ขวัญเรือน : ปักษ์แรก - ธันวาคม 45 |
เปิดใจสนทนา : ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพ่อ ชนะชัย ศรีชาพันธุ์ |
![]() |
ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา... ธุรกิจขายอุปกรณ์เทนนิสยอดเขยิบขึ้นจนน่าตกใจ ที่กล่าวมานี้ เป็นผลมาจากกระแส 'ภราดรฟีเว่อร์' ทั้งสิ้น ความสำเร็จของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสมืออาชีพวัย 23 คนนี้ สามารถสร้างชื่อเสียง ให้กับคนไทย และประเทศไทย ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ และถ้าย้อนกลับไปมอง ไม่เพียงแค่ชื่อ ภราดร ในวันนี้เท่านั้น แต่ความสำเร็จทุกอย่าง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดการมองการณ์ไกล ความอดทน ความพยายาม การทุ่มเท เอาใจใส่ ที่ทั้งหมดทั้งมวล หล่อหลอมมาจากความรักของ 'คุณพ่อชนะชัย' คนสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จ ของตระกูลศรีชาพันธุ์มาโดยตลอด วันนี้ภราดรประสบความสำเร็จ กับการเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ คุณชนะชัยมองว่าเร็วไหม สำหรับการไต่อันดับ จากอันดับที่ร้อยกว่ามาอันดับที่ 16 ดีใจครับ เพราะเป็นความสำเร็จ ที่เรานึกไม่ถึงว่าจะมาได้เร็วขนาดนี้ เป็นการ ข้ามกระโดดที่เร็วพอสมควร สำหรับวงการเทนนิส หรือคนไทยอย่างเราซึ่งไม่ใช่ฝรั่ง เป็นความก้าวหน้า และพัฒนาได้เร็วมากในระยะเวลา 3 เดือนช่วงปลายปี ทำผลงานได้ดีเกินดาด กังวลกับการคาดหวังไหมคะ ทุกคนจะฝากความหวังว่าจะต้องเป็นมือหนึ่ง ขอบคุณที่ฝาก แต่ผมไม่ได้กังวลว่า จะต้องทำให้ได้ ไม่ใช่ ไม่เคยคิดอย่างนั้น มีแต่จะบอกลูกว่าทำไปเรื่อยๆ ไปทีละสเต็ป ไม่เคยพูดกับลูกว่า จะต้องเป็นมือหนึ่ง ทำมาทุกวันนี้ ไม่เคยคิดว่า จะต้องขึ้นมาระดับนี้ คิดว่าทำไปเรื่อยๆ ไปทีละขั้น พอจังหวะดีมันก็มาเอง แต่ถ้าเขามีความพยายาม อย่างน้อยอยู่ในท็อปเท็น ตั้งแต่ที่ตัดสินใจย้ายครอบครัวมาอยู่กรุงเทพฯ ผ่านมากี่ปีแล้วคะ ผมไม่แน่ใจน่าจะประมาณปี' 25 หรือไม่ก็ ปี' 26 ทั้งครอบครัวเป็นคนขอนแก่น โดยกำเนิด ตัวผมเองเกิดมาในครอบครัวธรรมดา แต่ไม่ถึงกับขัดสนจนเกินไป... ชีวิตผมก็ไปตามจังหวะ จังหวะชีวิตมันเป็นไปโดยธรรมชาติ คือ เรียนจบ ทำงานแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้น ผมนึกไม่ถึงเหมือนกันว่า ตัวเองจะมาตรงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความคิดจากการได้รู้ได้เห็น ได้ศึกษาชีวประวัติ ของผู้ที่เก่งของโลก อย่างสตาลิน ลินคอล์น เหมาเจ๋อตุง การเลี้ยงดูลูกชายทั้ง 3 คนเป็นอย่างไรบ้าง เด็กผู้ชายไม่เหมือนเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ลูกทุกคนเลี้ยงง่ายครับ ช่วงที่คนโต อายุ 9 ขวบ ก็เริ่มให้เล่นเทนนิสแล้ว ที่เลือกกีฬาเทนนิสเพราะ... ผมเห็นการแข่งขันในทีวี รู้สึกสนุก และท้าทาย และเป็นกีฬาที่ยังไม่นิยม เท่าไหร่นัก ในประเทศไทย มองว่ากีฬา ประเภทนี้น่าจะเหมาะกับลูก เป็นเกมที่ใช้ความสามารถ และเล่นคนเดียว ไม่ได้เล่นกันหลายคน โอกาสการกระทบกระแทกกันก็น้อย โดยที่เดิมทีไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้มาก่อน ครับ ตัวผมเองไม่ได้มีความรู้ความสามารถ หรือเรียนจบทางกีฬาพวกนี้มาก่อน แต่อาศัยว่าเป็นคนชอบศึกษาค้นคว้า ศึกษาทุกทาง ทั้งหนังสือ ทั้งวิดีโอ ที่ไหนมีขายก็ไปตระเวนหาซื้อ แล้วก็ดูจากคนที่เล่นเป็นอยู่แล้วในจังหวัด... เราศึกษาโดยทฤษฎีก่อน แล้วก็มาปฏิบัติ เวลาศึกษาผมศึกษาจริง ๆ ศึกษาแก่นแท้เลย พื้นฐานของเทนนิสเป็นยังไง เล่นยังไงให้ถูกวิธี เพราะกีฬาแต่ละชนิด ต้องมีเบสิก เพราะฉะนั้นต้องรู้หลักการเล่น คือถ้าเบสิกดี มันก็ไปได้ดี แรกๆ ให้ลูกฝึกตีน็อกบอร์ด ให้น็อก ลูกกลับไปกลับมาให้ได้ก่อน คอนโทรลลูกให้ได้ก่อน ตั้งใจทุ่มเทกับการให้ลูกก้าวเป็นนักกีฬาเทนนิสอย่างเต็มที่ ทุ่มเทเต็มที่ครับ เพราะเราชอบแล้ว ไม่ห่วงอะไรอีกแล้ว ทุ่มเทกับลูกอย่างเดียว จนมาลูกคนที่สอง ช่วงนั้นห่างจากคนโต 4 ปี พอเบิ้มประมาณสัก 14-15 ปี บิ๊ก (นราธร) ประมาณ 8 ขวบ ฝึกลูกคนที่สองต่อ จนกระทั่งมาถึงคนเล็กคือ...ภราดร ครับ บอลเริ่มต้นเหมือนที่พี่ๆ เขาเล่นเหมือนกัน คือเล่นตั้งแต่เด็กเล่นดีมาก ในระดับเดียวกัน เป็นแชมเปี้ยนเหมือนที่พี่ๆ เขาเป็น ...จนอายุ 16-17 ปี เขาติดไปแข่ง ระดับเยาวชนทั่วโลก อินเตอร์เนชั่นแนลจูเนียร์ มีอยู่ช่วงหนึ่ง รู้สึกจะเป็นปี 1995 เขาชวนมา อยากให้ร่วมทีมกับเยาวชนโลก ที่มีระดับฝีมือเดียวกัน ออกไปแข่งขันในยุโรป โดยเขาจะมีโค้ชดูแล เขาถามว่า พ่ออนุญาตไหม ผมเห็นว่าเป็นโอกาสดี และเพื่อหาประสบการณ์ ก็ให้เขาไป โดยตอนนั้น ผมไม่ได้ไป ให้เขาไปก่อน บอลไปทำผลงานได้ดี ที่เฟรนช์โอเพ่นเยาวชน ไปชนะมือหนึ่งของอเมริกันเข้า เป็นจุดพลิกผัน ที่ทำให้สปอนเซอร์ เอเจ่นซี่เข้ามามองเห็น ก็เลยติดต่อเข้ามาขอ เป็นสปอนเซอร์ ก็ได้เงินมาก้อนหนึ่ง เพื่อที่จะให้เขาออกแข่งในระดับอาชีพ แต่ก่อนจะมาถึงช่วงที่มีสปอนเซอร์ ผมต้องลงทุนเอง พาบอลออกไปแข่ง จนมีผลงานแล้วเขาได้เชิญมา พิสูจน์ฝีมือไปเรื่อยๆ จากนั้นในปี 1997 เริ่มออกแข่งขันในระดับอาชีพ ก้าวแรกเริ่มจากรายการเล็กๆ ก่อน แถวๆ เอเชีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ที่เขาจัดกันอยู่ ตรงนั้นเป็นจุดเริ่มที่บอล เข้าสู่มืออาชีพ ที่เมืองไทยเขามีผลงาน เป็นแชมเปี้ยน เขาเล่นชนะ มือดีหลายคน แล้วในการไปเล่นแต่ละครั้ง บอลก็เข้ารอบลึกๆ ทำให้มีแต้มสะสม เพื่อที่จะเข้าสู่ระดับอาชีพ สมัยแรกๆ แต่ละครั้งที่ออกทัวร์นาเม้นท์ เรื่องค่าใช้จ่าย ก็ต้องด้วยตัวเองทุกอย่าง ตรงนั้นเป็นความลำบากก็จริง แต่เป็นความตั้งใจที่เราอยากจะทำ ผมเองเป็นคนที่ ความมานะพยายามและมั่นใจ จึงไม่ได้มอง ความยากลำบากตรงนั้น ไม่กลัวว่าจะต้องเสียอะไร หรือเสียเวลา ไม่ได้คิดอะไร มากกว่าอยากให้ลูกเล่นเทนนิส อยากให้ลูกเก่ง ไม่ว่าจะไปไกลไปใกล้ผมไปหมด ขึ้นเหนือล่องใต้ขับรถไป ถ้าย้อนกลับไปอย่างช่วงที่ตัดสินใจ ออกจากงาน หันมาทุ่มเทกับลูกๆ มีเสียงจากคนรอบข้างพูดถึงตรงนี้ไหมคะ มีครับ มีคนพูดถึงผมว่าผมบ้าหรือเปล่า ที่ตัดสินใจให้ลูกเล่นกีฬาเทนนิส คุณทำได้ยังไงแล้วคุณกล้าขนาดไหน ที่ทิ้งการทิ้งงานมาทำตรงนี้ เป็นความคิดที่ในสมัยนั้น หลายคนมองว่าผมบ้า รู้สึกยังไงคะ ผมรู้สึกเฉยๆ กับตรงนี้ เพราะผมมีความตั้งใจที่จะทำ ผมคิดว่าผมทำได้ และลูกผมทำได้ เพราะเราร่วมมือกันและเข้าใจกัน แล้วผลงานของลูกเขา ทำได้ขนาดนั้น ยังไงผมก็ไม่ทิ้งอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เป็นมาตรฐานในการสอน วัดได้จากการไปแข่งขัน ในระดับนานาชาติ เราสามารถไปชนะเด็กต่างชาติ เด็กฝรั่ง ถือว่าเราไปได้ถูกทางแล้ว เพราะฉะนั้นใครจะพูดยังไง ผมถือว่าถึงผมไม่มีจะกินก็เรื่องของผม เตรียมตัวไว้เหมือนกัน ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ครับ แต่ผมไม่ได้มองถึงความล้มเหลว แต่ถ้ามันจะเกิดเรารับได้ ผมไม่ได้ท้อแท้เลย คือการหากินยังไงมันก็เป็นหน้าที่ เพราะฉะนั้น จะประกอบอาชีพอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปรับราชการ ไม่จำเป็นต้องไป ทำงานมีหน้ามีตา ขอให้คุณอย่าอาย ขอให้ตั้งใจทำ อย่างน้อยที่สุดมันก็มีกินล่ะ ถ้าจะพูดว่าประสบความสำเร็จ ณ วันนี้ เพราะคุณชนะชัย เป็นคนมองการณ์ไกลวางแบบแผนชีวิตให้กับลูกๆ ครับ เป็นชีวิตที่ผมวางแผนเรื่องกีฬาโดยเฉพาะ หน้าที่ของผมที่ต้อง ทุ่มเททุกอย่าง แล้วลูกก็เป็นคนดี ปฏิบัติต่อพ่อ ต่อครอบครัว และทำหน้าที่ตัวเองได้เต็มที่ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่เบื่อที่จะซ้อม วันไหนที่ฝนตก ลูกๆ จะรำคาญ ว่าทำไมฝนต้องตก เพราะฝนตกแล้ว สนามก็เปียก หน้าที่ผมก็คือ พอฝนหยุดผมก็เอาผ้าไปเช็ดๆ สนาม ไม่อยาก ให้ลูกเหนื่อย เช็ดสนามให้เขา เขาจะได้ตี ได้ซ้อม ในความเป็นครอบครัวนักกีฬาเรื่องกฎ เรื่องระเบียบเป็นอย่างไรคะ ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ ครอบครัวนี้คือครอบครัวกีฬา ทุกอย่างมีกฎมีระเบียบ มีวิธีปฏิบัติที่เราตั้งไว้เป็นรูทีนเลยว่าวันหนึ่งจะต้องทำอะไรบ้าง การเป็นนักกีฬาที่ดีต้องทำยังไง รักษาร่างกายยังไง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ สิ่งเสพติดเหล่านี้ จะไม่มีเลยในบ้านผม ผมเองไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่ม อาจจะมีบ้าง เพื่อเป็นสังคมแต่แค่พอสมควร ผมไม่เคยเมาหัวราน้ำให้ลูกเห็น ไม่ว่าแต่ไหนแต่ไร จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับครอบครัว เราไปไหนไปด้วยกัน พ่อขับรถลูกนั่ง กิจกรรมทุกอย่างเราอยู่ด้วยกันหมด นอกจากเวลาไปเรียนหนังสือ เวลานั่งกินข้าวจะเปิดวิดีโอเทนนิสดู ศึกษากันตลอด หมายถึงวิดีโอที่ถ่ายในช่วงลูกแข่งขัน ผมถ่ายวิดีโอทุกครั้งที่ลูกเล่น ผมจะมีวิดีโอ ไม่ว่าจะแข่งขันนอกประเทศ ในประเทศทุกครั้ง ผมจะต้องถ่าย ผมมีวิดีโอเต็มบ้าน ฝรั่งยังถามว่าโอ้โฮ... ที่บ้านคุณมีวิดีโอเท่าไหร่ แล้วเนี่ย เยอะแยะไปหมดครับ (หัวเราะ) บุคลิกของการเป็นพ่อกับโค้ชต่างกันไหมคะ เป็นเรื่องธรรมดาที่ในสนามผมจะบอกเขาว่าพ่อเป็นครู ต้องเชื่อฟัง ส่วนที่บ้านนอก เวลาแข่งขันเราคือพ่อลูกกัน คุยกันได้ ลูกไม่ถึงกับกลัว หรือเกรงใจทุกเรื่อง ปกติมีคำพูดอะไรให้กำลังใจก่อนลูกลงแข่งขันไหมคะ ก่อนจะเล่นก็จะจับไม้จับมือให้กำลังใจกัน ในการต่อสู้เพราะเราทำทุกอย่าง กว่าจะมาถึงตรงนี้ พูดให้เขามั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ขอให้มั่นใจในตัวเอง และขอให้ตั้งใจ เพราะว่าเกมก็คือเกม เป็นเรื่องของกีฬา มีแนวทางสอนวิธีการดำเนินชีวิตให้กับลูกๆ ยังไงบ้างคะ ความอดทน ความมีวินัยที่ผมสอน และวิธีที่เขาปฏิบัติ เป็นไปโดยธรรมชาติ ถ้าเราฝึกนานก็คือความอดทน อดทนในการที่จะทำงาน อดทนในการที่จะ ประกอบอาชีพ วัยหนึ่งเมื่อเลิกเล่นแล้ว ก็ต้องทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และเลี้ยงชีพตัวเอง เลี้ยงชีพครอบครัว สิ่งเหล่านี้ที่ผมปฏิบัติอยู่ ลูกก็เห็นว่า เราทำในทางที่ถูก ซึ่งเขาก็ต้องปฏิบัติตาม ทำอย่างไรเลี้ยงลูกให้ดี ทำอย่างไรถึงจะอยู่ในสังคมได้ดี ปฏิบัติตัวต่อสังคมอย่างไร เคารพนับถือผู้ใหญ่ อย่างไร ผมจะสอนลูกอย่างหนึ่งว่า การเป็นนักกีฬาที่เก่งก็คือ ทุกคนจะรู้จัก ในขณะที่หลายคนเราไม่รู้จักเขา เพราะฉะนั้นการแสดงออกถึงการเจอผู้ใหญ่ ไม่ว่าพ่อจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ไม่ต้องให้พ่อแนะนำว่าสวัสดีคุณอา สวัสดีคุณน้า ถ้าพ่อรู้จักเขา เราคุยกัน ลูกสวัสดีได้เลย เป็นอย่างนั้นครับ เป็นสิ่งที่สอนลูก ซึ่งลูกๆ ก็ทำได้ดี เหมือนอย่างที่บอกว่า เราทำกัน เป็นชีวิตประจำวัน ลูกเคารพพ่อแม่ น้องเคารพพี่ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะลูกผมทุกคน ได้รับคำชมกลับมาว่านิสัยดี มารยาทดี อย่างที่ภราดรทำในสนามก็เช่นกัน จริงๆ การยกมือไหว้ผู้ชมพี่ๆ สองคนก็ทำมาตลอด เพียงแต่สองคน ไม่ได้มีโอกาสออกไประดับโลก ซึ่งภราดรเขาก็ทำเช่นเดียวกับที่พี่ๆ เขาทำ ความสำเร็จ ณ วันนี้ของครอบครัวศรีชาพันธุ์ คิดว่าน่าจะมาจากอะไร มากที่สุดคะ ความรักในครอบครัวสำคัญ ความรักในครอบครัวเราเกาะแน่น ทุกคนให้ ความร่วมมือร่วมใจกัน พี่น้องทุกคนให้กำลังใจกันตลอด ภรรยาสามี ให้กำลังใจกัน พ่อแม่สั่งสอนลูก พี่สอนน้อง ทุกคนมีความเกี่ยวข้องกัน มีความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะมุ่งไปด้วยกัน คือสิ่งที่เราทำอยู่มาจากความเข้าใจ ร่วมอกร่วมใจกัน ทุกคนทำเพื่อครอบครัว รักที่จะทำอย่างนี้ เป็นอย่างนี้ คนเราถ้าจะทำอะไร และคิดว่าทำได้ โดยครอบครัวพ่อแม่ลูก ก็เห็นชอบและสามารถทำได้ด้วย คือการจะทำอะไร ผมไม่ได้บอกให้ทำแบบหัวชนฝา หรือทำแบบดันทุรัง แต่ต้องดูว่าลูกมีแวว มีความสามารถแค่ไหน ถ้าเขาเรียนเก่งก็ให้เรียน แต่อย่าไปบังคับ จนลูกรับไม่ไหว ถ้าเขาเก่งด้านกีฬา มีแววด้านกีฬา ก็สนับสนุนให้ไปด้านกีฬา อย่าเรียนอย่างเดียว หรือเล่นอย่างเดียว เบื้องหลังความสำเร็จส่วนสำคัญคือ การทำหน้าที่พ่อ และโค้ชไปพร้อมกัน ผมจะอยู่กับลูกตลอด ทุกทัวร์นาเม้นท์ เราไปด้วยกัน ให้กำลังใจกัน ทุ่มเทด้วยกัน พูดคุยภาษาเดียวกัน เป็น หน้าที่ของผม เป็นหน้าที่ของพ่อที่ต้องทำ ผมคิดว่าน่าจะดีกว่า การที่เราปล่อยลูกให้ไปคนเดียว หรือไปกับคนอื่น ซึ่งลูกอาจขาดความอบอุ่น ขาดกำลังใจ การส่งใจถึงกันยาม อยู่ไกลกันอาจจะไม่เหมือนยามที่อยู่ใกล้กัน สิ่งที่ผมทำมาสิ่งที่ผมเรียนรู้มา คือเทนนิส สิ่งที่เห็นมาก็นำมาสร้างกับลูก เราช่วยกันเราไปด้วยกัน ทุกคนจะพูดว่า ครอบครัวเราคือ ครอบครัวเทนนิส เทนนิสคือชีวิต ชีวิตคือครอบครัว Tennis is my life บทสนทนาจบลง พร้อมกับรอยยิ้มของคนเป็นพ่อ ที่วันนี้ทิ้งร่องรอยความหนื่อย
ไว้ข้างหลัง :: อ่านต่อในฉบับ :: Source : รัชพิมล |