Box Office สุดสัปดาห์ที่ 6 - 8 สิงหาคม 2542
สุดสัปดาห์นี้มีหนังใหม่จากสตูดิโอยักษ์เข้าฉายชนกันถึง 5 เรื่อง box office สัปดาห์นี้จึงดูคึกคักเป็นพิเศษ และต่างก็ร่ำรวยกันทั่วหน้า มีหนังทำเงินเกิน $20M ถึง 3 เรื่อง และมีอีก 3 เรื่องทำเงินเกินกว่าหลัก $10M โดยมีหนังค่ายใหญ่เข้าใหม่ถึง 5 เรื่อง ได้แก่ The Sixth Sense นำโดยคนอึด Bruce Willis จัดจำหน่ายโดย Buena Vista,The Thomas Crown Affair นำโดย Pierce Brosnan ประกบกับ Rene Russo จัดจำหน่ายโดย MGM, หนังซูเปอร์ฮีโร่Mystery Men จาก Universal, หนังอนิเมชั่นจาก Warner Bros. The Iron Giant และ Dick จาก Sony Pictures ในขณะที่หนังแม่มด The Blair Witch Project ก็ยังทำเงินอย่างไม่ราแรง คนอึด Bruce Willis ยังคงแสดงศักยภาพในการทำเงินให้วงการฮอลลีวู๊ดได้รับรู้อีกครั้งจากหนังเรื่องล่าสุดแนว suspense thriller The Sixth Sense ที่เปิดตัวสัปดาห์แรกทำรายได้ไป $26.7M จาก 2,161 โรง (ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่นับว่ามาก) รายได้เฉลี่ยต่อโรง $12,347 หนังทำลายสถิติเก่ารายได้หนังทำเงินสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมที่The Fugitive ของ Harrison Ford เคยทำไว้ $23.8M จาก 2,370 โรงเมื่อปี 1993 นอกจากนี้ยังเป็นหนังทำเงินเปิดตัวสูงสุดอันดับสองของ Bruce Willis (รองจาก Armageddon) และเป็นหนังเรื่องที่ 10 ในรอบทศวรรษนี้ของคนอึดที่ขึ้นอันดับหนึ่ง box office หนังเขียนบทและกำกับโดย M. Night Shyamalan เป็นเรื่องของนักจิตวิทยาเด็ก (รับบทโดย Bruce Willis) ที่ต้องเข้าไปดูแลเด็กชายที่อ้างว่าถูกวิญญาณรบกวน เป็นที่น่าสังเกตว่า The Sixth Sense ทำเงินได้สูงมาก (ดูจากตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อโรงซึ่งดีที่สุดในจำนวนหนัง top-10 ด้วยกัน) แม้ว่าจะได้มาแค่ $26.7M ทั้งที่ได้โรงฉายแค่ 2,161 โรงเท่านั้น เทียบกับหนังฟอร์มยักษ์ทั่วไปในยุคนี้ ซึ่งมักจะเปิดตัวไม่น้อยกว่า 2,500-3,000 โรง ทั้งนี้ก็คงจะเป็นเพราะสัปดาห์นี้มีหนังใหญ่ๆเข้าฉายชนกันถึง 5 เรื่อง ก็เลยต้องแบ่งๆโรงกันไป และคาดว่าหนังโดนผลกระทบจากแม่มดThe Blair Witch Project ไปพอสมควรเพราะเป็นหนังที่จับตลาดผู้ชมกลุ่มเดียวกัน แถมยังโดน The Haunting และ Deep Blue Sea ตอดคนดูไปอีกส่วนหนึ่งด้วย ไม่งั้นคงทำเงินมากกว่านี้แน่ (จะเห็นว่ารายได้สูสีใกล้เคียงกับThe Blair Witch Project แบบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว จำนวนโรงก็ใกล้เคียงกัน, รายได้สัปดาห์นี้ก็ยังสูสีกัน พลอยทำให้รายได้เฉลี่ยต่อโรงใกล้เคียงกันไปด้วย)
อันดับ 2 ตามมาติดๆ หนังเขย่าขวัญอินดี้ที่ทำออกมาเหมือนจริงมากThe Blair Witch Project กำกับโดย Daniel Myrick และ Eduardo Sanchez หลังจากฉายแบบชิมลางไป 2 สัปดาห์แรก และโกยเงินอย่างน่าตื่นตะลึงทั้งวงการ $29.2M จากการเปิดฉายแบบเต็มที่ 1,101 โรงในสัปดาห์ที่ 3 รวมเป็น 2,142 โรง และแล้วสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 4 ของการเปิดฉาย หนังเกี่ยวกับแม่มดเรื่องนี้ก็ได้โรงเพิ่มอีก 1,041 โรง ทำรายได้ไปอีก $24.3M รวม 4 สัปดาห์กวาดไปแล้ว $80.0M รายได้ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วแค่ 17% รายได้เฉลี่ยต่อโรง $11,367 ก็ยังน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ หนังลงทุนสร้างไปเพียง $60,000 โดยประมาณ แต่ขายให้ Artisan ไปจัดจำหน่ายด้วยตัวเลข $1.1M คาดว่าจะผ่านร้อยล้านได้ในราววันเสาร์หน้า อันดับ 3 หนัง romantic comedy เรื่องใหม่ของผู้หญิงบานฉ่ำ Julia Roberts, Runaway Bride ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 2 อดีตแชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากค่าย Paramount สัปดาห์นี้ทำรายได้ไปอีก $20.8M ลดลงไป 41% รวม 10 วันฟันไปแล้ว $73.8M คราวนี้เธอควงคู่กับขวัญใจคนเดิม Richard Gere ที่เคยทำให้คนไทยรู้จักเธอในฉายา"บานฉ่ำ"จาก Pretty Woman หนังกำกับโดยผู้กำกับคนเดิมจากเรื่องเดียวกันที่ส่งเธอขึ้นสู่ฟากฟ้าดาราดัง Garry Marshall คาดว่าเจ้าสาวหนีงานวิวาห์จะทำเงินไปได้ถึงราวๆ $130-140M ก่อนออกจากโรงใหญ่ จากทุนที่ลงไป $70M แบ่งกันรวยระหว่าง Paramount ผู้จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือและ Buena Vista ผู้ดูแลตลาดประเทศอื่นทั่วโลก อันดับ 4 เป็นหนังรีเมคแนวแอ็คชั่นจาก MGM/UA, The Thomas Crown Affair นำแสดงโดย 007 คนปัจจุบัน Pierce Brosnan ประกบกับ Rene Russo กำกับโดย John McTiernan ที่คอหนังแอ็คชั่นรู้จักกันดีจากDie Hard,Predator หนังโดนเลื่อนกำหนดฉายจากเดิมเดือนมิถุนายน ทำเงินสัปดาห์แรกนี้ไป $14.6M จากจำนวน 2,427 โรง รายได้เฉลี่ย $6,016 ต่อโรง (หนังเรื่องก่อนหน้าของ Pierce Brosnan ที่ไม่ใช่ชุดเจมส์ บอนด์คือ Dante's Peak ทำรายได้สัปดาห์แรกไป $18.5M เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1997) คาดว่าจะมีผลไปถึง The World Is Not Enough หนัง 007 ตอนล่าสุดซึ่งมีกำหนดเปิดฉาย 19 พฤศจิกายนนี้ ฉลามยักษ์ Deep Blue Sea จาก Warner Bros. ของผู้กำกับ Renny Harlin นำแสดงโดย Samuel L. Jackson มาเป็นอันดับ 5 รายได้สัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 2 ทำไปอีก $11.2M ลดลง 41% รวมรายได้ 12 วันงาบไปแล้ว $45.5M คาดว่ากว่าจะอิ่มคงหม่ำไปประมาณ $75M หนังแนว super hero แหวกแนวจาก Universal ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูน,Mystery Men นำแสดงโดย Ben Stiller, William H. Macy, Janeane Garofalo และ Paul Reubens เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรก ทำรายได้มาเป็นอันดับ 6 ได้ไป $10M จากจำนวน 2,136 โรง เฉลี่ยแล้ว $4,690 ต่อโรง จากทุนสร้าง $65M และงบโฆษณาอีกอื้อซ่า อันดับ 7 หนังซุปเปอร์ฮีโร่สมองกล Inspector Gadget ที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเรา ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ตกจากอันดับ 5 ทำรายได้ไปอีก $9.2M ลดลง 35% รวม 17 วันกวาดไปแล้ว $64.8M, ส่วนอันดับ 8The Haunting ของ DreamWorks วูบลงไป 58% ทำรายได้ไปอีก $6.4M จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่ 3 เหมือนกัน อันดับ 9 หนังอนิเมชั่นเรื่องใหม่จาก Warner Bros.,The Iron Giant เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรก หนังเปิดฉายใน 2,179 โรง ทำรายได้ $5.7M เฉลี่ย $2,631 ต่อโรงเท่านั้น อาศัยจังหวะเหมาะๆจากการที่Tarzan หนังอนิเมชั่นจาก Disney ซึ่งเป็นเจ้าตลาดเริ่มซาลงพอดี เป็นอีกครั้งที่ Warner Bros. ล้มเหลวกับความพยายามท้ารบกับดิสนี่ย์เหมือนเมื่อครั้งที่Quest for Camelot ออกฉายดักหน้า Mulan แต่ก็สู้ไม่ได้เพราะทำเงินไปแค่ $6M จาก 3,107 โรงเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 1998 รายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ไปแค่ $1,945 เท่านั้น The Iron Giant พากย์เสียงโดยดาราชื่อดังตามธรรมเนียมหนังอนิเมชั่น ซึ่งคราวนี้ยักษ์เหล็กให้เสียงพากย์โดย Jennifer Aniston, Christopher McDonald, และ Harry Connick Jr., เป็นเรื่องของหุ่นเหล็กที่บังเอิญตกไปอยู่ในเมืองเล็กๆในรัฐ Maine ช่วงทศวรรษที่ 1950 หนังได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก ทั้งที่ไม่มีจุดขายที่แข็งแกร่งอย่างThe Rugrats Movie หรือ The Prince of Egypt สัปดาห์ที่ 5 ของหนังลามกวัยรุ่นอเมริกันชน American Pie ตกจากอันดับ 6 มาอยู่อันดับ 10 ทำรายได้ไป $4.1M ลดลง 39% รวมรายได้ขณะนี้ $85.5M หลุดจาก top-10 ซะแล้วหลังจากยื้ออยู่หลายสัปดาห์Star Wars: Episode I ตกมาอยู่อันดับ 11 จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่ 12 ทำรายได้ไปอีก $2.2M รวมรายได้ตอนนี้ฟันไปแล้ว $412.8M สัปดาห์นี้ลดลงไป 35% อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลังจากที่แผ่วลงในระดับ 15-25% มาหลายสัปดาห์ คาดว่ารายได้สุดท้ายก่อนออกจากโรงใหญ่จะอยู่ในราวๆ $425M ตอนนี้กำลังจะแซง The Lost World ขึ้นอันดับ 8 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลเมื่อรวมรายได้ทั่วโลก หนัง comedy เรื่องใหม่จากค่าย Sony, Dick นำแสดงโดย Kirsten Dunst และ Michelle Williams เปิดฉายในจำนวน 1,522 โรง อยู่อันดับ 12 ทำรายได้ไปแค่ $2.2M เฉลี่ยต่อโรงแค่ $1,522 เท่านั้น รวมรายได้ที่ฉายล่วงหน้าตั้งแต่วันพุธเป็น $3.4M คงเป็นเพราะกลุ่มเป้าหมายของหนังเรื่องนี้ก็คือกลุ่มวัยรุ่นกำลังโดนแม่มดกวาดเข้าโรงไปดูThe Blair Witch Project ก็เลยตกอยู่ในความลำบากอย่างช่วยไม่ได้ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นสาวๆที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีประวัติศาสตร์ Watergate ยุค 1970 ที่ Nixon เป็นประธานาธิบดี นับว่าน่าผิดหวังมากทั้งที่หนังได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก Tarzan ของ Disney ตอนนี้ยืนแป้นอยู่อันดับที่ 4 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ ตอนนี้ทำรายได้รวมไปแล้ว $161.9M ตกมาอยู่อันดับ 13 ก่อนราโรงที่ตัวเลขประมาณ $165-170M แล้วไปลุยตลาดนอกอเมริกาต่อ หนังอื้อฉาวประจำซัมเมอร์นี้, Eyes Wide Shut, หลุดจาก top-10 ไปเหมือนกัน ทั้งที่ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 4 เท่านั้น อยู่อันดับ 14 ทำรายได้ไปอีก $1.6M วูบลงไปถึง 63% รายได้รวมขณะนี้ $52.1M จากทุนสร้าง $65M อย่างเก่งก็ไปได้แค่ $55-60M เท่านั้น ที่หลุดจาก top-10 อีกเรื่องคือหนัง comedy ยอดฮิตจาก Sony ที่กำลังฉายในบ้านเรา,Big Daddy ของ Adam Sandler สัปดาห์ที่ 7 นี้ทำรายได้รวมไปแล้ว $156.1M คาดว่าจะทำรายได้ถึงระดับ $160M ก่อนจะออกไปโกยเงินจากตลาดวิดีโอต่อ หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า (ศุกร์ 13 สิงหา) Bowfinger จาก Universal นำแสดงโดย Steve Martin และ Eddie Murphy เปิดฉาย พร้อมด้วยหนังอื้อฉาวเกี่ยวกับคดียาเสพติดในเมืองไทยBrokedown Palace จาก Fox และ Detroit Rock City จาก New Line
|
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :