|
ความคิดเห็นที่ 23 |
|
ไต่ระห่ำ 100 เมตร ที่ถ้ำปูคำ
กิจกรรมที่ถ้ำปูคำ ถูกถ่ายทอดออกมาจากเนวิเกเตอร์จำเป็นข้างกายหลังจากที่ ชื่นชมกับธรรมชาติ ที่ ถ้ำจังแล้ว จากคู่มือท่องเที่ยว ลาวเหนือ ที่ลาวหนีบติดตัวมาด้วยทุกครั้ง ที่เที่ยวลาวเหนือ บอกว่า ที่ถ้ำปูคำ อยู่ในโซนใกล้เคียงกันกับถ้ำจัง และมีรูปแบบการเดินทางที่ครบเกือบทุกรสชาติ เช่นการนั่งเรือข้ามฟาก จากหน้าถาวรสุข บังกะโล ไปอีกฝั่งและ นั่งรถอีแต๊ก เข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร หลังจากขับรถออกจากถ้ำจังไม่นาน เราก็เหลือบไปเห็นสะพานสร้างใหม่ มีเครื่องหมายบ่งชี้ว่าข้ามไปถ้ำปูคำได้ เลยลองตัดสินใจเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำสะพานดู ได้รับคำตอบมาว่าสามารถขับรถข้ามไปได้ จนถึงถ้ำปูคำ ได้เลยไม่ต้องพึ่งพารถและเรือบริการ เราจึงตัดสินใจนำรถเข้าไปเองด้วยความเสียดาย ( ในตอนนั้นว่าไม่ได้นั่งรถอีแต๊กแล้ว ) หลังจากจ่ายค่าปี้ เพื่อบำรุงสะพานไป 2000k แล้ว ก็เริ่มต้นเดินทางอีกครั้ง บนถนนลูกรัง หินขนาดกลาง สลับทางฝุ่น ผ่านหมู่บ้านริมน้ำ หลังจากนั้นก็เริ่มเจอของจริง เป็นทางลูกรัง ปนหินก้อนใหญ่ แต่ขับได้โดยไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ฝุ่นเยอะมากๆ เท่านั้นเอง ระหว่างทางเจอทั้งนักท่องเที่ยว ชาวไทยและต่างชาติ ขี่ MTB หรือ เดิน หรือ นั่งรถอีแต๊กบ้าง ครับ ก็ทักทาย สนุกสนานดี ระยะทาง 6 km กับเส้นทางแบบนี้คิดในใจว่าโชคดีแล้วที่ตัดสินใจเอารถเข้ามาเอง ไม่งั้นเด็กๆอาจจะบ่นกันได้
ก่อนถึงถ้ำปูคำ ต้องผ่านสะพานความกว้างขนาดเท่ากับรถขนาดกลาง 1 สะพาน ลังเลอยู่พักนึง ว่าจะย้อนกลับไม่ไปแล้ว หรือจะเสี่ยงดวงขับข้ามไป ด้วยความอยากจึงตัดสินใจค่อยขับรถข้ามสะพานไป โดยไม่โดนขูด มารู้ทีหลังว่า สามารถขับรถลงลุย ลำธารตื้นๆข้ามไปได้เลย ขับไปได้สักพักก็ถึงแล้ว ทางเข้า ถ้ำปูคำซึ่งเสียค่าปี้บำรุง อีกหน่อยพร้อมๆกับรถของ บ.ทัวร์ และ คณะนักท่องเที่ยว ชาวเกาหลี ที่ขับ ฮุนได ขับเคลื่อน 4 ล้อมากันเอง ( น่าสนุกดี สงสัยจะทดสอบรถไปในตัว )
หลังจากเตรียมความพร้อมทั้งน้ำ ดื่ม และ สิ่งของแล้ว ก็เดินทางเข้าสู่ถ้ำ บริเวณสะพาน จะพบธารน้ำสีเขียวใสสีมรกต ซึ่งพบได้น้อยมากๆในเมืองไทยของ เรา ( เว้นแต่สีเขียว ไม่ใส มีกลิ่น ซึ่งหาได้ไม่ยาก ) มีนักท่องเที่ยวเตรียมกระโดดลงไปเล่นด้วย
เจ้าตัวเล็กกับคุณแม่ของ เค้าเตรียมพร้อมและพากันไต่ขึ้นไปก่อน ด้วยความคึก จากข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ บอกว่า ถ้ำนี้สูงชันถึง 100 ม. กว่าจะถึงทางเข้าถ้ำ และ ลึกลงไป 400 เมตร เป็นถ้ำที่มืดยังไม่ได้รับการ ปรุงแต่งแต่อย่างใด แต่เราก็ยังเดินหน้าต่อไป ระหว่างทางที่พากันปีนขึ้นไปเจอ ขบวนนักท่องเที่ยว ชาวไทย ทักทายและชื่นชมเจ้าตัวเล็กทั้ง 2 คนเก่งที่สามารถปีนขึ้นมา ได้โดยหารู้ไม่ว่า ความกลัวความสูง เคืบคลานเข้ามาสิงอยู่ ในใจแล้ว ระหว่างทางเป็นทางสูงชันแต่สามารถปีนขึ้นไปได้ เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักดื่มน้ำแล้วไปต่อ ใช้เวลาประมาณ 30 กว่านาที ก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำ โดยเด็กๆ 2 คน ปีนขึ้นด้วยกำลังขาของตัวเอง มีพยุงบ้างบางจังหวะ แต่พอมองลงไปข้างล่างแล้ว แล้ว เฮ้อ.......
ภายในถ้ำค่อนข้าง มืด มีพระพุทธรูปนอนอยู่ภายในถ้ำคล้ายๆ ถ้ำพระยานครในจ. ประจวบคีรีขันธ์ และเพิ่งมาจำได้ว่าคณะทัวร์คนไทยบางท่าน ที่เพิ่งขึ้นมาเป็นคนรู้จักกัน ก็ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ แล้วก็ขอตัวลงสู่ภาคพื้นดิน ไม่เข้าไปภายในถ้ำต่อเพราะมืดมาก
กว่าจะลงมาถึงเล่นเอาเพลีย และเหงื่อท่วมตัว เจ้าคนโต บอกว่าจะไต่ลงมาเอง ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ใช้แรงตัวเองค่อยๆไต่ลงเรื่อยๆ ส่วนเจ้าคนเล็กอาศัย ขี่หลัง คุณแม่ลงมา เล่นเอาปวดน่องและเหงื่อท่วมกัน ใช้เวลาระมาณ 45 นาทีก็ถึง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติถอดเสื้อ เหลือแต่กางเกง กระโดดลงสระเขียวมรกต นั่น ของ ฝาก : ควรจะตระเตรียมน้ำดื่มสะอาด , ไฟ ส่องสว่าง และ ขอไกด์ท้องถิ่น นำทาง ( จ่ายค่าบริการนิดหน่อย ) นำเข้าสู่ถ้ำนี้ เพราะค่อนข้างมืดและสูงชัน และหากรู้สึกเหนื่อยควรพักและจิบน้ำ เป็นระยะ
จากคุณ |
:
spras77
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสิ่งแวดล้อมโลก 53 21:46:01
|
|
|
|
|