ความคิดเห็นที่ 1 Cool ผมสมัครแล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (etymotic) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:17:36

ความคิดเห็นที่ 2 มา follow กันหน่อยนะคะ http://365project.org/tatamanke/365 ไปดูรูปเค้าโพสกันทุกวัน อาร์ต สวยๆทั้งนั้น เห็นบางคนไปแชร์ว่าเค้าเรียนรู้จากที่นี่เยอะมากๆ วันแรก เราก็ทำไม่เป็นอ่ะ เริ่มสนุกวันที่เริ่มเรียนรู้เวป แล้วก็เวปบอร์ด จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:32:47

ความคิดเห็นที่ 3 Myth #1 “I’m not going out to shoot today because the light is bad.” วันนี้ผม(เดี๊ยน)ไม่ออกไปถ่ายหละ แสงมันเน่าเหลือ There is no such thing as bad light. As long as there is light, there is opportunity to make amazing images. There is also no reason to limit yourself to the golden hours on each end of the day. The most adverse weather conditions are perfect for making the most beautiful pictures. So get out there! ฮ้วย! หนองคลองบึงทะเลสาบมหาสมุทร!!! ไม่มีหรอก แสงเน่าๆหนะ ตราบใดที่มีแสงสว่าง มันก็มีโอกาสที่จะสร้างภาพระดับเทพ ไม่มีเหตุผลอะไรซักกะนิด ที่จะจำกัดตัวเองกับเวลาแสงสวยๆอย่าวตอนพระอาทิตย์ตก อากาศที่เลวร้ายบัดซะลบสุดๆ คือ โอกาสอันเปอร์เฟคที่ได้ภาพงามสุดๆ ฉะนั้น ย้ายก้นออกจากโซฟาหน้าจอคอมพ์นี่ ไปถ่ายรูปซะ! แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:03:36 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:33:46

ความคิดเห็นที่ 4 Myth #2 “I need to bring several lenses with me on my photo walk, just in case ” ตองอั๊วะเลิงเล่น ต้องเอาเลงส์ติกตัวไปล่วยหลายตัว .. "เผื่อว่า .." Well, that’s fine if you don’t mind carrying around heavy equipment all day “just in case.”  Depending on what you shoot, if you limit yourself to just one lens for the day you can improve your skills, especially if you decide on a fixed focal length lens such as a 50mm. This simple decision will slow you down which will help you see better and allow you to compose more carefully. Plus you won’t miss the shot while you’re busy switching lenses. เอิ่ม .. มันก็ดีหรอก ที่ไม่แคร์เรื่องการจะ "แบกสัมภารกหนักๆ"ไปด้วยทั้งวัน .. "เผื่อว่า .. " เพราะมันขึ้นกะว่า คุณต้องการถ่ายอะไร แต่เชื่อเหอะ! ถ้าวันนั้น คุณเอาแค่เลนส์ติดตัวไปตัวเดียว พอสิ้นวัน ฝีมือคุณจะดีขึ้นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะถ้าเลนส์ตัวเดียวนั่น เป็นเลนส์ฟิกซ์อย่างเช่น 50mm การตัดสินใจทำแบบนี้ มันจะทำให้คุณถ่ายได้ช้าลง จนมีเวลาสังเกตสิ่งที่จะถ่ายดีขึ้น ปราณีตในการจัดองค์ประกอบมากขึ้น ที่สำคัญ คุณจะไม่พลาดช็อตเด็ดๆ เพราะมัวแต่มันส์กับการเปลี่ยนเลนส์! แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:05:12 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:39:07

ความคิดเห็นที่ 5 Myth #3 “I shoot 1,000 frames in a day so that I increase my chances of having a lot of keepers!” กูรูอย่างผม (คนแปลเนี่ยแหละ ) ถ่ายมันวันละ 1,000 ภาพ เพื่อที่จะมีโอกาสได้ภาพสวยๆมากขึ้น The ‘spray and pray’ approach sounds like a good idea, but it is no guarantee that you’ll have more keepers at the end of the day. Instead, pretend you are shooting film and limit yourself to a 24 or 36 exposure that day. You will quickly discover the creative power of limitation.  Shoot with intent, make every single frame count, and you will have plenty of keepers at the end of the day with the added benefit of not having so many images to process. ไอ้วิธีถ่ายภาพแบบ "หลับหูหลับตาสวดมนต์ กดชัตเตอร์" มันดูเหมือนเป็นความคิดที่ดี แต่ไม่ได้ประกันหรอกว่า พอหมดวันคุณจะได้"ภาพน่าเก็บ"ซักภาพ ลองดูดี๊ ให้นึกซะว่าตอนนี้ เราใช้กล้องฟิล์ม มีฟิล์มแค่ม้วนเดียว ถ่ายได้ 24 หรือ 36 ภาพเท่านั้น! ลองทำอย่างนั้นเหอะ แค่แป๊บเดียว คุณก็จะพบสิ่งที่เรียกว่า "พลังสร้างสรรค์ยามเมื่อจินตนาการถูกจำกัด" ถ่ายภาพอย่างมีเป้าหมายชัดเจน! ทุกๆแช๊ะต้องมีเนื้อหา!! พอหมดวันคุณจะตะลึงกับภาพงามงด น่าเก็บ น่าโชว์ ได้มาเป็นโหล แถมโบนัสด้วย .. มีภาพไม่กี่ภาพเองที่ต้องการการโปรเซส แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 14:43:13 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:09:59 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:07:58 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:48:38

ความคิดเห็นที่ 6 Myth #4 “I can’t shoot, I forgot my tripod.” ผมถ่ายรูปไม่ได้!! ผมลืมเอาขาตั้งมา!!!! (เฮ่ย! เห่ย!!) The tripod is a useful tool, but can also become a bit of a crutch. Unless you are on a paid job assignment that requires a tripod, liberate yourself and shoot hand held. ขาตั้งมันเยี่ยมนะซ่าร่า แต่ผมว่ามันค้ำคอคุณ ถ้าคุณไม่ได้รับงานรับเงินว่าจ้างให้ถ่ายภาพด้วยขาตั้งหละก็ ผมว่า คุณวางมันไว้ที่บ้าน แล้วลุยถ่ายลุ่นๆไปเหอะ There are other ways to stabilize your camera if necessary, you can use a wall or a boulder for example. Tripods are definitely useful, but the problem is that photographers tend to set them once and rely on them to shoot everything from the same level.   ถ้าจำเป็น เรามีวิธีดีๆตั้งสองร้อยสี่สิบเอ็ดอย่างที่จะทำให้กล้องมันนิ่งๆ อย่างเช่น พิงกำแพง วางกล้องบนเป้ ฯลฯ ขาตั้งมันมีประโยชน์สุดๆของสุดๆ แต่ปัญหาของมันคือ ช่างภาพ(ชุ่ยๆ?) มักจะกางขาตั้ง วางกล้อง เล็งจุดหมาย แล้วกดๆๆๆ เก็บภาพทุกอย่างจากมุมมองระดับเดียวตลอด น่าเบี่ย .. ว่ามั้ย ซ่าร่าห์? Be creative and shoot your subject from different perspectives. Unless you are shooting long or multiple exposures or macro, liberate yourself from that tripod once in a while and try new perspectives. สร้างสรรกันหน่อย ถ่ายจากมุมสูง มุมต่ำ ตะแคง เอียง หงายกล้อง ฯลฯ ให้มันได้ทุกท่า ถ้าไม่ต้องเปิดหน้ากล้องนานๆ หรือ ถ่ายมาโคร อย่าเอาขาตั้งมามัดขาตัวเอง หามุมมองใหม่ๆ ให้มันได้ตลอดเห้อะ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 14:44:06 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:09:34 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 22:55:33

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:00:27

ความคิดเห็นที่ 8 Myth #5 “I‘m in a creative rut, I need to go to an exotic location to get out of it.” อ๊ากซ์ซ์ซ์ อารมณ์"ติสต์ตีบตัน"กำเริบ ผมมันติสต์ตัวพ่อที่ถูกตีกรอบความคิด!!  ผมต้องการที่เจ๋งๆ ไม่ซ้ำซาก เพื่อสร้างภาพเด็ดๆ Everyone gets into a rut. One solution is to learn to see the extraordinary in the ordinary, see the new in the familiar. ทุกคนมีสิทธิ "ติสต์ตีบตัน" ได้ทั้งนั้น วิธีแก้ไข(ง่ายๆ) คือ หัดเรียนรู้ที่จะมองของธรรมดาๆ จากมุมที่ไม่ธรรมดา, มองของคุ้นเคยจากแง่มุมที่ไม่เคยมอง Go out into your own backyard and see it with fresh eyes.  Give yourself an assignment such as a photo-a-day project for a month or a year.  Create a theme for your photo walk and it becomes a treasure hunt. Shoot with fellow photographers. Give a camera to a child and see the world “fresh” through their eyes. Once you get out there and use your imagination, you’ll be free from that rut! ไปสวนหย่อมหน้าบ้านของคุณ แล้วมองมันแบบคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจองานศิลป์ระดับโลก ทำตัวเป็นอาจารย์ มอบหมายงานถ่ายภาพ ให้เดินไปถ่ายรูปให้ได้ตามกำหนดแถวๆบ้าน ไปถ่ายภาพกับเพื่อนร่วมแก๊ง เอากล้องให้เด็กน่อย แล้วดูภาพระดับเทพแห่งอาร์ตที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีในโลกนี้เสีย!! ทำซะ แล้วต่อมติสต์จะเสถียรขึ้น .. ปลดปล่อยคุณเป็นอิสระจากโรค"ติสต์ตีบตัน"ซะที แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 14:45:38 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:13:38 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:03:50

ความคิดเห็นที่ 9 Myth #6 “I would take better pictures if only I had a better camera.” ผมถ่ายรูปได้ดีกว่านี้อีกเยอะ ถ้าเพียงแค่ผมมีกล้องที่ดีกว่าที่มีอยู่นี่ 555 5!5!5! 6 6 6 กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก Okay, I’m not going to give you a lecture here. It’s true that more expensive equipment, when used skillfully, will yield better images than a point and shoot camera. โอเช๊ โอเช๊ งดภาคทฤษฎี จบบทเรียน มันก็จริง .. ที่ว่าของดีๆ อุปกรณ์เทพๆ ถ้าใช้ได้อย่างชำนาญ มันให้ภาพที่ดี เจ๋ง เด่น กว่ากล้องคอมแพ็คกระป๋องๆ The mistake, however, is upgrading before using your current gear to its full potential. Believe me, gear lust is easy to catch, yet most of us never outgrow our equipment. Invest into education, attend a photo workshop or go on a vacation instead of spending thousands on the latest and greatest gear. แต่ ฮ้วยยยยยยยย!!!!!!!!!!! จุดผิดพลาดเลวร้ายสุดๆคือ คุณอัพเกรดอุปกรณ์ที่มีอยู่ ก่อนที่จะมีความสามารถ "รีด" สมรรถนะของมันออกมาได้เกินครึ่ง เชื่อผม (คนเขียน ไม่ใช่ผมคนแปล! แมวเหมียวพุงป่อง) ไอ้โรคอยากได้ของเทพ มันติดง่ายอิ๊บอ๋าย แต่คุณไม่มีทางจะมีความสามารถที่จะคุมของเทพๆ พวกนั้นให้อยู่มือร๊อกก อยากจะรุ่ง ให้ลงทุนในเรื่องการหาความรู้ใส่ตัว เพิ่มพูนรอยหยัก เอาเงินไปซื้อคอร์สสอนถ่ายภาพเจ๋งๆ หรือ ไปจ่ายค่าทัวร์พักร้อน มันได้ผลดีกว่าไปซื้ออุปกรณ์เทพๆ ราคาแพงๆ รุ่นล่าสุด If you can do both, that’s terrific, but it’s not always necessary. Also, there is a lot of bad photography made with very expensive gear and some stunning images shot with iPhones Food for thoughts! แหง๋หละ ถ้าทำได้ทั้งสองอย่าง คุณก็เจ๋ง แต่มันก็ไม่ค่อยจำเป็น รู้ไว้เหอะว่า มีภาพสุดบรมห่วย ที่ถ่ายมาจากอุปกรณ์ถ่ายภาพระด้ับมหาเทพแห่งความแพง และมีภาพมหาเทพ ที่ได้มาจากกล้อง iphone แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:14:40 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:12:37

ความคิดเห็นที่ 10 Myth #7 “I’m too old to learn how to use a digital camera.” ผมแก่เกินกว่าที่จะเรียนรู้การใช้กล้องรุ่นใหม่ (f**k, s**k, ) If you have the strength to hold a camera and press the shutter, you can learn to use a digital camera.  Photography is a life long passion. It’s never too early or too late to start! ถ้ายังถือกล้องไหว กดชัตเตอร์ไหว ก็เรียนรู้ได้(โว้ย) การถ่ายภาพ มันเป็นตัณหาชั่วชีวิต ไม่มีคำว่า แก่ไปเกินเรียน ช้าเกินเริ่มต้น!! แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:15:26 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:14:50

ความคิดเห็นที่ 11 Myth #8 “I’m making money with my photography. I learned everything there was to learn about the craft.” ผมเป็นมืออาชีพมือโปร หากินกับการถ่ายรูป ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอาชีพของผม Nothing could be further from the truth! Once you think you know it all, you will stop growing. The world of photography is so exciting and is changing at the fastest pace ever. All you have to do is to keep current with the latest technology and embrace it. ไม่มีอะไรที่แสดงความเสื่อมของโปร ได้ดีกว่าคำพูด(ความคิด)แบบนี้ วินาทีที่คุณ"คิด"ว่า คุณรู้หมดทุกอย่าง คุณแคะ แกรน เตี้ย และเริ่มต้นเดินทางไปในวิถีแห่ง .. ปลวก โลกแห่งการถ่ายภาพ มันน่าตื่นเต้น ทุกอย่างเปลียนเร็วยิ่งกว่าเร็ว สิ่งที่เราทำได้ อย่างมากก็แค่เต้นตามให้ทัน ----------------------------------------------------- Myth #9 “I need hundreds of pictures in my portfolio before I can show my work to clients.” ผมต้องเพิ่มรูปในพอร์ตผมอีกซักพันรูป ก่อนจะเอาไปโชว์ให้ลูกค้าดูได้ This is just not true. What is true, and important, is to be discerning about your selection, show only your best work. Quality over quantity is your guideline here. เหลวไหลฟร่ะ! ของจริงคือ เลือกงานให้มันดีๆ นำเสนอแต่เดอะเบสท์ จำไว้เลยว่า คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 14:47:29 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:19:46 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:19:21

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตปาดครับ ขอบคุณน้าแมวค้าบที่ช่วยแปลล รอติดตามอยู่เรื่อยๆ นะคับ :D จากคุณ : maykungth เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:21:16

ความคิดเห็นที่ 13 น้าแมวแปลมันส์มากๆ จากคุณ : meisboo เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:25:06

ความคิดเห็นที่ 14 Myth #10 “Being a photographer is a glamorous job.” อาชีพไหน ก็ไม่เทพเท่าอาชีพช่างภาพ Maybe in the movies, but not in real life.  Most photographers don’t realize at first how much nitty gritty work is required once you turn your passion into a profession. For most of us, it’s 80% business and 20% shooting. This is true for just about any artist, so you need to be realistic. หุ หุ หุ ตื่นจากฝันได้แล้ว นี่มันชีวิตจริงไม่ใช่เทพนิยาย ช่างภาพส่วนใหญ่ไม่เคยรู้หรอกว่า มันเป็นงานที่โคตะระน่าเบื่อหน่ายเซ็งเป็ดเซ็งไก่เซ็งห่านแค่ไหน เมื่อการถ่ายภาพไม่ใช่งานอดิเรก แต่เป็นการทำมาหากิน อาร์ติสต์ทุกคน ต้องรู้เรื่องนี้ และมีชีวิตอยู่กับความเป็นจริง ------------------------------------ Myth #11 “All you need to be successful as a pro is talent.” คนจะเป็นโปรได้ ต้องมีพรสวรรค์เฟ้ย Wouldn’t that be nice? Ever heard of the expression “starving artist?”  Talent is definitely an important ingredient, but solid business skills are also important. Business and marketing are a vital part of being a successful working photographer, but if that’s not your forte, be sure to get help or hire someone for that. โลกจะสวยงามวิ๊งวิ๊งวิ๊ง  ถ้าโลกนี้ไม่มีคำว่า "ศิลปินไส้แห้ง" พรสวรรค์ มันเป็นสิ่งสำคัญก็จริงอยู่ แต่ทักษะธุรกิจที่แข็งแกร่งสำคัญไม่น้อยไปกว่า ใครอยากเป็นช่างภาพมือโปรที่ประสบความสำเร็จ ต้องจำให้แม่นๆว่า กระบวนการทางธุรกิจ และการตลาดเท่านั้นที่จะทำให้ความฝันของคุณเป็นจริง ทำเองไม่ได้ ไม่มีความสามารถ?? อย่าอายที่จะ .. ขอความช่วยเหลือ หรือ จ้างคนที่เก่งธุรกิจมาทำงานให้ .. โลด แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 14:49:24 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:21:34 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:25:31

ความคิดเห็นที่ 15 Myth #12 “Pro photographers are better than amateurs.” ช่างภาพมืออาชีพ เจ๋งกว่าพวกมือสมัครเล่น Just because some photographers make money with their pictures doesn’t make them better shooters. A successful pro will be able to offer quality and consistency. I see the work of so-called amateur photographers every day that far exceeds the work of many pros. การเป็นมืออาชีพ ที่ถ่ายภาพได้เงิน ไม่ได้หมายความว่า ถ่ายรูปได้เจ๋งกว่า โปรตัวจริง คือ คนที่มีความสามารถที่จะให้ภาพที่มีคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอต่อลูกค้า คนเขียนบทความนี้ เขาบอกว่า เขาเคยเห็นภาพมือสมัครเล่น ที่เจ๋งกว่าผลงานของมือโปร มานับไม่ถ้วน Actually, pro photographers run the risk of losing the passion for their craft if the work becomes a routine and this can adversely affect the quality of their work. It is very important for pro photographers to make time for personal projects in order to keep their passion alive. ความจริงที่น่าเจ็บปวดของช่างภาพระดับโปรก็คือ .. ทำไปซักพัก โปรก็จะเริ่มเบื่องานที่ต้องทำซ้ำๆซากๆ จนลดคุณภาพงานลงไป! ช่างภาพมือโปรที่แท้จริง ต้องวางแผนที่จะหาเวลาส่วนตัวเพื่อถ่ายภาพตามที่ตัวเองอยากจะถ่าย เพื่อที่ความใฝ่ฝันอันเคยมี .. จักไม่ดับสูญ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 07:23:11 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:31:00

ความคิดเห็นที่ 16 จบ "12 สิ่งลึกลับเกี่ยวกับช่างภาพและการถ่ายภาพ" ชอบใจก็ช่วยคลิ้กเก็บเข้าคลังหน่อย พิมพ์จนนิ้วหงิก -------------------------------------------------------------- ลิขสิทธิบทความภาษาอังกฤษ เป็นของเจ้าของดั้งเดิม ลิขสิทธิคำแปลภาษาไทย เป็นของข้าพเจ้าผู้แปล ห้ามนำไปเผยแพร่ เพื่อผลประโยชน์ทางการค้าใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร และลงลายมือชื่อ อนุญาตให้นำคำแปลไปเผยแพร่ในอินเตอร์เนตได้ โดยต้องมีชื่อเจ้าของสิทธิดั้งเดิม และอ้างอิงว่า นำมาจาก pantip.com (และ "ควรจะ" มีชื่อผู้แปลด้วยจ้ะ) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 17:03:59 แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 23:35:42 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:31:52

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอดครับน้าแมว^^ จากคุณ : เป็ดสวรรค์ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 01:38:25

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณที่มาช่วยแปล โห ไม่คิดว่าจะมีคนมาแปลให้นะคะเนี่ย จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 03:33:51

ความคิดเห็นที่ 19 น้าแมวแปลได้ "มันส์" มาก จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 06:55:34

ความคิดเห็นที่ 20 “I shoot 1,000 frames in a day so that I increase my chances of having a lot of keepers!” นี่มันผม ชัดๆ....55 จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 07:42:07

ความคิดเห็นที่ 21 แตร๊งกริ้ว น้าแมวครับ จากคุณ : มอมแมมจัง ณ บางปู เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 09:08:25

ความคิดเห็นที่ 22  ขอบคุณที่ช่วยแปลให้อ่านครับ จากคุณ : naryak เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 09:08:34

ความคิดเห็นที่ 23 น้าแมวเหมียวฯ แปลได้สุดยอดแห่งความมันส์จริง ๆ ขอบคุณ จขกท และน้าแมวเหมียวฯ มากครับ ที่แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้เพื่อน ๆ จากคุณ : 9TonEos เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 09:38:39

ความคิดเห็นที่ 24 แปลได้สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะคะคุณแมวเหมียวพุงป่อง :) จากคุณ : Winter Cactus เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:13:28

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณน้าแมวครับ อ่านสนุกมากๆ จากคุณ : PROHUN1 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:25:00

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้ทำไม เหมือนเคยอ่านมาหลายรอบแล้ว.... จริง ๆ นะ..... คุณ asita ครับ ลองสังเกตกระทู้ห้องกล้องนี่ดูครับ จะมีกระทู้ 365 วัน 365 ภาพ หรือกระทู้ xxx/365 เป็นโปรเจ็กต์ หนึ่งวันหนึ่งภาพอยู่ครับ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:31:15

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Aranel เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:39:16

ความคิดเห็นที่ 28 แปลได้โดนใจมากครับ จากคุณ : Maeil เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 11:19:42

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับน้าแมว  แปลได้โดนจริงๆ จากคุณ : nikom05 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 12:13:52

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อ 12 อันนี้ไม่ใช่แค่จริงในวงการถ่ายรูป แต่จริงในทุกๆวงการเลยก็ว่าได้ คนเรา(รวมถึงตัวผมเอง) ฮอบบี้ทุกชนิด มันจะเริ่มด้วยใจรัก จะทำอะไร ก็มีไฟมีจินตนาการเต็มไปหมด  แต่พอมาถึงจุดที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ มันก็จะก้าวเข้าสู่อีกเสตจนึง คือเริ่มทำแบบวนๆ ซ้ำๆ  ทำแบบหมดจินตนาการ ทำแบบก๊อปฟอร์มงานเก่าเมื่อตอนไฟยังดี  บางทีเบื่อแทบขาดใจก็ต้องฝืนทำ ไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่น แค่ย้อนกลับไปดูงานตัวเองตอนสมัยเรียนหนังสือ ยังดีกว่าผลงานทุกวันนี้สิบเท่าเลย จากคุณ : todtoh เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 13:04:23

ความคิดเห็นที่ 31 เยี่ยมไปเลยครับน้าแมว จากคุณ : TOAD FIGHTER เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 13:50:47

ความคิดเห็นที่ 32 น้าแมวฯแปลมันส์ ถูกใจวัยรุ่นมากๆ สนุกดีมีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ จขกท.ด้วยครับผม ^^ จากคุณ : DPJ (Rhapsodically) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 19:30:04

ความคิดเห็นที่ 33 แจ่ม จะแด๊ม แจ่ม ว้าวววว จากคุณ : เดอะไรท์ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 19:40:25

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอดเลยครับ เป็นกำลังใจให้ทุกความฝันครับ ^^ จากคุณ : JOEY (คนล่าแสง) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 20:11:59

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ อ่านสนุกเลย จากคุณ : illusi9z เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 21:44:10

ความคิดเห็นที่ 36 ขอขอบคุณผู้แปลมากครับ จากคุณ : น้ำพรมหนำ (น้ำพรมหนำ) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 03:20:25

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้โห สุดยอดครับน้าแมว จากคุณ : golfmba8 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 10:31:59

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วมันส์มากก ขอบคุณต้นฉบับและผู้แปลด้วยครับ จากคุณ : หญ้าอ่อนไหว ไผ่ลู่ลม เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 13:35:23

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นกระทู้แนะนำด้วย ขอบคุณนะคะ อยากให้ทุกคนอ่านคราวนี้สมใจเลยมีคนมาอ่านเยอะแยะเลย ขอบคุณผู้แปลนะคะ มันเจ๋งมากอ่ะฉบับแปล จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 14:19:08

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากครับ คุณasita  จขกท. และน้าแมวฯ ผู้ใจดีแปลให้ได้อ่านเข้าใจง่ายๆครับ เยี่ยมจริงๆครับ จากคุณ : ballny เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 17:55:52

ความคิดเห็นที่ 41 เยี่ยมครับ จากคุณ : กัปตัน อโยธยา เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 01:09:30

ความคิดเห็นที่ 42 ผมชอบคำนี้ครับ พี่แมว กระบวนการทางธุรกิจ และการตลาดเท่านั้นที่จะทำให้ความฝันของคุณเป็นจริง จากคุณ : narmjaja เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 16:21:26

ความคิดเห็นที่ 43 ^_^ จากคุณ : N'PaO&N'NoK เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 21:03:52

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณ จขกท.และขอบคุณอย่างแรงสำหรับน้าแมวที่แปลให้ได้อ่านมันส์ๆ  ขอบคุณครับ จากคุณ : spajan เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:10:10

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณน้าแมวฯ ค่ะ แปลมันส์สะบัดจริงๆ ปล.กดเก็บเข้าคลัง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 13:08:31 จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:07:58

ความคิดเห็นที่ 46 แปลได้มันส์...และได้สาระดีด้วย ขอบคุณมากครับ จากคุณ : peter pen เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:55:03

ความคิดเห็นที่ 47 ให้ข้อคิดมากครับ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : รถโดยสารประจำทาง (Bus_TH) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 16:10:11

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆค่ะทั้งจขกทและน้าแมวเหมียวพุงป่อง แปลน่ารักมว๊ากๆเลยค่ะ เข้าไป join ในเว็บ 365project แล้วหละค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งใหม่ๆ นะคะ ดีจังจะได้ฝึกภาษาปะกิด งูๆ ปลาๆ ของป้าโอเด้งด้วย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : ป้าโอเด้งค่ะ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:49:02

ความคิดเห็นที่ 49 ได้ความรู้อีกแล้วว มือใหม่อย่างผมฮึดๆ 555 จากคุณ : Knowe เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:57:44