|
ความคิดเห็นที่ 58 |
|
การที่อังกฤษต้องการยึดครองดินแดนของพม่า ก็คงต้องการทรัพยากรธรรมชาติของพม่ามีมากมาย โดยเฉพาะไม้สัก
แต่อังกฤษยึดเอาราชบัลลังก์นับ 10 องค์จากมัณฑะเลย์ พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติมากมาย..ไปไว้ที่ British Museum
เมื่อคืนเอกราชให้พม่า.. ชาวพม่าเรียกร้องขอคืนสมบัติเหล่านี้ อังกฤษจึงส่งคืนราชบัลลังก์องค์ที่สำคัญที่สุด "สิงหนาถ" แต่ก็เลาะเอาทองคำ ทับทิม เพชรพลอยทั้งหมดที่หุ้มออกจากบัลลังก์ออกไปหมด ส่งคืนมาแค่.. โครงไม้แกะลายปิดทองเท่านั้น
บางที.. นี่อาจเป็นเรื่องของ "ผลกรรม" หรือกรรมตามสนอง ที่พม่าปล้นกรุงศรีอยุธยา เผาลอกเอาทองคำไปมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ทองคำหุ้มองค์พระศรีสรรเพชญดาญาน ที่ต้องสุมไฟเผาอยู่ถึงสามวันสามคืนจึงลอกเอาทองไปหมดองค์
***** พระศรีสรรเพชญดาญาณ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2043 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดให้สร้างขึ้นหลังจากการสร้างพระวิหารหลวงในปี พ.ศ. 2042 ครั้นถึงปีต่อมาก็ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา (16 เมตร) พระพักตร์ยาว 4 ศอก (2 เมตร) กว้าง 3 ศอก (1.5 เมตร) พระอุระกว้าง 11 ศอก (5.5 เมตร) ใช้ทองสำริดหล่อเป็นแกนในน้ำหนัก 5,800 ชั่ง (3,480 กิโลกรัม) "หุ้มทองคำน้ำหนัก 286 ชั่ง (171.6 กิโลกรัม)" แล้วถวายพระนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ โดยทองคำที่ใช้หุ้มองค์พระนั้น ด้านหน้าเป็นทองเนื้อเจ็ดน้ำสองขา ด้านหลังองค์พระเป็นทองเนื้อหกน้ำสองขา (สมัยนั้นถือว่าทองนพคุณเก้าน้ำหรือทองเนื้อเก้าเป็นทองคำบริสุทธิ์กว่าทองเนื้ออื่นน้ำอื่น)
ในปี พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาทำลาย พระศรีสรรเพชญดาญาณ ถูกเผาเอาทองคำที่หุ้มอยู่ออกเหลือเพียงแกนสำริด เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนาราชอาณาจักรอยุธยาขึ้นใหม่ที่กรุงรัตนโกสินทร์ ก็ทรงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธรูปเก่าตามหัวเมืองเหนือและกรุงเก่า มาประดิษฐาน ณ พระนครแห่งใหม่ ปรากฏว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ ได้รับความเสียหายอย่างหนักมิอาจซ่อมแซมได้ จึงโปรดให้หลอมแท่งสำริดที่เหลือนั้น นำไปประดิษฐานในพระธาตุภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงพระราชทานนามว่า "พระมหาเจดีย์พระศรีสรรเพชญดาญาณ" ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วิหารทิศ ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
จากคุณ |
:
เจ้าชายแวมไพร์
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 52 21:58:44
|
|
|
|
|