 |
|
|
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 23 - 26 ธันวาคม 2548
เทศกาลวันหยุดยาวคริสต์มาส มีหนังลงโรงกันหลายเรื่อง แต่ที่น่าสนใจ ก็คือการขับเคี่ยวระหว่างหนังฟอร์มยักษ์สองเรื่อง แต่ในที่สุด King Kong ลิงยักษ์จาก Universal ก็เฉือนเอาชนะ The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe ตู้พิศวงของ Disney และครองแชมป์ต่อไปได้แบบโดนหายใจรดคอ ในขณะเดียวกัน ก็มีการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในหมู่หนังใหม่ด้วยกันเอง หนังตลกเรื่องใหม่ของ Jim Carrey เรื่อง Fun with Dick and Jane นำลิ่วกว่าใคร เอาชนะหนังตลกภาคต่อของ Steve Martin เรื่อง Cheaper by the Dozen 2 ไปแบบสบายๆ และมีหนังอีกสองเรื่องที่เปิดตัวในวันอาทิตย์คือวันคริสต์มาส และเข้ามาติด top-20 กับเขาด้วยก็คือ หนังรักเบาสมอง Rumor Has It... และหนังสยองขวัญ Wolf Creek
แม้จะโดนท้าทายจากหนังใหม่หลายเรื่อง ที่นัดกันลงโรงชิงส่วนแบ่งการตลาด แต่ลิงยักษ์ของ Peter Jackson ก็เอาตัวรอด ครองแชมป์รายได้ต่อเป็นสุดสัปดาห์ที่สอง King Kong กวาดไปอีก $33.3M ในช่วงวันหยุดยาวสี่วัน จากวันศุกร์ถึงจันทร์ ฉายมา 13 วัน รับทรัพย์ไปแล้ว $120.6M เมื่อดูรายได้สามวันสุดสัปดาห์ จากวันศุกร์ถึงอาทิตย์ อันเป็นมาตรฐานการเปรียบเทียบของ Box Office อเมริกาเหนือ พบว่าหนังทำรายได้ไป $21.3M ลดลงค่อนข้างจะหนักหน่วงถึง 58% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว อีกทั้งเป็นวันหยุดยาว ซึ่งน่าจะไปได้สวยกว่านี้
ในวันศุกร์และเสาร์ King Kong และ The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe ทำรายได้มาใกล้เคียงกัน แต่พอวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันคริสต์มาส ลิงยักษ์กลับได้แรงหนุนจากผู้ชมมากกว่า จนทำให้แซงนำ The Chronicles of Narnia ไปได้ สำหรับรายได้รวมในตลาดโลก สุดสัปดาห์นี้ King Kong เก็บไปได้อีกราว $34M รวมรายได้ในประเทศนอกอเมริกาเหนือทำไปแล้ว $153.6M หรือรวมจากทั่วโลกขณะนี้ $274M จากทุนสร้าง $207M
ตามมาแบบติดๆ หายใจรดต้นคอลิงยักษ์ก็คือสงครามแฟนตาซี The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe รับไป $31.7M ในระหว่างหยุดยาวสี่วัน หรือ $20.4M ในช่วงสามวัน ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วแค่ 36% รายได้รวมจากการเข้าฉายมาแล้ว 18 วันคือ $165.1M โดย Disney เพิ่มโรงขึ้นมาสู้อีก 173 โรง รวมเป็น 3,853 โรง รายได้เฉลี่ยในช่วงสี่วันออกมา $8,225 ทั้งที่ฉายเป็นสัปดาห์ที่สาม ในขณะที่ King Kong ใช้จำนวนโรงไป 3,576 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $9,305 ในสุดสัปดาห์ที่สอง ในสัปดาห์นี้ ซึ่งยังคงเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่อง คาดว่าทั้งสองเรื่อง จะยังคงเดินเครื่องโกยเงินต่ออย่างดีเยี่ยมต่อไป จนถึงช่วงวันปีใหม่
Jim Carrey ยังครองใจแฟนหนังได้อย่างเหนียวแน่นเช่นเคย กับหนังตลกเรื่องใหม่ Fun with Dick and Jane จาก Sony หนังรีเมคเรื่องนี้เปิดตัวที่อันดับสาม ด้วยรายได้ $21.5M ในช่วงวันหยุดสี่วัน หรือ $29.1M เมื่อรวมจากวันแรกที่เข้าฉายคือวันพุธ รายได้เฉลี่ยในช่วงสี่วันก็คือ $7,045 คาดว่าหนังน่าจะทะลุร้อยล้านได้ เป็นเรื่องแรกของ Sony นับจาก Hitch ของ Will Smith ที่ทำได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่ปีนี้ Sony พบกับความผิดหวังมาตลอด หนังเรื่องนี้ร่วมแสดงโดย Tea Leoni รีเมคมาจากหนังฮิตเมื่อปี 1977 ที่แสดงนำโดย George Segal กับ Jane Fonda ว่าด้วยชายผู้ตกงานแล้วหันมาเข้าสู่วงการอาชญากรรม กำหนดฉายในไทยวางไว้ 16 กุมภาพันธ์
อันดับสี่เป็นหนังเข้าใหม่ แต่เป็นหนังตลกภาคต่อของ Steve Martin เรื่อง Cheaper by the Dozen 2 จากค่าย Fox ทำรายได้ไป $15.3M ในช่วงสี่วัน หรือรวมเป็น $20.6M ในหกวันแรก นับจากที่ลงโรงตั้งแต่วันพุธ เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,832 จาก 3,175 โรงในช่วงสี่วัน โดยภาคแรก ที่เปิดตัวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเหมือนกันเมื่อปี 2003 เปิดตัวได้เหนือกว่าถึงเท่าตัว โดย Cheaper by the Dozen ออกสตาร์ทด้วยรายได้สูงถึง $35.4M ในช่วงสี่วัน จากวันพฤหัสถึงอาทิตย์ คงเนื่องจากคราวนี้ Cheaper by the Dozen 2 ต้องเจอคู่ปรับแข็งปั๋งที่แย่งชิงผู้ชมกลุ่มครอบครัวเหมือนกันอย่าง The Chronicles of Narnia แถม Jim Carrey ยังช่วงชิงผู้ชมที่ชื่นชอบหนังตลกไปอีกส่วนหนึ่ง กำหนดฉายในไทยวางไว้ 9 มีนาคม ต้องรับปิดเทอมใหญ่
Sony ปล่อยหนังพีเรียดดราม่า Memoirs of a Geisha ที่กำกับโดย Rob Marshall ลงโรงแบบเต็มตัว โดยเพิ่มโรงจาก 52 เป็น 1,547 โรง ทะยานจากอันดับ 12 ขึ้นมาอันดับ 5 ด้วยรายได้ $10.2M เฉลี่ยรายได้ต่อโรงในช่วงวันหยุดสี่วันทำได้ $6,571 และรายได้รวมขยับขึ้นไปเป็น $13.3M จะเข้าฉายในไทย 26 มกราคม ส่วนหนังตลกโรแมนติกจาก Fox เรื่อง The Family Stone แสดงนำโดย Sarah Jessica Parker ทำรายได้ไปอีก $10M ฉายมาสองสัปดาห์หรือ 11 วันทำเงินไปแล้ว $29.2M มีกำหนดลงจอในไทยรับปีใหม่นี้ ทั้ง Memoirs of a Geisha และ The Family Stone ต่างก็แย่งชิงผู้ชมกลุ่มเดียวกัน คือเพศหญิงวัยทำงาน
อันดับ 7 เป็นของหนังตลกของ Johnny Knoxville เรื่อง The Ringer จาก Fox Searchlight ได้ไป $7.7M จากจำนวน 1,829 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,211 ในช่วงสี่วัน
หนังตลกโรแมนติกของ Jennifer Aniston เรื่อง Rumor Has It... จากค่าย Warner Bros. เปิดตัวที่อันดับ 8 ด้วยรายรับ $7.5M นับจากวันอาทิตย์ที่เริ่มเข้าฉาย จาก 2,815 โรงในช่วงแค่สองวัน เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมา $2,670 หนังเรื่องนี้ร่วมแสดงโดย Kevin Costner กับ Shirley MacLaine หนังมีโปรแกรมจะเข้าฉายในไทย 30 มีนาคม
พ่อมดน้อย Harry Potter and the Goblet of Fire ตกลงมาอยู่อันดับ 9 รับไปอีก $6.5M ทำรายได้รวมไปแล้ว $263.2M และขึ้นเป็นรองแชมป์ของทั้งสี่ภาคไปเรียบร้อย แซงหน้าภาคสอง Harry Potter and the Chamber of Secrets ที่ทำได้ $262M เมื่อปี 2002 และขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 28 บนตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ ไล่หลังยักษ์เขียว Shrek ที่ปิดยอดไว้ที่ $267.7M เมื่อปี 2001 สำหรับในตลาดโลก Harry Potter and the Goblet of Fire รับไปอีก $23M ในรอบสุดสัปดาห์นี้ ทำรายได้ในตลาดโลกไปแล้วทั้งสิ้น $497M รวมรายได้ทั่วโลกขณะนี้ $760M
ปิดท้ายอันดับสิบ ด้วยหนังดราม่าเข้มข้นจากฝีมือของ Steven Spielberg เรื่อง Munich ที่บอกเล่าเรื่องราวของการสังหารหมู่นักกีฬาอิสราเอลในระหว่างโอลิมปิก 1972 หนังทำรายได้ไป $6M ในจำนวนโรงแค่ 532 โรง (เพื่อเอาสิทธิ์เข้าชิงออสการ์) เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $11,355 เหนือกว่าทุกเรื่องใน top ten เลยทีเดียว Universal พบว่าผู้ชมส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ โดยมีผู้ชมวัยสูงกว่า 30 ปีถึง 71% และส่วนใหญ่เป็นเพศชายในอัตรา 59% หนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาผู้กำกับ และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตามแผนแล้ว Munich จะได้เพิ่มโรงเป็นประมาณ 1,800 ตั้งแต่ 6 มกราคมปีหน้า ส่วนกำหนดฉายในไทยวางไว้ 26 มกราคม
Weinstein Company เปิดตัวหนังสยองขวัญ Wolf Creek ตั้งแต่วันคริสต์มาส ทำรายได้ไป $4.9M จากจำนวน 1,749 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $2,806 ในช่วงสองวัน หนังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกมากมาย จึงกล้าแหวกแนวหนังที่กำลังลงโรง ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขอย่างไม่สะทกสะท้าน กำหนดฉายในไทยวางไว้ 30 มีนาคม
Universal เพิ่มโรงให้หนังเพลง The Producers ที่นำแสดงโดย Nathan Lane และ Matthew Broderick ร่วมด้วย Uma Thurman และ Will Ferrell จาก 6 โรงเป็น 975 โรงตั้งแต่วันอาทิตย์ ทำรายได้ออกมา $3.3M เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมา $3,388 หนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลง/ตลก, ผู้แสดงนำชายในหนังประเภทเพลง/ตลก (Nathan Lane), ผู้แสดงสมทบชาย (Will Ferrell) และเพลงประกอบยอดเยี่ยม
Buena Vista ปล่อยหนังชีวิตรักของนักรับบรรลือโลก Casanova ที่แสดงนำโดย Heath Ledger ลงโรงตั้งแต่วันอาทิตย์เพียง 37 โรง ทำรายได้ไปทั้งสิ้น $231,077 เฉลี่ยได้ไปสองวัน $6,245 ต่อโรง
หนังเก่าหลายเรื่อง โดนเบียดหลุดออกจาก top ten ไป ได้แก่ หนังดราม่าการเมืองของ George Clooney เรื่อง Syriana รับไปอีก $4.9M ในช่วงสี่วันสุดสัปดาห์ ทำรายได้รวมไปแล้ว $30.6M จะเข้าฉายในไทย 2 มีนาคม, ค่าย Focus เพิ่มโรงให้หนังชิงรางวัลเรื่อง Brokeback Mountain จาก 69 เป็น 217 โรง เก็บไปอีก $3M เฉลี่ยต่อโรงยังสูงอยู่คือ $13,599 รายได้รวมของหนังทำไปได้แล้ว $7.9M กำหนดฉายในไทยวางไว้ราวเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนหนังดราม่าจาก Fox เรื่อง Walk the Line รับไปอีก $2.5M ทำรายได้จากการฉายมาหกสัปดาห์ไปแล้ว $87.1M หนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 สาขาหลัก ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลง/ตลก, ผู้แสดงนำชายในหนังประเภทเพลง/ตลก (Joaquin Phoenix), ผู้แสดงนำหญิงในหนังประเภทเพลง/ตลก (Reese Witherspoon) หนังเรื่องนี้ลงทุนสร้างไป $28M แต่คาดว่าน่าจะทำรายได้ไปได้ถึงประมาณ $95M หรืออาจจะมากกว่านั้น ถ้าได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เพิ่ม
หนังตลกครอบครัวเรื่อง Yours, Mine and Ours แสดงนำโดย Dennis Quaid กับ Rene Russo ทำเงินให้ Paramount ไปแล้ว $48.3M จากทุนสร้าง $45M คาดว่าจะไปหยุดที่ประมาณ $51M ส่วนหนังตลกจาก New Line เรื่อง Just Friends ทำรายได้รวมไปแล้ว $31M ในขณะที่หนังแอ็คชั่นไซไฟจาก Paramount เรื่อง Aeon Flux ทำรายได้แบบอืดๆ ไปแล้วที่ $24.5M
สุดสัปดาห์หน้า คงจะยังไม่มีหนังใหม่เข้าโรงเพิ่ม จึงเป็นการขับเคี่ยวกันในบรรดาหนังที่ค้างในโปรแกรม
สวัสดีปีใหม่ครับ
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 23 -26 ธันวาคม 2548
| # | Title | Dec 23 - 26 | Dec 16 - 18 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
| 1 | King Kong | $ 33,274,680 | $ 50,130,145 | -33.6 | 3,576 | 2 | $ 9,305 | $ 120,597,410 | Universal |
| 2 | The Chronicles of Narnia | 31,692,295 | 31,837,683 | -0.5 | 3,853 | 3 | 8,225 | 165,135,135 | Buena Vista |
| 3 | Fun with Dick and Jane | 21,530,160 | 3,056 | 1 | 7,045 | 29,105,916 | Sony | ||
| 4 | Cheaper by the Dozen 2 | 15,340,679 | 3,175 | 1 | 4,832 | 20,622,433 | Fox | ||
| 5 | Memoirs of a Geisha | 10,165,114 | 1,302,331 | 680.5 | 1,547 | 3 | 6,571 | 13,254,749 | Sony |
| 6 | The Family Stone | 10,009,399 | 12,521,027 | -20.1 | 2,469 | 2 | 4,054 | 29,209,405 | Fox |
| 7 | The Ringer | 7,702,439 | 1,829 | 1 | 4,211 | 7,702,439 | Fox Searchlight | ||
| 8 | Rumor Has It | 7,515,000 | 2,815 | 1 | 2,670 | 7,515,000 | Warner Bros. | ||
| 9 | Harry Potter and the Goblet of Fire | 6,500,000 | 5,952,452 | 9.2 | 2,521 | 6 | 2,578 | 263,215,000 | Warner Bros. |
| 10 | Munich | 6,040,860 | 532 | 1 | 11,355 | 6,040,860 | Universal | ||
| 11 | Syriana | 4,910,000 | 5,605,167 | -12.4 | 1,725 | 5 | 2,846 | 30,550,000 | Warner Bros. |
| 12 | Wolf Creek | 4,908,206 | 1,749 | 1 | 2,806 | 4,908,206 | Weinstein Co. | ||
| 13 | The Producers | 3,303,541 | 154,590 | 975 | 2 | 3,388 | 3,546,792 | Universal | |
| 14 | Brokeback Mountain | 2,951,071 | 2,508,494 | 17.6 | 217 | 3 | 13,599 | 7,888,312 | Focus |
| 15 | Walk the Line | 2,474,226 | 3,688,031 | -32.9 | 1,534 | 6 | 1,613 | 87,128,009 | Fox |
| 16 | The Polar Express - Imax RE | 1,377,113 | 1,091,215 | 26.2 | 66 | 5 | 20,865 | 170,756,698 | Warner Bros. |
| 17 | Yours, Mine & Ours | 1,268,701 | 3,511,110 | -63.9 | 1,746 | 5 | 727 | 48,312,538 | Paramount |
| 18 | Pride & Prejudice | 1,153,458 | 1,579,825 | -27.0 | 556 | 8 | 2,075 | 31,634,097 | Focus |
| 19 | Chicken Little | 675,451 | 1,054,952 | -36.0 | 922 | 8 | 733 | 130,266,798 | Buena Vista |
| 20 | Aeon Flux | 452,813 | 1,751,220 | -74.1 | 852 | 4 | 531 | 24,523,382 | Paramount |
หมายเหตุ : ตัวเลข หนา คือหนังที่เริ่มฉายในวันอาทิตย์ รายได้เป็นเพียงของสองวัน
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :
