Box Office สุดสัปดาห์ที่ 20 - 22 ธันวาคม 2545
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)

Middle Earth ระอุอีกครั้ง เมื่อ "ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ" The Lord of The Rings: The Two Towers ตอนที่ 2 ของมหากาพย์ภาพยนตร์แฟนตาซี จากงานเขียนของ J.R.R. Tolkien ที่กำกับโดย Peter Jackson เจ้าเก่า บดขยี้ Box Office อย่างถล่มทลาย ด้วยรายได้สุดสัปดาห์ 3 วัน (ศุกร์ถึงอาทิตย์) สูงถึง $62M หรือนับรวม 5 วัน จากวันพุธที่เริ่มเปิดฉากรบ กวาดไปแล้วถึง $102M ในเวลารวม 5 วัน ทั้งที่หนังยาวถึง 179 นาที ซึ่งทำให้ลงรอบฉายได้น้อยกว่าหนังทั่วๆ ไป เหนือกว่าภาคแรก The Fellowship of the Ring ถึง 31% ในช่วงเวลา 3 วันสุดสัปดาห์ หรือ 36% เมื่อมองภาพรวม 5 วันแรก เมื่อหนึ่งปีเต็มที่ผ่านมา (21-23 ธันวาคม 2001)

The Lord of The Rings: The Two Towers เป็นผลงานการกำกับของ Peter Jackson สร้างจากตอนที่ 2 ในนวนิยายไตรภาคเรื่องเยี่ยมของ J.R.R. Tolkien ที่เขียนไว้เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ด้วยทุนสร้างสูงถึง $270M ลงมือสร้างพร้อมกันรวดเดียว 3 ภาค และจะเปิดฉายปีละ 1 ภาคในเดือนธันวาคม ตั้งแต่ปี 2001-2003 เป็นเรื่องราวของการแย่งชิงแหวน The One Ring ซึ่งเป็นแหวนที่มีฤทธิ์ทำให้ผู้เป็นเจ้าของ ได้ครอบครองโลกได้อย่างง่ายดาย นำแสดงโดย Elijah Wood, Billy Boyd, Dominic Monaghan, Ian McKellen, Sean Astin, Ian Holm, Christopher Lee, Viggo Mortensen, Orlando Bloom, Cate Blanchett, Liv Tyler, John Rhys-Davies, Hugo Weaving และตัวละครที่เพิ่มจากตอนแรกคือ กอลลัม ซึ่งในตอนแรกปรากฏตัวแบบลางๆ คราวนี้จะได้เห็นกันแบบเต็มๆ ตาเสียที พร้อมฉากรบที่ยิ่งใหญ่อย่างน่าตื่นตะลึง

The Lord of The Rings: The Two Towers เฆี่ยนสถิติเก่าหนังเปิดตัวในเดือนธันวาคมที่ The Fellowship of the Ring ทำไว้เมื่อ 21-23 ธันวาคมปีที่แล้ว $47.2M ในช่วง 3 วันสุดสัปดาห์ หรือ $75.1M ในช่วง 5 วันแรก โดยปีนี้ The Two Towers เปิดฉายในจำนวน 3,622 โรง เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมาสูงถึง $17,120 ด้วยจำนวนรวมทั้งสิ้น 6,633 ก็อปปี้ (The Fellowship of the Ring เข้าฉายในจำนวน 3,359 โรง เฉลี่ยออกมาได้ $14,055 ต่อโรง ด้วยจำนวน 5,700 ก็อปปี้)

นอกจากนี้ The Lord of The Rings: The Two Towers ยังเพิ่งได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจำนวน 2 สาขา คือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า และผู้กำกับยอดเยี่ยม New Line Cinema แจ้งว่า ในช่วง 5 วันเดียวกันนี้ หนังลงโรงในอีก 26 ประเทศ และกวาดรายได้รวมไปแล้วประมาณ $85M ด้วยจำนวนราว 5,000 ก็อปปี้ สำหรับในไทยจะลงจอตั้งแต่ 25 ธันวาคมนี้ ก่อนหน้านี้ตอนแรก The Fellowship of the Ring กวาดรายได้จากทั่วโลกไปทั้งสิ้นกว่า $860M ส่วนผลงานของ The Two Towers จะไปได้ถึงไหน ต้องรอดูกันไป สำหรับตอนที่ 3 อันเป็นตอนจบ ในชื่อว่า The Return of the King มีโปรแกรมลงโรงตั้งแต่วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2003

Warner Bros. จับเอาหนังโรแมนติกเบาสมองเรื่องใหม่ของ Sandra Bullock ที่พบกับ Hugh Grant ใน Two Weeks Notice กำกับโดย Marc Lawrence (ผู้เขียนบท Miss Congeniality, Forces of Nature) เรื่องของทนายสาวเจ้าอารมณ์กับเศรษฐีหนุ่มหล่อ เปิดฉายสัปดาห์แรก ปะทะกับหอคอยคู่พิฆาตแบบไม่ยำเกรง ผลรายได้ออกมา $14.3M เฉลี่ยต่อโรงออกมา $5,201 หนังเรื่องนี้มีกำหนดลงจอในไทย 17 มกราคมนี้เอง

แชมป์รายได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หนังแนวรักเบาสมองจาก Sony เรื่อง Maid In Manhattan แสดงนำโดย Jennifer Lopez และ Ralph Fiennes กำกับโดย Wayne Wang (Anywhere But Here, The Joy Luck Club) สัปดาห์นี้หล่นมาอยู่อันดับ 3 รายได้ร่วงลง 43% ได้ไปอีก $10.7M รวมฉายมา 10 วันเก็บไปแล้ว $35.3M คาดว่าอาจไปได้ถึง $75-80M มีโปรแกรมต้อนรับวาเลนไทน์ในไทย 14 กุมภาปีหน้า

หลังจากห่างหายไปจากจอเงินเกือบสามปี Leonardo DiCaprio กลับมาแล้วในหนังดราม่าย้อนยุคเรื่อง Gangs of New York ร่วมแสดงโดย Daniel Day-Lewis, Cameron Diaz และ Liam Neeson ฝีมือกำกับของ Martin Scorsese หนังเปิดตัวทำรายได้ไป $9.5M จากจำนวนเพียง 1,504 โรง เฉลี่ยต่อโรงเลยออกมาดีมากถึง $6,314 ซึ่งสูงเป็นอันดับสองของ Top-10 รองจาก ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ แม้รายได้เปิดตัวจะไม่เปรี้ยงปร้างอย่างเคย ด้วยจำนวนโรงน้อยนิด, ด้วยความยาวถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที และต้องชนกับช้างแห่งปีที่ใครๆ ต้องหลบ แต่สัปดาห์หน้า Gangs of New York จะได้โรงเพิ่มจากผู้จัดจำหน่ายคือ Miramax รวมเป็นจำนวนถึงราว 2,150 โรง แต่อาจต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องปะทะกับหนังใหม่อีกเรื่องของ Leonardo DiCaprio เองคือ Catch Me If You Can ที่กำกับโดย Steven Spielberg และมีแม่เหล็กอย่าง Tom Hanks ร่วมแสดง

ล่าสุด Gangs of New York ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำปีล่าสุดถึง 5 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า, ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม ในภาพยนตร์ดราม่า (Daniel Day-Lewis), ผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Cameron Diaz), ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Martin Scorsese) และ เพลงประกอบยอดเยี่ยม “The Hands That Built America” ของ U2

หนังดราม่าเบาสมองเรต PG-13 เกี่ยวกับการแข่งขันดุริยางค์เรื่อง Drumline จากค่าย Fox แสดงนำโดย Orlando Jones, Nick Cannon, Zoe Saldana รายได้ในสัปดาห์ที่สองลดลง 44% ได้ไปอีก $7.1M หล่นจากอันดับ 3 มาอยู่ 5 ฉายมา 10 วันเก็บไปแล้วเหนาะๆ $22.4M คาดว่าคงไปได้ถึงระดับ $50-55M

อันดับ 6 เป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องใหม่จาก Paramount ที่เอาใจคนดูกลุ่มครอบครัวด้วย The Wild Thornberrys สร้างจากซีรีส์ยอดฮิตทาง Nickelodeon เปิดฉายในจำนวนมากถึง 3,012 โรง ทำเงินกลับมาเพียง $6M เฉลี่ยต่อโรงได้มาแค่ $1,997 ..ยังพอมีหวังในช่วงปีใหม่ จากสถิติเก่าที่หนังแอนิเมชั่นแนวสำหรับครอบครัว ที่เข้าฉายในช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนๆ อย่างเช่น Jimmy Neutron: Boy Genius, The Emperor's New Groove และ The Prince of Egypt แต่ละเรื่องสามารถทำรายได้ก่อนออกจากโรงใหญ่ไปราว 6-9 เท่าของรายได้สุดสัปดาห์แรก ทำให้พอจะคาดได้ว่า The Wild Thornberrys คงจะทำเงินไปได้ในแนวทางเดียวกันด้วย

หนังตลกเรื่องใหม่ของ Rob Schneider The Hot Chick สัปดาห์นี้รายได้ลดลง 38% เก็บได้อีก $4.6M ฉายมา 2 สัปดาห์หรือ 10 วัน Buena Vista เก็บไปได้ $13.8M คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ $30M กำหนดฉายในไทยคือ 24 มกราคม

จากอันดับ 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนัง Sci-Fi ภาค 10 จาก Paramount เรื่อง Star Trek: Nemesis ตกรวดเดียวมาอยู่อันดับ 8 รายได้หล่นฮวบฮาบถึง 76% แม้จะเป็นปกติของหนังแนว Sci-Fi ที่จะร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากแฟนพันธุ์แท้แห่ไปตีตั๋วดูกันหมดแล้ว แต่ยังโดนอิทธิฤทธิ์ของ ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ ที่เปิดฉายตามหลังมาแค่ 5 วัน เจอซ้ำเข้าแบบเต็มๆ อย่างน่าเห็นใจ หนังได้เงินไปอีก $4.4M ฉายมา 10 วันเพิ่งเก็บไปได้ $26.5M คาดว่าคงไปหมดแรงแถวๆ $35M (จากทุนสร้าง $60M) กลายเป็นหนัง Star Trek ที่ได้เงินน้อยที่สุดเท่าที่ลงจอใหญ่มา ส่วนในไทย วางโปรแกรมไว้ 28 กุมภาพันธ์

Harry Potter and the Chamber of Secrets รายได้ร่วงลงเพียง 31% ทำเงินให้ Warner Bros. ไปอีก $4.4M รวมรายได้ขณะนี้ $228.8M จากที่ฉาย 6 สัปดาห์ ขยับขึ้นไปครองอันดับ 30 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ แซงหน้าหนังระทึกขวัญ Signs ที่ทำได้ $227.3M ส่วนสายลับรหัส 007 Die Another Day หล่นจากอันดับ 4 มาปิดท้าย top ten ด้วยรายได้อีก $4M ลดลง 48% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายได้ขณะนี้ $138.5M จาก 5 สัปดาห์

มาที่หนังที่ฉายแบบจำกัดโรงกันบ้าง งานกำกับชิ้นแรกของ Denzel Washington เรื่อง Antwone Fisher ทำรายได้ไป $210,013 จากจำนวน 15 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $14,000 ผู้จัดจำหน่ายคือ Fox Searchlight รายงานว่า ผู้ชมเกือบทั้งหมดคือ 98% บอกว่าหนังอยู่ในระดับดีมาก ไปจนถึงยอดเยี่ยม ในวันคริสต์มาส หนังเรื่องนี้จะได้โรงเพิ่มไปในจำนวน 25 เมือง รวมทั้งสิ้นราว 180 โรง และจะเพิ่มอีกระลอกในวันขึ้นปีใหม่ และสุดสัปดาห์ที่ 10 มกราคมตามลำดับ

Media Partners ร่วมกับ Bollywood Pictures เปิดฉายหนังอินเดียแนวระทึกขวัญเรื่อง Kaante ที่ถ่ายทำใน Los Angeles ทั้งเรื่อง ในจำนวนแค่ 26 โรง เก็บไปได้ถึง $425,975 เฉลี่ยออกมาสูงถึง $16,384 หนังเรื่องนี้แสดงนำโดย Amitabh Bachchan (ที่คนไทยคงคุ้นชื่อกันดี) กำกับโดย Sanjay Gupta

หนังดราม่าเกี่ยวกับยาเสพย์ติดจากค่าย Paramount เรื่อง Narc แสดงโดย Jason Patric และ Ray Liotta ที่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ เปิดฉายได้เงินไป $63,303 จากจำนวนแค่ 6 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาดีมากถึง $10,550 หนังเรื่องนี้จะได้โรงเพิ่มไปเป็นประมาณ 800 โรงในสุดสัปดาห์ที่ 10 มกราคมปีหน้า

Adaptation หนังดราม่าเบาสมองจาก Sony กำกับโดย Spike Jonze (Being John Malkovich) แสดงโดย Nicolas Cage, Meryl Streep, Chris Cooper เพิ่มโรงไปเป็น 20 เมือง และเก็บรายรับกลับมาถึง $1.1M จากจำนวน 109 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาแบบแน่นๆ ถึง $10,165 รายได้รวมขณะนี้ $2.1M จาก 3 สัปดาห์

มีหนัง 4 เรื่องถึงคิวโดนเบียดหล่นจาก top-10 ไปก็คือ เรื่องแรก หนังครอบครัวประจำเทศกาลจากค่าย Disney เรื่อง The Santa Clause 2 ยังคงไปได้เรื่อยๆ รายได้สัปดาห์นี้ลดลงไปเพียง 21% ได้ไปอีก $3.2M ฉายมา 8 สัปดาห์กวาดไปแล้วอย่างอบอุ่น $129.8M คาดว่าอาจไปได้ถึงระดับ $140-145M ซึ่งใกล้เคียงกับภาคแแรกเมื่อปี 1994 ที่ทำรายได้รวมไว้ $144.8M

เรื่องต่อมา Analyze That รายได้ร่วงลงฮวบฮาบถึง 56% ได้ไปอีก $2.4M Warner Bros. เพิ่งถอนทุนไปได้ $24M คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ ระดับ $30M ห่างชั้นมากเมื่อเทียบกับภาคแรก Analyze This ที่เก็บไปได้ถึง $106.8M เมื่อปี 1999

อีก 2 เรื่องคือหนังแอนิเมชั่นทุนหนักจาก Disney เรื่อง Treasure Planet เก็บไปแล้ว $29.9M คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ $36M แค่นั้นเอง และหนังดราม่าแนวอาชญากรรมจาก Universal เรื่อง Empire ที่แสดงโดย John Leguizamo, Denise Richards, Isabella Rossellini ทำรายได้รวมไปแล้ว $13.2M คาดว่าจะไปได้ถึง $17M

สัปดาห์หน้า หลังเทศกาลคริสต์มาสผ่านพ้นไป ย่างเข้าสู่ปีใหม่ หนังน่าดูที่ลงโรงได้แก่ Catch Me If You Can หนังไล่ล่าแนวตลกเบาสมอง สร้างจากชีวิตจริงของยอดนักต้มตุ๋นนามว่า Frank Abagnale กำกับโดย Steven Spielberg แสดงโดย Leonardo DiCaprio และ Tom Hanks อีกเรื่องเป็นหนังแฟนตาซี/ครอบครัว สร้างจากนิทานระดับคลาสสิก Pinocchio เคยสร้างเป็นหนังทั้งแบบการ์ตูนและคนแสดงจริงๆ กันแล้วหลายครั้ง แต่คราวนี้เป็นฝีมือเขียนบท, อำนวยการสร้าง, กำกับ และนำแสดงของ Roberto Benigni จาก Life Is Beautiful โดยมี Nicoletta Braschi ภรรยาในชีวิตจริง ร่วมแสดงด้วยตามเคย

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

• VARIETY.Com
• Entertainment Insiders: Weekend Gross
• Yahoo! Movies Top Box Office
• ShowBIZ Daily Box Office Report
• Box Office News: ACNielsen EDI
• Box Office สุดสัปดาห์ย้อนหลัง

top