|
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 3 - 5 สิงหาคม 2550
Matt Damon สร้างสถิติใหม่ให้กับหนังเดือนสิงหาคม ด้วยการนำ The Bourne Ultimatum หรือภาคสามของสายลับ Jason Bourne ครองอันดับหนึ่ง Box Office แบบดีเกินคาด ในขณะที่หนังเข้าใหม่เรื่องอื่นๆ เปิดตัวกันได้ในระดับกลางๆ
The Bourne Ultimatum เรต PG-13 จากค่าย Universal เปิดฉายสุดสัปดาห์แรก ทำรายได้ไปถึง $69.3M จากจำนวน 3,660 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $18,930 เอาชนะภาคที่แล้ว The Bourne Supremacy ที่เปิดตัวได้ไป $52.5M เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2004 (แรงกว่าถึง 32%) ก่อนจะไปได้ถึง $176.1M หนังภาคสามนี้ยังคงกำกับโดย Paul Greengrass และมี Julia Stiles กับ Joan Allen ร่วมแสดงในบทบาทเดิม
สถิติเก่าที่หนังเดือนสิงหาคมทำไว้ ก็คือผลงานของ Rush Hour 2 ที่เปิดตัวอย่างถล่มทะลายถึง $67.4M เมื่อปี 2001 โดยภาคต่อ Rush Hour 3 มีกำหนดลงโรงสุดสัปดาห์หน้า เพื่อแย่งตำแหน่งคืนให้ได้ The Bourne Ultimatum ยังเป็นหนังที่เปิดตัวแรงเป็นอันดับสองของค่าย Universal เป็นรองเพียงแค่ The Lost World ที่ทำสถิติไว้ $72.1M เมื่อสุดสัปดาห์วันหยุดเทศกาลของเดือนพฤษภาคมปี 1997 และกลายเป็นแชมป์ประเภทหนังเปิดตัวแรงสุดในประวัติศาสตร์ขณะนั้นในทันที
Matt Damon กับบทบาทครั้งที่สามของ Jason Bourne ในภาคล่าสุด The Bourne Ultimatum ทำให้หนังได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวกอย่างมาก ในฐานะหนังแอ็คชั่นแห่งปี แม้ว่าจะเป็นหนังภาคต่อเรื่องที่ 11 ของปี และเป็นหนังภาคสามเรื่องที่ 5 ของปีนี้ หนังสามารถเปิดตัวได้เหนือกว่าหนังชุด James Bond หรือแม้กระทั่ง Mission: Impossible ทุกภาค โดยภาคล่าสุดของทั้งสองเรื่องดังกล่าวก็คือ Mission: Impossible III เปิดตัวด้วยรายได้ $47.7M เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และ Casino Royale ทำรายได้สุดสัปดาห์แรก $40.8M เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเหมือนกัน
นอกจากนี้ The Bourne Ultimatum ยังกลายเป็นหนังเรื่องที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ย้อนหลัง ที่เปิดตัวด้วยรายรับในระดับประมาณ $70M หลังจากที่ Transformers, Harry Potter and the Order of the Phoenix และ The Simpsons Movie ทำได้มาแล้ว ทุกเรื่องสร้างสถิติใหม่ๆ ให้กับหนังเดือนกรกฎาคม และส่งผลพวงข้ามมาถึงเดือนสุดท้ายปลายซัมเมอร์ โดยหนังส่วนใหญ่จะยังทำเงินได้ดีแบบไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องกัน
แชมป์สุดสัปดาห์ที่แล้ว แอนิเมชั่นสีลูกกวาด The Simpsons Movie กลายเป็นหนังที่รายได้ทรุดลงหนักกว่าใครใน top ten คือมากถึง 66% เพียงแค่สุดสัปดาห์ที่สองเท่านั้นเอง (เพราะแฟนตัวจริง แห่กันไปดูกันตั้งแต่สุดสัปดาห์แรกแล้ว) หนังทำเงินไปอีก $25.1M ทำรายได้ให้ Fox ไปแล้ว $128.1M จากที่ฉายมาสิบวัน คาดว่ารายได้สุดท้ายปลายโปรแกรมคงจะอยู่ที่ราวๆ $190M จากทุนสร้าง $75M ส่วนในตลาดโลก สุดสัปดาห์นี้หนังกวาดไปอีก $47.3M ทำรายได้นอกอเมริกาเหนือไปแล้ว $187M จาก 75 ประเทศ รวมรายรับทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ $315M หนังจะเข้าฉายในไทย 9 สิงหาคมนี้
หนังสำหรับครอบครัว เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่มะ-หมา Underdog จากค่าย Disney เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมาเป็นอันดับ 3 ด้วยรายได้ $11.6M จากจำนวน 3,013 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $3,845 โดยหนังพยายามจับกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆ ส่วนคิวฉายในไทย วางโปรแกรมไว้รับปิดเทอม 4 ตุลาคม
หนังตลกเรื่องล่าสุดของ Adam Sandler คือ I Now Pronounce You Chuck and Larry รายได้ลดลงไป 45% ในสุดสัปดาห์ที่สามของการเข้าฉาย ด้วยรายรับ $10.6M ทำเงินให้ Universal ไปแล้ว $91.8M มีโปรแกรมจะเข้าฉายในไทย 30 สิงหาคมนี้ ในขณะที่หนังเพลงย้อนยุค Hairspray ที่ฉายเป็นสุดสัปดาห์ที่สามเหมือนกัน ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไป $9.2M ลดลง 42% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำเงินให้ New Line ไปแล้ว $78.9M
ภาคห้าของพ่อมดหนุ่มน้อย Harry Potter and the Order of the Phoenix ได้ไปอีก $9.5M ในสุดสัปดาห์ที่สี่ของการฉาย ลดลง 46% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำรายได้รวมไปแล้ว $261M ขึ้นไปครองอันดับ 37 บนตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอเมริกาไปแล้วเรียบร้อย ตามหลังแอนิเมชั่น The Incredibles ที่ทำไว้ $261.4M เมื่อปี 2004 ส่วนในตลาดโลก Harry Potter and the Order of the Phoenix รับไปอีก $25.4M ในสุดสัปดาห์นี้ ทำให้ยอดรายได้รวมนอกอเมริกาเหนือตอนนี้อยู่ที่ $510M หรือรวมแล้ว $771M จากทั่วโลก ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ของปีนี้ รองจาก Pirates of the Caribbean: At World's End ($952M) และ Spider-Man 3 ($889M)
หนังรักของ Catherine Zeta-Jones เรื่อง No Reservations ลงมาอยู่อันดับ 7 ด้วยรายได้ $6.6M ในสุดสัปดาห์ที่สองของการฉาย ลดลง 44% จากสุดสัปดาห์แรก ทำเงินให้ Warner Bros. ไปแล้ว $24.2M จากที่ฉายมาสิบวัน คาดว่าจะไปได้ถึงประมาณ $45M มีคิวฉายในไทย 30 สิงหาคม
หนังฟอร์มยักษ์ Transformers ของผู้กำกับ Michael Bay ได้ไปอีก $6M ลดลง 48% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำรายได้รวมไปแล้ว $296.4M ขึ้นไปครองอันดับ 26 บนตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอเมริกา ไล่หลังภาคแรกของจอมสลัด Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ที่ทำไว้ $305.4M เมื่อปี 2003
หนังสำหรับวัยรุ่น พบกับความล้มเหลวติดต่อกันสองสัปดาห์เข้าไปแล้ว โดยหนังเข้าใหม่สองเรื่องสุดสัปดาห์นี้เปิดตัวได้แค่อันดับ 9 และ 10 ด้วยรายได้เฉลี่ยไม่ถึง $3,000 ซึ่งถือว่าไม่ค่อยดีนัก เรื่องแรก หนังตลกของ Andy Samberg เรื่อง Hot Rod จากค่าย Paramount เปิดตัวได้เงินไป $5.3M จากจำนวน 2,607 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้แค่ $2,037 ในขณะที่ Lionsgate เปิดฉายหนังวัยรุ่นเรื่อง Bratz ในจำนวน 1,509 โรง ได้เงินไปแค่ $4.2M หรือเฉลี่ยออกมาได้แค่ $2,789 เท่านั้นเอง
สุดสัปดาห์นี้มีหนังสี่เรื่อง ที่โดนเบียดหลุดจาก top ten ไปเรียบร้อย แอนิเมชั่นพ่อครัวตัวจี๊ด Ratatouille จาก Disney และ Pixar รายได้ร่วงลง 47% ในสุดสัปดาห์ที่ 6 ของการฉาย ทำเงินไปอีก $4M หรือรวมรายได้ขณะนี้ $188.2M แม้ว่าหนังจะได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ แต่ผลตอบรับเชิงรายได้กลับไม่เข้าเป้าเหมือนหนังของ Pixar เรื่องก่อนๆ คาดว่ารายรับคงไปหยุดที่ประมาณ $200M ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่แอนิเมชั่นเหล่าแมลงใน A Bug's Life ที่ทำไว้ $162.8M เมื่อปี 1998
หนังแอ็คชั่นภาคต่อจากค่าย Fox เรื่อง Live Free or Die Hard รับไปอีก $2.1M หรือร่วงลงถึง 62% ทำรายได้รวมไปแล้ว $130.2M คาดว่ารายได้จะไปหยุดที่ประมาณ $135M ทำรายได้รวมจากทั่วโลกไปแล้ว $309M
อีกสองเรื่องร่วงลงหนักหน่วงเลยทีเดียว ทั้งที่ฉายเป็นสุดสัปดาห์ที่สอง โดยหนังระทึกขวัญ I Know Who Killed Me จากค่าย Sony ที่แสดงนำโดย Lindsay Lohan รายได้ร่วงลง 67% ได้ไปอีก $1.2M โดยเพิ่งได้ไปแค่ $6.2M จากที่เข้าฉายมาสิบวัน อีกเรื่องคือหนังตลกนักกอล์ฟ Who's Your Caddy? ทำรายได้ไป $1.1M ร่วงลงถึง 60% จากสุดสัปดาห์ก่อน ฉายสิบวันได้ไปแค่ $4.8M เท่านั้นเอง
สุดสัปดาห์หน้าพบกับ Rush Hour 3 ภาคต่อของคู่หูคู่ฮาเจ้าเก่า Jackie Chan กับ Chris Tucker ที่คราวนี้บุกฝรั่งเศส, หนังตลกภาคต่อ Daddy Day Camp นำโดย Cuba Gooding Jr, หนังแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ Stardust แสดงนำโดย Claire Danes, Robert De Niro, Michelle Pfeiffer, Sienna Miller และหนังสยองขวัญ Skinwalkers
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 3 - 5 สิงหาคม 2550
# | Title | Aug 3 - 5 | Jul 27 - 29 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | The Bourne Ultimatum | $ 69,283,690 | 3,660 | 1 | $ 18,930 | 69,283,690 | Universal | ||
2 | The Simpsons Movie | 25,110,873 | 74,036,787 | -66.1 | 3,926 | 2 | 6,396 | 128,060,578 | Fox |
3 | Underdog | 11,585,121 | 3,013 | 1 | 3,845 | 11,585,121 | Buena Vista | ||
4 | I Now Pronounce You Chuck and Larry | 10,626,345 | 19,132,965 | -44.5 | 3,290 | 3 | 3,230 | 91,795,450 | Universal |
5 | Harry Potter and the Order of the Phoenix | 9,522,220 | 17,733,085 | -46.3 | 3,125 | 4 | 3,047 | 261,027,397 | Warner Bros. |
6 | Hairspray | 9,225,378 | 15,899,890 | -42.0 | 3,115 | 3 | 2,962 | 78,854,798 | New Line |
7 | No Reservations | 6,588,375 | 11,704,357 | -43.7 | 2,425 | 2 | 2,717 | 24,175,203 | Warner Bros. |
8 | Transformers | 6,021,472 | 11,643,129 | -48.3 | 2,419 | 5 | 2,489 | 296,379,328 | Paramount |
9 | Hot Rod | 5,310,711 | 2,607 | 1 | 2,037 | 5,310,711 | Paramount | ||
10 | Bratz | 4,208,455 | 1,509 | 1 | 2,789 | 4,208,455 | Lionsgate | ||
11 | Ratatouille | 3,987,800 | 7,455,594 | -46.5 | 1,940 | 6 | 2,056 | 188,246,213 | Buena Vista |
12 | El Cantante | 3,202,035 | 542 | 1 | 5,908 | 3,202,035 | Picturehouse | ||
13 | Live Free or Die Hard | 2,132,768 | 5,618,728 | -62.0 | 1,422 | 6 | 1,500 | 130,178,275 | Fox |
14 | I Know Who Killed Me | 1,165,378 | 3,506,291 | -66.8 | 1,320 | 2 | 883 | 6,231,700 | Sony |
15 | Who's Your Caddy | 1,092,324 | 2,756,661 | -60.4 | 962 | 2 | 1,135 | 4,803,661 | MGM |
16 | Becoming Jane | 972,066 | 100 | 1 | 9,721 | 972,066 | Miramax | ||
17 | Talk to Me | 674,089 | 801,709 | -15.9 | 187 | 4 | 3,605 | 2,840,675 | Focus |
18 | Rescue Dawn | 560,903 | 1,650,282 | -66.0 | 505 | 5 | 1,111 | 4,218,459 | MGM |
19 | Knocked Up | 503,730 | 1,227,605 | -59.0 | 392 | 10 | 1,285 | 146,284,175 | Universal |
20 | Sicko | 503,702 | 1,173,740 | -57.1 | 349 | 7 | 1,443 | 22,640,294 | Lionsgate |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :