ความคิดเห็นที่ 1 การเดินทางไปเวียงจันทร์ไม่ยากครับ ขอแค่มีพาสปอร์ตหนึ่งเล่นแล้วเดินไปที่ด่านเลย จะเรียกแท๊กซี่ไปที่ด่านก็ได้ครับ ของผมเรียกจากโรงแรมไป ๑๒๐ บาทครับ ไม่มีความจำเป็นที่จะไปซื้อทัวร์ที่ฝั่งไทยเลยครับ ไม่คุ้ม และไม่ต้องนั่งรถทัวร์ข้ามจากฝั่งไทยก็ได้ครับ มีพาสปอร์ตแล้วเดินผ่านด่านไปได้เลยครับ ด่านนี้แหล่ะครับ รถเยอะมากส่วนใหญ่เป็นรถลาวมาซื้อของฝั่งไทย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 23:30:03

ความคิดเห็นที่ 2 พอผ่านด่านมาก็มาขึ้นรถตรงนี้ไปลงที่ด่านเข้าเมืองเวียงจันทร์ได้เลยครับ สำหรับคนที่ไม่มีพาสปอร์ต ก็ขอทำใบผ่านแดนได้นะครับ ค่าธรรมเนียมเท่าไรไม่รู้ แต่ร้านที่รับฝากรถฝั่งหนองคายเขาทำให้เลยครับ หรือไม่ก็เข้าไปทำออนไลน์ได้ครับ แต่ใบผ่านแดนทำให้เที่ยวได้เฉพาะที่นครเวียงจันทร์เท่านั้นนะครับ ออกนอกเขตไม่ได้ครับ ถ้าอยากออกนอกเขตต้องมีพาสปอร์ตเท่านั้นครับ อย่างจะไปวังเวียงนี่เรียกว่าออกนอกเขตครับ ค่าโดยสาร ๒๐ บาทครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 00:26:30

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้กำลังนั่งรถข้ามแม่น้ำโขงหรือแม่น้ำของครับ น้ำแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำธรรมชาติต้นกำเนิดที่ยูนนานเรียกว่าแม่น้ำหลันคัง หรือล้านช้างครับ เนื่องจากสะสมความอุดมสมบูรณ์มาโดยตลอดแม่น้ำเลยขุ่นคั่กเลย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 00:43:21

ความคิดเห็นที่ 4 และแล้วก้อมาถึงด่านเวียงจันทร์ เห็นคนที่ใช้ใบผ่านแดนวิ่งกันให้ควั่กเลย ถึงได้รู้ว่าเวลาได้ใบผ่านแดนมาต้องถ่ายเอกสารเพิ่มอีกสักสองสามใบนะครับ เพราะบางทีเจ้าหน้าที่ลาวเค้าก็ไม่คืนซะงั้น ถ้าไม่คืนแล้วจะกลับบ้านอย่างไรล่ะ แต่ถ้าใช้พาสปอร์ตก็แสตมป์เข้าประเทศได้ตามปกติครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:25:53

ความคิดเห็นที่ 5 คนไทยบางกลุ่มข้ามมาก้อไม่ได้มาเที่ยวหรอกครับ แต่มาช๊อปปิ้งที่นี่มากกว่า แต่ผมไม่ได้เข้าไปนะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:28:49

ความคิดเห็นที่ 6 ข้ามมาก้อเจอบิลบอร์ดอย่างนี้เลยครับ "เป๊ะ" พอคุ้นๆ สักพักก็สามารถอ่านภาษาลาวพอได้ อย่าง สิวยุบโตอย่างเร็ว (แต่ตกลงจะยุบหรือโตเนี่ย) และโดยแพทย์ผู้ชำนาญจากประเทศไทย ไม่รับรองนะครับว่าภาษาลาวของผมจะแม่นเด้ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:33:33

ความคิดเห็นที่ 7 ถนนที่เวียงจันทร์ยังไม่ดีเท่าไร แต่ก็พอๆ กับหัวเมืองใหญ่ของประเทศไทยครับ แต่จะเห็นการก่อสร้างไปทั่วเลยครับ คิดว่าอีกไม่นานจะเจริญอย่าวรวดเร็วครับ ก้อลาวมี 4G แล้วนี่นา จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:37:06

ความคิดเห็นที่ 8 มาถึงป้ายแรกแล้วครับ วัดเจดีย์หลวงครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:41:50

ความคิดเห็นที่ 9 ขอโทษครับจริงๆ คือวัดพระธาตุหลวงครับ ที่เห็นอยู่คือพระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นพระธาตุที่มีประวัติควบคู่มากับพระธาตุพนมตามตำนานอุรังคนิทาน โดยพระธาตุหลวงสร้างขึ้นพร้อมกับนครเวียงจันทร์ ภายหลังที่ได้ก่อสร้างพระธาตุพนม ผู้สร้างคือพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์กษัตริย์ผู้ครองเวียงจันทร์พระองค์แรกครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 01:53:59

ความคิดเห็นที่ 10 พระธาตุหลวงเป็นท่ี่ประดิษฐสถานของพระอุรังคธาตุหรือกระดูส่วนหน้าอกด้วยครับ พระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ เพราะมีการสร้างระเบียงล้อมรอบองค์พระธาตุไว้ และรอบๆ เจดียืใหญ่มีเจดีย์บริวารด้วยครับ พระธาตุหลวงเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนลาวเหมือนวัดพระแก้วของไทยเลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:06:45

ความคิดเห็นที่ 11 คำสวดมนต์นมัสการองค์พระธาตุหลวงครับ น่าจะอ่านกันได้นะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:10:01

ความคิดเห็นที่ 12 ไปเดินโดยรอบองค์พระธาตุเอาบุญบารมีกันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:15:46

ความคิดเห็นที่ 13 พระธาตุหลวงผมไม่แน่ใจว่าจะให้ใครเข้าไปพระธาตุด้านในได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:23:27

ความคิดเห็นที่ 14 ด้านหลังวัดออกประตูนี้ไปจะเจออนุสาวรีย์ของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:36:20

ความคิดเห็นที่ 15 อาคารนี้ไม่รู้ว่าคือที่ไหนเหมือนกันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:44:02

ความคิดเห็นที่ 16 นมัสการองค์พระธาตุแล้วเดี๋ยวเดินทางไปที่อื่นต่อครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:53:38

ความคิดเห็นที่ 17 พาหนะที่พาไปเที่ยวเวียงจันทร์ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 02:57:01

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อมูลเป้ะ มาก จากคุณ : pattythailand เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 09:30:20

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับคุณ pattythailand ที่ต่อไปเป็นประตูชัยครับ ตั้งอยู่ข้าง "ห้องทำงานลัดทะบาน" หรือ ทำเนียบรัฐบาลเลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 14:15:52

ความคิดเห็นที่ 20 ถึงแล้วครับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเวียงจันทร์ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 14:53:24

ความคิดเห็นที่ 21 ประตูชัยที่เวียงจันทร์สร้างขึ้นโดยได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยที่ปารีสหรือ อาร์คเดอทรียอม (แต่ผมว่าเล็กกว่านะ แล้วที่ปารีสสวยกว่าด้วย) แต่คงไว้ซึ่งศิลปกรรมแบบลาวครับ ตั้งอยู่บนถนนล้านช้างสร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๒ (แก่กว่าผมเยอะ) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในสงครามกลางเมืองกับการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งสมัยที่สร้างนั้นลาวเป็นพันธมิตรกับอเมริกามีพระมหากษัตริย์เรียกว่าเจ้ามหาชีวิตเป็นประมุขครับ ต่อมาเมื่ออเมริกาแพ้สงครามเวียดนาม ก็เลยเอาปูนซีเมนต์ที่อเมริกาจะสร้างสนามบินเวียงจันทร์มาสร้างประตูชัยแทน แต่สุดท้ายลาวก็กลายเป็นคอมมิวนิสต์ในที่สุดเมื่อปี ๒๕๑๘ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:32:52

ความคิดเห็นที่ 22 ผนังจะแกะสลักเร่าเรื่องรากเกียรติ์แบบปูนปั้นตามซุ้มประตูต่างๆ ครับ สามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเวียงจันทร์ด้วยก็ได้ครับ เดี๋ยวขึ้นไปดูกัน จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:40:56

ความคิดเห็นที่ 23 วิวด้านบนจะเห็นข้างๆ ที่เป็นทำเนียบรัฐบาลด้วยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:42:58

ความคิดเห็นที่ 24 ตัวเมืองเวียงจันทร์จากด้านบนของประตูชัยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:45:12

ความคิดเห็นที่ 25 อีกด้านนึงครับ ให้เห็นบรรยากาศการเจริญเติบโตของเวียงจันทร์ที่ยังไม่มีตึกสูงเท่าไร ซึ่งทำให้เมืองนี้น่าอยู่ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:48:01

ความคิดเห็นที่ 26 ไปเที่ยวที่อื่นกันต่อครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:50:27

ความคิดเห็นที่ 27 การลงทุนของต่างชาติมากขึ้นเป็นลำดับครับ นอกจากไทย แล้วยังมีออสเตรเลีย จีน มาเลย์และสิงคโปร์ ทะนาคานเอเอ็นแซด (ลาว) จำกัด ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 55 15:53:35 จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:53:14

ความคิดเห็นที่ 28 รูปผิดครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 15:54:33

ความคิดเห็นที่ 29 สถานที่ต่อไปคือ "หอพระแก้ว" ศาสนสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างล้านนา ล้านช้าง และกรุงเทพครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 16:22:34

ความคิดเห็นที่ 30 หอพระแก้วคือสถานที่ที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณรัตนปฏิมากร องค์ที่ประดิษฐานที่วัดพระแก้วของเราไงครับ หากบอกว่าพระแก้วเคยเป็นของประเทศใดมาก่อน อาจจะมีสงครามย่อมๆ กันเลยก็ได้ เอาเป็นว่าพระแก้วเป็นมรดกของโลกแล้วกันนะครับ พระแก้วเองเดิมท่านก็ไม่ได้อยู่ที่เวียงจันทร์ซะด้วยสิ แต่เดิมเป็นของเชียงแสนไทใหญ่ ประวัติที่สืบค้นได้คือพระองค์ประดิษฐานอยู่ที่วัดป่าญะ เชียงรายก่อน (วัดพระแก้วเชียงราย) ในปี ๑๙๗๗ ต่อมาพระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งราชวงศ์เม็งราย ผู้ครองล้านนา ได้อัญเชิญมาไว้ที่เชียงใหม่ แต่ตำนานกล่าวว่าช้างทรงพระแก้วกลับไปทางเมืองลำปางแทน จึงได้อัญเชิญองค์ท่านไว้ที่ลำปางเลย ที่วัดพระแก้วดอนเต้า (ไปมาแล้วครับ เป็นวัดที่สวยมาก) ก่อนที่ต่อมาในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งเชียงใหม่ จึงได้อัญเชิญกลับมาไว้ที่เชียงใหม่ จนกระทั่งเชียงใหม่ขาดผู้ปกครอง สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มหาราชแห่งเวียงจันทร์ซึ่งมีสายเลือดครึ่งหนึ่งเป็นชาวล้านนาด้วยนั้น จึงได้ครองเชียงใหม่ด้วย เมื่อเสด็จกลับหลวงพระบางก็เลยอัญเชิญพระแก้วไว้ที่ลาวด้วย เมื่อพระองค์สร้างเมืองหลวงใหม่ที่เวียงจันทร์ก็เลยย้ายพระแก้วท่านมาด้วย พระแก้วท่านอยู่ที่ลาวมาสองร้อยกว่าปี ก็เกิดสงครามครั้งแรกระหว่างสยามกับลาว (ซึ่งแต่เดิมสยามกับลาวเป็นพันธมิตรกันมาโดยตลอด) ปรากฎว่าทางลาวแพ้สงครามในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินจึงอัญเชิญพระแก้วพระบางมาไว้ที่กรุงธนบุรีที่วัดอรุณฯ ครับ ต่อมาเพื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ แห่งรัตนโกสินทร์ ก็ได้อัญเชิญพระแก้วมาไว้ที่วัดพระแก้วจนถึงปัจจุบัน ส่วนพระบางได้พระราชทานคืนให้แก่ลาวไปครับ ดังนั้นประวัติพระแก้วจึงอยู่ที่ล้านนา ล้านช้าง และกรุงเทพ มาอย่างน้อยแต่ละที่ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ปีพอๆ กันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 16:39:42

ความคิดเห็นที่ 31 ใครเข้าห้องประวัติศาสตร์จะเจอบ่อยครั้งที่คนไทยด้วยกันเองเหน็บแนมว่าไทยไปขโมยพระแก้วมาจากลาว ทั้งที่คนลาวเองเข้าใจประวัติศาสตร์นี้ดี และเป็นเรื่องปกติท่ี่ภาวะสงครามจะมีการเคลื่อนย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิจากที่นึงไปที่นึง ในเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของอีกฝ่ายหนึ่ง (แต่ของไทยไปเอามาเยอะหน่อยทั้งพระแก้ว พระบาง และพระสามพี่น้อง ซึ่งผมจะเล่าต่อไปครับ) และคนลาวเองก็รู้ว่าพระแก้วเดิมก็ไม่ใช่ของลาว ในป้ายบรรยายก็บอกว่าไปประดิษฐานที่ต่างประเทศ แต่ไม่บอกว่าประเทศไทย เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างกัน หากถกเถียงกันก็คงต้องบอกว่าพระแก้วเป็นของชาวโลกทุกคน เพราะตำนานบอกว่าพระแก้วสร้างที่อินเดีย แถมฝรั่งกรีกสร้างเสียอีก ก็คือเมนันเดอร์ ขุนศึกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ต่อมาได้ครองอินเดียขึ้นเป็นพระเจ้ามิลินท์ (คนเดียวกับในนิทานเวตาลล่ะครับ) และเป็นพระองค์แรกที่ประดิษฐพระพุทธรูปขึ้นมา (เดิมชาวพุทธกราบไหว้พระธรรมจักร) ต่อมาในปี ๑๐๐๐ องค์พระแก้วได้รับการอัญเชิญให้ไปอยู่ที่เมืองศรีเกษตร หรือพวกปยู (ธิเบต) ในพม่า แต่พายุได้พัดเรือพระที่นังไปอยู่ที่เมืองอิทนปัตถ์ (เมืองนึงริมอ่าวไทย ซึ่งผมก็งงๆ ว่าจากอินเดียไปพม่าสั้นจะตาย ไหงข้ามคาบสมุทรมลายูมาแถวอ่าวไทยได้) ที่คาดว่าเป็นเมืองโบราณในกัมพูชา ไม่นานนักเจ้าเมืองอโยธายา (ไม่ใช่อยุธยานะครับ) ก็มาอัญเชิญพระแก้วไปไว้ที่เมืองอโยธยา และเมืองกำแพงเพชร (ที่วัดพระแก้วกำแพงเพชรในปัจจุบัน) และจึงได้สู่เชียงแสนล้านนานตามลำดับครับ ป้ายที่บอกถึงประวัติพระแก้วที่อยู่ที่ลาวครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 16:52:43

ความคิดเห็นที่ 32 หอพระแก้วเดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ครับ แต่ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่หมดในช่วงปี ๒๔๘๐ โดยเจ้าสุวรรณภูมานายกรัฐมนตรีคนแรกของลาวภายหลังที่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ปัจจุบันใช้เป็นพิพิทธภัณฑ์สถานไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 55 16:58:56 จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 16:58:34

ความคิดเห็นที่ 33 รูปผิดอีกแล้ว จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 16:59:52

ความคิดเห็นที่ 34 หอพระแก้วปัจจุบันภายในใช้เป็นที่แสดงศิลปโบราณวัตถุต่างๆ ของลาวครับ ด้านในห้ามถ่ายรูปครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:04:22

ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อด้านในห้ามถ่ายรูป ก็ไปดูศิลปกันรอบๆ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:08:26

ความคิดเห็นที่ 36 เวียงจันทร์เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ค่อยมีที่เที่ยวเท่าไรครับ บรรยากาศเหมือนอยู่ฝั่งหนองคายเด๊ะ เดี๋ยวพาไปอีกที่หนึ่งก็หมดแล้วครับ เที่ยวสักครึ่งวันกำลังโอเลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:12:03

ความคิดเห็นที่ 37 ศิลปแถบนี้จะได้รับอิทธิพลมาจากฮินดูกับทั้งหมดเลย เว้นแต่เวียดนามโน่นจีนหราอยู่คนเดียว จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:20:47

ความคิดเห็นที่ 38 จากหอพระแก้ว เดี๋ยวข้ามถนนไปตรงข้ามไปดูวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเวียงจันทร์กันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:25:19

ความคิดเห็นที่ 39 อ้อลืมเล่าไปอีกเรื่องครับ เวลาใครมาที่หอพระแก้วจะเห็นรูปปั้นชายหญิงคู่หนึ่ง หลายคนคิดว่าปั้นไว้แสดงเป็นพุทธบูชา เลยไม่ให้ความสำคัญอะไร (เหมือนผมไง ต้องมาค้นประวัติที่หลังถึงรู้ เลยขอยืมรูปจากเว็บเนชั่นมานะครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่ด้วย) แต่จริงๆ แล้วทั้งสองท่านไม่ได้ไหว้พระพุทธหรอกครัับ เดิมรูปปั้นนี้ถูกสร้างในสมัยอาณานิคมครับ เป็นรูปปั้นชายหญิงลาวยกไหว้ฝรั่งตัวชั่วชื่อนายปาวี หรือ Jean Marie August Pavie ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกงศุลฝรั่งเศสประจำกรุงเทพฯ ในสมัย ร.๕ ครับ คนผู้นี้แหล่ะครับที่ยึดดินแดนลาวทั้งหมดไปจากไทย แล้วสถาปนาตัวเองเป็น Commissioner-General ผู้ปกครองลาวใหม่ เอาไปจากไทยคงไม่เท่าไร เพราะคนลาวคงรู้สึกว่าได้เอกราชจากไทยแล้ว แต่นายคนนี้ถือตัวสำคัญว่ามีบุญคุณต่อลาว ก็เลยสร้างรูปปั้นตัวเองแล้วให้ชาวลาวกราบไหว้ครับ จนลาวได้รับเอกราชโน่นแหล่ะถึงได้แยกชิ้นส่วนเอารูปนายปาวี ไปท้ิงแม่น้ำโขง จนสถานทูตฝรั่งเศสต้องกู้มาไว้ที่สนามหญ้าที่สถานทูตที่เวียงจันทร์ ส่วนรูปชายหญิงเลยนำมาไว้ที่หอพระแก้วนี้ครับ ขอบคุณรูปภาพจากคุณ moth ด้วยครับ ผมได้มาในกู๋เกิน นึกเขกหัวตัวเองที่น่าจะอ่านประวัติให้ครบก่อนจะได้ไม่พลาด จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:34:25

ความคิดเห็นที่ 40 รูปเดิมแบบนี้ครับ ขอบคุณคุณ Elizarah จากห้องประวัติศาสตร์ด้วยครับ ข้อมูลเจ๋งๆ นี้ไม่ต้องหากันไกลเลยครับในพันทิปเนี่ยแหล่ะ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:42:21

ความคิดเห็นที่ 41 ถึงแล่้วครับ วัดสีสะเกด วัดที่เก่าแก่ที่สุดของเวียงจันทร์ไปแล้ว จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 17:46:29

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีค่ะ ไม่ได้มาเยี่ยมรีวิวคุณ Aeykun นานมากแล้ว เห็นแล้วอยากไปลาวอีก อากาศช่วงนี้น่าจะดีมากๆ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 20:53:29

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีเหมือนกันครับคุณ Bpearl ไม่ได้เจอกันนานเหมือนกันเลยครับ ปีนี้ผมไม่ได้ไปไหนไกลเลยครับ ถ้านับก็ลาวนี่แหล่ะเป็นต่างประเทศเดียวที่ไป ส่วนใหญ่จะใช้วัดหยุดสั้นๆ เที่ยวในประเทศมากกว่าครับ เพราะติดงานรัดตัวทั้งปี ไม่สามารถลาช่วงยาวๆ ได้ ปีหน้ากำลังดูแพลนครับ มีไปฮ่องกงช่วงสั้นตอนปีใหม่ แต่คงไม่รีวิวล่ะครับ เพราะคนไทยคงไปเยอะแล้วผมไปทุกปีติดกันมาสามปีแล้ว แต่อาจจะโพสรูปไฟคริสมาสปีใหม่ที่นั่นล่ะครับ ปีหน้าถ้าไม่มี audit เข้าอย่างที่ได้ยินมาอาจจะไปญี่ปุ่นหรือทางไอบีเรียบ้างครับ แล้วจะอัปรูปรีวิวนะครับถ้าไป ยินดีที่ได้เจอเพื่อนเก่าแก่เลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 21:33:39

ความคิดเห็นที่ 44 วัดสีสะเกดเป็นวันที่สร้างขึ้นแห่งแรกในเวียงจันทร์ครับ และเป็นวัดเดียวที่แทบจะคงความสมบูรณ์ที่สุดไว้ เดิมในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช วัดนี้ยังมีชื่อเล่นว่าวัดแสนเนื่องจากมีพระพุทธรูปอยู่เป็นแสนๆ องค์ปัจจุบันคงเหลือไม่เท่านั้นแล้วครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 21:42:25

ความคิดเห็นที่ 45 วัดแห่งนี้รอดจากการถูกทำลายมาหลายครั้งมากครับ เมื่อครั้งสงครามครั้งแรกระหว่างสยามกับเวียงจันทร์สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ท้ายสุดแล้วทางกรุงเทพได้บูรณะวัดนี้เพื่ออุทิศส่วนกุศลใหักับทหารไทยและลาวที่เสียไปในสงคราม แต่นี้เป็นข้อมูลจากเว็บไทยซึ่งให้ไทยเป็นพระเอกไงครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 21:59:29

ความคิดเห็นที่ 46 ในเว็บของลาวบอกว่าวัดสีสะเกดได้รับการบูรณะอีกครั้งจริงๆ สมัยเจ้าอนุวงศ์หรือสมเด็จพระเศรษฐาธิราช มหาราขของลาวแต่กบฐของสยาม ตรงกับช่วงรัชกาลที่ ๓ ครับ ด้วยความที่พระองค์ในวัยเยาว์เติบโตที่กรุงเทพ วัดสีสะเกดจึงสร้างขึ้นมาโดบแบบสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบกรุงเทพมากกว่าจะเป็นแบบลาวแท้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้ตอนที่กรุงเทพยกทัพปราบลาวต่อมานั้น วัดสีสะเกดเป้นวัดเดียวที่ไม่ถูกทำลายและยังเป็นที่มั่นของกองทัพสยามอีกด้วย ในขณะที่ที่อื่นๆ ในเวียงจันทร์ราพาณสูรจนกลายเป็นเมืองร้างไปเลย กว่าเวียงจันทร์จะฟื้นฟูได้อีกครั้งก็ตอนที่สยามแบ่งลาวออกเป็น ๓ ประเทศนั้นเองครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:08:00

ความคิดเห็นที่ 47 นาคาครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:12:13

ความคิดเห็นที่ 48 สถาปัตยกรรมที่เมืองกรุงเทพก็คือการสร้างระเบียงแบบนี้ไว้ล้อมวัดนี่แหล่ะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:15:40

ความคิดเห็นที่ 49 จากวัดสีสะเกดไปเป้าหมายต่อไปเลยครับ เป้าหมายสุดท้ายที่นี่แล้ว จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:18:42

ความคิดเห็นที่ 50 น่าไปเที่ยวจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : bombik เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:23:20

ความคิดเห็นที่ 51 หอคำ หรือปราสาททอง หอคำเหมือนกันทั้งล้านนา ล้านช้าง คือเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกันครับที่นี่เคยเป็นที่ประท้ับของเจ้ามหาชีวิตลาว จนกระทั่งกษัตริย์องค์สุดท้ายของลาวครับ ก่อนประเทศจะเปลี่ยนแปลงการปกครองไป ปัจจุบันใข้เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมืองแทน จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:23:31

ความคิดเห็นที่ 52 ที่สุดท้ายแล้วครับวัดสีเมือง (ศรีเมือง) เห็นแม่หยิงลาวทุกท่านใส่ผ้าซิ่นกันทุกคนน่ารักครับ แม้แต่เด็กนักเรียนก็ใส่ผ้าซิ่นกันดูดีน่ารักมากครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:30:03

ความคิดเห็นที่ 53 วัดสีเมืองเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองครับ สร้างขึ้นในปี 2106 สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเหมือนกัน วัดถูกทำลายไปโดยกองทัพสยามในปี 2371 ที่เห็นปัจจุบันคือสร้างขึั้นมาใหม่ในปี 2458 ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:35:56

ความคิดเห็นที่ 54 นกหัสดีลิงค์ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:39:13

ความคิดเห็นที่ 55 หลักเมืองเวียงจันทร์ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:43:37

ความคิดเห็นที่ 56 ด้านในวัดครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:48:23

ความคิดเห็นที่ 57 มืิอสั่นไปนิดครับ ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณ ศักดิ์สิทธิมากคร้บ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:51:59

ความคิดเห็นที่ 58 ภายในวัดอีกครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:54:43

ความคิดเห็นที่ 59 กราบลาวัดสีเมือง กลับไปเที่ยวหนองคายกันต่อครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 22:59:47

ความคิดเห็นที่ 60 เวียงจันทร์กำลังเติบโตขึ้นทุกขณะ ผมอยากให้ดูบทเรียนการพัฒนาของกรุงเทพและฮานอยไว้ดีๆ ครับ จะได้ไม่เอาแบบอย่าง แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 55 23:02:38 จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:02:20

ความคิดเห็นที่ 61 ดึกแล้วเริ่มเบลออ่ะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:03:45

ความคิดเห็นที่ 62 วงเวียนน้ำพุ ย่านชิกที่สุดของเวียงจันทร์ครับ แต่ผมไมได้ไปเดินเล่นแถวนี้หรอกครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:06:42

ความคิดเห็นที่ 63 มาปิดทริปกันที่หนองคายครับ ไปเที่ยววัดโพธิ์ชัยกัน วัดนี้ไม่เพียงแต่เป็นวัดประจำจังหวัดหนองคาย ยังมีประวัติที่สัมพันธ์กับเวียงจันทร์ด้วยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:21:47

ความคิดเห็นที่ 64 วัดโพธิ์ชัยเดิมชื่อวัดผีผิวว่ากันว่าผีดุครับ (ผมไปอีกทีตอนกลางคืนก็รู้สึกน่ากลัวจริงๆ นะ) มาเปลี่ยนชื่อในสมัยต้นรัตนโกสินทร์นี้ครับ มีความสำคัญเพราะเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส ซึ่งตำนานกล่าวถือพระพี่น้องสามองค์ด้วยกันคือ พระใส พระสุก พระเสริม โดยพระท้ั้งสามองค์นั้นสร้างโดยพระราชธิดาของพระเจ้าไชยเซษฐาธิราชแห่งล้านช้างเวียงจันทร์ครับ ชื่อขององค์พระว่ากันว่ามาจากพระธิดาทั้งสามเหมือนกันครับ พระพุทธรูปทั้งสามองค์เป็นอันต้องเสด็จจากเวียงจันทร์มาฝั่งสยามก็คราวสงครามไทยลาวครั้งที่สองในสมัยพระเจ้าอนุวงศ์นั้นแหล่ะครับ หลังจากที่สยามเผาเวียงจันทร์จนราบคาบแล้วก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสามมาที่กรุงเทพด้วย โดยล่องมาตามแม่น้ำงึมและเมื่อมาถึงปากน้ำที่ไหลลงแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับอำเภอโพนพิสัย หนองคาย เกิดฝนฟ้าคะนองแพที่อัญเชิญพระสุกเกิดล่ม ทำให้พระสุกจมน้ำหายไปครับ บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" มีความพยายามที่จะกู้พระสุกขึ้นหลายครั้งแต่จนถึงปัจจุบันก็ยังทำไม่ได้ครับ เวินสุกนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ชมบั้งไฟพญานาคด้วยครับ แต่ปัจจุบันราชการดันเรียกว่า "เวินพระศุกร์" ไปเสีย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:36:39

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนพระใสกับพระเสริมนั้น สามารถอัญเชิญมาไว้ที่หนองคายได้โดยพระเสริมเองนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยเนี่ยแหล่ะครับ ส่วนพระใสอยู่วัดหอก่องในปัจจุบัน จนจวบสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงอัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสองมาไว้ที่กรุงเทพ แต่ไม่สามารถอัญเชิญพระใสได้เพราะเกวียนหักลงทุกครั้งที่หน้าวัดโพธิ์ชัยเนี่ยแหล่ะครับ เลยต้องอัญเชิญพระใสมาที่วัดนี้แทน ส่วนพระเสริมสามารถอัญเชิญไปที่กรุงเทพได้ โดยประดิษฐานพระเสริมอยู่ที่วัดปทุมวนารามข้างพารากอนนี้เองครับ วัดปทุมวนารามเลยเป็นวัดที่นิยมของชาวลาวในกรุงเทพไปด้วยเลย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:42:43

ความคิดเห็นที่ 66 ภายในพระอุโบสถครับ มีจารึกตำนานเรื่องที่ผมว่าด้วยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:46:44

ความคิดเห็นที่ 67 รูปจำลองหลวงพ่อพี่น้องทั้งสามองค์ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:51:37

ความคิดเห็นที่ 68 วัดโพธิ์ชัยหรือวัดพระใสจึงเป็นวัดศูนย์กลางแห่งศรัทราทั้งของชาวหนองคายและเวียงจันทร์ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:54:39

ความคิดเห็นที่ 69 อ้อด้านหน้าอุโบสถยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุโบราณที่ว่ากันว่าเก่าแก่ทั้งพระธาตุพนมและพระธาตุหลวงด้วยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:56:57

ความคิดเห็นที่ 70 ประวัติพระธาตุองค์นี้ไม่แน่ชัด ป้ายประวัติบอกว่าสร้างตั้งแต่สมัยพุทธกาลโน้นเลยล่ะครับ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ำนานท้องถิ่นบอกว่าเป็นพระธาตุปิดถ้ำพญานาคครับ เพราะใต้พระธาตุจะเป็นหลุมเชื่อมไปยังน้ำโขง ซึ่งใช้เป็นที่ขึ้นลงของพญานาคราชครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:06:12

ความคิดเห็นที่ 71 และแล้วการเดินทางก็สิ้นสุดลงที่หนองคายเนี่ยละครับ วันรุ่งขึ้นผมขับรถยาวเข้ากรุงเทพเลยครับ รู้สึกว่าจะกลับเอาวันที่ ๒๓ ตุลาคมครับ ซึ่งไม่อยากกลับถนนมิตรภาพเพราะกลัวรถติดก้อเลยกางอากู๋แมพไปในเส้นทางที่ประหลาดนิดหน่อยครับ แต่ขอบอกว่าทางสวยมากและรถไม่ติดเลยครับ โดยเริ่มจากหนองคายไปอุดรธานีครับ แต่แทนที่จะลงไปขอนแก่น ผมเลี้ยวไปทางหนองบัวลำภูซึ่งเป็นทางขึ้นลงเขา แต่ไม่ชันมาก และทางก็สวยมาก มีพิพิทธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่หนองบัวลำภูด้วย จากนั้นใช้เส้น ๒๒๘ วิ่งไปชุมแพครับ ผ่านชุมชนเล็กๆ ทางสวยขึ้นเขาลงเขา เห็นภูเขาโดดๆ อยูาสองข้างทางเช่นภูเวียง แล้วก้อผ่านอำเภอเล็กสักสองสามอำเภอครับ พอดีเป็นวันหยุดคนต่างจังหวัดไม่ค่อยออกนอกบ้านมั่ง รถก้อน้อยหน่อยครับ ขับได้สบาบๆ ชิวๆ สวยๆ ทางดีตลอดคร้ับ ดีกว่ากรุงเทพสิบเท่าเลยเอา จนกระทั่งโน้นนะครับถึงชุมแพ มีการทำทางค่อนข้างยาวมาก และในที่สุดด้วยความอยากไปเส้นทางใหม่ของผม รถใหม่โดนหินดีดมาเป็นแผลที่สองและที่สาม ลึกจนเห็นได้ชีดเลยครับ ต้องเอาสีแต้มแล้วไม่มองพอทำใจได้ พอเลยชุมแพกับแก่งคร้อไป ทางดีตลอดจนถึงชัยภูมิครับ ทางดีรถน้อยมากถนนสี่เลนสลับสองเลน แต่ทางดีจริงๆ สวยด้วยครับ หลังจากนั้นแทนที่จะตรงไปสี่คิ้ว ปักธงชัยสบายๆ ไม่เอาครับ เลี้ยวขวาไปเส้นสุรนารายณ์ถนนโบราณดีมั่งแย่มั่งแต่ส่วนใหญ่ดีครับ เป็นถนนบนภูเขาสวยงามมากครับ วิวสองข้างทางก็สวยแต่เปลี่ยนนะครับ เส้นนี่จะผ่านมอหินขาวด้วย ไปจนถึงลำสนธิจึงจะได้เห็นชุมชมมีปั๊มมีเซเว่นแล้ว เฮ กะว่าจะใช้เส้นนี้ยาวไปถึงชัยบาดาล เลาะเขื่อนป่าสักไปทางแก่งคอยครับ แต่ก้อเหมือนอะไรดลใจไม่รู้พอเราหลงไปในแดนสนธยาครับ คือไปได้สักพักก็จะถึงสี่แยกที่ด้านซ้ายบอกว่าไปออกมวกเหล็กได้ครับ ตอนนั้นประมาณห้าโมงเย็นแล้ว แฟนบอกว่าอยากไปกินสเต๊กโชคชัยครับ ก็เลยเลี้ยวเข้าทางนี้ครับ ปรากฎว่ามีแต่เขามีแต่ป่า ทางดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะดี ปรากฎว่าทำไมทางม้นยาวนัก ฟ้าก้อยิ่งมืด ไอ้ผมจะลงถ่ายรูปเก็บความสวยงามข้างทางเสียหน่อย แฟนบอกไม่ยอมครับเค้ากลัว ผมก้อเหยีบประมาณ 100 กว่าได้ครับ แต่ก้อระวังพอสมควรเพราะทางจะโค้งเยอะ และมีแต่ป่าไม่มีไฟข้างทาง สักพักทางดีตลอดครับ แต่ก็ทุ่มนึงแล้วครับ ตอนนี้มืดสนิทเลยต้องเปิดไฟสูงไปตลอด คิดอยู่เหมือนกันว่าหลงทางหรือเปล่า แต่ก้อมาตาม GPS ตลอด และถนนดีมากครับ คิดว่าถนนดีขนาดนี้ยังไงก็ไ่ม่หลง โล่งใจได้ทุ่มครึ่งจึงถึงปากช่องครับมาออกทางปากช่องพอดี ปลอดภัยครับ ทั้งที่ทั้งเส้นขับมาคันเดียวเลย ตอนที่อยู่เส้นนั้นก็บอกว่าขอให้เจอรถบ้างเถอะจะได้อุ่นใจครับ พระท่านเลยจัดให้เต็มที่ครับ มาถึงปากช่องปรากฎว่ารถติดถนนมิตรภาพจากปากช่องกลับถึงกรุงเทพใช้เวลาอีก  5ชม .ครับ รวมแล้ววันนั้นขับรถรวม 14 ชั่วโมงครับ แต่ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เส้นทางใหม่ๆ ที่สวยงามครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:29:44

ความคิดเห็นที่ 72 เส้นทางที่ใช้วันนั้นครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:30:54

ความคิดเห็นที่ 73 และเส้นทางที่ออกนอกแผนไปตาม GPS เพราะอยากไปกินสเต๊กโชคชัยครับ จะเห็นว่ามีแต่ป่าและก้อผ่านภูเขาด้วยครับ ประมาณซับสนุ่น กับหนองย่างเสือเนี่ยแหล่ะครับ มืดสุดๆ แต่ทางสวยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม กระทู้หน้าจะกลับมารีวิวโรงแรมเทวมันตราที่กาญจนบุรีนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ บุญรักษาครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:40:20

ความคิดเห็นที่ 74 สิวยุบ"โต"อย่างไว = สิวยุบ"ตัว"อย่างไว ครับ อิอิ จากคุณ : vuddiken เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 12:04:05

ความคิดเห็นที่ 75 โอ้โห ข้อมูลละเอียดจังค่ะ ได้ความรู้มากมาย ทั้งยังได้ชมภาพสวยๆอีกด้วย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:53:23