American Pie หนังแนว sex comedy ทุนสร้าง $11M จากค่าย Universal Pictures ขึ้นอันดับหนึ่งด้วยรายได้ $18.71M เขี่ยแชมป์เก่าWild, Wild, West ของ Will Smith ตกไปอยู่อันดับ 2 หนังจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอเมริกันได้อย่างอยู่หมัด เป็นเรื่องของหนุ่มวัยรุ่น 4 คนที่พยายามหาทางเสียความบริสุทธิ์ก่อนเรียนจบด้วยวิธีพิสดาร ก็เลยได้เรต R ไปครอง หนังเข้าฉายในจำนวน 2,508 โรง และทำรายได้ต่อโรงเฉลี่ยแล้ว $7,460 หนังกำกับโดย Paul Weitz แสดงโดยดาราโนเนมอย่าง Jason Biggs, Chris Klein, Tara Reid, และ Natasha Lyonne แต่ด้วยเหตุที่หนังออกฉายในช่วงที่เหมาะเจาะ เลยทำเงินอย่างไม่น่าเชื่อ ดีกว่าหนังแนว high school เรื่องก่อนหน้าอย่างเช่นShe's All That (สามวันแรก $16.1M),Varsity Blues (สามวันแรก $15.2M), และCruel Intentions (สามวันแรก $13M) แถมยังเอาชนะหนังม้ามืดฮิตสุดๆเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้วอย่างThere's Something About Mary ที่ทำรายได้สามวันแรกไป $13.7M (รายได้ 5 วันแรก $17.8M ซึ่งก็ยังไม่เท่ารายได้เพียง 3 วันของ American Pie อยู่ดี)

หลังจากที่โดนนักวิจารณ์รุมถล่มยับแบบเป็นเอกฉันท์Wild, Wild, West จากสังกัด Warner Bros. นำโดย Will Smith, Kevin Kline, Kenneth Branagh, และ Salma Hayek ก็เลยร่วงมาอยู่อันดับ 2 ซะแล้ว ทำรายได้ไปอีก $16.8M วูบลงถึง 39% จากรายได้เปรียบเทียบสามวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนักกว่าหนังเกือบทุกเรื่องใน top-10 เลยทีเดียว รวมรายได้ 12 วันกวาดไปแล้ว $76.6M คาดว่ารายได้คงไปได้ในเกณฑ์ประมาณ $120-130M คงต้องหวังพึ่งรายได้จากตลาดประเทศนอกอเมริกาเหนือกันละ แต่อย่างไรก็ตามอัลบั้ม soundtrack ของหนังก็ขายดิบขายดีไม่แพ้ soundtrack จาก Tarzan และ Austin Powers 2

อันดับ 3 เป็นหนังของ Adam Sandler ที่รายได้ลดลงเพียงแค่ 20%, Big Daddy ทำเงินไปอีก $16.03M รวมรายได้ 17 วัน ทำเงินไปแล้ว $116.48M เป็นหนังทำเงินสูงสุดของค่าย Sony นับแต่ Godzilla และคาดว่าจะแซงตัวเลข $136.3M ของก็อตซิลล่าได้ในราว 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หนังทำเงินผ่านหลังร้อยล้านได้ในวันพฤหัส หรือวันที่ 14 ของการเปิดฉาย

Tarzan มาเป็นอันดับ 4 ทำรายได้ไปอีก $10.8M ลดลงแค่ 22% รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ $129M แซงหน้าหนังอนิเมชั่นรุ่นพี่อย่าง Mulan ที่ทำไว้ $120.6M เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว และคาดว่าสัปดาห์หน้าก็คงจะแซงหน้าตัวเลข $141.6M ของหนังอนิเมชั่นอีกเรื่องจากค่ายเดียวกันเมื่อปี 1995, Pocahontas

อันดับ 5 เป็นหนังม้ามืดอีกเรื่องที่ทำเงินแบบสบายใจเฉิบ,The General's Daughter ของพระเอก John Travolta คงที่อยู่อันดับเดิมด้วยรายได้ที่กวาดไปอีก $7.9M จากสัปดาห์ที่ 4 ของการเปิดฉาย รายได้ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 26% รายได้รวมของหนังตอนนี้ $79.2M และคาดว่าจะผ่านร้อยล้านได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หนังจับตลาดผู้ชมวัยทำงานได้อย่างตรงเป้า แต่สัปดาห์หน้าจะต้องเผชิญหน้าหนังเข้าใหม่เป้าหมายเดียวกัน, Eyes Wide Shut

อันดับ 6 Jeff Bridges ปะทะ Tim Robbins ในหนังแนว suspense thriller เรื่องล่าสุด Arlington Road จากสังกัด Sony ทำรายได้ไป $7.51M จากจำนวน 1,631 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรง $4,608 เนื่องจากพลังดาราไม่ได้ดึงดูดผู้ชมมากนัก แถมยังต้องชนกับช้างหลายเรื่อง คาดว่าหนังคงจะออกจากโปรแกรมอย่างเงียบๆเพื่อมุ่งไปจับตลาดวิดีโอในราวปลายปีนี้

Star Wars: Episode I ตกลงมาอยู่อันดับ 7 (โดนเฉือนไปนิดเดียว) ทำรายได้ไปอีก $7.49M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 21.5% ฉายมาแล้วเป็นสัปดาห์ที่ 8 หรือ 55 วัน กวาดไปแล้ว $385.2M ตอนนี้เหลือโรงที่ยังฉายอยู่ 2,447 โรง คาดว่าจะผ่านหลัก $400M ได้ในราวอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่จะจบโปรแกรมที่รายรับประมาณ $420-440M

เมื่อเทียบกันแล้ว ณ สัปดาห์ที่ 8 Titanic ทำรายได้เพียงแค่ $337.4M หรือตามหลัง Star Wars: Episode I ราว 14% เพียงแต่ว่าสัปดาห์นั้นTitanic ทำรายได้ไปถึง $23M และตอนนี้มหากาพย์ตำนานสงครามแห่งดวงดาวก็เริ่มฉายในญี่ปุ่น ด้วยโรงที่เปิดฉายจำนวน 412 โรง สามารถขายตั๋วได้ประมาณห้าแสนใบ ท้าชิงแชมป์จากหนังฮิตถล่มทลายเมื่อปีที่แล้วGodzilla ทั้งที่ค่าดูหนังแพงอย่างระยับ แต่แฟนหนังชาวอาทิตย์อุทัยก็ไม่ท้อถอย เนื่องจากหนังแนว action/sci-fi เป็นแนวหนังที่ชื่นชอบ จนคาดว่าจะเป็นประเทศที่ Star Wars: Episode I ทำเงินได้สูงสุดนอกทวีปอเมริกาเหนือ เหมือนที่ Titanic และ Armageddon สร้างผลงานมาแล้ว

อันดับ 8 เป็นหนังอนิเมชั่นเรต R จากค่าย Paramount,South Park ฉายเป็นสัปดาห์ที่สองทำรายได้ไปอีก $7.1M ลดลง 38% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวม 12 วันทำเงินไป $35.5M จากทุนสร้างที่ลงไป $21M ประมาณการว่าหนังจะทำรายได้ทั้งสิ้นราว $50-60M และคาดว่าจะไปเก็บเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำตอนออกเป็นวิดีโอ

Austin Powers 2 ตกจากอันดับ 7 มาอยู่อันดับ 9 ทำเงินไปอีก $6.8M รายได้รวมตอนนี้มาอยู่ที่ $182.5M ครองอันดับ 2 หนังทำเงินสูงสุดของปี 1999 รองจาก Star Wars: Episode I ส่วนอันดับ 10 Summer of Sam ของผู้กำกับ Spike Lee ฉายเป็นสัปดาห์ที่สอง รายได้วูบลง 42% ทำรายได้ไปอีกแค่ $3.46M รวมสิบวันทำเงินไปแล้ว $14M คาดว่าจะปิดบัญชีที่ตัวเลขประมาณ $20-23M ใกล้เคียงกับตัวเลข $21.6M ของหนังเรื่องที่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 1998, He Got Game

Notting Hill และ An Ideal Husband หลุดจาก top-10 ทั้งคู่ โดย Notting Hill หนัง romantic comedy จากสังกัด Universal ของ Julia Roberts และ Hugh Grant ตกมาอยู่อันดับ 11 ทำรายได้ไปอีก $3.0M ลดลง 22% รายได้รวมแล้ว $103.1M ผ่านหลักร้อยล้านได้เมื่อวันพฤหัส หรือวันที่ 42 ของการฉาย เป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 8 ของปี 1999 และเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 6 ของผู้หญิงบานฉ่ำตามหลังPretty Woman,Sleeping with the Enemy,Hook,The Pelican Brief, และ My Best Friend's Wedding คาดว่า Notting Hill จะทำรายได้รวมทั้งสิ้นได้ถึงประมาณ $115-125M และหนังเรื่องต่อไปของหนูจูที่ประกบกับ Richard Gear คือ Runaway Bride จาก Paramount มีกำหนดฉาย 30 กรกฎาคมนี้

An Ideal Husband จาก Miramax ตกมาอยู่อันดับ 12 รายได้ลดลงแค่ 16% จากสัปดาห์ที่แล้ว ฉายเป็นสัปดาห์ที่สี่ ทำเงินไปอีก $2.3M รายได้รวมขณะนี้ $9.0M ด้วยจำนวนโรงที่ฉายแค่ 772 โรง

หนังเล็กๆของ Miramax อีกเรื่อง, My Son the Fanatic เป็นเรื่องของหนุ่มปากีสถานที่พบรักกับสาวอาชีพพิเศษชาวอังกฤษ ทำรายได้น่าประทับใจจากแค่ 20 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไปถึง $64,452 จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่สาม ส่วนหนังเล็กอีกเหมือนกันจาก October Films, The Autumn Tale ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เปิดฉายใน New York แค่ 2 โรงแต่ทำรายได้ไปถึง $33,631

หนังใหม่สัปดาห์หน้าเป็นหนังแนวจิตวิทยาทางเพศนำแสดงโดย Tom Cruise และ Nicole Kidman, Eyes Wide Shut เริ่มฉายวันศุกร์ ขณะที่หุ่นมหาสนุกบุกอวกาศMuppets From Space ฉายล่วงหน้าตั้งแต่วันพุธที่ 14