ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นตามประเพณี เอ๊ย....ตามแบบฉบับของผม ต้องกางแผนที่ เกริ่นนำ ถึงที่มาก่อน ว่าเจ้าคลองที่ว่านี้อยู่ที่ไหน ความเป็นมาอย่างไร  (ผมเชื่อว่า หลายคนที่เห็นรูปเปิดกระทู้แล้ว อาจทราบว่า คลองนี้ชื่ออะไร) แต่ก่อนอื่น ไหนๆ ก็พูดเรื่องคลอง ก็ต้องนึกถึงแม่น้ำ ซึ่ง ในกรุงเทพฯนี้ ก็มีแม่น้ำเดียว คือ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ในช่วงใกล้จะออกสู่ปากอ่าวไทย แล้ว  ผมก็เลยลองลากแผนที่ แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดียว โดยมีตำแหน่งบอกสถานที่สำคัญๆ กำกับที่ริมฝั่งด้วย   และที่สำคัญสิ่งที่ไม่ลืมก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งหมด  ครอบคลุมจังหวัดในปริมณฑล มาให้ดูด้วย  จะได้ครบๆ และเป็นเกร็ดความรู้ ไปในตัวครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:54:31

ความคิดเห็นที่ 2 ตามมาเที่ยวกรุงเทพด้วยคนครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 17:20:23

ความคิดเห็นที่ 3 ไปด้วยค้าบบบ ^^ จากคุณ : Wini2524 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 17:30:26

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณม่วงมหากาฬ และคุณ Wini2524:  ต้องขอโทษนิดนึง ที่ให้รอนาน เพราะมัวแต่ไปค้นหาข้อมูลสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดในกรุงเทพฯ นานหน่อย  เพราะรู้สึกสนุกเหมือนกัน ที่ยิ่งค้นก็ยิ่งอยากทราบ คือสรุปได้ว่า ทั้งหมดมีสะพานอยู่ 18 แห่ง ซึ่ง ถ้าหากรวมสะพานคู่ขนานในแห่งเดียวกันอีก 3 แห่ง (สะพานคู่ขนานพระนั่งเกล้า, สะพานรถไฟพระราม6 และสะพานพระราม3 คู่ขนานสะพานกรุงเทพฯ) ก็เป็น 21 แห่ง ครับ (อ้อ..ไม่รวมสะพานที่สร้าง เหนือ ไปกว่า สะพานเชียงราก อีก 7 แห่ง นะครับ เพราะถือว่าไม่ใช่ปริมณฑล เดี๋ยวจะยาวไปไกลกว่านี้ครับ) จากการไปสืบค้นในเน็ต ในช่วงบ่ายนี้ ผมเลยได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาว่า สะพานที่สร้างแห่งแรกเลย ก็คือ สะพานพระราม 6 ครับ สร้างในปี พ.ศ.2469 ในรัชกาลที่ 6 เพื่อเดินรถไฟสายใต้ครับ มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ สะพานนี้ สร้างได้ยาวเป็นอันดับ 4 ของสะพานทั้งหมดเลย (แม้จะสร้างมานาน) และก็ยังสร้างได้สูงถึง 10 เมตร ในขณะที่สะพานแถบนั้นสร้างกันในช่วงไม่ถึง 8 เมตร แต่เดิมใช้ข้ามได้ 3 แบบ คือ ทางรถไฟ ทางรถยนต์ และทางเดิน ได้มีการปรับเปลี่ยนยกเลิกการเดินรถบนสะพานนี้ มาเป็น ทางรถไฟ 2 รางตั้งแต่ ปีพ.ศ.2546 (รูปประกอบ นั้นผมเอามาจากในเว็บ สำนักหอสมุดกลาง ม.ราม http://www.lib.ru.ac.th/journal/bangkok/rama6.html) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 18:46:40

ความคิดเห็นที่ 5 สะพานแห่งที่ 2 ที่สร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก็คือ สะพานพุทธยอดฟ้า มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์  สร้างในปีพ.ศ. 2475 รัชกาลที่ 7 นะครับ  ผมคิดว่า หลายคน และตัวผมเองก็เคยคิดว่า สะพานนี้สร้างก่อนใครในกรุงเทพฯ เพราะได้รับพระราชทานนาม จาก องค์รัชกาลที่ 1 แต่ความจริงไม่ใช่นะครับ  แถมยังเป็นสะพานยกเปิดให้เรือใหญ่ผ่านได้ ตามรูปข้างล่าง  จนในปี พ.ศ.2527 ได้มีการสร้างสะพานพระปกเกล้าใกล้ๆเสร็จ  จึงมีการปิดซ่อมสะพานพุทธยอดฟ้าในปีถัดมา (2528) ซึ่งหลังจากนั้นสะพานก็ยกไม่ได้ตั้งแต่นั้นมาครับ (ภาพมาจากเว็บชาวเรือ http://www.marinerthai.com/sara/view.php?No=1142) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:02:33

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาชมความรู้ดี ๆ ด้วยครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:48:33

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับสะพานยกได้ นั้น ในปัจจุบันยังคงเหลือ สะพานกรุงเทพฯ แต่จะมีเวลายก(เปิดสะพาน) ระบุไว้แน่นอน สำหรับลำดับการสร้างสะพานตามปี พ.ศ.ที่เปิดใช้งาน ซึ่งผมขอเรียงให้ดูกันเล่นๆ นะครับ  1.สะพานพระราม 6                      พ.ศ.2469  2.สะพานพุทธยอดฟ้า                   พ.ศ.2475  3.สะพานกรุงธน(ซังฮี้)                  พ.ศ.2500  4.สะพานนนทบุรี(นวลฉวี)              พ.ศ.2502  5.สะพานกรุงเทพ                         พ.ศ.2502  6.สะพานพระปิ่นเกล้า                    พ.ศ.2516  7.สะพานตากสิน                          พ.ศ.2525  8.สะพานปทุมธานี                        พ.ศ.2527  9.สะพานพระปกเกล้า                    พ.ศ.2527 10.สะพานพระนั่งเกล้า                     พ.ศ.2528 11.สะพานพระราม 9                       พ.ศ.2530 12.สะพานพระราม 7                       พ.ศ.2535 13.สะพานเชียงราก(ถ.วงแหวน)        พ.ศ.2539 14.สะพานพระราม 3                       พ.ศ.2543 15.สะพานพระราม 8                       พ.ศ.2545 16.สะพานพระราม 5                       พ.ศ.2545 17.สะพานพระประแดง(อุตสาหกรรม) พ.ศ.2549 18.สะพานพระราม 4                       พ.ศ.2549 19.สะพานกาญจนาภิเษก                 พ.ศ.2550 20.สะพานคู่ขนานพระนั่งเกล้า           พ.ศ.2551 21.สะพานปทุมธานี 2 (ปากเกร็ด)      พ.ศ.2552 จากปีพ.ศ.ที่เห็น พอวิเคราะห์ได้ว่า ก่อนปี พ.ศ.2500 มีสะพานสร้างเพียง 2 แห่ง แม้กระทั่งผ่านมาอีก 20 ปี(2500 - 2519) ก็สร้างเพิ่มอีกเพียง 4 แห่ง  จนมาในช่วงหลังถึงได้สร้างเพิ่มมากขึ้น เช่นในช่วง ปี 2520 - 2529 สร้างเยอะถึง 4 แห่ง และ ช่วงปี 2530 - 2549  สร้างเพิ่มถึง 8 แห่ง  และในช่วงหลังปี 2550 อีก 3 แห่ง ทั้งนี้ยังมีโครงการจะสร้างอีก 2 แห่งคือ สะพานข้ามรถไฟฟ้าคู่ขนานสะพานพระนั่งเกล้า กลับ สะพานข้ามถนนนนทบุรี 1 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 20:20:11 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:12:27

ความคิดเห็นที่ 8 มาร่วมตามหาคลองค่ะ จากคุณ : ajcha3557 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:41:29

ความคิดเห็นที่ 9 ขอนำกลับเข้ามาในเรื่องที่เราสนใจอยู่คือ คลองริมสนามหลวง นะครับ  ผมก็ขอลากแผนที่ในเขตเกาะรัตนโกสิทร์ ที่จะแสดงคลองทั้งหมด ให้ดูกัน โดยมีเส้นทางรถยนต์ และสถานที่สำคัญๆ ให้ดูกัน เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในเรื่องอื่นได้ด้วย จากรูปข้างล่าง เราจะพบว่า แกนกลางของเมืองกรุงเทพฯเดิม คือ เกาะรัตนโกสินทร์ ที่ใช้ความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นตัวตั้ง แล้วขุดคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือกับด้านใต้ เป็นเหมือนวงแหวนซ้อนกัน 3 วงคือ คลองคูเมืองเดิม คลองรอบกรุง และคลองผดุงกรุงเกษม โดยมีคลองเชื่อมระหว่างคูเมืองเดิม กับ คลองรอบกรุง 2 คลองเล็กๆ ชื่อว่า คลองหลอด ตามแสดงในรูป นอกจากนี้ ยังมีคลองพุ่งออกไปจากเมือง ไปสู่นอกเมือง 2 คลองคือ คลองมหานาค (เชื่อมกับ คลองแสนแสบตรงคลองผดุงกรุงเกษม) พุ่งไปทางทิศตะวันออก สิ้นสุดที่ แม่น้ำบางปะกง ที่ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา   กับอีกคลองหนึ่ง คือ คลองเปรมประชากร ที่พุ่งขึ้นทางทิศเหนือ ไปสิ้นสุดที่ แม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานบางไทร แถวๆ ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.อยุธยาโน้น ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:41:38

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาด้วยคนคะ จากคุณ : Pinkwinter เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:44:13

ความคิดเห็นที่ 11 จากแผนที่ข้างบน ที่ผมได้ค่อยๆลากจนได้อย่างที่เห็น ทำให้ผมได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับถนนอย่างมาก (ต่างจากการที่ได้นั่งดูอย่างเดียว)  โดยเฉพาะถนนในเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ นี่ ที่ปกติเวลาขับรถไปจะรู้สึกงงๆ กับความคดโค้งของถนน และการเดินรถทางเดียว   ผมขอยกเนื้อหาเกี่ยวกับถนนไปยัง คห.18 - 24 นะครับ จะได้ดูเข้าใจง่ายๆดี แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 13:22:12 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:23:46

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ คุณPinkwinter : ยินดีต้อนรับครับ  กำลังพล่าม..เอ๊ย..บรรยาย มันส์ๆ เลย ดึกแล้ว ขอพักกระทู้ไว้มาต่อพรุ่งนี้นะครับ  โปรดคอยติดตาม นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:27:51

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากๆครับผม ตามไปเที่ยวด้วย หุหุ สมัยก่อนจำได้ว่า ปากคลองใต้สะพานพระปกเกล้าจะมีขายเต่าและปลาให้เอาไปปล่อยด้วย แต่เดี๋ยวนี้สงสัยจะย้ายไปที่ท่าเตียนกันหมด หุหุ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 22:18:58

ความคิดเห็นที่ 14 กำลังจะท้วงว่า สะพานพระรามหก หายไปไหน แต่มาดู แหะๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลคร้าบ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 22:52:02

ความคิดเห็นที่ 15 ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 00:00:23

ความคิดเห็นที่ 16 สุดยอดเลยครับ สาระดีๆแบบนี้ต้องโหวตและเก็บเข้าคลัง ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 01:03:32

ความคิดเห็นที่ 17 ทู้นี้ทั้งสนุกและได้ความรู้มากเลยค่ะ   ขอบคุณที่ไปค้นข้อมูลมาให้อ่านนะคะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:24:13

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีทุกๆ ท่านครับ รู้สึกดีใจที่ มีคนเข้ามาสนใจกันเยอะเลย  ผมเลยมีกำลังใจ ปรับปรุง ข้อมูลการเดินรถบนถนนในคห.11 ใหม่  และแสดงเป็นภาพให้ง่ายต่อการเข้าใจ เผื่อใครอยากลองไปเที่ยวบ้าง (ยามดึกๆ ที่มีรถน้อยๆ อากาศไม่ร้อน)นะครับ ผมขอแสดงด้วยลูกศรสีเหลืองนะครับ ถนนจาก สะพานพระราม 8 สามารถวิ่งเป็นแนวโค้ง มาขึ้นสะพานพระปกเกล้าได้ โดยไม่ต้องเลี้ยวใดๆ แถมวิ่งสวนทางได้จนมาถึงแยกวัดตึก(ตัดถนนเยาวราช) จึงเป็น OneWay แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากลงจากสะพานพระปกเกล้า จะสามารถวิ่งไปได้ถึง ถนนพระอาทิตย์ (บางลำภู) เลย โดยมี OneWay แค่จากเชิงสะพานพระปกเกล้า ถึงสี่แยกตัดกับถนนเจริญกรุง แต่ถ้าหากต้องการกลับไปสะพานพระราม 8 ต้องเลี้ยวขวา ตรงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อไปเลี้ยวซ้ายตรงแยก จปร. (ตัดกับเส้นทางขามา) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 10:13:21

ความคิดเห็นที่ 19 ถนนจาก สะพานพุทธยอดฟ้า สามารถวิ่งยาวไปจนถึง วิทยาลัยครูสวนดุสิต ไปสุดที่สามแยก ถนนไปบางกระบือเลย  หรือจะเลี้ยวซ้ายไปทาง ปากคลองตลาด เลียบ พระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ไปขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้าได้   แต่ขากลับมาเพื่อขึ้นสะพานพุทธยอดฟ้าอีก จะมีความยุ่งยากมาก เพราะมี OneWay เพียบ ต้องเลี้ยวไปเลี้ยวมา โดยใช้ถนนหลายเส้นร่วมกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 10:17:48

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากค่ะ รออ่านต่ออยู่นะค้า จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 10:20:33

ความคิดเห็นที่ 21 ถนนเจริญกรุง ที่ว่าเป็นถนนสายแรกของกรุงเทพฯ นั้นมาไกล จาก ถนนตก ผ่านบางรัก ตลาดน้อย มาถึงแยก ถ.ทรงวาด เลี้ยวซ้ายไปก่อนแล้วเลี้ยวขวา วกกลับมายัง วงเวียนโอเดียน เพื่อเข้าสู่ถนนเยาวราช เพราะถนนเจริญกรุงช่วงต่อไปนี้เป็น OneWay วิ่งสวนทาง(ต้องใช้ถนนเยาวราชที่ OneWay เท่านั้น) ซึ่ง ถนนเยาวราชไปสิ้นสุดตรงสี่แยกหน้าเมอรรี่คิงส์วังบูรพา บังคับเลี้ยวขวากลับมายังถนนเจริญกรุงอีก (ที่จริงแล้วตรงนั้นเป็นสี่แยก วิ่งตรงไปด้านหลังเมอรรี่คิงส์ได้ ซึ่งจะไปชนกับ ดิโอล์สยาม บังคับเลี้ยวซ้าย ไปถนนพาหุรัด เพื่อไปขึ้นสะพานพุทธยอดฟ้าได้) ในทางตรงกันข้าม ถนนเจริญกรุงเริ่มจาก วงเวียนวัดโพธิ์ เป็นถนนสวนทางปกติ มาจนถึง ดิโอล์ดสยาม (หัวมุม เฉลิมกรุง) จึงได้เป็น OneWay มาจนถึง แยกหมอมี ซึ่งตรงนั้นเป็นสี่แยก จะห้ามไปตรง  สามารถเลี้ยวได้ 2 ด้าน  ด้านซ้าย ไปวงเวียน 22 กรกฎา (เป็น 6 แยก งงมากๆ ถ้าไม่เคยชิน ต้องอาศัยวิ่งตามรถคันหน้าเท่านั้น) แล้ววนอ้อมกลับมายัง ถนนพระราม 4 ผ่านหัวลำโพง มาคลองเตยได้  หรือ ด้านขวา ก็ไปยัง วงเวียนโอเดียน บังคับเลี้ยวซ้าย ไปหัวลำโพง    การจะกลับมายังถนนเจริญกรุงอีก ก็ไม่ง่าย เพราะช่วงนี้ยังเป็น OneWay ส่วนใหญ่จะใช้ ถนนพระราม 4 แทน แล้วไปเลี้ยวที่แยก สุรวงค์ หรือ สีลมเลยครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 13:14:14 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:27:28

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับ คุณแม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง :  ต้องขออภัยที่ให้รอนาน เว็บโพสไม่ได้เลย นานเกือบ 2 ชั่วโมง ครับ ยังมี ถนนบำรุงเมือง ที่ถือว่าเป็นถนนสร้างเป็นลำดับสอง ที่เริ่มจาก ริมกำแพงวัดพระแก้ว พุ่งออกไปทางตะวันออก ผ่าน วงเวียนเสาชิงช้า (ไปยืนบนฐานเสาชิงช้าจะมองเห็นกำแพงวัดพระแก้วเลย) ตรงไปยัง สะพานกษัตริย์ศึก(ที่ข้ามทางรถไฟใกล้หัวลำโพง) มาต่อกับถนนพระราม 1 แถวๆ ปทุมวัน สยามแสควร์ มาเชื่อมกับถนนเพลินจิต และถนนสุขุมวิท ยาวไปบางนา โน้นเลยครับแต่ถ้าต้องการจะย้อนกลับไป ละยากเช่นกัน เพราะมี OneWay หลายจุด ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:29:55

ความคิดเห็นที่ 23 และเมื่อพูดถึง ถ.เจริญกรุง  ถ.บำรุงเมือง แล้วก็อดนึกถึง ถ.เฟื่องนครไม่ได้ เพราะเป็นคำคล้องจองกันพอดี ซึ่งถือว่าเป็นถนนสายที่ 3 ของกรุงเทพฯ  ซึ่งเชื่อมระหว่าง ถ.เจริญกรุง(สี่แยกสี่กั๊กพระยาศรี) กับ ถ.บำรุงเมือง (สี่แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า)  แสดงในแผนที่ข้างล่างด้วยเส้นสีเหลืองนะครับ แต่ประวัติความเป็นมาของถนนเล็กๆ (สั้นจนหาไม่เจอ หรือลืมกันไปแล้วว่ายังมีอยู่) ก็คือ ถนนสายนี้สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5  พ.ศ.2407 เริ่มจาก ปากคลองตลาด ผ่านแยกบ้านหม้อ ผ่าน สี่กั๊กทั้งสองแห่ง มาถึง สี่แยกคอกวัว สิ้นสุดที่ วัดบวรนิเวศ บางลำพู  เพียงแต่ คนนิยมเรียกในช่วงผ่านบ้านหม้อเป็น ถ.บ้านหม้อ และ ช่วงผ่านแยกคอกวัวเป็น ถ.ตะนาว จนมีการเปลี่ยนชื่อถาวรดังที่เห็นในปัจจุบันครับ  (ส่วนที่ถูกเปลี่ยนชื่อแล้ว ได้แสดงด้วยเส้นประสีเหลืองครับ) แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 12:35:38 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:32:40

ความคิดเห็นที่ 24 ถนนสุดท้ายที่น่าสนใจ ก็คือ ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ต่อจากสะพานพระปิ่นเกล้าลงมาถึง สะพานผ่านพิภพลีลา เชื่อมกับ ถนนราชดำเนินกลาง ผ่าน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้าลีลาศ อันเป็น 4 แยกที่เอียงๆ ตรงเชิงสะพาน ให้เลือกไป ถนนราชดำเนินนอก ตรงไป พระที่นั่งอนันตสมาคม อ้อมหลังไป บรรจบถนนราชวิถี ซึ่งสามารถเลี้ยวซ้ายทีขวาที เข้าถนนพิชัย ไปสิ้นสุดถนนที่ตรงไป บางกระบือได้ด้วย  แต่ถ้าเลือกมาทางถนนนครสวรรค์ ก็จะมาชนถนนพิษณุโลกตรงหน้าสนามม้านางเลิ้ง เลี้ยวขวา ไปเริ่มต้นถนนเพชรบุรี อันยาวไกล (ไปเชื่อมกับ ถนนพัฒนาการ ตัดกับถนนอ่อนนุช ออก ลาดกระบังไปเลย) สำหรับ ชุดถนนราชดำเนินนี้ น่าสนใจไม่น้อย เพราะยังมีอีกเส้นหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้จักกัน คือ ถนนราชดำเนินใน ที่มีระยะทางสั้นๆ แค่เลียบข้างสนามหลวง เท่านั้น จาก สะพานภาพพิภพลีลา สิ้นสุดตรงศาลหลักเมือง(ปลายสนามหลวงด้านใต้) เท่านั้น  ถนนชุดราชดำเนินนี้สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ปีพ.ศ.2446 จะว่าไปแล้ว ถ้าหากรถไม่ติด ถนนไม่เป็น OneWay อากาศเย็นสบาย ก็น่าขี่จักรยานเที่ยวเหมือนกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:52:21

ความคิดเห็นที่ 25 คราวนี้ก็มาถึงตอนสำคัญกันละ ตามหาคลองที่หดหายไปกันดีกว่าครับ (มัวเพลินกับถนนบนเกาะรัตนโกสินทร์มากไปหน่อย..) จากแผนที่ข้างล่างนี้ ได้แสดงให้เห็นถึง คลองที่ผมสนใจ ก็คือคลองคูเมืองเดิม อันเป็นคลองชั้นใน ขุดในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพื่อวัตถุประสงค์เป็นเสมือนรั้วป้องกันข้าศึกประทะ โดยเริ่มขุดจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรง ท่าช้างวังหน้า (ด้านเหนือโรงละครแห่งชาติในปัจจุบัน) โค้งโอบล้อม ศาลหลักเมือง หอกลอง ยาวลงมาทางใต้ แล้วออกแม่น้ำเจ้าพระยาอีกที ตรงปากคลองตลาด จนผ่านมาในรัชกาลที่ 1 ได้มีการขุดคลองรอบกรุงขยายออกไปอีกชั้นหนึ่ง (พ.ศ.2326)  คลองคูเมืองเดิมนี้เลยกลายมาอยู่ในเขตเมือง ชาวบ้านได้ใช้เดินทาง และมีชื่อเรียกไปตามสถานที่ใกล้เคียง คือ ด้านเหนือ เรียกว่า คลองโรงไหม เพราะผ่านโรงไหมหลวง  ด้านใต้เรียกว่า คลองตลาด เพราะมีตลาดคนคึกคักมาก  ส่วนตรงกลาง ระหว่างคลองหลอดวัดราชนัดดา และคลองหลอดวัดราชบพิธ นั้น ถูกเรียกว่า คลองหลอดเฉยๆ อันเป็นการผิดเพี้ยนไปจากชื่อเดิม (คลองคูเมืองเดิม)   จนเมื่อมีการฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2525 ก็ได้กำหนดชื่อคลองนี้ตลอดแนวจากด้านเหนือลงใต้เป็น คลองคูเมืองเดิมครับ (ที่มาของภาพ : จากบล๊อกของแก๊งสนามหลวง ตาม ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sanamluang&group=3&month=12-2007&date=17) แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 16:04:36 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 15:53:59

ความคิดเห็นที่ 26 คราวนี้ปัญหาก็เกิดขึ้นละ ว่าคลองคูเมืองเดิมในส่วนเหนือ ตั้งสะพานผ่านพิภพลีลา ขึ้นไป (เดิมเรียกว่า คลองโรงไหม) นั้นหายไปไหน   หลายคนคงคุ้นตากับสะพานผ่านพิภพลีลา และก็มีสามัญสำนึกว่า สะพานก็ต้องสร้างข้ามคลอง หรือแม่น้ำ ซึ่ง ทั้งสองด้านของสะพานก็ต้องมีคลอง  แต่สำหรับที่นี่ ไม่มี..... มีด้านเดียว คือ ด้านหลังศาลฎีกา และกระทรวงกลาโหม (ศาลหลักเมือง) ลงไปเท่านั้น แล้วอีกด้านล่ะหายไปไหน เขาถมคลองทิ้งแล้วหรือ?  ลองมาตามหากันดูนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 16:02:56

ความคิดเห็นที่ 27 เริ่มจากภาพเปิดกระทู้ ที่ผมยังเห็นคลองลอดหายเข้าไปใต้สะพานผ่านพิภพลีลา  ผมจึงลองเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ยังพบว่า.... คลองยังอยู่ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 16:22:29

ความคิดเห็นที่ 28 หันไปดูด้านขวามือของรูปบน ที่เป็นเกาะกลางถนน เอ้า...คลองหายเข้าไปในนี้ นี่เอง... จะลอด หรือสุดแค่ตรงนี้ก็ไม่ทราบ ต้องพิสูจน์ดู (สงสัย แบบนักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องตั้งข้อสมมติฐาน และกำหนดวิธีทดลองดู) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 16:27:20

ความคิดเห็นที่ 29 ยืนบนสะพานแล้วเงยหน้าดู พื้นที่เหนือคลองข้างหน้า ..... โอ้โฮ..นี่มันถนนนะครับ  สงสัยว่าคลองอาจจะลอดไปยังฝั่งตรงข้ามถนน คงต้องเดินข้ามถนนไปด้าน กรมประชาสัมพันธ์เดิม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 17:28:13

ความคิดเห็นที่ 30 ข้างล่างคือถนนฝั่งตรงข้าม เคยเป็นกรมประชาสัมพันธ์ครับ  ตอนนี้มีอนุสาวรีย์เศียร์ช้าง 4 ด้านอยู่ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 17:35:10

ความคิดเห็นที่ 31 ผมลองเดินข้ามถนนไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นอนุสาวรีย์ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก เนื่องในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบเป็นปีที่ 50 เมื่อ พ.ศ.2539 ซึ่งได้มีการจำลองแบบซุ้ม ลงมาไว้ในแต่ละด้านของอนุสาวรีย์ พร้อมความหมาย ให้ชนรุ่นหลังได้ทราบและชื่นชมในพระบารมี  สร้างโดย คุณสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการ กทม. ในปีพ.ศ. 2546 ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 17:43:42

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อข้ามถนนไปแล้ว กลับไม่มีร่องรอยคลองคูเมืองเดิม ลอดใต้ถนนด้านนี้เลย  แสดงว่า คลองน่าจะอยู่ใต้ถนนที่ต่อลงมาจาก สะพานพระปิ่นเกล้าแน่นอน ตามแนวจุดที่ผมลากให้ดู ผมต้องเดินไปพิสูจน์ใต้เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า แล้ว ว่าเป็นไปตามที่ผมคิดไว้หรือไม่ (ขณะที่ผมบันทึกภาพอยู่นั้น ผมก็ไม่เคยทราบจริงๆว่า คลองคูเมืองเดิม นั้นมีลักษณะอย่างไร)  ลองตามผมไปดูด้วยกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 18:18:27

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนๆ บางคนอาจสงสัย ว่าทำไมผมต้องมาเดินยามกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ กลางวันทำไมไม่ทำ  เป็นเพราะทีแรกไม่ได้ตั้งใจ อยู่ๆเกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไม คลองนี้หายไป  ตอนนั้นยังเข้าใจว่าสะพานนี้ถูกถมให้เป็นถนนแล้วด้วยซ้ำไป ตอนนี้ผมเดินไปตามถนนเจ้าฟ้า ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป์เจ้าฟ้า  เพื่อเข้ามาดูใต้เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าดู ว่าเป็นอะไร.... โอ..แทบไม่น่าเชื่อครับ ว่าเป็นคลอง  คลองจริงๆ   ตอนที่ผมไปนั้นเป็นกลางคืนจึงมืด มองไม่เห็นอะไร ใจยังคิดว่าเป็นพื้นดินใต้สะพานอย่างที่เคยเห็นทั่วๆไป  พอกดแฟลชกล้องถ่ายภาพเข้าไป จึงเห็นว่าเป็นคลอง  ข้างบนหัวก็คือ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า และถนนที่ทอดยาวลงไป ก็คือ ถนนคร่อมคลองคูเมืองเดิมนั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 18:27:11

ความคิดเห็นที่ 34 ก็อย่างที่บอกไว้ว่า ความสงสัยไม่ปราณีใคร แม้จะมืดและเปลี่ยว ก็ยังกล้าเดินมาคนเดียว เพื่อมาพิสูจน์ดูว่า คลองคูเมืองเดิมนั้น ไปสิ้นสุดที่ใด ไม่อยากรอพรุ่งนี้ กลางวันมาดู  แถมการเดินกลางคืนก็เย็นสบายดีไม่ร้อน รถราก็ไม่เยอะด้วยครับ จากภาพบน (คห.33) ผมลองหันไปอีกด้านหนึ่ง ใต้เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ด้านที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โอ้โฮ..มีช่องลอดใต้ถนนพระอาทิตย์ที่ลอดใต้สะพานพระปิ่นเกล้าด้วย  ถนนแถวนี้ผมผ่านมานับไม่ถ้วน ยังไม่เคยทราบว่ามีคูน้ำลอดใต้ แบบตลอดแนวเลย  ผมเองก็เชื่อว่ายังมีหลายคนไม่ทราบ ว่าถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ที่ทอดลงมาจากสะพานพระปิ่นเกล้า นั้นเป็นถนนคร่อมคลองอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 18:37:53

ความคิดเห็นที่ 35 เพื่อความเข้าใจ ผมขอนำภาพเก่าๆ ของคุณ guitarquiz มาให้ชมกันนะครับ (ที่มาลิ้งค์:http://forum.thaidvd.net/lofiversion/index.php/t116067-2400.html) บังเอิญไม่ทราบปี พ.ศ. ครับ   พยายามหาภาพคลองคูเมืองเดิมตรงจุดออกแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือ ที่สะพานพระปิ่นเกล้าสร้างทับไว้ ไม่เจอ  ถ้าเพื่อนคนไหนมี ช่วงส่งมาแจมด้วย จะขอบคุณมากครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:04:17

ความคิดเห็นที่ 36 เพื่อให้แน่ใจ ผมจึงเดินข้ามถนนพระอาทิตย์ที่ลอดใต้ สะพานพระปิ่นเกล้า ไปยังด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วหันกลับมาดู คลองคูเมืองเดิม ที่ลอดใต้ถนนเส้นนี้อีกที จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:21:44

ความคิดเห็นที่ 37 หันไปดู ด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ก็พบกับประตูน้ำแผ่นเบ้อเริ่มกั้นคลองนี้อยู่   นับว่าผมได้มาพบกับความลับ บางอย่างโดยบังเอิญ ครับ. จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:31:04

ความคิดเห็นที่ 38 ผมขอจบตอนแรก ไว้เพียงแค่นี้ครับ กับภาพถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ที่คร่อมคลองคูเมืองเดิม ตลอดแนวฝั่งพระนคร ที่มาบรรจบกับ ถนนราชดำเนินกลางครับ คอยติดตาม ตอนสอง ผมจะพาไปรู้จัก "สะพานร้องไห้" ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:40:32

ความคิดเห็นที่ 39 แหม..จะจบตอนแล้ว ดันลืมได้ ภาพแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดคลองคูเมืองครับ  แผ่นป้ายนี้อยู่ตรงถนนพระอาทิตย์ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า พอดีเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 20:14:25

ความคิดเห็นที่ 40 ใช่แล้วครับ คลองคูเมืองเดิมถูกซ่อนอยู่ใต้ถนนนั่นเอง แล้วสะพานที่คุณ จขกท ไปยืนอยู่ตรงถนนพระอาทิตย์ บริเวณใกล้ ๆ ประตูธรรมศาสตร์ฝั่งท่าพระอาทิตย์ก็เคยเป็นสะพานสำคัญในชุด "เฉลิม" มาก่อน ผมจำไม่ได้ว่าเป็นเฉลิมอะไร ตอนนี้ที่ยังเหลือก็มีแค่เฉลิมเผ่า ๕๒ เฉลิมพันธ์ ๕๓ เฉลิมโลก ๕๕ และเฉลิมหล้า ๕๖ เท่านั้น อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือปากน้ำคลองคูเมืองชั้นนอก (คลองผดุงกรุงเกษม) ฝั่งใต้ ตอนนี้ก็ถูกซ่อนอยู่ใต้โรงแรมดังแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลองไปแกะรอยดูสิครับว่าคลองนี้หายไปไหน ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ นะครับ จะคอยติดตามตอนต่อไป จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 01:50:50

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีครับ คุณCherokee1 : ขอบคุณที่เข้ามาเพิ่มเติม ความรู้ครับ เกี่ยวกับ สะพาน ชุดเฉลิม ผมลองค้นหาดู พบว่าเป็นสะพานที่ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5  ได้ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างให้ แล้วตั้งชื่อนำว่า เฉลิม... ลงท้ายด้วยตัวเลข ปีพระชนมายุ มีจำนวน 17 สะพานคือ สะพานเฉลิมศรี ๔๒ สะพานข้ามคลองบางขุนพรหมที่ถนนสามเสน สะพานเฉลิมศักดิ์ ๔๓ สะพานข้ามคลองอรชร คลองข้างถนนอังรี ดูนังต์ สะพานเฉลิมเกียรติ ๔๔ สะพานข้ามคลองหัวลำโพง สะพานเฉลิมยศ ๔๕ สะพานข้ามคลองวัดพระพิเรนทร์ สะพานเฉลิมเวียง ๔๖ สะพานข้ามคลองตรอกเต๊า สะพานเฉลิมวัง ๔๗ สะพานข้ามคลองวัดราชบพิธ สะพานเฉลิมกรุง ๔๘ สะพานข้ามคลองจักรวรรดิที่ ถนนเจริญกรุง สะพานเฉลิมเมือง ๔๙ สะพานข้ามคลองสาธร สะพานเฉลิมภพ ๕๐ สะพานข้ามคลองหัวลำโพงที่ถนนสุรวงศ์ สะพานเฉลิมพงษ์ ๕๑ สะพานข้ามคลองหลังวัดราชบพิธ ที่ถนนเฟื่องนคร สะพานเฉลิมเผ่า ๕๒ สะพานข้ามคลองอรชรข้างวัดปทุมวนาราม สะพานเฉลิมพันธ์ ๕๓ สะพานข้ามคลองวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตร สะพานเฉลิมภาคย์ ๕๔ สะพานข้ามคลองสีลม ที่ถนนเจริญกรุง สะพานเฉลิมโลก ๕๕ สะพานข้ามคลองบางกะปิหรือคลองแสนแสบที่ถนนราชดำริห์เชื่อมถนนประแจจีน สะพานเฉลิมหล้า ๕๖ สะพานข้ามคลองบางกะปิหรือคลองแสนแสบที่ถนนพญาไท สะพานเฉลิมเดช ๕๗ สะพานข้ามคลองหัวลำโพงปลายถนนสี่พระยา สะพานเฉลิมสวรรค์ ๕๘ สะพานข้ามคลองคูเมืองที่ถนนพระอาทิตย์ ซึ่งต่อมาได้มีการถมคลอง และเปลี่ยนรูปร่างสะพานไป เช่น สะพาน เฉลิมหล้า๕๖ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สะพานหัวช้าง กับ สะพาน เฉลิมสวรรค์ ๕๘ เป็นถนนใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ดังที่ คุณCherokee1 บอกครับ (ข้อมูลที่มา: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sanamluang&group=3&month=12-2007&date=11) ที่มาภาพ จากเว็บเรือนไทยวิชาการดอทคอม : http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3181.0 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 53 13:21:43 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 53 11:32:31 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:25:30

ความคิดเห็นที่ 42 อ้อ...  สำหรับปากคลองผดุงกรุงเกษม ด้านใต้ นั้น ผมลองเข้าไปดูใน GPS Pocket Map พบว่ามีโรงแรมที่เข้าข่ายคือ รร.รอยัล ออคิด เชอราตัล  ปลายถนนสี่พระยา ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวนั้นจะลองแวะไปถ่ายภาพดูครับ จากภาพข้างล่าง เป็นภาพถ่ายดาวเทียม บริเวณปากคลองผดุงกรุงเกษมด้านใต้ ที่โดนสร้างอาคารคร่อมทับไว้  มีท่าเรือสี่พระยาอยู่ใกล้ๆ ด้วย ภาพมาจากเว็บ :http://map.forthai.com/map/directory/?place=83 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:51:40

ความคิดเห็นที่ 43 ข้อมูลตาม ความคิดเห็นที่ 42 ถูกต้องนะคร้าบบบ ขอแก้ไขข้อมูลเรื่องสะพานเฉลิมพันธ์ ๕๓ หน่อย จริง ๆ เป็นสะพานข้ามคลองสาทรตรงถนนเจริญกรุง สมัยก่อนเป็นสะพานโค้ง ตอนที่ก่อสร้างสะพานตากสินไำด้รื้อออกไปแล้วปรับเป็นสะพานราบเช่นในปัจจุบัน โครงรั้วเหล็กพร้อมชื่อสะพานยังคงมีอยู่ให้เห็นครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 15:54:38

ความคิดเห็นที่ 44 มีตอนสองแล้วครับ  "พาไปดูสะพานร้องไห้ ร้องไห้ที่ไหน" ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9898753/E9898753.html สนใจก็ติดตามไปได้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 16:13:19

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ คุณCherokee1 อีกครั้ง ที่เข้ามาแก้ไขข้อมูลให้  ใช่ครับ สะพานเฉลิมพันธ์ ๕๓ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของถนนเจริญกรุง ที่ข้ามคลองสาทร อยู่ใต้สะพานตากสินจริงๆ  ส่วนคลองวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตรนั้น ค้นหาไม่เจอ คงถูกถมไปนานแล้วครับ ภาพข้างล่างคือสะพานเฉลิมพันธ์ ๕๓ เดิมก่อนจะถูกรื้อทิ้งไป แล้วสร้างใหม่ราบเรียบไปกันถนน เหมือนสะพานเฉลิมสวรรค์ ๕๘ ครับ (ที่มาของภาพจาก เว็บไซต์ : viememory.com ครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 17:04:36

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณความรู้ดีดี ที่มาแบ่งปันกันค่ะ จากคุณ : OF^_^ (Official OF love) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 22:30:15

ความคิดเห็นที่ 47 รีวิวนี้อ่านแล้ว ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลยครับ   ยอมรับเลย ว่าหลาย  ๆอย่างที่พูดถึงในรีวิวนี้ผมยังไม่รู้เลยครับ ^ ^ จากคุณ : สุดท้ายตรงไหน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 17:36:51

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับ  คุณOF^_^ (Official OF love) และคุณสุดท้ายตรงไหน : ของดีของแปลกแถวๆบ้านเรา(กรุงเทพฯ) ก็มีเยอะ  บางเรื่องผมเองก็เพิ่งทราบเมื่อมาทำรีวิวครั้งนี้เช่นกัน  งานนี้เรียกว่า  Win-Win ได้ความรู้ทั้งตัวผมและเพื่อนๆ ครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนสำหรับ Gift นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 00:55:29