ความคิดเห็นที่ 1   ...  ปูเสื่อ  รอชมครับ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:18:01

ความคิดเห็นที่ 2   ก่อนอื่นขอกางแผนที่ก่อนนะครับ  แผนที่ข้างล่างนี้ผมได้นำมาแก้ไขเล็กน้อยให้ถูกต้อง เพราะได้ไปสำรวจมาแล้ว พบว่าบางอย่างของเดิมไม่ตรงกับความเป็นจริง ในตอนนี้จะเป็นการเดินทางในส่วนของใต้เขื่อนป่าสักฯ ก่อน เพราะเส้นทางได้เริ่มจาก จ.สระบุรี ผ่านสามแยกไป อ.พระพุทธบาท ขึ้นมาทางชัยบาดาล แล้วแวะเข้าป่า..เอ๊ย..เข้าถนนทางแยก ไปดู ทุ่งทานตะวันกันก่อน  และบังเอิญ ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเขื่อนป่าสักฯ ครั้งก่อน ทำให้ได้ทราบว่า มีวัดๆ หนึ่งอยู่บนเนินเขา เมื่อขึ้นไปข้างบน จะมองเห็นวิวเขื่อนป่าสักในระยะไกล มุมกว้างๆ โล่งๆ ได้เลย  ซึ่งจะเป็นจุดที่สองของทริปนี้ ถัดจากนั้นจะพาไปชม หลวงปู่สัก พระพุทธรูปองค์โต ท้ายเขื่อน ที่มองเห็นได้ไกลๆ จากบนหอคอยชมวิวเขื่อนป่าสักฯ ตบท้ายด้วย การเดินเท้าบนสันเขื่อน เพื่อมุ่งไปค้นหา แม่น้ำป่าสักสายเก่า ว่าอยู่ตรงไหนของเขื่อน และมีน้ำไหลผ่านหรือไม่ ครับ  เชิญติดตามชมได้นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:22:25

ความคิดเห็นที่ 3   สวัสดีครับ คุณแมงเม่าติดลมบน : แวะเข้ามาทักทายคนแรก ก่อนที่ผมจะโพสแผนที่อีก...เร็วจริงๆครับ เส้นทางการเดินทางเดิมๆ ที่คุ้นเคย (เพราะไปมาแล้วหลายทริป กับเส้นทางนี้) ผ่านแยก อ.พระพุทธบาท  เนินเขาขาด ลงมา เห็นภูเขาสวยๆที่เหมืองแร่ด้านซ้ายมือ ไม่นานก็เจอสี่แยกแรก ให้เลี้ยวขวา ตามป้ายไปยัง บ.หนองจาน  ถนนตรงสี่แยกเป็นลอนคลื่นคล้ายๆกับน้ำ ให้ระวังหน่อยรถจะไถลนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:39:29

ความคิดเห็นที่ 4   เข้ามาปาด จากคุณ : SavageHuman เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:40:56

ความคิดเห็นที่ 5   เมื่อเลี้ยวขวาเข้าไปแล้ว ก็จะเป็นถนนดังที่เห็น ที่สามารถเชยชมธรรมชาติได้เต็มที่ครับ ภาพบน : ธรรมชาติก็สดชื่นดี แต่ เจ้ารถบรรทุกคันหน้านี่ซิ ดันมาปล่อยควันดำอยู่ได้ ภาพล่าง : หลังจากแซงมาแล้ว ถึงได้พบกับธรรมชาติจริงๆซะที จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:45:55

ความคิดเห็นที่ 6   ขอตามไปเขื่อนด้วยคนนะครับบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : lawyerhang เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:53:51

ความคิดเห็นที่ 7   ขอเจิม กีบ คนแรก เร้ยย นะครับ เอาใจช่วยคนทำ review ครับ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:55:07

ความคิดเห็นที่ 8   ขอตามมาชมด้วยคนครับ พระนอนในภาพด้านบน คือองค์ที่ชาวห้องศาสนาระดมทุนกันไปบูรณะใช่ไหมครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:56:26

ความคิดเห็นที่ 9   สวัสดีครับ คุณSavageHuman : แวะเข้ามาทักทาย เพิ่มความคึกคักในกระทู้ครับ ช่วงนี้ก็ชมวิวข้างทางไปก่อนครับ ธรรมชาติริมทางแถวนี้สวยไม่เบาครับ เหมือนวอลล์เปเปอร์ธรรมชาติ ที่ติดผนังห้องเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:00:16

ความคิดเห็นที่ 10   เขื่อนป่าสัก น้ำน้อยมากช่วงนี้ ฝนเริ่มตกบ้าง แต่ไม่หนักแต่ก็ยังช่วยได้ไม่เยอะ ตอนเย็นน่าเที่ยว มาออกกำลังกายได้ เพราะตอนเย็นเหมาะสำหรับการวิ่งออกกำลังกาย และปั่นจักรยานได้ เพราะผมวิ่งทุกวันที่สันเขื่อนครับ จากคุณ : interbrand_1 เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:03:28

ความคิดเห็นที่ 11   ปายด้วยคนนะคะ ... อิอิอิ จากคุณ : กะว่าจะรัก เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:03:57

ความคิดเห็นที่ 12   สวัสดีครับเพื่อนๆ  แวะ....เข้ามาทักทายกันคึกคักจริงๆ... แถมให้ Give (ถูกใจ) ทุกท่านเลย...ขอบคุณจริงๆ ครับ หายเหนื่อยเลย คุณ lawyerhang : เชิญตามมาได้เลยคร๊าบบบบบ... คุณ ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ : ขำชื่อ Login  ถ้าอมได้ คงร้อง อืมมมมมมม.... เพราะชุ่มคอไม่ต้องร้องแปร๋นแสบคอต่อไป..ฮา คุณอุ้ย (digimontamer) : เจอกันอีกแล้ว   สำหรับรูปพระนอนข้างบนที่ผมจะพาไปชมนี้ อยู่ที่วัดคีรีโสภณ ครับ ทราบมาจากเว็บไซต์ หมูหินดอทคอม http://www.moohin.com/011/011k002.shtml  พอดีผมไม่เคยเข้าห้องศาสนาเลยไม่ทราบครับ แต่เห็นจากภาพในเว็บว่ามีสีขาว  ก่อนที่ผมจะไปได้ค้นหาข้อมูล พบว่ามีการบูรณะจนมีสีทองอร่าม และมีรูปปั้นเทวดาโดยรอบด้วยครับ  คาดว่าเพิ่งบูรณะไปเมื่อปลายปีที่แล้วนี้เองครับ รูปข้างล่างนี้คือ องค์พระนอนสีขาว ก่อนที่จะมีการบูรณะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:35:05

ความคิดเห็นที่ 13   สวัสดีครับ คุณinterbrand_1 : ยินดีที่รู้จักกับชาวเขื่อนครับ... สันเขื่อนระยะทางรวมกว่า 4 กม. วิ่งไหวหรือครับ.....แฮ็กๆ  ผมนึกว่า จะแนะนำให้ลงไปวิ่งพื้นดินหน้าเขื่อนที่แห้ง ครับ  คือว่า..ผมไปเดินมาแล้วนะครับ สวัสดีครับ คุณกะว่าจะรัก : ยินดีครับ มาต่อกันครับ ตอนนี้ ผมได้ขับรถเข้ามาถึง โรงงานแห่งหนึ่งแล้ว มีอาคารรูปโดมคล้ายจานบินอยู่ข้างหน้า เหลือบไปทางขวา รู้สึกคุ้นๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:43:00

ความคิดเห็นที่ 14   ถนนเลี้ยวผ่านไปในช่องระหว่าง โรงงานกับ เนินเขาด้านขวามือ  พยายามมองหาป้ายชื่อโรงงาน ไม่พบ... ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโรงงานอะไร น่าจะเกี่ยวกับ เมล็ดทานตะวัน เพราะดูแล้วไม่เหมือนกับโรงงานน้ำตาล และ โรงสีข้าว ใครทราบช่วยบอกทีครับ พบป้ายบอกทางข้างหน้า ถ้าดูจากแผนที่ข้างล่าง จะเข้าใจครับ เส้นทางตรงนั้นคดเคี้ยว งงทิศอย่างมากครับ  ผมดูจาก GPS นำทาง บอกว่า ต้องตรงไป คือไปทางทิศตะวันออก ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:56:41

ความคิดเห็นที่ 15   จากรูปปริศนาข้างล่างของคุณน้าแมว  ถึงตำแหน่งชมไร่ทานตะวัน  บังเอิญผมได้ถ่ายเซฟไว้ในกล้อง เพื่อใช้ในการอ้างอิง ว่าอยู่ตรงไหน ดูช่างมีมนต์ขลัง ท้าทายการไปค้นหาของผมจริงๆ   แล้วคุณว่า...สวยไหมครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:03:00

ความคิดเห็นที่ 16   ผมได้จอดรถตรงตำแหน่ง คห.14 เลยโค้งมาเล็กน้อย พอมองเห็นโรงงานที่ว่านี้ชัด คล้ายกับของคุณน้าแมวมาก  แต่......... พอกลับมาบ้าน มาดูให้ละเอียดอีกที พบว่าไม่ใช่ครับ ต้นไม้แห้งๆ ด้านซ้ายนั้นเป็นจุดสังเกตุได้ดี  ท่อสองอันของโรงงานก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งเนินเขาด้านหลังแล้ว คนละอัน  คือของน้าแมวเป็นอันเตี้ย ที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่อันไกลโพ้นเหมือนของผม  ทำให้ ผมต้องกลับไปถ่ายซ่อมอีกครั้งในสัปดาห์ถัดมาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:08:10

ความคิดเห็นที่ 17   ข้อมูลที่สำคัญในการตามรอยรถไฟ ก็คือ ตำแหน่งเสาโทรเลข (สทล.) ซึ่งจะระบุระยะทางจาก สถานีรถไฟหัวลำโพง ในหน่วยกม. โดยมีตัวเลขย่อยลงไปอีก 20 ค่า (ระยะห่างระหว่าง เสาก็คือ 50 เมตร) ละเอียดกว่า หลักกิโลเมตรบนถนนอีก  ซึ่งเมื่อกลับไปค้นพบว่า ตำแหน่งที่ รถไฟไปจอดชมแปลงดอกทานตะวันคือ 145 กับ 155  ซึ่งจากในรูปของน้าแมว เป็นการจอดที่ สทล.145   ได้การละ...   แค่ผมหาทางเดินไปยังรางรถไฟให้ได้ ก็จะทราบเองว่า ต้องเดินต่อไปอีกเท่าใด.....  (ถ้าหลายกม. ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ...) ในการเดินทางไปครั้งที่สองนี้ ไม่พลาดครับ ผมเล็งถนนดินเล็กๆ ที่มุ่งไปยังรางรถไฟด้านขวามือไว้แล้วครับ  ด้วยระยะทางประมาณ 200 เมตร ก็ถือว่าไม่ไกล จอดรถไว้ริมถนนดีกว่า กลัวเข้าไปแล้วหาที่กลับไม่ได้ หรือไปติดหล่มลำบากอีก  เดินเท้าเข้าไปคล่องตัวกว่า (กลัวสุนัข กับงู เท่านั้นครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:25:28

ความคิดเห็นที่ 18   เดินเข้าไปในทางเล็กๆ ได้หน่อย ก็เจอกับบ่อน้ำ น่าหยุดพักผ่อนนั่งเล่นจัง   ไม่ได้ครับสำหรับผม ต้องรีบ เพราะเพิ่งเริ่มภาระกิจแรกเอง ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องไปสำรวจกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:33:04

ความคิดเห็นที่ 19   รอติดตามนะคะ สวัสดี ลุงๆ ป้าๆ คะ จากคุณ : MooBeerJang เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:36:52

ความคิดเห็นที่ 20   สวัสดีจ๊ะ คุณMooBeerJang : เชิญติดตามมาด้วยกันเลยครับ ภาพบนซ้าย : เลยบ่อน้ำมาก็สิ้นสุดถนนดินเช่นกัน ภาพบนขวา : หันกลับไปมองทางที่เดินเข้ามา ยังมองเห็นรถผมอยู่ลิบๆ ภาพล่างซ้าย : หมดถนนก็ต้องลงเดินตามคันนา..เอ๊ย..คันดินระหว่างแปลงต้นไม้ เพื่อระวังการเหยียบ พืชไร่ชาวบ้าน (น่าจะเป็นต้นอ้อย) ภาพล่างขวา : หันกลับไปมองปลายถนนดินที่สิ้นสุด จะมีต้นตาลคู่ประกบอยู่  น่าจะทำทางให้ยาวมาถึงรางรถไฟนะ  ถ้าเป็นหน้าฝน หรือต้นอ้อยโตแล้วคงบุกมาลำบากมากกว่านี้ (อาจต้องเดินมาจากทางด้านใต้แทน โดยดูจากแผนที่ในคห.14  ระยะทางระหว่างรางกับถนนแค่ 50 เมตรเอง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:48:33

ความคิดเห็นที่ 21   หลังจากคลำหาทางมายังรางรถไฟ และช่องปีนป่ายแหวกหญ้าขึ้นมาได้โดยปลอดภัย (กลัวงู ครับ  ต้องใช้ร่มกางดันเบิกทางล่วงหน้าตลอด) ภาพบน : มองไปทางซ้ายมือ จะเป็น สทล.146/16 ที่เห็นตอนแรก อยู่คู่กับเสาสัญญาณขาเข้า สถานีหินซ้อน ภาพล่าง : มองไปทางขวามือ จะเป็น ทางมุ่งไปยังทุ่งทานตะวัน เพราะเป้าหมายของเราคือ สทล.145  การนับตัวเลขที่ลดลงคือการเดินทางไปยังด้านกรุงเทพฯ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:59:13

ความคิดเห็นที่ 22   หันกลับไปมองด้านถนน จะเห็นรถผมจอดอยู่ลิบๆ และต้นตาลคู่อยู่ด้านขวา   ยืนอยู่จุดนี้จะมองเห็น เนินเขาตรงข้ามถนนกับโรงงาน อยู่ด้านซ้ายมือ   มุมที่มองเห็นโรงงานอยู่เบื้องหลังแปลงดอกทานตะวันนี้จะถูกควบคุมโดยเนินเขาแห่งนี้  ถ้าผมเดินเลยไป เนินเขานี้ก็จะบังโรงงานทันทีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 19:12:57

ความคิดเห็นที่ 23   จุดสังเกตุหนึ่งของ ทุ่งทานตะวันแห่งนี้ก็คือ ต้นไม้แห้ง(ตาย) ในรูป คห.15   ที่จริง ต้นไม้ต้นนี้จะอยู่ไกลจากโรงงานมาก แต่ด้วยการซูมภาพของคุณน้าแมว เลยทำให้ดูเหมือนอยู่ใกล้กัน  ทั้งๆ ที่ ระหว่างทุ่งทานตะวันกับโรงงานจะมีถนนพาดผ่าน ยังมองไม่เห็นถนนเลย  ขนาดไปยืนตรงถนนในรูป คห.16 โรงงานเองก็ยังอยู่ไกลไม่น้อยเลยครับ ภาพบน : เดินมาเล็กน้อย ผมก็สังเกตุเห็นต้นไม้แห้งต้นนั้นแล้ว...เย้.. มาไม่ผิดที่ และอยู่ไม่ไกลด้วย ภาพล่าง : เอ้า.. เจอสะพานข้าม เข้าจนได้  (ไม่ทราบมาก่อนนะนี่)  ต้องใช้ความสามารถจากทริปก่อนๆ เดินข้ามไปครับ เสียวรถไฟมาเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 19:37:57

ความคิดเห็นที่ 24   ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 19:46:03

ความคิดเห็นที่ 25   ภาพบน : ระหว่างเดินบนราง พบโรคติดต่อจาก สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก เข้าแล้ว คือ ไฟไหม้ไม้หมอนครับ  คงมีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงบนไม้หมอนเก่าผุๆ เหล่านี้ครับ เลยมีเหล็กโยงยึดระหว่างรางไว้แทน ภาพล่าง : เดินๆ อยู่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์มาแต่ไกล ตอนแรกก็เป็นเสียงรถไถข้างล่างของชาวไร่  แต่สักพักก็ได้ยินอีก คราวนี้ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ น่าจะเป็นรถไฟสักขบวน แต่ไหน... กลายเป็นรถซ่อมบำรุงราง  พอเข้ามาใกล้ กลับพบรางยาวๆ พุ่งนำหน้ามาก่อน ด้วยความเร็วสูง......เฟี้ยว... เสียวไม่น้อยครับ  ไม่มีไฟ ไม่มีแตร  ถ้าหากสะดุด หลุดเหล็กกางออกมา ไม่อยากนึกภาพเลยครับ น่ากลัวจริงๆ  พขร. ขับเร็วมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 19:46:08

ความคิดเห็นที่ 26   สวัสดีครับ คุณแก่ กรุงเก่า :  ยินดีครับ ตามมาได้เลยครับ กำลังลุ้นกับเป้าหมายแรกพอดี หลังจากเดินมาได้ประมาณ 1 กม. ก็ถึงเป้าหมายแรกครับ ทุ่งทานตะวัน ที่ตอนนี้ แปลงสภาพเป็นไร่อ้อย  โชคดีที่ต้นยังเล็ก เลยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ ต้นทานตะวัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 19:53:42

ความคิดเห็นที่ 27   ภาพบน : ผมเดินต่อมาอีกหน่อย ก็เห็น ป้ายกลมๆ (ควบคุมความเร็วรถไฟ) ซึ่งดูแล้ว น่าจะเป็นจุดจอดรถชมทุ่งทานตะวันในช่วงปลายปี ภาพล่าง : เดินผ่านป้ายนั้นไปอีกเล็กน้อย หันกลับมามอง แล้วจินตนากาลว่า มีรถไฟทั้งขบวนจอดอยู่ ซึ่งมีความยาวพอควร น่าจะเป็นบริเวณนี้แน่นอน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:13:04

ความคิดเห็นที่ 28   เที่ยวกับคุณมิราชชนี่..สนุกทุกครั้งเลยค่ะ   ถึงแม้บางทีสถานที่อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไร   แต่คุณมิราชชก็ทำให้เพลิดเพลินตื่นเต้นทุกที   เก่งจังค่ะ.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:14:27

ความคิดเห็นที่ 29   ภาพซ้าย : มองลงไปข้างล่าง พบจุดสังเกตุอีกแห่งคือ ต้นไม้ใหญ่ กับ ทางเดินโล่งข้างล่าง ซึ่งยังคงสภาพโล่งไว้เหมือนตอนที่มี การท่องเที่ยว เพราะใช้เป็นจุดขายสินค้าที่ระลึกจากดอกทานตะวัน ภาพขวา : หันกลับไปมองทางด้านเหนืออีก ปัญหาต่อไปก็คือ ทางลงอยู่ไหน  ปกติตรงนี้ตอนช่วงเทศกาลจะถางออกโล่ง เพื่อให้เดินลงมาได้สะดวก แต่ตอนนี้มีแต่ต้นหญ้ารก กลัวงูฉก เหมือนกันครับ ถ้าขืนลุยสุ่มสี่สุ่มห้า แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 53 21:00:31 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:22:16

ความคิดเห็นที่ 30   อยากดูรีวิวที่มีรายละเอียดข้อมูลเพียบของคุณมิราชช ขอบคุณสำหรับีวิวมากนะครับ จากคุณ : paipaiphuart เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:37:30

ความคิดเห็นที่ 31   สวัสดีครับ คุณป้าฟู : พบกันอีกแล้วนะครับ ไม่พลาดสำหรับทริปนี้ มาลุยด้วยกัน   ขอบคุณที่ชมครับ  คือผมประเภทเรื่องมาก สถานที่ธรรมดาๆ ที่ชินตา นั้นผมมักมีปัญหา เอ๊ย...ข้อสังเกตุว่า น่าจะมีอะไรน่าสนใจซ่อนอยู่ ไม่ว่าเชิงวิชาการ ที่มา ประวัติ หรือแม้แต่ การเดินทางไปค้นหาสถานที่แห่งนั้น ในต่างเวลา ครับ ภาพบน : เป็นภาพจากเว็บรถไฟไทยดอทคอม ซึ่งมีกลุ่มคนรักรถไฟกำลังกระโดดคว้าดาว กันอยู่ (จำเป็นต้องพรางหน้าเล็กน้อย เดี๋ยวมีคนจำหน้าได้แล้วเอาไปทำเลียนแบบครับ...ฮี่ๆ)  จะสังเกตุเห็นต้นไม้ริมรางรถไฟข้างหลัง อันเป็นต้นเดียวกับที่ผมมองหาในรูปคห.29 (ภาพซ้าย) ภาพล่าง : เป็นบรรยากาศงานเทศกาลทุ่งทานตะวัน ที่รถไฟจัดปลายปีที่แล้วครับ จะเห็นลานดินโล่งมีการขายสินค้าที่ระลึกกัน มีทางเดินลงอย่างสบายๆโล่งๆ (น่าอิจฉา) ด้านหลังก็คือทุ่งทานตะวันสีเหลือง และก็ไม่ลืม ที่จะเห็นต้นไม้แห้งอยู่ไกลๆ ครับ สรุปคือ ถ้าหากมากับทริปรถไฟจะได้รับความสะดวกสบายมาก ไม่ต้องลุยอย่างผม ถ้าคิดจะมาทางรถยนต์ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:41:01

ความคิดเห็นที่ 32   ...  ติดตามอย่างไม่ลดละ  ..  ตามชมต่อครับ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:51:43

ความคิดเห็นที่ 33   สวัสดีครับ คุณ paipaiphuart : ยินดีที่ชอบครับ แต่บางคนอาจเบื่อที่จะอ่านข้อความนะครับ   ถ้าไม่อ่านก็จะเหมือนเปิดอัลบั้มรูปถ่ายเปล่าๆ ครับ อ้าว..ไหนๆ ผมมาถ่ายก็ไม่เห็นดอกทานตะวันสักดอก ก็ขอนำภาพจากเว็บรถไฟดอทคอมมาให้ดูกันแก้เก้อ และเปรียบเทียบว่า เป็นจุดเดียวกันจริงๆครับ ภาพบน : เป็นการถ่ายของคุณ Methee S. จากรถไฟ ลงมาจุดชมทุ่งทานตะวัน ก่อนที่จะจอด ภาพล่าง : อีกครั้งกับบรรยากาศ หน้าทุ่งทานตะวัน ทีคึกคักไปด้วยผู้คนครับ ปีนึง มีไม่กี่ครั้ง เพราะต้องขึ้นอยู่กับการบานของดอกทานตะวันด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:57:56

ความคิดเห็นที่ 34   กลับมาการเดินทางของเราบ้าง   ภาพซ้าย : ตอนนี้ผมหาช่องเดินลงไปได้แล้วครับ เอาแบบรกน้อยที่สุด ภาพขวา : เมื่อลงไปที่ลานข้างล่างได้แล้ว รู้สึกเหมือนกับคำว่า "ยกพลขึ้นบกได้แล้ว"  พบว่าลานดินข้างล่างนี้ ส่วนหนึ่งได้มีการปลูกอ้อยลงไปด้วย ต้องเดินระวังไม่ให้เหยียบต้นอ่อนเขาด้วย  เพราะถือว่าบุกรุกที่เขาเหมือนกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 21:08:05

ความคิดเห็นที่ 35   บานไวจัง ผมไปไม่ยัักเจอะ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 21:17:23

ความคิดเห็นที่ 36   ลงไปแล้วก็ลองหามุมถ่ายภาพเลียนแบบหน่อย  จากภาพล่าง มืออาชีพแห่งเว็บรถไฟไทยดอทคอม คุณ Sprinter เขาถ่ายได้สวยมาก ดูแล้วเหมือนดอกทานตะวันจะลอยอยู่ข้างล่างดั่งผิวน้ำสีทอง ที่มีโรงงานโผล่พ้นออกมาเลย สุดยอดครับ.. ผมเอง ภาพบน นั้น เต็มไปด้วยใบเขียวๆ แทน แต่เรียงตัวได้เรียบแน่นคล้ายผิวน้ำไหมครับ...ฮิฮิ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 21:17:40

ความคิดเห็นที่ 37   สวัสดีครับ คุณpinestand : ก๊าก..ครับ รูปที่มีดอกทานตะวันนั้น เป็นช่วงปลายปี ที่มีคนเขาถ่ายไว้ก่อนหน้าครับ ของผมมีแต่ต้นอ้อย อ่อนๆ ใบเขียวๆ ครับ   แต่ถ้าไม่มีรูปดอกทานตะวันเลย ก็จะหมดอารมณ์ของสถานที่แห่งนี้ไปครับ ภาพซ้าย : ลานดินโล่งๆ นี้ คงเพิ่งโดนฝนมา พอเดินไปก็เกิดรอยเท้าบุ๋มลงไปตลอด (ดีที่ไม่ยุบลงไปจนเป็นโคลน)  ผมหันหลังถ่ายภาพครับ ดูเหมือนมีใครเดินตามหลังผมมานะครับ...บรื๋อยย์..... คือว่าผมไปคนเดียวนะครับตรงจุดนี้ ภาพขวา : หันหลังไปดูไกลๆ ช่วงนี้ ลานเดินเริ่มหายไป ถูกใช้ปลูกต้นอ้อยเต็มพื้นที่แล้วครับ ต้องเดินระวังๆ หน่อย จะเหยียบต้นอ่อนเขา เดี๋ยวเขาจะมาเหยียบผมคืน.... วันนี้ ดึกแล้ว ขอพักกระทู้ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันนะครับ ยังมีอีกหลายจุดที่จะต้องไปกัน คอยติดตามชมนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 21:27:33

ความคิดเห็นที่ 38   ...ตามมาเที่ยวเขื่อนป่าสักด้วยคนนะคะ ภาพสวยจังเลยค่ะ เห็นแล้วอยากไปทุ่งทานตะวันเลยค่ะ ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 22:51:41

ความคิดเห็นที่ 39   สวัสดีครับพี่ หายไปนานเชียว จากคุณ : Alderwood เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 09:46:23

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณ คุณมิราชช มากๆครับผม ถ้าเป็นพระนอนที่วัดคีรีโสภณ  ก็น่าจะเป็นองค์เดียวกับที่ทางห้องศาสนาเขาระดมทุนกันไปบูรณะหน่ะครับ แปลงจากองค์ก่อปูนสีขาวเดิมเป็นสีทอง และทำการตกแต่งฐานองค์พระกับบริเวณรอบๆใหม่หมดเลย ทางรถไฟสาย แก่งคอย-บัวใหญ่ พึ่งจะได้รับการอนุมัติงบปรับปรุงมาเองครับ สงสัยว่าจะอีกนาน กว่ารถไฟจากกรุงเทพจะได้กลับเข้าไปวิ่งตามปกติอีกรอบ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 10:09:13

ความคิดเห็นที่ 41   สวัสดีครับ คุณปลายฟ้าที่ภูตะวัน : ขอบคุณที่ชมครับ ถ้าจะให้สวยต้องไปปลายปีครับ ดอกทานตะวันเบ่งบานพร้อมๆกับน้ำเต็มเขื่อน ครับ  แต่ทริปนี้ของผมเน้นเรื่อง Unseen ภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นกันครับ สวัสดีครับ คุณAlderwood : เช่นกันครับ ไม่ค่อยได้เห็นคุณเช่นกันในห้อง BP นี้ครับ แต่ล่าสุดที่ได้เข้าไปท่อง เว็บรถไฟดอทคอม ได้พบคุณกลับไปถ่ายภาพรถไฟ ที่สะพานคอมโพสิต ตั้งหลายรูป  ยังไม่ลืมครับ(คิดถึงเมื่อใดก็ไปเข้าเว็บที่นั่นดูได้) สวัสดีครับ คุณอุ้ย (digimontamer) : ครับ เดี๋ยวออกจาก ทุ่งทานตะวัน(อ้อย) ผมจะพาขึ้นไปชมพระนอนกับวิวเขื่อนป่าสักฯ ในระยะไกลๆ นะครับ   อ้อ...การปรับปรุงทางรถไฟสายแก่งคอย-บัวใหญ่ หมายถึงว่าจะมีการปิดเส้นทางด้วยหรือครับ  จะใช้เวลานานกี่เดือนครับ จะทันช่วงปลายปี เทศกาลทุ่งทานตะวันหรือเปล่าครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 12:18:10

ความคิดเห็นที่ 42   วันนี้มาต่อกันครับ ภาพบนซ้าย : เป็นรูปของน้าแมวกำลังส่องอะไรอยู่? แต่ข้างหน้าเป้นต้นไม้แห้ง  สงสัยผมต้องเดินไปใกล้ๆดูบ้าง  (ต้นไม้ต้นนี้ ดูแล้วคล้ายกับ ต้นท้อในเรื่อง The Letter ที่คุณแอน ทองประสมเล่นกับคุณอรรถพร ธีมากร ที่อ่างขาง) ภาพบนขวา : เส้นทางข้างหน้าดูจะเริ่มรกแล้ว ต้นหญ้าขึ้นสูงกว่าหัวผมอีก ต้องหาช่องแหวกเข้าไปให้ได้ ภาพล่าง : หาช่องเหมาะๆ ถ่ายต้นไม้แห้งนี้จากระยะไกล แล้วก็ได้เห็นแนวทางเดินเข้าไป ที่ไม่ค่อยสะดวกนัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 12:25:15

ความคิดเห็นที่ 43   การเข้าถึงเจ้าต้นไม้แห้งต้นนี้ ผมทำสำเร็จแล้ว ได้เข้าไปถ่ายระยะประชิด ชนิดที่ไม่กลัวเจ้าของที่จะสงสัยการบุกรุกครั้งนี้..... ว่าเข้ามาทำไม  เพราะระหว่างนั้นก็สังเกตุเห็นรถไถ 2 คันอยู่ไม่ไกล ได้แต่ไถวนเวียนไปมาแถวนั้นเหมือนกัน เทียบจาก รูปของน้าแมวใน คห.15 จะสังเกตุเห็นว่า กิ่งของผมลดลงน้อยกว่ามาก ซึ่งก็แน่ใจว่าอีกไม่นาน ก็คงถูกโค่นลงมา เลยถ่ายไว้หลายรูปหน่อย... แบบว่าเสียดายๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 12:35:26

ความคิดเห็นที่ 44   ตามมาชมต่อครับ UNSEENสุด ๆ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 12:37:17

ความคิดเห็นที่ 45   สวัสดีครับ คุณtiger's nest : แหม..ดูเหมือนแซวผมนะครับ ตรงจุดนี้ยังไม่ถือว่า Unseen มากนัก ค่อยๆติดตามไป จะพบจุดที่คนไม่ค่อยเห็นกัน เช่น พื้นที่บริเวณใต้เขื่อน แม่น้ำป่าสักสายเก่า ครับ ณ. ตรงโคนต้นไม้แห้ง ภาพบน : ผมเล็งกล้องมายังโรงงาน แทบไม่น่าเชื่อว่า มีถนนคั่นกลางระหว่างนั้นด้วย  ขนาดจอดรถตรงถนนก็ยังมองเห็นว่าโรงงานอยู่ไกลจากถนนไม่น้อย (ภาพในคห.16) ภาพล่าง : หันมามองด้านรางรถไฟบ้าง  ถ้าไม่มีเสาโทรเลขอยู่ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีรถไฟวิ่งผ่านตรงนี้ กลมกลืนกันมากครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 12:53:33

ความคิดเห็นที่ 46   อยากให้ไปสำรวจเส้นทางรถไฟสายสังขระหน่อย ได้ข่าวว่าน้ำลดลงเยอะ แนงทางรถไฟที่จมอยู่ใต้เขื่อนโผล่มาให้เห็น อยากดู จากคุณ : hot (hothot) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 13:49:56

ความคิดเห็นที่ 47   คุณ Hot ครับ ลิงค์นี้เลย http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1839&postdays=0&postorder=asc&start=80 จากคุณ : Alderwood เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 14:26:09

ความคิดเห็นที่ 48   สวัสดีครับ คุณhot (hothot) : มีทางรถไฟอยู่ใต้เขื่อนด้วยหรือครับ เพิ่งทราบนะนี่.... (เห็นว่าทางรถไฟไปสิ้นสุดแถวๆ สถานีน้ำตกเท่านั้นนะครับ ตอนสมัยสงครามเห็นว่าทางรถไฟมียาวไปถึงช่องเขาขาด ไม่รู้ว่าเคยไปถึง สังขละเลยหรือครับ แถวนั้นมีแต่เขานะครับ คงต้องให้ผู้รู้มาเพิ่มเติมให้นะครับ) ช่วงนี้น้ำลดลงเยอะ เห็นซากต้นไม้โผล่ขึ้นมาเยอะเลย ฝนเริ่มตกลงเยอะแล้ว กลัวจะไปไม่ทันเหมือนกัน  แต่ในทริปนี้ ผมได้ไปสำรวจน้ำเหนือเขื่อนป่าสักฯ ด้วย คงจะนำมาโพสได้ในตอนหน้าครับ คอยติดตามชมกันต่อไปครับ ก่อนกลับขอถ่ายภาพแบบพานอรามาดู จะได้เห็นทุกอย่างในรูปเดียวกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 14:34:40

ความคิดเห็นที่ 49   โอ..ไวดังกามเทพหนุ่มเลย  คุณ Alderwood ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับทางรถไฟเก่าสังขละมาให้ ขอบคุณครับ (นึกแล้วว่าต้องไม่พลาดสายตาเขา guruรถไฟคนหนึ่ง) ก่อนกลับออกมา ขอถ่ายภาพเลียนแบบคุณน้าแมว ในคห.15 ซะหน่อย อาจเป็นภาพประวัติศาสตร์ เพราะต่อไปต้นไม้แห้งต้นนี้อาจหายไปครับ (อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นต้นอะไร และทำไมต้องตาย ใครทราบแวะมาเพิ่มเติมได้นะครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 14:48:10

ความคิดเห็นที่ 50   ภาพบน : เดินกลับขึ้นมาบนราง แล้วหันไปดูฝั่งตรงข้ามบ้าง เคยทราบมาว่าก็มีการปลูกดอกทานตะวันเช่นกัน แต่วิวสวยสู้ฝั่งเดิมไม่ได้ เพราะมีเนื้อที่น้อยกว่ามาก ตอนนี้ยังไม่ได้ลงต้นไม้ มีแต่ดินเพิ่งถูกไถสดๆร้อนๆ ภาพล่าง : ผมเดินกลับมา แล้วพยายามสังเกตุรถผม ที่จอดอยู่ไกลๆ  เห็นแล้วครับ อยู่ถัดจากบ้านหลังใหญ่ไปนิดเดียว  ที่จริง ถ้าสังเกตุดีๆ จากจุดชมทานตะวันก็มองเห็นนะครับ แต่คันเล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเท่านั้นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 14:53:03

ความคิดเห็นที่ 51   ผมกลับขึ้นมาที่รถแล้วรีบเดินทางต่อทันที ภาพบน : เป็นวิวข้างทาง เป็นการปลูกพืชกสิกรรมเป็นทางลาดเอียงเชิงเขาครับ เหมือนผมเกรียนๆ บนหัวเลยครับ....ฮา ภาพล่าง : เส้นทางจะคดเคี้ยวบังคับไปเรื่อยๆ ไม่หลงง่ายๆ (แต่..ถ้าไม่มี GPS นำทางอาจเผลอออกถนนใหญ่ได้เหมือนกัน) เจอป้ายจราจร แนะนำ "เบอร์โทรฉุกเฉินตำรวจทางหลวงชนบท 1146" ผมเองเพิ่งทราบครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:07:03

ความคิดเห็นที่ 52   ภาพบน : ขับๆ ไป ก็สังเกตุเห็นอาคารสวยคล้ายวัด... อยู่ด้านขวามือครับ ภาพกลาง : เข้าไปใกล้อีกนิด มองดูแนวรั้วที่โค้งลงมาจากยอดเนิน สวยดีครับ เหมือนรีสอร์ทเลย ภาพล่าง : ผ่านไปด้านหน้า ไม่เห็นมีป้ายใดๆ บอก คงเป็นบ้านส่วนตัว หรือไม่ก็ สำนักอบรมทางธรรม ที่เปิดเป็นการเฉพาะนะครับ ใครทราบก็บอกกันบ้างครับ.... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:22:17

ความคิดเห็นที่ 53   จากแผนที่ในคห.2 เป้าหมายที่สองก็คือ วัดคีรีโสภณ ครับ ซึ่งปกติเราจะเดินทางมาจากถนนใหญ่ ด้านจ.สระบุรี ในขณะที่หน้าวัดจะหันไปทาง อ.วังม่วง ภาพบน : เมื่อผ่านสี่แยกด้านหลังวัด (ตรงมาจากถนนใหญ่สระบุรี-ชัยบาดาล หมายเลข 21) ก็จะพบถนนแบบนี้ ภาพกลาง : นี่เป็นด้านหลังวัด จะเห็นพระนอนสีทองอร่ามอยู่บนยอดเนินซ้ายมือครับ ถนนจะเลียบข้างๆ เนินเขาอ้อมไปด้านหน้าวัด ภาพล่าง : เจอหน้าวัดแล้วครับ ตรงนี้จะไม่สังเกตุเห็นป้ายชื่อหน้าวัดใดๆ อย่างที่คุ้นเคย เลี้ยวเข้าไปได้เลย ไม่ผิดวัดครับ    ถนนหน้าวัดนี้ เลยไปจะบังคับเลี้ยวขวา ไปพบสี่แยก เลือกไป อ.วังม่วง, เขื่อนป่าสักฯ หรือ ย้อนกลับไปทุ่งทานตะวันได้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:40:28

ความคิดเห็นที่ 54   ผมออกไปยืนหน้าวัด เพื่อเก็บภาพด้านหน้า (เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นด้านหน้าวัดที่มีป้ายวัดจริงๆ เพราะปกติวัดนอกจากจะมีซุ้มประตูใหญ่หน้าวัดแล้วมักมีกำแพงริมถนนด้วย แต่ที่นี่ไม่มีครับ) ภาพบน : นี่ดูแล้วน่าจะเป็นป้ายชื่อวัดดั้งเดิม ครับ  ตั้งอยู่ชิดไปทางโค้งในรูปล่างของคห.53 เลย แบบว่าชาวบ้านถ้ามาจาก อ.วังม่วงจะเห็นป้ายนี้ก่อน ภาพกลาง : ดูเป็นป้ายใหม่ อยู่ตรงทางเข้าวัดพอดี ภาพล่าง : เป็นป้ายประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ว่าที่วัดนี้มีพระนอนองค์ใหญ่ "พระพุทธไสยาสน์รัศมี" ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:52:35

ความคิดเห็นที่ 55   ภาพบนซ้าย : จอดรถปุ๊บ ผมก็รีบขึ้นบันไดขึ้นไปเลย ไม่ทันสังเกตุป้ายเล็ก ตรงด้านขวา ภาพบนขวา : ผลคือ ผมขึ้นมาอยู่ในส่วนโบสถ์ ที่มีรั้วพัทธสีมากั้นโดยรอบ ในขณะที่มีบันไดด้านนอก ที่ขึ้นต่อไปยังพระนอนได้ ภาพล่างซ้าย : ผมเลยต้องเดินลงมาข้างล่างอีก เพราะไม่อยากปีนรั้ววัด และราวบันได  ไหนตั้งใจมาทำบุญ จะกลายมาเป็นบาปอีก... เหนื่อยฟรีครับ ป้ายบอกทางขึ้นหล่นไปอยู่ข้างล่างขวามือ เล็กนิดเดียว ใครจะไปรู้ว่า พระนอนใหญ่ขนาดนี้ กลับมีป้ายบอกเล็กอย่างนี้ ภาพล่างขวา : ขึ้นมาหน่อยก็หันกลับไปมองที่ลานวัดครับ เห็นรถผมจอดอยู่ใต้ร่มไม้กับคณะที่มาด้วยกัน (ไม่มีใครตามขึ้นมา เพราะกลัวบันไดกับแดด) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:27:37

ความคิดเห็นที่ 56   เดินขึ้นมาเรื่อย...แฮ่กๆ... หยุดถ่ายภาพเป็นระยะ  เจอบอร์ดข้อมูลการก่อสร้างครับ เป็นของเทศบาลต.แก่งเสือเต้น งบปีพ.ศ.2550 ยอดเงินรวม 1,763,500 บาท ระยะเวลาประกัน สค.50-สค.52  เอ..แต่ดูเหมือนเพิ่งทำเสร็จไม่นาน  หรือคนละส่วนกับการบูรณะองค์พระนอนนะครับ ขึ้นมาจนพ้นบันได มองเห็นหินอะไรขาวๆ ตั้งอยู่ไกลๆโน้นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:47:57

ความคิดเห็นที่ 57   เรียนคุณ มิราชช (mirage_II) ตามกำหนดเดิมนั้นจะปิดซ่อม 3 เดือน คือ ม.ค.-มี.ค. ครับ แต่ตอนนี้ท่าจะยาวนานไปเรื่อยๆแล้ว เพราะยังไม่ได้ลงมือซ่อมและปรับปรุงเป็นชิ้นเป็นอันเท่าใดครับ ทำให้พวกรถเร็วและรถด่วนจากกรุงเืทพ ที่จะขึ้นอุดรธานี ทางแก่งคอย-บัวใหญ่ ย้ายไปใช้เส้นทาง แก่งคอย-โคราช แทนจนถึงปัจจุบันครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:53:35

ความคิดเห็นที่ 58   ภาพบน : เมื่อเข้าไปใกล้หินขาวที่ตั้งอยู่ ก็ทราบว่าเป็น ประติมากรรมพระแบบจีน สององค์ครับ น่าจะเป็นหินแบบเดียวกับพระนอน ก่อนจะทาสีทองครับ ภาพกลาง : เจอระฆังแขวนไว้ให้ตีครับ ผมตีทุกใบเลย  ตรงไป(น่าจะ)เป็นลานจอดรถ ที่ทางขึ้นมาแบบออฟโรด เลี้ยวขวาไปตามทางเดิน เพื่อไปสู่พระนอนครับ ภาพล่าง : ข้างหน้าก็คือ เศียรของพระนอน ซึ่งหันไปทางทิศตะวันออก ตรงกับ หลวงปู่สัก องค์พระใหญ่ท้ายเขื่อน และ อ.วังม่วงพอดีครับ   ซึ่งด้านหน้าขององค์พระก็คือ บริเวณแอ่งน้ำเหนือเขื่อนนั่นเอง ขอบคุณคุณอุ้ย (digimontamer) ด้วยที่มาตอบคำถามให้ ผมเพิ่งมาเห็นหลังจากจบกระทู้แล้ว คงเป็นเพราะสภาพไม้หมอนเสียหายเยอะ อย่างที่ผมเห็นมาช่วงสำรวจต้นปีนี้ (โดยเฉพาะที่เนินเดียวดาย) แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 19:59:21 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:03:57

ความคิดเห็นที่ 59   ไปยืนตรงบริเวณใต้เศียรองค์พระ แล้วเก็บภาพพอนอรามา โดยรอบมาให้ดู จะพบว่าเป็นภาพทั้งหมดของ บริเวณเขื่อนป่าสักฯ จริงๆ ตั้งแต่โรงงานน้ำตาลใต้เขื่อนไปจนถึงถังสีขาวคู่ของโรงงานเหนือเขื่อนเลย (สรุปแล้ว แถวนี้มีโรงงานเยอะเหมือนกัน) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:31:11

ความคิดเห็นที่ 60   ลองใช้กล้องซูมเข้าไปใกล้ๆ ที่หอคอยเขื่อนป่าสักฯ ครับ  ถ้าหากมีกล้องส่องทางไกลจะเห็นชัดกว่านี้ครับ (กล้องคอมแพ็ค ได้แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว เพราะไม่มีขาตั้ง ลมพัดแรง มือไม่ค่อยนิ่งนัก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:36:17

ความคิดเห็นที่ 61   ภาพซ้าย : นี่เป็นจุดตั้งกล้องถ่าย ในภาพคห.59 ครับ ซึ่งจะมองเห็นเขื่อนป่าสักฯ ได้ทั่วบริเวณ แต่สันเขื่อนสังเกตุไม่ค่อยชัดเพราะมีต้นไม้บดบังไปเยอะ ภาพขวา : มองไปตามแนวสายพระเนตรของพระนอน จะเห็นว่า ตรงไปยัง แนวภูเขายึกยือข้างหน้า ซึ่งจากทริปก่อนๆ ทำให้ทราบว่าเป็น เขาสมโภชน์ ที่ดูสวยงามดั่งในป่าหิมพานต์ ครับ (ถ้ามีโอกาสผมจะลองเข้าไปเที่ยวดู) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:52:24

ความคิดเห็นที่ 62   ผมเดินมาทางด้านหน้าองค์พระนอน จะพบรูปปั้นเทพ อยู่ 7 องค์รายรอบ สีสรรสดใส  มีพระนอนองค์เล็กที่สร้างขึ้นมาทีหลัง เพื่อให้ปิดทองที่องค์นี้แทนองค์ใหญ่ ครับ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 18:37:38 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:09:14

ความคิดเห็นที่ 63   พยายามเก็บภาพพระนอนเต็มองค์ให้ได้  ยากครับ เพราะพื้นที่บนนี้แคบพอสมควร ก็ได้เท่าที่เห็นครับ (กล้องผมซูมได้แค่ 35 มม.)  แต่ก็สวยมากครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:20:45

ความคิดเห็นที่ 64   ถ้าจะถ่ายพระพักต์ ของพระนอนให้ชัดๆ ก็ได้เท่าที่เห็น ซึ่งตรงเศียรพระจะเป็นจุดชมวิวเขื่อนป่าสักฯ ที่ผมถ่ายให้เห็นแล้วจากคห.ข้างบน  ทีแรกยังคิดทางขึ้นเป็นด้านหน้าองค์พระ แต่กลับไม่ใช่  แถมมุมมองเขื่อนป่าสักฯ จะอยู่เฉียงๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:36:28

ความคิดเห็นที่ 65   นี่เป็นบอร์ดข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติพระนอน "พุทธไสยาสน์รัศมี" แห่งนี้ครับ สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ก่อนเขื่อนป่าสักฯ 20 กว่าปี (เขื่อนป่าสักฯ สร้างเมื่อพ.ศ.2537-2542) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:42:16

ความคิดเห็นที่ 66   ภาพซ้าย : มุมนี้แสดงให้เห็นลานด้านหน้าองค์พระนอน ครับ ซึ่งไม่กว้างนัก และมีรูปปั้นเทพทั้ง 5 องค์อยู่ ด้านหลังเป็นวิว มีศาลาพักร้อนให้ด้วยครับ แต่มีต้นไม้บดบังทัศนียภาพมากพอสมควรครับ  คงต้องรอให้ต้นไม้โตมากหน่อย แล้วตัดกิ่งกับใบในระดับสายตาออก ให้เหลือแต่ต้น (กับใบในระดับเหนือหัว) จะดีมากครับ ภาพขวา : ตรงพระบาทองค์พระ จะมีเทพอีก 2 องค์  มีทางเล็กๆ สามารถเดินอ้อมไปด้านหลังองค์พระได้ เดี๋ยวผมจะพาท่านไปชมกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:54:06

ความคิดเห็นที่ 67   ภาพซ้าย : ทางเดินรอบองค์พระ ดูเรียบดี คงจะทำไว้สำหรับเดินเวียนได้นะครับ ภาพขวา : ที่ด้านหลังองค์พระนี้ กลับเป็นจุดที่สูงที่สุดของเนินแห่งนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:08:56

ความคิดเห็นที่ 68   ตรงด้านหลังเศียรพระ นี้จะมีเนินดินอยู่ ที่มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างมาก (โดยที่ไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่ไม่บังด้วย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:23:33

ความคิดเห็นที่ 69   เดินวนรอบองค์พระมาด้านหน้าอีกที เพื่อพยายามเก็บภาพวิวพร้อมๆ กับ องค์พระให้ได้ เลยถ่ายแบบพานอรามาเลยครับ เพื่อนๆ ถ้าได้มาที่นี่ ก็ลองเล็งๆ หามุมสวยๆ มาอวดกันบ้างนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:26:06

ความคิดเห็นที่ 70   ภาพบน : ตอนนี้ผมจะกลับลงไปแล้ว สังเกตุเห็นว่ามี โครงสร้างอาคารที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ อยู่ 1 หลัง ถ้ามีโอกาสก็มาร่วมทำบุญได้นะครับ ภาพล่างซ้าย : มองเห็นถนนด้านหน้าวัด ที่ตรงไปยังสถานีรถไฟแก่งเสือเต้นพอดี มีระยะทางคำนวณจาก GPS Map เกือบๆ 3 กม. ภาพล่างขวา : เดินมาถึงบันไดแนวตรง ที่สร้างใหม่ ดูเป็นระเบียบสวยดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:40:39

ความคิดเห็นที่ 71   ตอนนี้ผมก็ลงมาถึงข้างล่างแล้วละครับ  สมาชิกที่มาด้วยกันเขาทำอะไรกันอยู่   ทานข้าวเที่ยงกัน(ในรถ) หลังจากนั้นก็แจกทานเป็นเศษอาหารให้สุนัขครับ   นอกจากนี้ก็ถวายปัจจัยให้แก่พระสงฆ์ที่อยู่บริเวณศาลาข้างล่างให้พอประมาณ  ก่อนถอนกำลังจากวัด เพื่อไปยังจุดหมายอื่นต่อ กระทู้นี้คงต้องจบก่อน เพราะยืดยาวมาเยอะ เดี๋ยวกระทู้จะเดี้ยง ด๋อยไปได้ (กลัวจังเลย...)  ขอยกเนื้อหา "ชมหลวงปู่สัก พระพุทธรูปองค์โตท้ายเขื่อน" กับ "การเดินเท้าบนสันเขื่อน เพื่อมุ่งไปค้นหา แม่น้ำป่าสักสายเก่า" ไว้ตอนหน้านะครับ  จะได้ว่ากันเต็มๆ ไม่ต้องกังวล ครับ ขอโพสภาพเก๋ๆ ของเจ้าตัวเล็ก ให้ดูเล่นไปก่อนนะครับ คอยติดตามต่อ ในสัปดาห์หน้านะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:54:44

ความคิดเห็นที่ 72   สนุกดีครับ จบแล้วหรอ .............. จากคุณ : ชุน (chun_cx) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 20:04:57

ความคิดเห็นที่ 73   สวัสดีครับ คุณชุน (chun_cx) : จบตอนเฉยๆ ครับ แต่ทริปยังไม่จบครับ เพราะเพิ่งไปถ่ายเพิ่มเติมอีก  งานนี้คงจะกลายเป็นมหากาพย์อีกเรื่องแน่นอนครับ คือยังคงมีหลายตอน  เพราะผมไปพบ Unseen ที่เขื่อนป่าสักฯ อีกเยอะเลย ชนิดที่ยิ่งค้นก็ยิ่งเจอ (แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะสนใจหรือไม่) จากที่คิดไว้ว่าจะใช้เวลาเดินถ่ายภาพสัก 3 - 4 ชั่วโมง แต่พอเอาเข้าจริง ล่อไปเกือบ 7 ชั่วโมงน่ะ  เหนื่อยสุดๆ แต่ก็สนุกและมันส์ครับ คอยติดตามกันต่อไปนะครับ  กะจะวางตลาดสัปดาห์ละตอน.....ไปจนจบทริป แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 53 00:17:02 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 53 00:16:19 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 00:15:07

ความคิดเห็นที่ 74   ก่อนอื่นก็ต้องสวัสดีคุณ mirage_II ที่เขียนตามรอยทุ่งทานตะวันนอกฤดู   ผมได้มีโอกาสมาเปิดอ่านดู ทีแรกก็คุ้นๆ ว่าเอ๊ะ ที่นี่ที่ไหน ดูไปดูมา อ๋อทางไปบ้านผมนี่เอง บ้านผมก็คือไร่ที่ การรถไฟมาลงเที่ยวทุกปีนั่นแหละครับ(ทานตะวัน) หมู่9 ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โรงงานที่เห็นเหมือนจานบิน ก็คือโรงงานปูนซีเมนต์ครับ เพิ่งมาสร้างเมื่อไม่ถึง 10 ปีนี่เอง จะเล่าในอดีตที่ผ่านมาก่อนจะมาเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยงามเหมือนทุกวันนี้ แต่ก่อนยังไม่ปลูกทานตะวัน จะปลูกแต่ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่ว  แต่หลังๆๆมาทานตะวันเริ่มเป็นพืชเศรษฐกิจ มีการใช้ผลิตภัณฑ์จากทานตะวันอย่างมากมาย ชาว ต.หินซ้อน เลยหันมาปลูกทานตะวันกันอย่างแพร่หลาย  จนมาถึงทุกวันนี้ ในหนึ่งปีจะปลูก ข้าวโพดกับทานตะวันสลับกันไป .....อย่างที่เห็นในรูปข้างบนตอนนี้ปลูกข้าวโพดอยู่ครับ ไม่ใช่อ้อย... ทานตะวันจะเริ่มปลูกประมาณเดือนตุลาคมครับ จะบานประมาณกลางๆเดือนพฤศจิกายน ขอขอบคุณคุณ mirage_II มากเลยครับที่ตามรอยหาทุ่งทานตะวันนอกฤดู ให้คนอื่นได้ดู สนใจข้อมูลอะไร เมล์มาถามได้นะครับ robert2499@hotmail.com จากคุณ : lampard (pairote) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 15:19:11

ความคิดเห็นที่ 75   สวัสดีครับ คุณlampard (pairote) : ยินดีครับ ที่ได้รู้จักคนท้องถิ่น แถวทุ่งทานตะวัน ต.หินซ้อนครับ  ขอบคุณที่ได้มาเฉลยให้สองเรื่องคือ โรงงานในรูปคือ โรงงานปูนซิเมนต์  กับ พืชที่ปลูกตอนนี้ เป็นต้นข้าวโพด (น่าอาย..เหมือนกันที่ไม่รู้จัก) ทีแรกคิดว่าเป็นต้นอ้อย เพราะเห็นว่ามีโรงงานน้ำตาลอยู่แถวเขื่อนป่าสักฯ ด้วย พอดีเพิ่งไปซ้ำมา (เหมือนเข้าไปในเน็ตที่ตัวเองโพสได้เลย) เลยแวะไปถ่ายภาพทางเข้าวัดคีรีโสภณจากถนนใหญ่ สายสระบุรี-ชัยบาดาล ให้ดูครับ จากรูปข้างล่างเป็นแผนที่บริเวณ อ.พัฒนานิคม ซึ่งจะมีถนนแบบตารางหมากรุกเลยทีเดียว (ขับเข้าไปต้องระวังทางแยก ที่จะมาอย่างไม่รู้ตัวด้วยนะครับ ย้ำว่ามีมากกว่าที่ผมลากในแผนที่ด้วย)  โดยมี 2 ทางแยกไฟแดงเท่านั้น คือ แยกไปเขาสูง กับ แยกไปเขื่อนป่าสักฯ   ซึ่งการจะเข้าถนนตรงไปยังวัดคีรีโสภณ(วัดพระนอน) นั้นต้องกลับรถ ก่อนถึงแยกไปเขื่อนป่าสักฯ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 13:22:03

ความคิดเห็นที่ 76   ภาพบนซ้าย : มุมมองที่เห็นเมื่อไปกลับรถมาแล้ว ปากทางเข้าวัดจะไม่มีป้ายใดๆ บอกชื่อวัดคีรีโสภณเลย  แต่จะมีศาลารอรถอยู่เท่านั้น ภาพล่าง : ต่อกันระหว่างภาพซ้ายกับภาพขวา จะมีป้ายเท่าที่เห็นดังในรูป ภาพบนขวา : เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปแล้ว ก็จะเห็นถนนดังในภาพ ซึ่งในระยะแรกๆ ก็ดี แต่ไม่นานก็มีชำรุดบ้าง ถนนเส้นเล็ก ไม่ค่อยเหมาะในการเดินทางเข้ามา  น่าจะเข้าทาง เขื่อนป่าสัก แล้วเลี้ยวขวามาจะดีกว่า  ซึ่งสังเกตุว่า ตรงสี่แยกใหญ่สุดท้ายก่อนเข้าเขื่อน (มีตลาดนัด "พงษ์เพชรพลาซ่า") จะมีป้ายบอกทางไปวัดคีรีโสภณ ในระยะทาง 4 กม. ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 17:02:27

ความคิดเห็นที่ 77   ภาพบน-กลาง : นี่เป็นสี่แยกสุดท้าย(ใหญ่) ก่อนจะถึงวัดคีรีโสภณ (ด้านหลัง)  ถนนตรงนี้ ด้านตัดขวางจะเป็นทางเอก ให้ระวังรถวิ่งเร็วครับ ภาพล่าง : เมื่อผ่านมาแล้ว จะมีต้นไม้สูงทึบสองข้าง  อีก 2 กม. จะถึงวัด ซึ่งก็จะต่อด้วยรูปภาพในคห.53 ครับ และวันนี้ก็ได้มาต่อกันในตอนสองแล้วนะครับ เชิญติดตามลิ้งค์นี้ไปได้เลย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9416270/E9416270.html แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 09:39:03 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 17:12:34

ความคิดเห็นที่ 78   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 21:36:50