Box Office สุดสัปดาห์ที่ 4 - 6 กรกฎกคม 2546
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


หายหน้าหายตาไป 11 ปี Arnold Schwarzenegger กลับคืนสู่บทถนัดที่เคยสร้างชื่อให้เขาอีกครั้งใน Terminator 3: Rise of the Machines ครองแชมป์รายได้สุดสัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ สมใจ ตามด้วยอันดับสอง ที่ยังคงเป็นหนังภาคต่ออีกนั่นแหละ Legally Blonde 2: Red, White & Blonde Reese Witherspoon โชว์กึ๋นสาวบลอนด์อย่างคุ้มค่าอีกครั้ง ส่วนหนังแอนิเมชั่นผจญภัย Sinbad: Legend of the Seven Seas ได้ผลลัพท์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เปิดตัวอย่างร้อนแรงที่สุดในชีวิตการทำงานของ Arnold Schwarzenegger กับบทบาทที่เคยสร้างชื่อให้เขาในภาคต่อ Terminator 3: Rise of the Machines ที่เปิดตัวด้วยรายได้ $44M ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วัน (ศุกร์ถึงอาทิตย์) รวมรายได้ 5 วันนับจากวันพุธ (รวมรายได้จากรอบ sneak preview ตั้งแต่สองทุ่มวันอังคาร) ได้ไปแล้ว $72.4M จากจำนวน 3,504 โรง หรือราว 6,400 จอ รายได้เฉลี่ยในสุดสัปดาห์สามวันตกอยู่ที่ $12,569 แต่สำหรับเทศกาลวันชาตินี้ Terminator 3 อยู่แค่อันดับ 4 รองจาก Independence Day เมื่อปี 1996 ($96.1M จาก 5 วัน รวมรอบพิเศษ), Men in Black II เมื่อปี 2002 ($87.2M จาก 5 วัน) และ Men in Black เมื่อปี 1997 ($84.1M จาก 5 วัน รวมรอบพิเศษ)

Terminator 3: Rise of the Machines สร้างโดย C2 Pictures และ Intermedia Films จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือโดย Warner Bros. และในตลาดโลกโดย Sony ด้วยทุนสร้างมหาศาลราว $150M หรืออาจจะถึง $200M ในจำนวนนี้เป็นค่าตัวของคนเหล็ก Arnold ถึง $30M มีนักแสดงร่วมทีมอย่าง Nick Stahl และ Claire Danes พร้อมด้วยหุ่นสังหารในรูปลักษณ์สาวสวยที่แสดงโดย Kristanna Loken นามว่า T-X หนังไม่ได้กำกับโดย James Cameron ที่ทำสองภาคแรก แต่เป็นผลงานของ Jonathan Mostow (U-571, Breakdown) ซึ่งก็ไม่ทำให้ James Cameron ผิดหวัง แฟนๆ คนเหล็กในไทยรอดูกันได้ 11 กรกฎาคมนี้

Reese Witherspoon กับหนังตลกภาคต่อทุนสร้าง $50M จาก MGM (ตามธรรมเนียมหนังทำเงิน) ในบท Elle Woods สาวบลอนด์คนเก่ง (และค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเป็น $15M) ใน Legally Blonde 2: Red, White & Blonde แย่งชิงคนดูกลุ่มเพศหญิง ที่ไม่ได้ไปดูคนเหล็กได้สำเร็จ ทำรายได้ไป $22.2M ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วัน หรือ $38.5M ตลอดเทศกาลรวม 5 วัน ด้วยจำนวน 3,350 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $6,633 ในขณะที่ภาคแรก Legally Blonde เปิดตัวแบบดีเกินคาดเมื่อซัมเมอร์ปี 2001 ด้วยรายได้ $20.4M ในจำนวน 2,620 โรง เฉลี่ยต่อโรงได้สูงกว่าคือ $7,778 ก่อนจะไปหยุดที่ $96.5M แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่ากับหนังฮิตเรื่องที่แล้วของเธออย่าง Sweet Home Alabama ที่เปิดตัวด้วยรายรับ $35.6M ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วัน ก่อนจะไปได้ถึง $127.2M Legally Blonde 2: Red, White & Blonde มีโปรแกรมลงโรงในไทย 10 ตุลาคมโน่น

สามนางฟ้าชาร์ลี ที่เปิดตัวภาคต่อ Charlie's Angels: Full Throttle ได้ไม่ดีมากนักเมื่อสุดสัปดาห์นี้แล้ว สัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ นี้ยังเจอศึกรอบใหม่กับคนเหล็กและสาวผมบลอนด์ ผลที่ได้ก็คือรายได้ร่วงลงไปถึง 63% หนักกว่าทุกเรื่องใน top-10 ได้ไปอีก $14M รวมฉายมา 10 วัน Sony ถอนทุนไปแล้ว $67.1M คาดว่าคงจะไปหยุดที่ประมาณ $100M จากทุนสร้างราว $120M (ภาคแรก Charlie's Angels สรุปรายได้รวมไว้ที่ $125.3M เมื่อปี 2000) ส่วนสถานการณ์ในตลาดโลก Charlie's Angels: Full Throttle เปิดตัวเป็นแชมป์ในอังกฤษ และออสเตรเลีย ด้วยรายรับประมาณ $5.2M และ $3.9M ตามลำดับ

Disney กับ Pixar ฉลองวันชาติด้วยการโกยเงินจาก Finding Nemo แซงหน้า The Matrix Reloaded กลายเป็นหนังทำเงินสูสุดแห่งปี 2003 ไปแล้ว (รายได้รวมล่าสุดของนีโออยู่ที่ $271.9M) ด้วยการทำเงินไปอีก $11.1M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 21% รายได้รวมขยับขึ้นมาเป็น $274.9M กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของ Pixar ไปเรียบร้อย ทำลายสถิติเก่าที่ Monsters, Inc. ทำไว้ $255.9M เมื่อปี 2001 ก้าวต่อไปก็คือ การแย่งชิงตำแหน่งแชมป์หนังแอนิเมชั่นอย่าง The Lion King ของ Disney ที่ครองสถิติมาตั้งแต่ปี 1994 ด้วยรายได้รวมทั้งสิ้น $312.9M

นอกจากนั้น Finding Nemo ก็กลายเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำเงินเกิน $10M ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่หก หลังจากที่ Spider-Man ทำได้เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว แถมยังก้าวเข้าสู่ top-20 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ติดอันดับที่ 18 ที่โดนแซงไปหมาดๆ ก็คือ The Matrix Reloaded ที่ทำรายได้รวมล่าสุดอยู่ที่ $271.9M

ยักษ์เขียวตัวโต The Hulk ของ Ang Lee สัปดาห์นี้รายได้ลดลง 56% จากอันดับ 2 ลงมาอยู่ 5 ทำเงินไปได้อีก $8.2M ในสัปดาห์ที่สามบนจอเงิน Universal เพิ่งเก็บไปได้ $117M จากที่ฉาย 17 วัน

อันดับ 6 เป็นของ Sinbad: Legend of the Seven Seas หนังแอนิเมชั่นเรต PG ทุนสร้าง $60M จาก DreamWorks ที่เปิดตัวได้อย่างน่าผิดหวัง ได้เงินจากผู้ชมกลุ่มครอบครัวไปแค่ $6.9M ในช่วงสุดสัปดาห์สามวัน (รวม $10M ตลอดเทศกาล 5 วัน) เฉลี่ยต่อโรงทำได้เพียง $2,228 จากจำนวนโรงที่ทุ่มให้ถึง 3,086 โรง ทั้งที่เป็นการรวมตัวของนักพากย์ที่เป็นดาราดังหลายคนอย่าง Brad Pitt, Michelle Pfeiffer และ Catherine Zeta-Jones แต่กลับล้มเหลวในการแย่งชิงความสนใจ จากผู้ชมที่ยังมุ่งไปที่ Finding Nemo ที่ลงโรงมาแล้วเป็นสัปดาห์ที่ 6

ด้วยทุนสร้าง $60M Sinbad: Legend of the Seven Seas เป็นหนังแอนิเมชั่นแบบดั้งเดิม คือวาดด้วยมือ (แต่ก็มีบางส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) ก่อนหน้านี้ หนังแอนิเมชั่นแบบดั้งเดิม ที่เป็นแนวผจญภัยอย่าง Treasure Planet และ Titan A.E. ก็พบกับความล้มเหลวในเชิงรายได้มาแล้ว แต่ที่น่าสังเกตก็คือ หนังแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นงานที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ อาทิ Finding Nemo, Shrek และ Ice Age นอกจากนี้ รายได้เปิดตัวของ Sinbad: Legend of the Seven Seas ยังเป็นการตอกย้ำว่า เทศกาลวันชาติ 4 กรกฎาคม ไม่เหมาะกับการเปิดตัวของหนังแอนิเมชั่นสำหรับเด็ก ซ้ำรอยเดิมที่เคยเกิดมาแล้วกับ The Powerpuff Girls ซึ่งเปิดตัวได้เงินแค่ $6.1M ในช่วงสุดสัปดาห์ห้าวัน ปีที่แล้วนี่เอง และเหมือนกับที่ The Adventures of Rocky and Bullwinkle ได้ไปแค่ $6.8M ในสามวันแรกเมื่อปี 2000

หนังสยองขวัญ Sci-Fi เกี่ยวกับไวรัสมรณะเรื่อง 28 Days Later กำกับโดย Danny Boyle (Trainspotting) จัดจำหน่ายโดย Fox Searchlight สัปดาห์นี้ร่วงลง 40% ทำรายได้ไปอีก $6M ในสัปดาห์ที่สองของการฉาย หลังจากที่ได้เพิ่มอีก 147 โรงจากสัปดาห์ที่แล้วเป็น 1,407 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $4,270 รวมฉายมา 10 วันทำเงินไปแล้ว $20.6M (จากทุนสร้างแค่ $8M) มีกำหนดลงโรงในไทย 18 กรกฎาคมนี้

หนังซัมเมอร์โกยเงิน 3 เรื่อง ถึงคราวเตรียมลงจาก top-10 ให้หนังใหม่เข้ามากวาดรายได้บ้าง ได้แก่ The Italian Job หนังแอ็คชั่นไล่ล่าจาก Paramount ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 24% ได้ไปอีก $4.2M รวม 6 สัปดาห์ทำเงินไป $83.9M มี กำหนดฉายในไทย 12 กันยายน ตามด้วยหนังตลกจาก Universal เรื่อง Bruce Almighty ของ Jim Carrey ได้ไปอีก $4M กวาดเงินไปแล้วเหนาะๆ $228.6M ใน 7 สัปดาห์ ปิดท้ายด้วย 2 Fast 2 Furious หนังแอ็คชั่นซิ่งระห่ำจาก Universal อีกเหมือนกัน สัปดาห์นี้กวาดไปอีก $2.6M ฉาย 5 สัปดาห์ได้ไป $119.4M กำหนดฉายในไทยคือ 8 สิงหาคม

ที่มาแรงคือหนังที่ฉายแบบจำกัดโรงจาก Focus Features เรื่อง Swimming Pool ได้เงินไป $286,950 จากจำนวนแค่ 13 โรง เฉลี่ยต่อโรงจึงออกมาสูงถึง $22,073 ในช่วงสุดสัปดาห์สามวัน เมื่อรวมรายรับ 5 วันจากวันพุธที่เริ่มฉาย หนังเก็บไปแล้วทั้งสิ้น $376,610

หนังสามเรื่องที่หลุดจาก top-10 ไปก็คือ หนังแอนิเมชั่นภาคต่อจาก Paramount เรื่อง Rugrats Go Wild ลดลง 59% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ได้ไปอีก $1.5M ฉาย 4 สัปดาห์เก็บไป $34.8M จากทุนสร้าง $30M คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ $37-39M ราวกึ่งหนึ่งของภาคที่แล้ว Rugrats in Paris ที่ทำได้ $76.5M เมื่อปี 2000

หนังตลก/แอ็คชั่นของ Harrison Ford เรื่อง Hollywood Homicide จาก Sony สัปดาห์นี้ยังร่วงต่ออย่างหนักถึง 77% ได้ไปอีกแค่ $716,324 รวมแล้ว $29.2M จาก 4 สัปดาห์ รายได้รวมคงเกิน $30M ไปนิดหน่อย และคงจะกลายเป็นหนังทำเงินต่ำสุดของ Harrison Ford ในรอบ 15 ปี ส่วน Warner Bros. ทำเงินจากหนังรักเบาสมอง Alex and Emma อีก $663,486 รวมรายได้จากที่ฉาย 3 สัปดาห์ได้ไป $13.3M กำหนดฉายในไทยวางไว้ 5 กันยายนนี้

สุดสัปดาห์หน้า ฟาดฟันกันต่อกับหนังใหญ่ 2 เรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl โจรสลัดสุดหล่อ Johnny Depp และ Orlando Bloom กับการผจญภัยล่าขุมทรัพย์ ที่กำกับโดย Gore Verbinski (The Ring, The Mexican) เปิดตัวตั้งแต่วันพุธ และ LXG: The League of Extraordinary Gentlemen เหล่าฮีโร่พิลึกพิลั่น นำทีมโดย Sean Connery เปิดฉายตามมาในวันศุกร์


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 4 - 6 กรกฎาคม 2546

# Title Jul 4 - 6  Jun 27 - 29  % Chg.  Theaters  Weeks  AVG  Cumulative  Distributor 
1 T3: Rise of the Machines $ 44,041,440 3,504  1 $ 12,569  $ 72,387,461 Warner Bros. 
2 Legally Blonde 2 22,220,670 3,350  1 6,633  38,507,400 MGM
3 Charlie's Angels: Full Throttle 14,010,022 37,634,221 -62.8 3,485  2 4,020  67,068,572 Sony
4 Finding Nemo 11,059,141 13,968,116 -20.8 2,902  6 3,811  274,936,974 Buena Vista 
5 The Hulk 8,227,520 18,847,620 -56.3 3,291  3 2,500  117,012,585 Universal
6 Sinbad: Legend of the Seven Seas 6,874,477 3,086  1 2,228  10,056,980 DreamWorks
7 28 Days Later 6,007,796 10,061,858 -40.3 1,407  2 4,270  20,557,346 Fox Searchlight 
8 The Italian Job 4,172,641 5,462,902 -23.6 1,584  6 2,634  83,876,915 Paramount
9 Bruce Almighty 4,012,320 6,190,085 -35.2 1,929  7 2,080  228,646,570 Universal
10 2 Fast 2 Furious 2,641,820 6,225,570 -57.6 1,779  5 1,485  119,437,965 Universal
11 The Matrix Reloaded 1,554,421 2,575,427 -39.6 801  8 1,941  271,936,550 Warner Bros. 
12 Rugrats Go Wild 1,478,598 3,639,293 -59.4 2,021  4 732  34,795,695 Paramount
13 Whale Rider 1,242,123 977,791  27.0 209  5 5,943  4,140,861 Newmarket
14 X2: X-Men United 1,143,724 932,196  22.7 1,100  10 1,040  213,097,409 Fox
15 Hollywood Homicide 716,324  3,061,550 -76.6 685  4 1,046  29,207,423 Sony
16 Alex & Emma 663,486  2,622,483 -74.7 1,005  3 660  13,281,771 Warner Bros. 
17 Daddy Day Care 583,587  2,302,668 -74.7 532  9 1,097  99,376,464 Sony
18 Bend It Like Beckham 487,450  566,929  -14.0 219  17 2,226  24,700,910 Fox Searchlight 
19 Winged Migration 439,461  348,597  26.1 108  12 4,069  4,122,580 Sony Classics 
20 Dumb and Dumberer 351,078  1,665,283 -78.9 610  4 576  25,190,179 New Line 

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top