ความคิดเห็นที่ 1 แล้วไปฟังมาจากไหนหละครับว่า เปิดนานๆแล้วกล้องพัง เปิด 1/30 .. ถ่ายดาวฤกษ์ที่ใกล้โลกสุด ยังมีสิทธิพังมากกว่าเลย! ---------- เห็นหลายๆคนมีคำถาม รวมถึงตัวผมที่คิดจะถ่ายภาพดาวหมุน และไม่มีคำตอบที่แน่นอน ผมมีคำตอบมาหลายสิบหน รวมทั้งทำให้ดูด้วยซ้ำ ยังเรียกว่า "คำตอบที่แน่นอน" ไม่ได้หรือครับ?? ถ้าปักใจไม่เชื่อตั้งแต่เริ่ม ต่อให้คำตอบแน่นอนกว่านี้ ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 19:44:01 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:42:11

ความคิดเห็นที่ 2 เปิดนานแล้วเผลอหลับ กล้องอาจหายเร็วได้ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:02:50

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนออกมาถึงมือผู้บริโภค ฝ่ายตรวจสอบ น่าจะทดสอบแทบทุกอย่างมาแล้ววว จากคุณ : N'PaO&N'NoK เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:37:45

ความคิดเห็นที่ 4 เปิดชัตเตอร์ B นาน แล้วโดนคนเตะขาตั้งล้มมีสิทธิกล้องพังได้ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 20:42:53

ความคิดเห็นที่ 5 ขอโทษผมอาจจะถามไม่ตรงประเด็น ประเด็นผมคือ กล้องมันจะมีผลตามมาอย่างไร เพราะคนที่ถ่ายก็บอกว่าถ่ายได้ ซึ่งผมก็รู้ว่ามันถ่ายได้มีรูปยืนยัน และก็เชื่อ แต่บุคคลที่แย้งไว้ก็มีหลายคน ที่บอกว่าเซ็นเซอร์มันจะไปเร็วกว่ากำหนด ไม่ได้ว่าจะพังตอนเปิดชัตเตอร์นาน แค่ว่าผลจากการถ่ายนานๆบ่อยๆ มันจะมีผลกับกล้อง ผมก็ฟังหลายทาง สรุปคือผมเข้าใจว่าถ่ายได้ แต่ที่สงสัยคือผลจากการเปิดเซ็นเซอร์นานๆต่างหาก เหมือนอุปกรณ์อิเลคทรอนิก ถ้าทำงานหนักๆ ร้อนๆ มันก็เสียเร็ว ดังนั้นประเด็นจึงอยู่ที่ว่า ระยะยาวมันจะมีผลอย่างไร เพราะกล้องตัวนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ หากมันมีผลจากการถ่ายว่ามันจะเสียเร็วกว่ากำหนด ผมก็คงไม่ทำบ่อย เพราะเงินมันหายาก ไม่ได้มีเงินมาเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ ตอนผมซื้อกล้องร้าน d2h สาขาขอนแก่นคนขายยังบอกเลยว่า ถ้าถ่ายวีดีโอนานๆ หรือเปิดม่านชัตเตอร์นานๆ เซ็นเซอร์จะร้อน ทำให้เสียได้เลย จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 21:23:33

ความคิดเห็นที่ 6 ถ่ายวิดิโอนานๆ กล้องร้อนมันตัดเองครับ เค้าทำระบบป้องกันมาให้ เค้าเทสทุกระบบ หลายร้อยพันหมื่นครั้งถึงทำออกมาขายครับ ผมไม่สนว่าจะพังเร็วนะ เค้าทำฟังก์ชั่นนู่นนี่มาให้ใช้ ผมใช้ให้คุ้มค่าเงินที่เสียไปดีกว่าครับ ยอมเสียเงินแพงๆซื้อกล้องดีๆเพราะต้องการฟังชั่นมากมายตรงนี้ ก็ต้องใช้สิครับ ถ่ายๆไปเถอะครับ ดีกว่าซื้อมาใช้แต่ไม่ใช้ ไม่รู้จะซื้อมาทำไม ไปใช้คอมแพคถูกๆก็ได้ มัวกลัวนู่นนี่นั่นเพราะ "เค้าว่า" แล้วไอ "เค้าว่า" นี่ก็ไม่รู้คือใคร บอกต่อๆกันมาแต่เค้าว่า.. หาความเชื่อถือไม่มี ผมเปิดชัตเตอร์นานๆเกิน 30 นาที มาหลายครั้ง กล้องหมดประกันเกิน 3 ปี มันก็ยังอยู่ปกติดีทุกอย่างครับ จากคุณ : +เติมใจให้กัน+ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 21:52:32

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็ไม่สามารถฟันธงให้ได้นะครับว่าการเปิดชัตเตอร์B ไว้นานๆ กล้องจะพังเร็วขึ้นรึเปล่า ผมคิดว่ากล้องก็เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่ง พอใช้งานก็จะมีการเสื่อมลงอยู่แล้ว ยิ่งใช้งานหนักก็เสื่อมเร็วเป็นธรรมดา แต่ผมมองในมุมที่ว่าใช้งานได้คุ้มค่ารีเปล่ามากกว่า ถ้าใช้งานหนักแต่ได้ภาพสวยๆกลับมา ยังไงก็ถือว่าคุ้ม ผมเคยตั้งกล้องถ่ายดาวไว้เป็นชั่วโมงเลย เรื่องเซ็นเซอร์จะร้อนแล้วเสียเร็วผมตัดไปได้เลย เพราะผมถ่ายอยู่ที่เชียงใหม่ อากาศก็เย็นจัดขาดผมยังต้องใส่เสื้อกันหนาวสองชั้นออกมาถ่าย กล้องผมก็ยังอยู่ดี ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขั้นครับ จากคุณ : fishbasket เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 21:54:13

ความคิดเห็นที่ 8 กล้องสมัยนี้...เปิดถ่ายวิด๊โอได้ Sensor ต้องทำงานตลอดเวลาที่ใช้ถ่าย.....ถ้าถ่ายแล้วมันพัง....เค้าคงไม่ทำออกมา กล้องคอมแพคทั่วๆไป เปิดกล้องขึ้นมา Sensor ก็ทำงานแล้ว.....จนกว่าจอมันจะดับหรือปิดสวิตท์มันลง... แต่ก็ไม่เห็นว่ามีใครออกมาบ่นว่า"Sensor กล้องพัง"...หรือมีแล้วไม่บ่นหว่า...???(ไม่น่าใช่..ยิ่งในห้องกล้องแห่งนี้ด้วย!!!) แต่สิ่งที่คุณจะได้มาแน่ๆ คือ Noise(ลบได้ด้วยโปรแกรม) และ Hot pixel(สามารถทำให้หายได้ด้วยการ Mapping) แต่พึงระลึกไว้อย่างหนึ่งว่า.....ของทั่วไปมันมี"อายุหรือชั่วโมงการใช้งาน"ของมันเองอยู่.... ปีนึงผมกดไป 100,000 ใบ แน่นอน...ม่านชัตเตอร์พังแหง๋ๆ.... 3 ปีคุณกดไปแค่ 10,000 ใบ อย่างมากก็แค่ฝุ่นเข้า ราขึ้น...ถ้าเก็บไม่ดี... คงพอเข้าใจนะครับ...^__^ ปล.กล้องปัจจุบันของผมคือ EOS 20D....ลองค้นดูผลิตมาแล้วกี่ปี....ผมยังเปิด ชัตเตอร์ B ถ่ายพลุ.....ถ่ายไฟกลางคืนอยู่เลยอ่ะครับ เปิดหน้ากล้อง 30 วินาที...กดมา 10 ใบ หลายๆมุม หลายๆระยะ....วันเดียวกัน...เวลาใกล้ๆกัน....ยังไม่รวมอีกที่นึงนะ จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:04:34

ความคิดเห็นที่ 9 เร็วๆนี้ว่าจะลองเอาไปถ่ายดาว.....แล้วจะมารายงานผลนะครับ...^__^ จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:08:06

ความคิดเห็นที่ 10 แหม ผมก็อยากให้ไปเถียงแทนผมจริงๆ 555+ คนที่เค้าว่านะมีอยู่จริง งั้นก็ลองแอดผมมาละกัน แล้วผมจะเชิญคุณเข้ากลุ่มจะได้ไปเถียงแทนผมหน่อย  เพราะผมมือใหม่ไม่มีความรู้ แต่ถ้าท่านผู้รู้ก็คงเถียงกันด้วยหลักและเหตุผลได้       เฟสผม tustai_101@hotmail.co.th ขนาดในกลุ่มยังเถียงกันแย่ ผมหล่ะกลุ้มใจจริงๆ ก็แค่ขอคำปรึกษา จะอะไรกันนักหนา เอาอารมณ์มาใช้กันอยู่ได้ คนไม่รู้ไม่ใช่ว่าโง่นะครับ พวกคุณๆเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน ก็ศึกษากันมาทั้งนั้น ต้องมีประสบการณ์ทั้งนั้น จริงมั้ยคับ อีกอย่างผมก็ศึกษาจากกูเกิล และตั้งคำถามในที่ต่างๆ แต่ก็ได้คำตอบต่างๆนาๆ จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:09:33

ความคิดเห็นที่ 11 ผมหล่ะกลุ้มใจจริงๆ ก็แค่ขอคำปรึกษา จะอะไรกันนักหนา เอาอารมณ์มาใช้กันอยู่ได้ คนไม่รู้ไม่ใช่ว่าโง่นะครับ พวกคุณๆเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน ^ ^ ^ ขอชัดๆนะ "พวกคุณ"เนี่ย....รวมผมด้วยรึเปล่า? จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:14:37

ความคิดเห็นที่ 12 โลกมันกว้างใหญ่ ร้อยคนร้อยความคิด ร้อยประสบการณ์ ผมอาจจะไปถามผู้ไม่รู้จริง เลยเกิดคำถามนี้ขึ้นมาอีก ดังนั้นข้อยุติของผมคือเชื่อและรับทราบจากคำแนะน้ำทั้งหมดในเว็บบอร์ดนี้ ขอบคุณทุกคนด้วยนะครับ แสดงว่าที่ผมรู้มาและถูกแนะนำมามันไม่ถูกต้อง ทีนี้ก็เข้าใจดีแล้วครับ จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:16:19

ความคิดเห็นที่ 13 @Skycool ไม่ใช่นะครับ หมายถึงในกลุ่มที่ผมเข้าไปถามคำถามอีกที่นึงครับ ไม่ใช่ที่นี่ครับผม จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:17:29

ความคิดเห็นที่ 14 ง่ะ.....งั้นขออภัยครับ....เกือบเดือดซะแล้ว...แหะๆ ^__^ จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:18:37

ความคิดเห็นที่ 15 คือที่นั่นเถียงกันจนหนีกันหมดครับ และใช้อารมณ์มาก แบบว่ากูถูก ของคุณผิด อะไรแบบนี้ครับ ไม่เหมือนที่นี่ มีทั้งรูปภาพและคำแนะนำ พร้อมประสบการณ์ครับ ผมถึงบอกไงว่าผมเชื่อที่นี่ ในเว็บบอร์ดนี้ และหมดข้อสงสัยแล้วครับผม         ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 22:19:28

ความคิดเห็นที่ 16 ที่อื่นไม่รู้นะครับ แต่ที่นี่ เถียงกันด้วยข้อมูล ความจริง ข้อเท็จจริง หลักฐาน เหตุผล ประสบการณ์ ไม่มีการแย้งกันด้วย "เขาเล่าว่า", "เขาบอกว่า" --------------------------------------------------- กล้องผมตัวเก่า .. E510 เปิดชัตเตอร์เพื่อถ่าย time lapsed เปิดนาน 30 วินาที/ภาพ * 8 ชั่วโมง!! .. ทำอย่างนั้นอยู่ 3-4 วัน กล้องไม่เจ๊ง แต่ภาพเจ๊งหมด ม่านชัตเตอร์พังตอนราวๆ 65,000 แช๊ะ แต่เซนเซอร์ยังไม่พัง ................................. ข้อมูล อาจเป็นแค่กล้องตัวเดียว แต่ ผมท่องเน็ต, ท่อง google, ท่อง fixya ฯลฯ มาเป็นปีๆ ยังไม่เคยเห็นรายงานว่า "เซนเซอร์พัง เพราะเปิดหน้ากล้องนานๆ" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:01:25

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นหลายๆคนมีคำถาม รวมถึงตัวผมที่คิดจะถ่ายภาพดาวหมุน แต่จะบอกว่าไม่มีการพัง คงไม่ได้ การถ่ายภาพดาวหมุน .. มีปัจจัยหลายๆอย่*างที่ทำให้กล้องพังได้ง่ายๆ แต่ไม่ใช่จากปัจจัยภายในตัวกล้อง ---------------------------------------- ปัจจัยภายนอกที่ทำให้กล้องเสียหาย - ขโมย โจร มิจฉาชีพ อย่างที่ คห.2 ว่า .. เป็นได้มากกว่า และบ่อยกว่าด้วยซ้ำ ขนาดอยู่ในเมือง ยังมีลุ้น ไม่ต้องพูดถึงการไปถ่ายรูปในที่มืดๆเปลี่ยวๆ - คนเตะกล้อง! จะไปโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะที่มืดๆ ไม่มีใครคิดหรอกว่า จะมีใครกางขาตั้งกล้องเกะกะถ่ายภาพดาวอยู่ตรงนี้!! แน่นอน .. กลัวมิจฉาชีพ เลยไปถ่ายภาพดาว ในที่มืดๆ แต่ไม่เปลี่ยว มันก็ต้องลุ้นคนเตะขาตั้งกล้องปลิวกระเด็น อย่างที่น้ารักษ์ว่า เห็นกับตามาแล้ว (และเคยทำเองมาแล้วเช่นกัน ) แก้ง่ายๆ ซื้อไฟกระพริบสีแดง ที่ติดท้ายจักรยานเสือภูเขา เหน็บเข้ากับขาตั้ง และส่องลงพื้น .. ติดทั้งสามขามันเลย!! แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 23:21:51 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:09:01

ความคิดเห็นที่ 18 ปัจจัยภายนอกอีกอย่าง ที่ทำให้กล้องพังเพราะเปิดหน้ากล้องนานๆ เพื่อถ่ายดาวได้ง่ายๆ แต่คนไม่ค่อยนึกถึงกัน คือ น้ำค้าง จำไว้เลยครับว่า กล้องและเลนส์ เมื่ออยู่กลางแจ้ง จะเย็นกว่าอากาศภายนอก กฏของฟิสิกส์ ระบุว่า จะมีการถ่ายเทความร้อน จากที่ร้อนไปที่เย็นเสมอ การถ่ายเทความร้อน มีสามอย่าง คือ นำความร้อน, พาความร้อน และ แผ่รังสีความร้อน คนส่วนใหญ่ ไม่รู้หรอกว่า เหนือพื้นดินขึ้นไปแค่ 10 กิโลเมตร อุณหภูมิอากาศ คือ -55 องศาเซลเชียส ตอนกลางวัน .. เรามีอากาศกั้นระหว่างพื้นดิน กับ อากาศเบื้องบน อากาศนั้น ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ .. เป็นเสมือนฉนวนกันความร้อน ป้องกันเราจากความตายเฉียบพลัน แต่พอตอนกลางคืน ไม่มีแสงแดด อากาศสามารถเก็บกักความร้อนไว้ได้หน่อยเดียว พอดึกๆ ความร้อนที่เก็บกักก็หมด ความร้อนจะไหลจากพื้นผิวดิน ไปสู่อากาศเบื้องบน แต่อากาศที่หนาสิบกิโลเมตรนี้ ทำให้การนำ และการพาความร้อน เป็นไปได้ช้ามาก มนุษย์เราจึงไม่ตายคาที เพราะความหนาวเย็นระดับอากาศเกือบแข็งนี้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:15:30

ความคิดเห็นที่ 19 กล้อง .. ไม่มีฉนวนกันความร้อน อากาศรอบๆบริเวณกล้อง มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก การนำ และพาความร้อน ทำให้กล้องมีอุณหภูมิเท่ากับอากาศรอบข้าง แต่ การแผ่รังสีความร้อน .. พยายามจะทำให้กล้อง มีอุณหภูมิเท่าอากาศเบื้องบน .. -55 องศาเซลเชียส การแผ่รังสีความร้อนนี้ จะทำให้กล้องมีอุณหภูมิต่ำกว่าอากาศรอบข้าง ผลก็คือ ..อากาศรอบข้าง ซึ่งมีอุณหภูมิเทียบกับกล้องแล้ว .. สูงกว่า เมื่อไหลมากระทบกล้อง ที่(เทียบแล้ว) เย็นกว่า .. ไอน้ำในอากาศจะเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ไม่ต่างจากเราเอากล้องแช่ตู้เย็น แล้วเอาออกมาวางกลางห้อง อากาศที่มีไอน้ำพวกนี้ แทรกซึมเข้าไปได้ในทุกช่องว่างของกล้อง & เลนส์ และพร้อมจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำได้ตลอดเวลา ปัญหาไหมหละ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:20:32

