ความคิดเห็นที่ 1 หรืออาจจะรถเกียร์กระปุกที่แบบ  เกิดอะไรไม่คาดฝัน แล้วเหยียบเบรคกะทันหันเอาตอนชันๆๆๆๆๆๆๆๆ  แล้วจะเร่งเครื่องขึ้นไหมเนี่ย หรือไม่ค่อยขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย สยองมาก จากคุณ : peen เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 19:52:47

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเกิดเป็นเกียร์ออโต้รถรุ่นใหม่ ๆ เครื่องมันจะปรับของมันเอง เหยีบอย่างเดียวเลย แล้วถ้าติดตรงที่ชัน ๆ ไห้เหยีบเบรกค้างไว้กันรถไหล เวลาออกตัวค่อยๆ ปล่อยเบรก แค่นี้ก็ แหละ ( เราก็ขับแบบนี้เหมือนกันตอนขึ้นภูทับเบิก ) แต่เราว่าทางไม่ค่อยชันนะ ภูชีฟ้า หนักว่านี้เยอะ  ปล ยืมล๊อกอิน คุณแฟนตอบนะค้าบ จากคุณ : tiktok (pichchazx) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:11:41

ความคิดเห็นที่ 3 ดึงเบรคมือ ใส่เกียร์ P ให้ผู้โดยสารทั้งหมดค่อยๆลงจากรถ เหลือคนขับคนเดียว แล้วจึงใส่เกียร์ D พร้อมเร่งเครื่องและปลดเบรคมือ ทิ้งผู้โดยสารไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวก็วิ่งตามรถเอง 55555 เที่ยวให้สนุกเด้อ จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:21:21

ความคิดเห็นที่ 4 ออโต้สมัยนี้เกียร์ต่ำผมว่ามีแรงบิดมากพอที่จะเอาตัวรอดได้นะครับ ผมใช้ Mazda 3 1.6 ที่ใคร ๆ ก็ว่าอืดสุด ๆ ก็ไม่เคยไปติดที่ไหนเลย แต่ถ้าต้องเจอเหตุการณ์แบบที่ว่า ผมก็ใช้วิธีแบบความเห็นที่ 2 ครับ (แต่ต้องใช้เท้า 2 ข้างนะครับ ถ้าไม่ชำนาญไม่แนะนำ) จากคุณ : A man of smile เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:26:41

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วภูไหนชันสุดคะ  แล้วเคยมีกรณีเหล่านี้เกิดขึ้น แบบอุบัติเหตุน่ากลัวๆ ไหมคะ เราขี้กลัว รักตัวเองมากๆ คะ จากคุณ : peen เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:31:23

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับผมนะครับ ภูเขาชัน ๆ จะน่ากลัวตอนขาลงมากกว่า เพราะขาขึ้นก็ใช้กำลังเครื่องยนต์ใต่ไปเรื่อย ๆ มีอืดบ้าง แต่ขาลงนี่ต้องใช้เกียร์ช่วย ใช้เบรคให้เป็น กะจังหวะเบรคให้พอดี ต้องใช้การสะสมประสบการณ์ครับ มาเร็วก็แหกเอาง่าย ๆ เรื่องเบรคร้อนเบรคไหม้นี่ก็เห็นกันเกือบทุกดอย กรณีนี้ฝืนขับต่อจะอันตรายครับ จากคุณ : A man of smile เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:35:55

ความคิดเห็นที่ 7 เคยเจอกระบะค้างเติ่งทางกลับจากน้ำตกเหวสุวัต อช.เขาใหญ่ ปกติคนขับกับรถเหมือนสิ่งที่รู้ใจกัน มีวิธีแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอน ยิ่งเกียร์ออโต้ขอให้มีเชื้อเพลิงเป็นพอ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:50:38

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าถ้าชันสุดต้องทางขึ้นช่วงสุดท้ายของวัดพระธาตุดอยตุง ชันมากๆแบบยาวๆแบบว่าไม่กล้ามองกลับมาข้างหลังเลย ส่วนชันและโค้งต้องทางสายเถินไปลี้ ประมาณ 30 กิโลเท่านั้นขึ้นเขาอย่างเดียวโค้งต่อกันไปตลอดและทางแคบมาก ระยะทางแค่นี้ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ส่วนโค้งมากๆและเปลี่ยวสุดอันตรายสุดต้องเส้นทางเขาพับผ้าจากตรังไปพัทลุง(ในอดีต) ระยะทางไกลโค้งมากทางแคบและเป็นโค้งที่อับสายตาทั้งนั้น จากคุณ : คนหลังบ้าน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:00:53

ความคิดเห็นที่ 9 เคยขึ้นภูทับเบิกลองทั้งเกียร์ออโต้ และ ธรรมดา ผมว่า ออโต้ง่ายกว่าเยอะครับ :) จากคุณ : YaKuZaMaMa เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:19:16

ความคิดเห็นที่ 10 ทราบว่าบางท่าน คงไม่ทราบวิธีการขับรถเกีนร์ออโต้อย่างรู้จริง เกียร์ ออโต้ ไม่ใช่มี แต่ D อย่างเดียวน่ะครับ เราสามารถขับแบบ เกียร์ธรรมดา เชนเกียร์ ลงเขาที่ลาดชัน หรือ ขึึ้นเขา ที่ลาดชันได้สบายๆๆ เลยแทบไม่ต้องใช้เบรกเท้าเลย ลดปัญหาว่าเบรกร้อนได้เลย ผมรำคาญที่สุดในการขับตามรถที่ลงเขาแล้วเห็น แตะเบรกทุกโค้ง ทำไมไม่ใช้เกียร D3 or D2 or D1 ในการชะลอรถ และดึงรถเข้าโค้ง ผมว่ามีคนใช้เกียร์ออโต้เป็น ในการขับรถบนภูเขาบ้านเราไม่ถึง 20% ของผู้ขับรถเกียร์ออโต็ทั้งหลาย เราไม่ได้สอนกัน โดยเฉพาะคนพื้นราบ บางท่านยังไม่รู้เลยว่ามีเกียร์ D1 D2 D3 ไว้ทำไม หรือปุ่ม O/D Power ที่คันเกียร์มีไว้เพื่ออะไรด้วยซ้ำ จากคุณ : PP เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:31:42 A:110.171.61.61 X: TicketID:247685

ความคิดเห็นที่ 11 ออโต้  ง่าย  ถนนก็ทำใหม่แล้ว  ที่ยากคือ   1. มันมีรถส่งผักขับซิ่งทั้งขึ้นและลง   2. มีมอไซร์ชาวบ้าน  ถ้าไม่รู้จังหวะของเขา  ไปขวางเขา เขาก็เบรคล้มประจำ เขาไม่ชอบพวกกรุงเทพเท่าไหร่ 3. ตรงขอบเหว ทางโค้ง ที่รั้วจะเปิดไว้ เพื่อให้รถชาวบ้านลงไป   น่ากลัวมาก 4.  ชาวเขาฉีดยาฆ่าแมลงมากมาย พวกกรุงเทพก็ไปกางเต๊นท์สูดอากาศพิษเข้าไป ตลกดีแท้ จากคุณ : แปดเทพอสูร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:36:45

ความคิดเห็นที่ 12 ถนนเลนเดียวสวนกัน  โค้งอับ  จะดึงรถเข้าโค้งยังไง จากคุณ : แปดเทพอสูร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:37:55

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งกลับมาจากเขาพับผ้า ตอนกลางคืน สนุกมาก   มันเหมือนขับขึ้นไปบนสวรรค์ ไม่มีขอบทาง   จะไม่เห็นปลายทาง    ระยะมองเห็นน้อยมาก  มืดสนิท    ใช้ไฟสูงตลอดก็ไม่ได้ มีรถสวนมาบ้าง  ยิ่งตอนสวนกันสนุกมาก มองอะไรไม่เห็น   ทั้งรถเงียบสนิท จากคุณ : แปดเทพอสูร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:40:42

ความคิดเห็นที่ 14 อ่างขาง  ทับเบิก   ต้องใช้ทักษะครับ ต้องรักษารอบเครื่องยนต์ให้เหมาะสม เบรค  เกียร์  ต้องสัมพันธ์กัน   เกียร์ออโต  ผมใช้ทุกเกียร์   ที่ทับเบิก ช่วงปีใหม่เมื่อ 2 ปีก่อน ใช้ได้ดี แต่ผมห่วงเรื่องเครื่องยนต์ดับมากกว่า  โดยเฉพาะที่เริ่มเที่ยวดอย  จะตกใจควบคุมรถไม่ได้ ลองขึ้นเขาใหญ่บ่อยๆ  จะทำให้เรามั่นใจครับ  แล้ว  ขึ้นเขาเขียวให้ถึงฐานเรดาร์ จากนั้นค่อย  ไปอ่างขาง    อินทนนท์    คราวนี้ไปได้ทั่วประเทศ จากคุณ : ไทยเดิ้ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:43:30

ความคิดเห็นที่ 15 ขึ้นเขาผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไหร่ อย่างมากก็คลัชไหม้ แต่ลงเขานี่สิครับ แหกโค้งมาเยอะแล้ว เพราะใช้เบรกไม่เป็น เคยได้ trick จากคุณอาหมู xebec แนะนำว่า ขาลงเขา ไม่จำเป็นต้องใช้ engine brake เกียร์ต่ำช่วยครับ ใช้เบรกธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ต้องรู้จักวิธีเบรก กฎข้อสำคัญคือ ห้ามเหยียบเบรกแช่ครับ ให้ใช้วิธีเบรกหนักๆ แทน เวลาลงเขามา เหยียบคันเร่งไว้แผ่วๆ นิดเดียว ปล่อยรถให้ลงมา จนกระทั่งความเร็วสักประมาณ 60-70 หรือระยะก่อนเข้าโค้ง ให้เหยียบเบรก "หนักๆ" ครับ ไม่ใช่กระทืบเบรกแต่เหยียบแบบแน่นๆ ให้รถมันลดความเร็วลงเหลือประมาณ 30-40 หรือช้าพอที่จะเข้าโค้งได้ พอพ้นโค้งหรือความเร็วลดแล้ว ก็ปล่อยเบรก แล้วก็ให้ความเร็วเพิ่มขึ้น จนถึง 70-80 ก็เหยียบเบรกหนักๆ อีกครั้ง สลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ ช่วงเวลาที่เราไม่ได้เหยียบเบรก ลมที่พัดผ่านเข้ามามันจะช่วยระบายความร้อนที่ผ้าเบรก เบรกก็ไม่ร้อน ไม่ fade ไม่มีอาการเบรกแตกแน่นอน การเหยียบเบรกแช่ไว้ ห้ามทำเด็ดขาด เพราะการเสียดสีนานๆ จะทำให้ผ้าเบรกร้อนจัดและเบรกแตกได้ ส่วนการใช้ engine brake โดยใช้เกียร์ต่ำช่วย ข้อดีคือใช้แรงเครื่องเกียร์ต่ำหน่วงรถไว้ แต่ข้อเสียคือ การใช้เกียร์ต่ำ น้ำมันเครื่องจะร้อนจัดครับ เมื่อร้อนจัด แผ่นคลัชก็จะหลุดร่อนออก หรือเกียร์ก็มีโอกาสพังได้ ถ้าเกียร์พัง รถไปไม่ได้เลยครับ กินข้าวลิงอยู่กลางทาง ส่วนการใช้เบรก เราใช้ระยะเวลาที่ปล่อยเบรก ให้ลมช่วยระบายความร้อนทั้งที่เบรกและเกียร์ ก็ไม่มีอาการเบรก fade และน้ำมันเกียร์ร้อนจัดครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 23:20:12

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนตัวคิดว่าระบบเบรค abs จะทำงานได้มีประสิทธิภาพถ้้าเบรคแช่ไว้แล้วให้รถชะลอความเร็วเอง  แต่ถ้าเบรคแบบหนักๆ กลัวว่าฝีเท้าคนเราไม่เท่ากันจะทำให้รถมีอาการปัดได้ ยิ่งถ้าพื้นถนนแฉะน้ำด้วยแล้วยิ่งต้องระวัง ควรใช้เกียร์ต่ำช่วย ขณะขับลงดอย พร้อมกับเบรคช่วยเมื่อรถเริ่มมีความเร็วมาก จะดีกว่า ขณะลงดอยควรใช้ความเร็วประมาณ 40-60 กม./ชม. รักษาความเร็วไว้ พวกเบรคไหม้ส่วนมากจะมาไว แล้วเบรคเมื่อถึงทางโค้ง แต่ถ้าเรารักษาความเร็วเราได้ รับรองไม่มีไหม้แน่นอน จากคุณ : เด็กภูธร เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 00:19:03

ความคิดเห็นที่ 17 ทับเบิกเราไปเส้นที่ต้องผ่าน อช. ภูหินร่องกล้า ทางลูกรัง ชัน แคบ แต่สนุกมาก ค่อยๆขับก็ไปได้ค่ะ เราขับรถขึ้นเขาครั้งแรกก็จัดทับเบิกเลย :) จากคุณ : เขียนบน iPad (นางร้ายลิเก๊ลิเก) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 00:22:24

ความคิดเห็นที่ 18 สวดมนต์ จากคุณ : Harvi เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 01:21:56

ความคิดเห็นที่ 19 อยากรู้หากพวกรถเกียร์ออโต้ไปอืดตรงทางชันๆ หรือจู่ๆ เกิดแบบเร่งไม่ขึ้นตรงช่วงชัน >>> ก็เอาหินหนุนครับ อิ อิ เคยฟังนิทานชาวเขา ใช่ไม๊ "โสน้าหน้า  บอกว่า ให้ เอา หินหนุน หินหนุน" แต่ผมว่า รถเกียร์ออโต้ ใช้เกียร์ต่ำ ยังไง มันก็ไปได้ นะ จากคุณ : SC25_KU50 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 01:42:19

ความคิดเห็นที่ 20 มาแอบเก็บข้อมูลความรู้ ตอนไปทับเบิก ศึกษาเรื่องการขับ Auto ขึ้นเขาเยอะมาก จริงๆ คุณแฟนขับ แต่เราช่วยศึกษา เพราะตื่นเต้น ในขณะที่เค้า (เด็กดอย) เฉยๆ ชิลล์ๆ แต่ได้ความรู้จาก Pantip และเว็บของทับเบิกเยอะมาก ผ่านมาได้แบบสบายๆ เราเห็นผู้หญิงขับ Auto ขึ้นทับเบิกเยอะมากเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ จขกท. จากคุณ : PUCCA_ตาหยี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 04:02:16

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนไปคุณสามีเราเอา Alphard ไป ขาขึ้นไม่เท่าไหร่ ขาลงเสียวกว่าเยอะ ด้วยตัวรถมันหนัก ระยะเบรคมันไม่เหมือนรถเก๋ง เรางี้นั่งลุ้นเลย 555 จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:09:38

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าถนนโล่งๆ ไม่มีปัญหาเหยียบอย่างเดียว ขึ้นได้แน่นอน หาก รอบตกมากให้กดมา D3 D2 D1 ให้รอบเครื่องสูงเข้าไว้เรียกแรงบิด แต่ปัญหาคือถนนไม่โล่ง วิ่งขึ้นทางชันสุดๆ มารถติดซะงั้นต้องหยุดรถกลางเนินชัน แบบนี้มีโอกาสที่จะไปต่อไม่ได้ ให้คนลงให้หมด แล้วก็ลองขึ้นดูถ้าไม่ได้ก็ถอยหลังไปตั้งต้นปลายเนินใหม่ รอให้รถว่างๆ แล้วเหยียบยาว มีทริกคือ เรารู้ว่าหยุดกลางเนินมีปัญหาแน่ๆ ฉะนั้น อย่าให้รถหยุด ทิ้งระยะให้ห่างคันหน้าหน่อย มองให้ไกล หากเค้าเริ่มชะลอรถเราก็ยกคันเร่งให้รถขึ้นไปช้าๆ อย่าให้หยุด หากไม่ติดมากเดี๋ยวเคาก็ไปต่อเราก็ไปตามเค้าสบายๆ แล้วก็เริ่มทิ้งระยะใหม่ เคยใช้สามห่วง auto ขึ้นพระตำหนักเขาค้อ 3 คนเมื่อนานมาแล้ว มีรถขวางทำให้ต้องหยุดกลางเนิน จากนั้นก็นรกครับ ไปต่อไม่ได้ เหม็นใหม้หึ่งเลย ก็เลยค่อยๆถอยไปตั้งต้นใหม่ จากคุณ : OffRoadMan เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:22:28

ความคิดเห็นที่ 23 ถาม คห 10 ถ้าเป็น pajero sport มีแต่เกียร์ D ทำไงครับ จากคุณ : siawping เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:39:40

ความคิดเห็นที่ 24 ทับเบิกนี่ยังไม่สยองเท่าเกาะช้าง เพราะแคบ ชัน ทัศนวิสัยไม่ดี จากคุณ : @ดอกไม้ไหว@ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:49:54

ความคิดเห็นที่ 25 ล่าสุดไปมา ปลายๆเดือนก่อน เบรคไหม้เหม็นกันตลอดเขาอ่ะค่ะ ไม่รู้กี่คัน 555+ เราขับตามไกลๆ กลัว.... (ของเราไม่เป็นอะไร คนขับเชี่ยวชาญค่ะ ^__^ สบายใจไปเยอะ) จากคุณ : Code_Riiku เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:53:58

ความคิดเห็นที่ 26 เกียร์ออโต้ ตาม คห.10 นั่นแหละครับ บางคนเวลาขับจะขับแบบเกียร์ธรรดา D1 D2 D3 ขาบอกว่าออกตัวได้ดี เกียร์ธรรมดา โดยเฉพาะรถกระบะสมัยนี้แรงบิดเครื่องยนต์มีมาก แค่เข้าเกียร์ 1ปล่อยครัช ไม่ต้องเร่ง รถก็แล่นขึ้นภูเขาได้เองครับ จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 10:08:35 A:125.25.79.247 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 27 คหที่ 23 ผมไม่เคยขับ ปาเจโร สปอร์ต เคยแต่Pajero SUV ธรรมดา แต่จะลองเดาดูน่ะครับ เพราะเป็นรถอGมริกัน และผมเคยเข่า รถ Dodge Caravan แบบ 7 ที่นัั่ง ซึ่งก็มีแต่เกียร์ D เหมือนกัน น้องชายที่เป็นคนขับมือ สอง (สำรอง)ขับไม่เป้น ผมเลยบอกว่าไม่ต้องกังวล ขึ้นเขา ลงเขา ก็เล่น D กับเบรกมันตลอดแล้วกัน แต่ความจริงแล้วเกียร์ตัวนี้ จะสาสามรถ ผลักไปซ้าย-ขวาได้ ณ ตำแหน่ง D นี่แหละ ถ้าจำไม่ผิดผลักมาทางซ้าย จะลดเกียร์ลง ไปทางขวา จะเพิ่มเกียร์ขึ้น เพราะฉะนั้นก็ผลักเกียร์ไป-มาตามจังหวะเหมือนขับเกียร์กระปุก เวลาขึ้นเขา-ลงเขา บางรุ่น/ยี่ห้อ มีถึง 5-7 เกียร์ แถมมี Over drive power อีกเวลาจะแซงอย่างรวดเร็ว หรือออกตัวอย่าเร็ว/แรง สบายดีมาก ผมขับจาก California ไป Wyoming/Yellow Stone ผ่านทั้ง Yosemite ยอดเขาSierra Nevada และ Rocky Mountain โดยที่รักษาความเร็วที่ ประมาณ50-80ไมล์/ชม.(ยกเว้นบางช่วง) ได้ตลอด ห้ามเกิน 80 ไมล์ครับ ค่าปรับหลายร้อยเหรียญ จากคุณ : PP เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:11:53 A:110.171.61.61 X: TicketID:247685

ความคิดเห็นที่ 28 ขับเอียงๆ เฉียงๆ จากคุณ : แปดเทพอสูร เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:27:59

ความคิดเห็นที่ 29 อีกเรื่องสำหรับเกียร์ออโต้ เคยมีลูกน้องสาวๆมาบ่นว่า ไม่ชอบขับรถไปตามห้างใหญ่ๆๆเลยเพราะหาที่จอดรถไมได้ จะจอดซ้อนคันก็ไม่ได้เพราะเป็นรถเกียร์ออโต็ทำเกียรว่างไม่ได้ เลยหาที่จอดลำบาก เลยทำให้ทราบว่ายังมีคนไม่รู้อีกเยอะมากว่ารถออโต้ ทำเกียรว่าง N ได้ น้องเถียงว่า เมื่อทำ N แล้วเอากุญแจออกไม่ได้ ผมเลยต้องไปที่จอดรถน้องและสอนวิธีการให้ดู เพราะอธิบายให้ฟังน้องไม่เห็นภาพ คือบางคันจะมีปุ่มเขียนว่า unlock ให้ดับเครื่อง ผลักเกียร์ไปที่ P เอากูญแจออก กดปุ่ม unlock แช่ไว้แล้ว ผลักเกียร์มาที่ N บางรุ่นอาจต้องเอากูญแจใส่ที่ช่อง unlock แล้วค่อยผลักเกียร์มาที่ N ที่นี่ก็จอดรถซ้อนคันได้แล้วครับ จากคุณ : PP เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:28:01 A:110.171.61.61 X: TicketID:247685

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเก๋งเกียร์ธรรมดา เคยขึ้นท้บเบิก พร้อมกับข้าวสารสามกระสอบใหญ่ๆ ตอนรถติดทางชั้นกว่าจะขึ้นได้ต้องลีดครัชล้อปั่นฟรี หลายๆครั้งถึงจะไต่ขึ้นได้ ถ้ารถเกิดเสียหรือหมดแรงขึ้น ตาม คห.3 ที่กลัวจริงๆคือ ตามรถช้าตอนขึ้นเขาทางชันๆ มันช้ารถเกียร์ธรรมดาต้องส่งแรงๆถึงจะขึ้นง่าย พอหมดแรงต้องตบไปเกียร์หนึงต้องกลับไปไล่เกียร์ใหม่ พวกสิบล้อเจอแบบนีหัวเสียไปตามๆกัน ที่กลัวอีกอยากก็สภาพถนนที่มันไม้ใช้ถนน ลาดยางแตกเป็นแผ่นหรือถนนลูกลังขึ้นเขาทางชัน เคยไปไม้รอดก็ขึ้นอ่างขางขึ้นทางบ้านนอแล ถนนเสีย ยางมะต่อยแตกเป็นแผ่นๆผมให้คนลงหมดแล้วตั้งลำส่งใหม่ สามสีครั้งก็ขึ้นไม้ได้ ล้อมันปั่นฟรี ไม้รู้ตอนนีซ้อมทางหรือยัง อีกที่ก็ ทางลัด ภูหลงถัง(วนอุทยานพญาพิภักดิ์)-ภูชีฟ้า สามปีก่อนยังเป็นถนนลูกลังขึ้นเขา กว่าจะขึ้นได้แทบแย่ ตอนนีเห็นว่าลาดยางเสร็จหมดแล้ว จากคุณ : LIBERAL เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:57:06

ความคิดเห็นที่ 31 เคยรถค้างตอนขึ้นตำหนักเขาค้อเหมือน22 ผู้โดยสารเลยได้ลงมาเดินเล่นถ่ายรูป 555 จากคุณ : weirdbird เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 15:35:24

ความคิดเห็นที่ 32 ทับเบิก ถ้ามันขึ้นไปได้เรื่อยๆ ก็ไม่าเป็นไรนะ แต่ถ้าเจอรถติด  รถดับนี่ก็มีเครียดเหมือนกัน ถ้าเป้นรถเก๋งที่กำลังน้อยๆ ผมใช้วิธี ทิ้งระยะห่างหน่อย อยายามอย่าให้รถหยุด เป็นดีที่สุด จากคุณ : เด็กโขทัย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 16:37:06

ความคิดเห็นที่ 33 เคยขับเกียร์ธรรมดา รถเช่า จี๊บ คาริเบียนขึ้นวัดพระธาตุดอยตุง ( 16 ปีที่แล้ว ) เจอแบบหัวกระทู้แป๊ะ ตอนนั้นยังไม่มีใบขับขี่ และเป็นการขับขึ้นเขาครั้งแรกในชีวิต ไม่รู้เทคนิคใดๆ ขับขึ้นดอยถึงจุดที่ชันที่สุดรถก็แผ่วแรงไปไม่ได้เลย...ค่อยๆถอยช้าจนลงมาถึง ส่วนที่เป็นทางลาด น้องที่ไปด้วยศรัทธาแก่กล้ามาก ยุให้เร่งเครื่องขึ้นอีกรอบเพื่อจะขึ้นไปไหว้พระธาตุ ให้ได้ ก็เร่งรถขึ้นไปค้างให้ดูอีกรอบว่าตูพอละ  เอ็งเดินไปละกัน.... สุดท้ายไม่ได้ขึ้น กลับมาเล่าให้ลุงฟัง ถูกลุงกับพ่อด่าเปิงเพราะยังไม่เคยสอนขับขึ้นเขา ( ตอนนั้นห่ามแอบเที่ยวเอง ) ล่าสุดขับขึ้นได้ละกับฮอนด้า เกียร์ออโต้ แต่ขาลงก็นรกอีก กลิ่นไหม้ตลอดทางที่ลง ทางขึ้นว่าน่ากลัวแล้ว ทางลง แทบจะถวายรถใว้ที่วัดแล้วขอติดรถชาวบ้านลงมา จากคุณ : - (สมหนิง) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 19:33:17

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วตกใจครับ. คนไทยเรายังไม่เข้าใจการใช้เกียรออตโต. มากเลยที่เดี่ยว. อยากเขามาเขียนบอกเล่า ง่ายๆครับ. ขึ้นเขาใช้123. ตามความชันและช่วงระยะของถนน เบรค ตามจังหวะทิ่งระยะห่างจากคันหน้าตามหลักความปลอดภัยไม่น้อยกว่า3-5เมตร ลงเขา. ใช้2-3ตามความชันขงถนน Dควรใช้สลับกับไปมาเพื่ิือลดการทำงานหนักของระบบเกียรอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ความจริงอ่านที่คือมือให้เข้าใจก็มี. ที่เหลื่อเรียนจากสถานการจริงไม่อยากแต่ต้องเข้าใจหลักการทำงานของระบบเกียรก่่อน ใครเคยขับรถในยุโรป ญี่ปุ่น. เขาเยอะ ลงเขาควรปล่อยให้รถวิ่งครรับ30-50อาจมากถึง60. รถ้ขาออกแบบและทดสอบในระดับปลอดภัยมาแล้ว เบรคสลับการการทดเกียรบางเพื่ิอการข้างต้นที่กล่าวมา วิศวกรระบบเกียร. ค่ายรถญี่ปุ่น. สำหนักงานญี่ปุ่น จากคุณ : s450ขาดแต่สาวๆๆ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:47:56 A:122.27.249.247 X: TicketID:192346

ความคิดเห็นที่ 35 คห.16 เบรกไหม้มันเกิดจากการเสียดสีอยู่ตลอดเวลาครับ การเบรกหนักๆ แต่ไม่บ่อยครั้งไม่ทำให้เบรกไหม้ครับ เพราะว่าระหว่างที่ไม่ได้เบรก อากาศมันพัดผ่านตลอดเวลา ช่วยลดความร้อนให้เบรก ในขณะที่การเบรกแช่ เบรกมันเสียดสีตลอดเวลา ถึงไม่ได้เสียดสีแบบแรงๆ หนักๆ แต่ความร้อนขึ้นเร็วกว่าครับ เหมือนเวลาเราเอาไม้สีไฟเพื่อจุดไฟ เราไม่จำเป็นต้องออกแรงสีกันแรงๆ แต่สีเบาๆ แต่ถี่ๆ ติดต่อกัน มันก็เริ่มร้อนและติดเป็นไฟได้ครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 00:34:45