแสงอ่อนๆ ในม่านหมอก ชวนให้รู้สึกคล้ายอยู่บนสรวงสวรรค์ยิ่งนัก จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:44:07