ความคิดเห็นที่ 20 @แมวเหมียวพุงป่อง  หุหุ ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : จูแมนจี้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:24:43

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าม่านชัตเตอร์พัง  ภายใน 1 ปี  กรณี ปกศ. เปลี่ยนฟรีีนี่ครับ   เหมือนว่า น้าโบ จะไปเปลี่ยนมาแล้ว เพราะถ่ายไปประมาณ 120,000 ภาพ ในห้วง 6-7 เดือนนี่ละรึไงนี่ละ (รบกวนน้าโบ ถ้าเห็นมายืนยันให้ทีครับ) ถามว่ามันมีผลไหม  มีผลทางจิตใจแน่นอน ครับ ส่วนผลทางกายภาพของกล้อง  ไม่ทราบ  เพราะถ้ามี กล้องหลายๆ ตัวคงพังไปแล้ว ปล. ถ้าไม่อยากเปิดค้างนานๆ ไม่ลองเทคนิคถ่ายทีละห้วง (Time Laps) แล้วเอาภาพมารวมใน PS ล่ะครับ (ถ่ายสัก สี่ห้าพันใบ ต่อคืนแล้วเอามารวมกันอะไรแบบนี้อะครับ) จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:26:24

ความคิดเห็นที่ 22 มันไม่พังหรอกครับน้า เปิดนานๆ เรามักจะใช้ISOต่ำๆ ISOต่ำๆ แปลว่า เราปล่อยกระแสไฟเข้าไปในเซ็นเซอร์ เพื่อให้ระบบมันเก็บข้อมูลของโฟตอนนิดเดียว ค่อยๆเก็บ เซ็นเซอร์ไม่ได้ทำงานหนักอะไรมาก เหมือนคนค่อยๆทำงาน ทำเรื่อยๆน่ะ เปิดไปเหอะ สบายใจได้^^ จากคุณ : เป็ดสวรรค์ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:41:21

ความคิดเห็นที่ 23 น้าแมวเหมียวพูดสลับกันหรือเปล่าครับ.. อากาศร้อนกว่า ข้างใน..หยดน้ำจะเกาะด้านที่อากาศร้อนกว่านะครับ..ยกตัวอย่างแก้วน้ำแข็งไงครับ.. หรืออย่างเช่น เราเอากล้องเก็บไว้ในห้องแอร์แล้วเอาออกมาในที่อุ่นจะเกิดฝ้าเกาะที่ผิวเลนส์ด้านนอก... แต่น้าแมวเหมียวทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างที่เป็นไปได้ก็คือ อากาศหน้าหนาวที่ 0 องศา นอกกล้อง..แต่เวลากล้องทำงานกล้องจะสะสมความร้อนเอาไว้ในตัวกล้อง..(ใครเคยถ่ายรูปเยอะ วิวรูปเยอะๆ จนกล้องร้อนขึ้นบ้าง..) ดังนั้น..จึงครบองค์ประกอบ.. ด้านนอกเย็น ด้านในร้อน..หยดน้ำในอากาศ จะกลั่นตัวและเกาะ "ด้านในของกล้อง" ครับ...อันนี้ตามหลักความเป็นไปได้ทางวิทยาศาตร์นะครับ.. แต่เข้าใจว่าวิศวะกรที่ออกแบบกล้องน่าจะคิดสถาณการณ์แบบนี้เผื่อเอาไว้แล้ว..(หวังว่านะครับ) จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 23:52:07

ความคิดเห็นที่ 24 อากาศร้อนกว่า ข้างใน..หยดน้ำจะเกาะด้านที่อากาศร้อนกว่านะครับ..ยกตัวอย่างแก้วน้ำแข็งไงครับ.. หรืออย่างเช่น เราเอากล้องเก็บไว้ในห้องแอร์แล้วเอาออกมาในที่อุ่นจะเกิดฝ้าเกาะที่ผิวเลนส์ด้านนอก... ไม่สลับหรอกครับ แก้วน้ำแข็ง .. ผิวนอกแก้ว เย็นกว่าอากาศรอบๆข้าง กล้องเก็บไว้ในห้องแอร์ .. ผิวเลนส์ เย็นเท่าอากาศในห้องแอร์ น้ำในอากาศ จะอยู่ในสภาพไอน้ำ ความสามารถของอากาศ ในการเก็บ(ไอ)น้ำนี้ ขึ้นกับอุณหภูมิ อุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งเก็บ(ไอ)น้ำได้มาก เราเรียกความสามารถในการเก็บ(ไอ)น้ำนี้ว่า ความชื้นสัมพัทธ์ (RELATIVE HUMIDITY) RH .. ความชื้นสัมพัทธ์ เราจะได้ยินบ่อยๆ จากวิทยุประเทศไทย รายงานสภาพอากาศ อย่างเช่น อากาศ 1 ลิตร .. .. อุณหภูมิ 10 องศา เก็บไอน้ำไว้ได้สูงสุด (100%) 10 ซีซี .. พออุณหภูมิเพิ่มเป็น 20 องศา เก็บไว้ได้ 100% = 15 ซีซี .. และพอเป็น 30 องศา เก็บไว้ได้ 100% = 20 ซีซี ถ้ามี(ไอ)น้ำอยู่ในอากาศ มากเกินกว่านี้ มันจะเปลี่ยนสภาพจากไอ เป็นหยดน้ำ ... เพราะเกิน 100% ไม่ได้ --------------------------------------------------- ในกรณีของเลนส์ในห้องแอร์ .. ผิวเลนส์อุณหภูมิ 20 องศา ถ้าอากาศข้างนอกห้องอุณหภูมิ 30 องศา และ RH = 80% .. คือ มีไอน้ำ 0.7 * 20 = 16 ซีซี เมื่อเลนส์อุณหภูมิ 20 องศา มาเจออากาศที่ว่า บริเวณรอบๆผิวเลนส์ อุณหภูมิจะลดจาก 30 เหลือแค่ 20 ทำให้ RH เปลี่ยนจาก 70% กลายเป็น (16/15) * 100 .. เกิน 100% ไอน้ำส่วนเกิน ที่อยู่ในอากาศบริเวณผิวเลนส์ จะกลายเป็นหยดน้ำทันที กรณีเดียวกันนี้ เกิดขึ้นกับผิวแก้วเบียร์เย็นเจี้ยบเช่นกัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 00:05:04

ความคิดเห็นที่ 25 ด้านในกล้อง คือ ตัวปัญหาครับ เมื่อมันทำงาน .. ภายในจะอุณหภูมิสูง .. อาจสูงกว่าอุณหภูมิอากาศภายนอกได้หลายองศาทีเดียว อากาศที่มีไอน้ำ (อากาศชื้นๆ) ที่ไหลเข้าไปในกล้อง .. RH จะลดลง แปลว่า ตราบใดที่กล้องยังทำงาน (และผลิตความร้อน) .. โอกาสที่ไอน้ำ(ในอากาศที่รั่วไหลเข้าไป)จะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำ .. practically ZERO แต่เมื่อกล้องหยุดทำงาน .. นั่นแหละครับ หายนะ! เพราะอย่างที่ว่าไปแล้ว อากาศในกล้อง ..ที่ร้อน.. มีความสามารถรับไอน้ำได้เป็นจำนวนมาก ยิ่งร้อนมาก ยิ่งสามารถรับไอน้ำได้มาก .. โดยไอน้ำไม่กลั่นตัวเป็นหยดน้ำ แต่พอกล้องหยุดทำงาน อากาศเย็นลง .. ไอน้ำส่วนเกิน (ไม่รวมเหงื่อกาฬสท้านพิภพ! ) มีสิทธิกลั่นตัวเป็นละอองน้ำบางๆได้สบายๆ วิศวกร เขาคำนวนเรื่องพวกนี้ไว้แน่นอน ถ้าใครเคยรื้อกล้องมาดูเล่น จะเห็นว่า แผ่นวงจร มีการ"เคลือบ"ลายวงจรไว้บางๆ .. แม้มีไอน้ำก่อตัวขึ้นบนแผ่นวงจร ก็ไม่สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ ในส่วนของชิ้นส่วนต่างๆ ขาของชิ้นส่วนเหล่านั้น จะเป็นโลหะที่ค่อนข้าง "ทน" ต่อการกัดกร่อน และมีระยะห่างกันระดับหนึ่ง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 00:11:35

ความคิดเห็นที่ 26 กลับไปที่เรื่องที่ จขกท กังวล มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่ใช้ dSLR "โหด" กว่าบุคคลทั่วไป แต่ผมไม่มีข้อมูล และไม่เคยได้เห็นใครร้องเรียนว่า เซนเซอร์ เสื่อม-พัง พวกที่ใช้กล้อง dSLR ถ่ายทำหนังนั่นแหละครับ เปิดถ่ายทำกันเป็นชั่วโมงๆ แบบต่อเนื่อง ไม่หยุดพัก และถ่ายทำทีนึงกว่าจะเสร็จ ก็เป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน ผมว่า รวมอายุการทำงานที่จ่ายกระแสไฟเข้าไป "เผา"เซนเซอร์ กล้องพวกนี้ ตัวนึงๆ .. มากกว่ากล้องทุกตัวของผมรวมกันซะอีก ยังไม่เคยได้ยินใครบอกว่า ทำแล้วมันพังเลย แม้แต่ซักราย ไม่เสื่อมด้วย หลักฐานที่ "ปึ้ก" ขนาดนี้ พวกที่อยู่ในกลุ่ม ที่ จขกท ว่ามา ไม่เคยสนใจ หรือรับฟัง หรือเคยได้ยิน? เพราะฟังแต่ "ข่าวลือ" ที่หาต้นตอไม่ได้ หลักฐานไม่มี เหตุผลไม่สน ฟันธง! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 00:27:38

ความคิดเห็นที่ 27 1) ต้องเปิด Shutter B ไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือ 1ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น 2) เลยอยากทราบว่า กล้องใหม่ๆ ที่ผลิดในปี 2012 ถ้าเปิดชัตเตอร์นานขนาดนั้น มันจะมีผลอะไรกับกล้องไหม >>>>>>>>> ผมอ่านกระทู้ทีแรก ผมก็อยากกระโจนเข้ากับ "พวกคุณ" (ไม่รวมน้า Skycool รีบบอกก่อน) อิอิ แต่ผมลองอ่านดีๆ พบว่าประเด็นคำถามที่ดี ผมแยกออกเป็น 2 ข้อข้างบน ถ้าได้คำตอบที่ตรงประเด็น ชัดๆ จะเป็นประโยชน์มากกว่า ผมว่าอย่างนี้ เพราะตอนเล่นกล้องฟิล์ม ก็มี "เค้าว่า" เตือนว่า อย่าขึ้นฟิล์มค้างไว้นานๆ .... กล้องจะพัง อันนี้เป็นคำ เค้าว่า ที่ยังไม่ลึก ไม่ซับซ้อนนัก พอจะเดาต่อได้ง่าย .... ในทางกลับกัน ที่ จขกท อยากหาเหตุผล ก็คือ ทางกลับกัน กับ การขึ้นฟิล์มค้างไว้ นานๆ นี่แหละ มันจะพังเร็วขึ้นไหม ??  และ เพราะอะไรมันถึงเป็นอย่างนั้น ?? ผมว่า คำตอบประเด็นนี้ ควรจะตอบลงลึกไปในโครงสร้างของชัตเตอร์ อาทิ ม่านชัตเตอร์มันเปิดยังไร เมื่อเปิดค้าง สปริงมันจะล้า กระนั้นหรือ ??? หรือ ตัวขัดกลอนม่านตัวสองมันจะเกิดแผลกดทับทำให้ ..พัง เร็ว หรือ กล้องมันใช้ Eเล็กโทรนิค มันไม่มีกลไกดังกล่าวข้างบน ก็ว่าไปซิครับ เหล่านี้คือ คำตอบที่มีหลักการทางเทคนิค และ อธิบายได้ด้วยเหตุผล ผมว่าอย่างนี้ ดีไหม ?? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 07:22:50

ความคิดเห็นที่ 28 คาดว่าคุณ จขกท.จะเปลี่ยนกล้องก่อนมันจะพังครับ จากคุณ : BOHEMIAN เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:20:57

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้วอยาก เอากล้องไปลองถ่ายดาวบ้าง จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 14:14:15