ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นก็ขอกางแผนที่เดินทางในภาพรวมให้ดูก่อน ทริปตอนนี้เป็นการเดินทางยาวประมาณครึ่งของเส้นทางทั้งหมด โดยเป็นการเดินทางตอนกลางคืนวันที่ 15 เกือบทั้งหมด จนรุ่งเช้าวันที่ 16 ถึงออกค้นหาท่าเรือไปเกาะเต่า ด้วยเส้นสีฟ้าในแผนที่ข้างล่าง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:02:58

ความคิดเห็นที่ 2 การเดินทางออกจาก สงขลา คืนนี้คงจะยาวนาน จำต้องแวะหาอะไรกินให้หนักท้องไว้ก่อนครับ เวลาตอนนั้นประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆเอง  มองหาร้านอาหารข้างทางไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็แตะตาด้วยร้านอาหารอีสานไก่ย่างส้มตำ ที่ดูดีหน่อย (ความจริงขับรถเลยไปแล้ว ค่อยๆ ถอยหลังกลับมา) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:06:19

ความคิดเห็นที่ 3 ร้านนี้ดูดี แต่งร้านได้สวยเลยถ่ายภาพมาไว้เป็นตัวอย่าง(เผื่อในอนาคต ผมอาจมีร้านของตัวเองบ้าง...) ร้านนี้เขามี 2 ประตู ผมเข้าทางประตูที่สอง(ทางออก) ดูเงียบๆ ไม่มีลูกค้า พอเข้าไปจอดก็มีคนตามเข้ามาพอดี ภาพขวา : จอดรถตรงหน้าร้านอาหารอีสาน  แปลกดีนะครับ มาใต้แต่กลับเจออาหารอีสาน ชอบใจอาคารร้านเลยถ่ายมาดูกัน ภาพซ้าย : หันไปทางซ้าย เป็นแถวร้านขายขนมเล็กๆ เรียงรายกันอยู่หลังรั้วด้านหน้า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:10:28

ความคิดเห็นที่ 4     รอชมต่อ    ขอบคุณครับ จากคุณ : น้า Low Batt เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:11:29

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพบน : สั่งอาหารแล้วก็ถามหาห้องน้ำ เขาบอกให้ข้ามไปฝั่งโน้น(ทางเข้า) โอ้ว...นึกว่าคนละร้านซะอีก เห็นอาคารดูสวยดีจนผมไม่กล้าเข้าแต่แรก (นี่ละหนา.. ถ้าแต่งร้านดีๆ เกินไป ลูกค้าท้องถิ่น หรือ ที่มีเงินน้อยๆ อาจไม่กล้าเข้า) ชอบใจหลังคาทรงโค้งครึ่งเดียว ดูแปลกตา เลยถ่ายมาให้ดูกัน (ทีแรกก็กะจะถ่ายเล็กๆ ทำไปทำมาก็เลยถ่ายเป็นเรื่องราวมาเลย เสียกระสุน Memory ไป 40 ภาพ!) ภาพล่างซ้าย : สุขาอยู่ระหว่างอาคาร 2 หลัง พอเดินเข้าไปสังเกตุว่า เป็นทางเดินลอยอยู่เหนือน้ำ มีสระตื้นๆอยู่โดยรอบ เข้าใจคิดจัง ภาพล่างขวา : ระหว่างเดินผ่านอาคารหน้า มีประตูเปิดอยู่ มองเข้าไปข้างใน ดูเงียบๆ คงยังไม่ถึงเวลาเปิด (ส่วนอาคารหลังไม่ได้ถ่าย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:16:58

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับ คุณน้า Low Batt : พบกันอย่างรวดเร็ว ขอบคุณมากที่ติดตามชมให้กำลังใจมาตลอด ช่วงนี้ผมขอพาเข้าร้านอาหารยามเย็นกันก่อนเดินทางนะครับ ภาพซ้าย :  หน้าห้องน้ำ สังเกตุป้ายบอกหญิงชาย ทำได้สวยมาก ภาพกลาง :  เข้าห้องน้ำล้างหน้าก่อน ต้องรู้สึกแปลกใจว่า หน้าผมทำไมถึงมีผื่นแดงๆ แสบๆ หนาๆ แบบนี้  คงโดนแดดที่พญานาคพ่นน้ำ เพราะตรงนั้นแดดจ้ามากๆ งานนี้กลับมา หน้าผมลอกทั้งหมด ตามด้วยหนังศรีษะลอกตามอีก รวมระยะเวลาเดือนกว่า ถึงเริ่มเข้าสู่ปกติ  คงเป็นเพราะรังสีอุลตร้าไวโลเอ็ตในแสงแดด  ผมไม่ได้สวมอะไรป้องกันเลย ภาพขวา : ทำกิจธุระส่วนตัวแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ มองไปข้างนอก เห็นลานกว้าง และศาลาที่นั่งทานอาหารอยู่ไกลๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:23:04

ความคิดเห็นที่ 7 ผมออกมายังลานกว้าง ตรงกลางพื้นที่ร้านแล้ว มีศาลาทานอาหารหลายหลัง คณะเราเลือกหลังสุด ที่ดูใหม่ และใหญ่ที่สุด  (ภาพข้างล่างนี้ ผมถ่าย 2 ภาพมาต่อกันโดยไม่ได้ตั้งใจแต่แรก ทำให้ดูองค์ประกอบครบดี) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:26:41

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมองมาทางขวา ฝั่งรั้วด้านหน้าร้าน มีต้นไม้ใหญ่ทรงสวยดีแต่ใบโล่งไปหน่อย  ผมได้แสดงให้ทิศทางของเส้นทางบนถนนด้านหน้าร้านด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:28:29

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพซ้าย : หันกลับไปมองทางซ้ายมือ เป็นทางเข้าอาคารด้านหลัง ดูน่าจะเป็นสถานที่จัดเลี้ยงโดยเฉพาะ ดูใหม่มากๆ ส่วนชื่อร้านเหนือประตู นั้นทีแรกผมยังตาฝาดนึกว่าเป็นใบหนาด  ซึ่งที่จริงคือ ใบโหนด ลองไปค้นดูในเน็ต จึงถึงบางอ้อ..ว่า คือ ใบของต้นตาลโตนด คงเป็นคำพูดของคนใต้ ที่ชอบพูดสั้นๆ  อ้อ..ผมลืมดูสัญญลักษณ์ใบตาลไปซะนี่.. ภาพขวา : ถัดไปทางหลังร้านมีอาคารหลังคาโค้ง เกือบครึ่งวงกลม เป็นโรงครัวที่ทำอาหารนะครับ เขาแยกไปจาก ส่วนที่นั่งทานอาหารเลย (เห็นพนักงานเสริฟนำอาหารออกมาจากที่นี่) ถัดไปก็เป็นรั้วด้านหลังร้านที่มีประตูออกไปได้ เป็นถนนที่สามารถย้อนกลับไปยัง เมืองสงขลาหรือเขาแดงได้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:34:12

ความคิดเห็นที่ 10 บัดนี้...อาหารที่สั่งไว้เริ่มทะยอยมาเสริฟแล้ว ณ ศาลาสวยหลังนี้ ท่านผบ.และคุณแม่ขอชิมล่วงหน้าไปก่อน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 13:59:35

ความคิดเห็นที่ 11 อาหารมาครบ คนมาครบ พร้อมลุย อาหารมื้อนี้ต้องทานให้อยู่ท้อง เพราะต้องเดินทางอีกยาวไกลในคืนนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:01:14

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตามไปด้วยคนค่า จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:01:17

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ คุณcostarica : เพื่อนเดินทางยามยากอีกคนในยามกระทู้เปลี่ยวเปล่า.... เชิญติดตามชมต่อได้ครับ กำลังทานอาหารอร่อยๆ อยู่พอดี ภาพบน : เมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็มองหาอาหารตารอบๆ ต่อ เริ่มจากหลังคาศาลาที่นั่งทานอาหาร ที่แฟนผมชอบจนบอกให้ถ่ายมาเป็นแบบ เผื่อไว้สร้างเอง ภาพล่าง : ตามด้วยที่นั่งซ้ายขวา ออกแบบได้สวยดี (เห็นมีขาย แต่ราคาแพงมาก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:05:59

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพซ้าย : ทานเสร็จก็เช็คบิล  สมุดรับ-ทอนเงินของร้าน  ระหว่างที่ผมค้นหาข้อมูลของชื่อร้านแทบไม่น่าเชื่อว่า ร้านนี้มีเฟสบุ๊ค และมีชื่อเสียงขนาดมีเว็บมาทำข่าวเลย  คงเป็นเพราะอาหารพื้นเมือง ของคนท้องถิ่นที่มารวมตัวทำขายกันเอง ภาพขวา : ก่อนกลับขอถ่ายภาพเมนูอาหารไว้อ้างอิงซะหน่อย เผื่อคราวหน้าผ่านมา ราคาคงเปลี่ยนไปจากนี้  เขาออกแบบได้สวย ดูน่ากินดี  หน้าแรกเป็นหัวข้อ "กับแกล้ม" (อุตส่าห์นึกตั้งนาน ตัวอักษรเลือนอ่านไม่ออก) กับ "ยำ" จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:16:01

ความคิดเห็นที่ 15 ไหนๆ ก็ถ่ายแล้ว เอาให้ครบทุกหน้าไปเลย เจอตัวอักษรเลือนอีกแล้ว ต้องคาดเดากันหน่อยเพราะจำไม่ได้แล้วเหมือนกัน ตบท้ายด้วยเครื่องดื่ม งานนี้ไม่มีค่าสปอนเซอร์นะครับ ไม่งั้นเมนูคงไม่เลือนแบบนี้  เห็นอย่างไรก็ถ่ายมาแบบนั้น ส่วนรสชาติก็ใช้ได้ อาจเป็นเพราะกำลังหิวด้วย..ฮิฮิ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 14:21:30 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:20:17

ความคิดเห็นที่ 16 อยู่ๆ เจ้าตัวเล็กก็นึกสนุก ออกมาเต้นๆ ให้ดู เอ้า..หมุนกันเข้าไป เดี๋ยวก็เวียนหัวล้มหรอก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:22:49

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพซ้าย : ระหว่างรอขึ้นรถกลับ เด็กๆ ก็ไปนั่งเล่นที่สวนหย่อมใต้ต้นไม้ใหญ่ ชอบใจชิงช้าไม้ ที่สร้างจากกิ่งไม้คดๆ งอๆ แต่ก็ใช้งานได้ดี ภาพขวา : ตรงหน้ารถที่ผมจอดอยู่ มีกรงนกแขวนอยู่ กรงดูสวยเป็นเอกลักษณ์ของคนทางใต้ ที่นิยมเลี้ยงนกกันมาก แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 14:25:21 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:24:25

ความคิดเห็นที่ 18 แวะมาชมครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:24:42

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับ คุณกัปตันลูกชุบ : ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะเขามาทักทายกัน เชิญติดตามชมกันต่อไปได้ครับ ภาพบน : ออกเดินทางกันต่อ (หลังจากเสียเวลาทานอาหารไปเกือบชั่วโมง) ตามเส้นสีชมพูในภาพแผนที่ คห.1 เป็นเส้นทางเลียบทะเล ซึ่งความจริงแล้วผมอยากใช้เส้นทางนี้ตอนขามา เพื่อจะได้สัมผัสลมทะเลเป็นการชิมลางก่อนถึง สงขลา แต่เนื่องด้วยเวลาไม่พอเลย ขามาต้องวิ่งถนนด้านใน (เพชรเกษม) ขากลับจึงได้มาวิ่งทางนี้ แม้จะใช้เวลามากกว่าก็ตาม ในภาพ มาถึงสามแยก ที่ไป อ.ปากพะยูน ข้ามทะเลสาบสงขลา ไป ถนนเพชรเกษมได้ ภาพกลาง : ระหว่างทางได้สังเกตุเห็น กังหันลมริมทะเลขนาดใหญ่ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้า มองไม่ค่อยเห็นชัด ภาพล่าง : ตรงจุดนี้ มองเห็นกังหันลมได้ชัด ด้านหลังปั๊มน้ำมันฝั่งตรงข้ามพอดี เวลาตอนนั้นประมาณ 6 โมงเย็น ท้องฟ้าเริ่มมืด  ระหว่างทางมองไม่เห็นชายทะเล แม้จะอยู่ใกล้ไม่ถึงกิโลเมตร เพราะมีบ้านคนกับต้นไม้บังไว้ตลอดทาง (เหมือนในภาพกลาง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:35:05

ความคิดเห็นที่ 20 ในที่สุดก็มืดลง น่าเสียดายที่เส้นทางช่วง อ.ระโนด ไปถึง อ.หัวไทร นั้นอยู่ติดทะเลมาก เรียกว่า ประมาณร้อยเมตรเศษเอง แต่ก็มืดจนมองไม่เห็นทะเลแล้ว  คงจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก ถ้าหากเป็นการเดินทางขาไป ที่ได้เลียบทะเลเป็นการชิมลางในระยะทางมากกว่า 20 กิโลเมตรเลย  หลังจากผ่าน อ.หัวไทรแล้วถนนก็เลี้ยวเข้าแผ่นดินใหญ่ ตรงไปยัง เมืองนครศรีธรรมราช เส้นทางนี้อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่า กำลังปรับปรุง ถนนเบี่ยงไปมา ขรุขระ รถวิ่งช้ามาก ทางก็มืด แถมไม่มีปั๊มน้ำมันอีก! เล่นเอาสุภาพสตรีที่มาในรถต้องอึดอัดลุ้นมาตลอดทาง แต่ก็ยังโชคดีที่มีปั๊มอยู่ 1 แห่ง หลังเลย อำเภอเฉลิมพระเกียรติมาไม่นาน ก่อนเข้าเมืองนครฯ เวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ผมเลยถ่ายภาพตำแหน่งใน GPS Map ณ.หน้าห้องน้ำปั๊มมาให้ดูเป็นหลักฐาน ว่าอยู่ตรงไหน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:51:53

ความคิดเห็นที่ 21 กำลังเพลินเลยครับผม รออ่านต่อนะครับ จากคุณ : SONIM เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 16:10:51

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับ คุณSONIM : ด้วยความยินดีครับ พอดีติดธุระ มาต่อกันครับ มาถึงเมืองนครศรีธรรมราช สำหรับคนที่ไม่เคยมาทีนี่มาก่อนอาจรู้สึกงงๆ กับเมืองนี้ ที่ถนนผ่ากลางเมือง ผ่านหน้าวัดมหาธาตุ ที่มีพระบรมธาตุเจดีย์พอดี และยังผ่านศาลหลักเมืองอีก จนมาถึงประตูค่ายทหาร วชิราวุธ... ทางตันไปไหนไม่ได้ ลองลุยเข้าไปดู จนมาออกประตูทางด้านเหนือดังรูป  นับว่าแปลกดี ที่ถนนหลักแท้ๆ กลับมาผ่านที่ทหารไปได้   แต่ถ้าหากได้ศึกษาแผนที่นี้ก่อนก็จะทราบว่า มีทางเลี่ยงเมืองทั้ง 2 ฝั่ง (ทิศตะวันออก กับทิศตะวันตก) ซึ่งทาง ทิศตะวันออก นั้นอยู่ใกล้เมือง (แทบจะถือว่ายังอยู่ในเมืองด้วยซ้ำ) ซึ่งถ้าหากใช้ถนนเดิม ที่ผ่ากลางเมือง เผลอเลยมาจนถึงประตูค่ายทหารด้านใต้ จะไม่มีทางเบี่ยงไปยังถนนเลี่ยงเมืองทิศตะวันออก ต้องถอยหลังกลับไปประมาณครึ่งกิโลเมตร จะมีถนนมณีวัตรเชื่อมระหว่างถนนกลางเมืองกับถนนเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันออก  (ผมดูจากแผนที่ ไม่ได้ทดลองไปจริง ถ้าให้แน่ใจ ควรใช้ถนนราชนิคม ตรงแยกชัยมงคล เลยจะดูแน่นอนกว่า เพราะเป็นถนนที่เชื่อมระหว่าง ทางเลี่ยงเมือง ทั้งสองด้าน) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:00:41

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพซ้าย : ถนนหลักที่ผ่าเมืองนครศรีธรรมราชคือ ถนนราชดำเนิน(ชื่อเหมือนกับที่ถนนที่ผ่านแหลมสมิหลา สงขลา เลย) ได้พามาถึงหน้าวัดมหาธาตุ ผมได้แลเห็นพระบรมธาตุเจดีย์จากริมกำแพงหน้าวัดเลย นับเป็นบุญและเรื่องบังเอิญจริงๆ แม้จะไม่ได้เข้าไปไหว้สักการะข้างใน ก็ขอไหว้จากข้างนอกรั้วนี้แทนก็แล้วกัน (เวลาที่ผมผ่านตอนนั้นเกือบ 3 ทุ่มแล้ว วัดคงปิดไม่ให้เข้า) เอาไว้โอกาสหน้า มาเมืองนครฯ อีก จะเข้าไปไหว้ข้างในเลยครับ ภาพขวา : มองไปที่ตรงกลางองค์พระเจดีย์ ติดตั้งแสงสว่างจ้า  ลองปรับแสงในภาพดู จึงเห็นว่าเป็นองค์พระพุทธรูปปางยืนหันข้างลักษณะภาพนูนสูง ตามเสารอบๆ งดงามมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:09:47

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนบรรยากาศริมถนน ด้านหน้าวัดมหาธาตุ ขณะนั้น เป็นดังในรูปข้างล่างนี้ ค่อนข้างมืด ที่ดูสว่างก็เพียงในวัดมหาธาตุ เท่านั้นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:11:19

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพซ้าย : ขับรถต่อมาอีกเล็กน้อย(ขึ้นเหนือ) ก็ผ่านป้ายชื่อวัดขนาดใหญ่เหนือรั้วกำแพงวัด เลยจอดถ่ายมาให้ดูว่า ผมมาไม่ผิดแน่ แอบเห็นป้ายประชาสัมพันธ์ภาษาอังกฤษ ต้อนรับพุทธศาสนิกชนจากประเทศมาเลเซีย ด้วย ภาพขวา : มองต่อไปข้างหน้า เป็นทางเข้าวัด เห็นรถเลี้ยวเข้าไป ดึกแล้ววัดยังไม่ปิดหรือ ผมไม่แน่ใจ ก็เลยไม่ได้ตามเข้าไป จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:15:17

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพบน : ผมผ่านหน้าศาลากลางเมืองนครศรีธรรมราชมา ติดไฟแดงที่สี่แยก ย่านนี้ดูมีผู้คนเยอะเหมือนแถวๆ ปริมณฑลกรุงเทพฯ  เลยถ่ายมาให้ดูแสงสียามค่ำคืน กลางเมืองนครฯ ภาพกลาง : ตอนนี้กำลังผ่านหน้าศาลหลักเมืองนครฯ ผู้คนขวักไขว่ คงกำลังมีงานฉลองอยู่ ภาพล่าง : มาถึงสี่แยกท่าวัง ที่เลี้ยวซ้ายไปสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชได้  พอดีรถติดไฟแดงเลยได้ภาพมา (บังเอิญติดป้ายชื่อสี่แยกมาด้วย) นับเป็นเมืองที่ยาวมากๆ ระยะทางแนวเหนือใต้ โดยประมาณ 9 กิโลเมตร จากสี่แยกตัดถนน 403 (เลี่ยงเมืองด้านใต้) ถึงประตูด้านใต้ของค่ายทหารวชิราวุธ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:25:41

ความคิดเห็นที่ 27 ระหว่างผ่านหน้างานฉลองศาลหลักเมือง ผมได้ถ่ายคลิ๊ปวิดีโอไว้ด้วย นับเป็นคลิ๊ปปิดท้ายทริปนี้ เพราะหน่วยความจำในกล้องผมใกล้หมดเต็มที  ผมเลยใส่เสียงเพลงมาให้เพื่อเพิ่มบรรยากาศ เมืองนครฯ ยามค่ำคืนที่ครึกครื้น (กลับมาดูคลิ๊ปแล้วนึกเสียวเหมือนกันที่ ถ่ายไปขณะขับรถไป รถก็เยอะ แต่ได้อารมณ์ดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:31:15

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพบน : หลังจากตรงเข้ามาในค่ายทหารวชิราวุธ สักพัก ก็เจอเข้ากับอนุสาวรีย์กลางวงเวียน  (แสงน้อยเลยถ่ายออกมาเบลอ) เป็นอนุสาวรีย์ไทย (นิยมเรียกว่า "พ่อจ่าดำ") ของทหารกล้าที่สละชีพ เมื่อคราวญี่ปุ่นบุกไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพจากเว็บ โอเคเนชั่น ของคุณมะอึก นำลงเว็บเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 http://www.oknation.net/blog/panakom/2010/02/18/entry-1 ซึ่งคุณมะอึกได้ลงข้อมูลประวัติอย่างละเอียดถึงอนุสาวรีย์แห่งนี้ และรูปถ่ายอีกหลายมุมมองครับ ภาพล่าง : ผมออกมาจากค่ายทหาร ทางประตูด้านเหนือแล้ว จอดรถหันกลับไปมองอีกที (ตอนเข้ามาไม่ได้ถ่าย เพราะกลัวทหารยามเขาจะมองว่าผมมีพิรุธ) จะเห็นถนนอ้อมค่ายไปทางเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันออก (สาย 4012) ด้วย อ้อ..เห็นตัวเลขประจำถนนแล้วอย่างง ถนนเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันตกสาย 4103 ไม่ใช่ 4013 นะครับ  (ให้ย้อนกลับไปดูแผนที่คห.22 ด้วย) แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 17:41:34 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:37:40

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพซ้าย : ผมออกมาจากเมืองนครฯ ตามเส้นสีน้ำเงินในแผนที่ คห.1 มาตามถนนสาย 401 เลียบทะเลอีกครั้ง ในช่วงอำเภอท่าศาลา กับ อำเภอสิชล ในระยะทางไม่เกิน 2 กิโลเมตร ซึ่งน่าเสียดายที่บรรยากาศมืดมิด เลยมองไม่เห็นทะเลใดๆ  จนมาแวะปั๊มน้ำมันก่อนเข้าเมืองสุราษฎร์ ใกล้ทางแยกตัดกับต้นถนนสาย 44 ที่มุ่งไป อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่โน้น  ป้ายด้านหน้าปั๊มมีสัญญลักษณ์รูปไก่สีเหลืองด้วย ภาพขวา : ผมเคยได้ยินกิติศัพท์เล่าลือจากคนทางใต้ว่า ปั๊มตราไก่ดีที่สุด นับเป็นเรื่องบังเอิญที่ได้แวะเข้ามา ดูใหม่ทันสมัยดี ไม่ปิดแม้เวลา 5 ทุ่มไม่ค่อยมีรถเข้ามาใช้บริการแล้วก็ตาม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:10:55

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพบน : เป้าหมายของผมที่แวะที่นี่ เพราะง่วงนอนครับ  หนทางกว่าจะถึงกรุงเทพฯ ยังอีกไกล (ตอนนั้นยังไม่คิดจะแวะพักที่ชุมพร)  หาอะไรโด๊ป ทานแก้ง่วงดีกว่า  ขวามือเป็นร้านสะดวกซื้อ ดูไม่คุ้นตานัก ภาพล่าง : หาของกิน ทานเสร็จแล้วก็มองหาห้องสุขา อยู่ด้านหลังสุด ทางเดินหน้าร้านสะดวกซื้อนี้เลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:13:40

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพซ้าย : ถัดจากร้านค้าไป เจอเจ้านี่ เครื่องปั่นไฟสำรอง ทำสะอาด สีสดสวย โชว์ได้ ดูมาตรฐานจริงๆ (ไม่เคยเห็นแบบนี้ ส่วนใหญ่ จะซ่อนไว้ในอาคาร ในสภาพสกปรกมอมแมม) นับว่าเป็นสิ่งที่สะดุดตาผมอย่างแรก สำหรับที่นี่ ภาพขวา : มองย้อนกลับไปทางที่เดินมาจากร้านค้า ชอบใจผนังที่ติดกระเบื้องหินกาบ โอย..จะเอาไปประกวดเป็นปั๊มดีเด่น หรือไงนี่... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพบน : มาถึงห้องสุขาแล้ว โอ้โฮ..สะอาด ใหม่ หรู ราวกับห้างในกรุงเทพฯเลย  แม้ว่าจะอยู่กลางแจ้งนะนี่.. ใครได้แวะเข้ามาถ่าย นับเป็นบุญของก้น...ฮา ภาพล่าง : ถ่ายภาพตัวเองที่กระจก หน้าห้องสุขา ยกนิ้วให้ดู แสดงว่า "ยังสู้" หมายถึงคืนนี้จะขับรถตลุยราตรี ให้ถึงกรุงเทพฯเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:20:48

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพบน : เดินอ้อมมายังข้างหลังอาคารสุขา เป็นที่ปัสสาวะ ดูเนี๊ยบมาก นับเป็นโชคของคนที่ได้มาแวะปั๊มนี้  สำหรับผมได้บันทึกตำแหน่งไว้ใน GPS Map เลย ภาพล่าง : ขากลับออกมา เดินผ่านห้องส้วมข้างใน ดูดีมีกระจก เลยถ่ายตัวเองมาอีกภาพ (ว่าแต่ ทำไมดูมีพุงอ้วนจัง..ฮา) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:23:49

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนแรกไม่คิดจะแวะชุมพร หน่วยความจำในกล้องยังเหลือ เลยถ่ายภาพแก้ง่วงไปพลางๆ ภาพซ้าย : เป็นน้ำตกแบบม่าน แต่มองไม่ค่อยเห็นสายน้ำนัก ภาพกลาง : เหลือบเห็นประติมากรรมนูนสูง ติดผนังกำแพงด้านหลังปั๊ม เป็นรูปมังกร 2 ตัว มีเกล็ดมันวับเหมือนงูใหญ่ที่มีชีวิต ภาพขวา : ตรงนี้เป็นรูปปั้นพระพิฆเนศ ผู้มีเศียรเป็นช้าง มี 4 กรดูขลังนัก (ถ่ายภาพแล้วต้องไหว้แสดงความเคารพด้วย) แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 18:34:47 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:27:44

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพบน : มีประติมากรรมแบบเกษตรกรรม รูปชาวนากำลังนวดข้าวด้วย ภาพล่าง : ภาพนี้หลากหลายกิจกรรมดั้งเดิมของชาวนา ดูมีมิติดี  เจ้าของปั๊มเป็นผู้มีสุนทรีย์ในศิลปะจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:30:55

ความคิดเห็นที่ 36 ยังเหลือประติมากรรมอีกชิ้น อันนี้จัดวางไว้โดดเด่นมาก เหมือนประธานเลย เป็นรูปโขลงช้างในป่า กำลังใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ลองนับดูซิครับ ว่ามีกี่ตัว ? จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:33:06

ความคิดเห็นที่ 37 ลองเดินเข้ามาสัมผัสใกล้ๆ กับประติมากรรมแบบนูนสูง ที่สร้างจากแผ่นปูนสี่เหลี่ยมมาต่อรวมกัน  ดูไปดูมาก็รู้สึกชอบ  โดยเฉพาะกับบรรยากาศแสงยามค่ำคืนอย่างนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:37:18

ความคิดเห็นที่ 38 แต่แล้ว ในที่สุด การเดินทางในคืนนี้ก็ต้องสิ้นสุดลงที่ ชุมพร เพราะตี 3 แล้วยังมาได้แค่นี้ ยังอีกไกลกว่าจะถึงกรุงเทพฯ ชาวคณะและตัวผมก็อ่อนล้าอยากพักผ่อนกันเต็มที่ เลี้ยวขวาจาก ถนนเพชรเกษมเข้าเมืองชุมพร มองหาที่พักอย่างเร่งด่วน ในที่สุดก็ได้ที่นี่ "สวนหินน้ำรีสอร์ท" เปิด 2 ห้อง เตียงคู่ หนึ่งห้อง เตียงเดี่ยวหนึ่งห้อง ห้องไม่ติดกัน  โชคดีที่เป็นเรือนแถวชั้นเดียว รถเข้ามาจอดได้ถึงหน้าประตูห้อง ขนของสะดวก ผู้สูงอายุก็สบาย ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:22:08

ความคิดเห็นที่ 39 มากัน 6 + 1 ตัวเล็ก ห้องซ้ายผมนอนกับท่านผบ.บ้าน ที่เหลือไปนอนอัดกันห้องขวามือ (ทั้งๆ ที่เรียกมาให้นอนด้วยกันก็ไม่ยอม คงเกรงใจผมที่เป็นเจ้ามือ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:24:29

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพขวา : ไม่ลืมที่จะบันทึกภาพห้องพัก ไว้โอกาสหน้าจะได้ตัดสินใจว่าจะมาพักที่นี่อีกหรือไม่  เริ่มจากห้องเตียงคู่ ที่ชาวคณะที่เหลือนอนกัน 4 คน กับ ตัวเล็กอีก 1 ภาพซ้าย :  สักพักเจ้าตัวเล็กก็มายืนจ้องเอา คงอยากจะนอนแล้วกระมัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:27:42

ความคิดเห็นที่ 41 ภาพซ้าย : มีแอร์ติดอยู่ผนังด้านหลังห้อง ตรงนี้เลยทำให้ไม่ค่อยเย็นทันใจนัก ประตูห้องน้ำอยู่ติดกัน ภาพขวา : เข้ามาดูในห้องน้ำ สังเกตุดูสุขภัณฑ์ทุกอย่างติดอยู่กับผนังด้านหลัง ทำให้สะดวกต่อการเดินท่อต่างๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:30:07

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพซ้าย : ผมกลับมาที่ห้องผม เป็นเตียงเดี่ยว คืนนี้ คงเป็นสวีทรูมแน่นอน...ฮา ภาพกลาง : หันกลับมามองผนังด้านหน้าห้องเป็นหน้าต่างปิดด้วยม่าน ประตูห้องอยู่ถัดมา ภาพขวา : ไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว คนๆนี้ถ่ายมาทั้งวัน ตี 3 แล้วก็ยังไม่เลิกถ่าย...ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:32:42

ความคิดเห็นที่ 43 ก่อนนอน เหลือบเห็นป้ายข้อมูลต่างๆ ตรงผนังด้านหน้าห้องติดกับประตู เป็นเมนูอาหาร ที่ช่วงนี้ปิดให้บริการ เพราะพนักงานลาพักร้อนกันหลายคน...อ้าว.. ช่วงเทศกาลนี่นะ แขกเยอะ ดันลาซะนี่..  ถัดมาเป็นป้ายแนะนำเรื่องการเช็คเอาท์ ระยะทางจากเคาท์เตอร์บริการถึง ห้องนี่ไกลพอดู เลยให้โทรบอกล่วงหน้าก่อน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:35:11

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพซ้าย : เช้าแล้ว มาเดินสำรวจรีสอร์ทที่พักกัน เผื่อจะได้เห็นอะไรสวยๆ แปลกๆ บ้าง เดินมาไม่ไกล เมื่อคืนดูไกลก็เพราะความมืด ภาพขวา : มองมาทางขวามือ เป็นทางเข้ามาจากถนนใหญ่ด้านหน้า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:37:18

ความคิดเห็นที่ 45 หันหลังกลับไป เป็นมุมมองเมื่อเข้ามาในบริเวณรีสอร์ท ข้างหน้าเป็นถนนหลัก (Main Road) เมื่อคืนผมเข้ามาแบบงงๆ  มีสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งเล่นทางขวามือ ถัดไปเป็นถนนซอยเข้าไปยังห้องพักผม   ส่วนด้านหลังมองไปไกลๆ จะเห็นถังน้ำอยู่ติดกำแพงด้านหลังเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:39:48

ความคิดเห็นที่ 46 มาเดินชมห้องพักกันดีกว่า ดูใหม่มาก คงเพิ่งสร้างไม่นาน เพราะในแผนที่ดาวเทียมยังเห็นเป็นป่าละเมาะอยู่เลย ภาพซ้าย : เริ่มจากซอยแรก บ้านพักแถวแรก ดันหันหน้าออกไปข้างหน้ารีสอร์ท ไม่ได้หันมาทางซอยนี้ แปลกจริงๆ ภาพกลาง : ซอยที่สอง ถัดเข้าไปข้างใน เป็นบ้านเหมือนกับแถวแรก แต่หันหน้าเข้ามายังซอย (หันหลังให้กับด้านหน้ารีสอร์ท)  ถ้าสร้างเป็นบ้านที่อยู่อาศัยส่วนตัว จะเหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่ยังไม่มีลูก ภาพขวา : ซอยที่สาม ถัดเข้าไปอีก เป็นห้องใหญ่ แต่ออกแบบเรียบๆ เน้นจุคนมากกว่า ห้องพักที่นี่เยอะจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:05:36

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพซ้าย : ยังไม่หมด ด้านในสุดติดกำแพงรั้วด้านหลัง ใกล้ถังน้ำประปา ยังมีห้องพักอีกแถว ภาพขวา : ตรงนี้เป็น 4 แยก ซ้ายมือเป็นซอย 3 ขวามือเป็นทางแยกไปยังเรือนแถวห้องพักผม หัวมุมมีสวนหย่อมอีกจุด เป็นแบบน้ำตก ไม่ได้เปิดน้ำให้ไหลไว้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:09:04

ความคิดเห็นที่ 48 ถัดจากสวนหย่อมน้ำตก ก็คือทางไปยังเรือนแถวห้องพักผมนั่นเอง ตอนนี้เหลือรถผมจอดอยู่คันเดียว เวลาตอนนั้นประมาณ 5 โมงเช้าลูกค้าคนอื่นเขาเช็คเอาท์กันไปหมดแล้ว อ้อ..พอดีไฟฟ้าดับด้วยเลยทำให้คนรีบออกไปกันเร็วขึ้น นับเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ทำให้ผมต้องอาบน้ำเย็นไปโดยปริยาย  หม้อแปลงด้านหน้ารีสอร์ทระเบิด รีสอร์ทต้องจ่ายเงินค่าหม้อแปลงใหม่เองทาง จนท.บริการเขาเล่าให้ฟัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:12:40

ความคิดเห็นที่ 49 ตามที่ผมถนัดคือ ออกมาทานข้าวเช้าก่อนแล้วย้อนกลับไปเข้าห้องน้ำในห้องพักอีกที เลี้ยวรถออกมาหาอาหารทานในเมืองกัน โชคดีได้ร้านอาหารจานเดียว ไม่ไกลจากรีสอร์ท เพราะเดี๋ยวต้องรีบกลับไปเช็คเอาท์ กลัวไม่ทันเที่ยงวันอยู่เหมือนกัน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:14:50

ความคิดเห็นที่ 50 ภาพซ้าย : ทานมื้อเช้าเสร็จแล้วก็ไปกลับรถย้อนมารีสอร์ท  ระยะทางประมาณ 500 เมตร (จากภาพ ผมเพิ่งสังเกตุเห็นร้านอาหารที่ผมกินอยู่ก่อนถึงวัดอุทัยธรรม) ภาพขวา : กลับมาถึงปากซอยทางเข้ารีสอร์ทแล้ว ทางจนท.การไฟฟ้ากำลังเปลี่ยนหม้อแปลงอยู่ ไม่เสร็จ เลยมองไม่เห็นทางเข้า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:23:14

ความคิดเห็นที่ 51 ภาพบน : กลับเข้ามาที่รีสอร์ทที่พักอีกที เพื่อเข้าห้องน้ำ และเช็คเอาท์ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะเที่ยงวัน ภาพล่าง : กำลังรอเช็คเอาท์ที่เคาน์เตอร์บริการด้านหน้า สังเกตุดู ครัวบริการอาหารคงอยู่ตรงนี้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:25:37

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพบน : ออกมาจากรีสอร์ท ก็รีบลุยเข้าเมืองชุมพรทันที เป้าหมายไปหาท่าเรือเกาะเต่ากัน ว่าอยู่ตรงไหน  ผมไม่ได้ค้นหาข้อมูลมาก่อน น่าจะมีป้ายบอกทางไป  ผมวิ่งเข้ามาไม่ไกล สังเกตุเห็นป้ายจราจรข้างหน้า ดูแปลกดี เป็นสามแยก เอ้ย..สี่แยก มีกิ่งเฉียงเพิ่มขึ้นมาที่มุมบนซ้าย ภาพล่าง : เลยเข้ามาหน่อย ได้เห็นป้ายบอกทาง ก็เลยได้เฉลยว่า ทางสี่แยกนี้เป็นอย่างไร แท้จริงก็คือ 3 แยกด้านซ้ายมือ โดยมี 1 แยกที่เฉียงๆ นั่นแหละเป็นทางตันเพิ่มเข้ามาอีกแยก (แต่ผมดูจากแผนที่ดาวเทียมแล้ว ทางนี้ไม่ได้ตัน แต่จะข้ามทางรถไฟไปฝั่งได้  บางทีอาจเป็นแค่ทางรถมอเตอร์ไซด์ หรือทางลูกรัง ป้ายเลยบอกว่าเป็นทางตัน) วันนี้ขอพักกระทู้ตอนนี้ไว้ก่อน พรุ่งนี้มาต่อกันให้จบ ครับ ที่หาดทรายรี ที่มาพบโดยบังเอิญ ในระหว่างค้นหาท่าเรือไปเกาะเต่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:31:41

ความคิดเห็นที่ 53 ตามไปเที่ยวค่ะ   เพิ่งรู้ว่ามีอนุสาวรีย์วีรไทย    มีโอกาสเมื่อไรต้องขอดั้นด้นไปเยี่ยมพ่อจ่าดำบ้างล่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 00:43:31

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับ คุณป้าฟู : ไม่ได้พบกันตอนสองตอนแล้ว  ขอบคุณที่ยังติดตามครับ ผมเองก็เพิ่งทราบว่าเป็นอนุสาวรีย์วีรไทย อยู่ในค่ายทหารวชิราวุธ เมืองนครศรีธรรมราช เห็นครั้งแรกก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันครับ วันนี้มาต่อกันแต่เช้าให้จบครับ เพราะวันนี้ที่ทำงาน มีกินเลี้ยงปีใหม่ด้วย ในเส้นทางเข้าเมืองชุมพร เพื่อไปค้นหาท่าเรือไปเกาะเต่า นั้น นับว่าซับซ้อนพอสมควรสำหรับคนที่ไม่เคยมาที่นี่  สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลของ จังหวัดชุมพร นอกจากจะเป็นชายหาด ที่มีหลายแห่ง แล้วก็ยังมีหมู่เกาะด้วย  ที่คาดไม่ถึงก็คือ หาดส่วนใหญ่จะอยู่ไปทางใต้ของเมือง ยกเว้นหาดทุ่งวัวแล่นที่อยู่ด้านเหนือ ในอำเภอปะทิว และที่น่าประหลาดใจก็คือ ปากน้ำชุมพร ที่น่าจะอยู่ติดกับตัวเมืองชุมพร กลับอยู่ห่างลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่า 10 กิโลเมตรเลย ซึ่งทั้งหมดผมขอแสดงให้เห็นด้วยภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล ครับ  ซึ่งเส้นทางเดินรถของผมแสดงด้วยเส้นสีฟ้า (เส้นสีเขียวจะเป็นตอนถัดไปครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:43:01

ความคิดเห็นที่ 55 แผนที่ข้างบน ต้องขออภัยที่ต้องเว้นช่องว่างขาวๆ ไว้เพื่อประหยัดเนื้อที่ของไฟล์ภาพที่ เว็บพันทิปกำหนดให้ไม่เกิน 200 K  แต่ยังโชคดีที่ไม่บังคับเรื่องขนาดของภาพ ไม่งั้นเพื่อนๆ ก็คงไม่สามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจน (ภาพคงเล็กจิ๋ว) มาเริ่มเดินทางด้วยภาพ โดยอ้างอิงแผนที่ข้างบนกันดีกว่าครับ ภาพบน : จากสี่แยกทะแยงซ้าย ในคห.52 ก็มาตามถนน (เหมือนจะเลี่ยงเมืองทางด้านใต้) มาชนกับถนนสาย 4001 ตรงสามแยก ที่มีโรงพยาบาลหมอเล็กตั้งประจันหน้า แบบทางสามแพร่งพอดี  ให้เลี้ยวขวาครับ ภาพล่าง :  เลี้ยวขวามาปุ๊บก็เจอเข้ากับป้ายบอกทางไปท่าเรือเกาะเต่า พอมีกำลังใจหน่อยว่ามีโอกาสไปถึง เพราะเวลาตอนนั้นก็เที่ยงครึ่งไปแล้ว ถ้ามัวมาหลงทางก็จะกลับกรุงเทพฯ ดึกอีก สาเหตุหนึ่งที่อยากไปเกาะเต่า เพราะชอบเกาะนางยวนที่มีชายหาดเชื่อมกันระหว่างเกาะเล็กๆ อีก 2 เกาะ อยากไปเห็นสักครั้ง สี่แยกข้างหน้า เลี้ยวซ้ายไปโรงพยาบาลชุมพร และสนามกีฬากลางชุมพรได้ ถือว่าเลี้ยวเข้าเมืองชุมพรนั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:52:16

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพบน : มาถึงสี่แยกเลี้ยวเข้าเมือง ไปโรงพยาบาลชุมพร และสนามกีฬากลางชุมพรแล้ว ผมตรงไป ภาพล่าง : วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จนถึงแม่น้ำตะเภา ที่ถือเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองชุมพร ในภาพข้างล่างกำลังจะข้ามสะพาน มีป้ายบอกทางไปปากน้ำชุมพรทั้งสองฝั่ง เพราะถ้าข้ามสะพานนี้ไป ก็คือฝั่งใต้ ซึ่งท่าเรือไปเกาะเต่าต้องตรงไปครับ ซึ่งจะผ่านหาดทรายรีด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:57:06

ความคิดเห็นที่ 57 ภาพบน : ข้ามสะพานลงมาก็เจอทางแยกซ้าย ไปท่าเรือ บริษัทสยามคาตามารัน ที่พาไปเที่ยวหมู่เกาะชุมพร ไม่ใช่ไปเกาะเต่า ภาพล่าง : ผ่านโค้งมาก็เป็นทางตรงแน่ว มีซุ้มต้นไม้ที่เกือบจะโอบลงมาเป็นอุโมงค์ต้นไม้เล็กๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:59:41

ความคิดเห็นที่ 58 ภาพบน : เกือบจะถึงปากน้ำชุมพรฝั่งใต้ มีทางแยกฝั่งขวา ต้องเลี้ยวไปทางนี้ ที่จะตรงไปท่าเรือเกาะเต่า และหาดทรายรี  สังเกตุเห็นป้ายบอกทางไป อุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร อยู่ใกล้ๆ  (ถ้าต้องการไปอุทยานฯ เลี้ยวขวาตรงนี้ แล้วก็เลี้ยวขวาที่ซอยด้านขวาอีกที ดูจากแผนที่ คห.54 จะเข้าใจง่าย) ภาพล่าง : เลยทางแยกเข้ามาเล็กน้อย ก็ถึงสามแยกตัววาย ไม่ต้องงง ถนนหลักเลี้ยวซ้ายครับ  ตรงนี้มีป้ายประชาสัมพันธ์ทัวร์พาเที่ยวเกาะเต่า ของ บริษัท เอ็ม.ที.รีสอร์ทด้วย (ความจริงก็เป็นจุดเดียวกับที่ท่าเรือไปเกาะเต่านั่นแหละ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:05:11

ความคิดเห็นที่ 59 ภาพบน : ข้างหน้าเป็นโค้งหักศอก มีทางแยกไปทางซ้าย ขึ้นไปยังจุดชมวิวเขามัทรี  ถ้ามีเวลาก็น่าจะแวะขึ้นไป เพราะจะเห็นวิวปากน้ำชุมพร และหาดภราดรภาพได้กว้างไกล ภาพกลาง : ยังอยู่ในโค้ง ถนนกำลังจะลาดลงไป เริ่มมองเห็นทะเลอยู่ข้างหน้า ค่อยๆ ลุ้นโผล่ออกมาให้เห็น สวยมาก ภาพล่าง : ต่อมาเป็นโค้งลงเขาที่สวยมากๆ แถมถ่ายภาพยากมากด้วย ต้องอาศัยจังหวะที่เหมาะสม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:24:07

ความคิดเห็นที่ 60 น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิวบนเขามัทรี ลองค้นหาภาพจากในเน็ตดู ที่คนเขาเคยไปเที่ยวและถ่ายมา ดังแสดงข้างล่าง วิว 2 ด้าน (ด้านเหนือ - ปากน้ำชุมพร, ด้านใต้ - หาดภราดรภาพ) ถ่ายโดยคุณ Chone Chevy ลงในเว็บ www.chomthai.com เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2553 ทั้งสองภาพ ลิ้งค์ที่มา http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=3108 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 09:32:17 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:31:22

ความคิดเห็นที่ 61 และเป็นที่น่าประหลาดใจว่า บนจุดชมวิวเขามัทรีนี้ มีรูปปั้น พระโพธิสัตว์กวนอิน ปางนั่ง ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพจากเว็บ "ไปด้วยกันดอทคอม" ลิ้งค์ที่มาของภาพ http://www.paiduaykan.com/province/south/chumphon/khaomatsee.html ถ้าได้ไปชุมพรคราวหน้า ผมไม่พลาดแน่นอนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:34:28

ความคิดเห็นที่ 62 ภาพบน : สุดโค้งลาดลงมาแล้วก็เป็นหาดภราดรภาพ ที่ทอดยาวไปไกลประมาณ 2 กิโลเมตร และตรงเชิงทางลง มีทางแยกแอบอยู่ทางซ้ายมือ เป็นทางไปยังปากน้ำชุมพรฝั่งใต้ได้  (ขากลับผมยังได้ลองวิ่งมาทางนี้ด้วย) ภาพกลาง : หาดนี้มีที่พักริมทะเล และร้านอาหารเยอะ แต่บรรยากาศเงียบสงบมาก แม้จะเป็นเทศกาลสงกรานต์ (คงอาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของวันหยุดยาว คนเลยกลับบ้านกันไปหมด) ภาพล่าง : มองไปในทะเลทางด้านซ้ายมือ เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ที่มีเกาะมากมาย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:41:41

ความคิดเห็นที่ 63 สุดแนวหาดภราดรภาพ แล้ว ถนนก็พาเลี้ยวออกจากแนวชายทะเล อ้อมหลังเขา มีทางแยกเลี้ยวซ้ายมายังหาดทรายรี (ไหนๆ ก็ผ่านมาแล้วขอแวะชมหน่อย เพราะถือว่าเป็นหาดแรกของวันนี้) ก่อนถึงหาดก็เจอป้าย "ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" (ที่จริงเคยเห็นว่าเป็น ...เขตรอุดมศักดิ์ นะครับ)   แต่ที่สะดุดตาคือ เรือรบจอดอยู่ตรงนี้ คงต้องลงไปดูกันแล้ว ว่ามีเรือมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร อ้อ..และทางแยกซ้ายมือในภาพที่ขึ้นเขาไป นั้นผมเองไม่ทราบว่าไปยังศาลกรมหลวงชุมพรฯ หลังใหม่ เพิ่งมาทราบตอนจัดเตรียมภาพนี้เอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:47:47

ความคิดเห็นที่ 64 ผมเดินเข้าไปหลังป้ายตรงหัวมุมถนน ก็ต้องตะลึงกับเรือรบที่จอดอยู่บนฝั่ง ผมไม่ทราบมาก่อนต้องแวะเข้าไปดูกันก่อนแล้ว (เวลาก็ไม่ค่อยมี แต่นี่น่าสนใจ เป็นของแถมที่คาดไม่ถึงจริงๆ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:49:39

ความคิดเห็นที่ 65 ผมเดินเข้ามาจากด้านท้ายเรือ ตรงนี้เป็นกลางลำเรือ คงเป็นห้องกัปตัน มีป้อมปืนกลประกบหน้าหลัง ทาสีจนดูเหมือนของใหม่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:51:16

ความคิดเห็นที่ 66 ลองเก็บภาพเรือแบบมุมกว้างพานอรามาดู โอ..ยาวจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:52:55

ความคิดเห็นที่ 67 ผมเดินมาถึงหัวเรือ ถ่ายภาพเต็มๆ จากฝั่งขวาของหัวเรือ "เรือหลวงชุมพร" ถัดไปเป็นศาลกรมหลวงชุมพร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:54:33

ความคิดเห็นที่ 68 หันหลังไปมอง ด้านตรงข้ามกับเรือ เป็นป้ายหินอ่อนอยู่ในประติมากรรมทรงสามเหลี่ยม ถัดไปข้างหลังก็คือถนนที่ผมเข้ามา แล้วเลี้ยวขวาเลียบหาดทรายรีไปจนสุดหาดครับ เดินเข้าไปอ่านใกล้ๆ ที่ป้ายนี้ เป็นประวัติที่มาของเรือลำนี้  นับเป็นความบังเอิญหรือไม่ ที่ กรมหลวงชุมพร ท่านได้มาเสด็จสวรรคตที่ชุมพร ณ. หาดทรายรี บริเวณนี้ แล้วเรือหลวงที่ชื่อชุมพร หลังปลดระวางก็ได้มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือหลวงชุมพรนี้ คือ ต่อที่ประเทศอิตาลี ขึ้นประจำการเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2481 เดิมหัวเรือเขียนตัวเลข 31 (หมายเลขลำดับที่ของเรือตอร์ปิดโดของประเทศไทย) และที่ข้างเรือเขียนตัวอักษร ชพ.ได้ถูกลบออก เมื่อเกิดกรณีพิพาทอินโดจีน-ฝรั่งเศส ในปีพ.ศ.2484  และต่อมาก็ได้พิมพ์ตัวเลข 7 เข้าไปแทน จนปัจจุบัน มีหน้าทีหลักในการคุ้มกันการลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบก ลาดตระเวนชายฝั่ง กวาดทุ่นระเบิด ป้องกันการโจมตีและยกพลขึ้นบกของข้าศึก และได้ ปลดประจำการไปเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 ต่อมาในปี พ.ศ.2522 กองทัพเรือจึงมอบเรือลำนี้ให้กับจังหวัดชุมพร และได้นำมาประดิษฐาน ขุดร่องน้ำให้คล้ายอู่เรือ โดยมีฐานรองรับเรือ สร้างโดย ทหารช่างจากกองทัพเรือร่วมกับ เจ้าหน้าที่จังหวัด และบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล็อปเมนท์คอร์ ปอเรชั่น จำกัด มีพิธีวางศิลามหามงคล โดยพลเรือเอก สงัด ชลอยู่ เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 เสร็จสิ้นทำพิธีรับมอบในวันที่  27  กันยายน  พ.ศ. 2523 (ข้อมูลอาจจะต่างจากที่แสดงในแผ่นป้ายหินอ่อนบ้าง) ที่มา : http://www.navy.mi.th/navic/document/850502a.html http://www.navy.mi.th/nrdo/Chakri/king8.htm#1 http://www.thai-tour.com/thai-tour/south/chumporn/data/place/pic_komluang.htm แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 16:16:24 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:58:51

ความคิดเห็นที่ 69 ผมเดินเลยป้ายสามเหลี่ยมออกมาดูหาดทรายรี โอ้โฮ..สวยมาก นับเป็นชายหาดที่สงบ คล้ายหาดชะอำ หรือบางแสนสมัยก่อนเลย  แถมมีวิวหมู่เกาะชุมพรอยู่เป็นฉากหลังที่ขอบฟ้าด้วย   ภาพนี้เลยถูกนำมาเป็นภาพพื้นหลังเปิดกระทู้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:01:58

ความคิดเห็นที่ 70 มองไปทางซ้าย (ทิศเหนือ) บ้าง เป็นต้นหาดที่มีภูเขายื่นเขาไปในทะเล มองเห็นวิวหมู่เกาะอ่างทองบางส่วนด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:03:29

ความคิดเห็นที่ 71 ลองถ่ายภาพแบบมุมกว้างพานอรามาบ้าง จะได้เห็นเกาะครบๆ ในภาพเดียวกันเลย หาดทรายรี นี้นับว่าไม่กว้างมาก ความยาวประมาณกิโลเมตรกว่าๆ แล้วก็มีความโค้งเว้ามาก ลองค้นข้อมูลหมู่เกาะชุมพรดู พอคาดเดาได้ว่าแต่ละเกาะมีชื่ออะไรบ้าง (ถ้าผิดก็ขออภัย ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:06:48

ความคิดเห็นที่ 72 เพื่อความเข้าใจถึงหมู่เกาะชุมพร ว่าเกาะแต่ละแห่งมีชื่ออะไร เลยขอนำภาพดาวเทียมมาให้ชมกัน  แทบไม่น่าเชื่อว่า อาณาบริเวณอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรนี้จะกว้างไกลขนาดนี้ ลงไปเกือบถึง อำเภอหลังสวนเลย   และสะพานรถไฟฉวี ที่ผมไปเดินข้ามมาในตอนแรก ก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:10:41

ความคิดเห็นที่ 74 ต้องขอโทษ มีความผิดพลาดการโพส ที่ภาพไม่ขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 10:31:05 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:21:34

ความคิดเห็นที่ 75 ส่วนข้อมูลรายละเอียดของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เพื่อนๆ อาจค้นหาจากในเน็ตเพิ่มเติมได้ เช่นของ เว็บ ไปด้วยกันดอทคอม http://www.paiduaykan.com/province/south/chumphon/chumpornsea.html จะระบุข้อมูลแต่ละเกาะไว้ แถมด้วยภาพบรรยากาศบางเกาะ  นับเป็นสถานที่น่าเที่ยวไม่น้อย เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลจากฝั่ง แต่ได้บรรยากาศ "น้ำใส ทะเลสวย" คล้ายกับเกาะสิมิลัน หรือเกาะเต่าเลย ส่วนภาพอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรข้างล่างนี้นำมาจากเว็บ http://www.thaitripdd.คอม/webboard/index.php?topic=110.0 ซึ่งเขาได้รวบรวมแผนที่อุทยานฯ ทางทะเลแห่งอื่นๆ ไว้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:27:29

ความคิดเห็นที่ 76 กลับมาภาพถ่าย ชายหาดทรายรีของผมต่อ  เกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ห่างจากชายหาดเพียง 1 กิโลเมตรเดียวก็คือเกาะมะพร้าว เป็นเกาะที่ได้รับสัมปทานรังนก ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปโดยพลการได้ ต้องขออนุญาตกับ สำนักงานจังหวัดชุมพรก่อน เพื่อจะได้ประสานงานกับผู้ได้รับสัมปทาน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ จากภาพข้างล่าง จะสังเกตุเห็นหลังคาศาลาเล็กๆ ที่ใช้เป็นป้อมยาม (นิยมเรียกว่า "ขนำ") อยู่กระจายตามโขดหินรอบเกาะ เพื่อดูแลการลักลอบขึ้นเกาะไปขโมยรังนกนางแอ่น ซึ่งถือว่าเข้มงวดมาก จะเห็นว่ามีหาดทรายเล็กๆ อยู่ตรงกลางเกาะ โดยมีเกาะอีแรดอยู่ข้างหลัง โผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย     อ้อ..ทางซ้ายมือ จะเห็นโขดหินเล็กๆ ในทะเล คือเกาะหลักแรด ดูสวยดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:40:30

ความคิดเห็นที่ 77 ลองซูมกล้องไปทางใต้ของหาด ตรงปลายสุดหาดที่เป็นแหลมยื่นออกมา จะเห็นเกาะเล็กๆ โผล่ออกมาให้เห็นบางส่วน คือเกาะกา หาดนี้มีคนมาเล่นน้ำน้อยมาก อาจเป็นเพราะแดดร้อนก็ได้  มีเรือประมงจอดอยู่ด้วย ดูเป็นธรรมชาติ มากๆ  ชายหาดแห่งนี้ น่าพักผ่อนกว่าหาดภราดรภาพคือมีแนวต้นไม้ใหญ่อยู่ตลอดทาง ทำให้มีร่มเงา นั่งพักผ่อนได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:44:01

ความคิดเห็นที่ 78 กลับมาดูเรือกันต่อ เดินต่อไปให้ตรงหน้าเรือพอดี ถ่ายภาพเข้าไปจะเห็นว่าบางเฉียบ แม้ว่าตัวเรือจะยาวมากๆ  คงเพื่อเหตุผลความเร็วในการแล่นเรือ(ต่างจากเรือประมง และ เรือสินค้า ที่มีขนาดกว้าง อ้วนกว่านี้เยอะ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:47:04

ความคิดเห็นที่ 79 ผมขอมาดเท่ห์ๆ แบบอยู่ในระเบียบวินัยสักภาพ กับเรือหลวง เพื่อความสมจริง  แต่ชายเสื้อไม่น่าออกมานอกกางเกงเลย..ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:48:31

ความคิดเห็นที่ 80 ผมยังมีความสนใจในเรือรบหลวงชุมพร แม้จะไม่ได้ขึ้นไปบนเรือ ลองเดินไปทางด้านข้างเรือ ฝั่งตรงข้ามกับที่ผมจอดรถ แล้วถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าเรือ จะพบว่า มีท่ออากาศโผล่ขึ้นมามากมาย แสดงว่ากำลังพลส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ท้องเรือ เพราะสังเกตุเห็นรูเล็กๆ รอบๆ ตัวเรือด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:53:14

ความคิดเห็นที่ 81 มองเข้าไปทางท้ายเรือ จะเห็นมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมเรือด้วย (แต่จากข้อมูลในเน็ต เห็นว่าเขาห้ามขึ้นบนเรือ อาจเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเรือก็ได้)   แต่ถ้าลงไปเดินรอบๆ เรือที่พื้นข้างล่าง คงได้ เพราะมีบันไดอยู่รอบๆ ที่ลงไปได้ (ไม่งั้นคงลื่นไถลลงไปจากทางลาดชัน) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:56:03

ความคิดเห็นที่ 82 หันไปทางขวามือ ติดกันคือศาลกรมหลวงชุมพรฯเดิม ที่เคยเป็นสถานที่สวรรคตของพระองค์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2466 ข้างหน้ามีปืนใหญ่ รูปปั้นทหาร และ ม้าอยู่ข้างหน้า ทีแรกผมเองก็ไม่ทราบนึกว่ามีศาลตรงนี้เท่านั้น มาทราบภายหลังว่ามีหลังใหม่อยู่ที่เชิงเขา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 14:04:24

ความคิดเห็นที่ 83 เพราะมองไปทางขวา(ทิศเหนือ) ถัดไปที่เนินเขา มีถนนขึ้นไปยังศาลกรมหลวงชุมพรแห่งใหม่  ผมมาทราบตอนที่จัดเตรียมภาพ โดยการคาดคะแน จากภาพในเน็ต เช่นยอดเสาที่เห็นนั้นคือ เตาจุดประทัดดังแสดงในรูปเล็กเป็นต้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 14:07:31

ความคิดเห็นที่ 84 ภาพจากในเว็บท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ทำให้ผมทราบว่ามีศาลกรมหลวงแห่งใหม่ตรงเชิงเขา(เห็นทีแรกก็งง ว่าอยู่ตรงไหนของหาดทรายรี)  แทบไม่น่าเชื่อว่าแค่ต้นไม้สามารถบดบังสิ่งที่ยิ่งใหญ่อลังการณ์นี้ได้ ภาพซ้าย : รูปปั้นกรมหลวงชุมพรฯ ภายในศาลาหลังใหม่ จากเว็บ สยามฟรีสไตล์ http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/chumphon/prince-chumphon-memorial.html ภาพขวาบน : ศาลากรมหลวงชุมพรฯ หลังใหม่ ตรงเชิงเขา จากเว็บ สยามฟรีสไตล์ หน้าเดียวกับภาพซ้าย ภาพขวาล่าง : หัวเรือขนาดยักษ์ จำลองเป็นเรือรบหลวงพระร่วง อันเป็นเรือรบลำแรกของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ กรมหลวงชุมพรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าหลวงพิเศษในการจัดซื้อครั้งนั้น เมื่อปี พ.ศ.2461  พระองค์ได้นำเข้ามาถึงประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2463 ได้ปลดระวางไปในปี พ.ศ.2502 ข้อมูลเกี่ยวกับเรือหลวงพระร่วงhttp://th.wikipedia.orghttp://th.wikipedia.org/wiki/เรือหลวงพระร่วง ที่มาภาพจากเว็บ Emagtravel http://www.emagtravel.com/archive/san-komluang-chumphon.html แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 15:35:04 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 14:23:17 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 14:22:05

ความคิดเห็นที่ 85 เนื่องจากผมไม่มีเวลามาก เลยถ่ายภาพมาได้แค่ลูกตอร์ปิโดข้างหน้าศาลเท่านั้น เอาไว้โอกาสหน้ามาชุมพรอีก จะไม่พลาดตรงนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:07:38

ความคิดเห็นที่ 86 ภาพบน : เนื่องจากการมาหาดทรายรีครั้งนี้ ถือว่าหลงทางเข้ามาโดยบังเอิญ จึงต้องรีบออกเดินทางต่อ  ถนนริมหาดนี้สั้นมาก เพียงแค่ประมาณ 600 เมตรเอง เทียบไม่ได้กับหาดภราดรภาพ ที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จึงดูเหมือนหาดลับแล ภาพล่าง : สุดถนนเลียบหาด ทางก็เลี้ยวออกห่างจากชายทะเล (ตามแผนที่ คห.54 แสดงด้วยเส้นสีเขียว)  ตามเส้นทางหมายเลข 4098 มุ่งสู่อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ ที่มีท่าเรือไปเกาะเต่า ขอจบตอนนี้ไว้ตรงนี้นะครับ ไว้ตอนหน้ามาปิดทริปการเดินทางอันแสนยาวนาน ถึง 16 ตอน ด้วยการไปชมท่าเรือไปเกาะเต่า อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ที่สดสวยไปด้วยธรรมชาติสุดๆ (เหมือนอยู่บนเกาะ) แล้วย้อนกลับมายังปากน้ำชุมพร ได้เห็นทะเลแหวกที่นี่ (ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีกับเขาเหมือนกัน) ไปปิดทริปที่ หาดทุ่งวัวแล่น อันมีเม็ดทรายที่ละเอียด น้ำใสมากๆ ดังที่เขาเล่าลือครับ  คอยติดตามกันต่อไปนะครับ คาดว่าคงนำมาลงให้ก่อนสิ้นปี 2555 นี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:27:50

ความคิดเห็นที่ 87 เป็นการรีวิวที่มีข้อมูลแน่นมากค่ะ ภาพสวย ข้อมูลมีประโยชน์ ขยันจังคะ รีวิวนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนชอบเที่ยวนะคะ ^___^ จากคุณ : nidchai เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 16:05:00