ขวัญเรือน : ปักษ์แรก - มิถุนายน 45

ธงชัย-มณีรัตน์ ประสงค์สันติ หัวใจถักทอด้วยรัก

สัมภาษณ์พิเศษฉบับนี้ มีโอกาสไปเปิดบ้านสองนักแสดง 'ธงชัย-มณีรัตน์ ประสงค์สันติ' อีกหนึ่งคู่รัก ของวงการบันเทิง สำหรับฝ่ายชายยังมีผลงานออกมา ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง (เจ้าตัวแอบกระซิบว่า เร็วๆ นี้กำลังจะมีงานเพลงของ สามโทนออกมาให้ฟังอีกครั้ง) ในขณะที่ฝ่ายหญิง ช่วงหลังดูจะห่างหาย จากวงการไป เพราะความเป็นคุณแม่ลูกสาม ที่ต้องดูแลพยานรักหัวปีท้ายปี... ด.ญ.อัญชนา (น้องธูป) ด.ช.แผ่นดิน (น้องไท) และ ด.ญ.ปณิธาน (น้องธิป)

จะว่าไปแล้วในชีวิตคนเรา กว่าที่จะตัดสินใจคิดเลือกใครสักคน เข้ามาเป็น คู่ชีวิต... ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยใครๆ ก็อยากให ้ชีวิตคู่มีความสุขและยั่งยืน ด้วยกันทุกคน เพราะฉะนั้นนิยามความรักของคนเรา จะเป็นอย่างไร... ถ้อยคำที่พูดออกมาฟังแล้ว อบอุ่นแค่ไหน หรือสวยหรูปานใด...เป็นได้ทั้งนั้น --แต่มันจะไม่มีความหมายอะไร ถ้าชีวิตรักของคนสองคน ไม่ได้ถือกำเนิดด้วย... ความรักที่แท้จริง

ถึงวันนี้แต่งงานมากี่ปีแล้วคะ

(เก๋) ปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้วค่ะ

โบราณว่าชีวิตคู่ก็เหมือนลิ้นกับฟัน

(ธง) เหมือนที่เขาพูดนั่นแหละครับ เหมือนทุกๆ คู่ เป็นธรรมดาครับ เพราะตัวเราเองแท้ ๆ เรายังไม่มีอะไรแน่นอนเลย วันนี้ชอบอันนี้ พรุ่งนี้เดี๋ยวก็ ไปชอบอันโน้น เพราะฉะนั้นคนสองคน ที่ไม่เหมือนกัน มาอยู่ด้วยกัน ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนลิ้นกับฟันอย่างโบราณว่าแท้ๆ เลย มีทะเลาะเบาะแว้ง มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ในขณะที่ทะเลาะกัน หรือมีความคิดเห็น ไม่ตรงกัน ก็อย่าทิ้งการศึกษา เรื่องนิสัยของกันและกัน อันนี้ผมว่าสำคัญมาก ในระหว่างที่ความคิดไม่เหมือนกัน ตรงข้ามกันในบางเรื่อง บางอย่างเราสามารถศึกษา และปรับปรุงแก้ไข ให้ไปในทิศทางเดียวกันได้

ย้อนกลับไปวันแรกที่มีโอกาสได้รู้จักกัน เริ่มต้นได้อย่างไร

(เก๋) รู้จักพี่ธงครั้งแรกเลยจากการเป็นนักเรียนการแสดงรุ่นแรกของช่อง 3 เก๋ก็เป็นนักเรียนการแสดงเหมือนกัน ได้ร่วมงานกับเขา ตอนแรกคบกัน เป็นเพื่อนก่อน คบกันไปพักหนึ่ง มาหลังๆ ถึงได้คบกันเป็นแฟน นานไหมคะ ถึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน (เก๋) คบเป็นเพื่อนก็ 4-5 ปีนะ เริ่มต้นจากการเป็น เพื่อนกันมาก่อน

(ธง) ผมว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อนดีนะ เป็นธรรมชาติมากกว่า คือถ้าตั้งแง่ว่า จะจีบกัน อันไหนไม่ดีก็ซ่อนไว้ อันไหนดีๆ ก็เอาออกมา อย่างนี้คงไม่ดี ซึ่งผมเป็นยังไงในกองถ่าย ข้างนอกผมก็เป็นอย่างนั้น

คุณเก๋เห็นคุณธงครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง

(เก๋) คือเรารู้จักเขาเพราะเขาเป็นนักแสดงอยู่แล้ว เราชอบเขานะ เพราะเขาเล่นละคร ดูน่าสงสาร (หัวเราะ) พอเจอ ตัวจริงได้ร่วมงานด้วย ก็ตื่นเต้น เออ...พี่เขานิสัยดี เป็นคน รับผิดชอบงาน แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดแค่เป็นเพื่อนทำงานร่วมกัน

คุณธงเองก็ยังไม่ได้คิดว่าคุณเก๋จะมาเป็นคู่ชีวิตเรา

(ธง) ยังครับ เขาก็เป็นเพื่อนร่วมงานธรรมดาปกติ เหมือนเราทำงานออฟฟิศ แต่บางเวลา พอเราเจอปัญหาหรือ รู้สึกอะไรบางอย่าง ไอ้สิ่งที่เราหายไป เขาก็มาทดแทน เขาช่วยจัดการเรื่องบางเรื่อง ให้เราได้ดีมาก คือคนมันไม่ได้ พร้อมไปทุกอย่าง อย่างผมชอบที่จะทำงาน ชอบลุยๆ เรื่องรายละเอียด การดูแลตัวเอง เรื่องชีวิต ไม่ค่อยสนใจหรอก แต่เขาแนะนำอะไรดีๆ ให้เราหลายอย่าง

เหมือนค่อยๆ เริ่มความสัมพันธ์กัน

(ธง) ประมาณนั้น ค่อยๆ เริ่มจากเกียร์ว่างก็เป็นเกียร์หนึ่ง เกียร์สอง เกียร์สาม เกียร์สี่ เกียร์ห้า ขับไปโลดเลย คบเป็นเพื่อนได้ 4-5 ปี

อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณธงรู้สึกว่า คุณเก๋น่าจะเป็นมากกว่าเพื่อนแล้วละ

(ธง) ตอนที่มาทำเทปสามโทน แต่จริงๆ ก่อนหน้านั้นก็เริ่มบ้างแล้ว เล่นหนังเรื่อง บ้านผีปอบ เล่นด้วยกันทุกภาค เจอกันทุกวัน ผมชอบไหว้พระ ไปต่างจังหวัด ถ่ายละคร ที่นี่มีวัดดีๆ เขาก็ไปกับเราด้วย

คุณเก๋เองช่วงนี้ก็เริ่มรู้สึกผูกพันกับคุณธงแล้ว

(เก๋) ผูกพันค่ะ

(ธง) ถ้าเป็นสมัยเรียนก็เหมือนเพื่อนยุ เฮ้ย! สุชาดาเธอชอบกับณัฐกาน อะไรอย่างนี้ คล้ายๆ กันแหละ ตอนนั้นก็มี ไทด์ เอกพัน ชลิต กลิ่นสี ก็ล้อกันใหญ่

(เก๋) ชลิต กลิ่นสี จะถูกล้อว่าเป็นลูก อย่างเวลาเราไป ไหว้พระกัน จะมีลูกชลิต อยู่ตรงกลาง เหมือนมีพ่อแม่แล้วมีลูกอยู่ตรงกลาง (หัวเราะ) เพื่อนก็ล้อไปล้อมา

อะไรที่ทำให้รู้สึกว่า นี่คือคนที่เราจะแต่งงานด้วย

(ธง) มันบอกไม่ได้หมดนะ มันบอกเป็นผลลัพธ์เหมือน คณิตศาสตร์ไม่ได้เลย ความรู้สึกมันจะค่อยๆ ทยอยมา บางทีเราก็เห็นนะว่า อันนี้ของเขา ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็เอาโอเค เพราะเมื่อชั่งน้ำหนัก ส่วนที่เขาดีมีมาก แล้วเขาดีกว่าเราตั้งเยอะ ผมคิดอย่างนั้น

(เก๋) เป็นความผูกพัน เรารู้นิสัยเขา เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบ เขาเป็นคนดี โอเคน่าจะไปด้วยกันได้ ที่สำคัญต้องมาจากพื้นฐานคือมีความรัก เราน่าจะอยู่กับเขา รอดน่ะ (หัวเราะ) น่าจะไปด้วยกันได้

คุณเก๋จำเหตุการณ์ที่คุณธงบอกรักครั้งแรกได้ไหมคะ

(เก๋) เป็นแฟนกัน 2 ปีกว่า พี่ธงเขาจะเป็นคนบอกรักทุกวันอยู่แล้ว

(ธง) บอกรักทุกวัน เลยไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะเราบอกรักทุกวัน

แล้วที่ตัดสินใจว่าพร้อมจะแต่งงาน

(เก๋) เราเห็นว่าถึงเวลาแล้ว พี่เขาอายุพอสมควร เราก็อายุพอสมควร แล้วเราก็รอมาตั้ง 2 ปีกว่า ยังไงมันก็ต้องแต่ง แล้วอายุมันก็ได้ ความพร้อมเราก็ได้แล้ว ถึงเรารอไปอีก 4-5 ปีเราก็มั่นใจว่า จะแต่งกับคนนี้อยู่แล้ว แต่งเลยดีกว่า

(ธง) ผมมีความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ด้วย อายุมากกว่าน้อง เขาไง ผ่านผิดผ่านถูก ผ่านร้อนผ่านหนาวพอสมควร มันได้เวลาที่จะต้องเริ่มต้นอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นก็ลอยไปลอยมา

พอตกลงจะใช้ชีวิตคู่ มีคำมั่นสัญญาอะไรต่อกันไหม

(ธง) มี (เสียงสูง) ผมบอกเขาว่า... ถ้างานไหนผมไม่อยากไปงาน อย่าบังคับผมไปนะ เพราะมันคงหมายถึง ผมไม่อยากไป จริงๆ เป็นเรื่องคำมั่นสัญญา ที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า เราจะรักกันชั่วนิรันดร์สลาย (หัวเราะ)

(เก๋) ห้ามพูดคำหยาบ อีกอย่างหนึ่งคือถ้าทะเลาะกัน ก็อย่าออกจากบ้าน

(ธง) พอแต่งงานกันก็เหมือนภาคปฏิบัติเลย ไม่มีสัญญาว่า จะรักกันชั่วนิรันดร์ เข้าสู่ภาคปฏิบัติจริงเลย ว่าถ้าทะเลาะกันอย่าออกนอกบ้าน

:: อ่านต่อในฉบับ ::

Source : บุษย์น้ำทอง

:: กลับไปหน้าหลัก ::