Box Office สุดสัปดาห์ที่ 3 - 5 มกราคม 2546
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
สุดสัปดาห์แรกของปี 2003 "ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ" ยังคงครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม The Lord of The Rings: The Two Towers กวาดไปแล้วกว่า 260 ล้านเหรียญ อันดับอื่นๆ ต่อจากนั้น แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนหนังหวังกล่องที่เริ่มเพิ่มโรงอย่าง About Schmidt ของ New Line และ Chicago ของ Miramax ก็ทำรายได้เพิ่มจนเข้ามาติดใน top-10 เรียบร้อย
ปลายปี 2002 ต่อต้นปี 2003 ประวัติศาสตร์ Box Office ของ New Line ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว มหากาพย์หนังแฟนตาซีจากงานเขียนของ J.R.R. Tolkien ตอนที่สองคือ The Lord of The Rings: The Two Towers ยังอยู่ที่ตำแหน่งแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สาม แม้จะแผ่วลง 49% จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยกวาดรายได้ไปอีก $25M รวม 19 วันทำรายได้รวมไปแล้วอย่างมโหฬารถึง $261M นำหน้าตอนที่ 1 คือ The Fellowship of the Ring อยู่อีก 27% (ในช่วงเวลาเท่ากัน ตอนที่ 1 ทำได้ $205.5M) หนังยังฉายอยู่ใน 3,622 โรง และทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $6,907
ในขณะเดียวกัน The Two Towers ก็ขยับขึ้นไปเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ของปี 2002 รองจากแชมป์มือเหนียว Spider-Man ($403.7M) และ Star Wars Episode II ($310M) แน่นอนว่าเหล่าฮ็อบบิทและพันธมิตร จะสามารถแซงอัศวินเจได ขึ้นไปเป็นรองแชมป์ได้ภายในปลายเดือนมกราคมนี้ สำหรับในตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ The Two Towers ก็ขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 18 เรียบร้อย ตามหลัง Shrek ที่ทำไว้ $267.7M เมื่อปี 2001 เพียงนิดหน่อย นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว The Fellowship of the Ring ทำเงินคิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ของรายได้รวมเมื่อสิ้นสุดโปรแกรม ($313.4M) จึงพอจะประเมินได้ว่า The Two Towers น่าจะทำรายได้ไปได้ถึงประมาณ $370-390M สำหรับในตลาดโลก หนังเรื่องนี้ทำเงินรวมทั้งโลกไปทั้งสิ้นแล้วราว $560M
หนังไล่ล่าแนวตลกเบาสมอง ฝีมือของ Steven Spielberg เรื่อง Catch Me If You Can ที่มี Leonardo DiCaprio เป็นคนหนีและ Tom Hanks เป็นคนล่า ยังคงไปได้สวยที่อันดับสองเหมือนเดิม สัปดาห์นี้เก็บไปอีก $21.1M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 30% ในจำนวน 3,170 โรง เฉลี่ยต่อโรงยังสูงอยู่คือ $6,670 หลังจากลงโรงมา 12 วันหรือ 2 สัปดาห์ หนังเก็บไปแล้วอุ่นๆ $97.4M จะผ่านหลักร้อยล้านได้ในวันจันทร์ที่ ซึ่งจะทำให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 13 ของ Tom Hanks ในขณะที่ตอนนี้ ก็กลายเป็นหนังทำเงินสูงอันดับสองของหนุ่มลีโอ รองจากแชมป์ตลอดกาล Titanic นั่นเอง และนอกจากนี้ Catch Me If You Can ก็จะกลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 12 ของผู้กำกับมือทอง Steven Speilberg และคาดว่าอาจไปได้ถึงประมาณ $165-175M หนังเรื่องนี้มีกำหนดลงโรงในไทย 31 มกราคม
หนังรักเบาสมองจาก Warner Bros. นำแสดงโดย Sandra Bullock และ Hugh Grant ยังอยู่อันดับ 3 เหมือนเดิม Two Weeks Notice ทำเงินไปอีก $11.1M ลดลง 28% จากสัปดาห์ที่แล้ว ฉายมา 3 สัปดาห์หนังเก็บไปแล้ว $68.8M เป้าหมาย $100M ดูจะเป็นไปได้หนังจะเข้าฉายในไทย 17 มกราคมนี้เอง
หนังรัก Maid In Manhattan ที่แสดงโดย Jennifer Lopez และ Ralph Fiennes กำกับโดย Wayne Wang (Anywhere But Here, The Joy Luck Club) อยู่อันดับ 4 ที่เดิม ด้วยรายได้อีก $8.6M หรือลดลง 31% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวม 4 สัปดาห์หนังทำเงินให้ Sony ไปแล้ว $76.3M เป้าหมาย $100M อยู่อีกไม่ไกล ล่าสุดกำหนดลงโรงในไทยเลื่อนไป 21 มีนาคม
หนังหวังรางวัลของ New Line เรื่อง About Schmidt ที่แสดงนำโดย Jack Nicholson นักแสดง 3 รางวัลออสการ์ (จากที่เข้าชิง 11 ครั้ง) เปิดฉายเต็มที่ ได้โรงเพิ่มจาก 34 เป็น 816 โรง และทำเงินออกมาได้ $8.5M ขึ้นไปอยู่อันดับ 5 บนตาราง Box Office เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $10,457 รายได้รวมจากที่ฉายมา 4 สัปดาห์ทำได้ทั้งสิ้น $12M
หนังดราม่าย้อนยุคที่กำกับโดย Martin Scorsese เรื่อง Gangs of New York ที่แสดงนำโดย Leonardo DiCaprio, Daniel Day-Lewis, Cameron Diaz และ Liam Neeson โดนเบียดร่วงจากอันดับ 5 มาอยู่ 6 รายได้ตกลง 33% เหลือ $7.3M รวมฉายมา 3 สัปดาห์ Miramax เก็บไปแล้ว $47.1M คาดว่าน่าจะไปได้ถึง $65-70M ซึ่งจะกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ของหนุ่มลีโอ รองจาก Titanic และ Catch Me If You Can ที่ยังไปได้สวยอยู่
The Wild Thornberrys หนังแอนิเมชั่นสำหรับครอบครัวจาก Nickelodeon และ Paramount รายได้ลดลง 25% ได้ไปอีก $5.5M รวมแล้ว $31.5M จากที่ฉาย 3 สัปดาห์ คาดว่าคงไปได้ถึง $45M ส่วนหนังดราม่าเบาสมองเรต PG-13 จากค่าย Fox เกี่ยวกับการแข่งขันดุริยางค์ Drumline รายได้แผ่วลง 35% ได้อีก $5.3M รวมรายรับขณะนี้ $47.5M
Chicago หนังเพลงของ Miramax ที่ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมากที่สุดถึง 8 สาขา แสดงนำโดย Catherine Zeta-Jones และ Richard Gere เปิดตัวในจำนวนโรงที่เพิ่มขึ้น จาก 77 โรงมาเป็น 304 โรง ขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ในสัปดาห์นี้ กวาดไป $5M เฉลี่ยต่อโรงออกมาสูงถึง $16,332 ซึ่งมากที่สุดใน top-10 รายได้รวมของ Chicago จากที่ฉายมา 10 วันทำได้ $9.2M จะเปิดฉายแบบเต็มที่ในสุดสัปดาห์ที่ 24 มกราคม
ปิดท้าย top-10 ด้วย Harry Potter and the Chamber of Secrets ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 8 เก็บไปอีก $4.7M ลดลง 28% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทำรายได้รวมให้ Warner Bros. ไปแล้ว $252.1M ขึ้นไปอยู่อันดับ 21 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ ตามหลังหนังแอนิเมชั่น Monsters, Inc. ที่ทำไว้ $255.9M เมื่อปี 2001 คาดว่ารายได้รวมของหนังบนจอเงิน คงไปได้ถึงระดับ $265M
ส่วน 2 เรื่องที่โดนเบียดหลุด top ten ไปก็คือหนังตลกของ Rob Schneider เรื่อง The Hot Chick หนังเกี่ยวกับหญิงสาวฮ็อตในร่างกายชายสุดเห่ย รายได้ลดลง 25% ได้ไปอีก $3.6M ฉายมา 4 สัปดาห์ Buena Vista ถอนทุนไปได้แล้ว $29.9M คาดว่าคงไปหยุดที่ประมาณ $40M มีกำหนดลงโรงในไทย 24 มกราคมนี้ ส่วนหนังฮิตจาก MGM - Die Another Day รายได้แผ่วลง 33% ทำได้อีก $2.9M รวม 7 สัปดาห์กวาดไปแล้ว $153.8M คาดว่าคงไปหมดแรงแถวๆ $160-165M สำหรับในตลาดโลก 007 ภาค 20 กวาดไปแล้วกว่า $300M
Fox Searchlight ได้ไปอีก $1.5M จากหนังดราม่าที่แสดงและกำกับโดย Denzel Washington เรื่อง Antwone Fisher หนังเข้าฉายในจำนวน 192 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาดีมากคือ $7,582 รายได้รวมจากที่ฉาย 3 สัปดาห์คือ $6.1M สุดสัปดาห์นี้จะได้เพิ่มไปเป็นระดับ 1,000 โรง
หนังดราม่าเบาสมองจาก Sony เรื่อง Adaptation แสดงโดย Nicolas Cage, Meryl Streep, Chris Cooper กำกับโดย Spike Jonze (Being John Malkovich) ยังได้จำนวน 109 โรงเท่าเดิม ทำเงินไปอีก $903,927 เฉลี่ยต่อโรงได้ไป $8,293 รายได้รวมขยับไปเป็น $6.1M สุดสัปดาห์นี้ Sony จะเพิ่มโรงให้ไปเป็นประมาณ 550 โรง
Focus Features ทำเงินจาก The Pianist ของผู้กำกับ Roman Polanski ไปอีก $744,588 จากจำนวน 90 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $8,273 (จาก 6 โรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $1M ในขณะทีไ่ด้รับการยกย่อง ให้เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปีโดย National Society of Film Critics (รวมทั้งยังได้รับอีก 3 รางวัลคือ ผู้กำกับ, ผู้แสดงนำชาย - Adrien Brody และบทภาพยนตร์) หนังเรื่องนี้กำลังเป็นหนึ่งในตัวเก็งเข้าชิงออสการ์
หนังดราม่า The Hours จาก Paramount ที่แสดงนำโดยยอดนักแสดงหญิงอย่าง Meryl Streep, Julianne Moore และ Nicole Kidman ยังคงฉายในจำนวน 11 โรงเท่าเดิม และทำรายได้ไปอีก $355,116 เฉลี่ยต่อโรงได้ $32,283 ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดของหนังในสัปดาห์นี้ รวม 2 สัปดาห์หนังทำเงินให้ Paramount ไปแล้ว $1.1M สัปดาห์นี้จะเพิ่มโรงระลอกแรก ตามด้วยการเปิดฉายเต็มที่ในสุดสัปดาห์ที่ 17 มกราคม ส่วนโปรแกรมฉายในไทยวางไว้ 14 มีนาคม
หนังเรื่องล่าสุดของ Spike Lee เรื่อง 25th Hour จัดจำหน่ายโดย Buena Vista ทำเงินไป $134,720 จากจำนวนแค่ 5 โรง เฉลี่ยต่อโรงสูงลิ่วถึง $26,944 ฉายมา 3 สัปดาห์ทำเงินไปแล้ว $624,933 ส่วน Narc หนังดราม่าเกี่ยวกับยาเสพย์ติดจาก Paramount แสดงนำโดย Jason Patric และ Ray Liotta เก็บไปอีก $66,593 จากที่เข้าฉายใน 6 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมา $11,098 รวมรายรับ $315,168 จาก 3 สัปดาห์
สุดสัปดาห์หน้าพบกับ Just Married หนังรักเบาสมอง เรื่องราวของความอลเวง ระหว่างฮันนีมูนขอคู่ข้าวใหม่ปลามัน แสดงนำโดย Ashton Kutcher, Brittany Murphy นอกนั้นยังคงเป็นหนังหวังกล่องหลายเรื่อง ที่เพิ่มโรงฉายมากขึ้น
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 3 - 5 มกราคม 2546
# | Title | Jan 3 - 5 | Dec 27 - 29 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | The Lord of the Rings: The Two Towers | $ 25,017,279 | $ 48,875,549 | -48.8 | 3,622 | 3 | $ 6,907 | $ 261,031,601 | New Line |
2 | Catch Me If You Can | 21,142,434 | 30,082,000 | -29.7 | 3,170 | 2 | 6,670 | 97,437,621 | DreamWorks |
3 | Two Weeks Notice | 11,126,397 | 15,518,420 | -28.3 | 2,755 | 3 | 4,039 | 68,810,079 | Warner Bros. |
4 | Maid in Manhattan | 8,621,757 | 12,524,396 | -31.2 | 3,050 | 4 | 2,827 | 76,328,613 | Sony |
5 | About Schmidt | 8,533,162 | 816 | 4 | 10,457 | 12,028,464 | New Line | ||
6 | Gangs of New York | 7,327,177 | 10,948,803 | -33.1 | 2,305 | 3 | 3,179 | 47,082,059 | Miramax |
7 | The Wild Thornberrys | 5,510,465 | 7,364,432 | -25.2 | 2,881 | 3 | 1,913 | 31,526,879 | Paramount |
8 | Drumline | 5,303,002 | 8,110,000 | -34.6 | 1,653 | 4 | 3,208 | 47,539,218 | Fox |
9 | Chicago | 4,964,938 | 304 | 2 | 16,332 | 9,241,533 | Miramax | ||
10 | Harry Potter and the Chamber of Secrets | 4,653,389 | 6,474,267 | -28.1 | 2,015 | 8 | 2,309 | 252,097,945 | Warner Bros. |
11 | The Hot Chick | 3,632,237 | 4,813,878 | -24.5 | 2,160 | 4 | 1,682 | 29,852,872 | Buena Vista |
12 | Die Another Day | 2,938,007 | 4,365,536 | -32.7 | 1,808 | 7 | 1,625 | 153,760,933 | MGM |
13 | My Big Fat Greek Wedding | 2,661,106 | 2,760,697 | -3.6 | 1,194 | 38 | 2,229 | 227,898,505 | IFC Films |
14 | Star Trek: Nemesis | 2,506,191 | 4,054,107 | -38.2 | 2,423 | 4 | 1,034 | 39,691,177 | Paramount |
15 | Antwone Fisher | 1,455,805 | 1,801,384 | -19.2 | 192 | 3 | 7,582 | 6,118,566 | Fox Searchlight |
16 | The Lion King IMAX | 1,363,882 | 1,825,849 | -25.3 | 66 | 2 | 20,665 | 5,986,626 | Buena Vista |
17 | Treasure Planet | 1,155,978 | 1,549,980 | -25.4 | 1,253 | 6 | 923 | 35,820,872 | Buena Vista |
18 | Analyze That | 1,112,353 | 2,068,396 | -46.2 | 1,235 | 5 | 901 | 30,777,692 | Warner Bros. |
19 | Adaptation | 903,927 | 1,033,875 | -12.6 | 109 | 4 | 8,293 | 6,100,371 | Sony |
20 | The Santa Clause 2 | 816,138 | 2,070,255 | -60.6 | 1,202 | 10 | 679 | 138,277,797 | Buena Vista |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :