Box Office สุดสัปดาห์ที่ 27 - 29 ธันวาคม 2545
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
"ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ" ยังคงสะเทือนแผ่นดิน Middle Earth ด้วยรายได้ของ The Lord of The Rings: The Two Towers ที่ยังครองอันดับหนึ่งตามคาด รายได้รวมทะลุผ่าน 200 ล้านไปเรียบร้อยในเวลาเพียง 12 วัน ส่วนการไล่ล่าระหว่าง Leonardo DiCaprio กับ Tom Hanks ใน Catch Me If You Can เปิดตัวได้งดงามตามมาเป็นอันดับสอง นอกนั้นรายได้ของหนังที่ยังค้างอยู่ในโปรแกรม ก็เพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ตามปกติของช่วงเทศกาล
ภารกิจของพันธมิตรแห่งแหวนยังไม่สิ้นสุด การเดินทางของโฟรโดและผองเพื่อนที่แตกเป็นสามกลุ่มใน The Lord of The Rings: The Two Towers ยังทำเงินให้กับ New Line ในสัปดาห์ที่สองของการฉายไปอีกถึง $48.9M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 21% หลังจากฉายมา 12 วัน หนังมหากาพย์แฟนตาซีของ Peter Jackson เรื่องนี้ กวาดรายได้ในอเมริกาเหนือไปแล้วถึง $200.1M ทำให้ The Two Towers ขึ้นไปครองอันดับ 2 ของหนังที่ทะลุผ่าน 200 ล้านเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยเวลาเพียง 12 วันแรก ร่วมอันดับกับ Star Wars Episode II โดยแชมป์ 200 ล้านเร็ว ยังคงอยู่ในอุ้งมือของ Spider-Man ที่ทำไว้แค่ 9 วันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง มหากาพย์ภาคต่อเรื่องนี้ New Line Cinema ปล่อยโรงฉายให้แบบสุดๆ ถึง 3,622 โรง และทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $13,494 ทั้งที่มีความยาวเฉียด 3 ชั่วโมงเต็ม
เมื่อเทียบรายได้ในสัปดาห์ที่สองของ The Two Towers ก็ยังคงวิ่งนำหน้าตอนที่ 1 คือ The Fellowship of the Ring ถึง 26% เหมือนเช่นเมื่อสัปดาห์แรกที่ออกสตาร์ทได้ดีกว่าถึงกว่า 30% ส่วนรายได้รวมใน 12 วันแรกก็แซงหน้าไปมากถึง 28% ในขณะที่รายรับในสัปดาห์ที่สองของตอนต่อนี้ ดิ่งลงมากกว่าตอนแรกที่ตกลงไปเพียง 18% ส่วนทางด้านสถิติรายได้รวมเมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ เพียง 12 วันของการฉาย The Two Towers ก็ขึ้นไปครองอันดับ 46 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือเรียบร้อย ตามหลังหนังฟอร์มยักษ์เมื่อปี 1998 อย่าง Armageddon ที่ทำสถิติรายได้รวมไว้ $201.6M เพียงนิดหน่อย ด้วยอัตราเร่งในขณะนี้ คาดว่าปลายสัปดาห์แรกของปี 2003 หนังเรื่องนี้คงฝ่าฟันขึ้นไปอยู่ใน 20 อันดับแรกได้อย่างสบาย
และด้วยความแรงที่ประเมินจาก 2 สัปดาห์แรก คาดว่า The Lord of The Rings: The Two Towers จะทำรายได้รวมไปมากกว่าตอนแรก The Fellowship of the Ring ที่ทำไว้ $313.4M ซึ่งในบรรดาหนังภาคต่อในปีนี้หลายเรื่องอย่างเช่น Harry Potter and the Chamber of Secrets, Star Wars Episode II, Men in Black 2, Stuart Little 2 และ Star Trek: Nemesis ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ
Leonardo DiCaprio กลับมาบนจอเงินเป็นเรื่องที่สองของช่วงนี้ใน Catch Me If You Can ที่กำกับโดย Steven Spielberg ที่มี Tom Hanks ร่วมแสดง DreamWorks เปิดฉายหนังเรื่องนี้ในจำนวน 3,156 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $9,532 หนังทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์ไปถึง $30.1M หรือ $48.7M เมื่อคิดรวม 5 วัน ตั้งแต่วันพุธที่ 25 ธันวาคม นับเป็นหนังที่เปิดตัวสัปดาห์แรกได้แรงที่สุดของหนุ่มลีโอ ทำลายสถิติเก่าของเขาที่ทำไว้เพียง $28.6M โดยหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล Titanic เมื่อปี 1997 และสำหรับแม่เหล็กอย่าง Tom Hanks, Catch Me If You Can ก็เป็นหนังที่เปิดตัวได้ระดับยอดเยี่ยมของเขาเช่นกัน ดังเช่น Cast Away เมื่อปี 2000 ซึ่งเปิดตัวที่รายได้ $39.9M ในช่วง 4 วันสุดสัปดาห์ และ Saving Private Ryan เปิดตัวเมื่อปี 1998 ที่รายรับ $30.6M ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วัน
Catch Me If You Can เป็นหนังไล่ล่าแนวตลกเบาสมอง สร้างจากชีวิตจริงของยอดนักต้มตุ๋นนามว่า Frank Abagnale ซึ่งรับบทโดย Leonardo DiCaprio ในขณะที่ Tom Hanks รับบท FBI ที่ตามไล่ล่าสุดยอดนักตุ๋นรายนี้ หนังได้เรต PG-13 และเสน่ห์ของหนุ่มลีโอก็ยังมีเหลือเฝือตามเคย หนังสามารถชิงคนดูกลุ่มเป้าหมายหลักได้สำเร็จ โดย 70% ของผู้ชมทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่วัยสูงกว่า 25 และ 56% ของจำนวนนี้เป็นเพศหญิง ทั้งๆ ที่ยังมีหนังรักเบาสมอง ที่นักแสดงนำหญิงระดับแม่เหล็กอีก 2 เรื่องอย่าง Two Weeks Notice และ Maid In Manhattan คอยแย่งชิงผู้ชมกลุ่มนี้อยู่ และยังมีหนังของหนุ่มลีโออีกเรื่องคือ Gangs of New York เข้าโรงมารออยู่ก่อนหน้า Catch Me If You Can มีกำหนดลงโรงในไทย 31 มกราคมนี้
อันดับ 3 โดนเบียดตกมาจากอันดับสองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังรักเบาสมองจากค่าย Warner Bros. เรื่อง Two Weeks Notice นำแสดงโดย Sandra Bullock และ Hugh Grant รายได้เพิ่มขึ้น 8% จากสัปดาห์แรกของการฉายเป็น $15.5M เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมา $5,633 รวม 10 วันเก็บไปแล้ว $43M ตามด้วยหนังคู่ปรับที่มาแนวเดียวกัน และจ้องจับผู้ชมกลุ่มเดียวกันอย่าง Maid In Manhattan หนังรักที่แสดงโดย Jennifer Lopez และ Ralph Fiennes เก็บรายได้ไปอีก $12.5M เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้า 17% เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,263 รวม 3 สัปดาห์หรือ 17 วัน Sony เก็บไปแล้ว $57M หนังทั้งสองเรื่อง มีกำหนดฉายในไทย 17 มกราคม และ 14 กุมภาพันธ์ตามลำดับ
หนังอีกเรื่องที่แสดงนำโดย Leonardo DiCaprio แต่เป็นหนังดราม่าย้อนยุคที่กำกับโดย Martin Scorsese เรื่อง Gangs of New York ได้เพิ่มโรงจาก 1,504 ไปเป็น 2,190 โรง หล่นจากอันดับ 4 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่อันดับ 5 ด้วยรายได้ $10.9M เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว 15% เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,999 หลังจากฉายมา 10 วัน ทำเงินไปแล้ว $29.9M หนังเรื่องนี้มี Daniel Day-Lewis, Cameron Diaz และ Liam Neeson ร่วมแสดง
Drumline หนังดราม่าเบาสมองเรต PG-13 จากค่าย Fox เกี่ยวกับการแข่งขันดุริยางค์ ทำรายได้ไปอีก $8.1M เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว 14% รวมฉายมา 3 สัปดาห์เก็บไปแล้ว $36.8M ส่วนหนังแอนิเมชั่นสำหรับครอบครัวจาก Nickelodeon และ Paramount เรื่อง The Wild Thornberrys ทำรายได้พุ่งขึ้น 23% เป็น $7.4M ในสัปดาห์ที่สองของการฉาย รวม 10 วันเก็บไปเหนาะๆ $18.4M หนังเรื่องนี้มีคิวฉายในไทย เดือนมีนาคม 2003 นี้
ที่ไปได้สวยผิดคาดกลับเป็น Harry Potter and the Chamber of Secrets รายได้พุ่งจากสัปดาห์ที่แล้วถึง 48% มากที่สุดใน top-10 ทำรายได้ไปอีก $6.5M Warner Bros. เก็บเกี่ยวไปแล้ว $240.3M ใน 7 สัปดาห์ และขึ้นไปครองอันดับ 26 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ ตามหลังพายุร้ายแห่งปี 1996 เรื่อง Twister ที่เก็บกวาดไปได้ $241.9M เมื่อถึงวันนี้ Harry Potter and the Chamber of Secrets ยังวิ่งตามหลังภาคแรก Harry Potter and the Sorcerer's Stone อยู่ 16% โดยภาคแรกเมื่อปีที่แล้ว เก็บรายได้ในเวลาเท่าๆ กันนี้ไปถึง $285.6M ก่อนจะไปหยุดที่ $317.6M
อันดับ 9 หนังตลกของ Rob Schneider เรื่อง The Hot Chick ที่ไปได้ไม่สวยอย่างที่หวัง ทำเงินให้ Buena Vista ไปเอีก $4.8M รวมรายได้จากที่ฉายมา 3 สัปดาห์เพียง $22.2M กำหนดฉายในไทยคือ 24 มกราคม และปิดท้ายอันดับ 10 ด้วยหนังแอ็คชั่น Die Another Day จาก MGM เก็บไปอีก $4.4M รายได้รวมทำไปแล้ว $146.7M
ที่หลุดไปจาก top ten ก็คือหนัง Sci-Fi จาก Paramount เรื่อง Star Trek: Nemesis รายได้ร่วงดิ่งสวนทางชาวบ้าน 8% เก็บไปอีก $4.1M รวมรายได้ขณะนี้ $33.8M ส่วนหนังคริสต์มาสจาก Disney เรื่อง The Santa Clause 2 รายได้ลดลง 35% เพราะยืนโรงมานานกว่าใคร เก็บเงินไปได้อีก $2.1M รวมรายได้ $135.5M จากที่ฉายมา 9 สัปดาห์
หนังใหม่อีกเรื่องสัปดาห์นี้ แต่เปิดตัวออกมาได้น่าผิดหวังคือ Pinocchio สร้างใหม่จากนิทานระดับคลาสสิก ฝีมือเขียนบท, อำนวยการสร้าง, กำกับ และนำแสดงโดย Roberto Benigni จาก Life Is Beautiful โดยมี Nicoletta Braschi ภรรยาในชีวิตจริง ร่วมแสดงด้วยตามเคย หนังเปิดตัวสัปดาห์แรกอยู่อันดับ 19 โน่น โดย Miramax เปิดฉายหนังเรื่องนี้ในจำนวน 1,195 โรง เก็บไปได้เพียง $1.15M เฉลี่ยต่อโรงออกมาแค่ $964 เท่านั้น รวมรายได้ 5 วันจากวันพุธ Pinocchio เพิ่งถอนทุนได้เพียง $1.8M กำหนดฉายหนังเรื่องนี้ในไทยคือ 7 กุมภาพันธ์
ปิดท้ายปลายปี ซึ่งเป็นเส้นตายของหนังที่จะมีสิทธิ์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 จึงมีหนังยอดเยี่ยมหลายเรื่อง ลงโรงเพื่อรับสิทธิ์ที่ว่ากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง.. เริ่มจากหนังเพลงของ Miramax แสดงนำโดย Catherine Zeta-Jones และ Richard Gere เรื่อง Chicago ที่ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมากที่สุดถึง 8 สาขา เปิดฉายแบบมาแรงสุดๆ ในจำนวน 77 โรง ทำรายได้ไป $2.1M เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงมากถึง $26,947 สุดสัปดาห์นี้จะเพิ่มโรงฉายอีกระลอก
หนังระดับล่ารางวัล ตัวเก็งอีกเรื่องของช่วงนี้ The Hours จาก Paramount เปิดฉายด้วยจำนวน 11 โรงใน 5 เมือง ทำรายได้ไป $338,622 เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $30,783 หนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำไป 7 สาขา แสดงนำโดยนักแสดงหญิงระดับฝีมือ 3 คนคือ Meryl Streep, Julianne Moore และ Nicole Kidman
งานกำกับชิ้นแรกของ Denzel Washington เรื่อง Antwone Fisher ได้โรงเพิ่มจาก 15 เป็น 191 โรง ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เก็บรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วันไปอีก $1.8M เฉลี่ยต่อโรงทำได้สูงถึง $9,431 รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $3M ผู้จัดจำหน่ายคือ Fox Searchlight วางแผนจะเปิดฉายหนังเรื่องนี้เป็นระดับ 1,000 โรงตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ 10 มกราคม ก่อนจะเพิ่มอีกระลอกต้อนรับสุดสัปดาห์ Martin Luther King ตั้งแต่ 17 มกราคมนี้
Disney เปิดฉายฉบับพิเศษ ของหนังแอนิเมชั่นที่เคยทำเงินสูงลิ่วที่สุดในประวัติศาสตร์ The Lion King: Special Edition ฉบับจอยักษ์ IMAX ตั้งแต่วันคริสต์มาส 25 ธันวาคม ในจำนวน 66 โรง กวาดรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วันไป $1.8M เฉลี่ยต่อโรงทำได้ถึง $27,664 รวม 5 วันบนจอใหญ่ หนังฉบับใหม่นี้เก็บไปแล้ว $2.8M
หนังดราม่าเบาสมองจาก Sony เรื่อง Adaptation ที่กำกับโดย Spike Jonze (Being John Malkovich) แสดงโดย Nicolas Cage, Meryl Streep, Chris Cooper ยังคงยืนโรงฉายในจำนวน 109 โรงเท่าเดิม เก็บกวาดรายรับไปอีก $1M ลดลง 7% จากสัปดาห์ที่แล้ว รายได้เฉลี่ยต่อโรงยังคงสูงอยู่ที่ $9,485 รวม 4 สัปดาห์เก็บไปแล้ว $4.1M ส่วนอีกเรื่องที่ยังคงทำเงินได้คงตัวเหมือนสัปดาห์ที่แล้วก็คือ Narc หนังดราม่าเกี่ยวกับยาเสพย์ติดจากค่าย Paramount แสดงนำโดย Jason Patric และ Ray Liotta ที่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ หนังเก็บไปได้อีก $63,675 จากจำนวน 6 โรงเท่เดิม รายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมา $10,612 รายได้รวมคือ $185,605 หนังทั้งสองเรื่องนี้ จะฉายแบบเต็มตัวในระดับ 800-1,000 โรง ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ 10 มกราคมนี้
หนังอินเดียแนวระทึกขวัญเรื่อง Kaante จาก Media Partners ร่วมกับ Bollywood Pictures เก็บไปอีก $211,305 จากจำนวน 29 โรง เฉลี่ยรายได้ในสัปดาห์ที่สองคือ $7,286 รวม 10 วันได้ไป $812,494 ส่วน Focus Features เปิดฉาย The Pianist ในจำนวน 6 โรง เก็บไปได้ $111,261 เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $18,543
สุดสัปดาห์หน้า เป็นช่วงเพิ่มโรงของหนังล่ากล่องที่เปิดฉายแบบชิมลาง เพื่อรับสิทธิ์การถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ได้แก่ About Schmidt ของ New Line, Chicago ของ Miramax, The Pianist ของ Focus Features
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 27 - 29 ธันวาคม 2545
# | Title | Dec 27 - 29 | Dec 20 - 22 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | The Lord of the Rings: The Two Towers | $ 48,875,549 | $ 62,007,528 | -21.2 | 3,622 | 2 | $ 13,494 | $ 200,058,231 | New Line |
2 | Catch Me If You Can | 30,082,000 | 3,156 | 1 | 9,532 | 48,680,000 | DreamWorks | ||
3 | Two Weeks Notice | 15,518,420 | 14,328,494 | 8.3 | 2,755 | 2 | 5,633 | 43,044,430 | Warner Bros. |
4 | Maid in Manhattan | 12,524,396 | 10,712,011 | 16.9 | 2,938 | 3 | 4,263 | 56,950,454 | Sony |
5 | Gangs of New York | 10,948,803 | 9,496,870 | 15.3 | 2,190 | 2 | 4,999 | 29,873,147 | Miramax |
6 | Drumline | 8,108,083 | 7,125,270 | 13.8 | 1,669 | 3 | 4,858 | 36,619,270 | Fox |
7 | The Wild Thornberrys | 7,364,432 | 6,013,847 | 22.5 | 3,012 | 2 | 2,445 | 18,418,284 | Paramount |
8 | Harry Potter and the Chamber of Secrets | 6,474,267 | 4,371,410 | 48.1 | 2,505 | 7 | 2,585 | 240,307,533 | Warner Bros. |
9 | The Hot Chick | 4,813,878 | 4,576,225 | 5.2 | 2,246 | 3 | 2,143 | 22,201,384 | Buena Vista |
10 | Die Another Day | 4,365,536 | 4,030,346 | 8.3 | 1,875 | 6 | 2,328 | 146,699,881 | MGM |
11 | Star Trek: Nemesis | 4,054,107 | 4,415,081 | -8.2 | 2,642 | 3 | 1,534 | 33,846,500 | Paramount |
12 | My Big Fat Greek Wedding | 2,760,697 | 1,461,534 | 88.9 | 951 | 37 | 2,903 | 222,517,469 | IFC Films |
13 | Chicago | 2,074,929 | 77 | 1 | 26,947 | 2,074,929 | Miramax | ||
14 | The Santa Clause 2 | 2,070,255 | 3,204,145 | -35.4 | 1,511 | 9 | 1,370 | 135,459,771 | Buena Vista |
15 | Analyze That | 2,068,396 | 2,385,371 | -13.3 | 1,611 | 4 | 1,284 | 27,862,354 | Warner Bros. |
16 | The Lion King Imax | 1,825,849 | 66 | 1 | 27,664 | 2,789,969 | Buena Vista | ||
17 | Antwone Fisher | 1,801,384 | 210,013 | 757.7 | 191 | 2 | 9,431 | 3,001,346 | Fox Searchlight |
18 | Treasure Planet | 1,549,980 | 1,302,772 | 19.0 | 1,414 | 5 | 1,096 | 32,849,870 | Buena Vista |
19 | Pinocchio | 1,151,463 | 1,195 | 1 | 964 | 1,802,706 | Miramax | ||
20 | Empire | 1,066,370 | 1,382,630 | -22.9 | 496 | 4 | 2,150 | 15,170,025 | Universal |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :