|
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 12 - 15 มกราคม 2550
แรงขับดันจากผู้ชมกลุ่มผิวสี ในสุดสัปดาห์วันหยุดยาว Martin Luther King Jr. ส่งผลให้หนังอันดับหนึ่งประจำสุดสัปดาห์นี้เป็นของ Stomp the Yard หนังเต้นรำจากค่าย Sony ที่เบียดแชมป์เก่าสามสัปดาห์ซ้อนอย่าง Night at the Museum ของ Ben Stiller และหนังดราม่าประทับใจ The Pursuit of Happyness ของ Will Smith ให้ตกอันดับไปเรียบร้อย
อันดับหนึ่งสุดสัปดาห์วันหยุดยาวคราวนี้ เป็นของหนังดราม่า/เพลงเรื่อง Stomp the Yard ที่ทำเงินไปมากเกินคาดถึง $25.9M ในช่วงสี่วัน เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $12,616 จากแค่ 2,051 โรง (ในช่วงเกือบสองปีย้อนหลัง หรือ 22 เดือน มีเพียง Borat ที่ทำเงินติดอันดับหนึ่งสุดสัปดาห์ได้ ด้วยจำนวนโรงที่น้อยกว่านี้) ทุนสร้างของ Stomp the Yard นั้นจ่ายไปแค่ $14M และแน่นอนว่าเมื่อผลงานออกมาระดับนี้ จึงเป็นการกำไรครั้งมโหฬารอีกครั้งของ Sony ในนามค่ายย่อย Screen Gems โดยก่อนหน้านี้ Sony รับเละมาแล้วจากหนังแนวเต้นรำ (อีกเหมือนกัน) เรื่อง You Got Served ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคมเหมือนกันเมื่อสองปีที่แล้ว และติดอันดับหนึ่งจากสุดสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ด้วยรายได้ $16.1M ก่อนจะไปหยุดที่ $40.1M
จากการสำรวจของ Sony พบว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ของหนังเป็นคนผิวสี โดยมีมากถึง 65% นั่นหมายความว่า Stomp the Yard รับทรัพย์จากผู้คนกลุ่มนี้ไปถึงราว $17M จากแค่สี่วันแรก นอกจากนี้ยังพบว่า กว่าครึ่งหรือ 59% ของผู้ชมเป็นเพศหญิง และ 62% มีวัย 18 ปีหรือมากกว่า Sony ประกาศว่า รายได้ 2.5% ในช่วงวันหยุดนี้ จะมอบให้เป็นการกุศลผ่าน Martin Luther King Jr. Memorial Project Foundation ซึ่งกำลังจัดสร้างอนุสาวรีย์ใน Washington D.C. เพื่อเชิดชูนักต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมระหว่างผิวสีผู้นี้ ช่วงสามวันสุดสัปดาห์ (ศุกร์ถึงอาทิตย์) ตามมาตรฐานการเปรียบเทียบของ Box Office Stomp the Yard ทำเงินไปถึง $22M เหนือกว่าหนังเต้นรำฮิตผิดคาดเรื่อง Step Up ของ Buena Vista ที่ทำได้แค่ $20.7M ก่อนจะไปหยุดที่รายได้รวม $65.3M
หลังจากครองแชมป์มาสามสัปดาห์รวด หนังตลกผจญภัย Night at the Museum ก็ถึงคราวลงมาอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้ที่ยังแรงอยู่คือ $21.8M ในช่วงสี่วันสุดสัปดาห์ ทำเงินให้ Fox ไปแล้วถึง $190.5M โดยอัตรารายได้เฉลี่ยต่อโรงเมื่อคิดในช่วงสามวัน ลดลงไปแค่ 28% เท่านั้นเอง ในขณะที่อันดับสาม โดนเบียดเลื่อนลงมาตามลำดับ คือหนังดราม่าประทับใจของ Will Smith เรื่อง The Pursuit of Happyness ลดลงไปแค่ 29% โดยรับไปอีก $10.7M ในช่วงวันหยุดยาวสี่วัน ทำรายได้ให้ Sony ไปแล้วถึงขณะนี้ $138.1M
Paramount เพิ่มโรงให้หนังเพลงที่กำลังมาแรง Dreamgirls ของค่าย DreamWorks จาก 852 เป็น 1,907 โรง หนังสามารถทำรายได้ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ด้วยตัวเลข $10.3M รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $67.1M คาดว่าจะผ่านหลักร้อยล้านได้ในอีกไม่ช้า Dreamgirls กวาดรางวัลลูกโลกทองคำไปถึง 3 สาขาใหญ่ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลก/เพลง, สมทบชาย และสมทบหญิง แน่นอนว่ามีผลบวกกับการทำรายได้ของ หนังเหมือนเช่นที่คาดกัน นอกจากนี้ การประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ที่กำลังใกล้เข้ามา (แน่นอนว่า Dreamgirls จะต้องติดโผในหลายสาขาอย่างแน่นอน) จะส่งผลดีต่อรายได้ของหนังอย่างแน่นอน รายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนังในช่วง 4 วันสุดสัปดาห์นี้คือ $5,380 ซึ่งยังแรงไม่ใช่เล่น
ในขณะเดียวกัน Paramount ก็ยังเพิ่มโรงให้หนังดราม่านักเรียน Freedom Writers จาก 1,360 เป็น 2,179 โรง หนังทำรายได้มาเป็นอันดับ 5 ด้วยตัวเลข $8.8M รวมรายได้ล่าสุด $20.2M จะเห็นว่า 3 จาก 5 เรื่องที่ทำเงินสูงสุดประจำสุดสัปดาห์ Martin Luther King Jr. ก็เป็นหนังที่เกี่ยวกับคนผิวสี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Freedom Writers ที่เน้นไปที่เรื่องราวระหว่างหลายชนชาติในโรงเรียน
หนังดราม่าไซไฟของผู้กำกับชาว Mexican ชื่อดัง Alfonso Cuarón เรื่อง Children of Men ที่แสดงนำโดย Clive Owen สุดสัปดาห์นี้รับไป $7.4M หลังจากได้โรงเพิ่มอีก 299 โรง แต่ก็ไม่ได้กระเตื้องขึ้นเท่าใดนัก แถมรายได้เฉลี่ยยังลดลงไปถึง 49% เพียงแค่สุดสัปดาห์ที่สองของการฉายเท่านั้น รวมรายได้ขณะนี้ $22.4M ส่วนในตลาดโลก Children of Men ทำเงินไปแล้ว $32.5M
หนังอาชญากรรม Alpha Dog แสดงนำโดย Justin Timberlake, Ben Foster, Sharon Stone, Bruce Willis เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก ทำรายได้มาเป็นที่ 7 ด้วยรายรับ $7.4M จากแค่ 1,289 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $5,750 (จากช่วงวันหยุดสี่วัน) Universal สำรวจพบว่า ผู้ชมกว่าครึ่งคือ 56% มีวัยต่ำกว่า 25 ปี โดย 53% เป็นเพศหญิง และ 70% เป็นชนชาติสาย Caucasian หนังเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์หลากหลายปะปนกันไป
หนังสยองขวัญฆาตกรโรคจิต Primeval จากค่าย Buena Vista. เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเหมือนกัน ไล่มาติดๆ ที่อันดับ 8 ด้วยรายได้ $6.8M จาก 2,444 โรงซึ่งมากกว่าเกือบเท่าตัว เฉลี่ยต่อโรงเลยออกมาแค่ $2,779 ส่วนหนังแอนิเมชั่นแฟนตาซีสำหรับเด็กๆ Arthur and the Invisibles ของ Luc Besson จัดจำหน่ายโดย Weinstein Company ให้เสียงพากย์โดย Madonna, Snoop Dogg และ Robert De Niro. เปิดตัวได้ไม่ประทับใจผู้ชม เลยทำเงินไปแค่ $5.7M จาก 2,247 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาแค่ $2,538 เท่านั้นเอง
ปิดท้าย top ten ด้วยหนังสำหรับครอบครัวที่นำเสนอโดย Paramount เรื่อง Charlotte's Web รับไปอีก $5.3M ในช่วงวันหยุดยาว ทำรายได้รวมไปแล้วทั้งสิ้น $73.7M มีโปรแกรมฉายในไทยรับปิดเทอม 1 มีนาคม
Sony Classics เพิ่มโรงฉายให้หนังอิงประวัติศาสตร์จีนเรื่อง Curse of the Golden Flower ของผู้กำกับ Zhang Yimou จาก 55 โรงเป็น 1,234 โรงทั่วประเทศ แต่ทำผลงานออกมาแค่เพียง $2.2M ในช่วงวันหยุดสี่วัน เฉลี่ยต่อโรงทำได้แค่ $1,775 รวมรายได้ล่าสุด $4.5M มีกำหนดฉายในไทย 1 กุมภาพันธ์
สุดสัปดาห์หน้าพบกับ The Hitcher หนังสยองขวัญรีเมค
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 12 - 15 มกราคม 2550
# | Title | Jan 12 - 15 | Jan 5 - 7 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | Stomp the Yard | $ 25,876,318 | 2,051 | 1 | $ 12,616 | $ 25,876,318 | Sony | ||
2 | Night at the Museum | 21,847,867 | 23,743,960 | -8.0 | 3,612 | 4 | 6,049 | 190,503,618 | Fox |
3 | The Pursuit of Happyness | 10,703,352 | 12,880,926 | -16.9 | 3,169 | 5 | 3,378 | 138,082,302 | Sony |
4 | Dreamgirls | 10,259,911 | 8,663,380 | 18.4 | 1,907 | 5 | 5,380 | 67,101,078 | Paramount |
5 | Freedom Writers | 8,849,005 | 9,405,582 | -5.9 | 2,179 | 2 | 4,061 | 20,172,832 | Paramount |
6 | Children of Men | 7,449,555 | 10,197,775 | -26.9 | 1,508 | 3 | 4,940 | 22,415,823 | Universal |
7 | Alpha Dog | 7,411,750 | 1,289 | 1 | 5,750 | 7,411,750 | Universal | ||
8 | Primeval | 6,792,318 | 2,444 | 1 | 2,779 | 6,792,318 | Buena Vista | ||
9 | Arthur and the Invisibles | 5,702,789 | 2,247 | 1 | 2,538 | 5,702,789 | MGM | ||
10 | Charlotte's Web | 5,348,867 | 6,598,179 | -18.9 | 2,513 | 5 | 2,128 | 73,731,304 | Paramount |
11 | The Good Shephard | 4,346,080 | 6,446,345 | -32.6 | 1,994 | 4 | 2,180 | 54,704,190 | Universal |
12 | Happily N'Ever After | 4,277,793 | 6,608,244 | -35.3 | 2,381 | 2 | 1,797 | 11,865,637 | Lionsgate |
13 | Rocky Balboa | 3,336,025 | 6,017,649 | -44.6 | 1,835 | 4 | 1,818 | 65,600,017 | MGM |
14 | Blood Diamond | 2,874,933 | 3,822,423 | -24.8 | 1,116 | 6 | 2,576 | 48,199,168 | Warner Bros. |
15 | Happy Feet | 2,866,252 | 4,004,462 | -28.4 | 1,451 | 9 | 1,975 | 189,052,102 | Warner Bros. |
16 | We Are Marshall | 2,858,355 | 4,875,400 | -41.4 | 1,804 | 4 | 1,584 | 39,188,707 | Warner Bros. |
17 | Eragon | 2,644,106 | 4,810,405 | -45.0 | 1,614 | 5 | 1,638 | 70,811,997 | Fox |
18 | Pan's Labyrinth | 2,611,968 | 763,795 | 242.0 | 194 | 3 | 13,464 | 4,834,269 | Picturehouse |
19 | Curse of the Golden Flower | 2,190,075 | 335,759 | 552.3 | 1,234 | 4 | 1,775 | 4,538,871 | Sony Classics |
20 | Casino Royale | 2,010,237 | 3,002,507 | -33.0 | 819 | 9 | 2,455 | 162,760,504 | Sony |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :