ความคิดเห็นที่ 1 คืนวันที่ 29 กรกฎาคม หลังจากที่ทัวร์บนเส้นทางเดิน Salkantay 5 วัน 4 คืนสู่ Machu Picchu (ตอนที่ 16) ได้เสร็จสิ้นลงโดยสมบูรณ์แล้ว ทางบริษัททัวร์ X-Treme Tourbulencia ก็ได้นำผมมาส่งที่โรงแรม El Tuco ใน Cusco โดยสวัสดิภาพ นี่จะเป็นคืนสุดท้ายของเราใน Cusco แล้วครับ คิดไปแล้วก็น่าใจหาย ผมมาถึง Cusco ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม จนตอนนี้ก็ร่วมสิบวันแล้ว แต่รู้สึกเหมือนกับเพิ่งผ่านไปได้แค่ไม่กี่วันเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงเป็นเพราะประสบการณ์ดีๆ ที่ผมพบเจอมาตลอดทั้งสิบวันที่ผ่านมานั่นเองครับ เช้าวันรุ่งขึ้น (30 กรกฎาคม) แท็กซี่ที่ผมให้ทางโรงแรมเรียกให้ก็มารับที่หน้าโรงแรมตรงเวลาตีห้าครึ่ง เพราะวันนี้ผมมีเที่ยวบินตอนเจ็ดโมงครึ่งไปยัง Lima ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของผมในการเดินทางครั้งนี้นั่นเองครับ ค่าโดยสารรวมทิปก็อยู่ที่ 8 โซล ที่คิดแพงกว่าปกติคงเป็นเพราะเวลายังเช้ามืดอยู่ ไม่เป็นไรครับ พอเข้าใจได้ :) สำหรับสายการบินที่บินระหว่าง Cusco และ Lima ก็มีหลายเจ้าเหลือเกิน เจ้าหลักๆ ที่บินหลายเที่ยวมากๆ ก็คือ LAN ซึ่งในรีวิวของคุณอาตี๋อินเตอร์เน็ตใช้บริการเจ้านี้ครับ สำหรับผมซึ่งเป็นลูกค้าผู้จงรักภักดีต่อค่ายดาวอย่าง Star Alliance ยังไงผมก็จะไม่ยอมเสียไมล์ของผมฟรีๆ ให้กับสายการบินค่ายอื่นแน่ๆ ครับถ้าไม่มีเหตุจำเป็น เพราะฉะนั้นก็เลยเหมือนเป็นไฟท์บังคับให้ผมบินกับ TACA ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ที่ El Salvador สมาชิกน้องใหม่ สดๆ ซิงๆ ของค่ายดาวนี่เองครับ นอกเหนือจาก LAN และ TACA ก็ยังมีเจ้าเล็กๆ อย่างเช่น StarPeru และ Peruvian Airlines ซึ่งคนจะไม่นิยมกันมากเหมือนสองเจ้าแรก แต่ราคาจะถูกกว่าครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:09:11

ความคิดเห็นที่ 2 ที่นี่ยังไม่มีเครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋าครับ ก็เลยต้องมาแฮนด์สเรย์กันอย่างที่เห็น เป้สีเขียวกับเป้สีแดงนั่นคือสัมภาระของผมเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:10:01

ความคิดเห็นที่ 3 และแล้วเราก็ได้ boarding pass มาครับ วันนี้เราบินกันในเที่ยวบินที่ TA 8 จาก Cusco (CUS) ไปยัง Lima (LIM) ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:11:17

ความคิดเห็นที่ 4 แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์โปรด เพราะตอนที่ผมยืนรอขึ้นเครื่องอยู่นั่นเอง เจ้าหน้าที่ที่หน้าเกทมาขอดู boarding pass ของผมพร้อมกับขีดฆ่าเปลี่ยนที่นั่งใหม่ให้ผมเป็นชั้นธุรกิจครับ นี่แหละครับอานิสงส์ของบัตรทอง Star Alliance ซึ่งจะได้รับสิทธิในการ upgrade ก่อนใครเพื่อน สบายสิครับงานนี้ หุหุ ว่าแล้วก็เดินยึดอกเข้าช่องนี้อย่างภาคภูมิ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:12:12

ความคิดเห็นที่ 5 เครื่องบินของเราในวันนี้เป็น A320 ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:13:07

ความคิดเห็นที่ 6 ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย ซื้อตั๋วชั้นประหยัดมาแท้ๆ แต่ได้มานั่งชั้นธุรกิจ ตั๋วเที่ยวเดียวชั้นประหยัดนี้ผมซื้อมาในราคา 120 ดอลลาร์ครับ จ่ายแค่นี้ได้มานั่งชั้นธุรกิจก็ใช้ได้แล้วครับ!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:14:32

ความคิดเห็นที่ 7 สนามบินที่นี่เป็นสนามบินเล็กๆ ครับ มีอยู่แค่ 5-6 gate เท่านั้นเอง แต่ทางการเปรูมีแผนจะสร้างสนามบินคุซโกแห่งใหม่ซึ่งคาดว่าจะอยู่ห่างจากเมืองประมาณ 30 กิโลเมตรระหว่างทางไปยัง Sacred Valley นั่นเองครับ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะได้สร้างจริงหรือเปล่า และหากได้สร้างจะใหญ่กว่าที่เดิมแค่ไหน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:15:18

ความคิดเห็นที่ 8 มาตั้งลำที่ปลายรันเวย์กันแล้วครับ พร้อมกับเร่งเครื่องเต็มสปีด เตรียมมุ่งหน้าสู่ปลายทางที่ลิม่าในวันนี้ เที่ยวบินนี้ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงหน่อยๆ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:16:23

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้นมาแล้วก็จะเห็นชานเมืองของคุซโกไต่ไปตามไหล่เขา ภาพนี้ชวนให้ผมนึกถึงสภาพแถวๆ La Paz นครศูนย์ราชการของโบลิเวีย (ตอนที่ 8) เลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:18:29

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพนี้สามารถเห็น Cusco ได้แบบกว้างๆ ด้วยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:19:17

ความคิดเห็นที่ 11 พอมานั่งชั้นธุรกิจก็ได้รับอาหารเช้าเต็มๆ แบบนี้แหละครับ ชีวิตนี้ผมจะมีปัญญาได้นั่งแบบนี้ซักกี่ครั้งกันล่ะครับนี่... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:20:37

ความคิดเห็นที่ 12 หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก พอเครื่องเริ่มจะลดระดับลง โอ้ว!! คุซโก้ฟ้าใสๆ ทำไมอยู่ดีๆ กลายเป็นแบบนี้ไปซะแล้วววววว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:21:57

ความคิดเห็นที่ 13 แต่เห็นขมุกขมัวขนาดนั้น เครื่องบินของเราก็ลงจอดได้อย่างนิ่มนวลไร้ที่ตินะคร้าบบบ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:22:48

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีต้อนรับสู่ท่าอากาศยาน Jorge Chavez กรุงลิม่า ประเทศเปรูครับ ตอนนี้เราได้มาถึงลิม่ากันอย่างเป็นทางการแล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:24:12

ความคิดเห็นที่ 15 ลงเครื่องกันหมดแล้วก็มารับกระเป๋ากันเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:25:12

ความคิดเห็นที่ 16 พอได้สัมภาระครบถ้วนไม่มีตกหล่นแล้วก็ออกมาข้างหน้าหาแท็กซี่กันโลดครับ ที่จริงพอออกมาปุ๊บก็จะมีบริษัทมาตั้งโต๊ะรอรับตรงโถงผู้โดยสารขาเข้าเลย เช็คดูกับข้อมูลใน Lonely Planet แล้วมั่นใจว่าเชื่อถือได้ก็จัดแจงบอกที่อยู่ที่เราจะไป แล้วก็จะมีพนักงานเชิญเราออกไปขึ้นแท็กซี่ข้างนอกครับ สำหรับค่าแท็กซี่นี่ก็แล้วแต่จุดหมายปลายทางครับ ซึ่งที่โต๊ะก็จะมีอัตราค่าแท็กซี่ไปยังจุดหมายต่างๆ แปะบอกไว้อย่างชัดเจน นักเดินทางส่วนมากที่มายังลิม่าก็มักจะมาพักกันที่ย่านอย่าง Miraflores ซึ่งอัตราค่าแท็กซี่จากสนามบินไปยัง Miraflores ก็จะอยู่ที่ 30 - 35 โซลครับ เป็นอัตราตายตัวไม่ขาดไม่เกิน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:26:23

ความคิดเห็นที่ 17 สภาพถนนหนทางของกรุงลิม่าครับ เห็นแบบนี้แล้วก็ชวนให้คิดถึงบางย่านในกรุงเทพเหมือนกันนะครับเนี่ย คล้ายกันจริงๆ เริ่มคิดถึงบ้านขึ้นมาอีกแล้วววว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:27:10

ความคิดเห็นที่ 18 ผ่านสี่แยกอะไรก็ไม่ทราบเช่นกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:28:25

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับจุดหมายที่ผมบอกให้แท็กซี่ไปส่งนั้นไม่ใช่ย่าน hostel ยอดนิยมอย่าง Miraflores หรือย่าน Plaza de Armas ที่เป็นย่านประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงลิม่าเลยนะครับ เพราะที่ Lima นี้ผมไม่ได้อยู่ hostel หรือโรงแรมไหนเลยนั่นเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปหานอนข้างถนนตลอดสามวันที่ลิม่านะครับ ถ้าหากว่าท่านติดตามกันมาตลอดคงจะจำกันได้นะครับกับตอนแรกของผม (ตอนที่ 1) ในกรุง Santiago ของชิลี ที่นั่นผมก็ไม่ได้พักโรงแรมเช่นกัน แต่ผมเลือกที่จะอยู่กับ host ผ่านเว็บไซต์ social network ของนักเดินทางอย่าง couchsurfing ซึ่งก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ เพราะได้ที่พักฟรี แถมยังได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเจ้าบ้านกับผู้มาอาศัยด้วย ซึ่งผมเองก็ตัดสินใจที่จะทำแบบเดียวกันนี้ใน Lima ซึ่งผมก็ได้ติดต่อกับ host ไว้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ Cusco แล้วครับ แต่ทว่าพอผมไปถึงที่อยู่ที่นัดกันไว้และโทรไปหาเขา ปรากฏว่าเขาออกไปทำงานแล้ว เพราะเขาเข้าใจว่าเครื่องของผมจะมาถึงเช้ากว่านี้ แต่ยังดีครับที่ผมสามารถฝากสัมภาระไว้กับยามของที่พักได้ผ่านการติดต่อสามทางระหว่างผม ยาม และ host พอมั่นใจว่าทุกอย่างโอเคแล้วก็ได้เวลาออกตะลุย Lima กันแล้วครับ!! นี่คือวันแรกที่ผมมาถึง Lima และผมตั้งใจจะไปยัง Plaza de Armas เป็นจุดหมายแรก แต่ว่าหากจะนั่งแท็กซี่ผมว่าคงจะแพงแน่ๆ ก็เลยลองถามคุณยามดูว่าถ้าจะนั่งรถเมล์ไป Plaza de Armas ไปยังไง คุณยามแกก็พ่นภาษาสเปนมาซะรัวชนิดที่ว่าผมจับใจความไม่ได้เลย ก็เลยพยักหน้าหงึกๆ ขอบคุณไปทั้งๆ ที่ในหัวไม่รู้อะไรเลย แล้วก็มาเสี่ยงดวงขึ้นรถเมล์ตรงถนนใหญ่ใกล้ๆ บ้านเขานั่นแหละครับ อาศัยดูชื่อถนนที่รถเมล์วิ่งผ่านเอาเทียบกับแผนที่ใน Lonely Planet ก็พอจะเดาๆ เอาได้ครับ อย่างน้อยมันก็พาผมมาถึงได้ก็โอเคแล้วครับ นี่คือทางเดินจากป้ายที่ผมลงรถเมล์ไปยัง Plaza de Armas ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:29:34

ความคิดเห็นที่ 20 สำหรับกรุง Lima ก็นับว่าเป็นเมืองหลวงของเปรูครับ นับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ระดับต้นๆ ของอเมริกาใต้ ที่แห่งนี้มีประชากรอาศัยกันอยู่ถึงแปดล้านกว่าคน ซึ่งนับว่ามีมากเกือบถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศซึ่งมี 30 ล้านคนเลยทีเดียว!! ระหว่างทางผ่านร้านคุณป้าคนนี้ซึ่งขาย Churros ซึ่งก็อารมณ์คล้ายๆ กับโดนัททรงยาวๆ แหละครับ ขายแท่งละโซล รสชาติใช้ได้เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:33:51

ความคิดเห็นที่ 21 เดินมาอีกไม่ไกลก็มาถึง Plaza de Armas กันแล้วครับ ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่เห็นนี้ก็คือทำเนียบประธานาธิบดีของเปรูนั่นเอง สำหรับประธานาธิบดีของเปรูคนปัจจุบันมีชื่อว่า Ollanta Humala เป็นประธานาธิบดีที่มีเชื้อสายชาวพื้นเมืองดั้งเดิมคล้ายๆ กับของโบลิเวียเลยครับ แล้วคนเขามามุงดูอะไรกันเยอะแยะหนอ...... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:35:25

ความคิดเห็นที่ 22 และนี่คือคำตอบของ “เปรูและฝรั่งมุง” ที่เราเห็นในภาพเมื่อกี้นี้ครับ เพราะผมมาทันเวลาที่กองทหารเกียรติยศของทำเนียบประธานาธิบดีกำลังเปลี่ยนผลัดกันแบบพอดี๊ พอดีนี่เอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:36:31

ความคิดเห็นที่ 23 เย้ๆๆ วันนี้มาเร็วนะครับ รออ่านอยู่นะครับ อย่าลืม ฮาวาย ด้วยนะครับ ^^ จากคุณ : Bossu เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:37:11

ความคิดเห็นที่ 24 แม้ท้องฟ้าจะหมองหม่น แต่กลาง Plaza de Armas ก็ไม่ได้หม่นหมองตามท้องฟ้า เนื่องจากที่นี่ได้ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม มองแล้วสดชื่นดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:39:52

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับคุณ​ Bossu นอนดึกเหมือนกันนะครับเนี่ย ส่วนนี่ก็คือมหาวิหาร (cathedral) ประจำกรุงลิม่านั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:41:51

ความคิดเห็นที่ 26 น้ำพุกลาง Plaza ครับ ส่วนตึกรามบ้านช่องรอบๆ ก็จะทาแต่สีออกเหลืองๆ ส้มๆ แบบนี้แหละครับ สงสัยคงเป็นกฎหมายของเขามั้งครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:42:34

ความคิดเห็นที่ 27 ชม Plaza de Armas เสร็จก็ตกเที่ยงพอดี ได้เวลาหาอะไรทานแล้วครับ ไหนมาลองร้านอาหารจีนกันอีกซักรอบกันซิ ดูกันหน่อยครับว่าจะดีกว่ามื้อแรกที่ผมทานหลังจากเข้าเปรูมา (ตอนที่ 12) หรือเปล่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:43:25

ความคิดเห็นที่ 28 จานเรียกน้ำย่อยเป็นเกี๊ยวทอดราดซอสหวานๆ อร่อยดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:44:27

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วนจานหลักก็ยังเป็นข้าวผัดเหมือนเดิมครับ รสชาติดีกว่าที่ Puno หน่อยนึง แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าอร่อยครับ แต่ที่แน่ๆ ปริมาณเยอะสะใจสุดๆ ครับ อิ่มกันได้ถึงเย็นเลยทีเดียว ค่าเสียหายก็ 9 โซลรวม Inca Kola เช่นเคย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:45:30

ความคิดเห็นที่ 30 ย่านนี้เป็นย่านที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำด้านหลัง Plaza de Armas ครับ เห็นดูเก๋ไก๋ดีเลยขอมาเดินเล่นชิลๆ ซะหน่อย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:46:16

ความคิดเห็นที่ 31 เจอกับรถเข็นขายผลไม้กลางทางครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:47:29

ความคิดเห็นที่ 32 เสร็จแล้วก็ย้อนกลับมาฝั่งเดิมอีกรอบ ไม่เคยคิดว่าการที่แค่ได้มาเดินถ่ายรูปในถิ่นแปลกแบบนี้ก็เพลินใช่ย่อยเลยทีเดียวละครับ แค่ได้เดินชมนกชมไม้ชมเมืองไปเรื่อยๆ ก็ทำให้มีความสุขได้เหมือนกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:48:29

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นคุณKhunWasut บอกไว้ว่าวันนี้จะเป็นตอนจบ ตั้งใจรอเลยครับผม ^^ จากคุณ : Bossu เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:48:31

ความคิดเห็นที่ 34 โห คุณ Bossu อุตส่าห์มาเกาะขอบจอรอถ่ายทอดสดซะขนาดนี้ สุดยอดมากๆ ครับ ยังไงก็ติดตามต่อได้เลยครับว่าบทสรุปจะลงเอยอย่างไร เดินมาอีกหน่อยก็มาพบกับถนนคนเดินสายนี้ซึ่งมีชื่อว่า Jiron de la Union ครับ เป็นถนนคนเดินที่คึกคักมากของที่นี่ มีร้านอาหารและร้านขายของเยอะแยะมากมาย คนเปรูเองก็คงจะชอบมาเดินเล่นที่นี่กันใช่ย่อยเลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:50:52

ความคิดเห็นที่ 35 ส่วนคนใส่เสื้อคล้ายวินมอเตอร์ไซค์บ้านเรานี้ก็พบเห็นได้ทั่วลิม่าเลยครับ เค้ารับแลกเงินจากโซลเป็นดอลลาร์หรือยูโรครับ หรือจะเอาดอลลาร์กับยูโรมาแลกเป็นโซลก็ได้เช่นเดียวกัน ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่า rate ของเขาจะดีหรือแย่กว่าธนาคาร แต่ที่แน่ๆ คือตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ดีกว่าแน่นอนเพราะว่ารวดเร็ว และเข้าถึงผู้ถึงคนกว่าครับ ว่าแต่ว่าถือเงินเป็นฟ่อนๆ แบบนี้พี่แกไม่กลัวใครแอบมาดักตีหัวแย่งเอาเงินไปเลยเหรอครับเนี่ย ผมสงสัยจริงๆ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 00:52:39 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:51:49

ความคิดเห็นที่ 36 กลับมายัง Plaza de Armas อีกรับ ตอนนี้ฟ้าเริ่มเปิดครับ ที่จริงแล้วที่ลิม่าเนี่ยนับว่าเป็นเมืองที่ท้องฟ้าหม่นหมองแทบจะตลอดปีครับ สาเหตุก็เพราะสภาพภูมิอากาศที่เป็นกึ่งทะเลทราย ในช่วงที่อากาศเย็น (ฤดูอื่นๆ นอกเหนือจากฤดูร้อน) ความชื้นก็ถูกกักเอาไว้ในบริเวณนั้น เพราะทางตะวันออกของเมืองก็เป็นภูเขาสูง เลยทำให้ท้องฟ้าหม่นๆ นั่นเองครับ ซึ่งการที่ฟ้าเปิดในกลางฤดูหนาวที่ลิม่าแบบนี้เป็นอะไรที่แปลกมากๆ ครับ ส่วนหน้าร้อนท้องฟ้าก็จะสว่างใสเป็นปกติครับ หากถามว่าทำไมตอนสร้างเมืองนี้เขาไม่รู้กันเลยเหรอว่าท้องฟ้าจะหม่นหมองน่าเศร้าเกือบตลอดปีเช่นนี้ เขาไม่รู้หรอกครับ เพราะ Francisco Pizarro สร้างเมืองนี้ขึ้นตอนฤดูหนาวซึ่งท้องฟ้าแจ่มใสนั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:54:55

ความคิดเห็นที่ 37 ยินดีครับผม ^^ จากคุณ : Bossu เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:55:09

ความคิดเห็นที่ 38 ไหนๆ ก็ผ่านมาทางนี้อีกรอบแล้ว เราเข้ามาชมมหาวิหารแห่งกรุงลิม่ากันดีกว่าครับ ค่าเข้าชม 10 โซล จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:55:43

ความคิดเห็นที่ 39 มหาวิหารนี้สร้างหลังจากที่มีการย้ายเมืองหลวงของเปรูในสมัยตั้งอาณานิคมเริ่มแรกมายังลิม่านั่นเองครับ สถาปัตยกรรมก็จะเป็นแบบยุโรปไม่มีผิดเพี้ยน เพราะเมืองนี้มีพื้นฐานเป็นแบบสเปนมาตั้งแต่ต้นแล้วนั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:57:48

ความคิดเห็นที่ 40 ดูโอ่โถง อลังการเหมือนกันนะครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:58:29

ความคิดเห็นที่ 41 อีกซักรูปก่อนไปกันต่อครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 00:59:32

ความคิดเห็นที่ 42 ชมมหาวิหารกันเสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นฆ่าเวลากันต่อครับ ป้ายนี้ก็ยังไม่ถูกเก็บไปทั้งๆ ที่งานฉลองวันชาตินั้นมีมาตั้งแต่วันที่ 28 ซึ่งเป็นวันที่ผมกำลังปีนป่ายภูเขาอยู่วันสุดท้ายก่อนถึง Aguas Calientes (ตอนที่ 16) นั่นเองครับ ว้า!! เลยอดร่วมเดินพาเหรดกะเขาด้วยเลยเนี่ย แม้ เสียดายจัง แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 01:00:53 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:00:22

ความคิดเห็นที่ 43 คุณตำรวจปราบจลาจลยืนตั้งรับ เพราะวันนี้ตอนผมนั่งรถเมล์มาตอนเช้าเห็นมีม็อบมาชุมนุมกันที่หน้าอาคารรัฐสภาของเปรูครับ แต่เอทำไมเขาดูไม่เห็นจะกังวลกับม็อบเลยล่ะครับเนี่ย แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 01:03:05 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:02:33

ความคิดเห็นที่ 44 นับว่าผมก็เดินเล่นแถวๆ นี้มาได้นานพอสมควรแล้วละครับ ถึงเวลาต้องย้ายไปที่ใหม่ซะที จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:03:40

ความคิดเห็นที่ 45 ที่ใหม่ๆ ที่ผมว่าก็ยังไม่ไกลจากนี้มากเท่าไหร่นักหรอกครับ ที่นี่คือโบสถ์ San Francisco ซึ่งภายในจะมีโครงกระดูกมนุษย์สมัยอาณานิคมอยู่ด้วย เพราะที่นี่เคยเป็นสุสานเก่านั่นเอง วันนี้ผมไม่ได้เข้าไปครับ ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกรีบร้อนหรืออยากดูอะไรขนาดนั้น ผมอยากให้วันในลิม่าของผมเป็นวันที่ผ่อนคลายหลังจากแบกเป้คนเดียวสุด extreme มาตลอดสามสิบกว่าวันนั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:05:09

ความคิดเห็นที่ 46 บ้านเรือนสีสันสวยงามอยู่ตรงเชิงเขา San Cristobal แต่เห็นสวยๆ อย่างงี้อย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้เป็นอันขาดเลยละครับ เพราะนั่นคือชุมชนแออัดที่ค่อนข้างจะอันตราย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:05:55

ความคิดเห็นที่ 47 ภูเขา San Cristobal และสวนสาธารณะริมแม่น้ำ Rimac ครับ ซึ่งแม่น้ำสายนี้ก็คือต้นกำเนิดของชื่อ Lima นั่นเอง (ลองสังเกตดูสิครับว่า Lima กับ Rimac คล้ายกันหรือเปล่า ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:08:04

ความคิดเห็นที่ 48 กลับมาที่ถนน Abancay กันอีกครั้งครับ ตอนนี้ก็เริ่มจะบ่ายแก่ๆ แล้ว ได้เวลานั่งรถเมล์กลับไปยังคอนโดของคุณ host ในวันนี้เสียทีครับ อีกไม่น่าจะนานเขาคงจะกลับมาจากที่ทำงานแล้ว จะได้เอาของไปเก็บในห้องของเขาเสียทีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:09:01

ความคิดเห็นที่ 49 สำหรับระบบขนส่งมวลชนในกรุงลิม่านั้นก็มีพอสมควรครับครับ ที่นี่จะมีทั้งแท็กซี่ Micro รถเมล์ BRT และรถไฟฟ้า สำหรับรถไฟฟ้าของที่นี่นั้นผมเองยังไม่เคยมีโอกาสได้ขึ้นเลยครับ เพราะเส้นทางไม่ผ่านจุดหลักๆ ที่ผมจะเดินทางเลยซักนิดเดียว ส่วนรถเมล์ที่นี่ก็ไม่มีองค์กรที่คอยดูแลเป็นหลักแหล่งครับ ที่เห็นๆ นี่ก็มีแต่บริษัทเอกชนทำกันเองทั้งนั้น สภาพรถเมล์ก็เรียกได้ว่าเก่าและแย่กว่ารถร่วม ขสมก. บ้านเราเสียอีกครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:10:03

ความคิดเห็นที่ 50 อาชีพยอดนิยมในอเมริกาใต้ครับ ไปที่ไหนๆ ก็เจอตลอดไม่ว่าจะเป็นชิลี โบลิเวีย หรือเปรู จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:10:45

ความคิดเห็นที่ 51 ค่าโดยสารส่วนมากก็จะไม่ค่อยเกิน 2 โซลครับ (24 บาท) จริงๆ ถือว่าแพงนะครับเทียบกับบ้านเรา เพราะรถเมล์ร้อนบ้านเรายังแค่ 6 บาท 50 สตางค์เอง แถมเดี๋ยวนี้ยังมีรถเมล์ฟรีอีก (จำราคาไม่ได้แล้วครับ ไม่ได้ใช้ชีวิตในกรุงมานานมากแล้วววว แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน 8 บาท 24 บาทบ้านเรานี่นั่งเมล์ปรับอากาศได้เลยนะครับนั่น ครั้งสุดท้ายที่ผมเคยขึ้นถ้าผมจำไม่ผิดรถเมล์ร้อนยังแค่ 3 บาท 50 สตางค์เองครับ) สำหรับรถเมล์ที่นี่ หากท่านว่ารถเมล์เล็กสีเขียวในกรุงเทพขับได้น่ากลัวแล้ว ขอเชิญมาทดลองขึ้นรถเมล์ที่ Lima ดูได้ครับ เพราะที่นี่ผมกล้าพูดได้เลยว่าขับได้น่ากลัวและน่าหวาดเสียวกว่ามาก แต่ก็เหมือนจะไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะผู้คนชินกันแล้วก็เป็นได้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:13:34

ความคิดเห็นที่ 52 เหลียวมองซ้ายมองขวาคอยสังเกตชื่อถนนตลอดทั้งเส้นทางกันพลาด ในที่สุดเราก็มาถึงกันแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:14:28

ความคิดเห็นที่ 53 สำหรับ host ของผมวันนี้ชื่อคุณ Royer เป็นพนักงานบริษัทใน Lima อายุอานามก็เป็นรุ่นพี่ผมได้ ไม่ใช่รุ่นราวคราวอาคราวน้าเหมือนคุณ Hector ที่ชิลี พอเจอกันเขาก็ขอโทษผมก่อนที่ไม่ได้เจอและทักทายกันตั้งแต่ตอนแรก เสร็จแล้วก็ขึ้นไปที่ห้องกันครับ ห้องของเขาอยู่ชั้นที่ 12 ของคอนโดนี้ครับ และนี่ก็คือวิวจากห้องของเขานั่นเอง อยู่กลางเมืองพอสมควรครับ และอยู่ในย่านที่เรียกได้ว่าใช้ได้ แต่ไม่ได้อยู่ใกล้ย่านท่องเที่ยวอย่าง Miraflores หรือ Plaza de Armas เลย สภาพภายในห้องของเขาก็ดีครับ มีที่นอนให้นอนบนโซฟาเบด อย่างน้อยก็มั่นใจว่าจะมีที่ซุกหัวนอนจนกระทั่งผมเดินทางกลับละคร้าบบบบ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:15:27

ความคิดเห็นที่ 54 หลังจากนั้นเราก็คุยโน่นคุยนี่ เล่าเรื่องราวต่างๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และคุณ Royer ก็พาผมมาที่ห้างใกล้ๆ กับคอนโดเขาครับเพราะผมบอกเขาว่าผมจะทำอาหารเลี้ยงเขาเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ให้ที่พักอาศัยตลอด 3 วัน (ครับ การที่ไปอยู่กับ host แบบนี้ถึงแม้จะฟรีและตัว host อาจจะไม่คาดหวังที่จะได้อะไรตอบแทน แต่โดยมารยาทเราเองในฐานะผู้ที่ขออาศัยเขาอยู่ก็ต้องทำอะไรตอบแทนน้ำใจเขาเช่นเดียวกันครับ จะได้เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่น่าจดจำกันสำหรับทั้งสองฝ่ายนั่นเองครับ ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:16:52

ความคิดเห็นที่ 55 คืนวันนั้นในบ้านของคุณ Royer เขาได้เลี้ยงอาหารเย็นผมหนึ่งมื้ออีกด้วยครับ อาหารอาจจะธรรมดาๆ ตามประสาหนุ่มโสดทั่วไป แต่ว่าน้ำใจที่ได้รับจากคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นานในต่างแดนนั้นมันแสนยิ่งใหญ่กว่าอาหารมากมายนักครับ ผมรับมาทานพร้อมกับขอบคุณ และก็เข้านอนในคืนนั้นอย่างมีความสุข เช้าวันต่อมาคือวันที่ 31 กรกฎาคมครับ ผมมีแผนจะไปยัง Miraflores ไปยังย่านที่เขาว่าไฮโซในลิม่า ตอนแรกผมก็ว่าจะนั่งรถเมล์ไปเองแบบเมื่อวานแต่คุณ Royer บอกว่างั้นก็ติดแท็กซี่ไปกับเขาสิ เพราะที่ทำงานเขาอยู่ใกล้ๆ กับทางนั้น คุณก็ลงระหว่างทางตอนที่ใกล้ๆ จะได้ต่อรถเมล์แป๊บเดียวถึง ซึ่งผมก็ทำตามที่เขาแนะนำครับ หลังจากลงแท็กซี่แล้วต่อรถเมล์ได้ไม่นานก็จะเห็นเจ้าวงเวียนนี่ที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “El Oval” เป็นสัญญาณบอกว่าเรามาถึง Miraflores กันแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:17:42

