ภาพยนตร์บันเทิง

'แรมพิศวาส' ทำคนดูคาใจ

 

นานๆ จะมีสักครั้งที่ละครโทรทัศน์ ทำให้คนดูติดหนึบ อย่างเช่น "อาญารัก" , " ดงดอกเหมย" , " ราชินีหมอลำ" และมาถึง "แรมพิศวาส" ซึ่งเป็นละครพีเรียดทาง ช่อง 3 บริษัท ทู อิน วัน ดำเนินงานผลิต ผิน เกรียงไกรสกุล กำกับการแสดง เพิ่งลาจอไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 29 พ.ค. )

" แรมพิศวาส" เปิดฉากแรกก็ชวนชม ไม่ใช่ชื่อพันธุ์ไม้ที่คนนิยมเล่นกัน แต่เป็นการดึงดูดคนดูละครให้ติดตาม เนื้อหาตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ไม่ยืดเยื้อ ไม่น่าเบื่อ ผูกปม แกะปมให้ชวนติดตามในแต่ละตอน

การวางตัวละครในเรื่องนี้ ไม่มีขัดตา ดาราที่แสดงเป็นลูก มีส่วนละม้ายคล้ายผู้เป็นพ่อ ไม่เค้าโครงหน้าก็ต้องเรื่องสีผิว หรือบุคลิกที่ค่อนข้างขรึม ๆ

หนูเดือน แพท ณปภา สีผิวไปทางพ่อ คุณพจน์ คือ ธนากร โปษยานนท์ , นบและมาโปรด พอล ภัทรพล และโกสินทร์ โครงหน้าและความขรึมและสีผิวคล้าย นายหมาย วรวุฒิ นิยมทรัพย์ , แน่งน้อย จอย โสภิตสุดา ความเยือกเย็น มาดสุขุม คล้าย ประพืด ชาติชาย งามสรรพ์ , หนึ่งฤทัย เมจิ ผิวขาวเหมือนนายลอย พชร แก้วเพ็ชร์

ขอชมคนเขียนบทโทรทัศน์ คุณประไพศรี ศรีนาธม เขียนบทให้ทุกตัวละครมีความสำคัญ และมีความหมาย ไม่ใช่ตัวละครที่ลอยไปลอยมา ทุกตัวละครในเรื่อง ดูแล้วอิ่ม มีไม่กี่คนซึ่งบทค่อนข้างน้อย แต่ก็เข้าใจเพราะในเรื่องเมนหลักอยู่ที่ครอบครัวของ คุณพจน์ คุณเพ็ญ และผกา รวมทั้งผู้ที่ต้องเกี่ยวข้อง

และอีกคนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้กำกับการแสดง ที่คุมทุกอย่างให้อยู่ในกรอบและไปในทิศทาง เรื่องนี้ตัวละครเยอะ บทกระจายมีความสำคัญ ผู้กำกับฯ จึงต้องคุมให้อยู่ และ ผิน เกรียงไกรสกุล ก็ทำให้ออกมาได้อย่างดี

" แรมพิศวาส" กลายเป็น ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่คนพูดถึงตั้งแต่ออนแอร์วันแรก จนถึงวันอวสานของแม่ผกา ทุกอย่างคลายปม ปลดล็อก แต่ดูเหมือนจะมีติ่งที่ค้างคาใจให้คนดูพูดถึงอันเป็นควันหลง หลัง "แรมพิศวาส" ลาจอ

ก็ตอนจบที่ความจริงถูกเปิดเผย ตอน หน่อย บุษกร หรือ ผกา ถูกยิง และจะหมดลมหายใจ เธอมองหน้านบอย่างแม่ผู้สำนึกผิด นบ หรือ พอล ขณะที่ประคองนายหมายในอ้อมกอด ก็มองผกาด้วยสายตาที่เจ็บปวด และเศร้าระคนกัน แววตานั้นวิงวอน ร้องขอ ผกาจะพูดและบอกความจริงด้วยตัวเองว่า เธอเป็นแม่ของนบไม่ใช่น้า

ซีนนี้คนดูนั่งตัวเกร็ง ลุ้นว่าเมื่อไหร่ผกาจะพูดในสิ่งที่นบอยากรู้มาตลอด แม้เขาจะมั่นใจแล้วก็ตาม แต่การได้ยินสิ่งที่ค้างใจมาตลอดจากปากของผู้ให้กำเนิดน่าจะดีที่สุด คนเขียนบทหรือผู้กำกับฯ ก็ไม่รู้ กลับปล่อยให้ ผกา หลุดคำพูดแค่ "นบ..." แล้วผกาก็หมดลมหายใจ

" เฮ้ย ทำไมไม่บอก ว่านบเป็นลูกแม่"

" อะไรวะ น่าจะบอกให้นบมันชื่นใจหน่อย"

" ว้า...ทำไมนังผกามันไม่พูด" ฯลฯ และอีกหลายเสียงที่ถามถึงซีนนี้เรียกว่าคนดูลุ้นกันสุด ๆ

บางครั้งการเฉลยหมดทุกอย่าง ก็ไม่สนุก ต้องปล่อยเอาไว้บ้างก็ทำให้คนพูดถึง เพราะในเรื่องนั้นใช้สายตาของ ผกา แทนคำพูดอยู่แล้ว ความจริงเธออยากจะพูดว่า "นบลูกแม่" ก็ได้ แต่ดั๊นขาดใจไปซะก่อน คนดูบ่นเพราะสงสารนบที่อยากให้ความจริงออกมาจากปากของบุพการี

แต่อีกซีนหนึ่งที่งงๆ และผิดหวัง ดีมาตลอดไม่น่าจะตกม้าตายตอนจบ ให้คนดูเกิดคำถาม ก็ตอนที่นายประพืด เข้าไปช่วยแน่งน้อยในกองเพลิง นายประพืดก็ไม่ได้ถูกยิงซะหน่อย คนดูอาจจะได้คิดว่าเสียเลือดมาก เลยออกจากกองเพลิงไม่ไหว

แต่นี่ ก็เดินอยู่ดีๆ แท้ๆ แถมยังถามคุณพจน์อีกแน่ะ ว่า "คุณพจน์ไหวไหมครับ" "ไม่เป็นไรไปช่วยพวกเขาเถอะ" พอวิ่งฝ่ากองเพลิง จู่ ๆ ก็ทรุดลงไปไม่ไหวซะอย่างนั้น เข้าใจว่าบทถูกกำหนดว่าประพืดต้องตาย แต่แหม...ให้ตายแบบสมจริงหน่อยก็ไม่ได้

ตอนที่กำลังพัลวันพัลเก ให้นายลอย หรือ ผกา ซึ่งกำลังจนมุมและจนตรอก เหมือนหมาบ้ายิงกราดไปโดน ประพืด สัก 1 นัดก็ได้ โดยไม่ถูกที่สำคัญ จึงยังไม่ตายคาที่ ได้มีโอกาสพ่อ - ลูกได้รู้ความจริงในกองเพลิงแล้วก็ออกมาไม่ได้ เพราะคุณชายต้องช่วยแน่งน้อย อย่างไรเสียประพืดก็ไม่รอดเพราะเสียเลือดไปเยอะ อย่างนี้ยังจะสวยกว่าซะอีก แต่เอาเถอะเล็กน้อย ถ้าเทียบกับการดูมาทั้งหมดตลอดทั้งเรื่อง เพราะสนุกจนไม่อยากจะไปไหนในค่ำคืนวันจันทร์ – อังคารเลย

นอกจากบทจะส่งตัวละครหลักๆ แล้ว ตัวละครที่เป็นรอง คนเขียนบทก็ตั้งใจส่งเต็มที่ โดยเฉพาะ จอย โสภิตสุดา บทบาทเรียบร้อย เป็นหลานรักของคุณย่า มีจิตใจที่ดีงาม ฉากสุดท้ายส่งจอยสุดๆ ทั้งมุมกล้อง การจับภาพ ไดอะล็อก เรียกว่าตอนจบของ "แรมพิศวาส" เหมือนถูกดีไซน์ให้หนูเป็นนางเอกแทน แพท ณปภา ไปเลยล่ะหนู

:: กลับไปหน้าหลัก ::