ภาพยนตร์บันเทิง

นางเอก ฟ. สวีตหวาน นักร้อง ข. กลางผับดัง

 

คงต้องยมอรับว่าวัฒนธรรมของคนไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนชาติไหน นั่นก็คือ "การไหว้" ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เวลาเขาทักทายกันหรือล่ำลากัน เขาก็ใช้วิธีการไหว้นี่ล่ะ แต่ดูคนไทยสมัยนี้จะเปลี๊ยนไป๋ซะแล้ว โดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายแหล่ เดี๋ยวนี้นิยมเลียนแบบชาวตะวันตก สงสัยเด็กไทยจะขาดความอบอุ่นกันเยอะ ก็เลยนิยมวิธีการกอด การหอม การจูบ ลำพังการกอด พะแล่ม ก็พอทำเนานะเจ้าคะ อะลุ้มอล่วยให้ แต่ถ้าเป็นการจูบ พะแล่ม รับไม่ค่อยได้หรอกเจ้าค่ะ เพราะมันดูเกินงาม ใครมาเห็นเข้าจะพาลเข้าใจผิด คิดว่าเป็นผัวเป็นเมียกันไม่รู้ด้วยนะเออ มีอย่างที่ไหนล่ะเจ้าคะ เห็นเพียงแค่คนรู้จัก หรืออย่างดีก็เป็นแค่เพื่อน แต่ใช้วิธีการทักทายแบบนี้ มันดูหมิ่นเหม่พิกล ใครไม่รู้ ก็อาจจะเดาไปในทางที่ผิดก็ได้

อย่าหาว่า พะแล่ม โบร้านโบราณเลยเจ้าค่ะ ต่อให้คุณเป็นลูกครึ่ง แต่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคุณก็เป็นคนไทย พะแล่มเลยอยากให้นึกถึงเชื้อสายอีกครึ่งหนึ่งให้มากหน่อย ไม่ใช่แค่การไหว้อย่างเดียวนะเจ้าคะ แต่รวมไปถึงการแสดงออกที่มีต่อเพศตรงข้ามด้วย อะไรที่มันไม่พอดี คนที่เสียหายก็คือผู้หญิงอย่างเราๆ นี่ล่ะเจ้าค่ะ ผู้ชายน่ะเขาลอยตัวอยู่แล้ว เหมือนเช่นนางแบบ นางเอก ฟ. ลูกครึ่งคนนี้ ที่เข้าวงการบันเทิงด้วยการเล่นมิวสิกวิดีโอ และการถ่ายแบบ ตอนนั้นความสวยยังไม่ทันได้บรรเจิดด้วยซ้ำ แต่จากนั้นไม่นาน เธอสวยวันสวยคืน สูงยาว เข่าดี ผิวสีแทน กลายเป็นนางแบบที่มีชื่อ จนได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถทางการแสดง ก็ถือว่าเธอทำได้ดีในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องเสน่ห์ของเธอ ก็ไม่ธรรมดาหรอก แต่เพราะนิสัยห้าวๆ แบบผู้ชาย เธอก็เลยดูค่อนข้างนักเลง แต่ถึงจะห้าวแค่ไหน ก็แอบซ่อนความหวานไว้ข้างใน ก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งหนุ่มไทยและหนุ่มเทศถึงได้คลั่งไคล้เธอนัก ไม่ว่าเธอจะเข้าใกล้ใคร หรือใครเข้าใกล้เธอ ก็มักจะเป็นข่าว แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นข่าวโจ๋งครึ่ม เพราะความดังของเธอก็ใช่ว่าจะดังทั่วประเทศ อย่างดีก็มีคนรู้จักเธอบางกลุ่ม

ใครอยากรู้เรื่องความรักของเธอ เธอก็เปิดเผยให้ฟัง ตามประสาลูกครึ่ง ที่ชอบพูดอย่างตรงไปตรงมา และเพราะความเป็นคนเปิดเผยของเธอนี่ล่ะ ทำให้เธอไม่ค่อยระวังอะไรนัก สิ่งที่เธอทำไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอกเจ้าค่ะ แต่มันดูแล้วขัดลูกหูลูกตามากกว่า เพราะเมื่อไม่นานมานี้เธอและกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ ได้ไปร่วมงานงานหนึ่ง ในผับดังย่านถนนข้าวสาร เมื่อเพลงดัง นักเต้นเท้าไฟอย่างเธอหรือจะปล่อยให้เสียโอกาส เลยชวนเพื่อนหนุ่มนักร้องฮิพฮอพ ชื่อ ข. ออกมาแดนซ์ด้วย พะแล่มคิดว่าพวกเขาคงเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันนั่นล่ะเจ้าค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเขาและเธอสนิทสนมกันขั้นไหน เพราะดูยังไงก็รู้สึกจั๊กเดียม เวลาทั้งคู่ใกล้ชิดกัน เต้นไม่เหมือนเต้น แต่เหมือนกำลังนัวเนียสวีตหวานกันมากกว่า ที่สำคัญคือ ไม่เห็นเธอเต้นแบบถึงลูกถึงคนอย่างนี้กับเพื่อนคนไหน ก็มีเฉพาะกับหนุ่ม ข. นี่ล่ะเจ้าค่ะ ที่พิเศษกว่าใครๆ และทั้งคู่คงคิดว่าบรรยากาศสลัวๆ อย่างนี้ จะรอดสายตาผู้คนไปได้

พะแล่มเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะเจ้าคะ เพียงแต่รู้สึกแย่นิดหน่อย ยังดีนะ ว่าผับนั้นไม่ใช่สถานที่สาธารณะ แต่ถึงอย่างนั้นพะแล่มก็ยังได้ยินเสียงซุบซิบๆ แว่วๆ มาเห็นมั้ยเจ้าคะ ไม่ใช่พะแล่มที่คิดไปเองคนเดียว ที่จริงแล้ว ถ้ามองในแง่บวก เขาและเธออาจจะเป็นเพียงเพื่อนกันก็ได้ พะแล่มเองก็ไม่อยากใส่ไคล้ ที่เขาและเธอทำไปก็เพราะเคยชินกับวัฒนธรรมและการแสดงออกแบบนี้ พะแล่มแค่อยากจะเตือนนิดหน่อย ยังไงผู้หญิงก็ต้องเสียเปรียบวันยังค่ำ แม้จะมีใครออกมาพูดว่าสิทธิระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเท่าเทียมกันก็ตาม ผู้หญิงถูกกอด ถูกลูบไล้ หรือผู้หญิงจะไปกอด หรือลูบไล้ผู้ชาย ยังงั้ยยังไงผู้หญิงก็ถูกมองไม่ดีอยู่ดี ยิ่งเป็นคนของประชาชนด้วยแล้วก็ต้องระมัด ระวังตัวกันหน่อย อย่าปล่อยให้คนอื่นเขามองได้ว่า ไม่รักในความเป็นผู้หญิงของตัวเอง ส่วนผู้ชายก็อย่าคิดว่าจะได้เปรียบผู้หญิงเสมอไป ผู้ชายที่ดีเขาไม่เอาเปรียบผู้หญิงหรอกเจ้าค่ะ คำว่า "ให้เกียรติ" สำคัญนะเจ้าคะ อย่าคิดแต่จะเอาเปรียบตลอดเวลา เห็นผู้หญิงให้แตะเนื้อต้องตัว ก็น้อมรับเอาไว้ทันที เพราะอย่างนี้เขาไม่เรียกว่าผู้ชายแล้วล่ะเจ้าค่ะ...


:: กลับไปหน้าหลัก ::