ความคิดเห็นที่ 56 Miraflores นับว่าเป็นย่านที่ดูหรูหราผิดกับย่านแถวๆ ใจกลางเมืองที่เราผ่านกันเมื่อวานนี้ ผู้คนดูแต่งเนื้อแต่งตัวภูมิฐาน ตึกรามบ้านช่อง และถนนหนทางดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก เหมือนกับว่าไม่ได้อยู่เมืองเดียวกันยังไงยังงั้น แวบแรกในความคิดผมผมว่านี่มันคือสุขุมวิทแห่งลิม่าชัดๆ อารมณ์ได้เลยนะครับเนี่ย อีกทั้งย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ผับ บาร์หรูๆ หรือร้าน fast food อาหารจานด่วน และโรงแรมทั้งเล็กทั้งใหญ่จำนวนมาก บวกกับความเป็นย่านดูดีมีระดับ ปลอดภัย ทำให้ย่านนี้เป็นย่านยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเลือกมาพักค้างคืนครับ ซึ่งในรีวิวคุณอาตี๋อินเตอร์เน็ตก็เลือกพักในโรงแรมที่ย่านนี้เช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 01:20:06 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:18:36

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นร้านอาหารร้านนี้ดูมีคนอยู่ข้างในเยอะดี ลองซักหน่อยก็แล้วกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:21:22

ความคิดเห็นที่ 58 สภาพภายในร้านครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:21:59

ความคิดเห็นที่ 59 และทายกันสิครับว่าผมสั่งอะไรทาน!! Aji de Gallina อีกแล้วครับท่าน!! นี่นับได้ว่าเป็นรอบที่สามในเปรูแล้วที่ผมสั่งเมนูนี้ทาน และในความเห็นของผมผมว่า Aji de Gallina ของที่นี่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมได้ทานมาในเปรูเลยก็ว่าได้ครับ แถมราคาไม่แพงด้วย แค่ 9 โซลเท่านั้นเอง ไม่อยากเชื่อเลยครับว่าจะมีร้านอาหารราคาไม่แพงกลางย่านไฮโซอย่าง Miraflores!! สุดยอดดด!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:23:23

ความคิดเห็นที่ 60 หากเดินกันต่อจนมาสุดที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ก็จะพบกับห้างหรูคู่ลิม่า “Larco Mar” ชาวลิม่าดูจะภูมิใจกับห้างนี้กันมาก บรรยากาศได้ แต่ความหรูหราผมว่าพารากอนกะเซ็นทรัลเวิลด์บ้านเรากินขาด!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:24:22

ความคิดเห็นที่ 61 หากเดินกันต่อจากห้าง Larco Mar ก็จะพบกับทางเดินเลียบชายฝั่งมหาสมุทรครับ ฟ้าหม่นๆ วันนี้ทำให้บรรยากาศดูเศร้าๆ ยังไงพิกลแฮะ.... ส่วนถนนที่เห็นในรูปถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Pan-American Highway network ครับ ซึ่งเป็นทางหลวงที่เชื่อมระหว่างอเมริกาเหนือจนถึงอเมริกาใต้ ตั้งแต่อลาสก้าไปจนถึงอาร์เจนตินา แต่โครงข่ายทางหลวงนี้ยังไม่ถือว่าเชื่อมต่อกันโดยสมบูรณ์นะครับ เพราะยังเหลือช่วงในประเทศปานามาที่เป็นป่ารกทึบ ไม่สามารถสร้างทางได้นั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:25:06

ความคิดเห็นที่ 62 แถวนี้คงจะเป็นบ้านของคนมีกะตังค์ของที่นี่แน่ๆ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:25:47

ความคิดเห็นที่ 63 มีคนเล่นเครื่องร่อนกันด้วยแฮะ ตอนนี้ตังค์ผมเองก็ชักจะเริ่มร่อยหรอ ให้ไปเล่นนี่เผลอๆ อาจไม่มีตังค์ไปสนามบินกลับบ้านก็ได้.... ผมยังไม่อยากติดแหง็กอยู่นี่นะคร้าบบบ งานการผมก็มีต้องทำน้าาาาา จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:26:54

ความคิดเห็นที่ 64 ตึกรามบ้านช่องแนวนี้ดูเป็นสไตล์ของละตินอเมริกามากๆ ครับ ผมว่าอย่างน้อยผังเมืองเขาก็ดีกว่าเรามากในระดับหนึ่งเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:29:31

ความคิดเห็นที่ 65 เดินมาต่อกันอีกนิดก็จะพบกับรูปปั้นชายกำลังโอบกอดและจูบหญิงสาวอยู่ ที่ตรงนี้มีชื่อว่า Parque del Amor หรือสวนแห่งความรักนั่นเอง เห็นรูปปั้นยังรักกันขนาดนี้แล้ว แล้วเมื่อไหร่ผมจะมีรักกับเขาสักทีหนอ..... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:30:29

ความคิดเห็นที่ 66 พึ่งออกจากรพ.นอนพักฟื้นอยู่บ้าน ได้กระทู้โหด มันส์ ฮาฯ ของคุณ KhunWasut นี่ล่ะที่ทำให้แต่ละวันผ่านไปแบบไม่เบื่อหน่าย 3 วันเต็มนั่งอ่านนอนอ่านตั้งแต่กระทู้แรก มาวันนี้กระทู้สุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้จบเลยค่ะ มีเรื่องอื่นต่อมั๊ยคะจะรออ่าน  จากคุณ : SlowlyLoveKeepLeft เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:30:50

