ความคิดเห็นที่ 1   วันที่ 15 เมษายน 2553 : Instant Ramen Museum, Aiai Park, Kiyoshi Seigantoji Temple -Osamu Tezuka Museum - Secret Garden and Dog Run Do Park - HEP 5 9.00 เดินทางจาก Osaka สู่เมือง Takarazuka แวะที่ Ramen Instant museum  พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ค้นหาความเป็นมาของการพัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยแรกของโลก และลองทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสไตล์ของตัวเอง 10.45 เดินเล่น ณ Aiai Park ชมร้านขายดอกไม้สวยๆ และวิธีการตกแต่งสวน พร้อมกับชิมขนมปังที่อบร้อนๆออกจากเตาในราคาประหยัด 12.30 เดินสู่ Kiyoshi Seisoji Temple วัดที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายอาหารและร้านขายขนมต่างๆ รับประทานอาหารกลางวันเป็น bento ชุดใบไม้ผลิ 14.30 เดินทางสู่ Takarazuka เมืองที่มีชื่อด้านละครเวทีหญิงล้วน และดอกไม้อันสวยงาม 14.40 เข้าชมพิพิธภัณฑ์ Osamu Tezuka Manga Museum พิพิธภัณฑ์ของบิดาแห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่น เจ้าของผลงานเจ้าหนูอะตอมอันมีชื่อ 15.00 ชมสวน Takarazuka Garden Field และ ใกล้ชิดกับสุนัขนับสามสิมสายพันธุ์ ณ Dog Run Do 16.00 เดินทางกลับสู่ Osaka 17.00 เดินเล่น ณ HEP 5 และ รับประทานอาหารเย็นเป็น ซุชิจานเวียน แวะชิม Kushikatsu (ผักและเนื้อเสียบไม้ชุบแป้งทอด) ซื้อของฝากกลับประเทศไทย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:16:59

ความคิดเห็นที่ 2   เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยดอกไม้และเสียงเพลง takarazuka   จากสถานี Umeda Hankyu ในกรุง Osaka รถไฟสาย Hankyu Takarazuka จะพาเราวิ่งขึ้นเหนือและเลี้ยวอ้อมไปยังทางทิศตะวันตกสู่ปลายทางเมือง Takarazuka ที่ตั้งอยู่เหนือเมือง Kobe เปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองท่าที่คึกคัก สู่เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ การเดินทางระหว่างเมืองและภายในตัวเมือง การเดินทางระหว่างเมืองมีรถไฟให้เลือกขึ้นได้สองสาย คือ Hankyu และ เจ้าเก่า JR 1. สาย Hankyu Takarazuka ออกจากสถานี Umeda Hankyu ไปลงยัง Takarazuka ใช้เวลา 33 นาที ราคา 270 เยน ซื้อตั๋ว 1 day pass Hankyu Line ได้ในราคา 1200 เยน 2. สาย JR Takarazuka Line ออกจากสถานี Osaka (JR) ไปลงยัง Takarazuka ใช้เวลา 24 นาที  ราคา320 เยน ซื้อตั๋ว 1 day JR West  Kansai Area Passได้ในราคา 2000 เยน หากต้องการจะเที่ยวตาม route ที่จัดไว้ในวันนี้ แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ Hankyu 1 day pass จะคุ้มค่ากว่า แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 21:36:54 จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:17:37

ความคิดเห็นที่ 3   เนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆ การเที่ยวภายในตัวเมือง Takarazuka จึงสามารถทำได้โดยการเดินชมเมืองไปรอบๆ และหากต้องการจะไปสถานที่ที่ไกลออกไปก็สามารถใช้บัตร Hankyu 1 day pass นั่งรถไฟไปได้ จากเมือง Takarazuka หากใครอยากจะไปแวะกินข้าวเย็นที่โกเบ ก็เพียงนั่งรถไฟสาย Hankyu Imadu line ไปลงที่สถานี Nishinomiyakitaguchi แล้วต่อสาย Hakyu Kobe line   ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะถึงเมืองแห่งแสงสีได้ (ระหว่างสถานี มีโมจิสตรอเบอรรี่ขาย) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:18:03

ความคิดเห็นที่ 4   อ๊ามมมม รสชาติสุดยอด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:18:42

ความคิดเห็นที่ 5   Website ที่เกี่ยวข้องการท่องเที่ยวของเมืองtakarazuka Official City site :             http://www.city.takarazuka.hyogo.jp/foreign/en/index.html International Tousim site : http://www.kanko-takarazuka.jp/english/index.html Hyogo Tourism Guide    : http://www.hyogo-tourism.jp Hankyu Railway            : http://rail.hankyu.co.jp/en/ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:19:51

ความคิดเห็นที่ 6   Instant Ramen Museum การจะประสบความสำเร็จได้ ต้องใช้ความพยายามในการฟันฝ่าอุปสรรค! เริ่มต้นเช้าวันนี้ เราจะไปยังพิพิธภัณฑ์ อาหารที่หลายคนเคยใช้ช่วยชีวิตตัวเองยามอดอยากกันมาแล้วทั้งนั้น ใช่แล้ว! บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นเอง!! นั่งรถไฟไปลงยัง Ikeda Station เดินประมาณ 8 นาที เราก็จะไปถึงยังพิพิธภัณฑ์ Instant Ramen Museum พิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงความเป็นมาของการคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และการนำใส่บรรจุภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการบะหมี่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:20:19

ความคิดเห็นที่ 7   ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงตัวอย่างบะหมี่ของบริษัท nissin นับร้อยๆแบบ ร้อยๆรสชาติ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:20:43

ความคิดเห็นที่ 8   และเล่าถึงความเป็นมาของคุณ Momofuku Ando กว่าจะใช้ความพยายามคิดผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นมาได้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:21:11

ความคิดเห็นที่ 9   คำอธิบายส่วนมากเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ว่ามี Audio Guide ให้ยืมฟังได้ฟรี (มัดจำ 2000เยน) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:21:30

ความคิดเห็นที่ 10   นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่ให้หัดทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ด้วยตัวเองอีกด้วย!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:21:56

ความคิดเห็นที่ 11   จากสวนหลังบ้าน คุณAndo ได้สร้างกระท่อมเล็กๆขึ้นมา พร้อมกับเลี้ยงไก่ไว้ข้างบ้าน ภายในกระท่อมเสียงก๊องแก๊งและเสียงฉ่าของน้ำมัน ทำให้เพื่อนบ้านหลายคนสงสัยว่า นักเศรษฐศาสตร์คนนี้ คิดจะประดิษฐ์คิดค้นอะไรอยู่ในกระท่อมแห่งนั้น ภายหลังสงคราม ที่มีแต่เถ้าถ่านปกคลุมเมืองในญี่ปุ่น ผู้คนอดอยากมากมาย ถือชามบะหมี่แห้งๆรออาหารที่จะส่งมา หลายครั้งขบวนการส่งที่ล่าช้าทำให้อาหารเน่าเสียมากมาย “มีวิธีไหนนะที่จะเก็บอาหารในสภาพที่กินได้ง่ายและพร้อมจะแจกจ่ายได้ตลอด?”   ผุ่นของแป้งข้าว สารพัดถ้วยใส่เครื่องปรุง ที่นวดแป้ง เครื่องโม่เส้น และ ตะแกรงเหล็กที่ใช้ทอดบะหมี่ วางระเกะระกะภายในกระท่อมเล็กๆของคุณandoที่กำลังพยายามหาคำตอบให้แก่คำถามที่ตัวเองตั้งขึ้น จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:22:46

ความคิดเห็นที่ 12   และแล้วในปี 1958 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส chiken ramen ห่อแรกของโลกก็ได้เกิดขึ้น การทำยังอาศัยแรงงานคนเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทอด หรือ กระบวนการบรรจุใส่ถุงพลาสติก แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นที่ฮิตถล่มทลายในญี่ปุ่น หลังจากประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น คุณando ได้บินไปถึงอเมริกาเพื่อเปิดตลาดใหม่ให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท Nissin ที่ตั้งขึ้นมาด้วยตัวเอง “อืม.. นี่คืออะไร?” นักธุรกิจอเมริกาถามคุณอันโด “เอ่อ...นี่คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไงครับ” “แล้วจะกินยังไง?” “ก็ใส่ชามแล้ว ใส่น้ำร้อนรอจนเส้นสุก ก็ใช้ตะเกียบคีบกิน” จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:23:33

ความคิดเห็นที่ 13   “ว้า..! ยุ่งยากชะมัด” นักธุรกิจผมทองบ่น “เอางี้แล้วกัน ง่ายดี” ว่าแล้ว เขาก็หัก บะหมี่เป็นชิ้นเล็กๆ เทลงแก้วกาแฟ ก่อนที่จะกดน้ำแล้วใช้ส้อมกิน “อืม...รสชาติดีนี่คุณอันโด” คำชมก็น่าจะทำให้คุณอันโดดีใจ แต่ที่มากกว่าคำชมที่ทำให้ดีใจ ไอเดียใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากเห็นวิธีการกินทำให้คุณอันโดดีใจเสียยิ่งกว่า “ใช่แล้ว! ทำไมเราไม่ผลิตใส่ถ้วย แล้วใช้ส้อมในการกินละ!! อย่างนี้คนทั่วโลกก็จะได้มีโอกาสลิ้มรสบะหมี่อร่อยๆได้!” จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:24:14

ความคิดเห็นที่ 14   กลับจากการติดต่อธุรกิจวันนั้น คุณอันโดก็กลับมาค้นคว้าวิธีการสร้างบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ๆให้แก่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อันดับแรกก็คือ ภาชนะ ..ถ้าจะใช้เป็นโลหะก็ไม่ได้ กระดาษก็เปื่อยเกินเวลาโดนน้ำ ไม้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่.. สุดท้ายก็มาได้ไอเดียจากstyloโฟม ซึ่งในขณะนั้นที่ญี่ปุ่นใช้สำหรับการบรรจุปลาแช่แข็งที่ส่งมาจากทะเลเท่านั้น คุณอันโดจึงจำเป็นต้องสั่งทำบรรจุภัณฑ์รูปถ้วยที่ทำจากสไตโลโฟม จากอเมริกาแทน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:25:04

ความคิดเห็นที่ 15   เอาละภาชนะได้แล้ว ที่นี้ก็ทอดบะหมี่ ไอ้ครั้นจะทอดใส่ตะแกรงเหลี่ยมๆแบบเดิมก็คงเป็นไปไม่ได้ ขยำเป็นก้อนกลมๆก็ไหม้เกินไป แถมบรรจุยาก จากความพยายามและการทดลองหลายสิบแบบ ในที่สุดก็ได้วิธีการทอดโดยการใส่บะหมี่ลงในท่อเหล็กทรงกระบอก การทอดวิธีนี้จะทำให้ ผิวด้านบนของบะหมี่เป็นแนวราบ เหมาะแก่การใส่เครื่องปรุง ส่วนบริเวณก้นเส้นบะหมี่ก็จะสานกันหลวมๆทำให้ง่ายต่อการดูดซับน้ำร้อนที่จะเทลงไปยามกิน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:26:05

ความคิดเห็นที่ 16   ถ้าจะส่งออกไปถึงอเมริกา และยอดขายระดับเป็นแสนๆชิ้น จะมาให้คนนั่งห่อบะหมี่ที่ละถ้วยคงไม่มีทางส่ง orderได้ทัน คุณอันโดจึงพยายามนำเครื่องจักรมาใช้ช่วยในการใส่บรรจุภัณฑ์ แต่การที่จะ “หย่อน” บะหมี่ลงไปในถ้วยแต่ละใบ ให้พอเหมาะพอเจาะ และฟิตพอดีเป๊ะ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ไม่ว่าจะพยายาม “หย่อน” แบบไหน ก็จะมีบะหมี่จำนวนหนึ่งที่เอียงกระเท่เล่ไม่ลงถ้วยดีๆ เรื่องนี้ทำเอาคุณอันโดสมองใส นอนฝันร้ายไปหลายคืน ... “อีกนิดเดียวก็จะถึงปลายทางอยู่แล้ว ทำอย่างไร ถึงจะทำได้เนี่ยะ?!” จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:26:46

ความคิดเห็นที่ 17   แล้วฝันร้ายในคืนหนึ่งก็กลายเป็นฝันดี เมื่อคุณอันโดฝันว่าโลกทั้งใบหมุนกลับหัวกลับหาง จนตัวเองตกลงมาจากที่นอน ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงรำพึงกับตัวเองว่า “โชคร้ายชะมัด” หรือไม่ก็เอาไปตีหวย แต่คุณอันโดกลับได้ไอเดียว่า “ใช่แล้ว ทำไมเรามัวแต่คิดเรื่องเอาบะหมี่ “หย่อน” ใส่ถ้วย ทำไมเราไม่คิดแบบกลับหัวเอาถ้วย “ครอบ” บะหมี่ละ!!” จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:27:49

ความคิดเห็นที่ 18   และนั่นก็เป็นที่มาของการบรรจุบะหมี่แบบใหม่ ที่เอาถ้วย “ครอบ” บะหมี่ ไม่ใช่ เอา บะหมี่ “หย่อน” ลงถ้วย   ส่วนเรื่องฝาปิด ก็ได้ไอเดียมาจากผลิตภัณฑ์บรรจุถั่วแมคคาดาเมียที่เสริฟ์บนเครื่องบินที่ทำจากกระดาษผสมอะลูมิเนียม ที่ง่ายต่อการเปิดใช้ และยังมีคุณสมบัติที่ดีในการเก็บรักษาอาหารอีกด้วย ก่อนที่จะส่งก็จัดการ wrap ด้วยพลาสติก prolypropylene ที่จะหดตัวเมื่อโดนความร้อน เป็นอันเสร็จวิธีการบรรจุภัณฑ์ ในปัจจุบันกระบวนการผลิตตั้งแต่ผสมแป้งจนไปถึงบรรจุลงถ้วยพร้อมจำหน่ายทำโดยเครื่องจักรใช้เวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:28:33

ความคิดเห็นที่ 19   ปลายทางสุดท้ายของการทำธุรกิจก็คือการตอบแทนสู่สังคม คุณอันโดได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาและช่วยเหลือสังคม ที่เห็นชัดๆก็คือช่วงการเกิดแผ่นดินไหวในปี 1995 ที่โกเบ มีการนำรถ van ที่มีบะหมี่สำเร็จรูปออกไปให้แก่ผู้ประสบอุบัติภัย ภายในรถมีน้ำร้อนเพียงพอที่จะชงบะหมี่ได้ประมาณ 3000 ถ้วย ในเหตุการณ์คราวนั้น บะหมี่ของคุณอันโด ได้ใช้เป็นอาหารยามยากหลังเกิดอุบัติภัยนับล้านถ้วยทีเดียว จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:29:08

ความคิดเห็นที่ 20   ใครที่อยากจะลองประสบการณ์ลองผิดลองถูกแบบคุณอันโด ก็สามารถเข้าเรียน course การทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ที่นี่ ใช้เวลาประมาณ ชม.ครึ่ง เริ่มตั้งแต่การหัดผสมแป้ง ไปจนถึงทอดบะหมี่ ปรุงรส และทำบรรจุภัณฑ์กันเลยทีเดียว ราคาก็แค่ 500 เยนต่อคนเท่านั้น!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:29:36

ความคิดเห็นที่ 21   แต่ถ้าใครมีเวลาไม่พอจะใช้แบบหลักสูตรเร่งรัดออกแบบลวดลายบนถ้วยnissin จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:30:12

ความคิดเห็นที่ 22   ก่อนเลือกส่วนผสมที่มีเตรียมไว้ให้แล้วปรุงรสเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสไตล์ตัวเองก็ได้ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:30:40

ความคิดเห็นที่ 23   เพียง 300 เยนก็ได้บะหมี่ถ้วย ฉบับตัวเองมาหนึ่งถ้วย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:31:25

ความคิดเห็นที่ 24   หนุ่มน้อยหน้าใส ผู้ช่วยเลือกเครื่องปรุงรส จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:31:51

ความคิดเห็นที่ 25   นิสชิน ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในการ แข่งรถของอากิระ??!!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:32:11

ความคิดเห็นที่ 26   Instant Ramen Museum เวลาทำการ : 9.30am – 4.00 pm ปิดวันอังคาร ค่าเข้า        :   ฟรี                course เรียนทำบะหมี่ด้วยตัวเอง 500 เยน 90 นาที               (9.30am ,1.00 pm. 2.30 pm) วันหยุดเพิ่มรอบ 11.00am การเดินทาง : เดิน  5 นาที จาก Ikeda Station (Hankyu Takarazuka Line) Website : http://www.nissin-noodles.com/about/index.html (ญี่ปุ่น)               http://www.nissin-noodles.com/english.htm (อังกฤษ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:33:18

ความคิดเห็นที่ 27   AiAi Park สวนดอกไม้สไตล์ยุโรป กับขนมปังอุ่นร้อนๆแสนอร่อย นั่งรถไฟแบบ Express มาลงยัง Yamamoto Station (ระวัง ห้ามนั่ง Limited Express เพราะมันจะวิ่งไปทางอื่นไม่ใช่ Takarazuka)   เดินตามป้ายจากสถานีมาเรื่อยๆเราก็จะพบบ้านสองชั้นสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:33:59

ความคิดเห็นที่ 28   ส่วนฝั่งตรงกันข้ามเป็นสวนสไตล์ยุโรป จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:34:45

ความคิดเห็นที่ 29   ที่เป็นบ้านจะมีอุปกรณ์ตกแต่งสวน เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:35:41

ความคิดเห็นที่ 30   และ ดอกไม้ชนิดต่างๆขายอยู่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:36:12

ความคิดเห็นที่ 31   ถ่ายรูปฟรีไม่มีเขม่น จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:37:55

ความคิดเห็นที่ 32   ลึกเข้าไปหน่อยก็จะเป็นมุมตัวอย่างการแต่งสวน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:39:24

ความคิดเห็นที่ 33   ต้องยอมรับว่าพวกญี่ปุ่นนี่แต่งสวนสวยจริงๆ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:40:15

ความคิดเห็นที่ 34   ... จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:40:33

ความคิดเห็นที่ 35   มีเรือนกระจกข้างใน เพาะกล้วยไม้ขาย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:40:53

ความคิดเห็นที่ 36   ไม่ซื้อไม่ว่า ถ่ายรูปได้ตามใจชอบ (เขาอนุญาต) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:41:12

ความคิดเห็นที่ 37   ... จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:41:45

ความคิดเห็นที่ 38   ฝั่งตรงกันข้ามที่ว่าเป็นสวนยุโรป มีการจัดแต่ง ซุ้มโค้งและไม้พุ่ม เสียดายว่า ตอนที่ไปถึงเขาเพิ่งลงเมล็ดดอกไม้ไปเอง ก็เลยเห็นแต่หญ้าแห้งๆโล่งๆ ยังไม่มีสวนดอกไม้ขึ้นมา จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:42:07

ความคิดเห็นที่ 39   ... จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:42:34

ความคิดเห็นที่ 40   อาทิตย์หน้าที่เมืองนี้ ก็จะจัดเทศการ open Garden Festa โดยหลายๆบ้านจะเปิดให้เข้าชมสวนที่ตัวเองตกแต่ง เมืองทั้งเมืองจะมีแต่ดอกไม้เต็มไปหมด เรามาเที่ยวกันเร็วไปหน่อยก็เลยอดดูไปตามระเบียบ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:43:08

ความคิดเห็นที่ 41   เกือบจะนึกเสียใจแว๊บนึงที่ลงมาเที่ยวที่สถานีนี้ เพราะรู้สึกว่าสวนมันเล็กไปหน่อย แถมดอกไม้ก็ยังไม่ขึ้น หญ้าแห้งผากเชียว จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:43:29

ความคิดเห็นที่ 42   เราก็ได้กลิ่นหอมๆลอยออกมาจากด้านข้างร้านขายของตกแต่งสวน อุ๊ๆร้าน nagasawa bread จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:43:52

ความคิดเห็นที่ 43   เปิดเข้าไป คนเต็มร้าน บรรดาแม่บ้านทั้งหลาย หยิบขนมปังกันยังกับแจกฟรี จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:44:13

ความคิดเห็นที่ 44   แหมก็ชิ้นใหญ่ 105 เยน ถ้าเป็น minibun ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง 105 เยน ..สุดยอดแห่งความถูก!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:47:48

ความคิดเห็นที่ 45   เราลองซื้อมากินซัก สามก้อน... หมดอย่างรวดเร็วเพียง 10 นาที จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:48:17

ความคิดเห็นที่ 46   หอมมาก!! แป้งเหนียวนุ่ม ไม่เหม็นกลิ่นยีสต์ ขนมปังร้อนๆ ไส้ในหวานหอม ขอการันตีว่า ร้านนี้ขนมปังถูกและอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในญี่ปุ่นเลย!! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:48:47

ความคิดเห็นที่ 47   Aiai Park เวลาทำการ  : 9.30am – 5.30 pm (9.30am -7.00 pm วัน ศุกร์และเสาร์)                     ปิดวันจันทร์ ค่าเข้า         :   ฟรี การเดินทาง : เดิน  5 นาที จาก Yamamoto Station (Hankyu Takrazuka Line) Website      : http://www.aiaipark.co.jp  (ภาษาญี่ปุ่น) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:49:45

ความคิดเห็นที่ 48   ตามรอยเส้นทาง Hankyu Takarazuka  ไหว้พระ ชมธรรมชาติ นอกจากเรื่องสวนสวยและดอกไม้งาม ถ้ากางแผนที่ออกดูจะเห็นว่าทางรถไฟสาย Hankyu Takarazuka  มีวัดหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้ๆเกือบทุกสถานี วัดที่มีชื่อ 3 แห่งได้แก่ วัด Nakayamadera, วัด Mefu Jinja และวัด Kiyoshi Kojin Seichoji   แต่ละวัดจะตั้งอยู่บนสถานีที่ชื่อเดียวกันกับวัดตามลำดับ และทั้งสามสถานีนี้ก็เป็นสถานีที่อยู่ติดกันอีกด้วย จึงเป็นเส้นทางที่คนหลายคนใช้เดินเพื่อจาริกแสวงบุญจากวัดสู่วัด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:51:59

ความคิดเห็นที่ 49   เนื่องจากว่าวันนี้อากาศไม่ค่อยดี ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เราเลยตัดสินใจเดินกันแค่หนึ่งวัดก่อนที่ฝนจะเทลงมา วัด Kiyoshi Kojin Seichoji ถือเป็นวัดที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟมากที่สุด แต่ว่าเราเลือกเส้นทางนี้เพราะว่า สองฝั่งถนนจะประกอบไปด้วยร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:52:42

ความคิดเห็นที่ 50   ร้านที่มีนับร้อยๆร้าน เปิดประมาณ 1ใน 3 ที่เหลือโดยเฉพาะพวกที่เป็นร้านแผงลอยปิดเกือบหมด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:53:04

ความคิดเห็นที่ 51   ร้านนี้ขายพวกตุ๊กตาดินเผา จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:53:30

ความคิดเห็นที่ 52   ตอนแรกอยากถ่ายรูปแต่เกรงใจเจ้าของร้านเพราะเราไม่ได้ซื้อของ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:54:03

ความคิดเห็นที่ 53   ปรากฏว่าคุณลุงเจ้าของร้านคะยั้นคะยอให้ถ่ายรูปมาก แถมยังอธิบายว่าแต่ละตัวเป็นอะไรด้วยภาษามือกันอย่างสนุกสนาน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:54:53

ความคิดเห็นที่ 54   คุณลุงบอกนี่คือ "เบ็งเคย์" จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:55:15

ความคิดเห็นที่ 55   อดีตสัตว์ที่ชุกชุมแถวนี้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:55:43

ความคิดเห็นที่ 56   ถ้าอยากมาตอนที่ร้านเปิดครบทุกร้านให้มาช่วงวันที่ 27-28 ของทุกเดือน เพราะเขามีงานวัดเฉลิมฉลองทุกเดือน และร้านทุกร้านก็จะเปิดหมด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:56:18

ความคิดเห็นที่ 57   เอาเป็นว่าวันนี้เราเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆไปก่อนแล้วกัน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:57:00

ความคิดเห็นที่ 58   ขนมข้างนอกคล้ายๆเวเฟอร์บางเฉียบ ข้างในเป็นไส้ถั่วแดงหวานจ๋อย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:57:40

ความคิดเห็นที่ 59   ไดฟูกุ แป้งอย่างหนักเลย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:58:04

ความคิดเห็นที่ 60   ระหว่างที่เราเดินไปนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนด้วยความตื่นเต้น มองขึ้นไปบนเนินเล็กๆข้างทางเห็นป้ายรูปแมวร้องไห้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:58:37

ความคิดเห็นที่ 61   อืมน่าจะแปลว่าอย่าทิ้งแมว เดี๋ยวจะกลายเป็นแมวจรจัดละมั๊ง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:59:04

ความคิดเห็นที่ 62   กวาดสายตาไปรอบๆเห็นแมวหลายตัว..เอ..ไม่น่าจะต้องกรี๊ดกร๊าดกันนี่หน่า จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 17:59:24

ความคิดเห็นที่ 63   และแล้วสายตาเราก็ไปสะดุดกับสัตว์ตัวหนึ่ง หน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอก ตาสีดำๆ ขนหรอมแหรม..(เหมือนจะเป็นเรื้อนนะเนี่ย) “ทานูกิ๊...” เสียงสาวญี่ปุ่นด้านหลังตะโกนขึ้นมาก่อนที่เธอจะปาขนมปังไปให้สัตว์ผู้หิวโหยตัวนั้น หา..?? นั่นทานูกิ จริงๆเหรอ??!! เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก!! แต่ที่เคยอ่านในการ์ตูนมันน่าจะตัวกลมโตขนฟูๆ ไหงตัวนี้มันดูบักโกรกอย่างนี้ละ?? จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:00:34

ความคิดเห็นที่ 64   ว่าแล้วหลังจากการไปเที่ยวเราก็กลับมา check Wikipedia ถึงได้รู้ว่า ทานูกิ ก็คือสัตว์ในตระกูลแรคคูนประเภทหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วก็จะมีขนฟูฟ่องเหมือนแรคคูนทั่วๆไปนั่นแหละ เพียงแต่เจ้าตัวที่เห็นระหว่างทาง มันคงหาอะไรกินไม่ค่อยได้ สภาพก็เลยดูยับเยินยู่ยี่แบบนี้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:00:59

ความคิดเห็นที่ 65   อาหารกลางวันวันนี้สำหรับคุณสามีเป็น Katsudon ข้าวหน้าหมูทอดราดไข่ราคา 780 เยน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:01:29

ความคิดเห็นที่ 66   ส่วนของตัวเองล่อแบบแพง bento ชุดฤดูใบไม้ผลิ 1050 เยน ปลากระพงดิบเย็นๆ กับยำปลาหมึกใส่วาซาบิ พร้อมกับหน่อไม้เผากลิ่นหอมหวาน รสชาติเข้าก๊านเข้ากันกับกุ้งนึ่ง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:02:01

ความคิดเห็นที่ 67   เท่าที่มองดูรวมๆนี่คืออาหารโทนเย็น หรือเสริมธาตุ “หยิน” ในร่างกาย เหมาะสำหรับกินในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อน.. แต่วันนี้มันยังหนาวอยู่วุ้ย!! แอบมองโต๊ะข้างๆ กินกันแต่ setโซบะร้อน กับ ปลาดิบกับหมดเลยแหะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:02:35

ความคิดเห็นที่ 68   Kiyoshi-kojin Seichoji Temple  ฝ่าลมหนาว นมัสการเทพเจ้าแห่งไฟ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 896 วัด Kiyoshi-Kojin Seichoji หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Kojin-san ตั้งตระหง่านทนแดดทนฝนมานับพันกว่าปี วัดนี้เป็นวัดนิกายชินงอน (หนึ่งในนิกายตันตระ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:05:56

ความคิดเห็นที่ 69   เห็นได้จากรูปปั้นพระที่ใส่งอบ มือหนึ่งถือไม้เท้า อีกมือถือชาม นั่นคือ ตัวแทนของพระภิกษุ โคโบไดชิ ผู้นำพุทธศาสนามาจากจีนและเผยแผ่เป็นนิกายชิงอนในญี่ปุ่นนั่นเอง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:06:26

ความคิดเห็นที่ 70   ถ้ามาวันที่ 27-28 ร้านจะเปิดขายหมดเลย...เสียดายจัง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:06:59

ความคิดเห็นที่ 71   เอานะ ร้านนึงยังเปิดให้ซื้อธูปหอม และเครื่องบูชา ส่วนร้านข้างๆขายพวกคล้ายๆกับแปรงสารพัดขัดได้ทุกที่ (มีทุกขนาดเลยแหะ) แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 18:08:11 จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:07:27

ความคิดเห็นที่ 72   ตัววัดเองประกอบด้วยศาลเจ้าและศาลาเล็กๆอีกหลายหลัง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:10:05

ความคิดเห็นที่ 73   ดูจากการวางแผนผังในวัดและทิศทางของคนที่มานมัสการ เหมือนว่าน่าจะมีรูปแบบในการเคารพอยู่ แต่เผอิญป้ายที่มีเขียนก็ดันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด ก็เลยได้แต่เดินตามๆคุณปู่ข้างหน้าไป จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:11:08

ความคิดเห็นที่ 74   จากประตูสีแดงอันใหญ่ ที่เรียกว่า san mon  ก็จะถึง Tendo Hall หรือ หอแห่งสวรรค์ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:11:52

ความคิดเห็นที่ 75   ซึ่งเป็นที่ใช้ในการบูชาเทพ2 องค์ได้แก่ Sambo Kojin (เทพแห่งไฟ) และ Kangiten บุตรแห่งพระศิวะ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม พระพิฆเนศนั่นเอง อย่าได้งง เพราะที่นี่ศาสนาพุทธก็มีการปรับปรุงโดยการนำความเชื่อทั้งทางฮินดูและพุทธมาผสมๆกัน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:12:39

ความคิดเห็นที่ 76   ผู้ที่ทำหน้าที่กราบไหว้บูชาถึง3 เวลาต่อวันจะเป็นของพระวัดนี้ โดยห้ามมิให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือ นักเดินทางมีส่วนร่วมในพิธีโดยเด็ดขาด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:13:28

ความคิดเห็นที่ 77   ส่วนศาลาหลังเล็กๆที่ตั้งรายรอบ ก็จะเป็นของเทพเจ้าแต่ละองค์ บางองค์ก็มีหน้าที่ในการดูแลรักษาน้ำ การงอกเงยของพืชผล จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:15:11

ความคิดเห็นที่ 78   เห็นแบบเตะตาที่สุดก็คือ ศาลาที่เก็บไม้เท้าเหล็กสีทอง Fire-tongs (อันที่เราเห็นพระที่ธุดงค์ถือแทนไม้เท้านั่นแหละ) วางเรียงสูงกันเป็นตับ โดยที่นี่มีความเชื่อว่า ปีไหนที่ “ชง” หรือดวงไม่ดี จะมีการเก็บไม้เท้าไว้กับบ้านถือเป็นเครื่องรางให้โชคดี เมื่อผ่านพ้นปีนั้นไปแล้วก็จะนำไม้เท้านั้นมาถวายที่วัดเพื่อแสดงความขอบคุณ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:17:30

ความคิดเห็นที่ 79   แบบพับนกกระเรียนมาถวายก็มีให้เห็นได้ทุกวัด จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:18:03

ความคิดเห็นที่ 80   สั่นกระดิ่ง ขอพรกันไหม? จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:18:52

ความคิดเห็นที่ 81   พระ jizo ว่ากันว่า ตักน้ำรดแล้วขอพร จะได้พรสมประสงค์ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:21:22

ความคิดเห็นที่ 82   ดอกไม้กำลังบานสวยเลยค่ะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:21:52

ความคิดเห็นที่ 83   มาชื่นชมประวัติบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กำลังตามรอยคุณ CMV ไปไต้หวันอยู่เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 18:24:15 จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:21:56

ความคิดเห็นที่ 84   ... จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:22:11

ความคิดเห็นที่ 85   เดินไปด้านหลังจะมีน้ำตก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:22:45

ความคิดเห็นที่ 86   บรรยากาศดีจัง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:23:07