| Modern Mom |
| เตรียม(ลูกอ่อน)พร้อมลงน้ำ | |
ว้าว...ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง แทบไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่า เบบี๋วัยไม่ถึงขวบพอลงสระแล้วใช้แขนขาเคลื่อนไหวในน้ำได้ดีกว่าผู้ใหญ่ (อย่างเรา) เสียอีก แถมยังลืมตาแป๋วในน้ำได้อีกด้วย เมื่อก่อนเคยเห็นในโฆษณาคิดว่าคงต้องใช้เทคนิคการตัดต่อภาพช่วย แต่ที่ไหนได้ของจริงล้วนๆ ค่ะ แล้วถ้าอยากให้เจ้าตัวเล็กของเราที่บ้านลงสระแบบนี้บ้างได้ไหมนะ... เบบี๋ก็ลอยน้ำได้ การที่เด็กทารกลอยตัวในน้ำได้ดีแบบนี้ เพราะว่าเบบี๋เขามีเนื้อเยื่อเบากว่าผู้ใหญ่ มีไขมันเยอะมาก มีน้ำหนักตัวเบา มีปฏิกิริยาสะท้อนของการดำน้ำ และมีความถ่วงจำเพาะใกล้เคียงกับน้ำมาก จึงไม่ลอยตัวเหนือน้ำและไม่จมลงก้นสระ และเมื่อเบบี๋ลงไปอยู่ใต้น้ำจะกลั้นลมหายใจได้เอง ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ และการที่เด็กลืมตาใต้น้ำได้เป็นเพราะเขายังไม่รู้จักการหลับตาหนีภัย ส่วนการอ้าปากหายใจของเบบี๋นั้น ก็เพื่อช่วยลดความกดดันที่หูชั้นกลางค่ะ เช็กความพร้อมก่อนพาลูกลงสระ ถึงแม้การลอยตัวในน้ำจะเป็นความสามารถพิเศษที่มีติดตัวลูกมาโดยธรรมชาติ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเช็กความพร้อมของลูกกันก่อนค่ะ + อายุลูก วัยที่สามารถเริ่มต้นพาลูกลงสระน้ำได้ ไม่ควรต่ำกว่า 4-5 เดือน เพราะเป็นช่วงที่ลูกจะชันคอได้แล้ว + ความสมัครใจ เด็กบางคนไม่ชอบเล่นน้ำไม่ว่าจะอายุมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจธรรมชาติของลูกด้วยค่ะ และถึงลูกจะชอบน้ำ การพาลูกลงสระครั้งแรกก็ไม่ควรหุนหันพลันแล่น เพราะลูกอาจเกิดอาการกลัวน้ำได้ + สุขภาพของลูก ก่อนลงสระเจ้าตัวเล็กต้องไม่มีไข้ ไม่เป็นหวัด ไม่ท้องเสีย ไม่เป็นภูมิแพ้และไม่มีผื่นแผลตามเนื้อตัว และควรงดให้ลูกกินนมหรืออาหารก่อนลงสระอย่างน้อย 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเกิดสำรอกอาหารค่ะ เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เอาละค่ะ เช็กความพร้อมกันเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงเวลาลงสระกันแล้ว ก่อนจะลงสระจริงคงต้องมีการเตรียมความพร้อมกันเสียหน่อย ขืนอยู่ดีๆ เอาลูกลงเล่นน้ำโดยไม่มีเทคนิคเลย มีหวังเจ้าตัวเล็กคงร้องกรี๊ด สระแตกแน่ๆ Step 1 สร้างความคุ้นเคย คุณแม่ต้องเริ่มให้ลูกเกิดความคุ้นเคยกับน้ำ สามารถเริ่มได้เมื่อเด็กอายุ 2 เดือน โดยการพาลูกเล่นในอ่างอาบน้ำที่บ้านก่อนไปฝึกที่สระว่ายน้ำจริง Step 2 ลงสระจริง หลังลูกอายุได้ 3 เดือน ไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกลงสระว่ายน้ำพร้อมๆ กันได้ โดยอุ้มลูกไว้ในน้ำก่อน เพื่อให้เขาคลายความกลัวและความเกร็ง สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องไม่กังวลว่าลูกจมน้ำหรือหายใจไม่ออก Step 3 เริ่มฝึกลอยตัว คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกนอนคว่ำในน้ำ เพียงคุณพ่อคุณแม่เอามือประคองตัวลูกไว้ใต้น้ำ เพื่อให้หน้าอกยกขึ้นสูงและเท้าเตะน้ำได้อย่างอิสระ ใช้อีกมือพยุงไว้ที่คอ ระวังไม่ให้ใบหน้าคว่ำลงในน้ำเพราะกล้ามเนื้อคอยังไม่แข็งแรง Step 4 1..2..3 ดำน้ำพร้อมกัน อุ้มตัวเด็กโดยสอดแขนไว้ใต้รักแร้ เขย่าตัวเด็กก่อนแล้วให้สัญญาณนับ 1-2-3 แล้วดำน้ำไปพร้อมกับเด็ก กับให้สัญญาณทำโดยการเป่าลมที่ใบหน้าเด็กแล้วค่อยๆ เอาเด็กลงใต้น้ำ ให้หน้าลูกจุ่มลงในน้ำทั้งหมด ลูกจะกลั้นหายใจได้เองตามธรรมชาติค่ะ *** การจะให้ลูกดำน้ำควรอยู่ภายใต้ความดูแลของครูฝึกผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของลูก ก่อนลงสระทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรสังเกตความพร้อมของลูกอีกทีนะคะ ถ้าอยู่ๆ ลูกเกิดโยเยไม่อยากลงสระขึ้นมาเฉยๆ ก็ควรรอให้ลูกพร้อมกว่านี้ ของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปอย่าฝืนนะคะ เดี๋ยวแทนที่จะสนุกจะกลายเป็นยาขมไปค่ะ ++++++++++++++++++++++++++ ++++++++++++++++++ Modern Mom’s Tip : ก่อนตัดสินใจพาลูกลงเล่นน้ำในสระ คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจดูสิ่งเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยของลูก + น้ำในสระต้องสะอาดและมีการบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ด้วยโอโซนและคลอรีน และคุณสมบัติพิเศษของสระว่ายน้ำสำหรับทารก ควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 28-30 องศาเซลเซียส + เด็กอายุ 3-6 เดือน ควรอยู่ในน้ำประมาณ 15 นาที ส่วนเด็กอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี ควรอยู่ในน้ำประมาณ 30 นาที ถ้าลูกอยู่ในน้ำนานเกินไป อาจจะไม่สบายได้ + ต้องยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ ++++++++++++++++++++++++++ สิ่งดีๆ ที่ลูกได้จากการเล่นน้ำ + เรียนรู้ทักษะพื้นฐานของการเคลื่อนไหวในน้ำ และการว่ายน้ำ เช่น ถีบขา วาดแขน แบะปาก พ่นลมออกจากปาก ซึ่งจะช่วยพัฒนาไปสู่การเรียนว่ายน้ำในอนาคตได้ง่ายขึ้น + มีโอกาสได้ออกกำลังกายมากขึ้น เป็นผลดีทั้งต่อสุขภาพและพัฒนาการด้านต่างๆ + สร้างความมั่นใจให้กับลูก ช่วยให้ลูกคุ้นเคยและไม่รู้สึกกลัวน้ำ และช่วยป้องกันความปลอดภัยหากอันตรายกับน้ำขึ้น ++++++++++++++++++++++++++ เด็กมีสัญชาตญาณที่จะกลั้นหายใจในน้ำอยู่แล้ว เพียงแต่ใส่ปลอกแขนให้มีเครื่องพยุงตัว เด็กก็สามารถเดินในน้ำได้โดยไม่ต้องฝึกสอน ++++++++++++++++++++++++++ ขอขอบคุณ : พล.ร.ต.น.พ.สุริยา ณ นคร ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของอควาฟิตเนส เฮลธ์ คลับ :: อ่านต่อในฉบับ :: |
|