ความคิดเห็นที่ 67 มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำในลิม่า นั่นก็คือหาอาหารญี่ปุ่นดีๆ รับประทานครับ อ้าว ก็ไหนว่ามาถึงเปรู แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงอยากมาหาอาหารญี่ปุ่นทานซะอย่างงั้น คืออย่างงี้ครับ เปรูเนี่ยก็นับว่ามีคนญี่ปุ่นมาตั้งรกรากอยู่มากพอดูเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Lima แม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีของเปรูอย่าง Alberto Fujimori ก็ยังเป็นคนญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำไปครับ (ลูกสาวเขา Keiko ก็เพิ่งลงสมัครประธานาธิบดีเช่นกัน แต่พ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Ollanta Humala ครับ) ผ่านมาหน้าร้านซูชิร้านนี้ ดูท่าทางน่าจะเป็นร้านใหญ่มีชื่อเสียงของที่นี่ เข้าไปลองดูซิว่าจะอร่อยแค่ไหน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:31:37

ความคิดเห็นที่ 68 สวัสดีครับคุณ Sl:-)LoveKeepLeft ขอบคุณมากครับที่อย่างน้อยรีวิวชุดนี้ของผมทำให้คุณสนุกสนานไม่รู้สึกเบื่อหน่ายได้ ต่อจากนี้ที่จริงแล้วยังมีทริปเล็กๆ ที่ผมเพิ่งทำเมื่อเดือนที่แล้วไปฮาวายอีกทริปนึงครับ แต่คงจะมีเพียงแค่ตอนเดียว ไว้ผมว่างจากงานเมื่อไหร่จะมาโพสให้ชมกันนะครับ เข้ามาปุ๊บก็มาเจอคนทำซูชิหน้าตาดูน่าเชื่อถือ พร้อมเสียงทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นทันทีที่ผมเดินเข้าไปในร้านครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:34:39

ความคิดเห็นที่ 69 เริ่มกันจากของพื้นฐานๆ อย่างเช่นซูชิหน้ามากุโร่กันก่อนครับ (ไม่กล้าสั่งของแพงๆ มากไปกว่านี้ครับ ตังค์เริ่มหมดแล้ววว) ดูน่ากินไหมครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:36:39

ความคิดเห็นที่ 70 แต่ที่เด็ดกว่าคือของหวานของที่นี่ ชื่ออะไรผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่อร่อยมากครับ แต่ค่าเสียหายมื้อนี้สูงหน่อย อยู่ที่หลัก 60 โซลครับ... (ยังมีอย่างอื่นที่ผมสั่งอีกด้วยครับแต่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้) น่าทานไหมครับทุกท่าน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:37:40

ความคิดเห็นที่ 71 เดินย้อนกลับมาตรงแถวๆ El Oval กันอีกรอบ พบกับซุ้มขายของจากจังหวัดต่างๆ ของเปรูด้วยครับ อารมณ์ยังกะเดินอยู่ในงาน OTOP บ้านเรายังไงยังงั้นเลย (จะว่าไปแล้วหากจะเรียกว่านี่คืองาน OTOP เวอร์ชั่นเปรูก็คงไม่ผิดนักหรอกครับ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:39:05

ความคิดเห็นที่ 72 โปรแกรมวันที่สองจบลงแต่เพียงเท่านั้นครับ หลังจากนั้นผมก็กลับบ้านไปทำอาหารไทยชุดหนึ่งให้คุณ Royer ทานตามสัญญา แม้ว่ารสชาติอาจจะไม่ไทยอย่างที่ผมต้องการเพราะต้องประยุกต์กับเครื่องปรุงเท่าที่หาได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะตอบแทนน้ำใจของเขาที่ให้ที่พักแก่ผมถึง 2 คืนนั่นเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:42:07

ความคิดเห็นที่ 73 และแล้วเช้าวันสุดท้ายของการเดินทางในอเมริกาใต้ของผมก็มาถึง วันนี้คือวันที่ 1 สิงหาคมครับ ยังมีอยู่สองอย่างที่ผมอยากทำในวันนี้ก่อนที่เราจะเดินทางกลับกัน สิ่งแรกก็คืออยากมาชมพิพิธภัณฑ์ ส่วนสิ่งที่สองก็คือต้องชิมเมนูขึ้นชื่ออีกอย่างของอาหารเปรูให้ได้ และที่ลิม่าเองเมนูนี้จะมีชื่อเสียงที่สุด นั่นก็คือ Ceviche หรือยำทะเลสไตล์เปรูนั่นเองครับ เรามาทำสิ่งแรกกันก่อนดีกว่าครับ นั่นก็คือมาชมพิพิธภัณฑ์ ที่นี่คือ Museo de la Nacion หรือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเปรูนั่นเอง ตั้งอยู่บนถนน Javier Prado และวันนี้ผมก็ยังคงนั่งรถเมล์มาเหมือนเช่นเคยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:43:46

ความคิดเห็นที่ 74 ภายในก็จะมีนิทรรศการต่างๆ จัดแสดงหมุนเวียนกันไป และในวันนี้เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเส้นทางเดินโบราณของชาวอินคาครับ ดูน่าสนใจทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:44:21

ความคิดเห็นที่ 75 ผมเองก็อ่านออกไม่หมด 100% หรอกครับ.... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:45:17

ความคิดเห็นที่ 76 แต่ว่าแค่ดูรูปบางทีก็ทำให้เราพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้เช่นเดียวกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:46:07

ความคิดเห็นที่ 77 ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือนิทรรศการถาวรที่จัดแสดงเกี่ยวกับผลพวงทางประวัติศาสตร์ที่กลุ่มคอมมิวนิสต์หัวรุนแรง “Shining Path” เคยก่อขึ้นในเปรูเมื่อสามสิบก่อนครับ และคณะกรรมการค้นหาความจริงของความรุนแรงโดยกลุ่ม Shining Path ก็เพิ่งจะสรุปผลการค้นหาได้เมื่อ 6 ปีที่แล้วเท่านั้นเอง และทางการเปรูจึงได้นำมาจัดเป็นนิทรรศการถาวรขึ้นที่นี่ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:48:15

ความคิดเห็นที่ 78 ในสมัยนั้นนับได้ว่ากลุ่มนี้หากเจอใครที่เห็นต่างหรือเห็นไม่ตรงกันในทางการเมือง ก็จะสั่งฆ่าไม่เหลือ หรือไม่ก็ทำร้ายจนพิการ นับเป็นความโหดร้ายที่เป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์เปรูจนถึงทุกวันนี้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:50:06

ความคิดเห็นที่ 79 พอเสร็จจากการชมนิทรรศการที่อยากชมแล้ว ก็ได้เวลาไปกันต่อแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:50:36

ความคิดเห็นที่ 80 ระหว่างนั่งรถเมล์อยู่ ก็สะดุดตากับเจ้านี่ นี่เปรูก็ผลิต iPad กับเขาเหมือนกันเหรอครับเนี่ย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:51:20

ความคิดเห็นที่ 81 บรรยากาศภายในรถเมล์ระหว่างทางครับ คราวนี้เราจะย้อนกลับไป Miraflores กันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อ... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:51:45

ความคิดเห็นที่ 82 เพื่อที่จะมากันยังร้านนี้ซึ่งนับได้ว่าเป็นร้านอาหารทะเลที่มีชื่อแห่งหนึ่งของลิม่าครับ ซึ่งเป็นร้านเดียวกันกับในรีวิวของคุณ ha-meow ตามลิงค์นี้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11584490/E11584490.html จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:52:17

ความคิดเห็นที่ 83 และที่เป็นจุดเด่นมากๆ ของที่นี่ก็คือชื่อเมนูครับ ซึ่งจะออกมาใน Theme เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ทั้งนั้น ซึ่งผมเองไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ครับ ในรีวิวของคุณ ha-meow อธิบายไว้ครบถ้วนแล้วครับเกี่ยวกับเรื่องของร้านนี้ แถมบังเอิญมากครับ ว่าเมนูที่ผมสั่งก็เป็นเมนูเดียวกับในรีวิวของคุณ ha-meow เป๊ะๆ! ทั้งๆ ที่ผมยังไม่เคยเห็นรีวิวของคุณ ha-meow มาก่อนเลยในขณะที่ผมอยู่อเมริกาใต้ด้วยซ้ำ จริงๆ สาเหตุที่ผมสั่งเมนูนี้ก็เพราะว่าผมทานอาหารทะเลได้เฉพาะปลานั่นเองครับ เริ่มกันที่ตัวเรียกน้ำย่อยครับ สดและฉ่ำดีมากๆ หากอยากให้แซบสะเด็ดก็บีบมะนาวใส่เพิ่มได้เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:53:12

ความคิดเห็นที่ 84 และจานหลักของเราครับ Generosity vs Greed - Capital Cebiche 3x3 ซึ่งเหตุที่เรียกว่า 3x3 ก็เพราะมีปลาทั้งสิ้นสามชนิด ก็คือ ทูน่า แซลมอน และ Sole นั่นเองครับ แถมยังมีหัวหอมและพริกอีกอย่างละ 3 ชนิดอีกด้วย ต้องขอบคุณข้อมูลจากคุณ ha-meow อีกครั้งครับเพราะผมดันลืมอย่างไม่น่าให้อภัยว่าเมนูนี้มันชื่ออะไรกันแน่ สำหรับรสชาติก็จะคล้ายๆ ยำบ้านเราอยู่พอสมควรครับ มีความเผ็ดและความเปรี้ยว หากชอบทานยำผมว่าเมนูนี้น่าจะถูกปากคนไทยกันมากเลยทีเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 01:55:04 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:53:59

ความคิดเห็นที่ 85 ส่วนเครื่องดื่มผมรับ Chicha Morada ซึ่งเป็นน้ำข้าวโพดหมัก มีความเป็นมาเก่าแก่มากตั้งแต่สมัยอินคาเรืองอำนาจ จะมีแอลกอฮอล์อ่อนๆ ประมาณพั้นช์ครับ ส่วนตรง Morada ซึ่งแปลว่าสีม่วง ก็หมายถึงน้ำนี้ทำมาจากข้าวโพดม่วงนั่นเองครับ สำหรับค่าเสียหายก็จานหลักรวมเรียกน้ำย่อย 49 โซล และ Chicha ราคาแก้วละ 7 โซลครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:55:33

ความคิดเห็นที่ 86 พอเสร็จสรรพแล้วผมก็กลับไปยังคอนโดของคุณ Royer อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเก็บของและเตรียมตัวเดินทางกลับครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:55:59

ความคิดเห็นที่ 87 สุภาษิตไทยว่ากันว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ในที่สุดวันคืนของผมในอเมริกาใต้ก็กำลังจะจบลงแล้วครับ พอคุณ Royer กลับมาจากที่ทำงานก็ได้เวลาที่ผมจะต้องบอกลาเขาอย่างเป็นทางการเสียที นี่เองครับคือชั่วเวลาสุดท้ายของการเดินทางในอเมริกาใต้ตลอด 40 วันของผม ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะมาถึงวันนี้ และมันจะต้องจบลงในที่สุดครับ เราต่างบอกลากันและกอดกัน ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คุณ Royer จะเรียกแท็กซี่ให้ผมเพื่อไปยังสนามบินครับ ตกดึกคืนนั้นผมก็เดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานกรุง Lima ครับ ซึ่งผมก็จ่ายค่าแท็กซี่ไปเสีย 13 โซล (ถูกกว่าตอนขามาเพราะผมบอกให้เขาส่งตรงนอกเขตสนามบินแล้วเดินเข้าไปเอง) นับเป็นการใช้เงินโซลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับบ้านครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:58:28

ความคิดเห็นที่ 88 และแล้วก็มาถึงเคาน์เตอร์เช็คอินของ Air Canada ครับ เที่ยวบินที่ผมจะบินกลับในวันนี้คือ Lima (LIM) - Toronto (YYZ) - Los Angeles (LAX) ครับ แต่แล้วก็ยังไม่วายโดนสอบอีกจนได้ไม่ต่างอะไรไปกับตอนผมเดินทางออกจาก Los Angeles ในตอนแรกเลย เฮ้อ... หน้าตาผมมันเหมือนคนเถื่อนนักหรือไงครับหา...... กลัวว่าผมจะลักลอบหนีเข้าแคนาดาหรือไงครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:58:59