ความคิดเห็นที่ 1   แต่ก่อนจะเที่ยวดินแดนทะเลเจดีย์ เรามาทำความรุจักพุกามกันซักนิดซักหน่อยก่อนค่ะ พุกาม (Bagan) เป็นอาณาจักรแห่งแรกของพม่า โดยมีพระเจ้าอโนรธาเป็นปฐมกษัตริย์ พระองค์ทรงทำสงครามชนะพวกมอญที่อยู่ทางใต้ จากนั้นจึงสถาปนาอาณาจักรพุกามขึ้น โดยชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตะริมันตระปุระ แปลว่า เมืองที่ปราบศัตรูราบคาบ ค่ะ ในสมัยของพระเจ้าจันสิทธะ กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์พุกาม พุทธศาสนารุ่งเรืองมากที่สุด เจดีย์น้อยใหญ่สร้างขึ้นมากมายในสมัยของพระองค์ ในขณะที่ในสมัยของพระเจ้าอลองสิทธุ ศิลปวิทยาการรุ่งเรืองถึงขีดสุด พระองค์ทรงโปรดให้สร้างเจดีย์ ตะเบียงเนียว แปลว่า เจดีย์แห่งความรู้ ซึ่งนั่นก็คือ เจดีย์สัพพัญญู ที่รู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง เด๋วเราค่อยไปว่าถึงอีกครั้งตอนไปเยี่ยมชมนะคะ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์พุกาม คือ พระเจ้านรสีหบดี พระองค์ทรงสร้างเจดีย์องค์สุดท้ายแห่งพุกามเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 1819 และ 8 ปีให้หลัง พุกามก็ถูกกองทัพมองโกลเข้าตี จนกระทั่งอาณาจักรพุกามถึงกาลล่มสลายในที่สุดค่ะ เจดีย์ที่ว่านั้นคือเจดีย์ไร มีเฉลยให้ตอนหลังค่ะ ใครทราบแล้ว จุ๊ จุ๊ ไว้ก่อนนะคะ ใครยังไม่ทราบตามมาเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ พุกามในวันนี้ คือเมืองที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากไปเยือนซักครั้งในชีวิต เราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ พุกามจะว่าไปก็อยู่ในเขตของมัณฑะเลย์ ห่างจากมัณฑะเลย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 145 กม. และห่างจากย่างกุ้ง 600 กม. พุกามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่าซึ่งแต่เดิมเป็นที่ตั้งของอาณาจักรพุกามค่ะ เขตเมืองใหม่เป็นเขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และยองอูหนือหย่าวอู ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจและการค้าค่ะ พุกามถูกขนานนามว่า เมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ก็เพราะในสมัยที่พุกามเจริญรุ่งเรืองที่สุดนั้น เคยมีเจดีย์มากถึง 4,446 องค์ และเชื่อกันว่า ถ้านับกันดีๆแล้ว เจดีย์ทั้งน้อยใหญ่จำนวนร่วมๆหมื่นองค์เลยทีเดียวค่ะ แม้ว่าปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ก็ตาม แต่กระนั้นเจดีย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์เนื่องจากพุกามเป็นเขตแห้งแล้ง  ทำให้เจดีย์ไม่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติใดๆมากนัก อีกทั้งชาวพม่าก็ถือคติไม่ทำลายเจดีย์อย่างเคร่งครัดด้วยค่ะ เล่าประวัติมาพอสังเขปแล้ว พร้อมจะไปท่องดงเจดีย์กันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาได้เลยค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 13:52:30

ความคิดเห็นที่ 2   ขอไปด้วยนะค่ะ จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 13:56:55

ความคิดเห็นที่ 3   จากมัณฑะเลย์ เราเดินทางมาพุกามโดยสายการบินแอร์บากันค่ะ เที่ยวบ่ายแก่ๆ หลังเครื่องบินเหินแหวกม่านฟ้าขึ้นไปได้เพียง 20 นาทีเศษๆ ก็เตรียมลดระดับเพื่อลงจอดซะแล้ว แม๊ อยู่บนเครื่องยังไม่คุ้มค่าตั๋วเลยแฮะ หุหุ ตรวจสอบตารางการบินได้ที่นี่ค่ะ http://www.airbagan.com/ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 13:57:10

ความคิดเห็นที่ 4   เมื่อเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นอาคารเล็กๆ ก็ต้องไปต่อคิวเพื่อจ่ายค่าเข้าเมือง คนละ$10 ค่ะ  จ่ายแค่ครั้งเดียวตรงจุดนี้แหละค่ะ จากนั้นจะเที่ยวอีกซักกี่เจดีย์ ก็ไม่มีค่าเข้าค่ากล้องให้ต้องเสียอารมณ์อีกแล้วค่ะ เดินออกจากสนามบิน เจอไอร้อนปะทะผิวกาย นึกว่าใครเอาน้ำร้อนมาสาดไล่อิกค่ะ อิอิ อุณหภูมิ ณ วันที่ไป 43 C ค่ะ ร้อนได้ใจไม๊ล่ะคะ รถเก่าๆของโรงแรมที่มารับ ขับไปเรื่อยๆเอื่อยๆ เฉื่อยๆ ประมาณ 10 กม. ได้ ก็ถึง Nyaung U (ยองอู) ศูนย์รวมที่พักราคาสบายกระเป๋าของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ ค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 13:59:24

ความคิดเห็นที่ 5   อะ น้องเลิฟ รอพี่ด้วย       เคยเห็นแต่ทะเลหมอก คราวนี้มาดูทะเลเจดีย์ซะหน่อย จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:00:45

ความคิดเห็นที่ 6   ข้อมูลเพียบเลยน้องเลิฟ ไปด้วยคนครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:02:39

ความคิดเห็นที่ 7   ที่พักของเราคราวนี้ เลือก New Park Hotel  ที่นี่มี 2 โซน เป็นโซนเก่าและโซนสร้างใหม่ โซนเก่าราคาถูกกว่า สภาพห้องก็ไม่น่าเกลียดนะคะ มีแอร์ ห้องน้ำในตัว มีอาหารเช้าให้ มีบริการรถรับจากสนามบินฟรี ราคาห้องพัก 2 คนของเรากับเพื่อนอยู่ที่ $12 ห้องพักของเพื่อนอีกคน $7 ขนาดห้องเท่ากัน มี 2 เตียงเหมือนกันค่ะ เข้าไปดูเว็บไซท์ของ New Park Hotel ได้ที่นี่ค่ะ http://www.myanmar.ca/newpark/index.shtml ห้องนี้เรากับเพื่อนสาวพักค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:02:46

ความคิดเห็นที่ 8   นี่เป็นห้องเพื่อนหนุ่มพักค่ะ สบายไปเลย คนเดียวได้นอนตั้ง 2 เตียงแน่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:04:43

ความคิดเห็นที่ 9   ไปด้วยครับ  ข้อมูเยอะๆแบบนี้ชอบ  ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:05:35

ความคิดเห็นที่ 10   ขอตามไปเก็บภาพประทับใจด้วยคนค้าบบบ ... จากคุณ : ต่ายน้อย (coopers2006) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:07:43

ความคิดเห็นที่ 11   หน้าห้องพัก มีบริเวณด้วยนะคะ เป็นโรงแรมแบบบังกะโลอ่ะค่ะ ตึกชั้นเดียว โซนเก่าอยู่ด้านใน โซนใหม่อยู่ด้านนอกหันหน้าออกสู่ถนนค่ะ เราว่าด้านในก็ไม่เสียหายนะคะ เอาถูกไว้ก่อน วิวค่อยไปหาเอาดาบหน้าค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:08:27

ความคิดเห็นที่ 12   ตามไปเที่ยวด้วยครับ รูปสวยมากกก จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:08:42

ความคิดเห็นที่ 13   Aungminlagar GH ก็น่าสน อยู่ใกล้เจดีย์ชเวซิกอง แค่ข้ามถนนก็เจอปากทางเข้าสู่เจดีย์แล้วล่ะ แต่ถ้าใครเป๋าหนักอยากพักหรูหราหน่อย แนะนำพักในเขต New Bagan  เป็นย่านโรงแรมติดดาวค่ะ จองได้จาก www.agoda.com ค่ะ เรามาถึงก็เย็นแล้ว จะเรียกรถไปดูอาทิตย์ตกก็ไม่ทันแล้ว ก็เลยไปนั่งชิลๆกันที่ร้านอาหารแทนค่ะ สำหรับร้านอาหารในเขต Nyaunh U ส่วนใหญ่รสชาติเอาใจนักท่องเที่ยวค่ะ ย่านถนนภัตคาร (ใน LP เรียก Restaurant row) อยู่ทางใต้ของถนนสายหลักเข้าเมืองค่ะ มีหลายร้านให้เลือก กลางคืนต่างก็ประกวดประขันแข่งกันประดับประดาร้านด้วยนิออนหลากสีค่ะ หน้าร้านมีเมนูอาหารพร้อมราคา วางให้นักท่องเที่ยวได้คิดก่อนตัดสินใจค่ะ ราคาอาหารแต่ละร้านก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เมนูเดียวกันถ้าจะต่างกันก็ไม่เกิน k3000 ค่ะ อาหารทะเลมีเหมือนกันแต่ก็แพงตามระเบียบค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:12:23

ความคิดเห็นที่ 14   ใครติดเน็ต อยากเช็คเมล หรือตามอ่านรีวิวของเพื่อนๆห้องบลู ที่ถนนย่านภัตคารเห็นมีอยู่ 2 -3 ร้านค่ะ ร้านใหญ่สุดแอร์เย็นเฉียบเห็นจะเป็นเน็ตคาเฟ่ของ A Little Bite of Bagan ฝั่งตัดกับถนนหลักทางที่จะไปเจดีย์ชเวซิกองค่ะ ร้านนี้มี 2 แห่ง อยู่ต้นถนนและท้ายถนนค่ะ สนนราคาต่อชม. อิอิ จำไม่ได้แล้วแฮะ จ่ายค่าเน็ตเค้าไม่มีใบเสร็จให้ด้วยจิ ขอหมายเหตุนิดนึงว่า เน็ตที่พุกามจะออกแนวเน็ตเอื้ออาทรนะคะ ไม่สามารถเข้าเน็ตได้ตลอด 24 ชม. เจ้าของร้านว่า ส่วนใหญ่รัฐบาลจะปล่อยให้ใช้ได้เฉพาะตอนเย็นๆค่ำๆค่ะ ร้านขายเครื่องเขิน งานแกะสลักไม้ มีให้เห็นได้ทั่วไปในพุกามค่ะ ใครอยากซื้อของฝากเป็นงานฝีมือที่ให้ได้ภูมิใจเหอะว่า คุณจะได้เป็นเจ้าของงานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ก็ซื้อหาต่อราคากันได้ค่ะ ของดีของเด่นของพุกามก็จำพวกเครื่องเขินเนี่ยล่ะค่ะ เราเห็นฝาหรั่งตะบี้ตะบันซื้อแล้วหอบหิ้วกลับบ้านกลับเมืองไปซะเยอะแยะ มีหมู่บ้านที่เค้าทำเครื่องเขิน สามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ค่ะ ถามเอาจากคนขับแท็กซี่หรือรถม้า ที่โรงแรมที่พักก็ได้ค่ะ พิกัดแน่นอนเราไม่ทราบ เพราะไม่ได้ไปค่ะ เน้นเที่ยว ไม่เน้นช้อป ผิดวิสัยเลดี้ฟรอมไทยแลนด์ จังนะคะ อิอิ หลังอาหารค่ำ ไม่ลืมติดต่อแท็กซี่พาเที่ยวในวันรุ่งขึ้นค่ะ  อ่านจากป้ายข้างทางลองเข้าไปคุย ได้ความว่า เค้าก็เป็นชาวบ้านธรรมดาแต่อาศัยว่ามีรถ 2 คัน ก็เลยเอามารับจ้างค่ะ  ราคาเปิดมาที่ $25 ขาดตัว ถ้าเราโอเคเค้ายอมให้จ่ายน้อยกว่าคนอื่น k1000 สำหรับขาไปส่งสนามบินในวันถัดไปค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:19:25

ความคิดเห็นที่ 15   หลังอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น รถแท็กซี่มารอรับตามนัดหมาย ปฏิบัติการท่องดินแดนทะเลเจดีย์จึงเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ อ่อ ก่อนจะตกลงปลงใจไปกับแท็กซี่คันไหน อย่าลืมตกลงกับเค้าให้ชัดเจนก่อนนะคะว่า จะเริ่มเที่ยวตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง เพราะแท็กซี่ที่พุกาม เค้ามีแบ่งเที่ยวเป็นเซสชั่นเช้า กับ บ่ายค่ะ  เค้าจะพักกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงๆ แล้วเริ่มสตาร์ทอีกทีก็บ่ายแก่ๆ สี่โมงเย็นเป็นเวลามาตราฐานที่เค้าออกสตาร์ทเซสชั่นบ่ายกัน แต่ถ้าต้องการสตาร์ทที่เวลาอื่น ก็ต้องคุยกับเค้าให้เข้าใจเสียก่อนนะคะ ค่าเหมาแท็กซี่ 1 วันจะอยู่ที่ประมาณ $25-35 ผ่านที่พัก หรือ บ.ทัวร์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 30+ ค่ะ สำหรับโปรแกรมวันนี้ ท่องดงเจดีย์  เราแบ่งเที่ยวเป็นโซนๆค่ะ เที่ยวในเขต  Nyaung U & Wetkyi-in - Shwezigon - Alo Taw Paya - Shwe Laik Tu เที่ยวในเขต Old Bagan - Htilominlo - Ananda - Tharabar Gate - Mahabodhi - Bupaya - Gawdawpalin - Nathlaung Kyaung - Thatbyinnyu - Dhammayangyi - Shwesandaw เที่ยวในเขต Minnanthu - Sulamani Kyaung เที่ยวในเขต Pwasaw - Dhammayazika แต่ Dhammayangyi และ Shwesandaw  เก็บไว้หลังสุดค่ะ เนื่องจากเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทะเลเจดีย์ที่งามที่สุดค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:22:49

ความคิดเห็นที่ 16   แน่นอนว่า เช้าๆอย่างนี้ สถานที่แรกที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมคงไม่พ้น Shwezigon Pagoda เจดีย์ชเวซิกอง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโนรธาแต่เสร็จสมบูรณ์ในสมัยพระเจ้าจันสิทธะ ชาวพม่าเคารพนับถือเจดีย์ชเวซิกองไม่แพ้เจดีย์อื่นๆในพม่า เชื่อกันว่า เจดีย์ชเวซิกองนี้ เป็นที่บรรจุพระทันตธาตุและอัฐิพระนลาฏของพระพุทธเจ้า พระนลาฏ แปลว่า  หน้าผาก จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:25:20

ความคิดเห็นที่ 17   คำว่า ชเว ในภาษาพม่าแปลว่า ทอง  ส่วน ซิกอง แปลว่า พื้นทราย ที่เรียกเจดีย์บนพื้นทราย ก็เนื่องจากเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเป็นเจดีย์แห่งแรกในพุกาม ซึ่งเป็นเขตพื้นที่แห้งแล้งตอนกลางของพม่าน่ะค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:29:06

ความคิดเห็นที่ 18   องค์เจดีย์ชเวซิกองเป็นศิลปะพม่าแท้แบบระฆังคว่ำ สูง 60 เมตร มีลวดลายเครื่องรัดอยู่กลางองค์ เหนือองค์มีลวดลายแบบบัวซ้อนกันหลายชั้น มีฉัตรอยู่บนยอดองค์ รอบฐานพระเจดีย์มีต้นไม้ทองตั้งบนฐานปูนสีขาวค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:30:31

ความคิดเห็นที่ 19   อยากไปมาก ๆ ขอเก็บข้อมูลก่อนนะ ปล.ภาพสวยมาก ๆ เลย จากคุณ : ณ ดินแดนอันแสนไกล เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:32:10

ความคิดเห็นที่ 20   รอบๆองค์พระเจดีย์ยังมีสิ่งก่อสร้างอีกมากมาย บอกเล่าความสำคัญทางพุทธศาสนา และความเป็นมาของเจดีย์ชเวซิกอง มีโบราณวัตถุสำคัญอีกหลายอย่างที่เก็บรักษาไว้ภายในบริเวณด้วยค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:33:22

ความคิดเห็นที่ 21   เจดีย์ชเวซิกอง เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าค่ะ อีก 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แก่ เจดีย์ชเวดากองแห่งย่างกุ้ง พระธาตุมุเตาแห่งเบกูหรือที่รู้จักกันดีในชื่อหงสาวดีนั่นแหละค่ะ ไจก์ทิโยหรือคุ้นหูกันในชื่อพระธาตุอินทร์แขวน ฝรั่งเรียก Golden Rock ค่ะ  และ พระมหามุนีแห่งเมืองมัณฑะเลย์ค่ะ มาสักการะ 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่าทั้งที ก็คงต้องเกริ่นถึงความอัศจรรย์ 9 ประการขององค์เจดีย์ซักหน่อยค่ะ อัศจรรย์ที่ 1 สังเกตุได้ว่ายอดองค์เจดีย์ชเวซิกองไม่มีการเสริมเหล็กซักเส้นเลยค่ะ ยอดเจดีย์ก็ยังคงทนอยู่ได้แม้จะต้องแดด ลม ฝน ซักแค่ไหนก็ตามค่ะ อัศจรรย์ที่ 2 ทองคำเปลวที่พุทธศาสนิกชนนำไปปิดองค์เจดีย์ แม้ว่าจะหล่นร่วงลงมาก็จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมขององค์เจดีย์ค่ะ อัศจรรย์ที่ 3 ไม่เพียงแต่แผ่นทองคำเปลวนะคะที่จะไม่หล่นพ้นจากฐานสี่เหลี่ยม  แม้แต่เงาขององค์เจดีย์เองก็จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมเลยค่ะ ไม่ว่าจะวันไหน เดือนไหน หรือปีไหนค่ะ อันนี้เป็นความเชื่อน่ะค่ะ ในสมัยที่มีการก่อสร้างเจดีย์ มีการคำนวนอย่างรอบคอบค่ะ เพราะความเชื่อที่ว่า เงาที่ล้ำออกนอกฐานไป เปรียบเสมือนลางร้ายของแผ่นดินค่ะ อัศจรรย์ที่ 4 ภายในเขตบริเวณรอบเจดีย์ สามารถรองรับผู้มาแสวงบุญได้อย่างไม่เคยเต็มค่ะ อัศจรรย์ที่ 5 มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อนๆทุกเช้า ว่ากันว่าไม่ว่าจะตื่นเช้าเพียงใด หากมาสักการะองค์เจดีย์แล้วล่ะก็ จะพบข้าวสุกอยู่ในบาตรแล้วเสมอค่ะ อัศจรรย์ที่ 6 กลองใบใหญ่ที่ตีจากด้านหนึ่งขององค์เจดีย์  อีกด้านหนึ่งไม่สามารถได้ยินเสียงกลองได้เลยค่ะ อัศจรรย์ที่ 7 องค์เจดีย์เสมือนตั้งอยู่บนที่สูงเสมอค่ะ แม้ว่าความเป็นจริงองค์เจดีย์ถูกสร้างบนพื้นที่ราบค่ะ อัศจรรย์ที่ 8 จะไม่เกิดน้ำท่วมขังในอาณาเขตของเจดีย์ชเวซิกองเลย ไม่ว่าฝนจะตกหนักตกแรงตกติดต่อกันนานแค่ไหนก็ตามค่ะ และอัศจรรย์สุดท้าย ต้นพิกุลที่อยู่ในบริเวณเจดีย์ จะออกดอกตลอดทั้งปี แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว ต้นพิกุลจะออกดอกแค่ปีละครั้งค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:39:34

ความคิดเห็นที่ 22   นอกจากทั้ง 9 อัศจรรย์แล้ว ความเป็นที่สุดของเจดีย์ชเวซิกองยังมีอีกอย่างนะคะ ภายในบริเวณขององค์เจดีย์มีหอผีนัตซึ่งเป็นวิหารยาวตั้งรูปผีนัตหลวงที่ชาวพม่าเคารพนับถือ เป็นที่เดียวในพม่าที่มีหอเก็บรักษาผีนัตครบ 37 ตนค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:41:51

ความคิดเห็นที่ 23   ห้องกระจกเก็บรักษาผีนัตกว้างมากๆค่ะ เก็บไม่หมดในครั้งเดียวค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:43:39

ความคิดเห็นที่ 24   จากเจดีย์ชเวดากอง เราไปต่อกันที่นี่ค่ะ Alo Taw Paya หรือ Ahlodawpyae  อลอต่าวพเย เป็นศิลปะแบบพุกามยุคแรกต่อยุคกลาง ภายในมีพระพุทธรูปเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ไม่แน่ใจว่าข้างในห้ามถ่ายรูปป่าว เราถึงไม่มีรูปด้านในอะไรเลย ??? แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 14:47:10 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:46:11

ความคิดเห็นที่ 25   ไม่ไกลกันมากนักเป็นที่ตั้งของศาสนสถานอีกแห่งคือ Shwe Laik Tu ชเวเลก์ตู สร้างขึ้นใน ศต.13 ภายในมีพระพุทธรูปประทับยืนและนั่งอยู่หลายองค์ ชั้นบนขึ้นชมวิวได้ มองเห็นวิหารติโลมินโลอยู่ไม่ไกลด้วยค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:48:59

ความคิดเห็นที่ 26   ขอไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:52:26

ความคิดเห็นที่ 27   รอชมค่ะ จากคุณ : Valily เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:53:34

ความคิดเห็นที่ 28   คุณ ZhuZhuJoopJoop: มาเลยค่ะ ยินดีค่ะ คุณ3KKK: พี่เค ตอนดูทะเลหมอกเนี่ย ฮัมเพลงทะเลใจด้วยประคร้า เอิ้กๆ คุณม่วงมหากาฬ: มาเลยค่ะเพ่ม่วง ว่าแต่เพ่ม่วงจะซิ่งกระบือตามมาจิงๆรึคะเนี่ย คุณเล็กทาโร่: ยินดีอย่างยิ่งค่ะ คุณต่ายน้อย: ภาพที่เห็นด้วยตามันสวยกว่าที่เลิฟพยายามจะถ่ายทอดมาเป็นไหนๆอ่ะค่ะ ^^ คุณOne Light One Shadow: เกิดเปลี่ยนใจมาหลงรักพุกามเข้าให้ นิวซีแลนด์จะน้อยใจเอาน้า อิอิ ว่าไปนั่น คุณณ ดินแดนอันแสนไกล: ได้เลยค่ะ ข้อมูลเพียบค่ะทริปนี้ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:58:27

ความคิดเห็นที่ 29   ห่างจากตัวเมืองพุกามเก่าไปทางทิศ ตต.เฉียงใต้ประมาณ 1.5 กม. แท็กซี่จอดเพื่อให้เก็บภาพวิหารติโลมินโลด้านนอกก่อนขับพาเข้าไปชมความงามด้านในค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:01:38

ความคิดเห็นที่ 30   Htilominlo Pahto วิหารติโลมินโล ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: เป็นวิหารอาคาร 2 ชั้นสูง 46 เมตร ฐานอาคารสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละประมาณ 43 เมตร ภายในวิหาร บนฐานชั้นแรกมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ตามทิศทั้ง 4 ทิศ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่กับลวดลายปูนปั้นที่ยังครบถ้วนสวยงามอยู่ค่ะ สองข้างทางเดินสู่ตัววิหาร มีแผงขายของที่ระลึกค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:06:14

ความคิดเห็นที่ 31   วิหารติโลมินโลสร้างโดยพระเจ้าติโลมินโล ใน พ.ศ.1754 ณ บริเวณที่พระองค์ได้ทรงรับเลือกให้เป็นพระเจ้าแผ่นดินขึ้นครองราชย์จากการเสี่ยงทายด้วยฉัตร พระนามที่แท้จริงของพระองค์คือ พระเจ้านันดองมยะ แต่ชาวพม่าทั่วไปกลับพอใจเรียก พระเจ้าติโลมินโล  ซึ่งแปลว่า เอาฉัตรตั้งกษัตริย์ มากกว่าค่ะ พระพุทธรูปหนึ่งในหลายๆองค์ภายในวิหารค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:09:17

ความคิดเห็นที่ 32   มาขอเก็บข้อมูลนะคะ ละเอียดมากเลยค่ะ แถมมีความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะเลย เดี๋ยวปีหน้าจะไปบ้างค่ะ จากคุณ : ไข่จังน้อย เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:10:07

ความคิดเห็นที่ 33   ตำนาน/ ความเชื่อ:  พระเจ้านรติสิทธุ เมื่อครั้งทรงประชวรด้วยโรคร้าย ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีจากมเหสีองค์รองๆองค์นึง(ซึ่งเป็นพระมารดาของพระเจ้าติโลมินโล) จนหายจากความเจ็บป่วย เพื่อเป็นการตอบแทนมเหสีองค์นั้น พระเจ้านรติสิทธุจึงอนุญาตให้พระชายาขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างยกเว้นเดือนและดาว พระนางจึงขอให้พระองค์ทรงโปรดแต่งตั้งโอรสที่เกิดกับพระนางเป็นรัชทายาท หากแต่ตามราชประเพณีองค์รัชทายาทต้องเป็นโอรสที่เกิดกับมเหสีองค์หลักเท่านั้นค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:12:44

ความคิดเห็นที่ 34   พระเจ้านรติสิทธุจึงโปรดให้จัดพิธีเลือกสรรรัชทายาทขึ้น โดยนำโอรสทั้ง 5 พระองค์มานั่งล้อมวง ตรงกลางปักด้วยฉัตรสัญลักษณ์แห่งกษัตริยาธิราช และกำหนดกติกาว่าหากคันฉัตรล้มลงและปลายยอดฉัตรชี้ที่พระองค์ใด พระองค์นั้นจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นองค์รัชทายาทสืบต่อไป จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:17:08

ความคิดเห็นที่ 35   ก็ให้ปรากฏว่า ปลายยอดฉัตรเสี่ยงทายชี้ไปที่พระเจ้านันดองมยะตามพระประสงค์ พระเจ้านันดองมยะจึงได้รับโปรดเกล้าสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทสืบต่อไปค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:19:15

ความคิดเห็นที่ 36   คุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์: มาเลยค่ะ ทู้นี้ไม่ได้กินดีอยู่ดีแล้วนะคะ อิอิ คุณValily: แค่รอชมก็ชื่นใจ ชมแล้วอยากไป จะชื่นใจเข้าไปอีกค่ะ ^^" คุณไข่จังน้อย: ด้วยความยินดีเลยค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:23:13

ความคิดเห็นที่ 37   มาตามไปเที่ยวต่อค่ะ เจดีย์ชเวซิกองสวยมากเลยนะคะ อยากไปแต่ไม่ได้ไปสักที จากคุณ : route rover เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:25:01

ความคิดเห็นที่ 38   เจดีย์สำคัญถัดมาคือ Ananda Paya หรือ เจดีย์อนันดา ตั้งอยู่ทาง ตอ. ของกำแพงเมือง เป็นเจดีย์สีขาวมองเห็นแต่ไกล ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธะ ถือเป็นสถาปัตยกรรมมอญช่วงปลายยุคต้นของพุกามที่งดงามมากที่สุดในพุกาม วิหารขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 53 เมตร มีซุ้มประตู 4 ซุ้มใหญ่ขนาดเท่ากันทุกด้านเปิดจากแนวกึ่งกลางกำแพงไปสู่ห้องคูหากลางวิหาร ด้านบนก่อเป็นแกนทึบสี่เหลี่ยมขึ้นไปรับกับส่วนยอดค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:29:38

ความคิดเห็นที่ 39   ตั้งใจตั้งนานแล้วว่าจะต้องไปชื่นชมทะเลเจดีย์ซักครั้ง คุณLoveError  ต้องรับผิดชอบต่อการรีวิวนะคะ  เห็นแล้วอยากไปทันที^_^ ภาพสวย ข้อมูลดีเหลือเกิน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:53:36

ความคิดเห็นที่ 40   ข้อมูลเพียบเช่นเคยนะคะ รูปสวยจัง แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 15:55:49 จากคุณ : แมวน้อยใส่ทูพีช เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:55:18

ความคิดเห็นที่ 41   ผนังทึบในแต่ละด้านทั้ง 4 ด้าน เจาะเป็นซุ้มพระขนาดใหญ่เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปยืนจำหลักจากไม้สักสูง 9.5 เมตร ซึ่งแทนองค์พระอดีตพุทธเจ้าทั้ง 4 ภาค พระพุทธรูปที่ซุ้มทิศเหนือและใต้เป็นของเดิมแต่พระพุทธรูปซุ้มทางทิศ ตอ. และ ตต. เป็นองค์ที่สร้างใหม่ขึ้นแทนของเดิมที่ถูกทำลายไปค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 15:58:26

ความคิดเห็นที่ 42   ภายในวิหารลักษณะเป็นอุโมงค์สามารถเดินถึงกันได้โดยรอบ ตามผนังทำเป็นซุ้มสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางต่างๆ ขนาดหน้าตัก 1 ศอก ช่องละองค์ไม่ต่ำหว่า 1000 องค์เห็นจะได้ค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:06:49

ความคิดเห็นที่ 43   ........ยังทันหรือป่าวคะ... จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:07:07

ความคิดเห็นที่ 44   เค้าว่ากันว่า พระพุทธกัสสปะที่ประดิษฐานในซุ้มทิศใต้ หากสังเกตุดูดีๆ พระพักตร์ของท่านจะเปลี่ยนไปตามระยะที่เรายืนชมค่ะ บางจุดจะเห็นพระพักตร์ท่านยิ้มด้วยความเมตตา บางจุดพระพักตร์แลดูเคร่งขรึม อันนี้คงเป็นเรื่องแสงที่ส่องมาตกกระทบพระพักตร์ในจุดต่างๆไม่เท่ากัน ทำให้เห็นพระพักตร์ท่านเปลี่ยนไปค่ะ เราไป ก็พยายามสังเกตุนะคะ แต่ก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอ่ะค่ะ สงสัยถ้าไม่ใช่บุญไม่ถึง ก็คงกรรมหนักมั้งคะ 555 ใครได้ไป ลองสังเกตุเผื่อเราด้วยนะคะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:16:01

ความคิดเห็นที่ 45   ตำนาน/ ความเชื่อ: ในสมัยพระเจ้าจันสิทธะ มีพระอรหันต์  8 รูป เดินทางมาจากเขากันทมาดนะแถวเทือกเขาหิมาลัยในประเทศอินเดีย ได้เข้ามารับบิณฑบาตยังวังของพระองค์ พระอรหันต์ทั้ง 8 มีจริยวัตรงดงาม จนทำให้พระเจ้าจันสิทธะเกิดความเลื่อมใสจึงโปรดให้สร้างวัดเพื่อให้พระอรหันต์ได้จำพรรษา จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:26:37

ความคิดเห็นที่ 46   หลังจากนั้นพระเจ้าจันสิทธะได้ทรงขอให้พระอรหันต์สำแดงอิทธิฤทธิ์ให้มองเห็นภาพคูหานันทมูลบนเขากันทมาดนะ ให้ปรากฏต่อหน้า พระอรหันต์สำแดงอิทธิฤทธิ์ตามที่ทรงขอ พระเจ้าจันสิทธะจึงโปรดให้สร้างวิหารขนาดใหญ่จำลองตามแบบนันทมูลและให้ชื่อว่า วิหารอานันท์ ค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:27:17

ความคิดเห็นที่ 47   Tharabar Gate ประตูตะระบา เป็นประตูเมืองทางด้านทิศตะวันออก ใกล้ๆกับวิหารอนันดา มีรูปสลักมหาคีรีนัต 2 ตนพี่น้อง ตั้งอยู่ในซุ้ม ตนหนึ่งชื่อ งะทินแด แปลว่าเทพรูปงาม อีกตนชื่อ ชเวเมี๊ยดนา แปลว่านางหน้าทอง ถือเป็นนัตเทพสำคัญรองมาจากตะจามินหรือพระอินทร์แบบไทยๆเราเรียกนั่นเองค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:30:07

ความคิดเห็นที่ 48   ด้านหน้าประตู เห็นมีเลี้ยงแพะกันด้วยค่ะ แต่เห็นคนพม่าเอาไรซักอย่างไปป้ายตาแพะ แล้วแพะก็ล้มลง เราไม่ค่อยชอบอารมณ์แบบนี้ ก็เลยไม่ได้เก็บรูปมาค่ะ TT จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:32:33

ความคิดเห็นที่ 49   จากนั้นไปต่อกันที่ Mahabodhi Paya คนไทยเรียก วัดมหาโพธิ์ ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างในสมัยพระเจ้าติโลมินโล รูปทรงองค์เจดีย์แตกต่างจากเจดีย์ทุกองค์ในพุกาม เนื่องจากเป็นเจดีย์ที่พระเจ้าติโลมินโลทรงโปรดให้จำลองแบบมาจากวิหารมหาโพธิ์แห่งตำบลคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ตามสมัยนิยมแบบคุปตะ ความแตกต่างเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้องค์เจดีย์มหาโพธิ์ที่พม่าไม่ต้องไปเหมือนเป๊ะกับวิหารมหาโพธิ์ที่เมืองคยา คือส่วนปลายยอดเจดีย์มหาโพธิ์ของพุกามเรียวแหลมกว่าค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:34:26

ความคิดเห็นที่ 50   ดูไปก็ คล้ายๆมาเที่ยววัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่เลยนะคะ ^_^ พระพุทธรูปประดับตามช่องกำแพงด้านหน้าทางเข้าเจดีย์มหาโพธ์ค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:40:25

ความคิดเห็นที่ 51   พระพุทธรูปในภายในเจดีย์ค่ะ ที่นี่ไม่มีโถงทางเดินสูงโล่งเหมือนอย่างวิหารอนันดา และ วิหารติโลมินโลค่ะ เป็นเจดีย์ที่ไม่ใหญ่มากค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:44:43

ความคิดเห็นที่ 52   ก่อนไปชมเจดีย์สำคัญอื่นๆ ขอแวะชมความงามของเจดีย์ต้นแบบริมแม่น้ำเอยาวดีซักหน่อย Bupaya เจดีย์บูพยา ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างโดยพระเจ้าปยูซอตี กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงค์พุกาม องค์สถูปสร้างเป็นทรงน้ำเต้าคล้ายเจดีย์ในทิเบต ฐานเจดีย์เป็นแนวกำแพงซ้อนกันหลายแถว จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:46:17

ความคิดเห็นที่ 53   นอกจากตัวองค์เจดีย์แล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีศาลาทรงเก้าจั่ว มีแท่นบูชา มูนไต๊นัต ผู้เป็นเจ้าแห่งพายุ แหะๆ หารูปมูนไต๊นัตไม่เจอ หายไปไหนหว่า ??? จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:47:37

ความคิดเห็นที่ 54   โหยอยากไปพุกาม กับ ชเวซิกอง ปลายเดือนนี้ผมไปแค่อินทร์แขวนกับชเวดากองเองครับ ดูรีวิวคุณเลิฟไปพลางๆให้หายอยากไปก่อน ^^ จากคุณ : ออร์-ฟิ-อุส_orpheus เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 16:55:26

ความคิดเห็นที่ 55   ชอบตรงที่เจดีย์นี้อยู่ติดแม่น้ำเอยาวดีเลยค่ะ อากาศเย็นสบาย ลมโกรกตลอดทั้งวัน ข้างๆเจดีย์อีกฝั่งมีตลาดเล็กๆ ขายของที่ระลึกมากมายค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:01:43

ความคิดเห็นที่ 56   Gaw Daw Plin Pahto เจดีย์กาวเต๊าะปะหลิ่น เป็นอีกเจดีย์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอยาวดีค่ะ ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างโดยพระเจ้านรปติสิทธุ เลียนแบบเจดีย์สัพพัญญู เป็นอีกเจดีย์ที่สวยงาม แต่เสียหายหนักเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวปี 1975 ค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:05:12

ความคิดเห็นที่ 57   เบื้องหลังเพื่อนสองคนที่มาด้วยกัน สังเกตุสีเสื้อไม๊คะ กะมาแย่งซีนศาสนสถานแหง๋ม ฮ่าๆๆ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:09:17

ความคิดเห็นที่ 58   ภาพสวยใสดีครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะครับ จากคุณ : นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:14:05

ความคิดเห็นที่ 59   ถามคนพม่าว่า ทำไมพระพุทธรูปบางองค์ไม่ต้องล้อมรั้ว บางองค์ต้อง ได้คำตอบว่า ไม่รุเหมือนกัน แป่ว! จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:15:18

ความคิดเห็นที่ 60   แวะชม Nathlaung kyaung เทวาลัยนัตหล่าว ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: เชื่อกันว่าสร้างโดยพระเจ้าทาวตูจีเพื่อถวายพระวิษณุ ตั้งแต่ คศ. 931 ก่อนที่พุกามจะรับเอาพุทธศาสนานิกายเถรวาทเข้ามา จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:18:01

ความคิดเห็นที่ 61   มารอคุณ LoveError อยู่นานนนน มากเลยค่ะ เราอยากได้ข้อมูลมัณฑะเลย์ เพราะว่ากำลังจะไปต้นเดือนหน้า อยากรู้ว่าจะจองตั๋วกับเอเจนซี่ไหนดี ตั๋วเครื่องบิน ย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ เพราะเราซื้อตั๋วแอร์เอเชีย ช่วงเช้า ไปถึง 8 โมงเช้า ยังหาตั๋วต่ไปมัณฑะเลย์ไม่ได้เลย กังวลอย่างมาก เพราะว่ามีนัดสำคัญด้วย จากคุณ : ติ๊ก (tiksali) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:31:17

ความคิดเห็นที่ 62   เทวาลัยนัตหล่าว เป็นศาสนสถานฮินดูที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งแห่งเดียวในพุกามเลยก็ว่าได้ ภายในห้องบูชา แต่เดิมเคยมีเทวรูปพระวิษณุทรงครุฑประดิษฐานอยู่ แต่ปัจจุบันเทวรูปตกไปเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ดาห์เลมในกรุงเบอร์ลินไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 17:33:42 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:32:20

ความคิดเห็นที่ 63   อยากไปไหว้พระที่ พม่าจัง   นายฟ้าใส นายหลอกเราปะ ว่าเราจะไปด้วยกัน รูปสวยจังครับ  ฟ้าสวยจริงๆๆ ขอบคุณครับ  รีวิวดีๆๆแบนี้ จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:38:31

ความคิดเห็นที่ 64   ทริปต่อไป ผมไป พม่า ค๊าฟ เพื่อน ๆ ในห้อง บลู นี่ล่ะค๊าฟ ยังไง แล้วคงได้ ขอข้อมูล เพิ่ม แน่ ๆ ฮ่า ๆ อยากไป พม่า ๆ  แฮะ ๆ   รูปสวยมาก ๆ  ข้อมูลก็แน่น ค๊าฟ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:38:59

ความคิดเห็นที่ 65   Thatbyinnyu Paya เจดีย์ตั๊ดปยิ่นยู หรือเรียกกันติดปากว่า เจดีย์สัพพัญญู ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกามคือ 61 เมตร ถือเป็นแม่แบบของสถาปัตยกรรมแบบพม่า เจดีย์สัพพัญญูสร้างโดยพระเจ้าอลองคสินธุ รูปทรงคล้ายเจดีย์อนันดา แต่แผนผังไม่ได้เป็นรูปกากบาทด้านเท่า โดยมีซุ้มประตูทางทิศ ตอ.เป็นมุขยื่นออกมาจากตัววิหารเจดีย์ยาวกว่าด้านอื่นๆ ชั้นบนเป็นทรงสี่เหลี่ยมด้านในกลวง ชั้นล่างมีขนาดใหญ่กว่า วิหารเจดีย์สัพพัญญูมีทั้งหมด 5 ชั้นค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:39:55

ความคิดเห็นที่ 66   ตั๊ดปยิ่นยู เป็นภาษาพม่า แปลเป็นไทยว่า ความรู้แจ้งเห็นจริงทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:46:43

ความคิดเห็นที่ 67   เจดีย์ 2 ชั้นแรกเคยเป็นที่พำนักของพระสงฆ์ ชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ชั้น 4 เป็นหอพระไตรปิฎก ส่วนยอดสถูปเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ เข้าใจว่าทางการพม่าเพิ่งปิดทางขึ้นชั้นบน เหลือให้ชมได้แต่เพียงชั้นล่างเท่านั้น น่าเสียดายเพราะรู้มาว่า ลานทางทิศใต้บนชั้น 3 จะได้วิวเจดีย์อนันดาสวยมากๆเลยค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:50:39

ความคิดเห็นที่ 68   พอเที่ยวชมเจดีย์สัพพัญญูเสร็จ คนขับรถบอก time's up,  afternoon break เราก็ไรหว่า เพิ่งผ่านเที่ยงมาแค่ ชม.เดียวเอ๊งง่า คนขับมาส่งที่โรงแรม บอกจะมารับอีกทีตอน 4 โมง เราก็เฮ้ย! เลยดิ ที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นี่นา ต่อรองกันพักนึงมาสรุปที่ บ่าย 3 ละกัน เออ เอากะเค้าดิ นี่แหละหนา เห็นของถูก ฮ่าๆๆๆ ขอย้ำอีกที ใครจะเหมาแท็กซี่เที่ยวทะเลเจดีย์ ตกลงเรื่องเวลากันดีๆนะจ๊ะ เด๋วจะหาว่าเลิฟไม่เตือน ++++++++++ หลังพักงีบได้ 2 ชม. ก็มาเริ่มท่องดงเจดีย์กันต่อ เซสชั่นบ่ายแก่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆมั่กๆๆๆๆๆๆๆ เริ่มต้นที่ วิหารจุฬามณีค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 18:00:26

ความคิดเห็นที่ 69   Sulamani Kyaung วิหารจุฬามณี ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างในสมัยพระเจ้านรปติสิทธุ แผนผังของวิหารคล้ายๆกับเจดีย์สัพพัญญูคือมี 2 ชั้นเหลื่อมกัน แต่ละชั้นประดับเจดีย์ขนาดเล็กที่มุมเพื่อเป็นบริวารของยอดประธาน ตัวอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสต่อมุขยื่นไปทั้ง 4 ด้าน โดยมีด้าน ตอ.ยาวและใหญ่กว่ามุขด้านอื่นๆ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 18:04:05

ความคิดเห็นที่ 70   ภายในวิหารชั้นล่าง จะมีซุ้มพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ เหมือนเจดีย์หรือวิหารอื่นๆในพุกาม โดยรอบๆซุ้มพระพุทธรูปหลัก จะมีพระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานอยู่ตลอดแนวผนัง จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 18:04:59

ความคิดเห็นที่ 71   พระพุทธรูปภายในวิหารอีกองค์นึงค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 18:08:44

ความคิดเห็นที่ 72   ตามมาเที่ยวและไหว้พระที่พุกามครับ เมื่อไหร่จะมีโอกาสไปเหมือนเขาน้อ จากคุณ : โบริโบริ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 19:11:29

ความคิดเห็นที่ 73   (กระซิบ) ยิ่งได้เห็น ยิ่งอยากไป ภาพสวยมั๊ก ๆ น้องเลิฟกลับมาโพสต่อให้จบด้วยนะ  ไม่กล้าเสียงดัง  เดี๋ยวน้าเคด่าอีก ไปบาหลี ก็ขอไม่ให้เกิดข่าวตื่นเต้นเร้าใจ ให้เป็นห่วงอีกนะจ๊ะ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 19:49:23

ความคิดเห็นที่ 74   คุณroute rover: มันเป็นความรุสึกที่บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ เวลารถขับผ่านแล้วเห็น เจดีย์ชเวซิกองตั้งเด่นอยู่ตรงนั้น มันคือความรุสึก อัศจรรย์ที่ 7 อ่ะค่ะ คุณteddy bear in the box: อูยยย ถึงว่าจิ ไมเลิฟรุสึกหนาวๆร้อนๆ อิอิ คุณกานพลู...คนชอบเที่ยว: ยังทันค่ะ เพราะ เลิฟ ไปช้าๆ กะว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นน้องเต่าน้อยอยู่แล้วอ่ะค่ะ คุณออร์-ฟิ-อุส_orpheus: พระธาตุอินทร์แขวนก็อีกอารมณ์นึงค่ะ บนเขาอากาศดีมั่กๆเลยค่ะ ไจก์ทิโยตอนกลางคืนก็ดูอลังมั่กๆค่ะ คุณนายโอเลี้ยง: ขอบคุณและยินดีมากค่ะ ^_^ คุณติ๊ก: ที่รีวิวย่างกุ้ง เลิฟ แนะนำอยู่ 2-3 เอเย่นต์ค่ะ Shan Yoma, Goodnew, Columbus Travels & Tours ค่ะ คุณชายเอ ทุ่งรังสิต: ขอบคุณสำหรับคำชมและกำลังใจดีๆค่ะ ยอมรับว่ารีวิวพม่าคราวนี้เหนื่อยมากค่ะ ถ้าทราบตำนาน หรือความเชื่อของแต่ละที่ จะทำให้การเที่ยวได้อรรถรสมากขึ้นจนลืมเหนื่อยค่ะ นายฟ้าใส: ยินดีเลนค๊าฟ เอ้ย! ค่ะ คุณโบริโบริ: เมื่อได้โปร 0 แอร์เอเชีย ดีไม๊คะ อิอิ ตอนนี้ไปเซอร์เวย์กับทู้เลิฟก่อนก็ได้ค่ะ คุณtiger's nest: (กระซิบตอบ) ไปหน้าหนาวนี้เลยจิคะ ไม่ร้อนเที่ยวสบายเดินให้แข้งขาหักไปเลย หุหุ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 20:33:55 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:24:09

ความคิดเห็นที่ 75   ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งก่อสร้างๆ สวยของประเทศเพื่อนบ้านจัง ตอนนี้เวลานึกถึงพม่า เราจะนึกถึงคุณเลิฟคนแรกเลยอ่ะค่ะ   @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:26:38

ความคิดเห็นที่ 76   เจดีย์สำคัญที่ไม่ควรพลาดไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ใครไปพุกามแล้วไม่เยี่ยมชมเจดีย์นี้ กรรมชัดๆ ขอบอก ค่ะ Dhammayangyi Pahto หรือ เจดีย์ธรรมยางจี ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: เจดีย์ธรรมยางจีอยู่ห่างจากเขตตัวเมืองเก่าไปทางทิศ ตอ.เฉียงใต้ประมาณ 2 กม. เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด ฝีมือการก่อสร้างก็ประณีตที่สุดในพุกาม การเรียงอิฐแต่ละก้อนอย่างสนิทแนบชิดจนแม้เข็มซักเล่มก็ไม่อาจสอดผ่านรอยต่อของอิฐได้เลย จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:32:56

ความคิดเห็นที่ 77   ตำนาน/ความเชื่อ: เจดีย์ธรรมยางจีแห่งนี้ สร้างในสมัยพระเจ้านรสุ ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ที่ 5 ของพุกาม การสร้างเจดีย์นี้ของพระองค์ก็เพื่อต้องการไถ่บาปที่พระองค์ได้ทำปิตุฆาตต่อพระเจ้าอลองคะสินธุผู้เป็นพระราชบิดา และพระองค์ก็ยังมาคุมการสร้างเองอีกด้วยค่ะ แต่เจดีย์ยังสร้างไม่เสร็จ พระองค์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ไปเสียก่อนค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:37:21

ความคิดเห็นที่ 78   ภาพนี้สวยมากครับ รีวิวได้แบบว่าน่าไปเที่ยวที่นั่นมากเลยครับ จากคุณ : แชงคูส เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:42:00

ความคิดเห็นที่ 79   ตามมาเที่ยวพุกามด้วยคนครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะครับ ข้อมูลเยี่ยมถือว่าเป็นรีวิวในดวงใจเลยล่ะกันนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:54:23

ความคิดเห็นที่ 80   อ่อ! ว่ากันว่า ช่างก่อสร้างคนใดเรียงอิฐไม่สนิทแล้วเข็มสอดผ่านรอยต่อได้แม้เพียงซักเล่ม ก็จะทรงรับสั่งให้นำช่างคนนั้นไปประหารชีวิตค่ะ โหดจังค่ะ (แก้ไขข้อมูลค่ะ) แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 20:57:28 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 21:09:10 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 53 10:13:47 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:56:19

ความคิดเห็นที่ 81   เล่าต่อว่า...การที่พระเจ้านรสุถูกลอบปลงพระชนม์ ก็ด้วยเหตุเพราะทรงรับเอาสนมในรัชกาลก่อนมาเป็นนางห้ามของพระองค์เองอีกต่อหนึ่ง แต่พระองค์ไม่ทรงโปรดพิธีแบบฮินดูของชายา ซึ่งเป็นธิดาของมหาราชาแห่งแคว้นปะเทกคะยา(Pateikkaya) ในอินเดีย จึงสั่งประหารนางซะ อ่ะค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:15:12

ความคิดเห็นที่ 82   พระราชบิดาของพระชายาทรงแค้นเคืองนักจึงส่งทหารมือดีแปดนายปลอมตัวเป็นพราหมณ์เดินทางไปเฝ้าพระเจ้านรสุ แล้วใช้ดาบปลงพระชนม์ขณะเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์ก่อนฆ่าตัวตายเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:16:10

ความคิดเห็นที่ 83   เจดีย์ถัดมา จริงๆไม่ได้อยู่ในลิสต์ตั้งแต่ต้น แต่คนขับแท็กซี่บอกว่า นักท่องเที่ยวนิยมมากัน เพราะวิวจากข้างบนสวยอย่าบอกใครเชียว เค้าโวมาซะขนาดนี้ จะให้อดใจยังไงไหวล่ะคะ ^^" ไปค่ะ เข้าไปดูกันดีกว่า ว่าจะสมคำโตของคนขับแท็กซี่อ๊ะป่าว จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:20:11

ความคิดเห็นที่ 84   คุณCX gal: หูยยย เลิฟ ทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ อิอิ คุณแชงคูส: ของเค้าน่าเที่ยวจริงๆนี่คะ                 เลิฟ เป็นแค่ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ค่ะ คุณ noiwanwannoi: ขอบคุณค่ะ คนทำรีวิว มีกำลังใจขึ้นอื้อเลยค่ะ                             งั้นๆ สู้ตายค่ะ (^_____^) จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:27:45

ความคิดเห็นที่ 85   ภาพสวยมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : เอื้องเหมย เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:35:23

ความคิดเห็นที่ 86   Dhammayazika Pagoda เจดีย์ธรรมยาซิกา ความสำคัญ/ ความน่าสนใจ: สร้างโดยพระเจ้านรปติสิทธุ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่รับมอบมาจากกษัตริย์ศรีลังกาค่ะ ### สองข้างทางสู่องค์เจดีย์ มีร้านรวงขายของสารพัดค่ะ ถ้ามีเวลามากพอ ลองค่อยๆดูไปทีละร้าน อาจเจอของถูกใจได้นะคะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:35:32

ความคิดเห็นที่ 87   จุดเด่นของเจดีย์แห่งนี้ คือฐานเจดีย์ทรง 5 เหลี่ยม ซึ่งไม่เหมือนการสร้างเจดีย์โดยทั่วไปที่จะมีฐานเป็นทรง 4 เหลี่ยม นอกจากนั้นแล้ว ที่เจดีย์ธรรมยาซิกา ยังมีพระพุทธรูปแทนอดีตพระพุทธเจ้าครบทั้ง 5 ภาคอีกด้วยนะคะ หนึ่ง คือ พระกุกกุสันโธ (พระพุทธเจ้าในภาคอดีต) สอง คือ พระโกนาคม (พระพุทธเจ้าในภาคอดีต) สาม คือ พระกัสสปะ (พระพุทธเจ้าในภาคอดีต) สี่    คือ พระโคตรมะ (พระพุทธเจ้าในภาคปัจจุบัน) ห้า  คือ พระเมตตรัย (พระพุทธเจ้าในภาคอนาคต) จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 21:45:26

ความคิดเห็นที่ 88   ใครพอจะทราบตำนานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์มั่งไม๊คะ อืม...เอางี้ดีกว่า ให้เลิฟเล่าดีกว่าค่ะ หนุกดีค่ะ ชอบเล่าค่ะ อิอิ ตำนานพระเจ้า 5 พระองค์ เล่าขานกันมาว่า ในยุคปฐมกัลป์ครั้งกะโน้น ว่ากันด้วยเรื่องดอกไม้ 5 ชนิด ที่ผุดก่อนชนิดอื่นๆใด เรียกดอกไม้ทั้ง 5 ว่า “ปทุม” โดย ป แปลว่า ก่อน ส่วน ทุม แปลว่า ต้นไม้ ต่อมาจึงมีการเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า ดอกบัว ท้าวหัสพรหมทอดพระเนตรเห็นดอกปทุมแต่ละดอกนั้นมีอักขระแจ้งชัดที่กลางดอก อ่านได้ว่า “นะ โม พุทธา ยะ” จึงแสดงความเคารพ แล้วได้ตรัสพยากรณ์ว่า ในภัทรกัลป์นี้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 พระองค์ คือ 1. พระกุกกุสันโธ (ไก่) 2. พระโกนาคมโน (นาค) 3. พระกัสสโป (เต่า) 4. พระโคตรโม (โค) ๕. พระเมตตยโย /พระศรีอารยเมตตโตรย์ หรือพระสรีอาริย์/ (สิงห์) จากตำนานที่ว่านี่เอง คนโบราณจึงถือว่า อักขระทั้ง 5 “นะ โม พุทธา ยะ” เป็นเครื่องหมายของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ และมีคติโบราณสืบต่อกันมาว่า ผู้ใดเจริญภาวนาอักขระทั้ง 5 ตัวนี้แล้ว ผู้นั้นก็จะเสมือนหนึ่งว่าได้พบพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในคราวเดียวกัน จึงเชื่อกันว่าเป็นคาถาอาคมที่ทรงอานุภาพสูงสุด เมื่อบริกรรมคาถานี้ให้จิตใจแน่วแน่มั่นคงแล้ว ปาฏิหาริย์ในเรื่องต่างๆก็อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ^^ เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ เอามาเสริมให้ค่ะ^^ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:01:38

ความคิดเห็นที่ 89   (ซ้ำเพราะน้องด๋อยค่ะ) แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 22:20:22 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:06:05

ความคิดเห็นที่ 90   ...ตามมาเที่ยวพม่าต่อนะคะคุณเลิฟ อยากไปพุกามมากๆ เลยค่ะ แต่เสียดายเวลาคงไม่พอ สงสัยต้องหาโอกาสไปใหม่แน่ๆ เลยค่ะ ^-^ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:06:14

ความคิดเห็นที่ 91   ลานชั้นบนสามารถเดินขึ้นไปชมวิวทะเลเจดีย์ได้ค่ะ แต่บันไดค่อนข้างแคบและชันเอาการสำหรับใครที่กลัวความสูงน่ะค่ะ บันไดทางขึ้นมี 4 ทิศทางค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:06:24

ความคิดเห็นที่ 92   แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 22:17:18 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:11:14

ความคิดเห็นที่ 93   สรุปว่าสวยค่ะ ชอบค่ะ ธรรมยาซิกา ถูกใจค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 22:15:03