Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(ไทยรัฐ) ' เปิดใจ 'มาซาอิโตะ โยชิดะ' นักเดินเท้ารอบโลก...! vote ติดต่อทีมงาน

'ผมเคยแพ้ แต่จากนี้จะเดินเพื่อเอาชนะ…' เปิดใจ 'มาซาอิโตะ โยชิดะ' นักเดินเท้ารอบโลก...!

http://www.thairath.co.th/content/life/310686

เขาเดินทางมารอบโลก 4 ปีระยะทางนับไม่ถ้วน เสียรองเท้าไปทั้งหมด 6 คู่ เจออุบัติเหตุมามากมาย ไม่ว่าจะโดนหมีจู่โจมเพราะว่ามันได้กลิ่นอาหารในเต็นท์ที่พักอาศัย!!

“ที่คาซัคสถานล้อรถลากสัมภาระพัง ต้องเดินอยู่คนเดียวไม่มีอาหาร ไม่มีร้านค้า ไม่มีรถผ่าน ไม่มีบ้านคน ไม่มีแสงไฟ ใช่เดินคนเดียวท่ามกลางความมืดสนิท” เขามีชื่อเต็มๆ ว่า มาซาอิโตะ โยชิดะ หนุ่มญี่ปุ่นอายุเพียง 31 ปี นักเดินเท้ารอบโลก เดินผ่านมาประเทศไทย ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุย

บทสัมภาษณ์ที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของคุณก็ได้ ใครจะรู้...!

ก่อนออกเดินทาง ออกเดินเท้า..

คงจะไม่ผิดถ้าจะบอกว่าผมได้เเรงบรรดาลใจจากกลุ่มนักปั่นจักรยานรอบโลก..! มาซาอิโตะ เล่า พร้อมกับพาไปจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองว่า ตนเองเรียนจบวิศวกรรมช่างกล ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ประมาณ 6 ปี มีอยู่วันหนึ่งอยู่ดีๆ เกิดรู้สึกเบื่อกับงานประจำจึงวางแผนในการออกเดินทาง

“ใช่ครับใช้คำนี้ได้ เบื่องานเอาดื้อๆ มันเป็นชีวิตที่จำเจมาก เลยอยากออกไปสู่โลกกว้างอยากท่องเที่ยว เพื่อที่จะพบปะพูดคุย เรียนรู้ผู้คนที่หลากหลายวัฒนธรรมในแต่ละประเทศอยากเรียนรู้วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองนั้น ผมจึงตัดสินใจขายรถยนต์ 1 คัน ได้เงินมาทั้งหมด 3,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วเอามารวมกับเงินเก็บเป็นเงินประมาณ 40,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นก็วางแผนเส้นทาง แล้วก็ถึงเวลาเก็บกระเป๋าออกเดินทางทันที”

มาซาอิโตะ บอกว่าเวลาเล่าเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วขั้นตอนที่ยากที่สุดในการเดินเท้าก็คือการเข้าไปพูดคุยกับคนในครอบครัว

“ไม่มีใครยอมรับความคิดผมเอาซะเลย (ยิ้ม) พวกเขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแต่ด้วยความดื้อรั้นบวกกับความตั้งใจอันแน่วแน่ แม้ครอบครัวจะไม่มีใครเห็นด้วยแต่เราก็ตัดสินใจเดินหน้าแล้ว เพราะคิดว่าถ้าเรามุ่งมั่นก็ไม่สามารถรั้งเราเอาไว้ได้”

ถึงเวลา เดินเท้าตามหา ฝัน…!

มาซาอิโตะ เริ่มออกเดินเท้าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปี 2551 จากเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีน ไปยังประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน รัสเซีย ยูเครน โรมาเนีย โบลิเวีย ตุรกี โคเอเชีย บอสเนีย สโลวาเนีย อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน โปตุเกส

และไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าแคนาดา ออสเตรเลีย ก่อนมายังประเทศสิงคโปร์ ติมอร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเข้าทางด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ประเทศไทย พร้อมกับเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอวีซ่าเข้าประเทศเวียดนาม

หลังจากนั้นเขาบอกว่า จะเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาว ก่อนไปจบการเดินทางที่เมืองเซียงไฮ้ ของประเทศจีน ซึ่งในแต่ละวัน มาซาอิโตะ กล่าวว่า

"ผมต้องเดินเท้าวันละ 50-60 กิโลเมตร พร้อมกับแบกสัมภาระในการดำรงชีพหนักถึง 100 กิโลกรัม อาทิ เต็นท์นอน เตาแก๊สปิกนิก หม้อสนาม น้ำ อาหารแห้ง เสื้อผ้า ของเครื่องใช้ส่วนตัว”

เส้นทางก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบ ซากุระ …!

ใช่, เส้นทางก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบ กุหลาบ …! มาซาอิโตะ เล่าประสบการณ์เฉียดอันตรายต่างๆ ที่ผ่านมาว่าในการเดินเท้าต้องพบกับอุปสรรคขวากหนามมากมาย ทั้งถูกหิมะกัดนิ้วมือ จนแพทย์ต้องตัดเฉือนเนื้อออกบางส่วน หลังต้องเดินฝ่ามรสุมท่ามกลางอากาศหนาวเย็นยะเยือกบนภูเขา ในบัลแกเรีย ถูกคนเลี้ยงแกะชกหน้าในประเทศรัสเซีย ถูกขโมยฉกข้าวของในประเทศยูเครน แต่สุดท้ายผู้พิทักษ์สันติราชก็นำข้าวของกลับมาคืนให้จนได้

“ระหว่างเดินเท้านั้นจะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ โดยช่วงกลางคืนจะกางเต็นท์นอน ตามปั๊มน้ำมัน หรือสถานีตำรวจเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และพยายามติดต่อครอบครัวผ่านทางอีเมล์ตลอดทุกวัน จริงๆ ผมเกือบล้มเลิกความมุ่งมั่นหลังรู้ข่าวคุณปู่เสียชีวิตช่วงที่อยู่ในประเทศโปรตุเกส แต่ก็ตัดสินใจที่จะยังคงเดินหน้าเก็บประสบการณ์ต่อไป”

28 ประเทศ ร้อยความลำบาก หมื่นความประทับใจ…!

ตลอดการเดินเท้าของทั้ง 28 ประเทศนั้น นักเดินเท้าชาวญี่ปุ่นผู้นี้บอกว่า ทำให้เขาได้รับรู้ถึงวิถีชีวิตของคนในแต่ละประเทศ ประเทศที่ประทับใจ มีความปลอดภัยที่สุดคือ ประเทศไทย เพราะตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ อ.สะเดา จ.สงขลา เขารู้สึกถึงความเป็นมิตรและชอบช่วยเหลือคนอื่นอย่างเต็มที่ของคนไทยที่สุด ชนิดช่วยไม่เคยหวังผลตอบแทน

“เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่เดินอยู่ริมถนน จ.สงขลา มุ่งหน้าเข้า กรุงเทพฯ ผมถูกรถยนต์เฉี่ยวชน จนได้รับบาดเจ็บ และมีคนไทยน้ำใจงามพบเห็นนำส่งโรงพยาบาล แล้วจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด พร้อมทั้งพากลับไปนอนรักษาตัวที่บ้านประมาณ 4 วัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จนอาการดีขึ้น ผมจึงได้ออกเดินทางต่อ”

ทั้งนี้ หากจบภารกิจนี้ "มาซาอิโตะ" มีแผนที่จะเขียนหนังสือพร้อมภาพถ่ายที่บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยเดินรอบโลกครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งจะพาครอบครัวเดินทางกลับมาขอบคุณคนไทยที่ช่วยเหลือ แล้วท่องเที่ยวเมืองไทยต่ออย่างแน่นอน

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่มีความฝันและพร้อมกับกระโดดลงไปทำมัน ไม่ใช่แค่นอนฝันหวานอยู่บนเตียง…!

(หากลงซ้ำขออภัยครับ)

จากคุณ : tonytui
เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 20:29:39




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com