ความคิดเห็นที่ 1 เพิ่มอีกรูปเพื่อการพัฒนาค่ะ Silhouette เจดีย์พุทธคยาค่ะ ภาพนี้ถ่ายจากบนเรือที่นั่งไปดูวัดจมน้ำค่ะ ปล. สอบถามน้าๆเพิ่มหน่อยค่ะ รู้สึกเหมือนภาพไม่ค่อยคม อยากให้คมๆทำไงค่ะ อันนี้หลังกล้องค่ะ ยังไม่ได้ปรุงแต่งใดๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : AeyACaSsi เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 10:42:54

ความคิดเห็นที่ 2 การย่อภาพลงจากต้นฉบับจริง ทำให้รายละเอียดหายไป รวมไปถึงภาพต้นฉบับด้วยว่า โฟกัสเข้าเป้าไหม และ Speed Shutter ไวพอที่จะ Stop Motion ไหม ยิ่งอยู่บนเรือด้วย การแพนกล้องให้กรอบที่เราจัดไว้คงที่พอที่จะช่วยได้เรื่องสั่นไหว อื่นๆก็ลองศึกษาการแต่งหน้าทาปากให้กับภาพดูครับ หลักๆเลยคือ - ปรับความคมชัดหลังย่อ ( ตามแต่ละโปรแกรม ถ้าเอาง่ายๆก็ Photo Scape ) - ปรับความสว่าง ตามแต่ภาพนั้นต้นฉบับแสงมามากหรือน้อยไป - ปรับโทนสีให้ตื่นตา หลักๆแล้วผมทำอยู่ 3 อย่างที่ว่ามานั่นหละครับ ส่วนเทคนิคอื่นๆเอาไว้เล่นแก้เซงเฉยๆ เช่น ซ้อนเลเยอร์ เพื่อทำภาพที่ต่างออกไปเป็นต้น เอาใจช่วยครับ จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 10:49:47

ความคิดเห็นที่ 3 จิงด้วย ลืมไปว่าย่อรูป ก๊อปมาจาก facebook ด้วยอะค่ะ เรื่องแต่งรูปเดี๋ยวไว้ต้องศึกษาเพิ่ม ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : AeyACaSsi เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:11:25

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพเปิดแฉกสวยเชียวครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:36:26

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ จขกท ถ่ายน้ำตกถ้าไม่มีฟิลเตอ ND ต้องถ่ายช่วงมีแสงน้อย เช่นเช้าๆหรือเย็นๆเพราะเราต้องเปิดหน้ากล้องนาน ถ้าแสงเยอะจะไม่สามารถลากชัตเตอร์ได้นานเพราะ แสงจะเข้ากล้องเยอะเกินจนภาพเสีย การถ่ายน้ำตกควรมี 1. ถ่ายในช่วงเวลาแสงน้อย (เช้า-เย็น) 2. ใช้ค่าfแคบๆ เช่นf11 ขึ้นไป 3. ใช้isoให้ต่ำที่สุดเท่ากล้องเซตได้ 4. ใช้ขาตั้งหรือวางใว้ให้นิ่งสนิท 5. ถ้ามีฟิลเตอ cpl จะช่วยให้ได้ภาพสวยขึ้น (ลดแสง-เร่งสี) 6. ควรใช้สายลั่น หรือโหมดตั้งเวลาในกล้องเพื่อลดการสั่นใหว 7. ควรปิดกันสั่นในเลนซหรือกล้อง ประมาณนี้^^ จากคุณ : palanaka เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 12:11:24

ความคิดเห็นที่ 6 เปิด F ให้แคบสุด ISO น้อยสุด ชัตเตอร์ก็ตามที่ถายแล้วไม่ over มากไปครับ จากคุณ : paefah เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 12:41:57

ความคิดเห็นที่ 7 ตาม คคห 5 เลยจ้าาาาา จากคุณ : 9TonEos เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:14:11

ความคิดเห็นที่ 8 ปกติแถวน้ำตก .. ถ้ารับแสงเต็มๆ จะวัดแสงได้ 1/250 วินาที, f/8 ที่ ISO 100 ถ้าแสงน้อย  ก็จะเหลือราวๆ 1/30 วิ น้ำตกส่วนใหญ่ .. ไม่ค่อยโดยแสง ฉนั้นเราเอา 1/30 มาเป็นเกณฑ์แล้วกัน ----------------------- ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าจะให้สายน้ำนุ่มๆสวยๆ ก็ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ช้าๆ 0.5 - 5 วินาที เป็นตัวเลขที่เหมาะสม(ขึ้นกับความแรงกระแสน้ำ) ถ้าเราเปิดใช้ speed นั้น (1/30) .. ก็ได้ภาพน้ำตกที่น้ำกระเด็นกระเซ็น + น้ำที่ดูไหลแรง ไม่ใช่สายน้ำนุ่มๆ ถ้าเราลดเหลือ 1/2 .. เพื่อเวลาให้แสงเข้าขึ้น 4 stop (1/30 .. 1/15 .. 1/8 .. 1/4 .. 1/2) เราก็ต้องหรี่รูรับแสงลง 4 stop เพื่อให้แสงพอดี ก็คือ หรี่จาก f/8 เป็น .. f/11 .. f/16 .. f/22 .. f/32 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:20:45

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเลนส์เรา มี f/32 .. ก็ "น่าจะ" ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่มี .. ต้องใช้ f/22 แทน หรือแสงสว่างเพิ่มขึ้นอีกนิด .. จาก 1/30 + f/8 + ISO 100 เป็น 1/60 ภาพมันก็จะ over ทันที แต่ถ้าเราใส่ฟิลเตอร์เพื่อตัดแสงออก 3 stop (ND 8) แทนที่จะต้องใช้ 1/2วิ + f/32 .. ก็ลดเหลือ  f/11 ได้ พอให้ภาพน้ำตกที่เห็นน้ำไหลนุ่มๆนวลๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:24:31

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ว่าไปข้างบน .. ถ่ายน้ำตกตอนแสงน้อยๆ เท่านั้นเองนะ! แสงน้อยขนาดเปิดหน้ากล้อง 1/30s ที่ f/8, ISO 100 และน้ำตกไหลแรง & น้ำมาก .. จนขนาดที่ว่าใส่ filter ตัดแสงจนเปิดหน้ากล้องนาน 1/2 วินาที ก็ยังได้ภาพน้ำตกที่ "นุ่มๆ" แต่ถ้าเป็นน้ำตกที่รับแสงสว่างเต็มๆ อย่างเช่นน้ำตกวชิรธารตอนบ่ายๆ .. อันนี้มีปัญหาแน่ เพราะน้ำตกจะสว่างจัด จนต้องใช้ speed 1/125 & f/8 ใส่ ND ตัดแสง 3 stop .. ก็ตัดได้ จนเปิดหน้ากล้องนานสุดได้แค่ 1/15 .. เกินกว่านั้นแสงเข้ามากไปจนภาพโอเวอร์ หรี่รูรับแสงช่วย ลงไปอีก 4 stop เป็น f/22 .. ทำให้เราเปิดหน้ากล้องนานเพิ่มขึ้น 4 stop  .. จาก 1/15 เป็น 1 วินาทีเต็มๆ น้ำตกนุ่มนวลขึ้น แต่ เปิดหน้ากล้องนาน 1 วิ .. มันต้องการขาตั้งกล้องดีๆ เพราะคนทั่วไป ปกติๆ ไม่มีทางถือกล้องให้นิ่งนานขนาดนั้นได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:29:45

ความคิดเห็นที่ 11 OK .. ตอนนี้ เรามีขาตั้งกล้อง เปิดหน้ากล้อง 1 วินาที, f/22 และ ISO 100 .. ทุกอย่างน่าจะดีใช่ไหม?? ก็ยังไม่ใช่อีก 1 วิ, f/22 .. แสงเข้าพอดี แต่ภาพไม่คมเอาเสียเลย! เพราะเมื่อเปิดรูรับแสงแคบๆเมื่อไหร่ มันจะมีปัญหาที่เรียกว่า diffraction limit .. ทำให้เลนส์เทพ กับเลนส์กระป๋อง มีความไม่คม ใกล้เคียงกันมาก เลนส์เทพๆ .. ความคมชัดจะมี รูรับแสงต้องไม่มากกกว่า f/11 ครับ ที่ f/22 .. ไม่ว่าอย่างไร ภาพมันก็ฟุ้ง! ภาพน้ำตกที่คมๆชัดๆ สีสวยๆ ใน microstock ถึงยังคงขายได้ดิบได้ดี เพราะการถ่ายภาพน้ำตกให้ออกมาดีๆ .. มันต้อง "เฝ้ารอ" แสงที่ "เป๊ะ" ไม่ได้ต่างจากการถ่ายภาพนก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:36:36

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่ามันไม่เห็นยากอย่างที่น้าแมวคุยทับเลย ลองดูได้ครับ ปัญหาอีกอย่างที่หลายคนละเลย คือ .. ND ดีๆ มันแพงวุ้ย!!! ND ที่ขายกันทั่วๆไป .. แสงสีเพี้ยนได้อร่อยสนุกสนาน ถ่ายมาเป็นที่ระลึกหละ .. พอไหว แต่ถ้าถ่ายเพื่อขาย .. ลองดูแล้วกันครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:39:00

ความคิดเห็นที่ 13 ขึ้นกับสภาพแสงครับ ถ้าตัวน้ำตกมันอยู่นใต้ร่มไม้หมด หรือว่าฟ้าตอนนั้นมีเมฆมาก จนบังดาวงอาทิตย์หมด อันนี้ยิ่งสวรรค์ครับ เพราะวัดแสงง่ายมากกว่าที่มันโดนแดดเป็นจุดๆ ผมมี ND10 stop กับ CPL marumi หลังๆชอบใช้ cpl แทนครับ เพราะตัดแสงสะท้อนได้ด้วย อย่างที่บอกครับถ้า วันนั้นมีเมฆเยอะ อึมครึมๆ ้แค่ cpl ก็เอาอยู่ครับ เคยลากได้ 20s ครับกับ cpl เท่านั้น มันไม่เป็นสูตรตายตัว อยู่ที่สภาพแสงหน้างานตอนนั้นครัองไปดูครับ แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ขาตั้งกล้องครับ จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 16:47:27

ความคิดเห็นที่ 14 ยังไม่ได้เคลียร์อีก 2 ปัญหา 1. ผลปรากฏว่า ทำไม่ได้ค่ะ แสงเข้ามาไป รูปสว่างจ้าเลย ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือ ต้องตั้ง speed shutter ให้นานๆ (โหมด S) ตรงนี้ เข้าใจผิดครับ อย่างตัวอย่างที่ยกมาให้ดูข้างบน ถ้าแสงมันสว่าง 1/30, f/8 แล้วเราเข้าโหมด S, ตั้งเวลารับแสง = 1 วินาที กล้องวัดแสง, คำนวน .. พบว่า ถ้าจะให้แสงพอดี ต้องหรี่รูรับแสงลงมาที่ f/45 อ้าว?!??!! เลนส์เรา มันหรี่ได้แค่ f/22 เอง กล้องพยายามยังไง ก็หรี่ลงไป f/45 ไม่ได้ ครั้นจะลดระยะเวลาเปิดหน้ากล้อง ให้สั้นลง เป็น 1/4 วิ เพื่อให้แสงพอดี ก็ทำไม่ได้ เพราะเรา ถืออำนาจ บังคับมันให้เปิด 1 วิ เต็มๆ ภาพที่ได้ ก็เลยแสง over ไปเพียบ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 18:04:30

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาที่ 2 : ปล.1 ถ้าไม่มี ND filter ก็ถ่ายได้ใช่เปล่าค่ะ ใช่ แต่รับรองว่า น้องไม่อยากทำแน่ๆ และรับรองว่า ไม่มีใครอยากทำด้วย ถ้าไม่ใช่ตากล้องสายอุปกรณ์ บ้าพลัง!! การที่สายน้ำมันดูไหลนิ่ง และนุ่มนวล ฯลฯ เพราะหยดน้ำแต่ละหยด มันสะท้อนแสงและปรากฏบน pixel ภาพ เป็นทางยาวมากกว่า 1 pixel หยดน้ำนับจำนวนไม่ถ้วน สร้าง "เส้นแห่งแสง" ทับซ้อนกันไปๆมาๆ ทำให้เกิดแนวแสงนับล้านๆ ที่ทับซ้อนกันไปๆมาๆ ดูไม่ชัดเจน แต่นุ่มนวล ในขณะที่ต้นไม้ ใบหญ้า ก้อนหิน ฯลฯ สะท้อนแสงอยู่กับที่ .. สร้างภาพที่คมชัด สองสิ่งที่ตรงข้ามกัน ปรากฏชิดติดกัน  .. มันชวนพิศวงและน่ามอง --------------- ถ้าเราเปิดหน้ากล้องรับแสงสั้นๆ (ความเร็วชัตเตอร์สูง) แสงสะท้อนหยดน้ำ มันกรีดผ่านไม่กี่พิกเซล แล้วก็หยุด ภาพที่ได้ออกมา จึงแข็งกระด้าง แล้วถ้าไม่มี ND จะทำอย่างไร เพื่อให้ได้ภาพที่เส้นแห่งแสงนับล้าน กรีดทับซ้อน ?? ง่ายๆ 0. เปิดคู่มือ .. อ่านว่า ถ้าถ่ายภาพแบบถ่ายรัว (continuous shooting) ด้วยความเร็วสูงสุด แล้วต้องการถ่ายเรื่อยๆ & เรื่อยๆ ไม่หยุด ต้องตั้งความละเอียดภาพแค่ไหน ก็จำค่านั้นไว้ และตั้งค่านั้นๆ เมื่อจะถ่ายน้ำตก 1. ตั้งกล้องบนขาตั้ง เล็งไปยังน้ำตก ใช้ f/5.6 หรือ f/8 ตามปกติ โหมด Av, ชดเชยแสงซัก -1 stop เปิดโหมดถ่ายรัว ตั้งความละเอียด ตามที่จำได้จากคู่มือ 2. เอานิ้วชี้วางบนชัตเตอร์ นิ้วหัวแม่มือรองใต้กล้อง ตรงตำแหน่งชัตเตอร์เป๊ะ นับ 1-2-3 ให้น้ำตกฟัง ก่อนบีบนิ้วชี้ ที่อยู่บนชัตเตอร์ เข้าหานิ้วโป้ง เมื่อยเมื่อไหร่ ก็ปล่อยมือ 3. กลับบ้าน เอาภาพที่ได้มาซ้อนกัน จะด้วย photoshop หรือ image stack ก็ได้ทั้งนั้น จะได้ภาพที่น้ำตกนุ่มนวล สวยงาม (เพราะภาพมันซ้อนๆๆๆๆๆๆ กัน) ในขณะที่ ต้นไม้ ก้อนหิน ฯลฯ รอบๆข้าง .. คมกริบ ชัดเป๊ะ สีแน่น (เพราะใช้แค่ f/8) ------------- อ้อ .. มันผลาญชัตเตอร์เป็นร้อยๆ ต่อภาพเชียวนะ .. เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกันก่อน! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 18:16:30

ความคิดเห็นที่ 16 สปีดต่ำ + ขาตั้งกล้อง สปีดต่ำทำได้โดย 1. iso ให้ต่ำสุด 2. ปรับ F สูงสุด  F22 3. ถ้าเลนส์ซูมได้ ก็ซูมให้สุด เพราะยิ่งซูมมาก ก็จะช่วยทำให้สปีดต่ำลงได้อีก ถ้าทำ 3 ข้อนี้แล้วน้ำตกยังไม่พริ้ว ต้องมีตัวช่วย 4. ใช้ CPL ลดแสง ถ้าใส่ CPL แล้วยังไม่พริ้ว ก็ต้องรอจนเย็นๆหน่อย แสงเริ่มน้อย เดี๋ยวน้ำพริ้วเอง ถ้ารอจนเย็นไม่ได้ ก็ต้อง   5. หา ND มาช่วยลดแสง ถ้าทำ 4-5 ไม่ได้ ก็จบกัน อาจจะถ่ายคร่อมแล้วซ้อนเลเยอร์ได้มั้ง แต่เราทำไม่เป็นอะ ซับซ้อนเกินไป แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 21:10:38 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 21:09:36 จากคุณ : รักถั่ว เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 21:05:10

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ สงสัยต้องไปลองอีกหลายครั้งพอดู ^^ จากคุณ : AeyACaSsi เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:51:40