Box Office สุดสัปดาห์ที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


*** รายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 72 ***

สุดสัปดาห์ Presidents' Day เป็นวันหยุด 3 วัน จากวันศุกร์-จันทร์ ข้อมูลจึงสรุปช้ากว่าปกติไป 1 วัน box office มีการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด โดย The Whole Nine Yards หนังตลกจากค่าย Warner Bros. ที่นำแสดงโดย Bruce Willis กับ Matthew Perry เบียดชิงอันดับหนึ่งกับ Hanging Up หนังดราม่าจาก Sony นำแสดงโดยสามดาราระดับแม่เหล็ก Meg Ryan, Diane Keaton, และ Lisa Kudrow ในที่สุด ผล final gross ออกมา ปรากฏว่า The Whole Nine Yards ทำรายได้แซงไปอย่างฉิวเฉียด

โดยช่วงวันศุกร์ Hanging Up นำไปก่อน แต่วันเสาร์-อาทิตย์ ชัยชนะเป็นของ The Whole Nine Yards โดย Hanging Up ฉายในจำนวนโรงที่น้อยกว่าราว 300 โรง ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงกว่า

อันดับ 1 เป็นหนังจากค่าย Warner Bros. ผลงานเรื่องล่าสุดของ Bruce Willis ประชันบทบาทกับ Matthew Perry The Whole Nine Yards ทุนสร้าง $25M จากผลงานกำกับโดย Johnathan Lynn (My Cousin Vinny) และมี Michael Clarke Duncan จาก The Green Mile ร่วมแสดงด้วย หนังฉายในจำนวน 2,910 โรง ได้ไป $15.9M รายได้เฉลี่ยได้ไปแบบเต็มไม้เต็มมือ $5,469 ต่อโรง (รายได้ 3 วันทำได้ $13.8M) หลังจากที่ผลงาน 2 ชิ้นก่อนหน้าของ Bruce Willis คือ The Sixth Sense ที่กวาดรายได้จากทั่วโลกไปแล้วกว่า $600M และหนังดราม่า The Story Of Us ที่เปิดตัวสัปดาห์แรกไป $9.7M เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่า เขายังได้รับการต้อนรับจากคอหนังเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหนังแนวแอ็คชั่น (Armageddon), หนังลึกลับ (The Sixth Sense), หรือหนังอินดี้ (Pulp Fiction) และหนังตลกเรื่องนี้ โดย Warner Bros. รายงานว่าผู้ชมถึง 55% เป็นชาย และมีถึง 60% ที่มีอายุ 25 หรือมากกว่า

อันดับ 2 เป็นของ Hanging Up ทุนสร้าง $40M จาก Sony เรื่องราวของสามสาวพี่น้อง กำกับโดย Diane Keaton ซึ่งแสดงเอง พร้อมด้วย Meg Ryan, Lisa Kudrow, Walter Matthau มุ่งจับตลาดผู้หญิงวัยทำงานเป็นหลัก หนังเปิดตัวในจำนวน 2,618 โรง ได้ไป $15.7M รายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ไป $6,001 ซึ่งสูงมาก (คิดจากช่วง 4 วัน ส่วนรายได้ 3 วันทำได้ $13.7M) ผลงานที่ผ่านมาของ Meg Ryan เปิดตัวในระดับสูงกว่า $10M แล้ว 5 เรื่องซ้อน (ไม่นับหนังที่เปิดฉายแบบวงจำกัด) เป็นข้อพิสูจน์พลังดาราระดับแม่เหล็ก อันแข็งแกร่งของเธอได้เป็นอย่างดี

อันดับ 3 Snow Day หนังตลกของ Chevy Chase จาก Paramount ทำรายได้ตามมาติดๆ แบบไม่เบามือ อยู่อันดับเดิมเหมือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังทำรายได้ไปอีก $15.3M จากช่วง 4 วัน รายรับรวมตอนนี้ทำได้แล้ว $31.9M จากแค่ 11 วันเท่านั้น ด้วยทุนสร้างเพียง $13M โดย Nickelodeon ในสังกัดดาวภูเขา คาดว่าจะทำเงินไปได้ถึงระดับประมาณ $60M เป็นอีกเรื่องที่ทำกำไรแบบเนื้อๆ

อันดับ 4 เป็นหนัง sci-fi ระทึกขวัญ Pitch Black จัดจำหน่ายโดย USA Films (เป็นหนังที่ฉายในจำนวนโรงมากที่สุดของค่ายนี้) ทำรายได้ $13.5M จากสุดสัปดาห์ 4 วัน ในจำนวน 1,832 โรง หนังเรื่องนี้เป็นผลงานสร้างร่วมกันระหว่าง USA Films และ Universal ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไปถึง $7,351 ซึ่งสูงกว่าทุกเรื่องใน top-10 นำแสดงโดย Vin Diesel เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของผู้รอดชีวิตจากยานตก บนดาวลึกลับอันไกลโพ้น พวกเขาได้เผชิญกับ"บางสิ่ง"เมื่อราตรีมาเยือน วางโปรแกรมฉายในไทย 17 มีนาคมนี้

หนังการ์ตูนจาก Disney, The Tigger Movie ตกจากอันดับ 4 มาอยู่อันดับ 5 ทำรายได้ $10.6M จากช่วง 4 วัน ทำให้รายได้รวมจาก 11 วัน ทำไปได้แล้ว $22.4M เมื่อคิดจากสามวันตามมาตรฐาน box office เจ้าเสือน้อยกวาดไป $8.2M คือลดลงแค่ 13% จากสัปดาห์เปิดตัว คาดว่ารายได้รวมทั้งสิ้นจะตกประมาณ $40-45M จะเปิดฉายต้อนรับปิดเทอมในไทย 31 มีนาคม

หลังจากนอนแช่อยู่อันดับหนึ่งนาน 2 สัปดาห์ หนังสยองขวัญภาค 3 จาก Miramax, Scream 3 ก็ลงรวดเดียวมาอยู่อันดับ 6 ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไป $9.9M รวม 18 วัน ทำเงินไปแล้ว $71.4M เทียบกับภาคที่แล้ว Scream 2, ทำเงินสัปดาห์ที่สามไป $9M รวมรายได้ $71.1M จาก 17 วัน นับว่ายังอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน คนไทยรอหวีดสุดขีดครั้งที่สาม ราวๆสงกรานต์นี้

หนังเรื่องล่าสุดแนว drama-thriller ของ Leonardo DiCaprio, The Beach จากค่าย Fox รายได้วูบลงมาราวครึ่งหนึ่ง ทำได้แค่ $8.3M จากวันหยุด 4 วัน หนังกำกับโดย Danny Boyle ทำรายได้ไปแล้ว $28.7M จากทุนสร้าง $50M คาดว่าจะไปจบที่ประมาณ $40-45M เท่านั้น แต่คาดว่าจะไปทำเงินในตลาดนอกอเมริกา คอหนังชาวไทยรอพิสูจน์ได้ 10 มีนาคมนี้

หนังเข้าใหม่อีกเรื่องสุดสัปดาห์นี้, Boiler Room จาก New Line เปิดตัวอยู่อันดับ 8 ด้วยรายได้ $6.7M จากช่วง 4 วัน ศุกร์-จันทร์ เป็นเรื่องราวในวงการโบรคเกอร์ตลาดหุ้น นำแสดงโดย Giovanni Ribisi และมี Ben Affleck มารับบทสมทบให้ Boiler Room เปิดฉายในจำนวน 1,335 โรงเท่านั้น แต่ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไปถึง $5,036 สุดสัปดาห์หน้าจะมีหนังอีกเรื่องของ Ben Affleck คือ Reindeer Games เข้าฉายประกบ

อันดับ 9 DreamWorks นำเอา American Beauty กลับมาฉายอีกครั้งตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อกวาดรายได้จากกระแสของ Oscar โดยเฉพาะ หลังจากที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงถึง 8 รางวัล หนังโกยเงินไปตามธรรมเนียมอีก $6.6M จากช่วง 4 วัน ศุกร์-จันทร์ ในจำนวน 1,287 โรง รายได้เฉลี่ยต่อดรงทำได้ถึง $5,132 ทำให้ยอดรายรับของหนังดีดขึ้นไปเป็น $81.4M แล้วในขณะนี้ หนังนำแสดงโดย Kevin Spacey และ Annette Bening ซึ่งได้เข้าชิงในสาขาดารานำทั้งคู่ การที่หนังทำเงินเนื่องจากกลับมาฉายใหม่นี้ ก็ไม่เป็นเรื่องแปลก เพราะหนังหลายเรื่องในปีที่ผ่านๆมา ก็ทำได้เช่นกัน อาทิเช่น Saving Private Ryan ($3.6M), Forrest Gump ($3M), L.A. Confidential ($2.7M), และ Braveheart ($1.5M) เป็นการแสดงถึงอิทธิพลของ Oscar ต่อรายได้ของหนังได้เป็นอย่างดี

American Beauty กลายเป็นตัวเปรียบเทียบกับ L.A. Confidential เมื่อปี 1997 ซึ่งมี Kevin Spacey เป็นดารานำเช่นกัน หนังเปิดฉายเมื่อกลางเดือนกันยายน และถูกนำกลับมาฉายใหม่เมื่อได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar หลายรางวัลเหมือนกัน ถึงแม้ว่า L.A. Confidential จะพลาดรางวัลใหญ่ไป แต่ก็ทำเงินรอบหลังได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ คือได้เพิ่มจาก $42M เป็น $65M (เพิ่มมากกว่า 50%) หวังว่าคราวนี้ American Beauty คงจะไม่อับโชคในเรื่องรางวัลเหมือน L.A. Confidential เพราะมาแรงมากจริงๆ ส่วนในเรื่องรายได้นั้น คาดว่าจะผ่านหลัก $100M ในช่วงใกล้เคียงกับวันประกาศผลรางวัลคือ 26 มีนาคมอย่างแน่นอน

อันดับ 10 และ 11 กลายเป็นการชิงดำกันอย่างน่าแปลกใจ ระหว่างหนัง 2 ใน 5 เรื่องที่เข้าชิง Oscar หนังยอดเยี่ยมทั้งคู่ แถมยังฉายมา 11 สัปดาห์เท่ากันอีก โดยอันดับ 10 หนังดราม่าตัวเก็ง 7 รางวัล Oscar จาก Miramax, The Cider House Rules ดีดขึ้นมาจากอันดับ 13 พร้อมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว คือทำรายได้ไป $3.4M จากสี่วัน หนังแสดงโดย Tobey Maguire และ Charlize Theron รายได้รวมขณะนี้ $27.0M โดย Miramax จะเพิ่มโรงอีกประมาณ 700 โรงในสุดสัปดาห์หน้า เพื่อหวังผลเช่นเดียวกับ Shakespeare In Love เมื่อปีที่แล้ว

อันดับ 11 เป็นของ The Green Mile หนังตัวเก็ง 4 รางวัลของ Warner Bros. นำแสดงโดย Tom Hanks ที่ทำรายได้ $3.2M ในจำนวน 2,102 โรง หนังกำกับโดย Frank Darabont รายได้ลดลงเพียง 8% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว (เมื่อเทียบกับมาตรฐาน 3 วัน) รายได้รวมขณะนี้กวาดไปแล้ว $128.7M คาดว่าจะไปได้ถึงระดับประมาณ $140M คนไทยรอดูวันที่ 17 มีนาคมนี้

ส่วนหนังที่เข้าชิง Best Picture อีก 2 เรื่องก็ได้รับแรงหนุนจาก Oscar ในทิศทางเหมือนๆกัน คือ The Sixth Sense (เข้าชิง 6 รางวัล) ทำรายได้ในช่วง 3 วัน ศุกร์-อาทิตย์ $1.7M (ดีดขึ้นจากสุดสัปดาห์ที่แล้วอีก 49%) หรือ $1.9M จากช่วง 4 วันนับถึงวันจันทร์ รายได้รวมจึงขึ้นไปถึง $282M แล้ว ส่วน The Insider ผลงานของ Michael Mann ที่เพิ่งเปิดฉายในบ้านเรา (เข้าชิง 7 รางวัล) จากเดิม 36 โรงเพิ่มเป็น 132 โรงในสุดสัปดาห์นี้ ทำรายได้ไปอีก $241,266 เฉลี่ยต่อโรง $1,826 รายได้รวมได้ไปแล้วเพียง $27M สัปดาห์หน้าก็จะเกาะกระแส Oscar ด้วยการเพิ่มโรงเป็นประมาณ 700 โรง

หนังอนิเมชั่นจากค่าย Disney ก็ยังทำเงินต่ออย่างคงเส้นคงวา โดย Toy Story 2 ทำรายได้ไปอีก $942,115 รายได้รวมขึ้นไปถึง $239.9M แล้ว ส่วนอีกเรื่องที่ฉายเฉพาะใน IMAX, Fantasia 2000 ทำเงินไปอีก $2.3M รายได้รวมขณะนี้ $24.4M หรือราวๆ $31M เมื่อรวมทั่วทั้งโลก

หนัง 5 เรื่องที่ถูกเบียดตกจาก top-10 ได้แก่ The Hurricane หนังทุนสร้าง $38M จาก Universal นำแสดงโดย Denzel Washington ซึ่งเข้าชิง Oscar สาขาดารานำชายในบทนี้ (และเพิ่งจะได้รับรางวัล Silver Bear จาก Berlin International Film Festival) ตกจากอันดับ 5 มา 12 ทำเงินไปอีก $2.75M ยอดรวมอยู่ที่ $46.4M แล้ว คาดว่าจะไปได้ถึงระดับ $55-60M (กำหนดฉาย 3 มีนาคม)

หนังแนวครอบครัวจาก Sony, Stuart Little, ที่ได้เข้าชิง Oscar สาขา Visual Effects ตกจากอันดับ 8 มา 14 รายได้ขึ้นไปถึง $134.8M แล้ว คาดว่าจะไปถึง $140M ได้แน่ ส่วนหนังตลกภาคต่อทุนสร้างแค่ $10M จาก New Line, Next Friday ตกจากอันดับ 7 มา 15 ทำรายได้ไปแล้ว $52.6M คงจะปิดยอดที่ประมาณ $56M (กำไรเละ) ; Galaxy Quest หนัง sci-fi comedy จากค่าย DreamWorks ที่ทุ่มไป $60M ตกจากอันดับ 9 มา 17 ตอนนี้ทำเงินไปแล้ว $68M คาดว่าจะไปถึงประมาณ $70-72M อีกเรื่องคือ Eye of the Beholder ตกจากอันดับ 10 ทำเงินถึงขณะนี้ $16.2M และคงจะปิดบัญชีที่ประมาณ $18M

หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า Reindeer Games หนังทริลเลอร์อาชญากรรมจาก Miramax กำกับโดย John Frankenheimer (ผู้กำกับ Ronin) นำแสดงโดย Ben Affleck, Charlize Theron, Gary Sinise และ Wonder Boys จาก Paramount นำแสดงโดย Michael Douglas, Tobey Maguire, Katie Holmes, Robert Downey Jr., Frances McDormand เรื่องของชายหนุ่มที่ตามหาเสื้อแจ็คเก็ตที่เคยสวมใส่โดย ..Marilyn Monroe! หนังกำกับโดย Curtis Hanson


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ 2543

# Title Feb. 18 - 21 Feb. 11 - 13 % Chg. Theaters Weeks AVG Cumulative Dist.
                   
1 The Whole Nine Yards $ 15,915,676     2,910 1 $ 5,469 $ 15,915,676 Warner Bros.
2 Hanging Up 15,710,411     2,618 1 6,001 15,710,411 Sony
3 Snow Day 15,261,526 14,331,819 6.5 2,704 2 5,644 31,920,881 Paramount
4 Pitch Black 13,467,546     1,832 1 7,351 13,467,546 USA Films
5 The Tigger Movie 10,604,433 9,427,532 12.5 2,755 2 3,849 22,399,467 Buena Vista
6 Scream 3 9,884,695 16,318,053 -39.4 3,368 3 2,935 71,434,782 Miramax
7 The Beach 8,251,779 15,277,921 -46.0 2,587 2 3,190 28,745,219 Fox
8 Boiler Room 6,722,884     1,335 1 5,036 6,722,884 New Line
9 American Beauty 6,604,951 64,292   1,287 23 5,132 81,422,935 DreamWorks
10 The Cider House Rules 3,409,131 1,529,188 122.9 857 11 3,978 26,962,998 Miramax
                   
11 The Green Mile 3,237,158 3,087,632 4.8 2,102 11 1,540 128,699,984 Warner Bros.
12 The Hurricane 2,754,810 3,615,625 -23.8 1,711 8 1,610 46,380,951 Universal
13 Fantasia 2000 2,336,719 1,693,439 38.0 54 8 43,273 24,430,783 Buena Vista
14 Stuart Little 2,202,112 2,712,397 -18.8 1,714 10 1,285 134,785,316 Sony
15 Next Friday 2,073,613 2,814,341 -26.3 1,209 6 1,715 52,571,546 New Line
16 The Sixth Sense 1,933,879 1,116,186 73.3 894 29 2,163 282,005,620 Buena Vista
17 Galaxy Quest 1,619,047 2,180,374 -25.7 1,186 9 1,365 67,994,316 DreamWorks
18 The Talented Mr. Ripley 951,425 1,686,151 -43.6 954 9 997 79,397,608 Paramount
19 Toy Story 2 942,115 1,153,651 -18.3 764 14 1,233 239,930,711 Buena Vista
20 Angela's Ashes 741,753 1,086,608 -31.7 614 9 1,208 11,339,958 Paramount


เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top