ใครจะเอาช้างก็ฉุดไม่อยู่ ดังเป็นพลุทะลุท้องฟ้าไปซะแร้ว...! สำหรับนาย เพชรทาย วงศ์คำเหลา หรือ "หม่ำ จ๊กมก" ตลกที่ทุกคนรู้จักดี แต่วันนี้เค้าก็ไม่ได้เป็นเพียงตลก ...เค้าเป็น ดาราใหญ่ ที่กำลังจะ โกอินเตอร์!! ยากที่ใครจะคาดได้ แม้ตัวเค้าเองก็ตามที เพราะในตอนนี้เค้ากำลังมีผลงานแสดงหนังฟอร์ม (ซุปเปอร์) ยักษ์ เรื่อง "ต้มยำกุ้ง" ผลงานสร้างโดย "เสี่ยเจียง" สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ บอส (ซุปเปอร์) ใหญ่ของค่าย "สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล" ร่วมกับ "บาแรมยู" ผู้กำกับฯ ก็คือ ปรัชญา ปิ่นแก้ว แล้วยังไม่พอ... ยังได้ พันนา ฤทธิไกร มาดูแลคิวบู๊ให้อีกต่างหาก

แน่นอน! พระเอกขาประจำที่จะมาร่วมแสดงกับ "หม่ำ" ในเรื่องนี้ก็เป็น "จา" พนม ยีรัมย์ นักแสดงหนุ่มที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก จากเรื่อง "องค์บาก" แต่วันนี้ "แม่แป้น" จะยังไม่พาไปคุยกับนาย "จา" ขออนุญาตลัดไปหา "เฮียหม่ำ" ที่น่าจะนำเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่ให้คุณๆ ได้ฟังกันก่อนจะดีกว่า

ได้ข่าวว่าในเรื่องนี้จะผิดแผกแตกต่างจากเรื่องที่ผ่านๆ มามากใช่มั้ย?
"ครับ..เรื่องนี้ก็เล่นเป็น "จ่ามาร์ค" (เป็นตำรวจไทยในอยู่ออสเตรเลีย) ต้องพูดภาษาอังกฤษเยอะมาก เวลาที่ฉายก็ต้องใช้ ซับไตเติ้ล กันเลยล่ะ ต้องฝึกภาษามากๆ แต่ก็ไม่ได้กดดันอะไรหรอก กลัวแค่ว่าเราจะพูดไม่ชัด ปากมันไปก่อนแบบผิดๆ ถูกๆ นี่ต้องไปเรียนภาษาตั้ง 3 - 4 เดือน (แล้วได้เอาภาษาอังกฤษที่เรียนไปพูดกับลูกสาวที่อยู่เมืองนอกบ้างหรือเปล่า?) ไม่พูดหรอก...เดี๋ยวลูกจะงง (หัวเราะ)"

แล้วมีปัญหากับการที่ต้องกลับมาเรียนภาษาอีกรอบบ้างมั้ย?
"โอ๊ย..นี่จริงๆ นะ ตอนเรียนมัธยมเนี่ย ผมอ่านออกเขียนได้นะ แต่พูดสำเนียงให้ถูกไม่ได้เท่านั้นแหละ อย่างที่เรียนตอนนี้ก็หัดออกเสียงให้มันชัดๆ อย่างตัว s,t,k มันต้องออกเสียงลงท้ายให้ชัดๆ นึกถึงแล้วยังเสียดายว่าตอนเด็กๆ ทำไม่เราไม่เรียน ไม่งั้นป่านนี้ก็คงรู้เรื่องกว่านี้ เพราะเราก็ชอบอยู่แล้วด้วย"

อย่างนี้คงต้องมีครูคอยประกบคู่สอนภาษาส่วนตัวเลยหรือเปล่า เพราะต้องพูดอังกฤษตลอดแบบนี้?
"ก็ได้ เดวิด อัศวนนท์ (หลานชายของ อัมรา อัศวนนท์) ที่เล่นเป็น "ริค" ตำรวจคู่หูผมนี่แหละที่คอยเป็นครูสอนให้ (ชี้ไปข้างหลัง เดวิดมาแอบฟังอยู่พอดี)

กับเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" นี่คาดหวังเอาไว้มากแค่ไหน เพราะต้องมีการเอาไปเปรียบเทียบจากเรื่อง "องค์บาก" แน่นอน?
"เรื่องนี้เหรอ?... ไม่คาดหวังหรอก มันได้แน่ๆ อยู่แล้ว! เห็นหน้าหนังก็รู้แล้วว่าต้องดีกว่า "องค์บาก" แน่ๆ"

โอ้โห.. เชื่อมั่นขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรที่ประทับใจในเรื่องนี้มากๆ แน่เลย?
"ชอบชุดที่ใส่เข้าฉากเนี่ย เท่ห์ดี.. หมายถึงถ้าอยู่ที่นี่นะ แต่ถ้าอยู่เมืองไทย ผมว่ามันเหมือนชุดยามหน้าเวิร์คพ้อยท์นั่นล่ะ (หัวเราะ) "

เอ๋า ! เป็นงั้นไป... แล้วจบเรื่องนี้ มีแพลนงานอะไรที่เตรียมต่อไปล่ะคะ?
"ก็เรื่องนี้... ประมาณธันวาก็น่าจะปิดกล้องแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ แล้วกลางเดือนหน้าก็กะว่าจะเปิดเรื่อง "ฮัลโหลยโสธร" เลย เป็นหนังตลก โรแมนติกใสๆ เนื้อเรื่องย้อนไปสัก 40 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องราวความรักของ เจเน็ท เขียว เค้าเล่นเป็นผู้หญิงที่มาชอบผม แล้วก็ตามตื๊อเราด้วยนะ แต่เราไม่ได้ชอบเค้า คือในเรื่องนี่เรามั่นใจมากว่าเราหล่อ (เก๊กหน้าหล่อ) เอ้อ...แล้วก็ยังมีแอ็คชั่นด้วย! ก็ลุ้นๆ อยู่ว่าจะให้ใช้ชื่อนี้ ผมชอบนะชื่อ "ฮัลโหลยโสธร" แต่ไม่รู้ว่าเสี่ยจะว่ายังไง"

แล้วจะมีบทเศร้าๆ ออกมาให้เห็นบ้างมั้ย?
"ไม่หรอก เศร้าไม่เป็น คงไม่ทำหนังเศร้าแน่ๆ เลิฟซีนก็ไม่ได้เหมือนกัน อย่างไปเล่นเรื่อง "มิดไนท์ฯ" กับนุ่น แค่จับมือก็เหงื่อแตกแล้ว แต่นุ่นเค้าไม่รู้สึกอะไรหรอก เค้าว่าเหมือนเล่นกับขอนไม้!"

เห็นมั้ยคะ... ดู๊..ดูสิ งานยุ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขนาดนี้ จะไม่เป็นอาเสี่ยยังไงไหวคะ ทั้งกำกับฯ เอง แสดงเองแบบนี้ เงินทองไม่รั่วไหลค่ะ... ว่าแต่ไม่สนใจเอา "แม่แป้น" ไปเล่นด้วยอีกคนเหรอคะ..บทช้างก็ได้นะ..ยอม!!

:: กลับไปหน้าหลัก ::