ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อนๆที่เคยไปสวนรถไฟ อาจแปลกใจว่า ทำไมผมต้องไปเดินที่สวนรถไฟ เพราะสวนแห่งนี้ เขานิยมไปขี่จักรยานกัน   ก็อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกนะครับว่า ไปโดยบังเอิญ เพื่อหาที่จอดรถ และเข้าห้องน้ำ (ก็เพราะหาที่จอดรถแถวๆ ตลาดนัดจตุจักรไม่ได้ ก็เลยเข้าห้องน้ำไม่ได้) แต่เนื่องจากไปคนเดียวและไม่เคยไป กว่าจะหาห้องน้ำได้ ก็ต้องเดินกันหลายกิโลเมตร นับว่ามาราธอนดีเหมือนกัน แต่เอาล่ะ  ในเมื่อต้องการมาเล่าเชิงพาเที่ยว ให้เพื่อนๆ ในห้องนี้ก็เลยต้องขอลากแผนที่ เดินทาง ไปยังสวนรถไฟ นี้ ตามระเบียบก่อนนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 12:01:33

ความคิดเห็นที่ 2 แม้ว่าจะมีแผนที่ทั่วไป ที่บอกถนนแถวนั้นอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักจะดูยาก มีรายละเอียดอื่นๆ เยอะ ผมเลยลากมาให้ดูกัน สำหรับคนที่ไม่เคยไป บอกได้เลยว่า หาทางเข้ายากไม่น้อย  ต้องมีการวนรถกลับไปมา 2 รอบขึ้นไปแน่นอน  เพราะไม่มีป้ายบอกทางเข้าใหญ่ๆ สมกับความยิ่งใหญ่ ของสวนแห่งนี้เลย  (แต่ถ้าเคยไปมาแล้ว อาจรู้สึกขำ ที่ผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนกัน) จากแผนที่ข้างบนนี้ เพื่อนๆ จะได้ทราบกันว่า ถนนรอบๆ จตุจักรนั้น ที่ส่วนใหญ่จะมีชื่อนำว่า กำแพงเพชร ลำดับต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร  (ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่า กำแพชเพชร 5 ไม่ปรากฏบนแผนที่นั้น แต่อันที่จริงมีครับ คือเป็นถนนคู่ขนานกับทางรถไฟ(สร้างใหม่ และคู่ขนานกับถนนเทอดดำริ ที่เริ่มจาก บ. ปูนซิเมนต์ไทย ผ่าน สถานีรถไฟสามเสน) ไปสิ้นสุดที่ ทางรถไฟสามแยกสวนจิตรลดา โน้นเลย(เชื่อว่าหลายท่านคงเคยใช้ถนนเส้นนี้ เป็นบางช่วง เพราะส่วนใหญ่จะกั้นเมื่อตัดผ่านถนนข้ามทางรถไฟ แต่ไม่ทราบชื่อถนนเส้นนี้กัน) ทางเข้าง่ายๆ ผมขอแสดงด้วยลูกศรสีน้ำเงิน จาก ด้านหน้าหมอชิต 1 (ถ.พหลโยธิน)  เมื่อผ่านสี่แยกตัดกับ ถ.วิภาวดีรังสิต ก็ให้ชิดซ้าย ใช้ถนนคู่ขนาน  เมื่อเห็นรั้วของสวนจตุจักร ก็ให้ชิดซ้ายเข้าไปเลย (ตรงนี้ไม่มีป้ายบอก ทางไปสวนรถไฟใดๆ) จะไปเจอ ถ.กำแพชเพชร 3 ที่รถตู้ต่างจังหวัดเข้าไปจอดรถคนตรงด้านหลังสวนจตุจักร แล้วเลี้ยวขวา ผ่านหน้า การบินพลเรือน เจอทางแยกอีก ก็เลี้ยวซ้าย แล้วตรงเข้าไปเลย ไม่ต้องเลี้ยวขวาเมื่อเจอทางแยกอีก  แม้จะมองไม่เห็นป้ายทางเข้าสวนรถไฟเลยก็ตาม ภาพบน : แสดงให้เห็นถนนเล็กๆ ที่ตรงเข้าไปในสวนรถไฟ โดยอยู่ระหว่างสวนรถไฟ(ซ้ายมือ) กับ อาคารปตท.สำนักงานใหญ่(ขวามือ) ภาพล่าง : เมื่อเข้าไปสักพักก็จะเห็นทางแยกขวามือ  ตรงนี้อย่างลังเล ให้ตรงเข้าไปเลย แม้จะมองไม่เห็นป้ายชื่อสวนรถไฟ มีแต่ ป้ายโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ก็เข้าไปเลยครับ  ป้ายบอกทางเข้าสีเขียว มีอันนิดเดียวด้านซ้ายมือ ถ้าไม่สังเกตุให้ดีก็มองไม่เห็นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 12:28:23

ความคิดเห็นที่ 3 เคยไปโดยบังเอิญเหมือนกันค่ะ แต่พาลูกชายไปด้วย ไปปั่นจักรยานค่ะ แต่ก็ดีใจค่ะ ที่เห็นปอดของคนกรุงเทพ มีอะไรเยอะจริง ๆ มีที่ศึกษาดุวงจรชีวิตของผีเสื้อด้วยค่ะ เด็กน้อยตื่นเต้นใหญ่เลยค่ะ ^^ จากคุณ : นางฟ้าแห่งกาลเวลา เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 12:40:18

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบแผนที่ ดูง่ายจัง  เขียนเองเหรอครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 12:42:28

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพบน : ตอนนี้เข้ามาใกล้ประตูทางเข้าแล้วครับ จะสังเกตุเห็นอาคารใหญ่ด้านซ้ายมือ และป้ายตัวอักษรใหญ่  BiA ที่เป็นชื่อ สวนโมกข์ กรุงเทพฯ  มีชื่อเป็นทางการว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินปัญโญ  ที่เปิดเมื่อวันที่ 1 สค. 2553 นี้เอง  สำหรับป้ายบอกทางเข้าสวนรถไฟ นั้นก็เล็กๆ อย่างที่เห็น (แถมยังถูกบังด้วยเสาไฟฟ้าด้วย)  ซึ่งตรงทางเข้าที่แสนจะเล็กอยู่แล้วก็ดันมีรถยนต์คันใหญ่มาจอดอยู่ ตรงประตูทางเข้าพอดี ซึ่งโดนล๊อคล้อไปแล้วตามระเบียบครับ เพราะกีดขวางการจราจร ทำให้รถที่เข้าออกต้องค่อยๆ สลับกันเข้าออกทีละด้าน ภาพล่าง : เมื่อผ่านรั้ว โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟเข้าไปแล้ว ก็เจอทางสามแยก ที่บังคับให้เลี้ยวซ้ายอย่างเดียวเข้าไปในสวนรถไฟ ครับ  มีป้อมยามเก็บเงินเฉพาะค่าจอดรถยนต์เพียง 10 บาทต่อคันเท่านั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 12:48:23

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยวยังทันนะครับ ^^ จากคุณ : Wini2524 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:02:24

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับ คุณนางฟ้าแห่งกาลเวลา : เช่นกันเลยนะครับ ที่ผมไปสวนรถไฟโดยบังเอิญทั้งสองครั้ง  เลยไม่ได้ศึกษาอะไรล่วงหน้าก่อน ง่ายๆ ก็คือหาที่เช่ารถจักรยานไม่ได้ หาห้องน้ำแถวที่จอดรถไม่ได้...เฮ้อ.. สวัสดีครับ คุณtiger's nest : ใช่ครับ ทุกกระทู้รีวิวของผมต้องลากแผนที่ด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอบ (ลากให้ตรงยากมากๆ) เพื่อความเข้าใจของผมด้วย ในเรื่องความสัมพันธ์ของถนนแต่ละสาย  ดูแล้วเคลียร์ดี วันหลังไปก็จะได้เข้าใจไม่งง ครับ (ยอมรับว่า ถนนแถวนั้น วกวนอย่างมาก ขนาดตอนที่ออกจากสวนรถไฟ ไป ตลาดนัดจตุจักร ผมยังวนรถผิดพลาดอ้อมไปไกล และรถติดเสียเวลามากจริงๆ ครับ) ก่อนจะผ่านไปจากตรงนี้ หลายท่านอาจสงสัยว่า ตัวอักษรย่อ BiA นั้นย่อมาจากอะไร ผมพยายามค้นหาพักหนึ่ง (แทบไม่น่าเชื่อว่า หาได้ยากจริงๆ) คำตอบที่ได้ก็จากเว็บ  www.bia.or.th นี่แหละคือ  หอจดหมายเหตุพุทธทาส ซึ่งในภาษาอังกฤษก็คือ Buddhadasa Indapanno Archives  พุทธทาส อินทปัญโญ จดหมายเหตุ (ที่ คาดไม่ถึง ก็เพราะ คำว่าพุทธ เรามักจะคิดว่าน่าจะเป็นอักษรตัว P นำหน้า และตัวอักษร I ก็ไปนึกเรื่องถึงคำสากลอื่นๆเช่น International เป็นต้น  แถมตัวสุดท้าย A ก็ไปนึกถึงองค์กรรัฐวิสาหกิจ Authority ไปเสียอีก ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:06:41

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปด้วยอยากไปอยู่เหมือนกันครับ จากคุณ : คนข้างหนุน เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:12:14

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับ คุณWini2524 : เชิญติดตามได้เลยครับ  ผมกำลังเพิ่งเริ่มเข้าสวนเองครับ เนื่องจากสภาพแสงในวันนั้นครึ้มฟ้าครึ้มฝน แล้วเป็นการถ่ายภาพจากรถขณะวิ่ง เลยทำให้มัวๆ เบลอๆ บ้างนะครับ  แต่ก็สื่อภาพที่เห็นจริงขณะเดินทางได้ดีครับ จากภาพบนไล่ลงล่างเลย   ภาพบนสุด :สวนรถไฟจะอยู่ซ้ายมือ ภาพที่สอง :มีขบวนรถจักรไอน้ำเก่าที่เลิกใช้แล้วจอดอยู่ด้วย (เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของ ชื่อสวนรถไฟ  เพราะเมื่อเข้าไปข้างใน จะไม่ปรากฏ อะไรที่เกี่ยวข้องกับรถไฟเลย) ภาพที่สาม :สุดถนนก็จะเห็นป้ายห้ามตรง ซึ่งอยู่ตรงหน้าทางเข้าสวนรถไฟพอดี  ให้เลี้ยวขวา เข้าไปยังลานจอดรถ ที่ปกติจะเต็มตลอดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ ภาพล่างสุด :บริเวณนี้ก็มีเต้นท์ร้านค้า จำหน่ายอาหาร ขนมกินเล่น โดยห้ามนำอาหารเข้าไปในสวนเด็ดขาด  (ถึงว่าซีครับ ตอนเดินเข้าไปนี่ ทั้งหิวและกระหาย ก็หาอะไรทานไม่ได้เลย  แม้กระทั่งที่เช่าจักรยานก็หาไม่เจอ เห็นแต่คนถีบรถจักรยานกันมากมาย แต่ไม่รู้ว่าเขาไปเช่าที่ไหนกัน) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:24:51

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ คุณคนข้างหนุน : ยินดีต้อนรับครับ เชิญติดตามมาได้เลย เนื่องจากก่อนเข้ามาเที่ยว ผมได้ทราบข้อมูลมาก่อนเกี่ยวกับสวนรถไฟ เรื่องการถ่ายภาพ ซึ่งเคยมีข่าวครึกโครม ห้ามถ่ายภาพก่อนได้รับอนุญาต ก็เลยทำให้รู้สึกแหยงๆ กลัวว่าทางจนท.จะเข้ามาห้าม  แต่ข้อสรุปนั้น คือ ห้ามถ่ายภาพเพื่อการค้า  โดยจะห้ามอุปกรณ์เสริมต่างๆในการถ่ายภาพ  จะต้องขออนุญาตและชำระค่าธรรมเนียมในอัตราสูง (มีป้ายบอกด้วย แต่ผมไม่ได้ถ่ายมาให้ดู คือ ประมาณหลายพันบาท)  แต่หลังจากที่ได้เห็นคนอื่นเขาถ่ายกันเลยค่อยๆ กล้าขึ้นมาบ้างครับ ภาพข้างล่างนี้คือทางเข้าสวนครับ มีป้ายชื่อทางการด้วย "สวนวชิรเบญจทัศ" ไม่มีการวงเล็บใดๆ ว่าเป็นสวนรถไฟ เลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 53 15:43:43 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:35:17

ความคิดเห็นที่ 11 บรรยากาศน่าไปนั่งพักผ่อนนะครับ จากคุณ : Basicmans เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 15:07:29

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ คุณBasicmans : ใช่ครับ ขอบอกตรงๆ ว่า น่าไปอย่างมาก แถมฟรีทุกอย่าง ยกเว้นค่าเช่าจักรยาน เช่าเรือใบแล่นในทะเลสาบ ค่าอาหารกิน และห้องน้ำตรงที่จอดรถเท่านั้น  ผมคิดว่า ถ้าหากคนกรุงเทพฯ ทุกคนทราบ ผมว่าวันเสาร์-อาทิตย์ คงไม่มีที่ว่างจะเดินแน่นอน  มีของดีอยู่ใกล้ตัวแท้ๆ มาต่อกันครับ (แวะไปทานข้าวและสำรวจคลองหลอดในกรุงเทพฯมา) แต่อย่างไรก็ดี ยังมีบอร์ดข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของสวนแห่งนี้ ที่ยังคงใช้ชื่อสวนรถไฟอยู่  ผมลองหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ สวนรถไฟนี้ แต่เดิมเป็นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ถูกสร้างเป็นสนามกอล์ฟ เมื่อปี พ.ศ.2508 (ในอดีต การเล่นกอล์ฟของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่นิยมกันมาก) จนต่อมาในพ.ศ.2534 รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ได้มีมติ ครม. ให้สร้างเป็นสวนสาธารณะ แทน ซึ่งให้กระทรวงคมนาคมรับมอบจากการรถไฟฯ และจ่ายเงินค่าทดแทนจำนวน 555 ล้านบาทให้กับการรถไฟด้วย ในพื้นที่  2 แห่งคือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ขนาด 140 ไร่  กับ สวนรถไฟแห่งนี้ ขนาด 375 ไร่ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2541 พร้อมทั้งเริ่มเข้าปรับปรุงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2542 ตั้งแต่นั้นมา จนต่อมา วันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ทางกทม.ก็ได้ขอพระราชทานชื่อสวนรถไฟใหม่ ได้ชื่อ "สวนวชิรเบญจทัศ" ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2545 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 15:43:10

ความคิดเห็นที่ 13 ตรงนี้ก็มีต้นไม้ดัดชื่อสวน วชิรเบญจทัศ ด้วยนะครับ (ทีแรกมองผ่านๆ ยังคิดว่าเป็น คำว่า สวนรถไฟเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 15:46:57

ความคิดเห็นที่ 14 แวะมาชมครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 15:49:12

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพซ้าย : เมื่อผ่านประตูสวนเข้าไปแล้ว (ประตูด้านหน้า) ก็จะเจอทางสี่แยก ตรงไป เลี้ยวซ้าย กับ เลี้ยวขวา  ตอนนั้นผมกำลังปวดเบาอยู่ ก็เลยเข้าไปสอบถาม คนแถวนั้นดูว่าห้องน้ำอยู่ไหนครับ เขาก็บอกว่าไปทางขวา แล้วจะเจอ  ซึ่งผมก็ถ่ายภาพป้ายทางแยกไว้ให้ดูด้วย(มาถ่ายตอนขาออก ตอนเข้าไม่กล้าถ่าย เพราะเห็นมีจนท.ยืนอยู่แถวนั้น) ภาพขวา : ใกล้ๆ กันก็มีแผนที่สวยๆให้ดูด้วย ซึ่งทำได้ดี น่าเข้าไปเที่ยว แต่เป็นแผนที่ ที่ไม่ได้หันทิศให้ถูกต้อง คือทิศเหนือปกติจะอยู่ด้านบน แต่นี่ ดันหันไปทางซ้ายเฉียงๆ ลงข้างล่างเสียนี่  เลยทำให้นึกไม่ออกว่า ด้านไหนของสวนจะไปติดกับอะไร งงไปหมดเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 15:59:56

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพสื่อความหมาย หุหุ ขอบคุณค่ะที่มารีวิวให้ชม จากคุณ : JijaNoinair เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:01:55

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ คุณกัปตันลูกชุบ : เชิญติดตามได้เลยครับ ยังเพิ่งจะก้าวเข้ามาในสวนเอง ผมก็เลยขอนำแผนที่ในภาพขวา ของคห.15 มาปรับแต่งหน่อย โดยหมุนให้ทิศเหนืออยู่ข้างบนของภาพ แล้วเพิ่มรายละเอียดนอกสวนบ้าง โดยเฉพาะ หอเกียรติภูมิรถไฟ ที่อยู่ด้านนอกบริเวณสวนรถไฟ (ตอนไป พยายามหาก็ไม่เจอ ถามใครก็ไม่รู้ ตอนจะกลับได้ถามแม่ค้า เขาพอจะบอกได้ว่า อยู่ที่สวนสาธารณะจตุจักรข้างนอก) ซึ่งในแผนที่นี้ เพื่อนๆ จะได้เห็นเส้นทางเดินรถ ลูกศรสีเหลือง ตั้งแต่เข้ามายังลานจอดรถของสวน และออกไปจากสวน   กับ จุดอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น จุดเช่ารถจักรยาน ห้องน้ำใกล้ลานจอดรถ และช่องทางไปยัง หอเกียรติภูมิรถไฟ (เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทตย์ เวลา 07:00 - 12:00) ซึ่งงานนี้ผมเดินเท้าเต็มๆ ผ่านสระว่ายน้ำ อ้อมไปทางสุขาใหญ่ วกกลับเข้ามายัง เมืองจราจรจำลอง แล้วกลับออกมา แค่นี้ผมจับระยะทางก็ประมาณ 5 กิโลเมตรแล้ว เมื่อยขาน่าดูเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 53 20:40:50 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:09:04

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ คุณJijaNoinair : ก็เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพ หรือเดินเรื่องโดยภาพ นะครับ โดยมีคำอธิบาย(ยุ่งๆ กับเนื้อหาสาระ) แกมอยู่ด้วย แต่ก็เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางมาให้ชมกัน คราวหน้าเมื่อจะได้ไปอีกก็จะได้ไม่งงครับ งานนี้ผมใช้เวลาทั้งหมด 1 ชม. ครึ่ง บอกตรงๆว่า ได้ไปแค่ 1 ใน 3 ของสวนรถไฟเท่านั้น ก็ยังคุ้มค่ากับเวลาและเมื่อยขา อย่างมากครับ  ถ้าหากได้เช่ารถจักรยาน และมีเวลาสัก 3 ชั่วโมง ก็น่าจะไปได้ครบ เส้นทางเดินเท้าของผม ก็ดังลูกศรสีชมพูนะครับ แค่นี้ก็ประมาณ 5 กิโลเมตรแล้ว.....  ถ้าให้ครบผมว่าสิบกิโลกว่าๆ แน่นอน  แถมต้องต้องการเข้าถนนให้ครบอีก ก็ไม่ต้องพูดถึง  แต่การเดินนั้นดีกว่ารถจักรยานตรงที่ ไปกลับได้ ไม่ OneWay เหมือนจักรยาน  ซึ่งนั่นหมายถึงว่าถ้าต้องการกลับมาที่เดิม รถจักรยานก็ต้องไปถีบวนอ้อมกลับมาอีก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:24:15

ความคิดเห็นที่ 19 นี่เป็นภาพแรก ที่ช๊อค ความรู้สึกคนที่ไม่เคยมา และไม่รู้ว่าในกรุงเทพฯก็มีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย  ลำพังสวนจตุจักรนี่ผมเชื่อว่า เกือบทุกคนต้องไปเคยผ่านไปแถวนั้น เพราะท่ารถขนส่งหมอชิตอยู่ที่นั้น มีตลาดนัดอยู่ที่นั่น แม้กระทั่งคนที่เคยไปสวนสาธารณะจตุจักรเอง ก็อาจไม่เคยแวะไปสวนรถไฟ เพราะทางเข้าอยู่คนละด้านกันเลย ภาพนี้ เหมือน บึงบรเพ็ด เลย  เสียวจระเข้จะโผล่ขึ้นมางาบจัง...หึหึ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:27:43

ความคิดเห็นที่ 20 นี่เป็นถนนด้านในสวนรถไฟนะครับ จะมีช่องเล็กๆ สำหรับจักรยานให้วิ่ง แบบ OneWay (เดินรถทางเดียว) ด้วย  ส่วนคนเดินจะกว้างกว่า เพราะมีให้สำหรับคนที่วิ่งออกกำลังเป็นกลุ่มๆ ด้วย ต้องขอโทษอีกครั้งที่ภาพอาจไม่คมชัดนัก เพราะท้องฟ้าตอนนั้นครึ้มฝนอยู่ แถมใกล้ 5 โมงเย็นแล้วด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:33:35

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพซ้าย : มองไปฝั่งตรงข้ามกับบึงน้ำ ที่เนินหญ้าเหมือนมีการถ่ายทำรายการอะไรอยู่  สวนแห่งนี้ เขาไม่ห้ามเดินเข้าไปในสนามหญ้า (ลัดสนาม) บางคนคงกลัวรถจักรยานหาย เลยเข็นจักรยานเข้าไปเลยก็มี ซึ่งอาจทำให้หญ้าตายได้เหมือนกัน ภาพกลาง : ภาพริมตลิ่งฝั่งนี้ ก็สวยไม่เบา คดโค้งไปตามถนน น่าเสียดายที่ผมถ่ายภาพได้ไม่ชัด เพราะแสงน้อย บางทีก็ฝนพรำบางๆ ด้วยซ้ำไป  แต่อย่างที่พูดตอนต้น นั่นแหละครับ คือผมต้องการหาห้องน้ำเท่านั้น นับว่าไกลจังเลย ภาพขวา : ตรงนี้มีป้ายห้าม "ตกปลา" กับ "ทิ้งขยะ" ด้วย  สวนสวยๆ แบบนี้ใครมาทิ้งขยะก็แย่แล้วละครับ  เพราะเขามีถังขยะริมถนนให้เป็นระยะๆ ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:46:58

ความคิดเห็นที่ 22 ♥ จะไปหลายทีแล้วครับ ไม่ได้ไปสักทีเลย ล่าสุดพอจะไปฝนดันตกอีก ขอบคุณที่นำเรื่องราว ข้อมูลดี ๆ มาบอกกันครับ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:47:44

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับ คุณP.S. i love you : ลองไปเถิดครับแล้วจะบอกว่า "รู้งี้มานานแล้ว" ไม่ต้องไปถึงต่างจังหวัด ก็ได้บรรยากาศดีๆ กลางกรุงเหมือนกัน  แต่ก่อนอื่น ลองตามผมมาก่อนก็ได้ อย่างน้อยก็รู้เส้นทางดีกว่าไปครั้งแรก  ซึ่งจะทำให้เสียเวลา และเสียโอกาสไป ลองภาพกว้างๆ บ้าง นี่ถ้าไม่มีตึกใหญ่ๆ (ธ.ทหารไทย กับ ตึกทานตะวัน) อยู่คงนึกว่าเป็นที่ต่างจังหวัดไปแล้ว  มุมนี้ ถ้าอยู่ตรงนั้น รับรองว่างงทิศ ให้ลองดูจากแผนที่ข้างบน (คห.17) จะพบว่า ผมกำลังมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือด้านขวามือของรูปนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 53 17:06:26 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:53:24

ความคิดเห็นที่ 24 ตรงนี้จะมีศาลาริมน้ำ (ริมถนนด้วย) ทรงโบราณอยู่ด้วย มีชื่อว่า SAMARI น่าจะเป็นผู้อุปถัมถ์สร้างศาลาแห่งนี้กระมัง ใครทราบลองช่วยบอกมาด้วยนะครับ  อ่านยากจริงๆ คำนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:58:44

ความคิดเห็นที่ 25 ตรงนี้มีวิวเด็ด สวยๆ ให้ดูด้วย  จริงนะครับ ถ้าหากไม่มีตึกใหญ่อยู่ข้างหลัง รับรองว่า หลายคนต้องบอกว่าไม่ใช่ที่กรุงเทพฯ แน่นอน วิวนี้ดูมีมิติอย่างมาก แต่กล้องผมถ่ายทอดมาได้แค่นี้เอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 17:03:46

ความคิดเห็นที่ 26 มองไปทางซ้ายของรูปบน(คห.25) หน่อย แล้วซูมดู ก็จะเห็น ศาลากลางสนามทรงแปลกๆ (เหมือนเห็ดชนิดหนึ่ง) ที่ไม่เคยมีคนว่างเลย  (ผมยังอยากจะเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ ตอนขากลับ ยังเกรงใจคนที่นั่งอยู่ข้างในเลย หันมาดูผมกันเป็นแถว เลยต้องถอย..)  มีฉากหลังเป็นตึกใหญ่ ของ ปตท.สำนักงานใหญ่ ช่างขัดแย้งกันจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 17:11:40

ความคิดเห็นที่ 27 มีโอกาสจะต้องแวะเข้าไปบ้าง เพราะเป็นทางผ่าน ทำรูปภาพเก่งจังค่ะ จากคุณ : Flaminio เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 17:57:02

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพซ้าย : มองไปทางขวามือบ้าง  ตรงนี้มีทางแยกเข้าไปในป่าทึบด้วย ดูจากแผนที่ น่าจะเป็นทางตัน อยู่ระหว่างแอ่งน้ำทั้งสองติดสะพานด้านซ้ายของรูปคห.18 ภาพขวา : เลยไปหน่อยก็เป็นแอ่งน้ำยาวๆ ด้านขวามือ มองเห็นสุขาอยู่ลิบๆ ตรงโน้น นั่นแหละคือสุขาแห่งแรก ห่างจากทางเข้าประมาณกิโลเมตรนึง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:10:19

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับ คุณFlaminio : เชิญแวะเข้าไปได้เลย ขอบคุณที่ชมครับ ก็พยายามสื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้นแหละครับ ภาพซ้าย : ด้านซ้ายมือ ผมเจอประติกรรมแปลกๆ เข้าให้แล้ว  เป็นประติมากรรมตัวอักษรไทย ภาพขวา : แผ่นป้ายอธิบายรายละเอียดของ ประติมากรรมนี้ ใครชอบก็ไปยืนอ่านได้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:22:48

ความคิดเห็นที่ 30 ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นประติมากรรม โลหะสแตนเลส ผมไม่ได้แวะเข้าไปดู เพราะกำลังปวด..... อยู่กลัวเสียเวลา สุขายังอีกไกล....  แต่ดูจากรูปที่ถ่ายมานี้ จะเห็นว่า กรอบสี่เหลี่ยม ทั้ง 4 บาน นั้นมีช่องว่างตรงกลางขนาดไม่เท่ากัน เพราะเหตุใดก็ลองไปอ่านดูกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:27:17

ความคิดเห็นที่ 31 เดินผ่านสระว่ายน้ำ (แต่ไม่ได้ถ่ายมา) แล้วก็เจอกับกระท่อมสวยๆ สีน้ำตาล จัดเป็นห้องสมุดธรรมชาติ  สร้างโดย กลุ่ม www.youngmea.com ของ การไฟฟ้านครหลวงครับ  ผมไม่ได้แวะเข้าไปเช่นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:38:47

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบใจเจ้าตุ๊กตาสองตัวบนป้ายชื่อ น่ารักเข้ากับประติมากรรมของป้ายเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:41:39

ความคิดเห็นที่ 33 ถัดไปก็เป็นสนามเด็กเล่น และ บ้านหนังสือ ที่ดูยังโล่งๆ อยู่ ของบิ๊กซี สร้างให้  ตรงนี้ใช้เดินลัดหัวมุมถนนได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:43:30

ความคิดเห็นที่ 34 เดินผ่านสนามเด็กเล่นของบิ๊กซี ไปแล้ว ฝั่งตรงข้ามเป็นสนามหญ้า มีกอดอกไม้อยู่ตรงกลางโน้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 19:56:18

ความคิดเห็นที่ 35 หันกลับมามองสนามเด็กเล่น ที่อยู่ถัดมา มีเด็กๆ จอดจักรยานลงไปเล่นกันหลายคน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 19:58:40

ความคิดเห็นที่ 36 มองให้ดี ด้านหลังเครื่องเล่นสีสวยๆ นี้จะมี เครื่องเล่นทำด้วยไม้ขนาดใหญ่อยู่ด้วย  เป็นสะพานแขวนเล็กๆ  ที่แม้จะดูสภาพเก่าๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยศิลปะความงามแบบไม้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:01:56

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นแล้วก็อยากปีนขึ้นไปเล่น แต่ติดที่ผมเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมาะนัก และถ้าเกิดการชำรุดหักเสียหาย คงเป็นเรื่องน่าอายมากๆ  เลยขอเก็บภาพมาให้ชมความงามของสะพานแขวนจิ๋วนี้ก็แล้วกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:05:30

ความคิดเห็นที่ 38 ถัดไปอีก ตรงหัวโค้งถนน ก็มีที่นั่งโครงเหล็ก แซมด้วยประติมากรรมเด็กๆ ทำด้วยโลหะ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:10:37

ความคิดเห็นที่ 39 ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองเดินเข้าไปดูใกล้ๆ หน่อย ปกติผมไม่ค่อยให้ความสนใจกับรูปปั้นของคนนัก แต่สำหรับที่นี่ ทำให้รู้สึกว่ากำลังอยู่ที่ประเทศยุโรป จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:17:16

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพบน : เด็กคนนี้กำลังหลับเพลินอยู่เลยนะ  สังเกตุตัวอักษรบนขอนไม้ข้างล่างให้ดี  ทีแรกผมยังคิดว่าเป็นชื่อผู้อุปถัมภ์ หรือสร้างจุดนี้ แต่ไม่ใช่  กลายเป็น ป้ายของสนามกอล์ฟ หลุมที่ 6 PAR 4 ภาพล่าง : สภาพที่นั่งสวยๆ ตอนนี้ไม่มีพื้นไม้กระดานให้นั่งแล้ว  ถึงว่าซี ไม่เห็นมีใครมานั่งพักผ่อนตรงนี้เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:30:02

ความคิดเห็นที่ 41 ในที่สุด สิ่งที่รอคอยก็มาถึงแล้ว สุขาครับ อยู่ข้างหลังป้อมนี้เอง นับเป็นสุขาเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุด (ห่างจากทางเข้าประมาณ 1 กิโลเมตร) วันนี้ผมขอพักกระทู้ก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกัน ยังมีอะไรสวยๆ น่าสนใจอีกมากครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:38:10

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นที่รอลูกประจำค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่  ลูกต้องสอบ ร.ด.  ก็ต้องขับรถไปจอดที่สวนรถไฟ แล้วเช่าจักรยานขี่คนละคันกับคนใกล้ตัวร่วมเตียง  แถมพกเสื่อ หนังสือ น้ำเข้าไปด้วย ขี่วนรอบทั้งหมด 2 รอบ ก็ไปแวะพักหาที่ร่มแถวสนามกีฬา  ปูเสื่อนอนอ่านหนังสือสบายใจเฉิบ  ลมเย็นๆ ไปมาหลายปีแล้วค่ะ แต่ไม่เคยได้ถ่ายรูปเก็บรายละเอียดเหมือน จขกท.เลย  ขนาดเคยไปมาแล้ว เห็นรูปที่ จขกท.นำมาลงยังตื่นตาตื่นใจเลยค่ะ   ถ้าแวะไปสวนไหน  อย่าลืมถ่ายรูปมาให้ชมอีกนะคะ จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 20:49:40

ความคิดเห็นที่ 43 แผนที่น่ารัก ขอบคุณสำหรับรูปด้วยนะคะ ไม่ได้ไปเกือบครึ่งปีเห็นจะได้  ไม่ได้ไปหลายๆมุมแบบนี้ พรุ่งนี้จะเข้ามาดูรีวิวต่อด้วยคนค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 21:36:29

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีครับ คุณnice_piggyy : น่าอิจฉาคุณพี่ทั้งสองนะครับ ที่ได้มีสถานที่เฝ้ารอลูกแบบโรแมนติค และได้สุขภาพที่ดีแถมกลับไปด้วย  ก็เป็นธรรมดานะครับ สำหรับสถานที่บางแห่งในชีวิตประจำวัน ซึ่งบางคนเขาอาจเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเที่ยว เช่น ฝรั่งมาเที่ยวดูประตูเมือง รัตนโกสินทร์ แต่เราเดินทางผ่านทุกวัน จนชินตา ไม่เคยถ่ายรูป หรือแม้จะหยุดดูใกล้ๆ ด้วยซ้ำไปครับ ของใกล้ตัวมักดูไม่มีค่า ไม่เหมือนกับของไกลตัวที่หายากๆ  คงเหมือนกับ "คนใกล้ตัวร่วมเตียง" นั่นแหละครับ ต้องรักษาไว้ให้ดี สวัสดีครับ คุณสาวหน้าใส : ขอบคุณเช่นกันครับที่เข้ามาให้กำลังใจ  ผมขอออกตัวก่อนว่า ครั้งนี้ ไปได้น้อยจริงๆ ผมคงต้องหาเวลาไปอีกครั้งแล้วละครับ วันนี้มาต่อกันนะครับ  ตอนนี้ หลังจากผมได้เติมพลัง เอ๊ย...ปลดทุกข์ แล้วก็เดินตัวเบา ต่อไปเลย เพราะไหนๆ ก็เข้ามาลึกแล้ว แถมยังได้ตื่นตาตื่นใจกับ สิ่งที่ไม่เคยเห็น ก็ต้องขอเดินต่อกันละ ภาพข้างล่าง ผมเดินต่อมาอีกเล็กน้อยก็ถึง ทางแยก ริมรั้วสวนรถไฟ  ทางด้านขวาถูกปิดซ่อม  มีสะพานข้ามน้ำด้วย (คาดว่า คงห้ามเฉพาะรถจักรยาน เพราะเห็นมีคนเดินเข้าไปได้) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 12:04:43

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าดูตามแผนที่ ก็เป็นตำแหน่งวงกลมสีชมพู ด้านซ้ายของภาพนั่นแหละ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่า ตรงสามแยกนั้นอยู่ห่างจากทางด่วนลอยฟ้า แค่ร้อยกว่าเมตรเอง (วัดโดย GPS Pocket PC)  ผู้ออกแบบสวนเขาปลูกต้นไม้ปิดได้เกือบสนิทเลย (ถ้าหากตั้งใจหาช่องดู ก็จะเห็นทางด่วนครับ) และเลยออกไปจากทางด่วนอีก ร้อยกว่าเมตร ก็จะถึงสถานขนส่งหมอชิตสองเลย ต้นไม้นี่ช่างปกปิด ได้ทั้งภาพและเสียง ตลอดจนกลิ่นควันรถด้วยซ้ำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 12:40:28

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเลี้ยวซ้ายไปตามถนน โอ้โฮ วิวนี้ เหมือนกับในอุทยานแห่งชาติเลย  แทบไม่น่าเชื่อว่า ผมกำลังอยู่ในกรุงเทพฯ นะนี่ . ขณะที่ มีบางคนกำลังเผชิญรถติด  บางคนเดินเบียดเสียด บางคนต้องทนดมกลิ่นควันรถ และอากาศร้อน อยู่ ไม่ไกลจากที่นี่  ช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ ครับ  ไม่ต้องขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆ เลย ประหยัดสุดๆ แต่เชื่อว่า หลายคนคงไม่รู้ นะครับ (กลัวเหมือนกันว่า ถ้ารู้ แล้วแห่กันมาเต็ม สวน  คงลำบากกันแน่ๆ ฮิฮิ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 12:48:27

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนนี้ผมเดินผ่าน อาคารสุขาหลังใหญ่แล้ว  นับว่าอยู่ไกลจากทางเข้าเกือบสุดๆ เลย ชอบที่นี่อย่าง คือ ไม่เก็บค่าเข้า แต่ใจก็นึกว่า แล้วเขาเอางบที่ไหนมาบริหารจัดการ  ผมคิดว่าเดือนๆหนึ่งรวมทั้งหมดแล้วก็น่าจะหลายแสนบาทแน่นอนเลยครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 53 12:55:23 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 12:52:32

ความคิดเห็นที่ 48 เดินต่อไป  ผมก็ได้เจอกับต้นไม้ที่ผมชอบ ต้นฉำฉา หรือจามจุรี ทรงพัดคลี่  ใจยังเคยคิดอยากจะเอาไปปลูกที่บ้านเลย  วิวนี้ เรียกว่าลืม ป่าคอนกรีต ไปได้เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 12:58:20

ความคิดเห็นที่ 49 โอ้ว..ทำไม มันดูไกลสุดลูกหูลูกตาเลย แล้วผมจะเดินไหวไหมนี่ .  โอ๊ว..พอดี แฟนและเด็กๆ โทรมาจาก ตลาดนัดจตุจักรแล้ว  ถามว่าอยู่ที่ไหน พวกเขาช๊อปปิ้งกันเกือบจะพอแล้ว   ผมเพิ่งเดินเข้ามาในส่วนไกลสุด  เลยบอกว่าอีกประมาณ 1 ชั่วโมง  เพราะตัวเองยังบอกไม่ได้ว่าจะใช้เวลาอีกนานเท่าใด  แถมยังเริ่มจะหิวข้าวเล็กน้อยแล้ว ผมเข้ามานี่ ไม่ได้ถือน้ำ อะไรติดตัวมาเลย ในนี้ก็ไม่มีอะไรขายเสียด้วย รู้สึกว่าลุยไม่แพ้ไปเดินสำรวจสะพานรถไฟเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 13:02:23

ความคิดเห็นที่ 50 ต้นไม้ต้นนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบป่าอาฟริกา เลย  ตัวผมนี่แปลกอย่าง ไม่ค่อยชอบถ่ายภาพดอกไม้ กลับชอบถ่ายภาพวิวกว้างๆ กับสิ่งที่มนุษย์สร้างแปลกๆ มากกว่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 13:06:53

ความคิดเห็นที่ 51 เดินมาเจอสะพานเล็กๆ ข้ามคูน้ำด้านข้าง  ถ้ามีเวลาจะแวะเข้าไปข้ามดู  แต่...สะพานตัวล่าง นี้ห้ามข้าม เพราะไม่รับประกันความปลอดภัย.. แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 53 13:16:31 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 13:12:25

ความคิดเห็นที่ 52 หนทางข้างหน้ายังอีกไกล  เอ๊ะ..เจ้าต้นไม้นี้มาโผล่กลางถนนได้อย่างไร หรือว่า ถนนมาสร้างล้อมต้นไม้ต่างหาก  นี่ดีที่ไม่ใช่ถนนรถยนต์วิ่งนะครับ  จะว่าไปแล้วถนนเล็กๆในหมู่บ้านต่างจังหวัดก็เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 14:39:49

ความคิดเห็นที่ 53 มาเห็น ประติมากรรมเด็ก อดบันทึกภาพไม่ได้  ดูแล้วน่าจะมีความหมายถึงการ เอาเปรียบคู่ต่อสู้ในการเล่นชักคะเย่อนะครับ ที่ฝ่ายหนึ่งมีแอบช่วยอยู่ข้างหลัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 14:50:57

ความคิดเห็นที่ 54 เดินๆ อยู่ เหลือบเห็นอะไรแหลมๆ ใหญ่ อยู่ด้านซ้ายมือ โอ้โฮ ภูเขาทองจำลอง น่าสนใจจังเลย   กระทู้เริ่มอืดแล้วขอยกไปต่อในตอนสองนะครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9949246/E9949246.html จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 15:11:07

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อมูลเพียบบบบบ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 21:36:49

ความคิดเห็นที่ 56 น่าสนใจมาก ต้องพาหลานไปเที่ยว ขอบคุณรีวิวสวย ๆ นะคะ จากคุณ : pchamaip เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 07:36:52

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีครับ คุณโอ๊ต-ครับ-ผม และคุณpchamaip : ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 53 16:41:41